ไม่ได้มาอวดนะครับ แค่อยากบอกว่าผมเป็นพระอัครสาวกพระศรีอาริย์

ผมก็อยากจะอวดเหมือนกันครับ แต่ไม่รู้จะเอาอะไรมาอวดดี จนป่านนี้แล้วยังไม่เห็นเจอครูบาอาจารย์ท่านไหนมาทำนายให้ผมบ้างเลย ทำไมช่างวาสนาดีกันแท้ รู้อะไรล่วงหน้ากันไปหมด ผมมันคนบาปครับ เลยไม่รู้อะไรกับเขาสักอย่าง รู้อย่างเดียวแบบที่ไม่ต้องให้ใครมาทำนาย รู้ว่าปรารถนาพุทธภูมิอย่างมั่นคงและจะปฏิบัติอย่างคนเดียวแบบนี้ไปเรื่อยครับ คนที่ถูกทำนายมาแล้ว อย่าลืมปฏิบัติต่อไปนะครับ ทำลำพองใจเดี๋ยวตกม้าตายระหว่างทางนะครับ

 

ไปไหนกันหมดแล้วล่ะ หรือว่าไปเกิดใหม่กันแล้ว ในที่ที่ชอบ
มาแสดงภูมิธรรมกันต่อซิครับ

 

โอ้โห! บุญบารมีขนาดนี้กันเลยหรือ?

กราบเรียนท่านผู้มากด้วยบุญญาบารมีทุกท่าน
ช่วยแผ่เมตตา โปรดประเทศไทยด้วยเถิดครับ
อยากให้บ้านเมืองสงบสุขโดยไวในทุกพื้นที่
จะได้สร้างบุญบารมีเพิ่มขึ้นไปอีกไงครับ แต่ละท่านสุดยอดๆกันทั้งนั้น

 

สดับแล้วตรองจิต

จริง/ไม่จริงไม่ต้องเถียงกัน พี่เขาทำดีควรยกย่อง ดีกว่าพวกที่พูดดีแต่ไม่ทำมีแต่ทำคนอื่นเดือดร้อนทั้งกาย วาจา ใจ อันนี้ ไม่น่ายกย่อง ปัญญาญาณแต่ละท่านไม่เท่ากัน ฝึกณานซะจะได้รู้แจ้งเห็นจริง! ....อย่าพูดให้ร้าย อย่าพูดเสียดสี อย่าพูดโกหก...

 

1อสงไขยนับเป้นเวลาไม่ได้นะคับ มันมากกว่า1ล้านปีจ๊ะ ที่เขาพูดมาอะถูกแล้ว คุณควรไปศึกษาใหม่นะคับก่อนที่จาคิดที่จะพูด

 

.....ส่วผม ปรารถนาเป็นพระอรหันต์ในพระศาสนาพระพุทธโคดม ประเภทไหนก็ได้ ไม่รู้ว่าจะสำเร็จทันรึเปล่าไม่ทราบ

.....ขอถามแบบผู้โง่เขลาเบาปัญญาที่แน่นหนาด้วยอุปกิเลส ว่า ข้าน้อยนี้จำสำเร็จทันตามใจหวังรึไม่ วานผู้รู้ช่วยขานไข สาธุ สาธุ

 

พระพุทธเจ้าตรัสว่าถ้าไม่ละความเพียรเสียก่อน ย่อมพบนิพพานชาตินี้แน่นอน ลายละเอียดลองไปหาอ่านดูนะครับ รู้สึกว่ามีอยู่ในกระทู้หลักธรรมของหลวงปู่บุดดาครับ ขออนุโทนาด้วยครับขอให้พ้นพบพระนิพพานในชาตินี้ครับ

 

ทำนายกระผมมั้งนะครับ

 

จะปล่อยชีวิตเวียนว่ายไปตามกรรม หรือจะขึ้นมานำอยู่เหนือกระแส กรรมในปัจจุบันคือหลักประกันของชีวิตใหม่ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า

 

100ปีของมนุษย์ เท่ากับ คืนและวันหนึ่งของเทพชั้นดาวดึงส์ 30ราตรี เป็น 1เดือน 12เดือนเป็น 1ปี 1000ปีทิพย์ เป็นอายุของเทพชั้นดาวดึงส์ ​

 

มีรูปจักรที่มือและเท้าไหม ถ้ามีคุยกันได้

 

55 กระทู้สุดยอด ตั้งแต่ 2004 ช่างกล้าขุดมาอ่ะ

 

กระทู้นี้เป็นกระทู้เก่ามาก จขกท. คงไม่มาตอบแล้ว

ขอให้เพื่อนธรรมทั้งหลายที่มาถาม
กรุณาคลิกไปที่กระทู้แรก หน้า1
แล้วกรุณาดูวันเดือนปีที่ตั้งกระทู้
ท่านก็จะทราบว่า จขกท ไม่น่าจะมาตอบแล้วครับ
จึงควรวางคำถามสำหรับผู้ที่มาชมจะดีกว่าครับ
ขออนุโมทนาเพื่อนธรรมทุกท่าน

ด้วยความรักและปรารถนาดีตลอดไป
วสุธรรม

 

เข้ามางงข้างบนครับ T_T"

 

โมทนาด้วยครับผม (ขออภัยที่ไม่ได้อ่านริปต่างๆ เลยครับ)

หากถึงเวลานั้นกระผมยังไม่ถึงพระนิพพาน ก็ขอท่านช่วยโปรดเมตตากระผมด้วยนะครับ

 

ถามด้วยครับท่านพี่

พี่ดีจังเลยครับ คุณพี่เมตาผมด้วยนะครับ ช่วยแนะนำหน่อย อะไรก็ได้ หรือช่วยบอกแนะนำสิ่งไหนก็ได้ที่พี่คิดว่าช่วยสงเคราะห์ผมได้บ้าง ///คนมีกิเลส แต่ยังไงก็อยากไปเมืองแก้วกับเขาบ้างอยู่ดีครับ กระผม

 

.........................................

 

<TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">อย่าเชื่อ 10 ประการ (กาลามสูตร) </TD><TD class=buttonheading width="100%" align=right> </TD><TD class=buttonheading width="100%" align=right> </TD><TD class=buttonheading width="100%" align=right> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top>Written by Sharing Team1 </TD></TR><TR><TD class=createdate vAlign=top>Wednesday, 01 October 2008 12:04 </TD></TR><TR><TD vAlign=top>กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10 หมายถึง วิธีปฎิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักความเชื่อ ที่ตรัสไว้ในกาลามสูตร
1.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)
2.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสีบๆกันมา (มา ปรมฺปราย)
3.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย)
4.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)
5.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)
6.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)
7.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)
8.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)
9.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)
10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)
ต่อเมื่อใด รู้เข้าใจด้วยตนว่า ธรรมเหล่านั้น เป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น
สูตรนี้ในบาลีเรียกว่า เกสปุตติสูตร ที่ชื่อกาลามสูตร เพราะทรงแสดงแก่ชนเผ่ากาละมะ แห่งวรรณะกษัตริย์ ที่ชื่อเกสปุตติยสูตร เพราะพวกกาละมะนั้นเป็นชาวเกสปุตตะนิคม ในแคว้นโกศล ไม่ให้เชื่องมงายไร้เหตุผลตามหลัก 10 ข้อ
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">อย่าเชื่อ 10 ประการ (กาลามสูตร) </TD><TD class=buttonheading width="100%" align=right> </TD><TD class=buttonheading width="100%" align=right> </TD><TD class=buttonheading width="100%" align=right> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top>Written by Sharing Team1 </TD></TR><TR><TD class=createdate vAlign=top>Wednesday, 01 October 2008 12:04 </TD></TR><TR><TD vAlign=top>กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10 หมายถึง วิธีปฎิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักความเชื่อ ที่ตรัสไว้ในกาลามสูตร
1.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)
2.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสีบๆกันมา (มา ปรมฺปราย)
3.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย)
4.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)
5.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)
6.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)
7.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)
8.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)
9.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)
10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)
ต่อเมื่อใด รู้เข้าใจด้วยตนว่า ธรรมเหล่านั้น เป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น
สูตรนี้ในบาลีเรียกว่า เกสปุตติสูตร ที่ชื่อกาลามสูตร เพราะทรงแสดงแก่ชนเผ่ากาละมะ แห่งวรรณะกษัตริย์ ที่ชื่อเกสปุตติยสูตร เพราะพวกกาละมะนั้นเป็นชาวเกสปุตตะนิคม ในแคว้นโกศล ไม่ให้เชื่องมงายไร้เหตุผลตามหลัก 10 ข้อ
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">อย่าเชื่อ 10 ประการ (กาลามสูตร) </TD><TD class=buttonheading width="100%" align=right> </TD><TD class=buttonheading width="100%" align=right> </TD><TD class=buttonheading width="100%" align=right> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top>Written by Sharing Team1 </TD></TR><TR><TD class=createdate vAlign=top>Wednesday, 01 October 2008 12:04 </TD></TR><TR><TD vAlign=top>กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10 หมายถึง วิธีปฎิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักความเชื่อ ที่ตรัสไว้ในกาลามสูตร
1.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)
2.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสีบๆกันมา (มา ปรมฺปราย)
3.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย)
4.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)
5.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)
6.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)
7.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)
8.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)
9.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)
10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)
ต่อเมื่อใด รู้เข้าใจด้วยตนว่า ธรรมเหล่านั้น เป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น
สูตรนี้ในบาลีเรียกว่า เกสปุตติสูตร ที่ชื่อกาลามสูตร เพราะทรงแสดงแก่ชนเผ่ากาละมะ แห่งวรรณะกษัตริย์ ที่ชื่อเกสปุตติยสูตร เพราะพวกกาละมะนั้นเป็นชาวเกสปุตตะนิคม ในแคว้นโกศล ไม่ให้เชื่องมงายไร้เหตุผลตามหลัก 10 ข้อ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
กาลามสูตร
กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10 หมายถึง วิธีปฎิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักความเชื่อ ที่ตรัสไว้ในกาลามสูตร<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
1.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน) <o></o>
2.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสีบๆกันมา (มา ปรมฺปราย) <o></o>
3.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย) <o></o>
4.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน) <o></o>
5.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ) <o></o>
6.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ) <o></o>
7.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน) <o></o>
8.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา) <o></o>
9.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย) <o></o>
10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ) <o></o>
ต่อเมื่อใด รู้เข้าใจด้วยตนว่า ธรรมเหล่านั้น เป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น<o></o>
สูตรนี้ในบาลีเรียกว่า เกสปุตติสูตร ที่ชื่อกาลามสูตร เพราะทรงแสดงแก่ชนเผ่ากาละมะ แห่งวรรณะกษัตริย์ ที่ชื่อเกสปุตติยสูตร เพราะพวกกาละมะนั้นเป็นชาวเกสปุตตะนิคม ในแคว้นโกศล ไม่ให้เชื่องมงายไร้เหตุผลตามหลัก 10 ข้อ

 

แก้ซะหน่อยก็ดีนะครับ คล้าย ๆ ว่าจะใช้หน่วยผิดไป ที่ว่าอสงไขยอาจจะต้องคิดดูใหม่ เพราะว่าท่านก็มาตรัสรู้เป็นองค์ที่ห้าในกัปนี้ ซึ่งเรียกว่าภัทรกัป หากจำไม่ผิดมนุษย์จะอายุลดลงไปจนสิบปีก่อนแล้วก็จะขึ้นมาเรื่อย ๆ จนอสงไขยปี แล้วก็ลดมาอีกจนถึงแปดหมื่นปีนั่นแหละครับ แผ่นดินราบเรียบเท่ากัน ฝนตกทุกสิบห้าวัน ผู้คนหนาแน่นดุจอเวจีมหานรก ขี้เกียจพิมพ์

 

พูดไปก็เท่านั้น
คุณครับถ้าคุณเป็นอัครสาวกจริงคุณต้องเกิดยุคที่มีพระพุทธเจ้า พร้อมพระศรีอารย์
******แถมพระศรีอารย์ต้องระลึกชาติได้***
******และมีอภิญญา...***
***ท่านรู้ว่าคนชั่วเยอะ ท่านไม่ปากโป้ง(กลัวตาย)***
***ท่านไม่เกิดในช่วงที่มันไม่ดีและศาสนาใกล้ร่มหรอกครับ มันไม่สมกับกุศลที่ท่านได้บำเพ็ญท่านต้องโดนห้ามแน่ๆ (เอาเป็นว่าท่านต้องสบายครับ...)***
******ท่านต้องเป็นกษัตริย์หรือพราหม์แน่ๆ ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆครับ***
******ท่านมีศักดิ์เป็นศิษย์พี่ พระสมณะโคดม ท่านไม่เกิดใต้ร่มพระสมณะโคดมหรอกครับ***
***ท่านต้องเกิดในยุคที่มีพระพุทธเจ้าเท่านั้นครับ...***



ปล.งั้นทำไมพระพุทธเจ้าไม่พูดถึงพระอมิตตาพุทธแทนพระอวโลกิเตศวรละครับ
ปล๒.ผมเขียนได้เยอะกว่านี้ครับ ใครอยากรู้ก็โพสต์บอกละกันครับ