การทำลายภพ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 3 มิถุนายน 2010.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คำว่า ภพ คือ สภาวะที่จิตไปติดไปข้อง เมื่อจิตเป็นตัวรู้ จิตไปรับรู้สิ่งใดอยู่ตลอด นั่นแหละจะเรียกว่า ไปติดภพ

    บางทีจิตติดอยู่กับสุข จิตอยู่กับสังขาร จิตอยู่กับอุปาทานโดยรวม ก็ถือว่า จิตติดข้องในภพ

    การที่จิตไปติดในภพนี้ เกิดจากความไม่เท่าทัน ไม่รู้แจ้งในอวิชชา

    บางคน ติดอยู่ในจิตใต้สำนึกบ่อยๆ ก็ถอนไม่ขึ้น อาสวะ ทั้งหลายเหนี่ยวรั้งเอาไว้

    ให้ยึดอยู่กับ ความรู้สึก และ ความหลงเดิมๆ

    ตัวภพนี้เอง เกิดจากกิเลสตัวไม่รู้ร้อยรัด ให้จิตอยู่กับ ความรู้สึก แบบมนุษย์ ความรู้สึกแบบเทวดา ความรู้สึกแบบพรหม ความรู้สึกแบบสัตว์ แบบเปรตผี นรก

    เมื่อจิตอยู่อย่างนั้น ก็ไม่สามารถแหวกว่ายไปหา สิ่งที่ดีกว่าเดิมได้ เพราะอาลัยบ้าง ตัดใจไม่ขาดบ้าง หรือ ด้วยความไม่รู้บ้าง


    การทำลายภพ ก็ต้อง พิจารณา สภาวะที่ตนดำรงอยู่ ขณะนั้นว่า นี่เป็นทุกข์ นี่ไม่ดี นี่ไม่น่าเอา แต่ถ้ายังคิดว่า มันยังพอถูไถไปได้ ก็เรียกว่า ยังมีกำลังไม่พอ

    ถ้ากำลังใจพอ มันจะไม่เอา มันจะมีแรง มีกำลังให้ดีดตัวออกจากภพ นั้นๆ ว่า แบบนี้ไม่เอาอีก ซึ่งมันจะสอดส่ายหาธรรม หาปัญญามาแก้ไข

    นี่จึงเรียกว่า มรรค จะเป็นตัวทำลายภพ

    จิตเมื่อ ไม่เอากับ ทุกข์ แล้ว มรรคจะเป็นตัวควานหาสมุทัย นิโรธจะเป็นอาการที่ดับสมุทัยนั้น สมุทัยนี้คือ ความไม่รู้ตามความเป็นจริง อันละเอียด มีผลทำให้ อุปาทานทั้งหลายก่อตัว ให้ยึด

    ให้รู้จัก วิจัยธรรม ให้ได้ผล เมื่อเราได้ผล เราจะเห็นว่าสมุทัยนั้นโยงใยซับซ้อน สิ่งที่เรากำลังแสวงหาเพื่อดับทุกข์นั้นมันมักจะไม่ตรงจุดเสมอ เช่น บางคนอยากมีเงิน ทำงานแทบเป็นแทบตาย อยากรวย แต่ถ้าควานหาเพื่อดับทุกข์จริงๆ อาจจะเห็นได้ว่า แรงผลักดันจริงๆ ไม่ใช่เพราะเขาอยากรวยก็ได้ อาจจะเกิดจา่กการอยากมีหน้ามีตา ถูกยอมรับจากคนอื่น แรงผลักดันอาจจะเกิดจาก การอยากได้บ้าน แรงผลักดันอาจจะเกิดจากการอยากได้รถ ด้วยความไม่พอและไม่เท่าทันต่อความอยากนั้น และ หาไม่เจอว่า อยากที่แท้จริงนั้นอยากอะไรจึงเป็นเหตุให้อยาก ในสิ่งต่อๆ มา

    บางคน ทุกข์ใจ เรื่องลูก เช่น ลูกไม่เรียนหนังสือ อยากให้ลูกเรียนหนังสือ ก็ให้ควานหาสมุทัยให้เจอ เช่นว่า ลูกมันไม่เรียนหนังสือแล้วทำไมทุกข์ใจ แรงผลักดันจริงๆ อาจจะมาจาก การที่เราไปได้ยินว่า เพื่อนของเรามีลูกที่เรียนเก่ง ลูกเราไม่เก่งเหมือนเขา เราเลยอยากจะให้ลูกเรียนเก่ง พอลูกเรียนไม่เก่ง เราก็ทุกข์ใจ นี่เพราะว่าไปได้ยินว่าคนอื่นมีลูกเรียนเก่งเท่านั้น จิตจึงโง่อยากให้ลูกเก่งเหมือนลูกคนอื่น พอเข้าใจว่า แท้จริงเราอยากจะไปอวดกับเพื่อน หรือ แท้จริงเราอยากเห็นอนาคตลูกดี แต่ทั้งหลายทั้งปวง เป็น การคาดเดา ไปทั้งสิ้น สมุทัยหรือเหตุแห่งทุกข์ จึงสลับซับซ้อนในชีวิตคน แล้วหาทางแก้ไขกันแบบผิดๆ
    บ้างก็บังคับลูกให้เรียน บ้างก็ส่งลูกไปเรียนกวดวิชา บ้างก็ซื้อรถแลกเรียน แต่ถ้าเรา พิจารณาให้ดี แล้วเราจะตื่นขึ้นแล้วเห็นว่า เราบ้าไปเอง ตั้งแต่ไปฟังคนอื่นมาแล้วอยาก ให้ลูกเราเป็นเหมือนคนอื่น ฝังในจิต นี่เป็นเพราะสติเราไม่ดี ไม่ทัน ระลึกไม่ได้ ว่าสมุทัยที่แท้จริงมันเกิดจากอะไร


    นี่ มันโยงใยกันอย่างนี้ เราก็เลยควานหา เพื่อดับกันไม่เจอ เพราะไม่เข้าใจ

    ทีนี้ พอไม่เจอสมุทัยก็ไม่เป็นไร ให้เราฝึกทำใจ เจริญสมาธิ เจริญสติ แล้ว อย่ามีความอยากให้มันมากนัก
    พิจารณาให้เจอว่า เหตุที่เราต้องดำเนินไปแบบนั้นแบบนี้ เพราะอะไรผลักดันแล้วเราจะ ทำลายภพ หรือ ความยึดมั่นถือมั่น ด้วยตัณหาพาไปได้

    อวิชชาอยู่ลึกๆ เราไม่รู้ ถ้าไม่ใช้วิชาพระพุทธองค์ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา คอยสอดส่อง แล้วจะดับสายแ่ห่ง ภพชาติได้
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    อ่านไม่เข้าใจ ก็ทนๆ อ่านกันไป

    ทบทวน ที่ผมเขียนไปบ่อยๆ จะค่อยๆ เห็นตามความจริงขึ้นมา

    แล้ว มันจะเห็นตัวโง่ ในตัวเอง

    ขอตัว
     
  3. เทพอาถรรพ์

    เทพอาถรรพ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +96
    ขันธ์ เขียนเรื่องธรรมะค่อยเข้าท่าและเข้ากับภูมิความรู้

    ขออนุโมทนาครับในธรรมะดีๆ
     
  4. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ...อย่างกับไปแอบฟังที่คนคุยกันเมื่อคืนเลยแฮะ

    ไว้ต่อไปช่วยอธิบาย ชาติ ต่อด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2010
  5. หมอโตโต้

    หมอโตโต้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +27
    ขอนุญาตินำข้อความรู้ไปเผยแพร่ต่อนะครับ
     
  6. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ผมเองเชื่อว่ายุคอินเตอร์เน็ต facebook นี่การปรับวิธีคิดคนได้ให้กุศลได้มากในวงกว้าง
    การสร้างบุญบารมียอมทวีคูณ

    การฝึกวิปัสสนาเข้าถึงการพ้นทุกข์ได้
    ทีนี้หากจะบอกว่าตนเองคงทำบุญมาน้อย
    ไม่เข้าใจ วางปลงลงไม่ได้แบบเค้า คงอีกหลายชาติ จะหลายชาติก็ให้ติดอุปนิสัยทางกุศลทางบุญไว้ เกิดมาใหม่ก็เป็นทุนให้ได้พบพระพุทธศาสนา แม้ว่าหลายคนจะพอเห็นทางแล้วยังประหมาดหลงติดสุขกับชีวิตอยู่ (รู้เทคนิคแล้ว ใช้ชีวิตเต็มเหนี่ยวไม่มีทุกข์)

    ก็ลองดูว่า หากเกิดมาใหม่ ไปเชื่อตามผู้ที่ดูน่าเชื่อถือ ดันเกิดมิจฉาทิฎฐิ หลงคิดผิดไปว่า
    ชาติหน้าไม่มี มีเพียงชาติเดียว สนุกเต็มที่เงิน อำนาจ ผู้หญิง
    พวกพ้อง ผลประโยชน์ ทุนนิยม
    บริโภคนิยม แล้วทำชั่วได้ขนาดไหน

    นายกสมาพันธ์ฆราวาสเล่นกล้ามและปฎิบัติธรรมเรียนรู้ชีวิตแบบมีสติ
    (ทั้งสมาพันธ์มีสมาชิกคนเดียวกั๊บ5 5 5)
     
  7. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ไม่เคยผิดหวังในข้อเขียนของท่าน ขันธ์ ที่ได้อ่าน...!
    ....แต่ท้อใจ...เหลือประมาณ เมื่ออ่านจบครับ แค่จะสลัดความสุขอันเกิดจากไม่ไปเบียดเบียนใคร และอยู่อย่างสมถะ พอเพียง ก็ติดไปอีกภพแล้วครับ..?
    หนีซ้ายปะขวา หนีหมาปะจระเข้..แทบไม่เห็นทางไป...ก็มันเริ่มสบายๆนี่ครับ จะเห็นทุกข์ได้ยังไงครับ ท่านขันธ์...?
    สติดีก็เทวดา ชั้นต่ำ(ผมชอบใช้น้ำอบนางลอย เพื่อนผมบอกอย่างเก่งได้แค่นี้ภูมิผม) หากเผลอสติ...เปรตแน่ๆตัวผม สาธุครับท่านขันธ์
     
  8. ภวโลกร้อน

    ภวโลกร้อน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,272
    อนุโมทนา สาธุค่ะ

    เท่าที่สังเกตุตัวเองตอนนี้เห็นตัวโง่เต็มไปหมด...
     
  9. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    เป็นบทความที่ดี มีสาระเป็นแนวปฎิบัติได้ดี ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ดีๆ ครับผม
    กิเลศหยาบ จะถูก ละไปเรื่อยๆ จนถึงกิเลศขั้นละเอียด... จะพยายามต่อไป
     
  10. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    บทความดีๆ อยากอ่านต่อครับ..วิธีปฏิบัติไม่ให้ติด ภพ..ล่ะครับ ท่านขันธ์ พระป่าท่านวิปัสสนากันอย่างไรครับ ด้วยความเคารพ สาธุ
     
  11. จื่อหลิง

    จื่อหลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +698
    อูย กำลังว่าจะทำเรื่องเรียนซะด้วย

    ช่วงนี้กำลังไปได้ดีในเรื่องบริกรรมแต่ว่าเปิดเทอมมารู้สึกว่าจะไปติดที่เรื่องเรียน เนื่องจากผมบริกรรมพุทโธตลอดทุกอิริยาบถ (เว้นแต่กินข้าวยังทำไม่ติดซักเท่าไร) พอถึงช่วงเข้าเรียนก็บริกรรมพุทโธด้วย คิดว่าจะทำให้เรียนได้ีดีด้วยแต่พอบริกรรมดูแล้วมันเฉยนะซิครับ ฟังอาจารย์ไม่รู้เรื่อง จิตเอาแต่นึกพุทโธตามองเห็นเสียงได้ยินปกติไม่ได้หลับแต่จิตมันไม่สน สนแต่พุธโธอย่างเดียว จนเพื่อนมาสะกิดตัวถึงรู้สึก ควรจะทำอย่างไรดีครับ ทำมาถูกต้องมั้ยแบบนี้
     
  12. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    พบทุกข์ที่ไหน แก้ที่นั่น ด้วยหนทางดับทุกข์ เมื่อตัดได้แล้ว ภพที่ติดเป็นอันขาดสิ้น


    แต่มันมีติดหลายภพนี่สิ
     
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    จริงๆ แล้ว ทุกๆ สภาวะ คือ ตัวภพ

    แต่ ให้เราหมั่น สังเกตุ ภพที่เป็นทุกข์ ก่อน ภพที่เป็นทุกข์ คือ อยู่ในสภาวะนั้นแล้วไม่พอใจ

    รู้สึกแบบนั้น คิดแต่แบบนั้น เบื่อแบบนั้น เซ็งแบบนั้นอยู่ตลอด หรือ เป็นๆ หายๆ

    นี่เรียกว่า เผลอติดในภพ

    แม้มีปัญญา เข้าใจว่า มันเกิดๆ ดับๆ แต่ถอนไม่ได้ นี่แสดงว่า สติ สมาธิ ยังไม่กล้าพอ

    จึงว่า ต้องทำให้แจ้ง ด้วยการ เจริญสติ มองดูสภาวะที่ติด แล้ว ทบทวน ให้ตื่นให้ได้

    สภาวะตื่น จะเห็น ว่าเราไปยึดไว้เอง ทุกๆ สภาวะ วางได้หมด จนเหลือแต่ ผู้รู้ ว่างๆ ได้

    แต่ ปัญหาคือ มันวา่งไม่ได้ เพราะอะไร เพราะว่า มายา อวิชชา มันลวงเป็นชั้นๆ

    คือ ชั้นความคิด วางเดี๋ยวเดียว มันก็ผุดคิด เพราะสมาธิไม่ดี

    ชั้น อารมณ์ วางเดี๋ยวเดียว พอไปคิด ไปสัมผัส ด้วยตา หู จมูก ลิ้นกายใจ มันก็ผุดขึ้นอีก

    มันก็วางซ้อนกันไป หมดเรื่องนี้ไปรู้สึกเรื่องนั้น ไปคิดเรื่องนั้น ไปสัมผัสเรื่องนี้ ทั้งอารมณ์ ทั้งความคิด ทั้งความจำ ทั้งความรู้ โยงใยกันไปหมดนะ

    เราก็มีหน้าที่ ผ่อนความคิดให้เบาลง ผ่อนอารมณ์ภายในให้เบาลง ผ่อนความรู้สึกทั้งหลายความคิดทั้งหลายให้เบาลง จนระงับดับไปหมด ทีละส่วนๆ แล้วเราจะ รู้เองว่า มันจะวางแต่ละส่วนอย่างไร

    ไม่เช่นนั้น มันยึดหมด เป็นกายใหญ่นี้ เรียกว่า สักกายทิฎฐิ จำกันเอาไว้

    ค่อยๆ ผ่อน ทุกๆ ส่วนในขันธ์ทั้ง 5

    จึงว่า ศีล หรือวินัย นี้่กล่อมให้จิต ไม่เตลิดไปไกล

    สมาธิ นี่ค่อยๆ ทำจิตให้เบาลง

    แล้ว ใช้ ปัีญญา มองเห็น สรรพสิ่งที่จิตนี้

    ใช้สติ คอยสังเกตุ ทบทวน แล้ววางลง อันเป็นที่สุด เรียกว่า สังขารุเบกขญาณ

    แล้วจะถึง ธรรม คือ นิโรธธรรม ดับทั้งหมดได้เอง ( แต่จิตนี้อยู่ ไม่ดับ)

    นี่บอกกระบวนยุทธ ที่สุดแห่งธรรมแล้ว ให้ทำกันให้จริงเถอะ
     
  14. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    วางลง ได้ ก็ยังไม่ได้หมายความว่า เราจะถอนได้นะ

    กิเลส พอไปเจอเชื้อมันก็ผุดขึ้นมาได้อีก

    การตัดให้ได้ คือ จะต้องวา่ง สังขารทุกส่วนให้ได้ แล้ว ทบทวน ทำให้บ่อย

    จนจิตเกิิดปัญญา เห็น ไล่ตามกิเลสไป แล้ว จะเห็นว่า ไร้สาระ ยึดจับไม่ได้ ไม่มีที่มาที่ไป

    เป็นความโง่โดยแท้ นั่นแหละ เราจะเกิด ญาณ ขึ้นว่า เราหลงไป แล้วจิตจะหน่ายคลายกำหนัด ในทุกข์เอง

    ทำให้ถึง พร้อม แล้ว จะคลายสังโยชน์ทั้งหมด ได้เอง ดัีบภพ แน่นอน
     
  15. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ขออนุโมทนาที่ท่านขันธ์ที่ช่วยชี้แนะ

    ข่มด้วยสมาธิ กับตัดด้วยปัญญานี่ต่างกัน

    นี่สินะที่ในตำราเขาเรียกว่า ตทังคประหาร กับ สมุตเฉตประหาร

    หนทางยังอีกไกลสินะ
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    เวลา ไล่ตามกิเลสไป ดูตามไปนี่

    เวลาโมโห นี่ถามว่า โมโห เพราะอะไร

    โมโห เพราะ มีคนมาด่าหรือ ตอบว่า ถ้าใช่ แล้วทำไมต้องโมโห

    เป็นแค่ คำพูด ภายนอกแล้วทำไม ฟังเฉยๆ มันมากระเทือนที่ใจ

    ไล่เข้ามา มันจะเห็นว่า คำพูดภายนอก เราได้ยิน แล้วเราหมายรู้ นี่จะเห็นตัว วิญญาณแล้วเห็นไหม ว่ามันมีอาการหมายรู้ แล้วเรารู้เฉยๆ ไม่ได้หรือ ทำไมต้องรู้สึกโมโห

    ไล่ไปอีก ถ้าเรามีสติตามทัน จะเห็นว่า อ้อ มันมีกระบวนการปรุงในขณะจิตนั้นนี่ว่า มันผุดผัสสะขึ้น กระทบ ให้กระเพื่อม ที่ใจ ไม่ใช่แค่ที่หู หรือ สมอง

    ไล่ไปอีก มันจะไปสิ้นสุดที่ว่า แล้วทำไม มึงต้องรู้สึก นี่ก็จะเห็นว่า เพราะเราไม่รู้ มันเป็นไปตามอาการที่เคยชิน จนฝังรากลึก เมื่อไรตา หู กระทบ จิตรุ้สึกไปทันที ตามสันดานที่เคยชิน
    แล้ว เราจะเห็นเองว่า แท้จริง เพราะ มันเป็น อาจิณกรรม ที่เป็นอยู่เป็นประจำ พอจิตรับมาปั๊บ สะเทือนออกทันที ตอบรับกันเป็นอัตโนมัติ

    นี่มันโยงใยกันแบบนี้แหละ

    พิจารณา ให้เห็นจริง ให้คลายกำหนัด เมื่อคลายแล้วจะวางเอง

    ทำให้มันกระจ่าง ไปทั้งหมด ใน ขันธ์ ทั้ง 5 และความ ไม่รู้ตามความจริง ยิ่งๆ ขึ้นไป
    เรียกว่า ทำให้แจ้ง

    ส่วนใครที่มีกรรมมาก กรรมมันจะปิด ฝึกอย่างไรก็ไม่ถึงใจ ให้ทำใจให้ประเสริฐ ด้วยกุศลก่อน ละอกุศลทั้งปวง ทาน ศีล ภาวนา ให้เป็นลำดับไป ทานนี่ก็ให้จากวัตถุสิ่งของ ไป อภัยทาน จนถึง ธรรมทาน ศีล ก็ให้ เจตนางดเว้น ไปจนถึง หิริโอตัปปะ จนถึง ไม่น่าเอา

    ภาวนา ก็จาก สมาธิ ไปจนถึง ปัญญา ทำให้ถ้วนถี่ ค่อยๆ ทำไป จะแจ้งขึ้นตามลำดับลำดา


    ขอตัว
     
  17. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ขอบพระคุณท่านขันธ์ที่ชี้แนะครับ
    สาธุ

    หมายถึงให้รู้เท่าทันในธรรมที่ทำให้ข้องอยู่ในโลกใช่มั้ยคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2010
  18. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    แสดงว่า ยังละเอียดไม่พอ

    ให้ทำ ทาน ศีล ภาวนา ให้ดีกว่านี้ เท่านั้นพอ

    ส่วนในระดับ รูป นาม ต้องมี มหาสติ มากกว่านี้
     
  19. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    สาธุ ร้อยครั้ง พันครั้งครับ ท่านขันธ์....เข้าใจ สักกายะทิฎฐิ วันนี้เองครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  20. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +2,122
    มีสติรู้คำภาวนาเช่น พุทธโธ ต่างกับ มีสติรู้ความคิด หรือไม่อย่างไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...