เล่าเรื่อง ลุงหมอดู 12 บาท ในวัดบางนมโค

เมื่อประมาณ 4 ปี ที่ผ่านมา ตอนนั้นกลับมาไทย ก็ต้องรีบไปวัดบางนมโค

เพื่อกราบหลวงปู่ปาน ถ้าได้ไปวัดบางนมโคแล้วจะดีใจ เพราะรักหลวงปู่ปาน


เรื่องที่จะเล่า เป็นเรื่องหมอดูที่ส่วนตัวว่า แม่น ท่านอยู่ในวัดบางนมโค

...ในบริเวรวัด จะมีศาลาใกล้แม่น้ำ มีลุงชราท่านหนึ่ง อายุประมาณแปดสิบกว่าๆ

เป็นหมอดู ที่ค่าครู 12 บาท ปกติดิฉันจะไม่ค่อยชอบดูดวง แต่เห็นลุงแก่ๆ สงสารเลยเข้าไปดู


คุณลุงหน้าตาน่ารัก แบบคนชรา มีแววตาสีน้ำข้าว ดูซื่อๆ หูแกไม่ค่อยดี เราต้องพูดดังๆ

แต่คุณลุงดูแม่น นะคะ เรื่องของดิฉันนี้ เก็บไว้ในใจไม่เคยบอกใคร ลุงพูดออกมาเฉยเลย

แล้วขณะที่ดูซักพัก อยู่ๆ

ลุงก็พนมมือแล้วบอกว่า...'' หลวงพ่อปาน เดินมา''

ดิฉันก็งงๆ แล้วลุงก็บอกต่อว่า ''ตอนนี้ท่านยืนอยู่ตรงนี้''

''หลวงพ่อปาน ฝากบอกหนูว่า...........''

( เป็นเรื่องที่เก็บไว้ในใจ อีก ทำดิฉันน้ำตาไหลออกมาเลย )


พอดูจบ ให้ค่าครูลุงไป100บาท ลุงตอบว่า ''ไม่เอามากไป''

จากวันนั้นมาถึงวันนี้.....ไม่ได้มีโอกาศไปวัดบางนมโค อีกเลย

เลยพิมพ์เล่าให้เพื่อนสมาชิกอ่าน เผื่อไปวัดบางนมโค ก็มาบอกด้วยนะคะ ถ้าคุณลุงยังอยู่ น่ะค่ะ

 

ต้นตะเคียนคู่ในวัด ก็ให้หวยแม่นนะคะ เพื่อนพี่สาวชอบไปขอ และถูกบ่อย

ลองอ่านประวัติเรื่องต้นตะเคียน ที่วัดบางนมโค ดูนะคะ



---------------------------

​

อาถรรพณ์นางตะเคียนที่ร่ำลือมาในอดีต เคยเกิดขึ้นที่วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เรื่องนี้เล่าโดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ซึ่งมรณภาพไปนานแล้ว แต่ในสมัยหนึ่ง ท่านเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดบางนมโค ท่านได้เล่าและอธิบายถึงวิญญาณนางไม้ในต้นตะเคียนไว่ว่า

"ผีนางไม้หรือนางไม้นั้นคือรุกขเทวดา เป็นเทวดาประเภทหนึ่งที่มีบุญญาธิการน้อย วิมานไม่สามารถลอยอยู่กลางอากาศได้ ต้องอาศัยต้นไม้ที่มีแก่นเป็นพระวิมาน"

ความประหลาดของต้นตะเคียนในวัดบางนมโคที่ว่านี้ เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อปานยังมีชีวิตอยู่ เรื่องของเรื่องนั้นมีว่า ภายในวัดบางนมโคสมัยนั้น มีต้นตะเคียนสูงใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง ซึ่งหลวงพ่อปานก็เกรงว่าวันหนึ่งกิ่งจะหัก หรือลำต้นจะโค่นลงมาทับหลังคากุฏิ ท่านจึงติดต่อทางในกับนางไม้เพื่อขอโค่นต้นตะเคียน ปรากฏว่านางไม้ไม่ยอมให้โค่น แม้แต่หลวงพ่อจะริดกิ่งก้านออกบ้าง นางไม้ก็ไม่ยอมอีก หลวงพ่อจึงขอสัญญาจากนางไม้ว่า

หากกิ่งตะเคียนหักหล่นลงมาโดนกระเบื้องหลังคาวันไหน หลวงพ่อจะต้องตัดทิ้ง นางไม้ก็ตกลง และก็เป็นเหตุประหลาด ที่ต่อมาได้มีกิ่งก้านสาขาของต้นตะเคียนที่แห้งจวนเจียนจะหักมากวัดแกว่งอยู่บนหลังคาหลายกิ่ง แต่ก็ไม่ขาดออกจากกัน เพียงแต่ห้อยแกว่งไปแกว่งมา แล้วไม่นานก็มีลมกรรโชกหอบเอากิ่งตะเคียนปลิวไปตกเลยกุฏิ ไม่ทำความเสียหายแก่กุฏิตามสัญญา จนเหตุการณ์ล่วงเลยมาในสมัยหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านมาเป็นเจ้าอาวาส ครั้งนั้นเป็นที่โจษขานกันว่า นางตะเคียนวัดบางนมโคให้หวยแม่น ถูกกันหลายราย จึงมีภรรยาอดีตนายอำเภอท่านหนึ่ง ซึ่งมีความนับถือหลวงพ่อฤาษีลิงดำมานาน มาภายหลังนายอำเภอเสียชีวิต ครอบครัวก็มีความลำบากมาก ขาดแคลนเงินทองที่จะส่งให้ลูกเรียนหนังสือ เธอก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร จึงมากราบนมัสการหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในใจก็หวังจะได้เลขเด็ดจากท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พอท่านทราบก็หัวเราะบอกว่า

"พระให้หวยไม่ได้หรอก ผิดวินัยพระ โยมอย่าเล่นหวยเลย ไปค้าขายดีกว่า"

ภรรยานายอำเภอก็แย้งว่างตนมีทุนน้อย และไม่ถนัดค้าขาย หลวงพ่อจึงหาทางออกให้ว่า

"ลองไปขอหวยกับนางตะเคียนดูซิ แต่ต้องมาคนเดียวตอนดึกๆนะ ถ้ามีโชค นางตะเคียนเขาอาจจะให้"

หลวงพ่อพูดเช่นนี้ เพราะคิดว่าเธอคงไม่กล้ามาอย่างแน่นอน เพราะวัดบางนมโคสมัยนั้นค่อนข้างเปลี่ยว ยิ่งดึกก็ยิ่งวังเวง น่ากลัว ไฟฟ้าก็ไม่มี จึงไม่มีใครกล้าผ่านมาในยามดึก และหลวงพ่อยังย้ำว่า ถ้าจะมาจริงๆ ก็ให้มาตอน 4 ทุ่ม หรือดึกกว่านี้ยิ่งดี แล้วเอากระดาษเปล่ากับดินสอมาด้วย มาถึงต้นตะเคียนต้นใหญ่ที่มีโพรงตรงโคนต้น ก็ให้จุดธูปอธิษฐานขอตัวเลขตามที่ต้องการ แล้วเอากระดาษดินสอใส่ไว้ในโพรง จากนั้นก็กลับไปรอที่บ้าน แล้วราวๆตี 4 ให้ย้อนกลับมาดูกระดาษในโพรงใหม่ ถ้านางตะเคียนให้ลาภ ก็จะมีเลขปรากฏบนกระดาษ และการที่ให้มาเวลาตี 4 ก็เพราะหากสว่างเมื่อไหร่ ตัวเลขจะหายไปทันที

เมื่อได้เรื่องแล้ว ภรรยานายอำเภอก็ลากลับ จากนั้นก็ผ่านไป 3 ปี ภรรยานายอำเภอก็กลับมาหาหลวงพ่ออีกครั้ง ในความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม เธอกลับมาเล่าให้หลวงพ่อฟังว่า เมื่อหลวงพ่อแนะนำเธอในคราวนั้น เธอก็มาขอหวยนางตะเคียนจริงๆ โดยเวลา 4 ทุ่ม ก็ออกจากบ้านเดินมาที่ต้นตะเคียน เอาธูปมา 3 ดอก จุดบูชาแล้วอธิษฐาน ขอให้นางตะเคียนเมตตา ช่วยบอกเลขท้าย 3 ตัว รางวัลที่ 1 ด้วย จากนั้นก็เอากระดาษกับดินสอใส่ไว้ในโพรงต้นตะเคียน แล้วจึงกลับบ้าน พอได้เวลาเกือบตี 4 เธอก็ย้อนกลับมาที่ต้นตะเคียน และล้วงเอากระดาษที่ใส่ไว้ในโพรงออกมาดู ก็เห็นเลข 3 ตัวเขียนไว้ชัดเจน ทั้งยังมีข้อความเขียนไว้อีกว่า "อย่าเล่นเกิน 20 บาท และอย่าบอกใคร"

ภรรยานายอำเภอจึงนำเลขที่ได้ไปซื้อ ปรากฏว่าเลขท้ายรางวัลที่ 1 ตรงกับเลขที่ได้จากโพรงต้นตะเคียน เธอจึงถูกรางวัลได้เงินมาก้อนใหญ่ และก็ทำเช่นนี้เรื่อยมาทุกงวด เป็นเวลา 3 ปี จนเธอเก็บหอมรอมริบตั้งตัวได้ จึงหันมาลงทุนค้าขาย และเลิกเล่นหวยอย่างเด็ดขาดแต่นั้นมา

ปัจจุบันต้นตะเคียนคู่ที่วัดบางนมโค ก็ยังคงมีผู้มาเสี่ยงโชค มากราบไหว้อยู่เสมอ สังเกตได้จากผ้า 3 สีและพวงมาลัยที่ผูกห้อยระย้ารอบโคนต้นจำนวนมาก นี่ก็เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิญญาณที่ชวนท้าพิสูจน์ถึงปาฏิหาริย์อีกรูปแบบหนึ่ง



ที่มา http://www.yingthai-mag.com/<!-- google_ad_section_end -->