[กฎแห่งกรรม] ทรัพย์เคลื่อนที่ได้ โดยหลวงพ่อจรัญ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย hyperz, 6 มิถุนายน 2010.

  1. hyperz

    hyperz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    338
    ค่าพลัง:
    +3,421
    [​IMG]


    ....ความสุขที่แน่นอน ความสุขที่ผ่องใส ความสุขที่ไม่เจือปน เงินทองช่วยไม่ได้ ต้องสร้างต้องทำของตนเอง จิตใจเบิกบาน จิตใจดี เงินทองเรื่องเล็ก สมบัติก็เรื่องเล็ก ในเมื่อเรามีจิตใจ เป็นอริยทรัพย์อันประเสริฐแล้ว สมบัติภายนอก ก็จะถูกดึง ถูกดูดให้เคลื่อนย้ายเข้ามาหาเรา จะเป็นสังหาริมทรัพย์ (ทรัพย์เคลื่อนที่ได้) อสังหาริมทรัพย์ (ทรัพย์เคลื่อนที่ไม่ได้) มันจะหลั่งไหลเข้ามาหาเรา ทำให้เรามีที่ดินที่อยู่ที่อาศัยมากมาย
    <O:p</O:p

    ทรัพย์เคลื่อนที่ได้ ในเมื่อจิตเป็นกุศล มันก็เคลื่อนเข้ามาบ้านเรา ยิ่งรวยเงินยิ่งเข้า ส่วนบ้านคนจน เงินไม่ค่อยไปหาหรอก เพราะมันจนจิตจนใจจนสติปัญญา จนทั้งอริยทรัพย์ภายใน ทรัพย์ไม่ค่อยเข้าไป มันเข้าไปหาคนรวยจิตใจรวยทรัพย์ คุณสมบัติ มีกรรมฐานดี สติปัญญาดี เงินมันก็วิ่งไปรวมที่บ้านคนรวยอย่างนั้น คนจนไม่ทำบุญสุนทาน บุญจะเข้าไปหรือเงินจะไหลเข้าไปไม่ได้ เขามักจะพูดว่า “เรามันจน เงินหนีหมด” ก็ใช่แล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บางทีมีทรัพย์สมบัติที่พ่อแม่ยกให้ มันจนจิตจนใจ จนสติปัญญา ทรัพย์สิน ก็อันตรธานสูญ มันก็ไปรวมอยู่ที่บ้านคนรวย เพราะคนรวยเขารวยสมบัติ รวยคุณสมบัติ มีอริยทรัพย์อันประเสริฐ มันก็ดูดเงินจากที่อื่นไปหมด เอาไปอยู่บ้านนั้นรวยมหาศาล บ้านไหนจนมันไม่มีไหลไปหรอก มันจนนี่ มันจนจิตจนใจ จนปัญญา จนธรรมะ จนคุณสมบัติ ไม่เคยใส่บาตร ไม่เคยทำบุญเลย จนอย่างนี้ทรัพย์สมบัติจะเข้าไปไม่ได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ทรัพย์คือศีล สมาธิ ปัญญา ทรัพย์คือตัวศรัทธา ทรัพย์คือตัววิริยะ ทรัพย์คือตัวความมั่นหมายของตน ได้กุศลภาวนาอย่างนี้เรียกว่าทรัพย์มีอยู่ภายใน มันก็ดึงดูดเข้าไปรวม สิริมิ่งขวัญมงคลก็ไปอยู่บ้านคนรวยทรัพย์ รวยน้ำใจ ทำบุญตักบาตรไม่พัก ทรัพย์มันก็เข้าไปพักอยู่บ้านนั้น มันไปอาศัยอยู่บ้านนั้น เพราะบ้านนั้นมีความสุข ทรัพย์นั้นก็ไปรวมเป็นก้อนเป็นกำ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บ้านไหนมีความทุกข์ จิตใจสกปรกลามก ของดีมันก็เคลื่อนย้ายไป ที่โบราณเรียกว่า ทองลุก อาตมาเคยเห็นกับตา ถึงได้เชื่อ ทองลุกเหมือนไฟพะเนียง และเคลื่อนย้ายออกไป นี่ทรัพย์มันเคลื่อนที่ได้ คนไหนมีบุญวาสนา มันก็เคลื่อนไปอยู่บ้านนั้นแหละ<O:p</O:p
    เมื่อตอนอาตมาเป็นเด็กนักเรียนมัธยม ๒ อยู่กับยาย ยายมีเงินกลมเยอะ มีทองสายสะพาย ๒ เส้น สร้อยคอสร้อยข้อมือเยอะ เงินเหรียญเงินกลมเป็นไห ๆ ยายของอาตมาไปรักษาอุโบสถ ต้องค้างคืนที่วัด เช้าต้องไปรับ เวลาไปก็เตรียมทำกับข้าวใส่ปิ่นโตให้เสร็จ เมื่อทำบุญตักบาตรแล้วก็เก็บไว้รับประทานอาหารเพล และรอค้างคืน รุ่งเช้าอาตมาก็ไปรับไปหาบกระบุงใส่ผ้าผ่อนท่อนสไบของคุณยายกลับบ้าน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แต่อาตมาคิดเป็นอกุศล จิตใจเป็นอกุศล ไม่มีทรัพย์คิดลักเงินกลมของยาย ไปแลกสตางค์แดงมาเล่นโยมหลุม พวกบ้านเหนือบ้านใต้ตอมกันเป็นกลุ่มหมด พอยายไปวัดแล้วมาชวนเล่นโยนหลุม อาตมาก็ลักเงินกลมเงินเหรียญบ้าง เอาไปแลกสตางค์แดงมีรู บาทหนึ่งแลกได้ไม่กี่สตางค์หรอก นี่เมื่อสมัยเป็นเด็ก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พอถึงวันพระดีใจมาก ดีใจที่จะได้สร้างบาป โดยที่ยายไปอยู่วัด ไม่สนใจเรื่องทรัพย์ เงินทอง ยายไม่เคยนับ อาตมาตอนเป็นเด็กก็ลักเรื่อย วันพระละ ๑๐ ก้อน เงินกลม เงินเหรียญของรัชกาลที่ ๔ รัชกาลที่ ๕ มีมาก เอาไปแลกเป็นสตางค์โยมหลุมเสียหมด เพราะเล่นไม่เป็น เล่นเสียตลอดรายการ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ในเวลากาลต่อมา ยายก็บอกว่า หลานเอ๋ย เขาปล้นกันที่บ้านบางม่วงหมู่โน่น ตีชิงวิ่งราวกันมาก จะเอาเงินไว้ที่ไหนดี ยายก็ออกหัวคิดโบราณ ฝังไว้เถอะ ฝังไว้ใต้ถุน ก็ตามใจยาย ฝังก็ฝังกัน รอให้เย็น ๆ หมดแขก ลูกหลานไม่มาเยี่ยมยายแล้ว อาตมาก็ไปขุดใต้ถุน ขุดแล้วก็ฝังไว้ ๒ ไห ไหหนึ่งเป็นเงินกลม เงินเหรียญ อีกไหหนึ่งเป็นทองคำ สร้อยข้อมือ กำไลเท้าเป็นทองคำ ทองก็มีสายสะพาย ๒ เส้น ๆ ละ ๘ บาท สร้อยข้อมือข้างละ ๔ บาท ยังมีอยู่อันหนึ่งพิเศษ อาตมาก็เอาไปฝังเหมือนกัน เดี๋ยวนี้ไม่มีหรอก เขาเรียกร่างแหทองคำ ร่างแหเงิน ร่างแหนาก ยายมีครบ อาตมารู้หมด อ้อ! ร่างแหเขายังทำด้วยทองคำ แต่บางบ้านไม่มีบุญวาสนา อย่าไปใช้ร่างแหทองคำนะ เจ๊งเลย นี่ยายเล่า อาตมาฝังแล้วก็เอาดินมาทา เอาขี้ควายมาทา เอาพระพ้อมครอบอยู่ใต้ถุน<O:p</O:p
    ต่อมา ยายบอกว่าที่วัดศรัทธาภิรมย์มีเทศน์คาถาพัน เทศน์มหาชาติ ๓ วัน ๓ คืน ยายจะไปค้างวัด อาตมาก็ถามว่า “ยายไปค้างกี่คืน” ยายก็บอกว่า “๒ คืนหลาน” อาตมาก็นึกว่าสบายละคราวนี้ จะขุดขายแน่ อาตมาคิดทุกวันไม่มีสวดมนต์หรอก อาตมาสวดมนต์เป็นสวดมนต์ได้ ยายสอนให้สวด สวดแล้วขออธิษฐานจิตขอให้ลักทองคำ ลักของยายให้ได้ นี่คิดเป็นอกุศลอย่างนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พอถึงวันพระเทศน์มหาชาติ อาตมาก็ไปส่งยายแต่เช้ามืด ยายรักษาอุโบสถ ค้างวัด ๒ วัน ๒ คืน ฟังเทศน์มหาชาติ พอไปแล้ว เพื่อนก็มาคอยเล่น เดี๋ยวบ่าย ๆ หน่อยจะไปเล่น ตั้งใจว่าจะลักขุดให้ได้ อาตมาก็ไปเปิดกระพ้อมออก ขุดลงไปนะ ไม่มีเลยหายไปหมดเลย ไหสองลูกไม่มีเลยนะ มีรูทะลุไปทางหลังเรือนแปลกมาก เอ! ใครมาลักเอาไป อาตมาก็กลบไว้ตามเดิม<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ยายลืมเรื่องที่ฝังไว้เพราะเงินที่ใช้อยู่มีมาก ที่ฝังไว้นี่ต่างหาก นี่ทรัพย์หนีได้อย่างนี้ อาตมานึกถึงโบราณได้ว่า เดินเรือนปึง ๆ ยายตี บอกว่า “หลานอย่าเดินเรือนดัง ทรัพย์จะหนี” ต้องเดินเบา ๆ รับประทานข้าวดังก๋องแก๋ง ยายว่าเลยนะ ไม่มีคุณสมบัติเลยนะหลานเอ๋ย ทรัพย์ไม่มีเลย เงินไม่มีนะทองก็หนีหมด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คนไม่มีคุณสมบัติแปลว่า คนไม่มีศีล ไม่มีธรรม ทรัพย์จะมาได้อย่างไร นี่ยายเล่า อาตมาก็ขุดไม่ได้เลย หนีไปไหนหมดไม่ทราบมีรูโบ๋เลย หายไปทั้งไห ก็ไม่สงสัยว่าทรัพย์จะหนีได้เข้าใจว่า ขโมยลักไป แต่การฝังนั้นรู้กันยายกับอาตมาเท่านั้น คนอื่นไม่รู้ ป้าก็ไม่รู้ ทำไมหายได้ ขุดหาก็ไม่พบ<O:p></O:p>
    <O:p</O:p

    ในอวสานกาลยายป่วยหนัก ป่วยก็ไม่มีโรค คล้าย ๆ ว่าทรุดลงไป กำลังถอยลงไป อายุ ๙๙ ปีพอดี อาตมาอยู่ปฏิบัติยายอย่างใกล้ชิด เหลืออีก ๗ วันจะตาย เจตภูติของยายไปเข้าฝันป้าชื่อ ป้าเหลี่ยม สะดวกดี ยายยังไม่ตายนะ ยังนอนอยู่แต่สติดี ป้อนข้าว ป้อนน้ำ แต่ยายก็เพลียลงไป ๆ เขาเตรียมต่อโลงบำเพ็ญกุศล สวด ๗ วัน ๗ คืน ไปเข้าฝันป้าบอกว่า “หลานคนนี้สกปรก คิดจะเอาทรัพย์ไปทำลาย ทรัพย์เลยหนีอยู่ที่ป่ากระชาย” หนีได้จริง ๆ นะ เราคิดจะขาย คิดจะทำลาย คิดจะเอาไปเล่นการพนัน ในที่สุดก็หนีไปจริง ๆ พอยายตายก็นำไปบำเพ็ญกุศล สวด ๗ วัน แล้วเก็บไว้ก่อน สองปีผ่านถึงจะทำศพ เวลาทำศพ มีโขน ละคร หนังใหญ่ ๒ วัน ๒ คืน ที่วัดศรัทธาภิรมย์ เรียกกันว่าวัดใหม่ศรัทธาราษฎร์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ที่วัดนี้มีปริศนาบอกไว้ว่า “วัดใหม่ไก่เตี้ยเหี้ยขึ้นไข่ อิฐไม่ให้ขัด วัดไม่ให้ขุด บริสุทธิ์จึงเอาได้” มีน้ำมันไป อาตมาเห็นชัดเมื่อเป็นเด็ก นี่แหละปริศนาของคนโบราณนะ ในที่สุดอยู่ที่ไหนรู้ไหม อยู่ที่ต้นมะม่วงไข่เหี้ย อยู่หน้าโบสถ์ ต้นใหญ่มาก มีมาแต่ครั้งไหนก็ไม่ทราบ น้ำมันไปอยู่ในโพรงต้นไม้นี้ คนโบราณนี้สมองดีเหลือเกิน บางคนมาขุดโบสถ์ ขุดวัดเขาไม่ให้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ลุงอาตมาบวชเป็นพระ ท่านบอกว่าขออธิษฐานให้พบแล้ว จะเอาคืนที่ ตอนนั้นอาตมายังเป็นเด็กเล็ก ๆ เลยท่านก็ได้ที่ต้นมะม่วงไก่เหี้ย แหม! คนโบราณนี่ลึกซึ้งเหลือเกินปัญญาสูง เวลาคนมาทำบุญท่านก็เอามาทาตา ทาให้อาตมาด้วย มองดูคนแล้วหัวเราะใหญ่เลย เพราะเห็นข้างในหมด นี่เล่าเรื่องเก่าให้โยมฟัง<O:p></O:p>
    <O:p</O:p

    ในที่สุดเอาศพยายเก็บเรียบร้อย ป้าเหลี่ยมก็เรียกอาตมาไปพบ แล้วบอกว่า “เออ! มานี่ซิ ข้าฝันว่าเอ็งจะลักขโมยเงินยายไปเล่นจริงไหม?” อาตมาก็นิ่ง พูดว่า “จริงจังอะไร” ป้าบอกว่า “ฝันอย่างนี้ อยู่ที่ป่ากระชาย ไปช่วยขุดหน่อยได้ไหม”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อาตมาก็ไปช่วยขุด ก่อนขุดอาตมาก็มอมป้าเสียก่อน ป้าชอบน้ำตาลเมา ชอบดื่มเหล้า เลยเอาน้ำตาลเมามาให้ป้าดื่มเสียเมา แล้วก็ไปขุด พบไหจริง ๆ อยู่ห่างจากเรือนไป ๕ วา ในป่ากระชาย ที่อาตมาเคยปลูกกับยายไว้ ขุดมาได้หมดเลยนะ ได้เงินได้ทอง อาตมาก็หิวไปบ้านป้า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ป้าก็บอกว่า “หลาน ป้าจะแบ่งให้เจ้าบ้าง เจ้าไม่น่าคิดสกปรก จะทำลายทรัพย์ยาย” ตอนนั้นป้ายังเมาอยู่ อาตมาก็ยักทองไว้ ยังไม่บอกป้า ทอง ๒ เส้น สร้อยข้อมือ แล้วก็ร่างแหอีกด้วย แต่เงินกลมเอาไปเถอะ ป้าก็เอาไป อาตมาจึงรักษาไว้ พอป้าหายเมาแล้ว อารมณ์ดี อาตมาก็บอกว่า<O:p</O:p
    “ป้า ไม่ใช่มีเฉพาะเท่านั้นนะ นี่สร้อยสายสะพาย ผมเป็นหลานนะ ผมดูแลยายมานะ ขอให้ผมเถอะ” ป้านิ่งอั้น อาตมาบอก “ขอป้าไม่ให้ก็ต้องเอา เพราะยักเอาไว้แล้ว” ป้าก็อโหสิกรรมให้ อาตมาก็เก็บไว้ ได้มีโอกาสสร้างโบสถ์วัดพรหมบุรี (ชื่อเก่าวัดกุฎีลอย) ขายสายสะพาย ๒ เส้น ๆ ละ ๘ บาท เป็นทุนสร้างโบสถ์อุทิศส่วนกุศลให้ยาย ที่วัดพรหมบุรีมาจนบัดนี้ นี่แสดงให้เห็นชัด ทรัพย์เคลื่อนที่ได้ ถ้าคิดไม่ดีนะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขอฝากลูกหลานไว้ด้วย เป็นเด็กอย่าคิดไม่ดีต่อพ่อแม่ปู่ย่าตายาย อย่าลักทรัพย์ ถ้าทรัพย์มีคุณสมบัติมันหนีได้จริง ๆ บางบ้านจนทรัพย์ก็หนีไปอยู่บ้านคนรวย คนรวยน้ำใจ รวยบุญรวยกุศล ทรัพย์เข้าบ้านนั้นหมด นี่ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ อาตมาถึงได้ว่า ทองมันลุก ลุกจริง ๆ นะ ลุกหนีไปเลยมันไม่อยู่หรอก บ้านไหนอัปรีย์จัญไร ด่ากันไม่พัก ทะเลาะไม่พัก ทรัพย์หนีหมด ลองดูนะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อาตมาขึ้นเรือนต้องล้างเท้าทุกครั้ง และต้องเดินค่อย ๆ ยายบอกอย่าเดินเรือนดัง กระทืบเท้า ทรัพย์มันจะหนี คุณสมบัติจะไม่มี อาตมาจำได้มาตั้งแต่เป็นเด็ก ๆ ขอฝากญาติโยมไว้ด้วย ทรัพย์หนีได้จริง ๆ ขอยืนยัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นี่ป้าก็ตายแล้ว ยังอยู่แต่อาตมาก็จะตายจากไป อาตมานึกดีใจมาได้ของดีที่หลัง ตอนบวชรักษาไว้จึงเอามาขายเอาเงินมาสร้างโบสถ์ให้ยาย ทรัพย์สมบัติจึงอยู่กับเรา ขายไปบาทละไม่เท่าไร ก็พอเป็นทุนซื้อเหล็กซื้อปูนสร้างโบสถ์วัดพรหมบุรี มาจนบัดนี้ เพราะอาศัยสร้อยสายสะพาย ๒ เส้น สร้อยข้อมือ ๒ เส้น และร่างแหอีก ก็คงจะได้บุญเยอะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นี่แหละขอเจริญพรญาติพี่น้องว่า คนมีคุณสมบัติถึงจะมีทรัพย์ คนไม่มีทรัพย์จึงไม่มีคุณสมบัติ คนมันจนเงินจึงไม่ไหลเข้าไปนะ ไหลเข้าไปก็ขายหมดน่ะซิ ไปเล่นการพนัน ดื่มเหล้าหมด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อาตมานี่แหละเล่นโยนหลุม ทอยกอง เล่นการพนัน เล่นชิ่วลัก แพ้เขาเรื่อย เงินทองยายก็หมด เลยทองมันหนีได้ แต่มานึกได้ว่าเป็นกุศลจะได้สร้างโบสถ์ ในที่สุดทองก็อยู่กับเรา ๒ เส้น จนได้มาบวชในพระศาสนา<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขอชี้แจงให้ญาติโยมได้ทราบว่า ทรัพย์มันเคลื่อนที่ได้ คนที่จนบุญทานไม่ทำ มันก็จนอย่างนี้ ทรัพย์ก็หนีไปหมด นี่แค่คิดว่าจะลักของยายเอาไปขาย หนีออกไปอยู่ป่ากระชายนะ กลวงโบ๋ออกไปเลย ไหเคลื่อนที่ได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คนก็เคลื่อนที่ได้นะ คนดีไปอยู่กับคนชั่วไม่ได้หรอก มันก็เคลื่อนย้าย คนชั่วไปอยู่กับคนดีเขาไม่ได้ คือลูกจ้างเดี๋ยวมันก็เคลื่อนย้ายของมันเอง ไม่ต้องไปไล่หรอก มันไม่มีคุณสมบัติ ไม่มีบุญวาสนาจะอยู่กับบ้านนั้น จึงเคลื่อนย้ายไปเองโดยอัตโนมัติ เหมือนทรัพย์สมบัติต้องเคลื่อนย้ายดังกล่าวแล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นี่เป็นกฎแห่งกรรม คิดจะลักเขา มันเป็นกฎแห่งกรรมนะ ทรัพย์เคลื่อนที่ ทรัพย์หนีได้ คุณสมบัติไม่มี คนที่ปากเป็นทรัพย์ พูดเงินไหลมาเลย คนที่ไม่มีคุณสมบัติทางปาก ปากไม่มีทรัพย์ ปากเป็นกาลกิณี พูดเสียเงินนะ พูดเสียเงินเสียทองตลอดรายการ ขอฝากไว้ด้วย<O:p</O:p

    ที่มา : โดย พระภาวนาวิสุทธิคุณ
    ภาคกฎแห่งกรรม เล่ม 4
    วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2010
  2. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
    คือ ต้องรวยน้ำจิต มีน้ำใจ รวยปัญญา ใช่มั้ยคะ

    ขออนุโมทนา สาธุค่ะ

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...