ถามมาสิจ๊ะ...แม่ชีณัฐทิพย์ ตนุพันธ์ ยินดีตอบจ้า...

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย DevilBitch, 14 สิงหาคม 2006.

  1. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรมคุณ jomr0547

    ธรรมที่แม่ชีบรรลุแล้วนั้นมีไม่มากหรอกจ้า
    แค่รู้ว่า...........

    "สิ่งใดทั้งหลายเกิดขึ้น สิ่งทั้งปวงเหล่านั้น ย่อมดับไปเป็นธรรมดา" และรู้การ เกิด-ดับของรูปและนามก็เท่านั้นเอง รวมทั้งรู้ว่าแดนพระนิพพานมีจริง เราสามารถเข้าสู่กระแสพระนิพพานได้โดยที่สังขารยังไม่ต้องตาย นี่ละค่ะธรรมที่แม่ชีบรรลุ สาธุ...เจ้าค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กันยายน 2006
  2. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ... เจ้าค่ะ
     
  3. seelerdk

    seelerdk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +180
    นมัสการคุณแม่ชีครับ
    ทราบข่าวว่าคุณแม่ชีป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ใช่ไหมครับ ขอให้คุณแม่ชีหายไวไวนะครับ จะได้เป็นที่พึ่งแก่ผู้ทุกข์ยาก และไม่ค่อยมีใครเข้ามาถามในกระทู้ ผมเดาเอาว่าส่วนใหญ่คงโทร.ตรงคุยกับคุณแม่ชีเองเลยมั้งครับ เพื่อไม่ให้ขาดหายผมขอถามซะเองเลยว่าจะมีวิธีกล่าวคำอธิษฐานในการอุทิศผลบุญหรือนำบุญไปให้กับผู้ล่วงลับและผู้มีชีวิตอยู่อย่างไรให้เขาได้รับผลบุญนั้นด้วย และกล่าวอย่างไรให้ครอบคลุมทั้งหมดและสามารถนึกคำกล่าวได้ทันเวลาเราจะกรวดน้ำ เพราะประสบการณืที่เกิดกับผมคือมักจะกล่าวได้ไม่ครอบคลุมและตกๆหล่นๆครับ บางครั้งพระท่านยถาสัพพี... จบแล้วผมยังนึกไม่หมดเลยครับ ขอความเมตตาคุณแม่ชีช่วยสงเคราะห์ผู้เบาปัญญาด้วยครับ
    ด้วยความเคารพยิ่งและโมทนาสาธุครับ
     
  4. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม คุณ seelerdk
    ขอบคุณที่เป็นห่วงเรื่องเจ็บป่วย ตอนนี้ค่อยยังชั่วขึ้นแล้วจ้า...

    เรื่องการที่จะแผ่และอุทิศผลบุญให้กับคนเป็นและผู้ที่ล่วงลับไปแล้วนั้น ทำได้โดยสรุปสั้นๆ ไม่ต้องยาวอย่างภาคใต้นี้หรอก แหม...ยาวซะเป็นกิโลๆ พระกับแม่ชีสวดจนจบแล้ว โยมยังท่องคำกรวดน้ำยังไม่จบเลย ก็ไม่รู้ว่าจะให้ใครสวดให้ฟังกันแน่ เฮ้อ...เอาละ! ถ้าจะอุทิศให้กับคนตาย ก็กล่าวว่า

    "ขอบุญที่ข้าพเจ้าทำมาดีแล้ว จงเป็นปัจจัยส่งผลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วให้ได้รับผลบุญนี้โดยครบถ้วน โดยสมบูรณ์ มี บิดามารดา ครูบาอาจารย์ ญาติสนิทมิตรสหาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย เพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย พระมหากษัตริย์ไทยและพลโลกทั้งหลาย อีกทั้งผู้ที่ยังไม่ตาย ให้ได้รับผลบุญนี้ ขอจงมีความสุขกันโดยถ้วนหน้าทุกผู้ ทุกนาม ทุกตัว ทุกตนเทอญฯ สาธุ...

    แค่นี้แหละ เราอุทิศให้ด้วยความเต็มใจและตั้งใจ ส่วนผู้ที่ตายไปแล้วนั้น เขาจะได้รับหรือไม่นั่นมันเป็นเรื่องของเขา

    วิธีที่จะรู้ว่าผู้ตายได้รับผลบุญไหม คือ ตอนเรากรวดน้ำกล่าวคำอุทิศแล้ว ให้เราสงบจิตสงบใจสักนิด เราจะรู้สึกขนลุกซู่ตามแขน หรือตามตัว หรือตามหัว นั่นแหละแสดงว่า ผู้รับเต็มใจรับและโมทนาสาธุกับเราแล้ว...

    ส่วนคนเป็น เมื่อกล่าวคำแผ่เมตตาให้แล้ว ถ้าเป็นญาติ เป็นเพื่อนสนิทใกล้ชิดกัน เจอกันก็บอกกล่าวให้เขาโมทนาบุญด้วยปากของเขาเองเลย เพราะบุญย่อมเกิดจากการโมทนา พลอยยินดีในการบุญนั้น...ไม่ต้องไปกล่าว" อิมินา ปุญญะ กัมเมนะ ฯลฯ หรอก มันยาว บางคนยังต่อด้วยคาถาชนะมารอีก และยังท่องอะไรต่ออะไรอีก โอ้ย...ผีที่หิวๆอยู่ พอดีเป็นลมตายไปอีก...ลองท่องดูนะ ไม่ต้องพะวงกับการท่องนักหรอก เพียงขอให้ตั้งใจ บุญก็สำเร็จลง เพราะการตั้งใจแล้ว ถ้าขนลุกก็ ok นะคะ ผู้ตายได้รับบุญนั้น ชัวร์ สาธุจ้า...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กันยายน 2006
  5. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม "น้องโฉ" ไม่ให้เรียกคุณ ก็เรียกน้องซะเลย ตอบมาหลายครั้งแล้ว มันหลุดหายๆ บ่อยจัง คราวนี้คงไม่หลุดอีกนะ เอ้า...

    กรรมที่ได้รับอยู่นั้นมันเป็นกรรมที่ทำไว้ในปัจจุบันนี้เอง...กรรมจากวจีกรรมนั้นก็ถูก กรรมจากการเป็นนักร้อง นักแสดงนี่อีกหนึ่งที่ส่งผลกรรมให้ได้รับในรูปแบบต่างๆกัน รับกรรมในชาตินี้ตอนที่มีชีวิตอยู่นั่นน่ะดีแล้ว บั้นปลายชีวิตจะได้เสวยกรรมดีไง พูดแล้วทำให้นึกถึงตัวเองจัง เอ๊ะ! ทำไมมันคล้ายๆกันจัง

    เอ้า...เล่าให้ฟังแล้วกัน สมัยก่อนบวชนั้นแม่ชี เป็นนักดนตรีและนักร้องมา 17 ปี ร้องเพลงให้เขาตีกัน ดกเหล้ากันมันสุดๆ ใครที่อกหัก ก็ร้องเพลงเศร้าๆให้น้ำตาท่วมผับ ท่วมโรงแรมและค๊อฟฟี่ชอฟเลย เอาใจผู้ฟังน่าดู เพราะหวังทิปนั่นแหละ และมาเปิดผับทำบาร์เอง ขายดะ ทั้งเหล้า นารี แต่ตัวเองไม่ขายนะ แต่ก่อนเล่นอยู่แถวๆสยามสแควร์ พาต้าปิ่นเกล้า ย่านรามคำแหง โรงแรงแอมบาสเดอร์ โรงแรมคริสตันและอีกหลายที่ จนอาเอส...และเสียงทองเรียกไปจะให้อัดแผ่น แม่ชีไม่เอาหรอก กลัวโดนอัดน่ะ เลยไม่ยอมทำเทป ขอเป็นศิลปินเดี่ยวดีกว่า เบื่อคนมากก็มากเรื่อง ตอนนั้นคุณแหวน คุณอัญชลีกำลังดังระเบิด ได้กระทบไหล่ดาราและนักร้องดังๆ เพราะต้องเล่นดนตรีให้เขาร้อง ตั้งแต่คุณใหม่ ยังร้องเพลงไม่ได้เรื่องเลย แม่ชีก็ไม่เบาเหมือนกันนะ แหม...ใครจะนึกว่า "ไอ้ยาตัวแสบ จะกลายมาเป็นแม่ชีสอนธรรมและสอนพระกรรมฐาน" นึกแล้วยังขำไม่หาย...อย่าเพิ่งว่าแก่นะ เพราะคนแก่ชอบพูดคุยเรื่องความหลัง นี่เป็นที่แรกนะ ที่เปิดเผยตัวเอง...

    กรรมที่ทำไว้ตอนนั้นมันเลยส่งผลตอนมาบวชเป็นแม่ชีนี้แหละ เจ็บคอ ลิ้นอักเสบ หมอดึงลิ้นออกมาเสียยาวเลย นึกถึงเรื่องนรกทันที เออนะ เราต้องชดใช้กรรมที่ทำมา คือโดนดึงลิ้น เอา...ใช้เสียให้หมด ตายแล้วก็จบกัน...

    ตอนมาบวชได้ 7 วัน ก็มีอาการแปลกๆ ทำสมาธิจนเกิดตัวรู้ ตัวเห็น คนเลยว่า "บ้า" ส่งโรงพยาบาล หมอให้กินยาบ้าอยู่ตั้ง 3 ปี สุดท้ายทนไม่ได้แล้ว เถียงหมอว่า แม่ชีไม่ได้บ้านะ ทำไมต้องกินยาด้วย หมอยิ่งว่าบ้าใหญ่ โอยๆ...ไม่เอาแล้ว เลิกกินยาเองเลย มันปวดหัวอย่างรุนแรงเชียว จึงรู้ว่าการลงแดงยานั้นเป็นอย่างไร? เอ้า...ตายเป็นตาย เราจะไม่ยอมกินยาอีกเด็ดขาด
    เขวี้ยงยาทิ้งหมด นั่งสมาธิทั้งวันทั้งคืน ให้มันรู้ไปว่าจะบ้า ว่าจะตาย สุดท้ายมันมีลมวิ่งจากไขสันหลังขึ้นไปบนศรีษะแล้วไปวนตรงกลางหัว จากนั้นมาอาการปวดหัวหายเป็นปลิดทิ้งเลย ไม่ปวดหัวมาจนถึงทุกวันนี้นะ ทุกคนที่บวชต่างแปลกใจว่าแม่ชีทำได้ยังไง? สุดท้ายหลวงปู่จึงบอกพวกลูกศิษย์และพระว่า" ไอ้ยามันบรรลุธรรม เป็นพระโสดาบัน"แล้ว จากนั้นมาพวกบรรดาพระเก่งๆรวมทั้งโยมทั้งหลาย ต่างมาทดสอบต่างๆนานา โอย...อะไรกันเนี่ย...ไม่เอาแล้วหนีดีกว่า แต่ก็หนีไม่พ้น ต้องเจอคนลองของกันเรื่อย สุดท้ายปักหลักอยู่กับที่ดีกว่า ไม่สู้ ไม่ถอย ทำไปเรื่อยๆดีกว่า ก็ ok นะคะ

    แม่ชีจึงอยากจะบอกพวกนักร้องนักแสดงสักนิด ตอนมีชีวิตที่รุ่งควรจะทำบุญที่เป็นบุญจริงๆเอาไว้ เพราะอาชีพที่เราคิดว่ามันสุจริต แต่มันก็มีพิษเหมือนกัน รีบทำบุญที่เป็นบุญสูงคือสมาธิเอาไว้ จะได้มีบุญดีมาสนับสนุน เราจะเห็นได้ว่านักร้องนักแสดง ตายดีนั้นมีน้อยนะ อย่าเพิ่งกลัวแต่ให้รีบทำ ถ้าเป็นเพลงธรรมะที่ดี มีประโยชน์ถือว่า ได้บุญ ถ้าเป็นเพลงที่มีแต่มายา รับรองว่า เสร็จแน่ๆ ...

    ส่วนคนที่ทำนายทายทักว่าจะรุ่งนั้น มันรุ่งหลายแบบนะ รุ่งทางโลกอย่างเดียว หรือรุ่งทางธรรมอย่างเดียว หรือจะรุ่งทั้งทางโลกและทางธรรมกัน

    แม่ชีไม่เคยเห็นใครรุ่งทั้งสองอย่างเลยนะ เห็นแต่รู้ทางโลก และกระจ่างทางธรรม

    คนธรรมดาสอนธรรมดี คนไม่ค่อยเชื่อถือสักเท่าไหร่? แต่ถ้ามีเครื่องแบบ โอ้ย...สอนผิดยังฟังเลย...เอ้า...ถ้าจะให้รุ่งก็ใส่เครื่องแบบสิ รับรองว่า ฉลุยเลยนะ...จะบอกให้ อยากดังวิ่งหามัน มันยิ่งวิ่งหนี ไม่อยากดัง แหม...มันดันวิ่งชนให้ดัง ปั้งๆๆ...ดีนะยังไม่เปรี้ยงๆๆ...

    เรื่องผีมีจริงหรือไม่เดี๋ยวจะตอบโดยรวมแล้วกัน แต่อย่างไรก็ขอเป็นกำลังใจให้ตลอดนะ ทำทีละอย่างน่าจะดีนะ...สาธุจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กันยายน 2006
  6. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม คุณ ปู

    ได้คุยทางโทรศัพท์กันแล้ว แต่อยากจะขอคุยในนี้ด้วยจะได้เป็นธรรมวิทยาทานแก่สาธุชนสืบไป

    การแก้บนแทนกันนั้น ได้จ้า...ก็ขนาดลูกไม่สบาย แม่ไปบนเอาไว้ว่า ถ้าลูกหายจากไม่สบาย จะให้ลูกบวชชีตลอดชีวิต เออแน่ะ...พอลูกหายจากไม่สบาย ลูกก็เลยต้องมาบวชเป็นแม่ชีตลอดชีวิตตามที่แม่บนเอาไว้ วันนึงสึกออกไป เป็นบ้าไปเลย ต้องกลับมาบวชเป็นแม่ชีใหม่อีกครั้ง คราวนี้ยังไม่สึกเลยนะ...

    เราจะเห็นได้ว่าบางคนทำงานอะไรก็ไม่ประสบผลสำเร็จสักอย่าง ทำอะไรก็ดีแต่แรกสุดท้ายก็ต้องลากันที พอมาบวชกลับรุ่งกว่าตอนเป็นคฤหัสถ์เสียอีก นั่นเพราะบุญที่เคยบวช เคยทำพระกรรมฐาน เคยกล่าวคำอธิษฐานเอาไว้ในครั้งก่อน หรือในชาติก่อนๆที่ผ่านมา เมื่อมาเกิดในชาตินี้สิ่งที่เคยอธิษฐานไว้ตามมาส่งผล ให้ต้องมาบวชประพฤติธรรม รักษาพรหมจรรย์เพื่อการหลุดพ้น ดีนะอย่างนี้เขาเรียกว่า คนมีบุญ เกิดมาเพื่อเก็บเกี่ยวบุญต่อ เพื่อการหลุดพ้นโดยแท้ แม้จะไม่รุ่งเรืองในทางโลกมาก แต่ก็มีประสบการณ์ผ่านมาพอประมาณ ทำให้เข้าใจโลกมากขึ้น กระจ่างทางธรรมง่าย...

    ของคุณปูนั้นอย่าหวั่นใจไปเลยว่าจะบ้าน่ะ ไม่บ้าหรอก โอกาสในการปฏิบัติธรรมก็มีมาก แม่ชีทำนายให้เลยก็ได้ว่า วันข้างหน้าคุณปูจะได้สืบทอดศาสนา ได้ทำนุบำรุงได้เอื้อเกื้อกูลพระศาสนาต่อไป และยังจะได้บำเพ็ญประโยชน์แก่สาธุชนสืบไปด้วย

    สิ่งที่เราเป็นมา เมื่อผ่านมาได้มันจะเป็นประโยชน์ เป็นธรรมวิทยาทานแก่บุคคลอื่นต่อไป ได้ประโยชน์นะ...

    ตั้งสติให้ดี อะไรที่มันเกิดขึ้นมา ก็ให้รู้กับมัน อย่าหลอกตัวเองและอย่าให้ใครมาหลอกเลย ตั้งมั่นในความถูกต้องและทำให้ถูกกาลเทศะ ดำเนินชีวิตอย่างผู้มีความหวัง เจริญตามมรรคมีองค์ 8 นี่คือทางสายกลาง รู้ตัวทั่วพร้อมกับการกระทำ ทุกคำที่พูด ทุกความคิด

    แม้จะมีเสียงพูดเสียงเตือนจากใครที่เรามองไม่เห็นก็ตามที คิด พิจารณา แยกแยะให้ได้ ที่สำคัญอย่าหลงและอย่าหลอกตัวเองนะ เพราะถ้าเราหลอกตัวเอง คนอื่นที่มองเห็นและมองไม่เห็นก็จะมาหลอกหลอนด้วย

    ตั้งมั่นในพระรัตนตรัย มอบกายและถวายชีวิตแด่พระองค์ผู้ประเสริฐ แด่พระธรรมความจริงที่ล้ำเลิศ แด่พระสงฆ์ผู้ดำเนินตามรอยพระบาทของพระศาสดาผู้ประเสริฐล้ำเลิศกว่าใคร

    ตายเป็นตายถ้าทำความดี แต่อย่าตายแบบผิดๆแบบบ้าระห่ำนะ เดี๋ยวจะตายฟรีๆ เสร็จกัน...

    ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย แต่สุดท้ายความจริงก็ทำให้คนพูดตายเสมอ

    สาธุ...ขอให้มีโอกาสกลับมาเมืองไทย ได้ทดแทนคุณแผ่นดิน ทดแทนบ้านเกิดเมืองนอนไวๆนะ แม่ชีเอาใจช่วยลูกศิษย์คนใหม่จ้า...สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กันยายน 2006
  7. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรมทุกท่าน

    ตอบเรื่อง "ผี" ตรงนี้แล้วกัน ที่ถามว่า ผีมีจริงไหม? ตอบเลยว่า" มีจริง"

    ผีคือคนที่ตายไปแล้ว สังขารไม่มี ถูกเผาไป มีแต่ดวงจิตล่องลอยไปได้ในทุกหนทุกแห่งทุกสถานที่ บางทีคนก็เห็นเป็นรูปเป็นร่าง เป็นเงาลางๆบ้าง นั่นเป็นเพราะความจำได้หมายรู้เดิมของเจ้าของดวงจิต

    ในคนธรรมดาก็สามารถเห็นได้ลางๆ หรือแป๊บเดียว บางทีคนก็ว่าตาฝาด ว่าอุปาทานบ้าง ส่วนคนที่ทำสมาธิจนจิตละเอียดยิ่งเห็นได้ชัดเจน

    แต่ก็นั่นแหละมันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องธรรมชาติ จึงไม่สะทกสะท้านอะไร ผีก็อยู่ของผี คนก็อยู่ของคน

    ผีกับเทวดามันก็สิ่งเดียวกันนั่นแหละ แต่เราเรียกเทวดา เพราะตอนมีชีวิตนั้น เป็นพวกที่มีคุณธรรม ทำความดีมากกว่าความชั่ว เมื่อตายจึงได้เป็นเทวดาตามขั้นต่างๆตามกำลังบุญที่ตนทำไว้
    กินอาหารหรือเสพอาหารด้วยการดมกลิ่น คือตอนเป็นมนุษย์เคยทำบุญตักบาตร เมื่อมาเห็นคนอื่นทำบุญบ้าง ก็นึกได้ว่า เอ้อ...เราก็เคยทำ อิ่มทันที ไม่ต้องนั่งกิน

    ส่วนผีจรจัด ผีตกต่ำ เขาเรียกว่า สัมภะเวสี คือผีที่ไม่มีบุญหรือมีบุญน้อย เปรียบเหมือนพวกขอทาน พวกเก็บเศษอาหารเก็บเศษขยะกิน พวกนี้ตอนเป็นมนุษย์ไม่ค่อยได้ใส่บาตร หรือไม่เคยทำบุญ ไม่เคยได้ร่วมโมทนาบุญ เพราะเป็นคนทิฐิ ไม่เชื่อเรื่อง บาป-บุญคุณโทษ กีดกันและดูถูกผู้ทำบุญ-ใส่บาตร "มักกล่าวว่าทำบุญเสียเปล่า ไหว้เจ้าดีกว่า" เมื่อตายเห็นเขาทำบุญตักบาตรกัน แต่ว่านึกไม่ได้ว่าเขาอนุโมทนาบุญกันอย่างไร? จึงไม่ได้รับบุญนั้น เที่ยวกระเซาะกระเซิงหากินตามของเน่าเหม็น บางทีก็ถูกผีด้วยกันข่มเหง อดโซ เพราะไม่มีฤทธิ์เดชสู้ ไม่มีศักดา ไม่มีรัศมี ก็ต้องล่องลอยวนเวียนรอผู้ใจบุญและมองเห็นให้ช่วยชี้ทางสว่างให้ หากเจอผู้ที่มีตาทิพย์ มองเห็นสัมผัสได้ก็โชคดีไป ถ้าไม่มีใครเห็นก็นับว่าโชคร้าย ทนทุกข์เวทนาอดโซอยู่อย่างนั้น

    แม่ชีเจอผีเยอะ บางทีต้องตั้งให้กินนะ บางพวกก็ไม่ต้องตั้งให้กิน สอนธรรมแป๊บเดียว ยกมือ สาธุเลย...ตอนปฏิบัติใหม่ๆก็มีพวกผีตามขั้นต่างๆมาสอนโน่นสอนนี่ เราก็ทำตาม แต่ตอนนี้ไม่มีมาสอนแล้ว มีแต่ต้องสอนพวกเขา เคยมีผีเกะกะมาราวี แม่ชีชี้หน้าเลย พวกผีด้วยกันก็รุมผีเกเรเลย ตลกดีนะ เหมือนโกหกแต่เรื่องจริง...ยังมีอีกเยอะ

    แม้กระทั่งพวกสัตว์ก็ยังมาฟังธรรมเวลาที่แม่ชีเปิดซีดีธรรมะและเวลาสอนธรรม มันฟังกันเงียบเชียว พอเปิดเพลงประกอบมันส่ายหัวไปมา ดูแล้วก็อดขำไม่ได้ มีทั้งพวกงู พวกงูนี่แม่ชีกลั๊ว กลัว กระรอก ตะขาบ หนู จิ้งจก นกต่างๆ ใครอยากเจอผีก็มาที่แม่ชีอยู่สิ มาพิสูจน์กันก็ได้ ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องพกพาพระมาหรอกนะ เพราะแม้กระทั่งพระก็วิ่งซะจีวรปลิวเลย...

    แต่กระนั้นก็ตามผีหรือเทวดาก็ช่วยอะไรเราไม่ได้หรอก เราต้องช่วยตัวเองก่อน อย่ารอผีหรือเทวดามาดลบันดาลเลย เพราะถ้าผีหรือเทวดาเก่งจริง ก็คงไม่ต้องตายล่ะมั้ง?

    เคยมีผีหรือเทวดามาบอกให้แม่ชีขุดที่บนเขา บอกว่าให้สมบัติทั้งหมดเลย โอ้ย...แม่ชีบอกไม่เอาหรอก ทรัพย์ของแผ่นดิน เราไม่ปรารถนา (พูดเหมือนลิเกเลย) เขาก็ยุยงส่งเสริมสารพัดสารเพ บอกว่านี่เป็นสมบัติของเราเอง เคยเป็นเจ้าปกครองแดนนี้แล้วฝังสมบัติเอาไว้มากมาย ขุดเลย โธ่...ยุจัง ไม่เอา...แม่ชีเลยบอกว่า ถ้ายูแน่จริงก็ขุดเอามาวางให้หรือเอามาถวายให้สิ เรื่องอะไรจะขุดให้เมื่อยให้เหนื่อย ตั้งแต่นั้นมาผีหรือเทวดาเงียบเลย บอกว่า ฉันไม่มีร่างจะขุดได้อย่างไร? ก็แปลว่าไม่แน่จริงนี่ แม่ชีเลยได้ทีพูดตอกกลับไปเลย ผีหรือเทวดาจ๋อยเลย ปัดโธ่...ช่างยุนักนะ ตั้งแต่นั้นมาเวลาไปไหน ผีหรือเทวดาตามเสมอ ไม่รู้จะตามทำไม? เอ้า...เรื่องผีๆมีอีกมากมาย แล้วจะเล่าในโอกาสต่อไป ขอเวลากินข้าวก่อนนะ สาธุ...ธรรมะสวัสดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กันยายน 2006
  8. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    นมัสการ และเจริญสุขเจริญธรรมค่ะ

    วันนี้ยายผีป่าออกมาที่ดรงพยาบาลพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งบ้านค่ะ แต่ให้ผู้ช่วยเก๋ไปดึงไหมออกคนเดียว ชาวบ้านพอรู้ว่าเราจะไปโรงพยาบาลก็ฝากทำนั่นทำนี่ค่ะ มาด้วยก็มี ประหยัดค่ารถค่ะ เราก็ยินดีค่ะ อย่างใครอยากไปไหน ไปคันอื่นเสียค่าเหมารถ มากับบ้านเรา ไม่เปบืองแถมอิ่มท้องค่ะ

    วันนี้ลูกๆ ไม่ต้องไปเรียน พรุ่งนี้ด้วยเพราะโรงเรียนเขาหยุด

    น้องหม่ำ พันธริกา นักจัดรายการ มายไอพีทีวี โทไปหาขอนัดสัมภาษณ์ยายผีป่คืนนี้อีก ประมาณ 1-2 ทุ่มค่ะ จะสัมภาษณ์เรื่อง ตายแล้วฟื้น ตายแล้วไปไหน

    ยายก็บอกน้องหม่ำจ๋า ติดต่อแม่ชีไปรยังจ๊ะ ขอให้แม่ชีท่านคุยเรื่อง ตายแล้วไปไหน ส่วนตายแล้วฟื้น ยายเคยเป็นหลายครั้งตั้งแต่เกิดก็ว่าได้ คลอดมาไม่ถึงวัน ก็ตัวเขียวแระ แต่ฟื้น บ้านนอกเขาเรียกเด็กตายคืน คือ คืนกลับมาหายใจ แต่เหตุการณ์นั้นแม่เล่า เรายังจำความไม่ได้ ครั้งต่อมาคือกินยาของแม่เล่นคิดว่าขนม นี่ก็ไม่ตื่นหลายวัน ตอนนั้นไม่ทันเข้าโรงเรียน จำไม่ชัดอยู่ดี จมน้ำนี่บ่อย จำได้แม่นมาก

    แต่แปลกมาก ตอนที่จมน้ำที่อายุไม่มากนักนะ แบบว่ายังไม่เข้าโรงเรียน เรากลับจำความได้ดี เหมือนมันเพิ่งเกิด เรื่องจมน้ำนี่จำแม่น และจมบ่อยที่สุด ที่ป่วยจนเขาหยุดรักษาเตรียมฉีดยานั้นก็มีค่ะ แต่แม่บอกหมอว่าอีนางมันสั่งถ้ามันตายอย่าฉีดยามัน มันตายคืนบ่อย ก็จะเล่าคืนนี้คร่าวๆ ค่ะ เคยเล่าที่ห้องหมวดจักวานตามลิ้งค์ข้างล่างไว้นานแระ สนใจไปคุ้ยหาอ่านเอานะจ๊ะ ถือว่าอ่านนิทานแก้เครียดเนอะ อย่าจริงจัง เดี๋ยวปวดหัว

    เอาเป็นว่าหากน้องหม่ำติดต่อแม่ชีได้แล้ว คิดว่าคงได้ฟังเสียงแม่ชีคืนนี้นะคะ ที่

    myiptv.tv รายการอะไร ต้องขอให้ท่านที่ยังไม่ได้สมัครสมาชิคขอ
    เวบนี้ ไปสมัครก่อนรายการเริ่มนะคะ จะได้ทันฟังสียงอาจารย์แม่ชี และยายผีป่าจ๊า

    อิอิ...ยายเย้าน้องหม่ำว่าเชิญแต่ยายผีป่า ไม่เชิญคนอื่นมาบ้าง ระวังนะจ๊ะ เดี๋ยวคนจะเซ็งเอาเน้อ

    ยายคงเข้าชมรายการไม่ได้จ๊ะ เพราะเนทไม่สะดวกจ้า

    อนุโมทนาและขอบคุณแม่ชี และสมุน(ท่านพี่) ทั้งสองค่ะที่ส่งพัสดุมงคลมาให้ยายผีป่าด้วยค่ะ ผู้ช่วยเก๋บอกว่าเงินขวัญถุงนี่ ต้องเอาไปต่อยอดอีกมากไหมครับ

    ทางที่ดีทำยอดมาให้เลยยิ่งดีครับ สักแสนสองแสน

    ยายก็เลยบอกว่า น้าน...อย่าทำพูดเล่นไปนะ แม่ชียิ่งใจดีเสียด้วยสิ เกิดส่งมาให้เธอจะกล้ารับรึเปล่าล่ะ อิอิ
     
  9. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    แม่ชีจ๊ะถ้าตอบสดๆ แล้วหลุดนะคะ เพราะว่าเชริฟเวอร์ทำงานหนัก พอเราส่งไปให้กดรีเฟรสเลย คิดว่ามีโอกาสติดค่ะ หรือกันพลาดด้วยการพิมพ์บนโน๊ตเพดแล้วก๊อบมาวางค่ะ หากส่งไม่ผ่านก็ยังมีในเครื่องเนอะ
     
  10. seelerdk

    seelerdk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +180
    กราบนมัสการและโมทนาสาธุครับ
    คำตอบคุณแม่ชีไม่ผิดหวังเลยครับ สั้นกระชับครอบคลุมทั่วโลกเลยครับ ผมจะได้จำไว้ใช้กล่าวหรือระลึกเวลากรวดน้ำอุทิศส่วนบุญกุศลต่อไปครับ และยังได้ทำให้ทราบว่าคนหรือสิ่งที่เราอุทิศให้ได้รับหรือไม่ด้วยการรู้สึกกับตัวเองได้ทันทีด้วยครับ
    ด้วยความเคารพยิ่งและโมทนาสาธุกับผลบุญและธรรมที่คุณแม่ชีได้บรรลุแล้วคือแจ้งในแดนนิพพาน และประจักษ์ในสามัญลักษณะด้วยใจอันประเสริฐครับ
     
  11. KAMALA

    KAMALA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2006
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +138
    กราบนมัสการท่านแม่ชีค่ะ
    คือหนูมีเรื่องจะรบกวนแม่ชีค่ะ (อีกแล้ว)ว่า
    เมื่อไหร่งานหนูมันจะหายยุ่งมั่วซั่วอรีรุงตุงนังคะ มันวุ่นวายมากค่ะ
    เอกสารที่โต๊ะตอนนี้ที่พื้นก็มี งานมาจากทุกทิศทุกทาง เบื่อมากๆๆๆค่ะ
    xระชุมอยู่นั่นแหละค่ะนานๆทีไม่เป็นไร แต่นี่เช้าสายบ่ายเย็นมาราธอนแทบอ้วก
    แก้อย่างไรดีคะ ตอนนี้มีอาการเริ่มมึนๆหัว ต้องทานกาแฟวันหนึ่งไม่รู้กี่แก้ว
    หนูควรทำอย่างไรดีคะแม่ชี
     
  12. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรมลูกศิษย์มือขวา

    แหม...ดีจังที่ถามแทนคนอื่น อย่างนี้เขาเรียกว่า ชอบคิดแทนชาวบ้านนะ เรียกง่ายๆคือ "เสือก" ฮ่าๆๆๆ เอ้า...แต่ว่าเสือกดี มีประโยชน์และเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น อย่างนี้ ได้บุญจ้า...

    ถามว่าจะดูพระอรหันต์ ดูยังไง? แม่ชีเจอแต่คนมาบอกว่าให้ไปไหว้ไปกราบพระอรหันต์สิ และเพิ่งหมาดๆนี่เอง มีพระท่านหนึ่งมาหาถึงที่ แถมยังพ่วงพระท่านอื่นมาให้ช่วยรับรองว่าเป็นพระอรหันต์อีกต่างหาก แม่ชีก็กราบค่ะ แหม...พระอรหันต์ให้เกียรติแม่ชีขนาดนี้ ไม่กราบงามๆได้อย่างไร?

    แม่ชีเลยถามท่านว่า "พระอรหันต์เป็นเช่นใด?" ท่านตอบว่า ถ้าไม่ได้เป็นพระอรหันต์นั้นย่อมไม่เห็นพระอรหันต์ด้วยกันหรอก สาธุเจ้าค่ะ...และมีวิธีดูพระอรหันต์ได้อย่างไร? แม่ชีถามต่อ ท่านตอบว่า มันเป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน ผู้อื่นมิมีวันรู้หรอก แม่ชีก็เลยตอบไปว่า "หรือคะ"

    แม่ชีดูแลพระอรหันต์มาก่อน ไม่เห็นท่านสอนแบบนั้นเลย ท่านกลับอธิบายได้ว่าพระอรหันต์เป็นเช่นใด

    พระท่านก็เลยตอบว่า "งั้นไปที่วัดฉันสิ ฉันจะอธิบายให้ฟังหมดเลย" โอ้ย...ไม่ต้องไปที่วัดท่านก็ได้ อธิบายตรงนี้จะเป็นไรไป ญาติโยมของแม่ชีจะได้รู้ได้เข้าใจและได้เห็นพระอรหันต์ด้วยไงคะ?

    พระท่านตอบว่าไม่ได้หรอก มันรู้ได้เฉพาะตน โอย...ไม่เอาด้วยหรอกเจ้าค่ะ พระท่านอื่นจึงกล่าวแทนว่า พระรูปนี้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ต้องบวชในวันที่บรรลุเลย ถ้าไม่บวชก็ต้องตาย แม่ชีปากคันเลย พูดว่าก็เห็นท่านมาหาแม่ชีตั้งแต่ยังไม่ได้บวชหลายครั้งแล้ว มาถึงก็มาสอนต่างๆนานา บอกว่ารู้หมด รู้แจ่มแจ้ง พอถามก็ไม่เห็นตอบ แถมยังมาขอซีดีของแม่ชีเอาไปให้คนที่ท่านสอนไม่ได้อีกฟัง ก็ไม่เห็นท่านตายนี่ ทำไมคะ? ถ้าเป็นพระอรหันต์บวชแล้วจะไม่ตายหรือคะ? ถ้าเป็นเช่นนั้นพระพุทธเจ้าตายทำไม? พระอรหันต์ต่างๆตายทำไม? เฮ้อ...

    เอาละแม่ชีจะขออธิบายการดูพระอรหันต์ให้นะ "ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้มักไม่จริง" ไม่ได้หมายความว่า พระอรหันต์ท่านไม่พูดนะ ท่านพูดแต่ท่านไม่อวดตัวเองว่าเป็นพระอรหันต์ หรือถ้าจะอวดก็ต้องเป็นพระอรหันต์จริง คือ ท่านจะต้องได้ ปฏิสัมภิทาญาณ 6 อภิญญาและวิชชา 3 คือเรียบเรียงคำพูดได้ดี รู้ทั้งอรรถะและพยัญชนะ ถ้อยความนั้นมีเหตุมีผล สามารถรู้ว่าบุคคลนี้ควรให้ธรรมข้อใด คนแบบนี้ควรสอนแบบไหน บางทีไม่ต้องพูดสอน แต่แสดงท่าให้ดู ทำให้ดู มีปฏิภาณไหวพริบสามารถแก้ต่างและตอบโต้แก่ผู้ถามได้ รู้อดีต รู้ปัจจุบันและรู้อนาคต และไม่เสือก มีอภิญญา ทำอะไรได้จริง มีฤทธิ์คือสามารถสะกดคนฟังได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ยึดถือยึดมั่นในตัวตน ไม่เรื่องมาก ไม่เจ้ายศเจ้าอย่าง เป็นธรรมชาติ สามารถบอกธรรมที่ตนบรรลุได้ อธิบายได้ว่าบรรลุธรรมเวลาใด ที่ไหน?พยากรณ์ตนเองได้

    ที่สำคัญท่านไม่หลอกลวงหรือต้องให้ใครมาสนับสนุนการเป็นพระอรหันต์หรอกค่ะ "ปัจจัตตัง" หมายความว่า รู้ได้เฉพาะตนในคนที่ทำ คือรู้อารมณ์ (จิต) ของตัวเองอย่างกระจ่างและสามารถอธิบายให้คนอื่นรู้ได้ด้วย เมื่อรู้อารมณ์ของตัวเอง การจะรู้อารมณ์ของคนอื่นย่อมง่ายมาก นี่คือ ปัจจัตตัง ไม่ใช่รู้แต่อธิบายไม่ได้ นั่นก็เท่ากับไม่รู้

    พระอรหันต์ที่ท่านไม่สอนคนกับสอนคนนั้น ไม่ได้หมายความว่าท่านไม่รู้และพูดไม่เป็นนะ ที่ท่านไม่สอนคนเพราะคนพวกนี้อินทรีย์ยังไม่แก่กล้า คือพูดไปสอนไปก็เท่านั้น เพราะมันไม่รับฟัง เปลืองน้ำลายเปล่าๆ "พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง" บางทีมันโกรธอีก จึงไม่สอนไม่พูดดีกว่า

    พระอรหันต์มีทั้งพระ ,แม่ชี ,เณร,คฤหัสถ์ มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าจะเป็นอรหันต์กันเฉพาะพระ หรือผู้ใหญ่หรอก ในโลกนี้ยังมีพระอรหันต์อีกมากมาย ตราบใดที่สาธุชนทั้งหลายยังคงดำเนินตามมรรคมีองค์ 8 ตราบนั้นพระอรหันต์ไม่หมดโลกเด็ดขาด

    "พระอรหันต์นั้นมีมาก แต่พวกหันซ้ายหันขวานั้นก็มีเยอะ ยิ่งพวกที่หลงตนเป็นพระอรหันต์ยิ่งมีมากมายกว่า" แต่ยังไงก็ขอกราบทุกท่านที่กำลังจะเป็นพระอรหันต์นะ ถ้าหาพระอรหันต์ไม่พบ ก็ทำตัวเองให้เป็นพระอรหันต์ซะก็สิ้นเรื่อง อ้อ...ลูกศิษย์บอกว่า ทำไมอาจารย์ไม่บอกว่าเป็นพระอรหันต์ล่ะ? เฮ้ย...วันนี้ยังหันซ้ายหันขวาอยู่เลย แต่พรุ่งนี้ขอเป็นพระอรหันต์บ้างก็แล้วกันเด้อ...อ้อ...มีอีกอย่าง ผู้ที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์นั้น ส่วนใหญ่จะได้รับการกล่าวจากจิตว่า "เอหิภิกขุ อุปสัมปทา" ส่วนแม่ชีนั้นได้คำว่า" เอหิภิกษุณี อุปสัมปทา เมื่อตอนเข้าพรรษาที่แล้วเจ้าค่ะ" พรรษานี้ยังไม่รู้จะได้อะไร? ขออย่าให้ได้ดังเปรี้ยงก็แล้วกันนะ เอาละรู้แล้วนะว่าการจะดูและรู้กับพระอรหันต์เป็นเช่นใด? ส่วนใครบอกว่า เขาเป็นพระอรหันต์ก็สาธุกับเขาเถอะ เผื่อว่าวันข้างหน้าเขาได้เป็นพระอรหันต์ เราก็จะได้บุญไปด้วยคือแม่พลอยไง สาธุจ้า....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กันยายน 2006
  13. nongkull

    nongkull เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +141
    ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

    กำลังเข้ามาอ่านในเวบ ก้อมีไปรษณีย์มาส่งของ ออกไปรับมาเห็นจ่าหน้าซอง
    มือสั่นเลยค่ะ ยิ่งตอนเปิดออกดู เห็นสิ่งของข้างใน ปลื้มใจจนบอกไม่ถูก ไม่คิดว่าจะได้รับ ในใจอยากได้มาก ๆ ค่ะ เพราะเชื่อมั่นและศรัทธาในแม่ชีมากค่ะ ขอบคุณคุณหงสนาถและแม่ชีมาก ๆ ค่ะ ยิ่งดูราคาค่าส่ง กับสิ่งที่ได้รับตกใจค่ะ มากมายจนบอกไม่ถูก ตั้งใจจะเก็บไว้บูชาอย่างดีเลยค่ะ
     
  14. edtaro

    edtaro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +618
    กราบนมัสการท่านอาจารย์ครับ ขอให้หายป่วยไวๆ ลูกศิษย์ทุกคนกำลังเป็นห่วงกันนะครับ
     
  15. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม และสวัสดีคุณ kamala

    แหม...ตอบมาหลายครั้งแล้ว หลุดทุกที เฮ้อ! แต่ไม่เบื่อที่จะตอบนะ เอาละ...

    งานคือ เงิน เงินคืองานบันดาลสุข ทำงานให้สนุก เป็นสุขกับการทำงานดีกว่า ไม่มีงานก็ไม่มีเงิน อย่างว่าแหละ คนมีคุณภาพใครๆก็ไว้ใจมอบงานให้ทำ คนด้อยคุณภาพใครที่ไหนจะไว้ใจให้ทำงานให้ล่ะ?

    ภูมิใจในตัวเองเถอะที่งานเยอะจนยุ่ง อย่าเพิ่งอ๊วก เพราะคนที่อ๊วกมักมีปัญหานะ...งานบางอย่างถ้ารู้จักไหว้วานคนอื่นเขาบ้างก็น่าจะดี มีขนมหวานๆมาฝาก เช่น ทองหยิบ ทองหยอดหรือว่าขนมจีบ อะไรอย่างเงี้ย ใช้ฝีปากให้เป็นประโยชน์ เช่นงานเอกสาร งานจับกัง ไม่ต้องทำเองก็ได้...พูดหวานๆ รับรองมีแต่คนช่วยทำ

    อย่าปล่อยให้งานคั่งค้าง อันนี้อยู่ในมงคล 38 เหนื่อยนักก็พักสักหน่อยแต่อย่าพักนานเกินไปนะ รีบในเวลาที่ควรรีบ ช้าในเวลาที่ควรช้า อย่ารีบทำ แต่ให้ทำไวๆ งงไหมล่ะ?

    ทำงานอย่างสนุก ทำไปร้องเพลงไป ยักย้ายตัวบ้าง เป็นการออกกำลังกายไปในตัว เครียดมากเดี๋ยวแก่เร็วนะจะบอกให้...

    ทำอะไรที่ไม่ต้องเหมือนเดิมและไม่เหมือนใครบ้างก็ได้ ไม่ได้บ้านะ เราจะได้รู้ว่าคนรอบข้างของเรา เขาคิดอย่างไรกันบ้าง? ก็เท่านั้นเอง...

    แม่ชีมีงานมากกว่าอีก แถมเงินก็ไม่ได้ บางทีต้องควักจ่ายออกไปอีก แต่พอใจและสบายใจเสมอ รีบทำงานซะจะได้เสร็จเร็วๆ

    เอาใจช่วยตลอดกาลจ้า งานมันยุ่งก็อย่าทำใจให้มันยุ่งเหมือนงานสิ ดีออกมีงานมาก เท่ากับเรามีคุณภาพ...เบื่อทำงานที่นั้นเมื่อไหร่? ก็มาอยู่หมู่บ้านคานทองนิเวศน์ด้วยกันก็ได้ ยินดีต้อนรับเสมอ ทำงานทางกายมันเหนื่อยไม่เท่างานทางใจหรอก...กินยาแล้วทำงานต่อไป ยิ้มเข้าไว้ สู้ตายค่ะ....เดี๋ยวก็เสร็จไม่นานหรอก...

    ในโลกนี้ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วไม่ต้องทำงาน งานที่แต่ละคนทำนั้นมันก็ต่างกัน แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ต้องทำและเป็นหน้าที่ๆทุกคนต้องทำ คือ "ทำให้ตัวเองพ้นทุกข์ " เอ้า...ขอให้พ้นทุกข์เร็วๆนะ สาธุจ้า...ธรรมะสวัสดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กันยายน 2006
  16. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรมทุกท่าน

    วันนี้อยากจะกล่าว "เรื่องเกิดแต่กรรม" กรรมคือพฤติกรรม หรือกิริยา ที่เราได้กระทำ ได้แสดงเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นทางกาย ทางวาจา หรือทางใจก็ดี เมื่อทำแล้วย่อมส่งผลทุกด้าน

    ท่านจึงกล่าวว่า คำพูดที่พูดออกไปแล้ว เรียกกลับคืนไม่ได้ ฉะนั้นทุกคนจึงควรตระหนัก ตั้งสติให้ดี รู้ว่าเราพูดอะไรไว้ ทำอะไรไว้ หรือคิดอะไร ไม่ว่าจะเป็นทางบวกหรือทางลบ ก็ย่อมก่อเกิดเป็นกรรมทั้งสิ้น

    แต่ว่าคนธรรมดามักจะทำอะไรออกมาแล้วจำไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่คิดนะ คิดแต่จำไม่ได้ ลืมไป พอผลกรรมไม่ดีตามส่ง ก็โวยวาย ตีโพยตีพายว่าใครทำ ทั้งๆที่ตัวเองทำเอาไว้ มันจึงส่งผลกรรมให้ตนได้รับ จนบางทีต้องวิ่งหาผู้อื่นให้ช่วยดูว่าตนทำกรรมอะไรเอาไว้

    พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า "ผู้ใดคิดว่าผลกรรมที่เกิดที่ได้รับนั้น เป็นผลกรรมในอดีตชาติทั้งหมดนั้น เป็นมิจฉาทิฐิ คือคิดผิด เห็นผิด เพราะผลกรรมที่ทำในปัจจุบันขณะก็ส่งผลเช่นกัน หรือเหตุมาจากอุณหภูมิ หรือเสมหะก็ดี ธรรมชาติก็ดีเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิด กรรมทั้งสิ้น หนทางที่จะแก้กรรมให้ได้ผลที่สุด คือ หาสาเหตุของกรรมเสียก่อน เมื่อหาสาเหตุได้ว่ามาจากกรรมอะไร ก็หาวิธีแก้กรรมนั้นให้ถูกต้อง ลงมือกระทำโดยไม่ย่อท้อกับอุปสรรคและความลำบาก เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายนั้น หลายคนไม่เชื่อมั่นในตัวเอง เพราะไม่เข้าในสัจธรรมของโลก อีกทั้งรับไม่ได้กับความเป็นจริง จึงวิ่งหนีความจริง ไปรับเอาสิ่งปลอม หลอกตัวเองไปวันๆ สุดท้ายก็เหนื่อยกับมัน เหนื่อยเปล่า เพียงแต่เราหยุดสักนิด ความคิดดีๆก็จะวิ่งผ่านเข้ามาในความนิ่งนั้น" นิ่งเพื่อเกิดสิ่งดีๆ ในความนิ่ง"

    หากเราไม่เริ่มนิ่ง เราก็จะไม่รู้ว่า นิ่งเป็นแบบใด คำว่านิ่ง คือ นิ่งจากความเร่าร้อน ทุรนทุราย กระวนกระวาย เรียกง่ายๆคือ นิ่งจากสิ่งที่เข้ามากระทบเร้า รับรู้อย่างผู้ชาญฉลาด

    ไม่ใช่นิ่งแบบซื่อบื้อ...แต่นิ่งเพื่อสยบความเร่าร้อน ความทุรนทุราย ความอยากทั้งหลาย ตัวรู้จะเกิดในความนิ่งนี่แหละ ต้องทำเสียก่อนจึงจะเข้าใจ จึงจะรู้ได้ ถ้าไม่ทำ บอกให้ตายก็ไม่รู้ เพราะว่าไม่ทำและทำไม่ได้

    พูดนั้นอาจจะง่ายแต่ถ้าทำมันอาจจะยากกว่าการพูด แต่ก็นั่นแหละ ทำไมหลายคนจึงพูดได้ ก็แปลว่าเคยมีคนทำได้มาแล้วหลายคนเช่นกัน

    มันก็ไม่ต่างกันนักเท่าไหร่ เพียงแต่ว่า เราทำมันแล้วหรือยัง? ดวงดาวจักมีผลอะไรกับเราเล่า? ฟ้าลิขิต พรหมลิขิต หรือเราลิขิตเองกันแน่ คนโง่เท่านั้นที่รอคอยให้ฟ้าลิขิต พรหมลิขิตและให้ใครต่อใครมาลิขิต

    ส่วนคนฉลาดมักจะเฝ้าพยายามลิขิต ขีดเขียนชีวิตของตัวเองให้สำเร็จตามเป้าหมายและจุดมุ่งหมาย เกิดแต่กรรม จึงเกิดขึ้นโดยเราเป็นผู้กระทำโดยแท้ แล้วใครจะแก้ให้ได้เล่า?

    เมื่อเกิดทุกข์มนุษย์ผู้โง่เขลา ก็ถือเอาต้นไม้บ้าง ภูเขาบ้าง แม่น้ำ ลำธารบ้างเป็นสรณะ ส่วนผู้ฉลาดย่อมถือเอา พระธรรมเป็นสรณะ จันทรุปราคา สุริยุปราคา เราเคยเข้าใจผิดว่า เป็นเพราะราหูอมจันทร์ ตีเกราะเคาะไม้กันสารพัด

    สุดท้ายก็เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติทั้งสิ้น คนเลิกโง่งมงายกันมาก แต่ก็ยังมีคนโง่งมงายอีกเยอะ บัวจึงมี 4 เหล่าและอาจจะมีถึง 5 และ 6 เหล่าตามสภาพการแจกแจงของบัณฑิตทั้งหลาย

    คุณล่ะเป็นบัวชนิดไหนกัน?.... บอกหน่อยได้ไหม? ๆๆๆหาคำตอบให้ตัวคุณเองแล้วหรือยัง? ธรรมะสวัสดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กันยายน 2006
  17. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม

    มีลูกศิษย์โทรฯจากรุงเทพฯมาถาม จึงขอนุญาตนำมาตอบในกระทู้นี้ เพื่อการเป็นประโยนช์ต่อไป เขาถามว่า" ในปีนี้ ถ้าใครทำความดี ความดีนั้นก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 9 เท่าและถ้าใครทำความชั่วความชั่วก็จะเพิ่มเป็น 9 เท่าด้วยเช่นกันเนื่องจากเป็นปีที่นรกสวรรค์เปิด อาจารย์ว่าเป็นแบบนั้นหรือเปล่าครับ?" ลูกศิษย์ผู้ชายถามมา

    ตอบ...นรกและสวรรค์นั้นมันก็เปิดอ้าอยู่ทุกวันนั่นแหละ มันเป็นอุบายชวนให้คนสร้างความดีกันมากๆไง เพราะตอนนี้สังคมโลกมันวุ่นวายเสียเหลือเกิน ตีกัน ฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวัน คนฉลาดจึงหาอุบายบอกให้คนโง่รู้จะได้หยุดทำชั่วและหันมาสร้างความดีกันก่อน แล้วค่อยตีกันทีหลัง

    คนเราพอทำความดีมากๆมันก็จะกลัวความชั่วไปเองนั่นแหละ ไม่ใช่ว่าทำดีวันนี้แล้วดีจะส่งให้ได้บุญมากจนไม่ต้องทำดีต่อเสียเมื่อไหร่? แต่ถ้าทำดีเรื่อยไปทุกเวลานาทีทุกชั่วโมง ทุกวันเป็นต้นไป บุญก็มีมากขึ้นโดยลำดับ กลายเป็นได้บุญหลายเท่าทวีคูณ แต่จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะ เป็นอุบายที่แยบยลและแยบคายมากเจ้าค่ะ

    เอ้า...ใครทำความดี เลิกตีกัน เลิกด่ากัน เลิกประท้วงกัน หันมาสร้างความดี คือ พูดดีจะได้เป็นศรีปาก ทำการกระทำที่ดีไม่มีภัยแก่คนอื่น คิดในทางที่ชอบ ก็จะได้บุญตลอดเป็นหลายเท่าทวีคูณทีเดียว

    "หยุดทะเลาะกันก่อนได้ไหม?" ทำอะไรที่ดีๆ เพื่อพ่อแม่บ้างได้ไหม? ทำอะไรที่ดีๆเป็นไหม? ทำอะไรที่ดีๆใส่ตัวได้ไหม? และหัดทำอะไรๆที่ดีๆแก่คนอื่นก่อนบ้างได้ไหม?

    นี่คือคำขอร้องและวิงวอนจากแม่ชีตัวน้อยๆ และน่ารักตลอดจ้า...สาธุ...ขอให้เมืองไทยและทั่วโลกสงบไวๆด้วยเถิดเจ้าข้า...

    แหม! "ทับหลัง"โดนทับไปถึงไหนแล้ว ไม่ส่งทัพมาช่วยเลย ปัดโธ่...เดี๋ยวตัดออกจากกองมรดกเลยนะจะบอกให้ ทัพหน้าก็ยังไม่มาและยังไม่มี ปีกขวาก็อ่อนแรง เพราะอ่อนซ้อมรักไปหน่อยละจ้า...ปีกซ้ายหายหัวไปไหน แหม...ทิ่มน้ำเกลือแล้วก็หายไปกับสายลมและแสงแดดเลย กลายเป็นใบไม้แห้ง ใบไม้เหี่ยวหมด สุดท้ายเหลือเราคนเดียว"ตะวันทอแสงและดาวชมพูจ้า"( อันนี้เป็นนามปากกาของแม่ชีเอง)

    แต่ยังไม่ยอมแพ้เพราะมีทัพใหม่ๆมาให้กำลังใจเพียบ ฮ้าๆๆๆๆ หายจากเป็นไข้ มีแรงแล้ว สู้เจ้าค่ะ...แต่ยังไม่ยอมตายเด็ดขาด เอ้า...ฮึด จ้ำ ฮึด ธรรมะสวัสดีจ้า...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กันยายน 2006
  18. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม

    วันนี้ไม่เห็นโจโฉยกทัพมาเลย ปล่อยให้ขงเบ้งลุยเดี่ยวเชียวนะ
    กวนอูก็ไม่มา.....
    เล่าปี่ก็หายหน้า......
    เอ้า...ขอมือหน่อยจ้า...
    เลือดนักสู้มันกระฉูด เลยย้อนยุคไปหน่อย ยังไม่บ้านะ ให้ขำเล่น แต่เป็นความนัยนะจ๊ะ
    สิ้นเดือนจะไปพม่า กลับบ้านเก่าพร้อมกันทั้ง 3 นายจะได้โอลั่นล้ากันละ...
    อยากชวนยายผีป่าไปด้วยจังจะได้ครบทีม ลองคิดดูดีไหม? เดี๋ยวมือขวาจะจัดให้....สาธุจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กันยายน 2006
  19. benyapa

    benyapa ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,088
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">กราบนมัสการแม่ชีและกราบขอบพระคุณนะคะสำหรับคำตอบและคำแนะนำค่ะ ปูยินดีที่แม่ชีตอบในนี้ด้วยค่ะ จะได้เป็นวิทยาทานอย่างที่แม่ชีบอกน่ะแหละนะคะ ปูจะน้อมนำสิ่งที่แม่ชีแนะนำไปปฏิบัตินะคะ ก็ขอให้เป็นอย่างที่แม่ชีทำนายด้วยเถิด สาธุค่ะ ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ
    บุญรักษานะคะทุก ๆ ท่าน
    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. โจโฉ คร้าบบบ

    โจโฉ คร้าบบบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2005
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +1,550
    นมัสการครับ

    เวลาผมโพสที ก็ยาวๆ กลัวจะเบื่อกันหล่ะครับ เห็นว่าแม่ชีไม่ค่อยสบายด้วย
    ก็เลยไม่ได้เข้ากระทู้นี้ ประกอบกับ งานแปลงไฟล์ส่งต้นฉบับเสียงธรรม ค่อนข้างหนักเอาการ และก็แต่งเพลงส่งประกวด เสียงรอสาย ของเอไอเอส ด้วยอะคับ เผื่อจะมีทุนไว้ซื้อยารักษาตัวบ้าง อิๆๆ

    วันนี้ได้รับแล้วนะครับ มากมายก่ายกอง แถมได้ของแถม จากผู้ไม่ประสงค์ออกนามอีกกล่องเบ้อเริ่ม ต้องกราบขอบพระคุณ แม่ชี และผู้จัดส่งด้วยนะครับ ก็กำลังสงสัย นะ เพราะผมช่างสงสัย

    ผมก็เชื่อในเรื่อง อภิญญานะครับ แต่ก็เชื่อในเรื่องกรรมด้วย
    ประมาณว่า สิ่งที่ได้มา จะมีผลกับชีวิตจริงหรือ เงินก้นถุงจะช่วยได้จริงหรือ
    เพราะถ้าเราไม่เคยทำทานไว้ หรือ มีกรรมหนักด้านเงินๆ ทอง ๆ
    สิ่งมงคลทังหลาย ก็คงช่วยได้ยาก

    แต่นึกๆ ไป ผมก็น่าจะมีบุญอยู่บ้างนะ
    บางทีสิ่งมงคล อาจจะไปช่วยกระตุ้น
    เร่งบุญเก่า มาช้อนรับ ให้ผ่านช่วงลำบากไปก็ได้มั้ง

    เหมือนแม่ชี จะพูดเป็นนัย ให้ผมบวชเหรอคับ ก็มีหลายคนบอกนะครับ ว่า ถ้าผมบวช น่าจะดังไวนะ อิๆๆ อาจเป็นพระนักเทศน์ ฝีปากกล้าอีกคน แต่อาจจะออกแนว บู๊ล้างผลาญไปนิดนึง

    แต่คงจะพยายาม อยู่ในเส้นทางนี้ก่อนนะครับ ลองดูอีกซักพัก ก็ว่าจะเริ่มตั้งใจภาวนา ให้ผ่านก่อน ที่จะไปช่วยคนอื่นแล้วครับ รู้สึกว่า กำลังบุญด้านนี้น้อย แล้วเลยไม่ส่งผลให้อันอื่นเจริญเท่าไหร่ ตักบาตรก็แทบไม่เคยตัก เพราะปัจจัยหลายอย่างไม่เอื้ออำนวย

    วันนี้ ก็มีพี่จากในลานธรรม ซึ่งไม่เคยคุยกัน โทรมาหา คุยกันพักใหญ่
    ก็อีกคนหล่ะ เหมือนพี่เขาก็อ่านจิตออก อยู่ดีๆ ก็พูดว่า อีกหน่อย ผมจะก้าวไปมีชื่อเสียง ไปทำอะไรได้อีกเยอะ เขาก็เน้นให้ภาวนาเยอะๆ จะได้ไม่หลง
    แล้วก็สอนให้ระวังเรือ่ง ที่แปลกมาก คือ หลายๆ คนก็เตือนตรงกันนะครับ

    ผมก็ได้แต่ขำๆ แบบ .. ผมมองเห็นแววตัวเองแค่นิดเดียวเองนะ
    อาจจะเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ถ้ายังทำงานกุศลต่อไป เพราะบุคลิก และการพูด
    ค่อนข้าง จะเด่นออกมาเอง ได้ไม่ยาก แต่ถ้าจะให้ดัง หรือได้ดีไปทางไหน
    ก็ยังมองไม่ค่อยเห็น ยกเว้น จะมีบุญมหาศาล มาช้อนรับ ไปอยู่ในที่ ๆเหมาะสม

    จริงๆ ไม่น่าให้เบอร์แม่ชีในกระทู้เลยนะครับ
    น่าจะให้ถามผ่านกระทู้ จะได้ครึกครื้น และได้อ่านคำถาม ตอบ อื่นๆ ด้วย

    ตอนแม่ชีเล่นดนตรี คงเท่ห์น่าดุนะครับ
    ผมศรัทธา พระอ.สมชาติ ธัมโชโต ก็เพราะท่านเทศน์ได้ถึงใจ พอรู้ประวัติ
    ก็ถึงบางอ้อเลยนะ เพราะท่าน เคยเกเรมาก่อน มีประสบการณ์ที่เป็นบทเรียนที่ดี ทำให้สอนและเข้าใจ เข้าถึง และด้วยท่านภาวนาผ่านด้วยหล่ะ บวกๆ กัน เลยได้ภาษา ที่หลายครั้งฟังแล้ว โดนเต็มๆ

    พูดถึงนักบวชที่ผ่าน เรื่องร้ายๆ มาก็ดีนะครับ เพราะจะเข้าใจสังคม และสื่อสารด้วยภาษาเดียวกันรู้เรื่อง หลายท่าน ก็ปฎิบัติดี ท่านก็รู้ธรรม แต่บางครั้ง ไม่เคยผ่านสังคมอีกแบบนึง พอจะสื่อสาร อาจจะพูดกันคนละภาษา และขาดการเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง (มังครับ)

    ตกลง พี่ปู นี่จะได้เป็นแม่ชี ด้วยอีกคนใช่ปะคับ
    ตะหงิดๆ ว่ามีแวว เพราะเห็นแม่ชีบอกว่า พี่ปูจะได้ทำคุณให้พระศาสนา

    แหม.. อนุโมทนาล่วงหน้าเลยครับ เพราะจิงๆ พี่ปูเขาทำประโยชน์ให้โลกมาในวงกว้างพอสมควรอะ บุกป่า ฝ่าโคลน เห็นแล้ว ทึ่งเลย ของผม ทำเหนื่อยจิ๊ดๆ ยังบ่นแทบตาย หุๆๆ

    ตอนนี้ลุ้นนะครับ แต่ก็พยายามไม่หวังอะไร
    ถ้าส่งเพลงไปประกวด แล้วมีคนโหลด ซัก แสน สองแสน คน
    โห.. รับรอง โจโฉ มีทุนประกอบกุศลอีกยาวนานเรย.. คิๆๆ

    ตอนนี้ จากโครงการร้อยแปด ลดระดับมาเหลือไม่เท่าไหร่เองครับ
    เอาเท่าที่ทำได้ ถ้าเพลงรอสาย ประสบความสำเร็จ(แบบ ..มีหวังน้อยมาก) ก็อาจจะได้มีทุน มาทำห้องอัดเล็กๆ ที่พอทำเสียงอ่านได้

    แล้วก็มีทุนสำหรับใช้จ่าย ระหว่างนี้ ทำเสียงอ่าน ป้อนให้สังคม ไรเงี้ยคับ
    แต่ก็ยังลุ้นอยู่ว่า ถ้าทำเสียงอ่าน ในแนว บทความ สั้นๆ
    ถ้าเสนอโครงการผ่านที่ศูนย์คุณธรรม ก็อาจจะมีอะไรมาต่อยอด มีงานให้ทำแบบต่อเนื่องไปอีกนานอะคับ เห็นตอนนี้ น้องที่ทำโครงการด้วย กำลังจะไปเปิดกระทู้ ขอแนวคิด กับรับบริจาคที่ลานธรรมอะครับ

    ตอนนี้ อย่างน้อยๆ ถึงจะทำให้สังคมได้ไม่มาก แต่ก็ยังพอมีอะไรทำ
    แล้วก็มองว่า น่าจะมีอะไรทำไปตลอดชีวิต คิดว่า ลมหายใจที่เหลือ ไม่ได้หายใจรดทิ้งไปเฉยๆ แน่อะคับ

    ลดข้อจำกัด ลดความอยาก ลดความหวังลงมาให้แคบที่สุด
    บางที มันก็สบายดีนะครับ

    ทำได้เท่าที่ทำ แต่ถ้าทำอะไรไม่ได้ คงได้เข้าวัดแน่นอน คิดแล้วยิ่งสบายใจ เพราะมีวัด มีมูลนิธิให้ไปช่วยงานเยอะมาก แต่ใจนึงก้แป้วๆ ถ้าต้องลาจากวงการบันเทิงไป เสียดายความสามารถที่มีอยู่เล็กน้อย

    ผมยังอยากเป็นโจรที่กลับใจ แล้วไปสอนโจร ดึงโจร ออกมามอบตัวอยู่อะคับ

    ไหนๆ มาแล้ว ขอกราบเรียนถามซักข้อนะครับ
    (จริงๆ มีหลายเรื่องอยากถามอะคับ )

    ผมเป็นคนที่ผอมมาก ใครก็บอกว่า น่าจะอ้วนอีกหน่อย
    ทีนี้ ผมก็ทำไง ก็ไม่อ้วน อยากทราบว่า
    มันเกี่ยวกับกรรมอะไร แล้วนอกจากทางวัตถุแล้ว
    เรามีวิธีแก้อย่างไรหรือเปล่าครับ ที่จะทำให้อ้วน

    กราบขอบพระคุณครับผม

    (อ้อ .. สมัยก่อนนานมาแล้ว ผมเคยฝันเห็นตัวเอง ออกรายการ ทไวไลท์
    ภาพและเสียงชัดเจนมาก ติดตา มาจนถึงตอนนี้ ผมว่า ถ้าพี่ต๋อยไม่เลิกรายการไปก่อน ผมตะหงิดๆ ใจว่า จะได้เจอกับพี่เขาจริงๆ นะครับ.. ชักเพี้ยนนะผมเนี่ย อิๆ )

    อ้อ เมื่อคืนได้คุยกับนักร้องอีกค่าย ท่าทางจะเห็นลุ่ทางในการต่อยอดอีกหน่อย
    แล้วศุกร์นี้ ก็จะไปเล่น กับ แตง ปริฉัตร เป็นนักร้องอินดี้ ที่มีเพลงดังเหมือนกัน
    คล้ายๆ ตอนนี้ สวรรค์ อาจจะเริ่มเปิดทาง ให้มีแสงสว่างรำไรนะครับ แต่ก็ไม่หวังอะไรแล้วหล่ะ กลับมาเชื่อเรื่องกรรมอีกที

    คือ ทำดีไว้เท่าที่จะทำได้ เด๋ว ดีมีนส่งผลกลับมาเองแหละ
    ชาตินี้ส่งให้ไม่ทัน ผมว่า ชาติหน้า ผมสบายแน่ๆ หล่ะครับ

    สาธุ อนุโมทนา
    และกราบขอบพระคุณแม่ชี ในความเมตตา ด้วยนะครับ
    ขอบพระคุณ ท่านที่ส่งของมาให้ด้วย ไม่ลงชื่ออะ ผมเลยไม่รู้ว่าใคร
    น่าจะเป็นคุณ หงสนาถ ใช่ปะคับ

    ขอบพระคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...