เรื่องเด่น สมาธิ ทางสงบ ถอดจิต แนวคำสอนสมเด็จโต

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 26 มีนาคม 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    [​IMG]


    พระราชดำรัสคุณธรรมสี่ประการ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    " การรักษาอิสรภาพและความเป็นไทยให้ดำรงมั่นคงยืนยาวไป ถือว่าเป็นกรณียกิจอันสำคัญสูงสุด นอกจากต้องอาศัยการบริหารประเทศที่ฉลาดสามารถ และสุจริตเป็นธรรมแล้ว ยังต้องอาศัยความร่วมมือสนับสนุนจากประชาชนทั้งประเทศด้วย คือประชาชนแต่ละคนจะต้องขวนขวายสร้างสรรค์ประโยชน์ และดำรงอยู่ในคุณธรรมอันสมควรแก่ฐานะของตน คุณธรรมที่ทุกคนควรจะศึกษาและน้อมนำมาปฏิบัติมีอยู่สี่ประการ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ประการแรก คือการรักษาความสัจ ความจริงใจต่อตัวเอง ที่จะประพฤติปฏิบัติ แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นธรรม <o:p></o:p>
    ประการที่สอง คือการรู้จักข่มใจตนเอง ฝึกใจตนเองให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสัจ ความดีนั้น <o:p></o:p>
    ประการที่สาม คือการอดทน อดกลั้น และอดออมที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัจสุจริต ไม่ว่าจะด้วยเหตุประการใด <o:p></o:p>
    ประการที่สี่ คือการรู้จักละวางความชั่ว ความทุจริตและรู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คุณธรรมสี่ประการนี้ ถ้าแต่ละคนพยายามปลูกฝังและบำรุงให้เจริญงอกงามขึ้นโดยทั่วกันแล้ว จะช่วยให้ประเทศชาติบังเกิดความสุข ความร่มเย็น และมีโอกาสที่จะปรับปรุงพัฒนาให้มั่นคงก้าวหน้าต่อไปดังประสงค์ " <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในพระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า งานเฉลิมสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ 200 ปี ณ พลับพลาพิธีท้องสนามหลวง วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พุทธศักราช 2525<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    ถวายกุศล<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หนังสือเล่มนี้ ผู้เขียน เขียนขึ้นมาจากประสบการณ์ของการอ่าน เรียน ฟังรู้และปฏิบัติและเก็บประสบการณ์จากการอบรมสั่งสอนตามแนวคำสอนของครูอุปัชฌาย์อาจารย์ทุกๆพระองค์ ทุกๆท่าน ท่านที่ได้กรุณาถ่ายทอดแก่ผู้เขียน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ส่วนใดที่เป็นความดีที่เป็นกุศล ผู้เขียนขอถวายแด่ครู อุปัชฌาย์ อาจารย์ทุกๆพระองค์ ทุกๆท่าน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ส่วนใดที่มีผิดตกบกพร่องล้วนอาจเกิดขึ้น เพราะผู้เขียนเรียนแล้วไม่จำ หรือยังรู้ไม่ถ่องแท้จากบทเรียนผู้เขียนขอน้อมรับความผิดแต่ผู้เดียว และขอขอบคุณคณะผู้ร่วมจัดพิมพ์ ฝ่ายโรงพิมพ์ ฝ่ายเผยแพร่ และคณะฝ่ายวิชาการทุกท่าน ณ โอกาสนี้ด้วย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    กุศลจากการเผยแพร่ หนังสือนี้ ขออุทิศ แด่ผู้ให้กำเนิด ผู้เลี้ยงดูมา ผู้อุปถัมภ์ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรทุกท่านด้วยเทอญ ฯ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    แสง อรุณกุศล<o:p></o:p>
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    บทนำ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ทุกวันนี้ มนุษย์เราเกือบจะเรียกได้ว่า อยู่ในยุคแห่งกลียุคอย่างแท้จริง จะเห็นได้จากภาวะสังคมที่วุ่นวายยิ่งขึ้นทุกๆวัน บรรยากาศในสังคมโลกมนุษย์จึงทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนที่อยู่ในป่าคอนกรีตกำลังถูกบรรยากาศดังกล่าวบีบรัดให้เสียสุขภาพทางจิตอย่างใหญ่หลวง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คณะผู้จัดทำได้เล็งเห็นความสำคัญในอันที่จะต้องช่วยกันแก้ไขภาวะอันเลวร้ายนี้ให้ดีขึ้นด้วยการหาวิธีการอย่างง่ายๆ เพื่อแนะนำทางปฏิบัติให้จิตสงบ รักษาผ่อนคลายความตึงเครียดของจิตและเป็นจุดแห่งการฝึกจิตให้เกิดสมาธิ ก่อเกิดปัญญา ก่อเกิดพลังภายในกายช่วยเสริมสร้างซ่อมแซมให้ผู้ปฏิบัติมีร่างกายแข็งแรง มีพลานามัยสุขสมบูรณ์สืบต่อไป<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ในขณะเดียวกัน ผู้หวังการฝึกสมาธิสูงขึ้นก็จะได้ศึกษาเรื่องการถอดจิตอีกเรื่องหนึ่งเพื่อจะได้เข้าใจเรื่องการพิจารณา กายในกาย จิตในจิต วิญญาณในวิญญาณ ให้รู้ซึ้งเข้าใจมากขึ้น อันจะมีผลต่อเนื่อง เข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรม วัฏฏะสงสาร วิญญาณมีจริงหรือไม่<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สุดท้าย ศึกษาเรื่องผลพลอยได้จากการฝึกสมาธิด้วย อันจะเป็นการเพิ่มพูนความรู้อีกแนวหนึ่ง ซึ่งท่านสามารถพิสูจน์ได้ด้วยการทดลองปฏิบัติ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หนังสือนี้ไม่ใช้เป็นเพียงทฤษฎี แต่เป็นหนังสือภาคปฏิบัติที่ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ดีด้วยตนเอง โดยปราศจากอันตราย เพราะเขียนด้วยภาษาง่ายๆเป็นไปตามขั้นตอนของการปฏิบัติตลอดเล่ม จึงหวังว่า หนังสือนี้จะช่วยให้ท่านฝึกจิตให้สงบได้อย่างแท้จริง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หลักการอ่านหนังสือเล่มนี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอให้อ่านตลอดตามลำดับให้จบเล่มเที่ยวหนึ่งก่อนแล้วจึงอ่านอีกเที่ยวจนเข้าใจความหมายของแต่ละขั้นตอนเพื่อเป็นแผนที่ประกอบการเดินทาง ให้รู้ว่าที่ใดมีหลุมมีบ่ออันอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ แล้วปฏิบัติตามลำดับ ไม่กระโดดข้ามขั้นตอน ก็จะได้ปฏิบัติดำเนินไปด้วยดี<o:p></o:p>
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    ตักเตือนตน<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ตนเตือนตน ของตนให้พ้นผิด<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ตนเตือนจิตตนได้ ใครจะเหมือน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ตนเตือนตนไม่ได้ ใครจะเตือน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ตนแชเชือน เตือนตนให้พ้นภัย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สลัดความชั่วได้ เป็นผล<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ประกอบชอบแก่ตน แน่วไว้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ใจบริสุทธิ์ปราศมูล ทินโทษ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ดังฟอกผ้าขาวให้ เพื่อย้อม สีสวย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    (ของเก่า)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    จากสุภาษิตและคำพังเพยของไทย<o:p></o:p>
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า1<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หยุดพิจารณา<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ด่วนตัดสินใจ โง่เขลาเบาปัญญา<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ไม่เอาอะไรเสียเลย เกิดมาไร้ค่า<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    …………………………………………<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เชื่อมั่นตัวเองมากเกินไปเกิดอัตรายึดมั่นถือตน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    จะมองไม่เห็นความคิดเห็นคนอื่น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ทำให้เกิดช่องว่างได้ง่าย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    …………………………………………..<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ศรัทธาแก่กล้าจัดเกินไปโดยไม่ใช้สติปัญญาพิจารณา<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    จะลุ่มหลงเชื่ออย่างงมงายไร้เหตุผล ทำให้เสียการได้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ………………………………………….<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอเชิญท่านหยุดพิจารณากับเรา แล้วเดินไปสู่<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ทางสงบ ”<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า2<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ท่านเครียดมาทั้งวัน มาพักผ่อนกับทางสงบสักวันละ 10 นาที<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พิจารณาก่อนนอน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ก่อนหลับ ก่อนนอน ให้กราบบนหมอน 5ครั้ง <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ด้วยกราบระลึกถึง พระพุทธ 1 พระธรรม 1<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พระสงฆ์ 1 บิดามารดา 1 ครูอุปัชฌาย์อาจารย์และผู้มี<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พระคุณทุกๆท่าน 1<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    แล้วรวมจิตนั่งสงบครู่หนึ่ง นึกพิจารณาทบทวน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ย้อนหลังตั้งแต่เช้าถึงก่อนนอนว่า ท่านทำผิดศีลข้อไหน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    บ้าง และบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือยัง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอให้ท่านพิจารณาทบทวนแล้วปรับปรุงตนเอง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สู่ทางดีสมกับที่เขาเรียกมนุษย์ว่า “ สัตว์ประเสริฐ ” <o:p></o:p>
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า3<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ภาคโลกียวิสัย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เพื่อฆราวาส สามัญชน ที่ยังอยู่ในโลกียะ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    และเป็นพื้นฐานของการฝึกจิตให้สูงขึ้น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    วิธีฝึกสมาธินี้เป็นวิธีง่ายๆ ที่ไม่เร้นลับซับซ้อน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เป็นวิธีที่เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ช่วยรักษาให้ร่างกาย และจิตใจมีสุขภาพพลานามัยดี<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เพียงแต่ท่าน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ศรัทธาเชื่อมั่น จริงใจ หมั่นฝึกฝนตน ” <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การฝึกสมาธินี้ได้ประโยชน์ทั้งการพัฒนาร่างกาย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    และพัฒนาจิตใจดังต่อไปนี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า4<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ประโยชน์จากสมาธิเพื่อพัฒนาร่างกาย <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    โครงสร้างอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกายคนเรานั้น พอจะแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ คือเส้นประสาท กล้ามเนื้อ และกระดูก<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อวัยวะเหล่านี้แบ่งวงจรการทำงานหลักๆ ดังนี้ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    1. การหายใจและการย่อยอาหาร เพื่อดูดซึมไป หล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    2.การโคจรหมุนเวียนของมวลสาร ที่ถูกดูดซึม เข้าไปในร่างกาย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    3.การขับถ่ายของเสียที่ร่างกายไม่ต้องการออกไป<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การทำงานของร่างกายเรานั้น ไม่ว่าจะคิดคำนึงหรือเคลื่อนไหวก็ต้องสิ้นเปลืองอาหารที่กินเข้าไปและเผาผลาญอากาศดี คือออกซิเจนให้เกิดพลังงาน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การที่เราต้องกินอาหารเพื่อย่อย และดูดซึมไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายนั้น แม้เราไม่กินอาหารหลายวันหรืออดน้ำเป็นวัน เรายังมีชีวิตอยู่ได้<o:p></o:p>
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า5<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    แต่ถ้าเราอดกลั้นไม่หายใจ ไม่ถึง10 นาที เราก็ต้องตาย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คนเรานั้น ตั้งแต่เกิดมาร้องอุแว้ๆ ก็ต้องการลมหายใจ จะเห็นได้ว่าคนเราเมื่อเริ่มมีชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาจนคลอดออกมา ก็ต้องการอากาศหล่อเลี้ยง ร่างกาย แสดงว่ามนุษย์ สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จำเป็นต้องการลมหายใจ ถ้าขาดลมหายใจก็ไม่มีชีวิตอยู่ แม้ลมหายใจเข้าไปหล่อเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอ ร่างกายของคน สัตว์และพืช ก็จะเกิดอาการเจ็บป่วยหรือไม่เจริญเติบโตตามปรกติ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ดังนั้น ลมหายใจจึงมีความสำคัญ มีค่ามหาศาลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิตอย่างยิ่ง ถ้าเราฝึกให้ร่างกายเรามีการหายใจดูด อากาศดีเข้าไปหล่อเลี้ยง ร่างกายอย่างเต็มที่สมบูรณ์ และฝึกหัดให้อวัยวะภายในมีการบีบรัดผลักดันให้เลือดที่ตกค้างอยู่ในส่วนต่างๆให้มีการหมุนเวียนดีขึ้น ก็จะผลักดันถ่ายเทอากาศเสียออกมามากด้วย การหายใจนี้ก็จะได้ใช้เป็นประโยชน์ในการฝึกสมาธิต่อไป<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า6<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ประโยชน์จากสมาธิเพื่อพัฒนาร่างกายมีมากมาย เช่น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    1. คลายความตึงเครียดของประสาท <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การฝึกสมาธิเป็นการฝึกให้จิตใจสงบระงับจากความวิตก กังวล ทำจิตใจให้เป็นหนึ่ง ตั้งมั่นมีสติไม่คิดฟุ้งซาน จิตใจละจากความพยาบาทอาฆาตมาดร้าย เมื่อนั้น ร่างกายเราก็จะแข็งแรงไม่เจ็บป่วย <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สมองและประสาทส่วนต่างๆก็ได้รับการพักผ่อน จากความสงบนั้น คลายความตึงเครียดจากการที่ต้องทำ งานหนักอยู่ตลอดเวลา หัวใจก็ไม่ต้องสูบฉีดโลหิตมาก เป็นการให้โอกาสแก่อวัยวะที่สำคัญเหล่า นี้ได้พักฟื้นบ้างและยืดอายุการทำงานต่อไปได้นาน ไม่เสื่อมสลายก่อนอายุขัยของการเป็นคนที่เกิดมาใช้กรรม ทำให้ไม่เป็นโรคปวดหัวข้างเดียว มึนศีรษะ โรคประสาท โรคนอน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ไม่หลับ โรคหืดหอบ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงโรคกระเพาะอาหาร โรคปวดท้องเพราะประสาทเครียดโรคท้องผูก เป็นต้น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า7<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    2. มีสติสัมปชัญญะ คือเมื่อฝึกสมาธิแล้ว จะทำให้มีอารมณ์ เยือกเย็นสุขุม มีสติกำกับให้รู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา การปฏิบัติงาน มีความรับผิดชอบต่อการงานสูง สามารถแก้ปัญหาการงานและปัญหาชีวิตได้อย่างถูกวิธี เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดเสียหายต่องาน จึงทำให้เป็นคนที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขณะเดียวกัน ไม่เป็นคนเผอเรอ เหม่อลอย สติเลื่อนไหลไม่อยู่กับตัว เป็นการพัฒนาบุคลิกภาพของคนให้มีจิตใจสบาย สงบ เป็นปรกติสุข หน้าตาผ่องใส มีความสง่างาม น่าคบหาสมาคม<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    3.มีจิตใจที่เข้มแข็งหนักแน่นไม่ลังเลสงสัย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คือ สามารถสงบจากความคิดที่ฟุ้งซ่านด้วยความคิดที่เป็นหนึ่งที่จะวิเคราะห์พิจารณาความเหมาะสมของงาน ทำให้มีเป้าหมายที่แน่นอนจึงเกิดความมุ่งมั่นเพียรพยายามที่จะทำงานให้สำเร็จอย่างแน่วแน่ ด้วยความว่องไว กระฉับกระเฉง และเมื่อพบปะปัญหาเฉพาะหน้า ก็สามารถมีสติยั้งคิดด้วยอาการที่ไม่ตื่นตระหนกตกใจ จึงทำให้สามารถแก้ไขเหตุการณ์คับขันจากร้ายให้เป็นดีได้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า8<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ประโยชน์ของสมาธิเพื่อพัฒนาจิตใจ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การเกิดเป็นคนนั้นเป็น “ ทุกข์ ” ความทุกข์เกิดขึ้น โดยไม่เว้นกับคนรวยหรือคนจน คนมียศฐาบรรดาศักดิ์ หรือชนชั้นกรรมาชีพ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องหา “ ทางสงบ ” มาเป็นโอสถระงับและรักษาตนให้พ้น “ ทุกข์ ”<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    “ ความทุกข์ ” เกิดขึ้นเพราะคนเราไม่มีคำว่า “ พอ ” อันการพอนั้นจะเกิดขึ้นต่อเมื่อคนๆ นั้นรู้จักวางตัวไว้ในทาง “ สายกลาง ” แต่จิตใจคนเรานั้นส่วนมากจะเต็มไปด้วยความยึดถืออย่างตาบอด ในความทะยาน อยากได้อย่างเห็นแก่ตัว จึงยากที่จะเกิดคำว่า “ พอ ”<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คำว่า “ พอ ”จะเกิดขึ้นต่อเมื่อคนเรารู้จัก “ หยุด ” ท่านจะค้นพบสัจจะแห่งความจริง รู้จักควบคุมอารมณ์ ขัดเกลาความคิดให้ใสสะอาด ไม่ให้อิจฉาริษยา พยาบาท และอยากได้ของคนอื่น ความโลภ ความโกรธ ความหลง ย่อมลดละค่อยๆ เบาบาง ท่านย่อมมีความสุขบนรากฐานของการที่รู้จัก “ พอกิน พอใช้ พออยู่ ”<o:p></o:p>
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า9<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    แต่การหยุดของคนเรานั้นยากมาก นอกเสียจากท่านได้ควบคุมจิตให้สงบระงับไม่กระวนกระวาย จิตเป็นสมาธิ ท่านจึงจะมีการ “ หยุด ” แล้วท่านก็จะพบ “ ทางสงบ ” ส่งผลให้ท่านเกิดปัญญาสังวรเห็น เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นการลดละกิเลส และค้ำจุนเพื่อนมนุษยชาติด้วยกัน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    โลกทุกวันนี้ถ้าทุกคนมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาแล้ว ย่อมสามารถควบคุมอารมณ์แห่งโลภ โกรธ หลง ได้อย่างแน่นอน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สังคมปัจจุบันเราสามารถแบ่งได้เป็นสองสาย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สายหนึ่ง โลกียะ มีตัวโกรธเป็นกิเลสที่ร้ายที่สุด ถ้าท่านเผลอสติเมื่อใด โกรธง่าย โมโหร้ายมาก เท่าใดแล้ว ท่านยิ่งจะมีโอกาสเป็นพวกของปิศาจ ซึ่งเป็นฝ่ายอธรรมมากขึ้น และยิ่งเดินเข้าใกล้ปากเหวที่จะตกสู่ห้วงนรกอันมืดมนไร้สติที่มองเห็นธรรมแห่งการทำความดีหรือยับยั้งใจในการกระทำความชั่ว ตัวโกรธก็จะบันดาลให้ก่อกรรมชั่วได้นานาประการ สายนี้จึง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า10<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    จำเป็นต้องการการฝึกสมาธิให้มีสติรู้สึกตัวอยู่เสมอ ที่จะควบคุมอารมณ์โกรธไม่ให้เกิดขึ้น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สายสอง โลกุตระ มีตัวหลงเป็นกิเลสที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลงยึดในภพ ในชาติสกุล ลาภ ยศ ติฉินนินทา สรรเสริญ พยาบาท กามฉันทะ และในการตัดกิเลสนี้ก็ต้องมีสมาธิเป็นพื้นฐานเช่นกัน คือเมื่อจิตพบทางสงบแล้ว จึงใช้ช่วงเวลาสงบ ซึ่งเปรียบเสมือนกิเลสที่เป็นคลื่นลมในทะเลแห่ง ความคิดของเรานั้นนิ่งสงบไปชั่วขณะหนึ่งจะเกิดภาวะผิวน้ำทะเลนิ่งเรียบเงียบสงบคล้ายแผ่นกระจกเงาพร้อมที่จะสะท้อนความจริงแห่งสัจจะ ได้ ก็จะใช้บทปลงอสุภะปลงสังขารจนรู้แจ้งเห็นจริงตามกฎแห่งอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และทุกข์ของการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เห็นภัยแห่งวัฎฏะสงสาร เมื่อนั้น ท่านก็จะเดินทางสู่มรรคผล นิพพาน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ทั้งโลกียะ และโลกุตระนั้น มาดแม้นผู้ใดเคยลิ้มรสทางสงบแล้ว ท่านจะพบว่าแม้เงินล้านก็จะหาซื้อทางสงบไม่ได้ เพราะทางสงบคือความสุขสุดยอดที่ต้องปฏิบัติด้วยการควบคุมจิต ให้เป็นสมาธิจึงจะได้ประสบ<o:p></o:p>
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า11<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ด้วยตนเอง และทางสงบเท่านั้น ที่จะช่วยยกระดับจิตของท่านให้สูงขึ้นพ้นจากการเกาะกินของตัว โลภ โกรธ หลง และเป็นการซ่อมสร้างให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงด้วย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ดังนั้น จึงขอเชิญท่านที่มุ่งหาความสุขอันแท้จริง เดินทางไปกับเราไปสู่ทางสงบ ณ บัดนี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    วิธีที่จะปฏิบัติต่อไปนี้ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดซึ่งท่านเพียงแต่อ่านหนังสือออก และปฏิบัติตามก็จะได้ผลแน่นอน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ซึ่งไม่มีอันตรายหรือผลร้ายกับผู้ปฏิบัติแต่อย่างไร<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า12<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คำบูชาพระรัตนตรัย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ก่อนการปฏิบัติกรรมฐาน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ปฏิปัตติบูชายะ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นพระอรหันต์ บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย ได้ตรัสรู้ถูกถ้วนดีแล้ว<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อิเมหิ สักกาเรหิ ตัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ ข้าพเจ้าขอบูชา ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ด้วยเครื่องสักการะเหล่านี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    (กราบหนึ่งครั้ง)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พระธรรมคือศาสนา อันพระผู้มีพระภาคเจ้าแสดงไว้ดีแล้ว <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อิเมหิ สักกาเรหิ ตัง ธัมมังอะภิปูชะยามิ <o:p></o:p>
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า13<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ข้าพเจ้าขอบูชา ซึ่งพระธรรมเจ้านั้นด้วยเครื่องสักการะเหล่านี้ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    (กราบหนึ่งครั้ง)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หมู่พระสงฆ์ผู้เชื่อฟังคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าปฏิบัติดีแล้ว <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อิเมหิ สักกาเรหิ ตัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ ข้าพเจ้าขอบูชา ซึ่งหมู่ <o:p></o:p>
    พระสงฆ์เจ้านั้นด้วยเครื่องสักการะเหล่านี้ <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    (กราบหนึ่งครั้ง)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า14<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ศีลเบื้องต้นที่ต้องจดจำ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    กายกรรม 3 คือ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    1. ห้ามฆ่าคนหรือสัตว์ด้วยมือของตนเอง หรือสั่งคนอื่นฆ่า<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    2. ห้ามทำการลักทรัพย์ด้วยมือของตนเอง หรือ สั่งคนอื่นลักทรัพย์แทนตน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    3. ห้ามทำชู้ด้วยคู่เมียคู่ผัวเขา<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    วจีกรรม 4 คือ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    1. ห้ามกล่าวคำเท็จ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    2.ห้ามกล่าวคำเพ้อเจ้อ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    3.ห้ามกล่าวคำนินทา <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    4.ห้ามกล่าวคำหยาบช้า<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    มโนกรรม 3 คือ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    1.ห้ามมีจิตอิจฉาริษยาเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีกว่าตน <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    2.ห้ามมีใจพยาบาท อาฆาต เบียดเบียน ผู้อื่น <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    3.ห้ามเห็นคนอื่นเป็นคนไม่ดีทั้งหมด<o:p></o:p>
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า15<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ( กรรมทั้ง10 อย่างนี้ คือศีลเบื้องต้นอันเป็นข้อเตือนสติไม่ให้กระทำในสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายทั้งกาย วาจา และใจควรแก่การสังวรของมนุษย์ชาติทุกขณะจิตผู้มีศีลหรือรับศีลแล้ว ต้องไม่พยายามละเมิดและเมื่อทำผิดศีลแล้วจะต้องรู้จักสำนึกผิด เกิดความละอายเกรงกลัวต่อบาป มีความอดทนเพียรพยายามที่จะใช้สติพิจารณารู้เท่าทันกิเลส ไม่ให้กระทำกรรมชั่วร้ายเหล่านี้ และไม่คอยจับผิดผู้อื่น เพื่อเป็นการชำระล้างให้มนุษย์ผู้นั้นสะอาดและบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา และใจ ปราศจากมลทินอันเป็นอุปสรรคกีดขวางกั้นจิต ในการเจริญสมาธิเพื่อยกระดับจิตให้สูงขึ้น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เนื่องจาก การสำรวมในศีล คือการสำรวมกาย วาจา ใจ ให้งดเว้นจากการคึกคะนอง คิดฟุ้งซ่าน และจิตใจว้าวุ่น จึงเกิดความสงบเป็นพื้นฐานเบื้องต้นดังที่ว่า<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ศีลที่บุคคลรักษาดีแล้ว ย่อมเป็นรากฐานที่ดีของการปฏิบัติสมาธิ ” )<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หมายเหตุ ในวงเล็บไม่ต้องสวด<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า16<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คำขอขมาโทษต่อพระรัตนตรัย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    กายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 กรรมทั้ง 10 อย่างนี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    กรรมอันหนึ่งอันใดที่ข้าพเจ้าอาจจะได้มีความสบประมาทพลาดพลั้ง ต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ต่อพระรัตนตรัย ทั้ง กาย วาจา และใจ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอพระรัตนตรัยจงอโหสิกรรมนั้นให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญฯ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พุทธัง วันทามิ ภันเต (กราบ)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ธัมมัง วันทามิ ภันเต (กราบ)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สังฆัง วันทามิ ภันเต (กราบ)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ<o:p></o:p>
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า17<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อุกาสะ อุกาสะ ข้าพเจ้าจะขอถือสัตย์รับศีลต่อองค์พระโพธิญาณ จะขอรับเอาพระสมาธิมาเป็นธงชัย จะระลึกถึงพระพายมาเป็นอารมณ์ กายอย่างหนึ่ง วาจาอย่างหนึ่ง มโนอย่างหนึ่ง จะไม่ให้เป็นกรรมแก่สัตว์และมนุษย์ทั้งหลาย ด้วยข้าพเจ้าจะไม่นิยมไปด้วยมูตรและคูถ สัมผัสถูกต้องรูปเสียงกลิ่นรสโภชนาหาร น้ำฉันและน้ำใช้ พระให้พิจารณาเป็นของปฏิกูล<o:p></o:p>
    เปื่อยเน่าไปทั้งสิ้น เครื่องไม่จีรังนี้ เป็นของพระยามัจจุราชที่ได้หล่อหลอมรูปนี้มาตั้งแต่อเนกชาติ รูปนี้แตกดับไป จะขอวางซากอสุภะนี้ไว้เหนือพื้นพระปฐพี ส่วนนามธรรมของพระนี้ ขอให้แม่พระธรณีจงมาช่วยแบกหามอุดหนุนค้ำจุนข้ามส่งองค์พระพาย จะเสด็จเข้าไปในโลกใหญ่ ขอให้เป็นสุขอยู่ในห้องพระนิพพาน นิพพานะปัจจะโยโหตุ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า18<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    บทแผ่เมตตา<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หมู่สัตว์ทั่วทั้ง พรหมโลก เทวโลก มนุษย์โลก นรกโลก และทั่วทุกอบายภูมิทุกรูปทุกนามจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอให้ทุกรูปทุกนามจงมีแต่ความ สุขกาย สุขใจ อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอให้ทุกรูปทุกนามจงมีแต่ความสบายกาย สบายใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยพิบัติทั้งหลายนั้นเทอญฯ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    (ขอให้ภาวนาสม่ำเสมอ ทุกโอกาสที่อำนวย จนฝั่งแน่นติดใจประทับอยู่ในความทรงจำเกิดความเคยชินจนเป็นนิสัย ฝึกจนรู้สึกว่า แม้ไม่ได้ภาวนา ใจก็ยังแผ่เมตตาอยู่ จะทำให้ท่านพ้นจากจิตใจพยาบาทอาฆาต มีแต่นิสัยที่อ่อนโยน มีจิตใจโอบอ้อมอารี มีใจกว้าง ไม่เห็นแก่ตัว ไปไหนก็จะมีแต่คนเอ็นดูและเมตตา ทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ปราณีช่วยคุ้มครองภัยด้วย)<o:p></o:p>
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า20<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    มอบตัวเป็นศิษย์<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ท่านที่สนใจในการเรียนกรรมฐานนั้น ควรที่จะมอบตัวเป็นศิษย์แด่ครูอาจารย์ผู้อบรม ในการมอบตัวนี้ไม่ต้องการอามิสบูชา คือลาภสักการะแม้แต่ ดอกไม้ ธูป เทียน และสิ่งของทั้งปวง ขอเพียงแต่ท่านตั้งจิตแน่วแน่ด้วยใจจริง ที่มีศรัทธาต่อแนวทางตามหนังสือนี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    (ตั้งใจให้ดี) ระลึกถึงสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พนมมือสวดมนต์ไหว้พระก่อนแล้ว น้อมนำ จิตใจกล่าวเป็นวาจาต่อหน้าพระพุทธรูปดังนี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    “ พนมนิ้วต่างธูปเทียนเหนือเศียรนี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    น้อมศีรษะอัญชุลีแทนบัวขาว<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ใต้แสงธรรมล้ำพิสุทธิ์ผุดผ่องพราว<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ประนมกรจรดเกล้าภาวนา<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอถวายกายใจไว้เป็นศิษย์<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ยึดพระพุทธด้วยจิตศรัทธากล้า<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า21<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ยึดพระธรรมคำสอนชี้มรรคา<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ปฏิปทาพระสงฆ์ผู้ส่งทาง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอให้ครูอบรมบ่มนิสัย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    นำศิษย์ให้รู้คิดทำจิตว่าง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ลดกิเลสภายในให้เบาบาง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ใจสว่างทางสงบพบนิพพาน ”<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การมอบตัวนี้ มีประโยชน์ในการปฏิบัติจิตเรียนกรรมฐานคือ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    1. เกิดความเชื่อมั่นตัวเองมากขึ้นที่มีครูอาจารย์เป็นที่พึ่งทางใจ และปราศจากความลังเลสงสัยในการเรียนกรรมฐาน <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    2. ลดความยึดมั่นถือตน เพื่อมิให้เป็นคนดื้อด้าน จะได้สงบกาย สงบใจ พร้อมที่จะรับคำบรรยายของครูอาจารย์ด้วยความเคารพยำเกรงเป็นการเพิ่มความศรัทธา <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    3. สายสัมพันธ์แห่งธรรมนี้ ครูอาจารย์ย่อมสงเคราะห์ให้ท่านแจ้งในอริยมรรคอริยผล ตามควรแก่อัธยาศัย และปกป้องคุ้มครองให้พ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง<o:p></o:p>
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า22<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    บทอธิษฐานก่อนปฏิบัติฝึกสมาธิ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอน้อมระลึกถึงพระคุณของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี ( ด้วยคาถา ธัมมังอรณัง ) ผู้ประพันธ์พระคาถาอาราธนาบารมี คุณพระศรีรัตนตรัยบทนี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พุทธังบังข้างซ้าย ธัมมังบังข้างขวา<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สังฆังบังกายา อรหันต์บังเกศา<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อะหังพุทโธ ธามะนะโม<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พุทธายะ นะมะพะทะ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    มะอะ อุ อุอะมะ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อะมะอะ สาธุฯ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย คุณบิดามารดา คุณครูอุปัชฌาย์อาจารย์และผู้มีพระคุณทุกท่าน เจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าเขาเจ้าป่า เจ้าเรือน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โปรดช่วยคุ้มครองให้ตัวข้าพเจ้าพ้นจากภัยพิบัติอันตรายทั้งปวง และโปรดส่งเสริมให้สติปัญญาของข้าพเจ้าเจริญยิ่งๆขึ้น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า23<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    (แล้วแผ่เมตตาตามบทแผ่เมตตาหลังบทสวดมนต์)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    (ระหว่างกล่าวคำอธิษฐานคาถาบทนี้ ขอให้จินตนาการ น้อมนำ จิตใจไปตามความหมายของบทคาถาคือ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ได้เห็น บารมีพระพุทธกำลังเข้าบังข้างซ้าย ของร่างกาย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    บารมีพระธรรมกำลังเข้าบังข้างขวาของร่างกาย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    บารมีพระสงฆ์กำลังครอบคลุมบังทั้งร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดทั่วทั้งร่างกายของเราลงมา<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    บารมีพระอรหันต์บังเกศาอยู่ที่ผมเรา<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    จากนั้นระลึกถึงพระพุทธเจ้า 5 พระองค์<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ บังหน้า บังหลัง)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คาถาบทนี้ ยังเหมาะกับการใช้ทุกวันก่อนออกจากบ้านก่อนเดินทาง และภาวนาไปจนเกิดความเคยชิน ก็จะฝังแน่นในใจ<o:p></o:p>
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า24<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    บทแผ่เมตตาหลังจากฝึกปฏิบัติสมาธิจิตแล้ว<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ในขณะจิต “ นิ่ง ” จิตใจของผู้ปฏิบัติจะไม่มีอคติจิตใจเกิดกุศล ดังนั้น หลังจากการปฏิบัติจิตแล้ว ควรกล่าวอธิษฐานดังนี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    “ ด้วยกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ทำจิตสงบไปชั่วขณะหนึ่งนี้ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอถวายกุศลนี้แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกโพธิเจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ เทพ พรหม ผู้สำเร็จทุกท่าน บิดามารดา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ญาติมิตร เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรรมนายเวร <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก จงช่วยปกป้องคุ้มครองมวลมนุษย์ทั้งโลกให้รอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งหลาย ผลร้ายที่จะเกิดแก่ประเทศไทย จงกลายเป็นผลดี<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    และโปรดแผ่พลังจิต แผ่บารมี ช่วยให้ข้าพเจ้าเกิดปัญญาเห็นธรรมด้วยเทอญ ”<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า25<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ข้อควรปฏิบัติก่อนปฏิบัติฝึกสมาธิ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ข้อความต่อไปนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ท่าน ต้องจำและปฏิบัติในระหว่างการปฏิบัติเดินสู่ทางสงบ และจะชนะกิเลสเบื้องต้นด้วยความเพียร และความอดทน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    1) ต้องนอนให้เพียงพอ คือร่างกายต้องได้รับการพักผ่อนพอสมควร แต่ไม่นอนมากเกินไป เมื่อตื่นแล้ว ไม่ควรนอนต่ออีกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ควรนอนกลางวัน เพราะการนอนมากจะทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้มง่วงเหงาหาวนอนอยู่ตลอด ไม่มีเรี่ยวแรง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    2) พยายามหาโอกาส อาบน้ำ หรือ เช็คตัวชำระร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสะอาด จะช่วยเสริมให้จิตใจสดชื่น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    3) หาเครื่องแต่งตัวและสถานที่ที่เหมาะสม ถ้าเป็นไปได้ควรหาเครื่องแต่งกายสีขาวที่ไม่คับแคบไว้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า26<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ใส่ในระหว่างปฏิบัติจิต เพื่อให้หายใจสะดวก เลือดลมเดินหมุนเวียนได้คล่อง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    และหาสถานที่ที่เหมาะสมแก่การฝึกจิต คือเรียบง่าย เงียบ อากาศถ่ายเทสะดวก ร่มเย็นพอสมควร<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สองประการนี้ เป็นการช่วยสนับสนุน ให้จิตใจสะอาดสบายตา สงบได้สมาธิเร็ว<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    4) ข้อควรระวังเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    4.1 หลังจากรับประทานอาหาร แล้วต้องรอให้ผ่านพ้นไปครึ่งชั่วโมง เป็นอย่างน้อยจึงจะนั่งสมาธิได้ มิฉะนั้นแล้วจะทำให้ท่านเป็นโรคกระเพาะอาหาร เพราะหลังจากรับประทานอาหารแล้ว เลือดจะนำธาตุไฟมารวมกลุ่มที่กระเพาะอาหาร มากขึ้นเพื่อย่อยอาหาร ในเวลาเดียวกัน ถ้าเราเข้านั่งฝึกสมาธิ เลือดจะถูกดึงขึ้นเลี้ยงสมองมากขึ้นทันทีที่เราใช้ความคิด จึงทำให้ทั้งกระเพาะอาหารขาดธาตุไฟย่อยอาหาร จะทำให้อาหารไม่ย่อยหรือย่อยได้ไม่ดี จึงเป็นโรคกระเพาะได้ง่าย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า27<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขณะเดียวกัน สมองก็ขาดเลือดมาหล่อเลี้ยง จึงเกิดอาการง่วงเหงาหาวนอน นั่งไม่ได้สติ จิตไม่สงบ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    4.2 ควรที่จะมีเวลา รับประทาน อาหารที่แน่นอน และรับประทานอาหารพอสมควร<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    บางท่านรับประทานอาหารเดี๋ยว 3 มื้อ เดี๋ยว 2 มื้อ เดี๋ยว 1 มื้อ จะเป็นโรคกระเพาะอาหารได้ง่าย ควรที่จะรับประทานเป็นที่แน่นอนว่า จะรับประทานวันละกี่มื้อและควรจะต้องรับประทานให้ตรงตามเวลาทุกวันด้วย โดยเฉพาะสมณเพศแล้วป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหารมาก อาการหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตได้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เพราะว่า " เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร อวัยวะภายในก็จะทำการส่งน้ำย่อย น้ำดี และกรดในกระเพาะอาหารก็จะรวมตัวกันเพื่อย่อยอาหาร ถ้าไม่มีอาหาร น้ำย่อยน้ำกรดเหล่านั้น ก็จะย่อยเนื้อหนังของกระเพาะอาหารและลำไส้ถึงขั้นทะลุได้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อนึ่ง ควรที่จะรับประทานอาหารพอเหมาะ เพื่อให้ร่างกายโปร่งสบายเพราะถ้ามากไป ก็จะทำให้แน่นอึดอัด ง่วงนอน น้อยไปก็ทำให้หิวง่ายจิตใจฟุ้งซ่าน<o:p></o:p>
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า28<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    4.3 สำหรับท่านที่มุ่งหวังโลกุตระควรที่จะงดเว้นหรือหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ควรงดเว้นอาหารรสจัดทั้งหลาย ที่จะกระตุ้นกามตัณหา จำพวกพริก ผักกุยช่าน และดอก (ไม้กวาด) กระเทียม หัวหอม และรับประทานอาหารเนื้อสัตว์ให้น้อยลง แต่ก็ควรจะรับประทานอาหารโปรตีนพวกถั่ว ถั่วเหลืองเพิ่มเติม ถ้าเป็นไปได้ ควรรับประทานอาหารมังสวิรัติก็จะดี<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    4.4 ควรงดเว้นสิ่งเสพติดและมึนเมา ตั้งแต่ยาเสพติดทั้งหลายจนเหล้า บุหรี่หมากพลู ยานัดถุ์ ตลอดจนชา กาแฟที่จะทำให้เกิดความรู้สึกว่า ขาดเสียมิได้เมื่อนึกอยากขึ้นมา เพราะจะทำให้เกิดความหงุดหงิดอารมณ์เสีย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    5) ขอให้ท่านดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนเวลาปฏิบัติจิตและหลังออกจากสมาธิอีก 1 แก้ว เพื่อเสริมให้ร่างกายสดชื่น น้ำนั้นควรที่จะเป็นน้ำอุ่นหรือน้ำสะอาดที่ไม่มีความเย็นด้วย เช่น ไม่ควรแช่เย็น หรือ ใส่น้ำแข็ง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า29 <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    6) รักษาความสนใจไว้ให้ดีด้วยการปฏิบัติจิตให้สม่ำเสมอทุกๆวัน และเป็นเวลาเดียวกันได้ยิ่งดี ต้องไม่มีการนัดกับใครทั้งก่อนและหลังเวลาที่จะฝึกปฏิบัติจิต เพราะจะทำให้เราเกิดความกังวล<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    7) ถ้าจิตรีบเร่ง " อยาก " ได้แล้วท่านจะไม่ได้ เพราะตัว “ อยาก “ คือกิเลสที่ทำให้ประสาทตื่นเต้นเครียด เป็นการบีบรัดให้ประสาท มึนชา ไม่ทำงานอย่างที่เราหวังได้ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    * ขอให้ท่านวางตัวเป็นกลางในการปฏิบัติ ด้วยการประคองความเพียรไม่ให้หย่อนเกินไป และไม่ตึงเกินไป เดินไปเรื่อยๆ ค่อยเป็นค่อยไปด้วยความอดทนไม่ท้อแท้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    * ถ้านั่งแล้วรู้สึกเวียนหัว ด้วยสาเหตุใดก็ตาม มีอาการปวดเสียวหัวใจ หายใจเหนื่อย ปลายมือปลายเท้า เย็น ซีด มีเหงื่อเย็นๆ ซึมออกมานั้น คงจะมีเหตุจากการที่เลือดขึ้นไปหล่อเลี้ยงสมองน้อย อาจจะเป็นเหตุให้เป็นลมหมดสติได้<o:p></o:p>
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า 30<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ท่านไม่ต้องตกใจ ขอให้ค่อยๆถอนออกจากการฝึกสมาธิแล้วนอนราบกับพื้นทำใจให้สบาย ปล่อยให้เลือดเข้าไปหล่อเลี้ยงสมองสักครู่ นอนนานประมาณ 5 นาที ร่างกายก็จะหายเป็นปรกติ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    8) วิธีการถอนออกจากการปฏิบัติจิตทุกครั้ง <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอให้ค่อยๆ คลายออกจากสมาธิ ด้วยการหายใจตามปรกติช้าๆ 10 ครั้ง แล้วถอนหายใจลึกๆ ช้าๆ ตามแบบการฝึกลมปราณ (หน้า 79 ) สัก 10 ครั้ง ให้โล่งอก และตื่นจากภวังค์แล้วค่อยๆขยับร่างกายให้เคลื่อนไหวเล็กน้อย ถอนฝ่ามือที่ซ้อนกันอยู่นั้นออกแล้วมาวางบนหัวเข่า ลืมตาขึ้นเล็กน้อย มองลาดต่ำใกล้ตัวใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างคลึง เบาๆ ช้าๆ ที่ตาสักครู่แล้วจึงลืมตาขึ้นเต็มที่ และถูฝ่ามืออีกครั้งจนร้อนแล้วนวดคลึงตั้งแต่ขมับ ท้ายทอยลงมาต้นคอ ไหล่ แขน หน้าอก หน้าท้อง เอว หลัง ต้นขา แล้วจึงค่อยๆยืดขาออกกระดิกปลายเท้าให้ยืดออกพักหนึ่งจนรู้สึกหายจากอาการชาแข็งกระด้าง<o:p></o:p>
    หน้า31<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ปรับเช่นนี้ จนจิตใจและร่างกายคืนสู่สภาพปรกติ รับรู้สิ่งแวดล้อมเต็มที่แล้วจึงลุกขึ้นจากที่นั่ง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    แม้จะมีคนรีบด่วนมาเรียก ก็ขอให้ท่านใจเย็นๆ ค่อยๆ ขานรับ ค่อยๆ คลายออกจากสมาธิเพื่อให้พ้นจากการสะดุ้งหวาดกลัว อันเป็นเหตุให้สะเทือนกายทิพย์<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เมื่อถอนออกจากการปฏิบัติสมาธิแล้ว ไม่ให้รีบถอดเสื้อผึ่งลมหรือรีบไปล้างหน้าอาบน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นหวัด เพราะขณะที่นั่งฝึกสมาธิจนจิตสงบธาตุทั้ง4 เสมออยู่นั้น ต่อมเหงื่อและรูขุมขนทั่วร่างกายจะเปิดกว้างกว่าปรกติเพื่อขับเหงื่อ เมื่อออกจากสมาธิแล้ว เช็คเหงื่อให้แห้งและรอจนกว่า ร่างกาย ปรับอุณหภูมิให้เสมอกับอากาศแวดล้อมก่อน จึงควรจะไปล้างหน้าอาบน้ำได้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    9) เดินจงกรมหลังจากฝึกปฏิบัติสมาธิแล้วทุกครั้ง ขอให้ท่านเดินจงกรมอย่างน้อย 15 นาที เพื่อ<o:p></o:p>
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า32<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เป็นการบริหารร่างกายให้เลือดลมที่คั่ง ค้างตาม เอ็นตามข้อเดินสะดวกโดยเฉพาะอย่างยิ่งขาจะได้ไม่เสียสุขภาพด้วย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    10) บูชาและน้อมระลึกถึงพระรัตนตรัย ตามบทสวดมนต์ข้างต้น <o:p></o:p>
    ( หน้า 12 ) เพื่อส่งเสริมเกื้อกูลให้ผู้ปฏิบัติสมาธิเกิดความเลื่อมใสศรัทธาบารมีพระรัตนตรัยที่ภาวนาเป็นการสนับสนุนเสริมพื้นฐานของจิตไม่ให้หดหู่ เกิดความหนักแน่น กล้าหาญ เข้มแข็ง สงบ พร้อมที่จะเริ่มต้นฝึกปฏิบัติจิตต่อไป<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    และอธิษฐานตามบทก่อนปฏิบัติฝึกสมาธิ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า33<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คำเตือนขณะปฏิบัติสมาธิ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เพื่อไม่ให้ตกใจขณะปฏิบัติสมาธิ จะต้องพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้ตกใจจนเกิดความกลัว ถ้าเกิดตกใจจากเหตุใดๆก็ตาม ห้ามลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างเด็ดขาด<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ถ้านั่งหลับตาอยู่พบเห็นเป็นนามธรรมคือ พวกวิญญาณแล้ว ให้ตั้งจิตถามไปว่าท่านเป็นใคร มาจากไหน ต้องการอะไร ถ้าวิญญาณนั้นมาดี ก็จะได้รับคำตอบ ถ้าวิญญาณนั้นมาร้ายคือมาเป็นมารผจญหรือว่าเป็นภาพอุปาทานที่ลวงตา หรือว่าเสียงอุปาทานที่ลวงหูจากความคิดจิตใต้สำนึก หรือว่านิมิตที่น่าหวาดกลัวตื่นเต้น ขอให้ท่านวางจิตใจให้นิ่งๆ ระลึกถึงพระรัตนตรัยครูบาอาจารย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำใจดีสู้เสือ และอุทิศกุศลให้อโหสิกรรม แล้ววิญญาณหรือรูปเหล่านั้นก็จะหายไปในที่สุด<o:p></o:p>
     
  20. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    หน้า34<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    แต่ถ้าเป็นการตกใจเพราะเหตุอื่น เช่นเสียงดังหรือจิตใจตกภวังค์ สะดุ้งทำให้ตกใจ ให้ค่อยๆลืมตาขึ้น เมื่อพบว่าเหตุนั้นแม้จะถึงขั้นคอขาดบาดตายก็ต้องทำจิตใจให้สบายก่อนแล้วค่อยลุกจากที่ได้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การปรับจิตหลังภาวะตกใจ ในสภาวะที่จิตใจสงบอยู่ในสมาธิที่นิ่งนั้น ทะเลแห่งความนึกคิดของเรานั้น จะนิ่งเรียบเงียบสงัด ผิวน้ำเรียบเสมอตกอยู่ในภวังค์แห่งความว่างเปล่า<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เพียงสะดุ้งหวาดกลัวจากเหตุใดก็ตาม เสียงดังที่แทรกขึ้นในท่ามกลางความเงียบนั้น จะทำให้ตกใจเหมือนใครเอาก้อนหินปาลงในน้ำอันนิ่งเงียบนั้น หินยิ่งก้อนใหญ่ เสียงยิ่งดัง ยิ่งจะทำให้ผิวน้ำแตกกระจายกระเซ็นแผ่ซ่านเป็นวงคลื่นออกเป็นระลอกๆ มากขึ้น จากศูนย์กลางที่หินปาลงไป และจะสงบลงอีกครั้งด้วยการปรับจิตให้สงบคืนสู่สภาพปรกติ ผิวน้ำทะเล แห่งความคิดของเราก็คืนสู่สภาพเรียบเงียบอีกครั้ง และเมื่อเราตกใจในระหว่างฝึกสมาธินั้น หัวใจจะเต้นแรงผิดปรกติ และปวดเสียวเป็นระยะๆ หน้าจะซีด นิ้วหัวแม่มือ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หน้า35<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ที่จรดชนกันนั้น พอเกิดการตกใจก็จะถูกสลัดออก ขอให้กดจรดชนกันใหม่ และค่อยๆหลับตาลง ถอนหายใจลึกๆ ช้าๆ ประมาณ 5 ครั้ง แล้วเริ่มต้นตั้งจิตใจส่งไปที่กึ่งกลางระหว่างคิ้วใหม่ หายใจเข้าว่า “ พุท ” หายใจออกว่า “ โธ ”ปฏิบัติเช่นนี้อยู่ประมาณ 15 นาที หรือนานกว่านี้ จนหัวใจที่เต้นแรงผิดปรกตินั้นคืนเข้าสู่ภาวะปกติ ความกลัวก็หายไป แล้วจึงค่อยๆคลายออกจากการฝึกสมาธิได้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ภาวะตกใจ เรียกว่า กายทิพย์สะเทือน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ภาวะตกใจแล้วลุกขึ้นวิ่งหนีจากที่นั่ง เรียกว่า กายทิพย์ถูกสะเทือนถึงขั้นแตกกระจาย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ภาวะปรับจิตให้หายตกใจ เพื่อรักษากายทิพย์สะเทือน เรียกว่า ปรับธาตุของกายทิพย์ที่สั่นสะเทือนนั้นให้นิ่งและคืนสู่สภาพปรกติ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อย่าลืมหลักการปรับจิตหลังภาวะตกใจนี้ มีความสำคัญต่อผู้ที่จะฝึกจิตมาก เพราะหลักการนี้ จะทำให้ท่านพ้นจากการเสียสติเพราะนั่งสมาธิ<o:p></o:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...