มาวิเคราะห์คำทำนาย จากภัยธรรมชาติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 3 กรกฎาคม 2006.

  1. อวทม45

    อวทม45 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,832
  2. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    อินโดนีเซียยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟตาลัง

    นักวิทยาศาสตร์ยกระดับการเตือนภัยภูเขาไฟที่เกาะสุมาตรา หลังพบแนวโน้มที่จะคุกรุ่นรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ได้ยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟตาลัง ทางตะวันตกของเกาะสุมาตรา เป็นระดับสูงสุดอันดับที่ 2 หลังพบว่าเริ่มส่งสัญญาณเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้น และเริ่มปล่อยกลุ่มก๊าซออกมาแล้ว ทว่ายังไม่ปล่อยเถ้าถ่านหรือลาวา ลงมาตามไหล่เขา และแม้ว่าอาจเกิดการปะทุครั้งใหญ่ แต่ก็เชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้
    วันนี้ ภูเขาไฟตาลัง ซึ่งสูงกว่า 2,800 เมตร เริ่มปล่อยกลุ่มควันสีน้ำตาลพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า แต่ไม่มีรายงานประชาชนในเมืองหรือหมู่บ้านใกล้เคียงได้รับอันตราย ซึ่งถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้อพยพผู้คนกว่า 43,000 คน ในพื้นที่เสี่ยงภัย แต่ก็ได้ขอร้องให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวอยู่ห่างจากแนวไหล่เขา
    ภูเขาไฟตาลัง ตั้งอยู่ที่เมืองโซลก ในจังหวัดสุมาตราตะวันตก ห่างจากกรุงจาการ์ตา ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 900 กิโลเมตร และเป็นหนึ่งในภูเขาไฟกว่า 129 แห่ง ที่ยังไม่มอดสนิท เมื่อปีก่อนภูเขาไฟตาลัง เคยเกิดการปะทุระดับเบาบาง ทำให้ทางการต้องอพยพประชาชนกว่า 25,000 คน เนื่องจากเกรงว่าภูเขาไฟอาจเกิดการปะทุต่อเนื่อง
     
  3. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    Talang, Sumatra, Indonesia

    Location: 1.0S, 100.7E
    Elevation: 2,896 m


    [​IMG]
    Talang is a stratovolcano with 8 confirmed eruptions between 1833 and 1968. The volcano may have had a phreatic eruption in 1986 but the activity has not been confirmed. Most of the eruptions are moderate in size (VEI=2) and explosive. Eruptions in 1833, 1843, 1845, and 1876 were from flank vents. An eruption in 1967 and two different eruptions in 1968 were from radial fissures. The distance from the city of Padang to Talang is about 35 km. Image courtesy of the Landsat Pathfinder Project.
     
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    Indonesia has the most active volcanoes in the world.

    [SIZE=-1]Volcanoes of Indonesia[/SIZE]<CENTER><TABLE width=783 bgColor=#ffffcc border=1><TBODY><TR><TD vAlign=top width="25%">[SIZE=-1]Sumatra[/SIZE] </TD><TD vAlign=top width="25%">[SIZE=-1]West Java[/SIZE]
    [SIZE=-1]Central Java[/SIZE]
    [SIZE=-1]East Java[/SIZE] </TD><TD vAlign=top width="25%">[SIZE=-1]Lesser Sunda Islands[/SIZE]
    [SIZE=-1]Sulawesi[/SIZE] </TD><TD vAlign=top width="25%">[SIZE=-1]Banda Sea[/SIZE]
    [SIZE=-1]Sangihe Islands[/SIZE]
    [SIZE=-1]Halmahera[/SIZE] [SIZE=-1] [/SIZE]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กระบวนการเปิดเหมืองเริ่มแล้ว!!!

    ผมขออนุญาตนำข้อความของคุณ CLUB CHAY ในกระทู้รวบรวมรายชื่อสถานที่หลบภัยฯ มาลงนะครับ เพราะเกี่ยวกับเรื่องพระศรีอาริย์ มีข้อความน่าสนใจดังนี้ครับ

    ตอนนี้ขอบอกว่ากระบวนการเปิดเหมือง(ทองคำ) ของพระศรีอาริย์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วครับ จากตำนานและจากที่ครูบาอาจารย์ได้บอกว่าเหมืองของพระศรีอาริย์จะปรากฏที่ภาคเหนือของไทยนั้น ตอนนี้ขอให้สังเกตดูปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ที่ภาคเหนือครับ มีน้ำท่วมเกิดขึ้นบนดอย ที่ผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่าตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยเห็น ก็เพราะว่าจะทำให้เกิดการพังทลายของหน้าดินและจะเปิดเผยให้เห็นเหมืองทองคำที่ซ่อนอยู่ยังงัยครับ และตอนนี้ผู้ที่เป็นใหญ่ในบ้านเมืองก็คงรู้แล้ว เพราะเมื่อวานมีข่าวว่าชาวบ้านแถวจังหวัดทางภาคเหนือ ได้พบเห็นขบวนรถถังและรถหุ้มเกราะของกองทัพมากกว่า 30 คันเคลื่อนที่ไปไหนไม่ทราบ!!!

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    คำทำนายในคัมภีร์ไบเบิล ที่เกี่ยวกับ ไทย

    Thailand - 4 Elul" codes
    http://exodus2006.com/Vrej/Thai.htm

    A sound of terrors is in his ears : in prosperity the destroyer shall come upon him.

    ตีความได้ว่า ผู้เขียน ใช้คำว่า "him" แทนคำว่า "Thailand" หรือหมายถึงประเทศไทยนั่นเอง

    ส่วน terror แปลว่า ความน่าเกรงขาม แต่เติม s ด้วย จึงหมายถึง มีความน่าเกรงขาม (น่ากลัว) หลายอย่าง

    prosperity = ความมั่งคั่ง

    เพราะฉะนั้น ประโยคข้างบน จึงแปลได้ว่า "ประเทศไทยจะได้ยินเสียงแห่งความน่าเกรงขามที่หูของเขา : และเพราะความมั่งคั่งจะทำให้มีพวกทำลาย (destroyer) มายังประเทศไทย
    "

    ตีความได้ว่า : "ในอนาคตคนในประเทศไทยจะต้องพบกับความสพรึงกลัว หลังจากที่ประเทศไทยพบกับความมั่งคั่ง (ในอนาคตไทยจะเจอทองคำ น้ำมัน เพชรนิลจินดามากมาย เรียกได้ว่ามีทรัพยากรธรรมชาติผุดขึ้นมาให้เห็นมากมาย แล้วต่างชาติก็จะส่งกองทหารเข้ามายึดเอาเป็นของตนเอง
    "

    คำทำนายนี้บังเอิญสอดคล้องกับคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำด้วย
    !

    ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม
    2549

    ผู้แสดงความคิดเห็น ปั้น (
    tanakorn_world@yahoo.com ) วันที่ 02-11-2005 10:43:00

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    คำทำนายเรื่องภูเขาทองคำ จากศาสนาอิสลาม

    ท่านรซูลของอัลลอฮ ได้กล่าวไว้ว่า

    อบูฮุรอยเราะฮ รายงานว่า **ชั่วโมงสุดท้ายจะยังไม่มาถึง จนกว่า ยูเฟรติส จะเปิดเผยให้เห็น ภูเขาทองคำ ..อันจะทำให้ผู้คนต่อสู้กัน เก้าสิบเก้าในร้อยคนของพวกเขาจะถูกสังหาร แต่ทุกคนในหมู่พวกเขาจะกล่าวว่า.. บางทีฉันอาจเป็นคนหนี่งที่หนีรอดไปได้
    **โดย มุสลิม**

    คัดลอกมาจาก http://www.muslimthai.com/board/sho...f21780e19e792d7

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑


    ขุมทรัพย์ทั้ง 4 ในตำนานพระศรีอาริย์ (โดยรหัสยญาณ)

    เมื่อปรากฏภัย ๑๐ ประการ

    1.
    ราชภัย ท้าวพระยาจะบังคับเบียดเบียนพลเมือง
    2.
    โจรภัย จะบังเกิดโจรผู้ร้ายปล้นสะดมทั่วไป
    3.
    อัคคีภัย ไฟจะไหม้บ้านเมืองไม่ขาดสาย
    4.
    อสุนีบาต ฟ้าจะผ่าสัตว์และคนล้มตายบ่อย ๆ
    5.
    เมทนีภัย แผ่นดินจะไหวสะท้านและแยกออกจากกัน
    6.
    วาตภัย จะเกิดลมพายุพัดพาบ้านเมืองพินาศ
    7.
    อุทกภัย น้ำท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา
    8.
    ทุพภิกขภัย จะเกิดข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร
    9.
    พยาธิภัย จะเกิดโรคระบาดคนและสัตว์ล้มตาย
    10.
    สัตถภัย จะรบราฆ่าฟันกันล้มตายร้ายแรง

    หนาแน่นขึ้นก็จะปรากฏผู้เฒ่าผมขาวหนวดเครายาวขี่ม้าขาวเหาะลอยมายังท่ามกลางเมืองเชียงใหม่ นั่นคือองสมเด็จพระศรีอาริย เมตไตรยมาปรากฏเป็นที่พึ่งแก่โลกแล้ว อย่าสงสัยเลย

    หลังจากนั้นไม่นานขุมทรัพย์ทั้ง 4 ของพระศรีอาริย์ก็จะปรากฎเกิดขึ้นในสุวรรณภูมิ ระหว่างเชียงราย ฝาง เชียงใหม่ ลำพูน เพราะขุมทรัพย์อันมหาศาล คือแก้วแหวนเงินทองจะระเบิดออกในภาคเหนือของประเทศไทย ดอยเงินดอยคำและเพชรนิลจินดาจะแตกออกทั้งลูกดอย และจะมีหลายลูกด้วยกัน กองทัพจะเข้าแย่งชิงสมบัติเหล่านี้ มืดมัวไปทั้งสี่ทิศ ทหารของชาติต่างๆ จะล้มตายไปถึง 3 ใน 4 ส่วน คงเหลืออยู่เพียงส่วนเดียวเลือดจะไหลนองเป็นห้วยน้อย จนถึงกับพวกหนูต้องว่ายข้ามต่างก็จะยิงกันจนเหลวแหลก เพราะโลภตัณหา จะรบกันถึง 7 ชาติ แต่ขุนศึกสำคัญนั้นมี 3 คน คือ

    1.
    พญาลายตีนเป็นกงจักร
    2.
    พญาแขนสั้นราว (คืนแขนสั้นข้างยาวข้าง)
    3.
    พญาลิ้นกาฬ (ลิ้นดำ)

    ในตำนานพระศรีอาริย์จุติ ซึ่งพระอิศวรผู้เป็นเจ้าไปนิมนต์มาเกิดนั้นกล่าวไว้เป็นปัญหาว่า"ฤทธิ์เดชของพระยาแขนสั้นยาวนั้นมากมายเหลือหลาย เหล็กกลม 7 กำยาว 4 ศอก นั่งหย่องเยาะ เอามือซ้ายขว้างไปไกลได้ถึง 7 - 8 ไร่นา" ผู้เขียนขอวิจารณ์ว่า "เหล็กกว้าง 7 กำยาว 4 ศอกนั้นคงไม่ใช่เหล็กธรรมดา คงเป็นลูกระเบิดขนาดใหญ่นั่นเอง" แก้วแหวนเงินทองนั้นใครๆ ก็อยากได้ด้วยกันทุกคน ถ้ามันมีมากขนาดเท่าภูเขาเลากา และมันเกิดประเทศใด ประเทศนั้นก็ต้องตกเป็นจุดยุทธศาสตร์ขนาดล้างโลก และนั่นก็เป็นวันตัดสินโลก(Doomsday) ได้มาถึงแล้วโดยไม่มีปัญหา

    แหล่งที่มา หนังสือพระศรีอาริย์เจ้าโลก โดยรหัสยญาณ สำนักพิมพ์ลานอโศกเพรสกรุ๊ป โรงพิมพ์สหธรรมิก)

     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แม่น้ำโขงคือยูเฟรติส ในคำทำนายจริงหรือไม่???

    ผมขออนุญาตนำข้อความของ คุณหนุมาน ผู้นำสาร มาลงในกระทู้นี้นะครับเพราะคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องขุมทรัพย์ของพระศรีอาริย์ด้วย ข้อความมีดังนี้ครับ

    *******
    แม่น้ำโขง
    *******

    ภาคเหนือ...แม่น้ำโขง จะสร้างอันตรายและภัยพิบัติ
    ถ้ามีฝนตกหนักทางตะวันตกของจีน
    แม่น้ำที่จะรองรับน้ำได้ ๑ ในนั้นคือ แม่น้ำโขง
    น้ำปริมาณมากจะไหลลงมาตามลำน้ำโขง

    บริเวณเหนือสุดที่ติดกับแม่โขงบริเวณเชียงแสน เชียงของ
    จะมีน้ำทะลักเข้าแผ่นดินไทย เกิดน้ำวนขนาดใหญ่...
    ดิน หิน ภูเขาจะหลุดทะลายไปตามกระแสน้ำ
    ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกขุดรากถอนโคนไปตามกระแสน้ำ
    น้ำจะไหลผ่านจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่เหนือ จนถึงอ่าวไทย
    จังหวัดที่น่าจะเสี่ยงและควรหาทางเตรียมหนีขึ้นเขาสูง
    เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน พะเยา แพร่ ลำปาง ตาก กำแพงเพชร
    และจังหวัดที่อยู่ใต้จนลงมาถึง กรุงเทพฯ

    ขอให้ประชาชนหมั่นติดตามฟังข่าว....
    หากฝนตกหนักมากทางตะวันตกของจีน
    ระดับแม่น้ำโขงสูงขึ้นเร็ว
    ต้องรีบเตรียมอพยพ หัดอ่านแผนที่หาที่หนีภัยใกล้ตัว...ไว้ล่วงหน้า
    เพราะเหตุการณ์นี้....จะรุนแรงมหันต์
    จำเป็นต้องช่วยตัวเองให้ได้ก่อน

    พระไตรปิฎก...ได้ส่งมอบ "สัจจะ"
    เป็นหนทางปฏิบัติของมนุษย์แล้ว
    อยู่ที่จะ "เชื่อ" หรือ "ไม่เชื่อ"

    ศึกษาใน.......
    กระทู้ "หนทางรอดสุดท้าย สัจจะ---กับ---โลกุตตระ"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "

    หมายเหตุ
    จากคำทำนายของศาสนาอิสลามที่กล่าวว่า แม่น้ำยูเฟรติส จะเปิดเผยให้เห็น ภูเขาทองคำ อันจะเป็นเหตุให้ผู้คนทำสงครามยื้อแย่งกันนั้น ถ้าเรามาพิจารณาดูคำทำนายของตำนานพระศรีอาริย์, คำทำนายจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ล, และดูจากคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ต่างๆ แล้วก็พอจะเดาเอาได้ว่า ภูเขาทองคำนั้น ก็คือ ภูเขาในภาคเหนือของประเทศไทยเรานี่เอง ที่ถูกแม่น้ำโขงกัดเซาะดิน หิน พังทลายลงไปตามกระแสน้ำ จนทำให้เห็นเนื้อแท้คือทองคำจำนวนมหาศาลเป็นภูเขาเลากา นั่นเอง.........


    <!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2006
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    ***************
    ประเทศไทย...มีกรรม
    ***************

    คือ...
    เราทิ้งของดี...ไปรักษาของเสีย
    เราไม่สนใจคนดี
    แต่ไปถนุถนอมคนไม่ดี
    เหมือนเป็นเชื้อโรค....ขยายลุกลามไปทั่ว
    เหมือนเชื้อโรคที่ลุกลามไปแล้ว...แต่ไม่มียารักษา
    เมื่อหายามาแก้ไม่ได้
    ทำให้เราต้องเริ่มเสียติดชั่วกันไปทั่ว
    เมื่อเนื้อดี...กลายเป็นเนื้อเสีย
    ก็ไม่มีทางที่จะมาแก้ไขได้อีก
    คนดี...จึงต้องหนี....คนชั่ว
    คนชั่ว....ยิ่งเหิมเกริมทะเยอทะยาน
    ถือตนว่า "ถ้าไม่ดี..แล้วใครจะส่งเสริม"
    กลายเป็นว่า...เขาเป็นคนดี
    จึงแสดงความคิด ความเห็น ความสามารถ
    คนยิ่งนับถือ ให้เกียรติ จึงมีบริวารมาก
    ต่อไปข้างหน้า
    จะพาลให้ประเทศล่มจม
    เพราะคนเราขาดศีลธรรม
    คุณธรรมไม่มี

    รีบค้นหา
    อ่าน ศึกษา พิจารณา
    ในกระทู้ "ที่พึ่งสุดท้าย คือ สัจจะ...กับ....โลกุตตระ"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    1. ราชภัย ...กษัตริย์และราชวงศ์จะมีภัย !!!
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    พญาตีนลาย....รถถังตรากงจักร
    พญาแขนสั้นยาว...จรวด
    พญาลิ้นกาฬ....อาวุธนำวิถี ขีปนาวุธ

     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตำนานพระศรีอาริย์ ในกึ่งกลางพระศาสนา
    [​IMG]

    พระศรีอาริย์ นารายณ์ปราบสงครามล้างโลก

    พอถึงวันคำรบ 8 ซึ่งเป็นวันรุ่งสางสว่างแจ้ง ฝูงมนุษย์ที่เหลือจากความตายด้วยภัยสงครามก็พากันร้องไห้ระงมถมทึก แทบว่าจะไม่เป็นเสียงมนุษย์ เพราะจะมองไปทางใดก็พบแต่ซากศพของคนตาย เช่น ลูกตายพลัดพ่อแม ่พ่อแม่พลัดลูก ผัวตายเมีย เมียตายพลัดผัว ญาติมิตรที่ต้องตายพลัดตายพรากจากกัน เหลือที่จะนับคณา เพราะวันตัดสินโลกได้ผ่านไปแล้ว พร้อมกับมนุษย์ที่ชั่วร้าย คงเหลือแต่มวลมนุษย์ที่เชื่อในคำสั่งสอนของพระศาสนา ซึ่งมีเมตตาภาวนาเพื่ออยู่สืบโลกและศาสนาต่อไป

    ในวันที่รุ่งแจ้งซึ่งความมืดได้ฉุดกระชากลากพาเอาวิญญาณร้ายผ่านพ้นไปแล้วนั้น กองทัพอากาศของพระศรีอาริย์บรมจักร พร้อมด้วยเทพเจ้าบนสวรรค์ก็เคลื่อนขบวนเวชยันตรถทิพย์เลื่อนลอยไปโดยทางนภากาสเวหา เพลงสวรรค์ซึ่งคนธรรพ์ทั้งหลายอันมีปัณจสิกขคนธรรพเทพบุตรเป็นหัวหน้า ก็ดีดสีตีเป่าสะท้านหวั่นไหวไปพร้อมกับกองทัพนั้นด้วย ฝูงเทพเจ้าทั้งหลายก็โปรยข้าวตอกดอกไม้ทิพย์เกลื่อนกลาดไปทั่วแผ่นดินที่ผ่านไป ครั้นแล้วกองทัพพระศรีอาริย์ก็หยุดลอยอยู่เหนือดอยสุวรรณคีรี ซึ่งกองทัพมนุษย์กำลังพิฆาตฆ่าฟันกันตายเหมือนใบไม้ร่วง

    เมื่อกองทัพเหล่านั้นได้ยินเสียงอึกทึกโกลาหลอยู่เบื้องนภากาศ และร้อนรุ่มกลุ้มใจไปด้วยไฟพิษ ซึ่งหมู่มวลนาคราชได้พ่นออกจากปากเป็นประกายอยู่ทั่วไป ทางเบื้องซ้ายก็กัมปนาทหวาดหวั่นไหวด้วยแสงอาวุธของมวลยักษ์ ตะบองใหญ่เท่าลำตาลก็กวัดแกว่งเป็นเปลวไฟ ทหารที่ทนได้ก็ทนไป ที่ทนไม่ได้ก็สลบล้มลงไป ด้วยความร้อนสุดที่จะทนทาน อิทธิฤทธิ์ของทหารผีกระทำปาฏิหาริย์อยู่ครู่เดียว ทหารมนุษย์ก็กลิ้งทูต ระเนระนาดตามกันลงไป ร่างกายสั่นเทาเหมือนผีสิงสิ้นหมดทั้งกองทัพ พลันก็มีเสียงคำรามลั่นลงมาจากฟากฟ้าแทบว่าแก้วหูจะแตกตาย

    " อะโห! มาริสสา- มาริสสาดูก่อนทะแกล้วทหารผู้ใจบาปหยาบช้าทั้งหลาย!พวกสูจะมารบราฆ่าฟันกันตายด้วยเหตุผลกลใด? ขุมทรัพย์อันใหญ่หลวงที่เกิดขึ้นนี้ หาใช่เป็นสมบัติของพวกสูทั้งหลายหรือผู้ใดไม่ดอก! หากเป็นสมบัติของพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ในรถนี้ ซึ่งจะมาดำรงตำแหน่งบรมจักรอันประเสริฐ เพื่อจรรโลงโลกไปสู่สันติสุขและสันติภาพอันเที่ยงแท้! เลิก- เลิกรบกัน !เลิกรบกันเว้ย!! ประเดี๋ยวตายโหงหมดเอ้า! ไม่เชื่อก็ลองไปดู!!" พระอิศวรผู้เป็นเจ้าได้สำแดงเสียงอยู่บนศรีษะทหารมนุษย์ อย่างเอาเป็นเอาตาย แล้วเปล่งสิงหนาทสืบต่อไปว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2006
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มูลเหตุที่พระศรีอาริย์ต้องจุติลงมาจากสวรรค์ชั้นดุสิต

    พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ต้องจุติ หรืออวตารลงมาปรากฏตัวในรูปของมนุษย์ ในระหว่างจะเข้าสู่ท่ามกลางพระพุทธศาสนานี้ (นารายณ์ปางที่ 10 ) ก็เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการ

    1. เหตุด้วยกรรมวิบากที่พระศรีศากยมุนีโคดม กับพระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ ได้สร้างบารมีผูกเวรกันมาในอดีตชาติ
    2. เหตุด้วยจะสนธิศาสนาพระโคดม กับพระศรีอาริยเมตไตรยเจ้าให้สัมพันธ์สืบต่อไปในอนาคต
    3. เหตุด้วยจะเปิดเผยบารมีทั้งหลาย มีทานบารมีและศีลบารมี เป็นต้นให้ปรากฏแก่โลก เพื่อประวัติศาสตร์และตัวอย่างแก่มนุษย์ในเรื่องพุทธภูมิ เหมือนดังพระเวสสันดรโพธิสัตว์ได้กระทำไปแล้ว
    4. เหตุด้วยจะบำราบปราบอธรรม คือคนชั่วร้าย ให้กลับตัวและวางศีลธรรมอันวิเศษให้แก่โลกใหม่ ในทำนอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2006
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width="50%" border=1><TBODY><TR><TD>
    ศรีอาริยวงศ์กลางศาสนา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อพระศรีอาริย์มาปรากฏเป็นพระบรมจักรพัตราธิราช ในท่ามกลางพระพุทธศาสนานี้ พระอิศวรผู้เป็นเจ้าประกาศิตให้เทวดาลงมารักษาพระราชวังถึง 50,000 องค์ ยักษ์อีก 50,000 ตน นาคและครุฑก็จะเป็นมิตรกัน และจะมารักษาปราสาทราชวังด้วยเป็นจำนวนมาก เชื้อพระวงศ์ของพระศรีอาริย์ จะอุปถัมภ์ยกยอพระพุทธศาสนาสืบๆ ต่อกันไปจนอีก 1309 ปี คือลุ พ.ศ. 3850 ปีเศษ จึงสิ้นเชื้อสายพระศรีอาริย์คนสุดท้ายมีนามว่า
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width="60%" border=1><TBODY><TR><TD>
    พระนครผู้มีบุญและสัตตรัตนะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ในคริสต์ศาสนา ความในพระคัมภีร์วิวรณ์บอกว่า เมื่อคริสต์ศักราชครบ 2,000 ปีแล้ว พระเยซูคริสต์เจ้าจะเสด็จลงมาปกครองโลก โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่นครเยรูซาเลม และการปกครองของพระเยซูในครั้งนี้จะกินเวลารวมทั้งสิ้น 1,000 ปี

    ในคติทางพระพุทธศาสนาก็เช่นเดียวกัน ได้มีความเชื่อในหมู่ของชาวพุทธแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะชาวพุทธของเมืองไทยว่า ภาคเหนือของไทยจะถูกสถาปนาขึ้นเป็นมหาอาณาจักรสัมมาทิฏฐิ พระอิศวรเป็นเจ้า หรืออินทราธิราช จึงนำเอาปราสาท 3 หลังขึ้นมาตั้งไว้บนแผ่นดิน คือ ปราสาทแก้ว ปราสาททอง ปราสาทเงิน กว้างหลังละ 4 กิโลเมตรเท่ากันทั้ง 3 หลัง แล้วเนรมิตกำแพงแก้วล้อมปราสาททั้ง 3 หลัง กว้างยาวเท่ากันด้านละ 16 กิโลเมตร เอาแก้วมณีโชติมาติดไว้บนยอดธาตุ รัศมีของแก้วนั้นจะสว่างแจ้งไปโดยรอบถึง 4 กิโลเมตร กลางคืนจะสว่างเหมือนกลางวัน พระนครที่อินทราธิราชสร้างนั้นจะสว่างเหมือนกลางวัน พระนครที่อินทราธิราชสร้างนั้นจะได้นามว่า
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width="60%" border=1><TBODY><TR><TD>
    ลักษณะพระศรีอาริย์
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผู้มีบุญนั้นเป็นคนหลายเชื้อชาติ เกิดในปีขาล บ้านเกิดอยู่ปลายหล้าน้ำ ที่เกิดมีเรือน๓หลัง ทางตะวันออกมีลำคลอง ทางตะวันตกมีภูเขารูปร่างคล้ายครกกระเดื่อง บิดามารดาเป็นชาวนาและช่างทอหูก เมื่อเริ่มเติบใหญ่ได้ศึกษาศิลปวิทยาการต่างๆแล้ว บัดนั้นไปก็บวชๆสึกๆอยู่๗หน เคยบวชเป็นฤาษีชีป่า
    เมื่อบวชอยู่เพื่อนนักบวชก็รุมชัง เมื่อสึกออกมาเป็นฆราวาส ฆราวาสก็รุมชัง สมณะชีพราหมณ์ตลอดจนฝูงท้าวพระยาที่มีใจหนาแน่นไปด้วยบาปต่างก็ไม่คบค้าสมาคมด้วย อยู่ที่ไหนไม่มั่นพลันหนีเพราะมีศีลธรรมและความประพฤติผิดกับคนทั้งหลาย จึงคบค้าสมาคมกับคนที่มีใจบาปหยาบช้าไม่ได้นาน
    เมื่อเป็นทารกนอนดั่งลิงลม เมื่อบวชเรียนอยู่นอนดั่งนกกาน้ำ เมื่อสึกออกมาเป็นฆราวาสแล้วนอนดั่งพญาช้างสาร และเมื่อปรากฏเป็นพระเจ้าบรมจักรธรรมิกราชแล้ว นอนดั่งพญาสีหะ

    ตำหนิรูปพรรณสัณฐานนั้น รูปร่างลักษณะท่าทางเหมือนดังครุฑ จมูกดังยักษ์ ใบหน้าดังครุฑ มีฟันเหมือนฟันม้า ตัวกลม ตาลึก ท้องใหญ่เล็กน้อย อกเต็ม ไหล่ขด มือและเท้ายาว นิ้วมือเบื้องซ้ายกิ่วคอดเป็นแผลเป็นหนึ่งแห่ง ที่ไหล่ซ้ายมีขนยาวหนึ่งเส้น ฝ่าเท้าเบื้องขวามีปานแดง บนศีรษะมีแผลเป็นลักษณะไม่สูงไม่ต่ำไม่ดำไม่ขาว สีผิวเนื้อขาวเหลือง ยามเจรจามีเสียงแลบออกจากไรฟัน พูดจามั่นเที่ยงไม่กลับกลอก กระแสเสียงแจ่มใสไพเราะและก้องกังวาน
    เมื่อบวชอยู่ในเพศบรรพชิตนั้นมักมีรัศมีพุ่งออกจากศีรษะเสมอ และมักมีดวงแสงสว่างขนาดลูกมะพร้าวบ้าง ส้มบ้าง เป็นท่อเป็นลำยาวบ้าง ปรากฏแก่สายตาประชาชนอยู่ไม่ขาด นอกจากนั้นก็มักมีเสียงดนตรีและฆ้องกลองประหลาดที่ไม่เห็นผู้บรรเลงปรากฏอยู่ครึ้มเครือ

    มีปัญญาดุจมโหสถ มีความเพียรดุจมหาชนก มีสัจจะดั่งวิธุรบัณฑิต มีขันติดุจขันติวาทีดาบส มีความกล้าหาญดุจสุรยักษ์ มีใจเบาและรวดเร็วดังลิงลม มีไมตรี รักคนใจบุญและสัตย์ซื่อ เมตตากรุณาต่อคนทุกข์ไร้อนาถา ไม่ถือตัวไม่ถือชั้นวรรณะ แก่กล้าด้วยศีลและทานจนตกทุกข์ได้ยาก เมื่อเริ่มจะปรากฏเป็นที่พึ่งแก่โลกนั้นจึงได้นามสมัญญาอีกอย่างว่า
     
  15. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +494
    ขออนุญาติแซวนะครับ
    หลายเชื้อชาติ???(ลูกครึ่ง??? แต่ไม่ได้บอกว่าชาติไหน เพราะว่าถ้าเป็นฝรั่งคงบวชไม่ได้... เอ๊ะ! แต่อเมริกาก็มีพระฝรั่งนี่?)
    ชาวนาอะไรมีบ้าน3หลังครับ...(อยากรู้) กวนนิดๆครับ
    ไม่ได้เกิดปีขาลครับ แย่จัง...
    เทวดากับยักษ์...(คือแบบไม่ใช่ว่าไม่ถูกกันหรือครับ)
    สงครามแย่งเยรูซาเล็ม? กับสงคราม???(ยังเป็นปริศนา)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กันยายน 2006
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พวกหัวพันธุ์ทั้งหก

    คนหลายเชื้อชาติ เขาเรียกคนเผ่านี้ว่า “พวกหัวพันธุ์ทั้งหก” คือมีเชื้อพันธุ์ของไทย ลาว จีน พม่า รามัญและเวียตนาม. เพราะความที่มีหลายเชื้อพันธุ์ คนในตระกูลนี้จึงดูเป็นเหมือนคนจีนเมื่อเข้าอยู่ในพวกจีน เป็นเหมือนคนลาวเมื่ออยู่ในหมู่คนลาว เมื่ออยู่ในหมู่คนพม่าก็ดูเหมือนคนพม่า เมื่ออยู่ในหมู่คนมอญก็ดูเหมือนคนมอญ เมื่ออยู่ในหมู่คนเวียตนามก็ดูเหมือนคนเวียตนาม เมื่ออยู่ในหมู่คนไทยก็ดูเหมือนคนไทย.

    หรือหากจะกล่าวอีกนัยหนึ่ง ก็คงจะว่า พวกหัวพันธุ์ทั้งหกนี้ เมื่ออยู่ในหมู่คนจีน จีนก็ว่าไม่ใช่จีน เมื่ออยู่ในหมู่คนลาว ลาวก็ว่าไม่ใช่ลาว เมื่ออยู่ในหมู่พม่า พม่าก็ว่าไม่ใช่พม่า เมื่ออยู่ในหมู่มอญ มอญก็ว่าไม่ใช่มอญ เมื่ออยู่ในหมู่คนเวียตนาม เวียตนามก็ว่าไม่ใช่เวียตนาม และเมื่ออยู่ในหมู่คนไทย คนไทยก็ว่าไม่ใช่ไทย. แสดงว่าพวกหัวพันธุ์ทั้งหกนี้เป็นตระกูลที่ไม่ค่อยมีใครจะคบหาเป็นพรรคพวกนักก็ได้ ทั้งๆที่เขาก็มีเชื้อชาตินั้นๆเหมือนกับคนอื่นๆ.

    ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=50789

    หมายเหตุ คนหลายเชื้อชาติก็คือคนไทยกลุ่มหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ทางภาคอีสาน เหมือนคนไทยเชื้อสายจีน คนไทยเชื้อสายลาว ซึ่งก็สามารถบวชได้ครับ

    ส่วนที่ว่าชาวนาอะไรจะมีบ้าน 3 หลัง? ความจริงชาวนามีฐานะดีก็มี ชาวนาที่มีฐานะปานกลางก็มี ชาวนาที่มีฐานะยากจนก็มี ในตามชนบทมักนิยมปลูกเรือนหลังเล็กๆ ไว้ในครอบครัวเดียวกันก็มี เรื่องนี้จึงไม่น่าแปลกอะไร

    เรื่องเทวดากับยักษ์นั้น ถ้าอ่านในพระไตรปิฎกก็บอกเอาไว้ว่า ยักษ์ นาค ครุฑ คนธรรพ์ ก็ล้วนจัดเป็นเทวดาทั้งสิ้น อาศัยอยู่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งก็มีหัวหน้าเทวดาแต่ละเหล่าคอยควบคุมอยู่ เหมือนแม่ทัพภาค 1,2,3,4 ของไทยเราครับ เมื่อหัวหน้าสั่งให้มาคอยรับใช้พระศรีอาริย์ โดยไม่ให้ทะเลาะกัน เทวดาเหล่ายักษ์ หรือเหล่านาค ก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งเหมือน ทหารเชื่อฟังแม่ทัพในเมืองมนุษย์นั่นแหละครับ

    เรื่องของสงครามเยรูซาเล็ม หรือสงครามศาสนานั้นก็เป็นเรื่องของคำทำนาย จะจริงหรือเท็จก็ต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2006
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔

    สวรรค์ชั้นที่ ๑ จาตุมมหาราชิกาภูมิ

    อยู่ตอนกลางของเขาพระสุเมรุ เสมอๆ ระดับภูเขายุคันธร ลงจนถึงโลกมนุษย์ อาณาเขตแผ่กว้างไปจนจรดขอบภูเขาจักรวาล นี้เป็นที่สถิตอยู่ของท้าวมหาราช ๔ องค์ ผู้รักษาโลกมนุษย์ด้วย จึงชื่อว่า
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ครุฑ ภุมมเทวา รุกขเทวา อากาสเทวา คือใคร?
    [​IMG]



    ครุฑ ภุมมเทวา รุกขเทวา อากาสเทวา อยู่ที่ไหน..เป็นชาวสวรรค์ชั้นใด ?

    พญาครุฑ คือใคร?

    *ครุฑ จัดเป็นเทวดาประเภทหนึ่ง อยู่ในการปกครองของท้าววิรุฬหก ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ด้านทิศใต้ เหตุที่มาเกิดเป็นครุฑเพราะทำบุญเจือด้วยโมหะ

    ครุฑมีกำเนิดทั้ง 4 แบบ คือ โอปปาติกะ ชลาพุชะ อัณฑชะ และสังเสทชะ มีที่อยู่ตั้งแต่พื้นมนุษย์ ป่าหิมพานต์ ป่าไม้งิ้ว จนถึงชั้นจาตุมหาราชิกา (ป่าไม้งิ้วอยู่ชั้นที่สองรอบภูเขาสิเนรุ ส่วนชั้นที่หนึ่งอยู่ในมหาสมุทรสีทันดร เป็นที่อยู่ของพญานาค)

    ครุฑชั้นสูง เกิดแบบโอปปาติกะ มีขนสีทอง มีเครื่องประดับแบบเทพบุตรเทพธิดา มีชีวิตอยู่เหมือนเทวดา แปลงกายได้ จะเสวยสุทธาโภชน์ คืออาหารทิพย์แบบเทวดา

    ครุฑบางประเภทผูกเวรกับนาค ก็จะกินนาคเป็นอาหาร บางประเภทก็กินผลไม้หรือเนื้อสัตว์ ครุฑบางประเภทผูกเวรกับสัตว์นรกในยมโลก ก็จะสมัครใจไปเป็นเจ้าหน้าที่ลงทัณฑ์สัตว์นรก

    เทวดาทั้ง 3 ประเภท เป็นเทวดาชั้นล่าง มีวิมานอยู่บนพื้นดินเดียวกันกับที่มนุษย์ อาศัยอยู่ เรียกชื่อตามที่อยู่ แต่ถือว่าเป็นชาวสรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้วย

    ภุมมเทวา

    เป็นเทวดาที่อาศัยอยู่บนพื้นมนุษย์ อยู่ตามจอมปลวก เนินดิน ใต้ดิน ภูเขาแม่น้ำ บ้าน เจดีย์ ศาลา ซุ้มประตู เป็นต้น บางองค์มีวิมานเป็นของตน บางองค์ก็ไม่มี ต้องอาศัยวิมานขององค์อื่นอยู่

    รุกขเทวา

    เป็นเทวดาที่อาศัยอยู่ตามกิ่งไม้หรือยอดไม้ต่างๆ ซึ่งสูงขึ้นไปกว่าพวก ภุมมเทวา มีทั้งที่มีวิมานและไม่มีวิมานเป็นของตน

    อากาสเทวา

    เป็นเทวดาที่มีวิมานอยู่กลางอากาศ สูงขึ้นไปจากพื้นดินประมาณ 1 โยชน์ (ประมาณ 16 กิโลเมตร)


    ---------------------------------------------------
    * มก. สุปัณณสังยุต เล่ม 27 หน้า 567

    ที่มา http://www.dmc.tv/pages/guide/page14.html

     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ยักษ์ คือใคร ?
    [​IMG]


    *ยักษ์ คือ ผู้ที่เขาบูชาเซ่นสรวง หรือผู้ทำความพยายามให้เขาบูชาเซ่นสรวง ยักษ์มีหลายระดับ ตั้งแต่ยักษ์ชั้นสูง ยักษ์ชั้นกลาง ยักษ์ชั้นล่าง มีความละเอียดประณีตแตกต่างกันตามกำลังบุญ

    ถ้ายักษ์ชั้นสูง จะมีวิมานเป็นทอง มีรูปร่างสวยงาม มีเครื่องประดับ มีรัศมี แต่ผิวจะดำ ดำอมเขียว อมเหลือง ดำแดงก็มี แต่ว่าดำเนียน มีอาหารทิพย์ มีบริวารคอยรับใช้ ปกติไม่เห็นเขี้ยว เวลาโกรธจึงจะมีเขี้ยวงอกออกมา

    ยักษ์ชั้นกลาง ส่วนใหญ่จะเป็นบริวารคอยรับใช้ของยักษ์ชั้นสูง

    ส่วนยักษ์ชั้นต่ำที่บุญน้อยก็จะมีรูปร่างน่าเกลียด ผมหยิก ตัวดำ ตาโปน ผิวหยาบ เหมือนกระดาษทราย นิสัยดุร้าย

    ยักษ์เกิดได้ 3 แบบ คือ เกิดแบบโอปปาติกะ เกิดแล้วโตทันที ชลาพุชะ เกิดในครรภ์ และสังเสทชะ เกิดในเหงื่อไคล ที่อยู่ของยักษ์ ก็มีอยู่ตามถ้ำ ตามเขา ในน้ำ ในดิน พื้นมนุษย์ ในอากาศ และมีวิมานอยู่ที่เขาสิเนรุในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พวกยักษ์จะอยู่ในการปกครองของท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวกุเวรมหาราชผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศเหนือ เหตุที่มาเกิดเป็นยักษ์เพราะทำบุญเจือด้วยความโกรธ มักหงุดหงิดรำคาญใจ

    ---------------------------------------------------
    * มก. ยักขสังยุต เล่ม 25 หน้า 384
    ที่มา http://www.dmc.tv/pages/guide/page13.html
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พญานาค คือใคร ?
    [​IMG]

    *พญานาค เป็นราชาแห่งงู จัดเป็นเดรัจฉานด้วย เพราะมีลำตัวไปทางขวางและไม่สามารถบรรลุธรรมได้ แต่ก็จัดอยู่ฝ่ายสุคติภูมิ อยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา นาคแบ่ง ออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ คือ
    • ตระกูลวิรูปักษ์ พญานาคตระกูลสีทอง
    • ตระกูลเอราปถ พญานาคตระกูลสีเขียว
    • ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง
    • และตระกูลกัณหาโคตมะ พญานาคตระกูลสีดำ
    **พญานาคเกิดได้ทั้ง 4 แบบ คือ แบบโอปปาติกะเกิดแล้วโตทันที แบบสังเสทชะ เกิดจากเหงื่อไคล สิ่งหมักหมม แบบชลาพุชะเกิดจากครรภ์ แบบอัณฑชะเกิดจากฟองไข่ พญานาคชั้นสูงเกิดแบบโอปปาติกะ เป็นชนชั้นปกครอง ที่อยู่ของพญานาคมีตั้งแต่ในแม่น้ำ หนอง คลอง บึงต่างๆ ในอากาศ จนไปถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พวกพญานาคอยู่ ในการปกครองของท้าววิรูปักษ์ ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศตะวันตก เหตุที่มาเกิดเป็นพญานาคเพราะทำบุญเจือด้วยราคะ

    ---------------------------------------------------
    * มก. ขุททกวัตถุขันธกะ เล่ม 9 หน้า 11
    ** มก. นาคสังยุต เล่ม 27 หน้า 556
    ที่มา http://www.dmc.tv/pages/guide/page12.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...