ภาพนี้คืออะไรพึ่งถ่ายได้เมื่อกี๊

ปกติครับ เกิดขึ้นได้บ่อย

 

สวยดี... แต่แฝงมาด้วยอะไรบางอย่าง!! + +

 

จากระยะนี้มีภัยภิบัติเกี่ยวกับเรื่องแผ่นดิน แห้งแล้ง ทั่วโลกนะครับ เมื่อวานนี้ก็มีรายแผ่นดินไหวซึ่งเกิดบ่อยกว่าปกติไปทั่วโลก ฉนั้นการในเมื่อยังไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ก็ควรอยู่ในความไม่ประมาทจะเป็นการดีกว่าการละเลยเมินเฉยต่อสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นและกำลังจะขึ้น อย่างกรณีดินทรุด ทำไมไม่เรียกว่าดินทรุดทำไมเรียกว่าธรณีสูบล่ะก็เช่นเดียวกัน เมื่อชั่งน้ำหนักความเสี่ยงตรงนี้เห็นว่าเป็นผลดีมากกว่าผลเสียจึงได้กล่าวไปเช่นนั้นครับ

และขอจงอย่ารอหวังเพียงแค่ แม่น และ ไม่แม่น เป็นจริงหรือเป็นเท็จ

ถ้าจะว่าไปแล้วเราเสี่ยงที่จะแตกดับอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องแปลก

มาดูบันทึกเรื่องของหลุมอุกกาบาตใหญ่สุดๆบนโลก
อาจเป็นหลุมใต้น้ำแข็งในแอนตาร์คติกลึก 400 กม . หลุมอุกกาบาตใหญ่มากที่พบในแคนาดาเต็มไปด้วยน้ำ หลุมอุกกาบาตที่เห็นชัดเจนที่ทะเลทรายอริโซนาเลยได้กลายเป็นหลุมที่ดังที่สุด กว้างเพียง 1 กม. เกิดเมื่อ 20,000 ปีมาแล้วมีชื่อตั้งให้ด้วยเรียกเครเตอร์บาร์ริงเจอร์ การระเบิดแรงมาก แต่โชคดีที่ตรงนั้นไม่มีบ้านเรือนตั้งอยู่ให้มันทำลาย พ.ศ.2451 กลางวันแสกๆ ยังมีอุกกาบาตลูกหนึ่งลุกสว่าง เห็นกันไกลหลายร้อยไมล์ ตกลงไปในป่าไซบีเรีย แรงระเบิดได้ยินไกล 600 ไมล์ ระยะทาง 100 ไมล์รับคลื่นช้อคกันทั่วหน้า มีต้นไม้ให้มันทำลายแทนบ้านเมือง ค้นไม่พบมวลลูกอุกกาบาตส่วนใหญ่ ที่ไซบีเรียปีพ.ศ.2490 อีกทีที่มีอุกกาบาต แต่มันแตกไม่มีชิ้นดีในบรรยากาศที่ตกลงสู่พื้นโลกเหมือนสายฝนเหล็กที่ไม่ชุ่มฉ่ำชื่นใจ บริเวณนั้นจึงมีรูเล็กร่วม 200 รูและมีรูใหญ่คือหลุมอีกหลายรู ​

อุกกาบาตขนาดใหญ่พอๆกับลูกที่ตกในทะเลทรายอริโซนาหรือไซบีเรีย หากเกิดในเมืองใหญ่ ความเสียหายจะมโหฬารทีเดียว แม้ยังไม่เคยเกิดเพราะสมัยก่อนบ้านเมืองใหญ่โตหายาก แต่ตอนนี้บ้านเมืองใหญ่โตหาง่ายแล้ว ผู้ไม่ตกอยู่ในความประมาทย่อมหาหนทางแก้ไขวันเลวคืนเลวที่เป็นไปได้จากอุกกาบาต " เราอยู่กันบนโลกนี้ทั้งๆที่รู้ว่าโอกาสจะเกิดอุกกาบาตและแผ่นดินไหวทำลายโลกได้ทุกขณะ" ไอแซค อสิมอฟกล่าวไว้อย่างไม่ประมาท​

" เราอยู่กันบนโลกนี้ทั้งๆที่รู้ว่าโอกาสจะเกิดอุกกาบาตและแผ่นดินไหวทำลายโลกได้ทุกขณะ"

นี่คือความจริงที่เป็นอยู่ขณะนี้บนโลก ไม่ใช่ว่าที่เรายังรอดอยู่ เพราะโชคดี หรือมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง เพียงแต่ว่ามันยังไม่ถึงเวลา
สเกลเวลา ของโลกกับจักรวาลมันต่างกันมากมายนัก แค่ชั่วกระพริบตาของจักรวาล อาจมีดาวประเภทเดียวกับโลกแตกดับไปแล้วจำนวนนับไม่ถ้วน ถ้าท่านจะเข้าใจในความจริงข้อนี้ ก็น่าจะเข้าใจว่า เรื่องจิ๊บๆบนโลก มันไม่เห็นมีอะไรน่ามาประโคมข่าวให้แตกตื่น
คิดจริงๆหรือว่าเทคโนโลยี่ของโลกเราปัจจุปัน จะทำให้เราปลอดภัยจากภัยจากอวกาศ คิดหรืว่าสิ่งที่เรารู้มันจะพอ จะสามารถช่วยเราได้ เปรียบเทียบโลกเรากับ จักรวาลเราเปรียบกับเมล็ดฝุ่นยังมิได้เลย เวลาของกาแลคซี่กี่ร้อยล้านปีแล้ว แต่ละวินาที่ มีดาวที่เกิดดับนับล้านดวง ท่านจะรู้ได้อย่างไร ว่าโลกเราจะพบจุดจบเอาวินาทีไหน มนุษย์ ฝืนกฎธรรมชาติ แต่ยังไม่เจ๋งพอที่จะฝืนกฎจักรวาลหรอกท่าน
ส่วนเรื่องที่บอกว่า การประโคมข่าวร้าย เพื่อให้ชาวบ้านจิตตกเพื่อจะได้มาเร่งปฏิบัติ (ฟังดูเหมือนวิธีสายมารเลยนะท่าน)สงสัยเราจะคนละศิษย์สำนักกันแล้วละท่าน
ความจริงข้อนี้มีคนค้นพบนานแล้ว และได้บอกวิทีที่จะทำใจให้พร้อมรับกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นว่าให้
................เดินทางสายกลาง..................
ท่านมิได้บอกให้เราเร่งรีบอะไรเลย ให้ใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท เพราะท่านรู้แล้วว่า ทุกอย่างมีเกิด มีดับ เกิดมาเพื่อสิ้นไป และเราก็เชื่อท่านผู้นั้น
ผมเชื่อว่าท่านหวังดี จึงมีแนวคิดที่แตกต่างมาฝาก อาจไม่ตรงใจท่าน แต่มันคือความจริง
บุญรักษา

 

สาธุ..ขออนุโมทนาครับ

 

อันนี้มีหลักฐานพิสูจน์ได้จริง มีการรับรองและยืนตามทฤษฏีต่างๆของวิทยาศาสตร์ ปฐพีวิทยา และด้านดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ถ้า "เรา" หมายถึงมนุษยชาติก็ถือว่าดีมากๆครับ แต่ถ้า "เรา" หมายถึงตัวบุคคล กลุ่มบุคคล เข้าใจจริงๆอย่างที่คุณ พรานใหญ่ พูด มนุษย์คงไม่มีสถาบันศาสนาต่างๆเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ และสังคมมนุษย์คงไม่จำเป็นต้องพึ่งพาวิทยาศาตสร์เทคโนโลยีต่างๆเพื่อเตือนภัยแก่มนุษยชาติให้อยู่รอด และดำรงไว้ซึ่งเผ่าพันธุ์มนุษย์
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ข้อนี้เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วห้ามก็ไม่ได้ แต่ในบางเรืองเราเลี่ยงได้ถึงแม้จะห้ามไม่ให้เกิดก็ตาม อย่างน้อยๆก็ทำความพร้อมเพื่อรับรู้ในสิ่งน่ากลัวที่ โอกาสจะเกิดอุกกาบาตและแผ่นดินไหวทำลายโลกได้ทุกขณะ
การออกมากล่าวเตือนมีจุดประสงค์เดียวก็คือเป็นการเตือนสติครับ

แต่ความจริง "เรา" ไม่ได้หมายถึง มนุษยชาติ ทุกคน
และ "เรา ในที่นี้ มิได้หมายถึง "ตัวเอง" ในประโยคคือ ตัวคุณ พรานใหญ่

"เรา" ในนัยของผมหมายถึงหลายๆคน ไม่ได้รู้เรื่องจริงมากกว่าที่เป็นอยู่ และเราไม่อาจยอมรับเรื่องจริงบางเรื่องได้ เนื่องจากความกลัว นี่คือความจริงภายในจิตใจมนุษย์หลายๆคนซึ่งเมื่อวัดข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณแล้วมีอยู่อีกมากมาย

ธรรมชาติของมนุษย์ย่อมกลัวในสิ่งที่คาดไม่ถึงเสมอ โดยเฉพาะจิตนาการที่โยงใยมีสาเหตุและที่มา ความน่าเชื่อถือ
มนุษย์ไม่ได้ฝืนกฏธรรมชาติ แต่เรียนรู้เพื่อป้องกันภัยจากธรรมชาติที่ไม่เกินวิสัยที่เทคโนโลยีจะป้องกันได้ มนุษย์จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยี แม้แต่เศษเหล็กติดเครื่องยนต์มีล้อ มีเบาะนั่ง แต่มนุษย์บางคนและหลายๆคนยังดิ้นรนเพื่อจะครอบครองสิ่งเหล่านี้เพื่อเป็นเครื่องอำนวยความสะดวก ตลอดจนเป็นเครื่องมือแสดงออกทางฐานะแถมยังเป็นเครื่องมือที่ปกปิดฐานะทีแท้จริงอีกด้วย
นี่ก็อาศัยเทคโนโลยีซึ่งคิดค้นมาจากหลักการณ์ของธรรมชาติ จักรวาลไม่ได้เป็นจักรวาล แต่จักรวาลก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ โลกของเราก็เหมือนกันไข่ต้มที่ไม่สุกดี เปลือกแข็งแกะเปลือกออกก็เป็นไข่ขาวผ่าออกมาแกนก็ยังเป็นของเหลวก็ฉันนั้น นี่เป็นลักษณะของดาวโลกของเรา
ส่วนลักษณะจิตใจของคนก็เปรียบได้เหมือนไข่ที่ยังไม่ได้ต้มเลย แข็งแต่เปลือกแกะเปลือกออกมีแต่น้ำ กล่าวโดยนัยว่า ภายนอกเหมือนจะเข้าใจและยอมรับแต่เอาเข้าจริงก็เหลวหาแก่นเพื่อไว้ยึดเป็นตัวเป็นตนไม่มีเลย เช่นเดียวกับมนุษย์ที่จิตใจยังมีแต่ความกลัว กลัวจนจับสติตัวเองไม่ได้ พอไม่มีสติก็ไม่มีสมาธิ ขาดปัญญาที่จะพิจารณาเพื่อจับประเด็นไม่ได้เนื่องจากการพิจารณาโดยใช้ความนิยมส่วนตัวเป็นตัววัด ก็จะมองข้ามเหตุผลที่ดีไป
นี่แหละเหตุผลเวลามีคนมาบอกมาเตือนด้วยเจตนาดีแต่กลับเข้าใจในเจตนาที่ผิดไป อย่างที่คุณพรานใหญ่เป็นอยู่ขณะนี้ และพยายามจะรวมเนื้อหาหลักที่อ้างอิงไว้แต่โน้มน้าวรวมเล่มเป็นสูตรสำเร็จโยนโทษให้ผู้อื่นโดยรวมเหมาเอาว่า...

(ฟังดูเหมือนวิธีสายมารเลยนะท่าน)
สายมาร ??
สายมารคือสายไหน ใครเป็นหัวหน้า ?
พฤติกรรมของผมเป็นไปในแนวทาง

"อ้างภัยพิบัติ แล้วแจกซองผ้าป่า หรือเรียกร้องเชิญชวนให้เขามาสเดาะเคราะห์กับผมแล้ว รับบริจาคตามแต่ศรัทธา หรือแม้แต่บอกหมายเลขโทรศัพท์ชำระค่าดูดวงปัดเป่าภัยร้าย แม้กระทั่งผมบอกให้ไปหาหลวงพ่อวัดนั้นวัดนี้ ถ้ามีหลักฐาน ลองเข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวของผมได้เลยครับ นอกจากจะไม่มีแล้วยังต่อต้านกระบวนการดังกล่าวซะด้วยซ้ำ"

การเตือนภัยอย่างกรณี ดร.หลายๆท่านที่มีความรู้สามารถและมีความเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบในด้านนี้ จึงถูกประณามปรามาสและสบประมาทต่างๆนานา ก็สืบเนื่องมาจากความที่ยังไม่พร้อมของจิตใจสังคมมนุษย์นั่นเอง
นี่ขนาดเรื่องแผ่นดินไหวจิ๊บๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในระยะเวลาที่คาดการณ์ยังรับไม่ได้ ประสาอะไรที่จะบอกว่า "มนุษย์ต่างดาวอยู่บนโลกและท้องฟ้าเราแล้ว"

อ่านหัวเรื่องเหมือนจะมีเหตุมีผล พอมาเรื่อยๆจนถึง"ความคิดเห็น" มันทะแม่งๆยังไงชอบกล
การกล่าวอ้างนอกจากจะผิดศีลแล้วยังผิดกฏหมาย

และการกล่าวอ้างพระธรรมคำสอน โดยมีเนื้อหาที่บิดเบือน เช่น

การยกข้อธรรมมาอ้างอิงหรือกระทำการใดๆ เพื่อเป็นการชักจูงใจบุคคลที่สามเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ตน และมุ่งหมายให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นคนนั้นตกเป็นผู้ต้องหา เป็นการกระทำที่ผิดวินัย ขาดสามัญสำนึกของความเป็นมนุษย์ ผิดศีลธรรม จริยธรรม โดยใช้ปริภาษาที่ผู้พูดมีเจตนาตรงกันข้ามกับคำพูด แม้แต่ทางวิทยาศาสตร์เมื่อนำเรื่องจริงบางเรื่องมาพูดเพื่ออ้างอิง และมีบางเรื่องไม่จริง ย่อมสรุปได้ว่าไม่เป็นเรื่องจริง (แนวคิดแบบวิทยาศาสตร์)


แนวคิดและทัศนะคติที่คับแคบ และมีความวิตกกังวน กลัวจนเกินเหตุ แล้วยังอ้างว่าไม่กลัว แถมดึงความจริงเกี่ยวกับข้อมูลอุกกาบาตที่เกิดขึ้นจริง แต่ลงท้ายเพื่อโจมตี เป็นแนวคิดและทัศนะคติที่เป็นอันตรายต่อสังคมอย่างรุนแรง ซึ่งแนวคิดแบบนี้ได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือให้บุคคลและกลุ่มบุคคลออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ได้เกิดขึ้นมาแล้วเมื่อไม่นานนี้ จึงสมควรให้กลับไปพิจารณาด้วยสติปัญญาของท่านเอง โดย..ด้วยการถอดถอนความชอบใจและไม่ชอบใจในตัวบุคคลใดๆออกในการพิจารณาเรื่องราวสารสนเทศต่างๆด้วยเหตุและผลและความชอบธรรม

 

เฮ้อ....???
สุดท้ายก็เข้าอีหรอบเดิม
กลายเป็นคนไม่ดีไปซะละ เลวจริงพรานใหญ่
ทั้งผิดศีล ทั้งผิดกฎหมาย แถมมีแนวโน้ม เป็นผู้ที่มีแนวคิดก่อให้เกิดความวุ่ยวายในประเทศ อีกตะหาก อืมแล้วทีนี้จะต้องทำอย่างไรดี ได้ครับพี่ ดีครับนาย ถูกใจครับกระผม เหมะสมครับท่านพี่น้อง

 

แหม่..มาแนวพระเอกอีกล่ะ ..เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยนะครับ 555 เนียนดีครับ

คนเขาโพสดาวนิบิรุกันโคมๆ อันนั้นนะถ้าเกิดขึ้นจริงต่อให้ขับรถหนีทุกวันมันก็ยังวนอยู่ในโลกนี่แหละ

ความจริงที่ควรยอมรับคุณ พลานใหญ่

เอ๊า..ไปถามพี่ขวัญทีว่าโพสทั้งภาพและเสียงเพื่อประการใด

http://palungjit.org/threads/ดาวเนบ...เชิญมาบ่นกันที่นี่เลยครับ-^___^.243915/page-2

วนเวียนกันอยู่นี่แหละ ผมแค่ "เตือนสติเตรียมความพร้อม"
เวลา= ขณะที่เกิดแผ่นไหวกันทั่วโลกในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ดาวเคราะห์เรียงตัวกัน

 

มาถูกที่ถูกเวลาเลยนะหนู T-T เค้ากะลังซีเรียส กันอยู่
เค้ากำลังไล่จับมาเฟียเวปอยู่นา เราแกล้งไม่รู้จักกันไปก่อน
เดี๋ยวโดนลูกหลง จะหาว่าพรานใหญ่ไม่เตือน เน้อ...
พอยอมรับว่าเลว กลับได้เป็นพระเอก เออ ดี
เรื่องเจ้ขวัญ สงสัยประการใดเชิญเรียนถามเองเลยครับ
ไม่เข้าใจเจตนาคำแนะนำท่าน หรือ ต้องการให้ผมกับเจ้ขวัญได้แลกเปลี่ยนกัน
ถ้าเป็นเข่นนั้น ขอบอกว่าเป็นปกติเลยครับ ก็ยังมีเรื่องที่ยังถกกันอยู่
แต่เจ้แกก็ยังไม่ได้ตั้งขอหาใดๆให้ผมนะ ไม่เอาละ ได้เป็นพระเอกละ ไม่พูดมากดีกว่า

 

สุยอด พวกชอบทำตัวแหลมๆ ต้องเจอทนายเด็ดๆแบบนี้แหละครับ ท่านผู้ชม

ใครหัวหมอ บอกมา เด๋วจัดไห้...........................................

 

อ้าว...รู้ตัวอีกทียืนอยู่ท่ามกลาง สมรภูมิกระทู้ ไปซะละ
ไปดีกว่า เสียลุคพระเอก ไอ้ธงหัก อย่ามาเจ๋อกะผมนา ผมเป็นพระเอกกับบางคนที่มีเหตุผล
ไอ้ประเภท ทะลึ่งไปเรื่อย ออกแนวปากสุนัก ของจริงก็มีนะท่าน สนใจเดี๋ยวจัดให้ได้

 

วันนี้ข่าวช่อง7ว่าถ่ายได้4ดวงแล้วนะ ไกล้แล้วสินะ อีก3 อิอิ

 

sun dog ...

โลกจะสว่างขึ้น

 

Sun Dog.........

เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติชนิดหนึ่ง ครับ
มีคำอธิบายจากหลายแห่งบนพื้นโลก

เข้าไปใน Google แล้วพิมพ์คำนี้ดู จะเห็นคำอธิบาย ครับ

 

ฮาแตกดีครับ..555

คิดได้แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ มองโลกในแง่ที่ดี ชีวิตก็จะเจอแต่สิ่งดีๆครับ

โอ้ว..3ดวง 4 ดวง 5ดวง 6ดวง 7ดวงแล้ววว..เย้ๆๆ คร่อก เกรียมกันพอดี

 

ครับคุณลุง ถึงแม้จะไม่เป็นอันตราย แต่ก็สัญญาณที่ผิดปกติ
แต่ไม่ได้ว่า ดี หรือ ร้าย นะครับ

อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง โดยเฉลี่ยการเกิดในระยะเวลาหนึ่งเวลาใด
แปรได้ว่า ไม่ปกติ ส่วนอะไรที่เกิดขึ้นบ่อยๆเป็นประจำเรียกกันว่า ปกติ

อนุโมทนาครับ ปฏิบัติธรรมกันต่อไปครับ

 

สร้างบรรไดให้ตนเองเดินนั้น ประเสริฐยิ่ง หรือ ไม่สร้างเอง ควรเดินร่วมบรรไดกับคนเขาสร้างมา ด้วยความนอบน้อมตามวาระ
แต่หากแย่งบรรได คนอื่นเดิน เพื่อจะสรรเสริญสติปัญญาของตน ให้ตนสูงกว่าผู้ที่สร้างมานั้น ไม่ควรยิ่ง
อนุโมธนา

 

เหมือนกันค่ะ ถ่ายเมื่อวานนี้ค่ะที่ บุรีรัมย์ สังเกตุมุมบนภาพนะคะ อะไรดำๆ ก็ไม่ทราบ แต่ว่า พระอาทิตย์ส่องลงมาแปลกมาก เป็นรู กลมๆ เหมือนส่องกล้องเลยค่ะ

 

ศรัทธา กับงมงาย อยู่แค่ปลายเส้นผมเท่านั้นเอง

 

Sun Dog ซึ่งแปลว่า "ข้างดวงอาทิตย์"

ปรากฏการณ์ซันด็อก

ซันด๊อก เป็นปรากฏการณ์ทางแสงอย่างหนึ่ง มักเกิดเป็นคู่ อยู่ด้านซ้าย-ขวา ในแนวระนาบเดียวกับดวงอาทิตย์ ขนานกับพื้นดิน ซันด๊อกอาจปรากฏเป็นจุดสว่างบนฮาโล หรืออาจมีรูปร่างคล้ายกับดาวหางก็ได้ ซันด๊อกอาจมีสีรุ้งได้ โดยที่สีแดงจะอยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์ และสีฟ้าขาวปรากฏในส่วนหาง

ซันด๊อกจะพบได้ง่ายในเขตหนาว เช่น ทวีปแอนตาร์คติค และ ทวีปอาร์คติค แต่ก็เกิดได้ในเขตร้อนเช่นกัน แม้แต่ในประเทศไทย



ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก http://www.thaipbs.or.th/
และ http://www.sahavicha.com/

 

ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ