สมถกรรมฐาน-วิปัสสนากรรมฐาน หลวง พ่อเทียน จิตฺตสุโภ

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1>k.kwan (วันนี้)



</TD></TR><TR><TD class=alt2><CENTER>[ อานิสงค์การอนุโมทนา ] </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
เดี๋ยวนี้เชียร์เป็นอาชีพเลยนะคุณ

คุณ 5th lotus เธอทำผิด
คุณยังจะไปแก้แทนเธอ

อย่างนี้ผมว่าไม่เหมาะหรอก
คุณทำเหมือนกับว่า แยกความผิด ความถูก
ออกจากความรู้สึกไม่ได้

เฮ้อ...ทุกขัง นะ

 

เราอนุโมทนาให้ใคร มันทำให้คุณทุกขัง มากรึไง
เราจะทำอะไร ก็อยู่ที่วิจารณาญาณของเรา
เราว่าเราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนะ
ถ้าใครจะเดือดร้อนรำคาญใจ เพราะการกระทำของเรา
เราก็ไม่รู้จะช่วยยังไงนะ เราก็ทำตามกติกาของโลกเสรี ไม่ได้ไปตีหัวใครนี่นา
ใครเห็นต่างจากเรา เราก็ไม่ได้โกรธเคือง ทุกข์ร้อนอะไรกะใคร

ถ้าคุณเดือดร้อนจากการกระทำของเรา เราแนะนำให้นะ
ดูใจตัวตัวเอง ซะ

 

หลวงพ่อคำเขียนเป็นศิษย์หลวงพ่อเทียน ท่านยังมีชีวิตอยู่
หลวงพ่อเทียงละสังขารไปแล้ว มีลูกศิษย์เก่งๆ หลายท่านในสายนี้

น่าเสียดาย หลายคนมาทางแนวศรัทธา ทำให้ไม่ได้อะไร ซ้ำกลับวิ่งออกไปหาพวกมีฤทธิ์มีเดช ให้เขาทำนายว่าตัวเองเป็นพระอริยะหรือยัง ไม่ค่อยยอมช่วยตัวเองกันนะ ซะงั้น..

ส่วนคนจริง ทำจริง ย่อมได้ของจริงค่ะ อนุโมทนาค่ะ

:boo:

 

ง่า! อันนี้เหล่าฮูร้อนตัวนิดหน่อยน่ะ

ขอออกตัวเสียหน่อยนา ว่าไม่ได้เชียร์ใครส่งเดชร๊อก คือเห็นโน้มเอียงไปในทางแจกส่งเดชมากกว่า ทั้งนี้ ไม่รู้จักทั้งผู้แจกและผู้ได้รับแจกเป็นส่วนตัวนะ ทั้งไม่ได้อาฆาตชิงชังหรือลำเอียงใดๆ พอดีบังเอิญเคยจ๊ะเอ๋กระทู้แจกนี่แหละ ตามที่อ่านดูก็เห็นว่าบ้าบอคอแตก ลุแก่อำนาจ ประหนึ่งว่าสามารถให้คุณให้โทษผู้อื่นได้นี่โก้ และก็ไม่ต้องบังคับให้เห็นดีเห็นงามไปด้วยกับใคร เพราะพูดตามที่เห็นเท่านั้น
(รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ไม่ได้อคตินะ ทุกคนก็พลั้งเผลอได้ คนที่พลั้งเผลอต่างหากเป็นผู้รับวิบากกรรม ที่เผลออำนวยความไม่ยุติธรรมให้ผู้อื่น ส่วนเหล่าฮูเอง ที่หากจะได้รับความอยุติธรรม ก็เพราะคงเผลอไปอำนวยให้ผู้อื่นมาก่อน ก็เลยหยวนๆไงไม่โกรธกัน)

ทีนี้ที่ว่าคุณ 5th lotus ทำผิด พูดตามตรงก็เห็นมาจากต้นทางที่ว่านั่นแหละ เราก็เห็นๆกัน แต่ละคนคิดต่างๆกันไป ส่วนตัวไม่เห็นอย่างนั้นเท่านั้น เลยติงไปว่าพิจารณาให้ดี ดูแต่รูปตัวเหี้ยในกระทู้เดียวกันนี่ เขาแจกให้สามใบแดง ประหนึ่งเอาให้มันสาสมแก่ใจ ดูแล้วเหมือนคนพาลที่ลุแก่โทสะ ที่จริงมันก็แค่รูปตลกๆที่เอามากระเซ้าเย้าแหย่เพื่อนๆที่มาพูดทำนองตัวเหี้ยมันมากไปน่ะแหละ ครั้งก่อนก็ทีนึงแล้ว เห็นเค้าให้ใบแดงทั้งๆที่เขาโยงลิ๊งค์ให้อ่านไปที่เว็บอื่น และมันก็ไม่เห็นว่าไม่เหมาะสมยังไง ที่นุ่นเขาเองก็ไม่เห็นว่าอะไร เหล่าฮูก็เลยถามว่าไม่เหมาะสมยังไง แต่ไม่ตอบ(พอดีไม่ได้เซฟไว้ จะให้อ่านดูก็จะเข้าใจว่าทำไมคิดอย่างนั้น)ไม่ตอบเพราะ ตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ หรือไม่ซื่อ หรือพาล ทุกขัง เนอะ!
พอมาดูที่ปลายไม่สังเกตต้น ก็จะดูเหมือนเข้าข้างกันมั่วๆ ที่จริงถ้าพิจารณาดูดีๆ รู้สึกว่าวุฒิภาวะของคนทำหน้าที่คงไม่พร้อมเท่าไรน่ะ เลยว่าตามนั้น(พระพุทธเจ้าเคยเกิดเป็นตัว... ทุกคนก็รู้ว่า ก็มาจากชาดก ท่านเป็นผู้กล่าวเองด้วยซ้ำ ไม่เห็นแปลก แปลกแต่ว่าไปปรุงแต่งซะว่าไม่สมควร )

ทีนี้ที่ติงไป เขาจะว่าอย่างไรก็เรื่องของเขาน่ะ (ใครเชื่อว่านิพพานเป็นอัตตาก็เรื่องของเขา ใครจะว่าไปถวายข้าวให้พระพุทธเจ้าได้ก็เรื่องของเขา ใครแค่หลับตาก็เห็นสวรรค์วิมาน ก็เรื่องของเขา......ตถตาน่ะ) ก็เลยว่าตามอัธยาศัยแล้วกันถ้าเห็นว่าไม่สมควร แต่ก็เตือนให้รู้ไว้ เผื่อวันหนึ่งได้รับความอยุติธรรมใดๆขึ้นมา ก็จะได้ระลึกได้ ก็เท่านั้น(แต่เขาจะรู้รึเปล่าก็ไม่แน่นัก)
และไม่อยากต่อความยาวเท่าไร เขาจะตอบยังไง หรือไม่ตอบ ก็ขอให้เป็นไปตามเหตุปัจจัยน่ะ ถ้าเหล่าฮูลำเอียงเพราะฉันทาคติหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็ต้องรับผลใช่แมะ เช่นเดียวกับผู้ก่อเวรทั้งหลายเหมือนกัน ตัวครายตัวมันน่ะ ตามสบาย!

 

เนี่ย คุยเรื่องนี้ดีกว่า อาเต้าเจี้ยวพูดน่าฟังจินๆ สาธุสาธุนะ ขอให้เจริญๆในธรรม

 

อันนี้ขอบใจมั่กๆ ถูกใจจินๆเพราะไม่เคยเห็นเวอร์ชั่นนี้น่ะ

 

ผมคิดว่าเหล่าฮูคงอยากสนทนากับกรรมการเป็นการส่วนตัวกระมังครับ

กรรมการครับเห็นมั้ยครับ...........

 

ผมเช็ค rating ตัวเอง
ว่าจะมีใครอ่านโพสต์ของผมหรือเปล่า
บังเอิญ sampling ไปโดนคุณ ก็แค่นั้นเอง...ไม่มีอะไรมาก

แล้วถ้าผมไม่ดูใจผม ผมจะรู้ว่าผมทุกข์ได้ยังไงล่ะคุณ
ทุกข์มันอยู่ที่ผมเหรอ ที่ขนเหรอ ที่เล็บเหรอ ที่ฟันเหรอ หรือว่าที่หนัง
ทุกข์มันอยู่ที่ใจนี่ ถ้าไม่ดูใจจะรู้ได้เหรอว่าทุกข์ไม่ทุกข์

โลกทุกวันนี้ร้อนกันก็เพราะความคิดว่าโลกเสรีนี่ล่ะ
คำว่าเสรีนี่ต้องมีขอบเขตนะคุณ
ไม่อย่างนั้นโลกอยู่ไม่ได้ ต้องร้อนเป็นไฟอย่างที่เห็น

เห็นคนทำผิด แต่ไปแก้ต่างว่าคนทำผิดนั้น
ถึงแม้จะผิด ก็เป็นเรื่องที่ดี มีเหตุที่เหมาะสมรองรับการกระทำผิดนั้น
แล้วอย่างนี้คนทำผิด เมื่อทำผิดไปแล้ว
ก็หาเหตุผลมาแก้ต่างความผิดของตนเองไปเรื่อย ๆ สิคุณ
แล้วเมื่อไหร่เค้าได้กลับเนื้อกลับตัวทำความดีความถูกต้องซะทีล่ะคุณ

เห็นมั้ยคำว่ากติกาของโลกเสรี ของคุณ
มันทำให้โลกเสรีแห่งนี้มันดีขึ้นหรือมันแย่ลงล่ะ
พิจารณาสิ...

อย่างที่ท่านกล่าวว่า
คนพาลภายนอกคนพาลภายใน
การคบคนท่านให้เลือกคบ

การคบคนพาล ถึงแม้เราจะไม่ประพฤติตนเป็นพาล
แต่ก็เป็นผลเสียแก่เราอยู่ดี
เนื่องจากผู้อื่นก็จะมองเราเป็นคนพาลเช่นเดียวกัน
การได้รับการยอมรับในสังคมย่อมแตกต่างจากคนดี ๆ ทั่วไป
และสุดท้ายเราย่อมไม่สามารถหลีกการประพฤติพาลได้
เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ไม่สามารถอยู่ตัวคนเดียวได้
จำเป็นต้องกระทำ ตามหมู่ตามคณะอยู่ดี
แล้วคนพาลเค้าทำอะไรล่ะคุณ

ส่วนคนพาลภายใน
ก็ใจเรานี่ล่ะเป็นคนพาลเสียเอง
เมื่อเราเป็นคนพาลเสียเองแล้ว
การประพฤติปฏิบัติ ก็ประพฤติแบบคนพาล
แล้วผลที่ได้รับจากการประพฤติ ผมคงไม่ต้องบอก

เห็นมั้ยท่านจึงสอนให้คบแต่บัณฑิตนักปราชญ์
ส่วนคนพาลท่านไม่ให้คลุกคลี
ถ้าจำเป็นต้องเข้าไปใกล้ชิดกับเค้าบ้าง
ก็เพื่อเมตตาเค้าเท่านั้นล่ะ...

พิจารณาสิ...

แต่วันนี้ผมไม่ทุกขังนะ........

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><THEAD><TR><TD class=tcat> สมาชิก 3 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ k.kwan ในข้อความที่เขียนด้านบน </TD></TR></THEAD><TBODY id=collapseobj_post_thanks_3245540><TR><TD class=alt1><TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1>Tawee gibb (เมื่อวานนี้), เต้าเจี้ยว (เมื่อวานนี้), ไข่น้อย (เมื่อวานนี้)

</TD></TR><TR><TD class=alt2><CENTER>[ อานิสงค์การอนุโมทนา ] </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
โธ่...หัวอกเดียวกันเชียร์กันใหญ่.......
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คำโลกเสรีสำหรับเรา หมายถึง
การเคารพในความคิดของผู้อื่น
การไม่ตัดสินผู้อื่น ไม่ให้ร้ายผู้อื่น ไม่ล่วงเกินผู้อื่น

และสำหรับเราแล้ว
บัณฑิตคือผู้รู้ตัวเอง รู้ดีรู้ชั่ว ยอมรับความจริงของตนเอง โดยไม่เข้าข้างตนเอง
บัณฑิตคือผู้พิจารณาตรวจสอบความเลว ความพาล ของตนเองเป็นกิจวัตร เพื่อปรับปรุงตัวเอง
บัณฑิตคือผู้ไม่ว่าร้าย ไม่คิดร้าย ไม่มุ่งร้าย ไม่มีจิตคิดพยาบาทอาฆาตผู้อื่น

คนพาลหมายถึง ผู้ที่ไม่รู้จักตนเอง ทำดีก็หลงตัวเอง ทำชั่วก็ไม่รู้ตัวเอง
คนพาลหมายถึง เห็นผู้อื่นชั่วช้ากว่าตนเองอยู่เนืองๆ ตำหนิติเตียนผู้อื่นเป็นกิจวัตรโดยที่ไม่
เคยสำรวจการกระทำของตนเอง ป่าวประกาศความดีของตนเองแต่ชอบตำหนิกิริยาของผู้อื่น
เห็นผู้อื่นด้อยกว่าตนเป็นนิจ ยกตนข่มท่าน ประกาศเจตนาทำชั่วโดยไม่มีความละอายต่อบาป

 

เนี่ยนะ...พฤติกรรมของคนที่เรียกตนเองว่าเป็นบัณฑิตเป็นนักปราชญ์
และเรียกผู้อื่นที่เห็นต่างจากตนว่าคนพาล
เราก็ไม่รู้หรอกหนะ ว่าคนอื่นเขาเห็นโพสท์ของคุณ แล้วเขาคิดอย่างไร
แต่เราจะบอกความรู้สึกของเราให้ฟัง
เราสังเวชคุณ และเราไม่สงสารคุณ ดังนั้น เราจะหยุดเสวนากับคุณแล้ว
ส่วนคุณจะหยุดหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของคุณแล้ว คุณไม่มีตัวตนสำหรับเรา

 

อาจไม่ใช่อย่างที่คุณคิด อย่าพาลไปจะเสียการณ์ใหญ่
ขอให้คุณสติมาโดยเร็ว อยู่กับความนิ่งให้มากแล้วจะเห็นอะไรชัดขึ้น


เราชอบคนกล้า ไม่เล่นพวกหรอก (ไม่เห็นมีใครเป็นพวกเราเลย)
สังเกตซิ
เวลาใครแปะพุทธพจน์ ที่เขาชอบอนุโมทนากัน เรายังไม่อนุโมทนาเลย เพราะต้องดูเจตนาในการยกมาของเขาด้วย
แต่ต่อให้เขาพูดเอง สมแก่การพูด แม้นรู้เรื่องไม่ทั้งหมด เราก็ยังอนุโมทนา
(หมายถึงถ้าเข้าไปเห็น เพราะบางทีกระทู้หลายหน้า มาช้าก็ดูบ้างไม่ดูบ้าง หรือบางทีหายไปบ้าง)

:boo:

 

สาธุ สาธุ สาธุ พิจารณาแค่ตัวเรา ชอบแล้ว หากจะเกินไป ควรหยุดที่ตัวเองดีแล้ว

ไฟ ใช้หุงข้าวก็อร่อย แต่เอาตัวเข้ากองไฟ ไม่ดีแน่ มันร้อนจนเราอาจหายใจไม่ออก

"หยุดตรงนี้ที่เธอ ไม่ไปไกลแล้วใจ จะหยุดหัวใจไว้ที่เธอ " พิจารณา กายในกาย วิญญาญในวิญญาญ พิจารณาคนพาล ด้วยสัมมาทิฐิ และหยุดได้ที่ใจเรา อโหสิกรรม จะเบา

 

ง่า! เหล่าฮูโมทนากะเพื่อนเฉยๆในแง่เข้ามาอ่านและทักทายน่ะ ส่วนเห็นด้วยหรือไม่อีกเรื่อง คงไม่เหมือนที่โมทนากันส่วนใหญ่ คือก็แค่ทักทายเท่านั้น
โมทนากะคุณเตชเหมือนกันในแง่มิตรภาพ แต่ก็ไม่ได้เห็นด้วยทุกเรื่อง แต่ไม่อยากกดโมทนาเฉพาะที่ชักแรง ก็หยุด มันจึงไม่มีความหมายมากไปกว่าทักทายกันน่ะ คุณขันธ์ที่เคยเห็นเขามานานมากแต่ก็เพิ่งเคยคุยกัน(เกือบสิบปีแล้ว ฉันทะดีต่อเนื่องจริงๆ) พอเห็นก็โมทนาเหมือนกันน่ะ อย่าคิดมากเลยครับ

ส่วนการสนทนากับกรรมการเป็นการส่วนตัวนั้นคงไม่ต้องน่ะครับ เคยโดนมามั่งแล้วกรณีคล้ายกัน แต่ก็ไม่อยากเหมาเข่งอะไร ใครจะเจริญหรือเสื่อมก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยน่ะ คิดต่างระนาบกันก็ยากจะเข้าใจกัน ที่ติงไปก็แค่สะกิดให้เท่าทันความคิดกันน่ะ ถ้าไม่พยายามเท่าทัน ก็ไม่เอามาใส่ใจอะไรหรอกครับ เรื่องของเขาเอง (เหมือนที่ลาน...นุ่นก็ไม่ค่อยไปแล้ว เพราะไม่สัปปายะก็ไม่ไป ที่ไหนสัปปายะก็ไปบ่อย) ไม่เฮฮาที่นี่ ที่อื่นก็มีเยอะแยะน่ะ ที่ติงกันก็เพราะมาบ่อย ถึงได้เตือนให้พิจารณา เห็นเป็นคล้ายสังคมเดียวกันมีทั้งพาลและบัณฑิตคละเคล้ากัน คุณจะรู้ในปัญญาของแต่ละคน ก็จากสิ่งที่เขาพูดหรือทำ กรรมการทั้งหลายว่าไปอาจอายุคราวลูกคราวหลานก็มี สูงวัยก็มี รู้จักก็มี เหล่าฮูดูพฤติกรรมของเขาก็พอเข้าใจน่ะ แต่ไม่เอามาเป็นอารมณ์ร๊อก เพราะชอบสนุกมากกว่า จะคุยธรรมก็เป็นธรรมมะเฮฮา ไม่อยากเป็นธรรมมะหน้าบึ้งเหมือนที่เห็นๆกัน ทั้งก็ไม่ได้สูงส่งอะไร จึงวางตัวเป็นแค่เพื่อน เวลาคุยก็คุยแบบเพื่อนคุยกัน ไม่ค่อยวางตัวเป็นผู้รู้อะไร แม้บางเรื่องรู้มากกว่า แต่ฟังเพื่อนรุ่นน้องคุยก็ได้มุมมองที่ตัวเองไม่เคยเห็นหรือดูมาก่อน

ไปๆมาๆออกนอกประเด็น" สมถกรรมฐาน-วิปัสสนากรรมฐาน หลวง พ่อเทียน จิตฺตสุโภ "ไปไกลเลย ฟุ้งแยะไปละเห็นไม๊ พวกเราปีนต้นไม้กันให้สูงๆ จะได้เห็นกว้างขึ้นดีไม๊อ่า!

 

เนี่ย ไม่เคยรู้จักอาเต้าเจี้ยวนา เดี๋ยวจะว่าหนุนแต่พวกกัน ว่าไปแล้วในนี้ทุกคนก็พวกเดียวกันทั้งนั้นน่ะ ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา ตามตอแยปะทะคารมกันมั่ง เฮฮาดี
แต่เหล่าฮูชอบวิธีคิดอาเต้าเจี้ยว คมดีจ้า
สงสัยเคยปฎิบัติจากวัดอัมพวันมารึเป่าเนี่ย พูดคำพูดคุ้นๆให้ได้ยิน ดีจินๆ

 

ยกประโยคเด็ดมาแก้เกี้ยวหน่อย
อันนี้น่าฟังเหมือนกัน เหล่าฮูฝังใจเรื่องพาล-บัณฑิต เป็นกรณีพิเศษ ขนาดหาพาล-บัณฑิตสูตรไว้อ่านน่ะ เพื่อนๆมีทีเด็ดลองหามาแปะย่อๆให้อ่านกันคงดีไม่น้อย

 

อ้อ มีชื่อคุณ กิ๊บ อยู่ร่วมด้วย ไม่ได้สังเกต
กลายเป็นสามพี่น้องบีจี มาให้กำลังใจ กิ๊บคนสุดท้อง (แต่ตายก่อนคงเพราะแยกวง) โดยไม่ได้นัดหมาย

ไม่มีใครรู้จักเราค่ะ สันโดษมาก
สำนวนคุณกิ๊บ เหมือนผู้หญิงกลางคนใจดี (แต่เหล่าฮู นี่ผู้ชายหรือ?)
สำนวนเราเสียอีก ถ้าไม่ใส่ค่ะ มีแต่คนคิดว่าเป็นผู้ชาย

เคยตามเจ้านายไปวัดอัมพวัน ครั้งนึง ไม่กี่ชั่วโมง แต่รู้สึกน่ากลัวมาก เพราะเขาเดินจงกรมกันยาวนานตามคำบริกรรมอันยาวมาก
ไม่คิดว่า หลังจากนั้นอีกนานโข ได้ไปเข้ากรรมฐานที่ยุวพุทธฯ จะมีแบบฟอร์มเหมือนกันเลย แต่เป็นคนวางใจง่าย ใครทำอะไรได้ตรูก็ต้องทำให้ได้ (แต่วางใจสบายๆ นะคะ) ขัดใจแค่ไหนก็วางได้ พอใจแค่ไหนก็วางได้ แต่ที่ชอบมากๆ คือไม่ต้องพูด

คนเราถ้าพูดมาก จะเห็นจิตยาก เหมือนเอาน้ำไปเททิ้ง เทไปเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ คิดว่ายังไม่มาก
แต่คนไม่พูด เห็นจิตคิดตลอด เหมือนจะเอาน้ำไปเท แต่ยังไม่เท เลยเห็นว่ามีน้ำที่จะเท ว่ามากมายก่ายกองขนาดไหน

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

({)

 

ยินดีรู้จักครับ อาเต้าเจี้ยว สำนวนเหล่าฮูเหมือนผู้หญิงกลางคนใจดีได้ไงเนี่ย
งั้นไปฟังเสียงเหล่าฮูเส่ อุดหนุนหน่อย เรทติ้งกะลังตกน่ะ! ไหนๆก็รู้จักพี่น้องตระกูลกิ๊บเหมือนกัน

น่านไง ว่าแล้ว สำนวนคุ้นๆ
ยุวพุทธนี่ไม่เคยไป แต่ท่าจะสะดวกกว่าที่วัดมากเลย
ว่าแต่ ไม่ชอบเท่าไหร่น่ะ ที่วัดคนแยะไปหน่อย เนอะ!

คงเหมือนกับที่ยุวพุทธน่ะแหละ ไม่ได้บริกรรมอะไรยาวนานนะ หนักๆเข้าพอชำนาญก็ไม่บริกรรมอะไรร๊อก

 

ยุวพุทธฯ สะดวกมากมาย (แต่ที่ไปนานมาแล้วนะ ตอนนี้เป็นอย่างไรไม่ทราบค่ะ)
เราไปแล้ว จะตัดความวิตกกังวลไปทั้งหมด ทุกเรื่อง ทำให้การปฏิบัติก้าวหน้ามาก ทั้งที่ไม่ได้ทำตามอะไรเขาหรอก แต่ไม่บอกเขาเอง

ลิงค์ไปฟังเสียงแล้ว เขาว่าดังนี้ขอรับ

<TABLE border=0><TBODY><TR><TD>กดปุ่มเพื่อรับฟัง วิทยุพลังจิต </TD><TD><CENTER><EMBED src=http://palungjit.org/player.swf width=300 height=20 type=application/x-shockwave-flash embed < flashvars="file=http://122.155.0.189:8000/;stream.nsv&type=mp3" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" bgcolor="#f5f5f5"></CENTER></TD><TD></TD><TD>Player</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="70%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat>ข้อความจากบอร์ด</TD></TR><TR><TD class=panelsurround align=middle>

ค้นหาไม่พบ. กรุณาใช้คำอื่นในการค้นหา ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
แต่ฟังเสียงจากด้านบน ก็โอ... ค่ะ ท่าจะใจดี
แต่เสียงด้านบนมีทุกหน้าเลยนี่ซิ .. เสียงใครไม่รู้

:boo: