วิธีหนีกรรม “ผิวทราม”

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย pantham phuakph, 16 มีนาคม 2010.

  1. pantham phuakph

    pantham phuakph เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +444
    [​IMG]
    ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

    วิธีหนีกรรม “ผิวทราม”

    กรรมผิวทรามเป็นกฏแห่งกรรมสากล ที่เกิดได้กับคนทุกศาสนา ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ค้นพบและบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก ว่า

    “คนที่มักโกรธ จะมีผิวพรรณทราม” “กรรมผิวพรรณ เกิดจากกรรมโทสะ”

    ท่านได้แนะวิธีหนีกรรมไว้ ๓ วิธี ดังนี้

    ๑.แบบลงทุน คือ บริจาคเสื้อผ้าอาภรณ์ ถวายผ้าไตรจีวรให้พระ ถวายไม้กวาด ไม้ถูพื้น วัตถุสิ่งของที่ใช้ทำความสอาดวัด


    ๒.แบบลงแรง คือ ไปทำความสอาดในเขตวัด เขตที่บริสุทธิ์ ปัดกวาดเช็ดถู ซักล้าง ยิ่งทำส่วนที่สกปรกมากยิ่งเห็นผลมาก


    ๓.แบบไม่ต้องลงทุนลงแรง มีอานิสงส์สูงสุด เร็วที่สุด คือ อภัยทาน ละวางความโกรธ ถ้าทำสมาธิร่วมด้วย ผลยิ่งเร็วขึ้น


    ปัญหาที่สะสมอยู่ในเซลล์มาจากผลกรรม คือ การกระทำของแต่ละคน มาจาก ๓ ทาง คือ

    ๑. กายกรรม (การกระทำทางกาย)
    - การฆ่าสัตว์ ฆ่ามนุษย์ กลั่นแกล้งรังแก ทำร้ายด้วยฝ่ามือ ก้อนดิน ท่อนไม้ ศาสตราวุธ
    - การลักทรัพย์ ทำให้ผู้อืนเสียทรัพย์โดยที่เขาไม่เต็มใจ
    - การประพฤติผิดในกาม คบชู้ มักมากในกาม ละเมิดบุตร คนรัก คู่ครองผู้อื่น

    ๒. วจีกรรม (คำพูด) พูดโกหก พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ (ชอบนินทา ยุแหย่ ใส่ร้าย่ ป้ายสี โกรธ โมโห)

    ๓. มโนกรรม (ความคิด) คิดประทุษร้ายผู้อื่น ประสงค์ต่อทรัพย์ผู้อื่น เห็นผิดทำนองคลองธรรม คิดลบลู่ ดูหมิ่น ล่วงเกิน ผู้ทรงศีลธรรม พยาบาทปองร้ายผู้อื่น ไม่เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้า ในเรื่อง บาป บุญ นรก สวรรค์
    และกฏแห่งกรรม เป็นต้น

    ที่มา คู่มือหนีกรรมผิวพรรณ (ฉบับปฐมฤกษ์) เรียบเรียงโดย อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์
    ผู้ดำเนินรายการ “คุยไปแจกไป” ทาง MVTV ช่องบางกอกทูเดย์[FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
    [FONT=&quot]<O>[/FONT]
    [FONT=&quot]</O>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 สิงหาคม 2011
  2. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,199
    ค่าพลัง:
    +3,381
    ต้องละความโกรธ ทำจิตให้ผ่องใส เบิกบาน
     
  3. jee4

    jee4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +848
    อนุโมทนา ครับ
    การสวดมนต์ไหว้พระ
    ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใสขึ้นด้วยครับ:VO
     
  4. เกลี่ยง

    เกลี่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +428
    โมทนา สาธุ

    ฝึกจิต ให้ละโทสะ ดีที่สุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    (แต่ก็ไม่ใช่ง่ายเนอะ)
     
  5. สิตามน

    สิตามน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +369
    หนูเคยมีประสบการณ์ค่ะ เป็นสิวยังไงก็ไม่หาย
    มีผู้ใหญ่แนะนำให้รักษาศีล 8
    ทานมังสวิรัติ และกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรค่ะ
     
  6. อวิชานาคา

    อวิชานาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +345
    ตรง จริงๆครับ ผมเป็นคนที่ โทสะเกิดได้ง่ายมาก

    และ ผมก็ผิวทราม จริงๆซะด้วย -*-
     
  7. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในนิโครธาราม ทรงปรารภเจ้าหญิงโรหิณี ตรัสพระธรรมเทศนานี้
    ได้ยินว่า สมัยหนึ่ง พระอนุรุทธผู้มีอายุได้ไปเมืองกบิลพัสดุ์พร้อมด้วยภิกษุ ๕๐๐. ครั้งนั้น พวกพระญาติของท่าน ทรงสดับว่า พระเถระมาจึงได้ไปสู่สำนักพระเถระ เว้นเเต่พระน้องนางของพระเถระชื่อโรหิณี.
    พระเถระถามพวกพระญาติว่า " พระนางโรหิณีอยู่ไหน ? "
    พวกพระญาติ. อยู่ในตำหนัก เจ้าข้า.
    พระเถระ. เหตุไร ? จึงไม่เสด็จมา.
    พวกพระญาติ. พระนางไม่เสด็จมาเพราะทรงละอายว่า ' โรคผิวหนังเกิดที่สรีระของเขา ' เจ้าข้า.
    พระเถระ กล่าวว่า " ท่านทั้งหลายจงเชิญพระนางเสด็จมาเถิด " ให้ไปเชิญพระนางเสด็จมาแล้ว จึงกล่าวอย่างนี้ กะพระนางผู้ทรงฉลองพระองค์เสด็จมาแล้วว่า " โรหิณี เหตุไร ? เธอจึงไม่เสด็จมา. "
    พระนางโรหิณี. ท่านผู้เจริญ โรคผิวหนังเกิดขึ้นที่สรีระของหม่อมฉัน; เหตุนั้น หม่อมฉันจึงมิได้มาด้วยความละอาย.
    พระเถระ. ก็เธอทรงทำบุญไม่ควรหรือ ?
    พระนางโรหิณี. จะทำอะไร ? เจ้าข้า.
    พระเถระ. จงให้สร้างโรงฉัน.
    พระนางโรหิณี. หม่อมฉันจะเอาอะไรทำ ?
    พระเถระ. ก็เครื่องประดับของเธอไม่มีหรือ ?
    พระนางโรหิณี. มีอยู่ เจ้าข้า.
    พระเถระ. ราคาเท่าไร ?
    พระนางโรหิณี. จักมีราคาหมื่นหนึ่ง.
    พระเถระ. ถ้ากระนั้น จงขายเครื่องประดับนั้น ให้สร้างโรงฉันเถิด.
    พระนางโรหิณี. ใครเล่า ? จักทําให้หม่อมฉัน เจ้าข้า.
    พระเถระ. แลดูพระญาติซึ่งยืนอยู่ในที่ใกล้เเล้ว กล่าวว่า " ขอจงเป็นภาระของพวกท่านทั้งหลาย."
    พวกพระญาติ. ก็พระคุณเจ้าจักทำอะไรหรือ ? เจ้าข้า.
    พระเถระ. แม้อาตมภาพก็จักอยู่ในที่นี้เหมือนกัน, ถ้ากระนั้นพวกท่านจงนำทัพพสัมภาระมาเพื่อโรงฉันนี่.
    พวกพระญาตินั้น ตรัสว่า " ดีละ เจ้าข้า " จึงนำมาแล้ว.
    พระเถระ. เมื่อจะจัดโรงฉัน จึงกล่าวกะพระนางโรหิณีว่า " เธอจงให้ทำโรงฉันเป็น ๒ ชั้น จำเดิมแต่กาลที่ให้พื้นชั้นบนเรียบแล้วจงกวาดพื้นล่าง แล้วให้ปูอาสนะไว้เสมอ ๆ, จงให้ตั้งหม้อน้ำดื่มไว้เสมอๆ. "
    พระนางรับคำว่า " ดีละ เจ้าข้า " แล้วจำหน่ายเครื่องประดับ ให้ทำโรงฉัน ๒ ชั้น เริ่มแต่กาลที่ให้พื้นชั้นบนเรียบแล้ว ได้ทรงทำกิจมีการกวาดพื้นล่างเป็นต้นเนือง ๆ. พวกภิกษุก็นั่งเสมอ ๆ.
    ลำดับนั้น เมื่อพระนางกวาดโรงฉันอยู่นั่นแล. โรคผิวหนังก็ราบไปแล้ว. เมื่อโรงฉันเสร็จ พระนางนิมนต์ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขแล้ว ได้ถวายขาทนียะและโภชนียะที่ประณีตแด่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขซึ่งนั่งเต็มโรงฉัน.
    พระศาสดา ทรงทำภัตกิจเสร็จแล้ว ตรัสถามว่า " นี่เป็นทานของใคร ? "
    พระอนุรุทธ. ของโรหิณีพระน้องนางของข้าพระองค์ พระเจ้าข้า.
    พระศาสดา. ก็นางไปไหน ?
    พระอนุรุทธ. อยู่ในตำหนัก พระเจ้าข้า.
    พระศาสดา. พวกท่านจงไปเรียกนางมา.
    พระนางไม่ประสงค์จะเสด็จมา. ทีนั้น พระศาสดารับสั่งให้เรียกพระนางแม้ไม่ปรารถนา (จะมา) จนได้. ก็แลพระศาสดาตรัสกะพระนางผู้เสด็จมาถวายบังคม ประทับนั่งแล้วว่า " โรหิณี เหตุไรเธอจึงไม่มา ? "
    พระนางโรหิณี. " โรคผิวหนังมีที่สรีระของหม่อมฉัน พระเจ้าข้า ม่อมฉันละอายด้วยโรคนั้น. จึงมิได้มา. "
    พระศาสดา. ก็เธอรู้ไหมว่า ่โรคนั้นอาศัยกรรมอะไรของเธอ จึงเกิดขึ้น ? "
    พระนางโรหิณี. หม่อมฉันไม่ทราบ พระเจ้าข้า.
    พระศาสดา. โรคนั้นอาศัยความโกรธของเธอ จึงเกิดขึ้นแล้ว.
    พระนางโรหิณี. ก็หม่อมฉันทำกรรมอะไรไว้ ? พระเจ้าข้า.
    บุรพกรรมของพระนางโรหิณี
    ลำดับนั้น พระศาสดาทรงนำอดีตนิทานมา (ตรัสแก่พระนาง)ว่า:-
    ในอดีตกาล พระอัครมเหสีของพระเจ้าพาราณสี ผูกอาฆาตในหญิงนักฟ้อนของพระราชาองค์หนึ่ง ทรงดำริว่า " เราจักให้ทุกข์เกิดแก่หญิงนั้น " แล้วให้เขานำลูกเต่าร้างใหญ่มา(แปลว่า หมามุ้ยใหญ่ ก็มี.)รับสั่งให้เรียกหญิงนักฟ้อนนั้นมายังสำนักของตนแล้ว. ให้ใส่ผงเต่าร้างบนที่นอน ที่ผ้าห่ม และที่ระหว่างเครื่องใช้ มีผ้าปูที่นอนเป็นต้น ของหญิงนักฟ้อนนั้น โดยประการที่นางไม่ทันรู้ตัว. โปรยลงแม้ที่ตัวของนาง ราวกะทำความเย้ยหยันเล่น ทันใดนั้นเอง สรีระของหญิงนั้นได้พุพองขึ้นเป็นตุ่มน้อยตุ่มใหญ่. นางเกาอยู่ไปนอนบนที่นอน. เมื่อนางถูกผงเต่าร้างกัดแม้บนที่นอนนั้น เวทนากล้ายิ่งนักเกิดขึ้นแล้ว. พระอัครมเหสีในกาลนั้นได้เป็นพระนางโรหิณี.
    พระศาสดา ครั้นทรงนำอดีตนิทานั้นมาแล้ว ตรัสว่า " โรหิณี ก็กรรมนั่นที่เธอทำแล้วในกาลนั้น, ก็ความโกรธก็ดี ความริษยาก็ดี แม้มีประมาณเล็กน้อย ย่อมไม่ควรทำเลย " ดังนี้แล้ว จึงตรัสพระคาถานี้ว่า " บุคคลพึงละความโกรธ, สละความถือตัวล่วงสังโยชน์ทั้งสิ้นได้ ทุกทั้งหลายย่อมไม่ตกต้อง,บุคคลนั้น ผู้ไม่ข้องในนามรูป ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล. "
    ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น.
    แม้พระนางโรหิณี ก็ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล. สรีระของพระนางได้มีวรรณะดุจทองคำ ในขณะนั้นเอง. พระนางจุติจากอัตภาพนั้นแล้วเกิดในระหว่างเขตแดนของเทพบุตร ๔ องค์ ในภพดาวดึงส์ ได้เป็นผู้น่าเลื่อมใส ถึงความเป็นผู้มีรูปงามเลิศ เทพบุตรทั้ง ๔ องค์เห็นนางแล้วเป็นผู้เกิดความสิเนหา วิวาทกันว่า " นางเกิดภายในแดนของเรา, นางเกิดภายในแดนของเรา." ไปสู่สำนักของท้าวสักกเทวราช กราบทูลว่า" ข้าแต่เทพเจ้า ข้าพระองค์ทั้งสี่เกิดคดีขึ้น เพราะอาศัยเทพธิดานี้, ขอ
    พระองค์ทรงวินิจฉัยคดีนั้น. " แม้ท้าวสักกะ แต่พอได้ทรงเห็นพระนางก็เป็นผู้เกิดสิเนหา ตรัสอย่างนั้นว่า " จําเดิมแต่กาลที่พวกท่านเห็นเทพธิดานี้แล้ว จิตเกิดขึ้นอย่างไร. ? "
    ลำดับนั้น เทพบุตรองค์หนึ่งกราบทูลว่า " จิตของข้าพระองค์เกิดขึ้นดุจกลองในคราวสงครามก่อน ไม่อาจสงบลงได้เลย. "
    องค์ที่ ๒ จิตของข้าพระองค์ [เกิดขึ้น] เหมือนแม่น้ำตกจากภูเขาย่อมเป็นไปเร็วพลันทีเดียว.
    องค์ที่ ๓. จำเดิมแต่กาลที่ข้าพระองค์เห็นนางนี้แล้ว ตาทั้งสองถลนออกแล้ว ดุจตาของปู.
    องค์ที่ ๔. จิตของข้าพระองค์ประดุจธงที่เขายกขึ้นบนเจดีย์ ไม่สามารถจะดำรงนิ่งอยู่ได้.
    ครั้งนั้น ท้าวสักกะตรัสกะเทพบุตรทั้งสี่นั้นว่า " พ่อทั้งหลาย จิตของพวกท่านยังพอข่มได้ก่อน ส่วนเราเมื่อได้เห็นเทพธิดานี้ จึงจักเป็นอยู่ เมื่อเราไม่ได้ จักต้องตาย. "
    พวกเทพบุตรจึงทูลว่า " ข้าแต่มหาราช พวกข้าพระองค์ไม่มีความต้องการด้วยความตายของพระองค์ " แล้วต่างสละเทพธิดานั้นถวายท้าวสักกะแล้วหลีกไป. เทพธิดานั้นได้เป็นที่รักที่พอพระหฤทัยของท้าวสักกะ. มื่อนางกราบทูลว่า " หม่อมฉันจักไปสู่สนามเล่นชื่อโน้น " ท้าวสักกะก็ไม่สามารถจะทรงขัดคำของนางได้เลย ดังนี้แล.
    เรื่องเจ้าหญิงโรหิณี จบ.
     
  8. Sopasiri

    Sopasiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +912
    อนุโมทนาค่ะ นอกจากวิธีหนีกรรม 3 วิธีข้างต้นแล้ว ถ้าเพิ่มการเจริญเมตตาอยู่เป็นนิจ จะส่งผลให้มีผิวขาวอมชมพูอีกด้วยจ้า
     
  9. chermelot

    chermelot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2009
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +464
    เมื่อก่อนตอนวัยรุ่นชอบตบยุงมากเลยค่ะ (ใช้ไม้แบตตียุงแข่งกันกับน้อง) วันนึงตบเป็นร้อยตัว แล้วหน้าก้อเป็นผื่นแพ้ตลอดเวลาที่ออกไปนอกบ้าน แล้วก็ชอบฆ่าเห็บหมาด้วยค่ะ จำได้ว่าช่วงนั้นสิวเห่อหนักมาก
    พอมารักษาศีล 5 สวดมนต์ทุกวัน ผื่น+สิวหายไปเองโดยอัตโนมัติ เรื่องจริงเลยค่ะ ก่อนนอนแผ่เมตตาให้เห็บและยุงทุกวัน เพราะล่วงเกินชีวิตเค้าไปมากจริงๆ ตอนนี้ผิวใสกิ๊งๆ55
     
  10. pantham phuakph

    pantham phuakph เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +444
    [FONT=&quot]เชิญปฏิบัติธรรมเพื่อหนีกรรมผิวพรรณ[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]เป็นสิว เป็นฝ้า หรือเป็นโรคผิวหนังอื่นๆ รักษาที่ไหนไม่หาย เชิญทางนี้เลย[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]ดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์นี้ครับ
    [/FONT]

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CUSER%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} a:link, span.MsoHyperlink {color:blue; text-decoration:underline; text-underline:single;} a:visited, span.MsoHyperlinkFollowed {color:purple; text-decoration:underline; text-underline:single;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> http://palungjit.org/forums/[FONT=&quot]เชิญปฏิบัติธรรม-เพื่อหนีกรรมผิวพรรณ-[.179/FONT]233884.html<o></o>
     
  11. ภวโลกร้อน

    ภวโลกร้อน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,272
    อีกวิธีที่ได้ผลทันตากับใบหน้าผิวพรรณคือ การขัดพระพุทธรูปในวัดค่ะ..เพราะว่าพระพุทธรูปทองเหลืองเมื่ออยู่ไปนานๆท่านก็จะหมองเมื่อเราได้ขัดแล้วท่านก็จะใสกระจ่าง..
    เราทำมาแล้วรับรองได้ผลทันตา..คอนเฟิร์มค่ะ..
     
  12. Santajitto

    Santajitto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +455
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
    วางโทสะ วางความโกรธ ไม่ใช่ของง่ายน่ะครับ ... แต่ก็ต้องพยายามให้ถึงที่สุด
    เพราะทุกข์ ทั้งหลาย ล่วงได้ ด้วยความเพียร
     
  13. leoknit

    leoknit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +38
    แบบที่สองผมเคยแนะน้ำเพื่อนไปเมื่อหลายปีก่อนเพื่อนผมเข้าเป็นโรคโดนฝนตัวจะบวมมาก ชื่อเพื่อก็ วรุณ ชื่อเล่นก็ ฝน แต่มันดันแพ้ฝน ตัวบวมอย่างเห็นได้ชัดเลยแนะนำให้ไปล้างห้องน้ำที่วัด หลังจากไปทำมาไม่นานอาการโดนฝนตัวบวมก็หายไปจนปัจจุบันเป็นปกติแล้ว เพื่อนเป็นมา 10 กว่าปีครับตอนนี้หายล่ะ
    แต่แบบนี้สามนี้ผมลองใช้กะตัวเองยังไม่ปรากฏว่าจะหายคงจะเป็นเพราะกรรมเก่าของผมเองผมเป้นผื่นคันครับสงสัยต้องไปล้างห้องน้ำวัดซะแล้ว
     
  14. เจตนา

    เจตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +464
    กราบอนุโมทนาสาธุครับผม....สงสัยผมต้องทำความสอาดห้องน้ำที่วัดหรือไม่ก็ที่ไดที่หนึ่งในวัดครับผม...สาธุครับ
     
  15. pawanakun

    pawanakun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    291
    ค่าพลัง:
    +181
  16. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    เรามีประสบการณ์ตรงมาโฆษณาถึงสรรพคุณให้ฟังกันค่ะ

    ในช่วงวัยรุ่นของเรา ป่วยบ่อย เครียดมากเลย เพราะว่าเรียนไม่ทันเพื่อน เป็นสิวเยอะมากเลยค่ะ ไปคลีนิค สถาบันความงาม มาทั่วแล้วก็ไม่หาย แต่พอได้ไปปฏิบัติธรรมระหว่างปิดภาคเรียนแล้ว สิวก็หายไปหมดเลยค่ะ หลังจากนั้นก็ติดใจเพราะว่าสิวหาย แถมด้วยอาการโรคหัวใจ และ ถุงลมในปอดแตก ก็หายไปด้วยค่ะ

    พอตอนอายุ 26 ปี งูสวัสดิ์ก็ขึ้นที่หน้าผากตรงกลางระหว่างคิ้วเลยค่ะ หมอบอกว่าเป็นแผลเป็นแน่นอนเลย เพราะว่า งูสวัสดิ์ลามไปครึ่งหน้าผากแล้ว น่ากลัวมากเลยค่ะ ตอนนั้นได้อ่านเรื่องของ อานิสงฆ์ "ผู้ใดให้เสื้อผ้า อาภรณ์ ผู้นั้นย่อมได้ผิวพรรณ" เราก็เลยไปถวายผ้าไตรจีวรค่ะ ไม่นานนัก งูสวัสดิ์ก็หายไปค่ะ ไม่ทิ้งคราบที่หน้าผากอีกเลย มีก็แต่ความปวด ที่มาเยี่ยมเยียนเป็นครั้งคราว

    สรุปก็คือ สวยด้วยศีล และ หายด้วยอานิสงฆ์ผลบุญ ค่ะ...
     
  17. จิตสีฟ้า

    จิตสีฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +192
    ทุกสิ่งมีเหตุเเละปัจจัย จึงเกิดผล
    อนุโมทนาสาธุครับ:cool:
     
  18. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
  19. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
  20. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...