(คำถาม) ข้าพเจ้าปรารถนาบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า

ชื่อว่าดี ก็ให้ทำแต่ดี ปรารถนาดี ก็ต้องสะสมแต่ดี

ทุกสิ่งทุกสะสมอยู่ในดวงจิต เพื่อบ่มเพาะความดี

ขออนุโมทนา

 

กังวลมากไปรึเปล่าครับ
ปรารถนาพุทธภูมิก็คือปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคตเพื่อช่วย
เหลือสัตว์ให้พ้นทุกข์
มันจะเป็นวันนี้วันหน้าก็ช่างครับ ต้องคิดว่าถ้าไม่ละความปรารถนา ถึงเดินช้า
แต่ไม่หยุด อย่างไรก็ต้องถึงจุดหมายแน่ และไม่ต้องกังวลว่าความปรารถนา
พุทธภูมิจะหายไป ลองตั้งปรารถนามาก่อนต่อให้ลืมบ้างจำบ้าง แต่มันจะเข้า
วนเวียนในสมองอยู่เสมอ ไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่งเนืองๆ คล้ายๆ มีเชื้อ
ไม่เชื่อลองถามหลายๆคนดูก็ได้ ไม่ใช่ทุกคนที่นึกอยากเป็นพระพุทธเจ้า มีน้อย
คนด้วยซ้ำนะครับ

คนจะเป็นพระพุทธเจ้าต้องเข้าใจความทุกข์ทุกอย่าง ลองหาวิธีพ้นทุกข์แล้วทุก
อย่าง ช้ำชองและเข้าใจดี จึงจะสามารถเข้าใจผู้อื่น และแนะให้พ้นทุกข์ได้ เช่น
เราจะแนะนำคนอกหักให้คลายทุกข์ ก็ต้องเคยอกหักแบบนั้นมาก่อน รู้ว่ารู้สึกอย่างไร
คิดอย่างไร และทำอย่างไรจึงจะออกจากทุกข์นั้นไปได้ ลองผิดลองถูก หยิบหลักการ
สารพัดมาทดลองใช้จนแน่ใจแล้วว่าพ้นทุกข์จึงจะแนะนำคนอื่นได้

พุทธภูมิต้องบำเพ็ญนาน เพราะต้องรู้ทุกอย่าง ทั้งกรรมฐาน 40 วิปัสสนา 9 และรูปแบบความทุกข์ทุกอย่าง
รู้แล้วรู้อีกหลายรอบ เอาให้ละเอียดจริงๆ ถ้าปรารถนาจะทำแล้วทำให้ดี อย่าท้อ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ลาได้ครับ
ลาเสียแต่เนิ่นๆ เพราะหากปล่อยนานไป ความปรารถนาจะจับจิตมาก คลายยาก คนที่ปรารถนาพุทธภูมิมานาน
หลายคนลาพุทธภูมิ แต่ลาไม่ขาด ลาแล้วก็กลัวมาอยากใหม่ ตัดใจไม่ขาด มันก็กระท่อนกระแท่นเป็นพระพุทธเจ้าจนได้

การจะรู้ว่าตนได้รับพุทธพยากรณ์แล้วหรือยัง มีผู้เดียวที่บอกได้คือพระพุทธเจ้า ต้องอาศัยการฝึกสมาธิถาม หรือบางที
อาจมีนิมิตบอกให้รู้ บางคนก็ใช้วิธีเสี่ยงทาย แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัว มั่นใจเฉพาะตัว แนะนำตายตัวไม่ได้ครับ
ผมว่าอย่าสนใจดีกว่าว่าได้รับพุทธพยากรณ์หรือยัง ที่สำคัญคือตัวเราเองอยากเป็นพระพุทธเจ้าหรือไม่ ถ้าอยากเป็นก็ลุย
ไม่อยากเป็นก็เลิก ไม่เสียหายน่าอายอะไรหรอกครับ

ส่วนเรื่องที่ตอนนี้ยังปฏิบัติได้ไม่ดี อันนี้อย่าเพิ่งเครียดเกินไป มันไม่ดีก็ทำเรื่อยๆ ให้มันดีขึ้น เราอาจยังไม่ถึงเวลา
บุญยังไม่ส่งผล หรืออาจเป็นผู้ปฏิบัติขั้นต้น เรายังไม่ดีก็ยอมรับว่ายังไม่ดี จุดสำคัญไม่ใช่ว่าตอนนี้ดีหรือไม่ดี แต่อยู่
ที่พัฒนาตัวเองไม่หยุด สู้ไม่ถอย ถึงแพ้บ้างชนะบ้าง โดยรวมก็ให้มันดีขึ้นๆ ก็แล้วกัน การทำจิตให้ดีขึ้นๆ นี้เรียกว่าบารมี
ก็ได้นะครับ เพราะบารมีก็คือกำลังใจ การเอาชนะกำลังใจตนเองให้ยิ่งๆ ขึ้นไป จากทำไม่ได้กลายเป็นทำได้ จากทำได้ไม่ดี
กลายเป็นทำได้ดีขึ้น อย่างนี้เรียกได้ว่ากำลังสั่งสมบารมีให้ดีขึ้น อย่าท้อนะครับ สู้ไม่ถอยอย่างไรก็ไม่แพ้

 

ขออนุโมทนา สาธุ ครับ

ทุกสิ่งทุกอย่างสำคัญอยู่ที่จิตใจ ขอให้มีความมั่นคงไม่แปรเปลี่ยน

ผมว่าต้องมีสักวันที่สำเร็จ เพราะน้ำหยดลงหิน หินมันยังกร่อน

ขอเป็นกำลังให้นะครับ

 

พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ท่านก็เริ่มจากมีความเมตตาสงสารสรรพสัตว์ อยากให้สัตว์ทั้งหลายพ้นจากความทุกข์
ในอดีตคุณkodyhusky ก็อาจเคยปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้ามาแล้วก็ได้ ในตอนนี้จึงมีความคิดเช่นนี้อีก
หรือไม่ ในชาตินี้อาจจะเป็นชาติแรกที่ตั้งความปรารถนาก็ได้ ใครจะไปรู้

ในเมื่อเราไม่รู้ทั้งอดีตและอนาคต ในปัจจุบันก็พยายามบำเพ็ญบารมีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะทำได้หรือไม่ก็อยู่ที่คุณจะเลือก

ผมขออนุโมทนากับคุณkodyhusky ด้วยครับ

 

ผมปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเช่นกันครับ แต่ไม่เก็บไว้ในใจแล้วครับ วันนี้เมื่อทำบุญ ไหว้พระ สวดมนต์ จะบอกออกไปเลยครับว่าผมปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ไม่คิดอายใครไม่กลัวว่าคนอื่นจะว่าผมเป็นบ้า จะมีคนอยู่ในที่นั้นมากน้อยไม่สนใจ จะมองผมแปลกๆหรือนั่งซุบซิบวิจารณ์ผมไม่สน ผมรู้ว่าผมปรารถนาสิ่งนี้ทำทุกสิ่งในวันนี้เพื่อสิ่งนี้ ในเมื่อคุณปรารถนาเส้นทางสายนี้ ต้องไม่กลัวทีจะทำ ลองผิดลองถูกลองไปให้หมด เดินไปทีละก้าว อย่าวิ่งไปด้วยความทะยานอยาก หนทางสายนี้ไกลจนสุดประมาณ เดินไปครับเดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็นั่งพักบ้าง ขอเพียงมุ่งมั่นไว้ตลอด ความทุกข์ทรมานและระยะเวลาไม่ใช่อุปสรรคครับ

 

การเป็นพระโพธิสัตว์ เท่าที่จะนึกออกในตอนนี้ก็ต้อง 1.ปัญญา 2.ศรัทธา 3.ความเพียร 4.จิต และ 5.พรหมวิหารสี่ ท่านอื่นเชิญเสริมนะครับ

 

อนุโมทนาค่ะกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญสั่งสมบารมีไปเรื่อยๆทุกอย่างเป็นไปตามเหตุสาธุค่ะ

 

อนุโมทนา สาธุ ครับผม ^^

มีช่วงหนึ่งเหมือนกัน ที่ผมเครียดเรื่องพุทธพยากรณ์ค่อนข้างจะ มากหน่อยละมั้งนะ เพราะตอนนั้นก็จะว่าเครียดมันก็ไม่ใช่นา
แต่ตอนหลังก็มานึกได้เอง ว่ารู้หรือไม่รู้ ก็ไม่รู้จะสนไปทำไม หมั่นสร้างบารมีตามที่เราอยากทำดีกว่า
เพราะเอาเข้าจริงๆ รู้หรือไม่ เราก็บำเพ็ญบารมีต่อไปอยู่ดี ใช่ว่าโดนเขาทักว่า ยังไม่ได้พุทธพยากรณ์แล้วจะล้มเลิกบำเพ็ญบารมีเสียหน่อย
ยิ่งปัจจุบันไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็ไม่มีใครจะพยากรณ์เรื่องนี้ให้เราได้หรอก
ผมเคยลองคิดเล่นๆดูล่ะนะ ว่าถ้ามีพระภิกษุพยากรณ์ให้ว่าได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว ผมก็คงไม่เชื่อเท่าไหร่หรอกครับ ก็คลางแคลงใจต่อไป
แล้วถ้ามีมาบอกว่า ยังไม่ได้ัรับ ผมก็ยังคงพยายามบำเพ็ญบารมีต่อไปล่ะครับ ไม่เลิกหรอก ฮะๆ

การบำเพ็ญบารมีเพื่อโพธิญาณเป็นเรื่องยาวนานครับ ประมาณว่า ไม่เห็นปลายทางเลย ว่าเมื่อไหร่จะสำเร็จ
แต่ผมก็ถือสุภาษิตอย่างหนึ่งนะครับ ว่า "ปีนเขา อย่ามองยอดเขา" คือ "การทำงานที่ยาวนานใดๆก็ตาม อย่าได้มองถึงผลปลายทาง"
มองเท้า(มองแค่วันนี้)อาจจะทำให้ไปถึงปลายทางได้ดีกว่านะครับ ^^

ก็พยายามอธิฐานต่อไปเป็นประจำล่ะครับ ผมก็อธิฐานทุกครั้งที่สวดมนต์ก่อนนอนล่ะนะครับ "ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำในครั้งนี้ จงเป็นปัจจัยสู่โพธิญาณให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด" แต่เห็นว่ามีอธิฐานขอให้ตัวเองมีจิตใจมั่นคงต่อโพธิญาณ สงสัยต้องอธิฐานแบบนี้เพิ่มแล้วสิ ^^

ก็ พยายามบอกตัวเองไว้นะครับว่า "จงอย่าท้อแท้ จงอย่าหันหลังกลับ จงเดินหน้าต่อไปตามที่ตนปรารถนา"

 

อย่างที่ท่านทั้งหลายเคยถาม นะครับ ว่าผมอยากเป็นแบบไหน

ผมอยากเป็น แบบที่ช่วยเหลือผู้อื่นได้ ทั้งมนุษย์ สัตว์ สุนัข แมว อะไรก็แล้วแต่

ที่มองไม่เห็น หรือ มองเห็น ก็ตาม ก็จะช่วยให้พ้นทุกข์ หมดกิเลส

ผมขอแค่นี้ก็พอแล้วครับ ไปนิพพานก็ได้ช่วยแค่ชาตินี้ ชาติต่อๆ ไป ทั้ง สัตว์โลกก็มากขึ้น

แล้วผมจึงอยากช่วยเขา ต่อไป

 

ขอโทษนะครับคือว่าที่คุณฟางว่านจะบอกใช่
อินทรีย์ ๕
ประกอบด้วย 1.ศรัทธา 2.วิริยะ 3.สติ 4.สมาธิ 5.ปัญญารึป่าว

 

เป็นกำลังใจให้นะครับ

 

ถูกต้องน่ะคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

 

อนุโมทนาด้วยครับ
อยากเป็นพระพุทธเจ้าต้องถามวิธีจากพระพุทธเจ้าครับ
(อยากจะเรียนวิชาสาขาไหนต้องถามผู้ที่เรียนจบสาขานั้น)
พระพุทธเจ้าตรัสอธิบายวิธีไว้อย่างละเอียด
อยู่ในพระไตรปิฎกครับ
อ่านพระไตรปิฎกอย่างละเอียดๆครับ
จะถือเป็นความเพียรที่ต้องทำข้อแรกก็ว่าได้

 

ผมก้อเหมือนกันนะครับ
ตอนแรกไม่รู้ว่าปราถนาพุทธภูมิ มารู้ที่หลัง ตอนนี้ผมใช้คำอธิษฐานนี้ต่อหน้ารูปพระพูทธเจ้า
นะโม 3 จบ
ข้าพระพุทธเจ้า นาย___ นามสกุล___ ขอตั้งจิตระลึกถึงพระพทธเจ้าทั้ง 3 กาลเป็นประธาน สิ่งศักสิทธิทุกรูป ทุกนามเป็นประน ขอตั้งจิตอธิษฐาน บำเพ็ญบารมีเพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ผู้มี ปัญญา / ศรัทธา มาก ขอให้ดวงจิตของลูกนี้มุ่งตรงต่อพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาน และไม่สามารถถอนจากพุทธภูมิได้ไม่ว่าชาติไหน ๆ ถ้าแม้นมีเหตุการณ์ใดทำให้ข้าพเจ้ามีดวงจิต คลอนแคลน แล้วไซร็ ขอพระพุทธองทุกๆพระองค์ ใน 3 กาล จงช่วยดลใจข้าพเจ้า มีดวงจิตตั้งมั่นในโพธิ๋ญานด้วย
===================================
ไม่ต้องคิดมาก เหมือนกับการเรียนหนังสือ ที่ตอนนี้เราเพิ่งเริ่มอนุบาล และ ปราถนา จะจบ Doctor ถึงแม้หนทางอยากลำบาก ขอให้ดวงจิตเรามั่นพอ ถึงแน่นอนครับ อยู่กับปัจจุบัน ชาติปัจจุบัน ทำหน้าที่ปัจจุบันให้ถึงพร้อม ทำเหตุให้ตรงต่อพระโพธิญาน ทุกรูป ทุกนาม ต้องถึงแน่นอน แล้ว ผมจะตามไปเป็นกำลังใจให้ทุกภพ ทุกชาติ ที่เราเกิดร่วมกัน นะครับ
มังกรฟ้า ฟ้าประทาน

 

1.อธิษฐานเอาไว้ครับ ทำบุญอะไรจะมากหรือจะน้อยให้อธิษฐานเอาไว้
"ด้วยบุญนี้ขอให้ข้าพเจ้าสำเร็จโพธิญาณโดยเร็ว" อธิษฐานไปเลย

2.ตามข้อหนึ่งเลยครับ

3.หลวงตาม้าเคยบอกผมได้ใจความว่า คนที่เขาได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว
เขาไม่มัวมานั่งสนใจหรอกว่าเขาได้รับแล้วหรือยัง เขาคิดตัวเป็นเกลียว
หัวเป็นน็อต ว่าจะทำอย่างไรกับสัตว์โลก เพียงเท่านี้น่าจะพอดูออกนะครับ

4.อธิษฐานเอาไว้ครับ ทำบุญอะไรก็อธิษฐานเพื่อพระโพธิญาณอย่างเดียว

 

ทุกวันนี้ สัตว์ ทั้งหลายก็มาคอยผมหน้าบ้าน ไม่รู้จะให้อะไรดีแผ่เมตตา แต่ก็ไม่ช่วยให้มันอิ่มท้อง ตั้งใจให้มันไปเกิดในที่ดีกว่านี้ เลยเปิดเพลงสวดมนต์ให้มันฟังจิตจะได้เกาะไปเกิดในภพที่ดี ผมทำแต่แค่นี้ สอนธรรมให้เขา เขาไม่เข้าใจ ก็ให้เขาฟังเถิด

ส่วนพวกที่ต่ำลงไปอีก ผมก็ได้แค่แผ่เมตตาเท่านั้น ใครมีวิธีช่วยเขาได้อีกก้บอกกันด้วยนะครับ
จะได้เอาไปช่วยพวกเขาให้พ้นจากภพภูมิที่ไม่ดีทั้งหลาย

 

ตอบยังไงดีล่ะ เอางี้สิ
จะรู้ด้วยตัวเอง ลองทำอารมณ์ใจ ละโลกให้ได้ (สังขารุเบกขาญาณ)
แล้วจะรู้ตัวเอง เอง (ปัจจัตตัง) ว่าควรจะทำอย่างไรต่อดี
จะไปต่อไป หรือว่า จะจบชาตินี้
หลวงพ่อฤาษีท่านก็บอกไว้ชัดแล้ว
ว่าไม่ต้องกลัวอารมณ์พุทธภูมิจะหายหรอก ถ้าจะทำจิตถึงพระนิพพาน
ถ้าจิต ไม่หวังนิพพานแล้ว ก้ยังไม่รู้จักความสำคัญของพุทธภูมิ

สรุป
ลองหาครูบาอาจารย์ ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แล้วปฏิบัติ ตามท่าน
แล้วก็จะรู้เอง ว่าควรทำอะไร บอกกันไม่ได้เรื่องแบบนี้ นะครับ^^