กรรมที่ทำให้ล้มเหลว(หรือเปล่าคะ)แล้วหนูควรจะแก้ยังไงดีคะ

:'( หลายครั้งที่ผิดหวัง หนูเฝ้าถามตัวเองเสมอว่า หนูพลาดตรงไหน?หนูจะเริ่มต้นทำใหม่ ซ้ำ แล้ว ซ้ำเล่า แต่ก็ไม่เคยสมหวังเลยโดยเฉพาะ การเรียน ที่หนูให้ความสำคัญมาก และบอกทุกคนที่รู้จัก ว่าการเรียนทำให้ คนมีอนาคต แม้เลือกเกิดไม่ได้ เงินทอง หาได้หมดไป ความรู้ไม่มีหมด แต่หนูไม่เคย ประสบความสำเร้จเลย ยิ่งพยายาม ก็ยิ่งเหนื่อย หาเงินมาไม่เคยได้สบาย หมดไปแบบสุญเปล่ากับการเรียน ที่ไม่ได้อะไรขึ้นมา
:'( หนูมองย้อน อดีตชาติ หลายชาติ ก็ไม่รู้สาเหตุ แต่มีชาติที่สงสัย คือชาติที่ผ่านมานี้ละคะ หนูทำงานเป็นสถาปนิก แห่ง1 เหตุการณ์ทีเห็นคือ เพื่อนสาว ท่าทางดีใจ เธอบอกว่า" งานนี้เราตั้งใจมากเลย คิดว่า เจ้านายต้องรับงานนี้แน่นอน" เธอทำท่าทาง เหมือนคนมีความสุข และมองงานด้วยความภูมิใจมากๆเลย เธอวางงานที่โต๊ะหนู(ตอนนั้น เหมือนหนูจะคิดงานไม่ออกเลย)เธอบอกว่า ฝากหน่อยนะ เดี๋ยวจะเข้ามา แล้วเธอก็เดินออกไป สักพักเจ้านายมา เห็นโมเดด และแบบบ้านวางที่โต๊ะ เจ้านายชอบมาก และบอกว่า"แมว ซุ้มทำงานเหรอ โอโฮ้ งานนี้สวยมากเข้าตาผมเลย ตกลงผมเอาแบบนี้เลยนะ "เหมือนหนูพูดอะไรไม่ออกเลยตอนนั้น พอเพื่อนสาวเข้ามา เธอช๊อก พอเจ้านายเดินไป เธอก็ด่าหนูใหญ่เลย แต่หนูจำไม่ได้ แต่ จำในส่วนที่แช่งได้ว่า"ขอให้คนที่ดีแต่ลอกคนอื่น อย่าได้ประสบความสำเร็จในงานที่แกรักอีกเลย ไม่ว่าจะทำอะไรก็ ให้พบให้เจอแต่ความล้มเหลว เพราะแก มันไม่มีสมองคิดเอง"
เพื่อนสาวคนนั้น ก็ได้ลาออก และไปใช้ชีวิตเสเพ ดื่มเหล้า และตายด้วยอุบัติเหตุ
ชาตินี้เธอมาเกิด เธอย้าย บ้านมา หนูก็ย้ายมาเช่นกัน ตอนนี้บ้านเราติดกัน ไม่ว่าบ้านหนูจะทำค้าขายอะไร บ้านเธอก็จะทำตาม และทำได้ดี จนบ้านหนูอยู่ในฐานะ จน
หลายครั้งที่หนูอยากจะไปขอให้เธออโหสิกรรม แต่ไม่รู้ทำไม เธอเกลียดหนูและครอบครัว จน เดินหนี แล้วหนูก็ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไร ไปขอโทษเธอ แต่ทุกครั้งที่เจอเธอ ความรู้สึกหนูคือเธอเป็นเพื่อน ปัจจุบัน เธอเป็นช่างคะ นิสัยเหมือนเดิม คือลุยๆ ห้าวๆ (เธอเรียนปวช มาต่อ ปวส)และชอบดื่มเบียร์ เหมือนเดิม
หนูไม่แน่ใจนะคะ ว่า ใช่เพราะเหตุนี้หรือเปล่าทำให้หนูล้มเหลวเรื่องการเรียน เพราะ หนูย้อนดูหลายชาติแล้ว ก็ปกติดี แต่เพราะงานเพื่อนทำให้หนูได้เป็นหัวหน้าสถาปนิกในตอนนั้นด้วยคะ
ท่านผู้รู้ทุกๆท่านคะ เมตตาช่วยชี้แนะด้วย หนูควรจะทำอย่างไรดีค่ะ ???
หากให้ไปขออโหสิกรรม คงไม่ได้ เพราะลองแล้ว ทำบุญขออโหสิกรรม ก็ทำมาโดยตลอด หนูเสียใจจริงๆ พอจะมีวิธีแก้ไหมคะ ช่วยแนะนำด้วย
ขอบพระคุณล่วงหน้าด้วยค่ะ :'(

 

ถ้ารู้ถึงสาเหตุก็ถือว่าโชคดีที่เจ้ากรรมนายเวรที่กำลังส่งผลอยู่(ทำให้เราล้มเหลว)
ยังมีชีวิตอยู่ มีตัวตน ขอแนะนำให้ไปขออโหสิกรรมกับเค้าโดยตรงด้วยจิตที่สำนึกผิดจริงๆ
จากเบื้องลึกที่สำนึกผิดและไม่คิดจะกระทำกรรมเช่นนั้นอีก เล่าให้เค้าฟัง ถ้าเจ้ากรรมของหนู
ยอมยกโทษให้กรรมนั้นถือเป็นโมฆะ แต่หนูต้องสำนึกผิดจากจิตเบื้องลึกจริงๆนะ
อนุโมทนา

 

ถ้าให้ดีก็ขออโหสิกรรมกับเค้าโดยตรงค่ะ แต่ถ้าไม่มีโอกาสก็ลองใช้วิธีนี้ค่ะ (โดยอ.คณานันท์ ค่ะ) ที่มาเอามาจากกระทู้ :http://palungjit.org/threads/วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ.44604/page-3 หน้า3

ขอให้ทุกคน จับลมสบาย จับภาพพระให้ใสเป็นเพชร แล้วตั้งจิตระลึกถึงศีล ว่าขณะที่ฝึกนี้ ศีลของเราบริสุทธ์ จากนั้นคิดว่า มีตัวเราอีกคนกำลังกราบที่ตักของพระพุทธรูป แล้วอธิฐานขอให้พระบารมีของพระพุทธองค์ท่านมาสถิตเป็นหนึ่งเดียวกับพระพุทธรูปในจิตของเรา ด้วยความศรัทธามั่นคงไม่ลังเล จากนั้น ขอขมาพระรัตนไตยว่า

"กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงละเมิดต่อพระรัตนไตยและสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ใจ จะเจตนา และไม่เจตนา จะระลึกได้ หรือระลึกไม่ได้ ก็ดี ได้ทำในอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี ข้าพเจ้าขอให้พระรัตนไตยได้โปรดงดโทษที่จะพึงเกิดแก่ข้าพเจ้าตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ"

จากนั้นให้กายในจิตกราบพระพุทธเจ้าท่าน สำหรับท่านที่ได้มโนฯให้ใช้กำลังใจ แยกอาทิสมานกายตามกำลังสูงสุด คือ พระวิสุทธิเทพ ขึ้นไปกราบพระพุทธเจ้าและพระอริยสงฆ์ บนพระนิพพานแล้วอธิฐานขอขมาได้เลยครับ

จากนั้นให้ทุกท่านอธิฐานต่อไปว่าขอให้พระพุทธเจ้าท่านเมตตาเป็นประธานและพยานให้แก่ข้าพเจ้าในการอธิฐานดังต่อไปนี้

"ข้าพเจ้าขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวรและบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย ในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกิน ละเมิด ต่อท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางกาย ทางวาจา ทางใจ ก็ดี ในอดีตก็ดี ในปัจจุบันก็ดี จะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี และมีเจตนาก็ดี ไม่มีเจตนาก็ดี ขอให้ท่านเจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ทั้งหลาย ได้โปรดอโหสิงดโทษที่พึงเกิดแก่ข้าพเจ้าตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมานับแต่ อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ และที่จะบำเพ็ญต่อไปในอนาคตข้าพเจ้าขออุทิศให้ท่านทั้งหลายได้โมทนา และมีส่วนร่วมในบุญกุศลเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับทุกประการเทอญ"

การขอขมากรรมนี้จะช่วยให้การจองเวรกันลดลง หรืออาจจะสลายตัว เป็นโมฆะกรรมได้ และส่งผลให้ ชีวิตเราราบรื่น ปลอดโปร่ง สะดวกขึ้น เป็นการช่วยลดสภาวะกรรมรวมของโลก ที่จะส่งผลให้เกิดภัยพิบัติลดลง และในส่วนตัว บางท่านที่มีเจ้ากรรมนายเวรที่กะว่าจะเช็คบิลท่านใน ภัยพิบัติรอบนี้ อาจจะอโหสิและให้อภัยต่อท่านได้ครับ

ยังประคองจิตอยู่ต่อหน้าพระด้วยใจที่สบายนะครับ แล้วอธิฐานต่อว่า

"ข้าพเจ้านับแต่นี้จะมีแต่จิตใจที่ใสสะอาดบริสุทธ์ เต็มไปด้วยจิตใจที่ดีงาม เปี่ยมไปด้วยความเมตตาต่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายไม่ขอเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผู้ใดข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้กับเขาเหล่านั้นไม่ว่าเขาจะทำกรรมล่วงเกินข้าพเจ้าไม่ว่าจะเป็นทาง กาย วาจา ใจ ในอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี จะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้กับเขาเหล่านั้นขอให้เขาประสพแต่ความสุข พ้นจากความทุกข์ พ้นภัยจากวัฏฏสงสาร สัมผัสพระนิพพานอันเป็นบรมสุขด้วยเทอญ"

คำอธิฐานนี้มีผล สองประการคือเป็นการให้อภัยทานอันเป็นทานสูงสุด ใช้กำลังใจสูงสุดในการให้ครับ

แต่ คุณก็ทำได้ จิตก็จะยิ่งเบาขึ้นครับ อีกประการก็คือ คุณทุกคนบนโลกใบนี้นี่แหละครับ ที่เป็นคนทำให้เกิดกรรมแห่งการอาฆาตล้างแค้นกันและกันสะสม จนเกิดภัยพิบัติครั้งนี้ แปลกนะครับที่คนเรากลัวเจ้ากรรมนายเวรกัน เวลาทำบุญกรวดนำอุทิศส่วนกุศลให้ แต่กลับไม่เคยรู้ตัวเลยว่าเรานี่ละตัวดี เป็นเจ้ากรรมนายเวรของชาวบ้านชาวช่องเขา เวลาไปโกรธ อิจฉา ริษยา อาฆาตแค้นคนอื่นเขา
การสลายกรรมตรงนี้ส่งผลให้สภาวะกรรมรวมของโลกเบาบางลงครับ และการที่ตัวเจ้ากรรมนายเวรตัดสินใจลบบัญชีกรรมอโหสิให้เป็นโมฆะกรรมนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการที่จะไปออนวอนขอให้ เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ครับ เพราะบางคนก็ไม่ยอมง่ายๆครับ ต้องใช้เวลาและทำให้บ่อยๆครับ

 

ถ้าจะตัดกรรม ต้องไปขออโหสิลูกเดียวค่ะ ให้เขายอมรับ
ไม่งั้นเขาอาจจะจองกรรมโดยไม่รู้ตัว และไปเรื่อยๆ ไม่รู้กี่ชาติจนกว่าจะหมดกรรมกันไปเอง

 

ขอบพระคุณทุกๆท่านนะคะ การที่คนไม่ถูกกันจะเดินเข้าไปคุยเรื่องแบบนี้ กับคนหัวสมัยใหม่ หนูคิดว่านอกจากเค้าจะไม่เชื่อ อาจจะถูกด่ากลับ(ถูกแช่งเพิ่มได้) เพราะหนูคาดเดาได้ เหมือนที่หนุจะพูดธรรมกับใคร จะต้องมองพื้นฐานจิตใจว่าเค้ามีความเชื่อและรับเรื่องนี้ได้แค่ไหน ซึ่งก็ไม่เคยพลาดเลย
แล้วแบบนี้ หนุต้องจมกับคำแช่งของเธออีกนานแค่ไหนนะ -_-

 

กรรมเขาไม่ได้ไปวิ่งไล่ตามแก้ที่อดีต เขาแก้กันที่ปัจจุบัน

ปัจจุบันนั้นเล่า เขาก็ไม่ได้รู้เรื่องในอดีต ดังนั้น เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเอา
เรื่องในอดีตไปพร่ำบอกเขา เพื่อให้เรามีทางแก้

แล้วอะไรหละที่เป็น กรรมปัจจุบัน

* อยากได้ดีในส่วนที่ยึดมั่นถือมั่น คือ ยังโดนกิเลสหลอกให้ยึดอยากได้

และตัวความอยาก หรือ โลภ นี้นี่แหละ ที่ทำให้เสีย เสียไปทุกอย่าง เสียแม้
กระทั่งแรงพยายาม เพราะ ไปพยายามที่จะอยากได้ อยากมี อยากเป็น

สมมติว่า อดีตที่เห็นมันจริง ก็ลองพิจารณาสิ จะเห็นว่า เพราะอยากได้ฐานะ
อยากได้วิชาชีพ ก็เลยผิดสัจจ ไม่แจ้งความจริง เพราะอยากได้เพียงแค่คำชมเล็กๆ
น้อยๆกลับพยายามเก็บงำความจริงอย่างที่สุด ทั้งๆที่พูดออกไปง่ายๆว่า นั่นผลงาน
ของคนๆนั้น นี่ ไปเสียสัจจให้กับเรื่องกล้วยๆ แบบนี้ก็ยากหน่อยที่จะทำอะไรให้
สำเร็จโดยง่าย เพราะอนสุยเดิมมันมักง่ายมาก่อน

มาดูกรรมปัจจุบัน ยังทำอะไร ....ก็พบว่า ยังทำแบบเดิม ไม่เคยเปลี่ยน เช่น

ไปล่วงรู้กรรมของคนอื่น แล้ว เที่ยวเอามาพูด เอามายกขึ้น เอามาแสดงเป็น
ความสามารถของตน นี่มัน ขโมยผลงานไม่เลิก แล้วมันจะเจริญได้อย่างไร

ทีนี้ แก้กรรม ง่ายมาก ไม่ใช่ไปวิ่งไล่อดีต ว่าเคยทำอะไรใครไว้ แล้วเที่ยว
โดนลัทธิขี้ครอกหลอกเอาว่า ให้ไปขอขมาแล้วจะพ้น แล้วจะกลับมา รวย
อย่างที่อยากได้ อยากมี อยากเป็น ไอ้อาการที่ต้องการทำอะไรง่ายๆ มัก
ง่ายแค่ไปขอขมาแล้วกลับมารวย กลับมามีวิชาอาชีพนี่ นี่ก็ยัง ขโมยผลงาน
ไม่เลิก

ดังนั้น แก้ที่ปัจจุบัน คือ ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น และ การผิดสัจจ
ที่เอาเรื่องของคนๆอื่นยกขึ้นพูดว่า เป็นความรู้ เป็นความสามรถของตน

เลิกพรรณาการล่วงรู้สิ่งที่เป็นเรื่องของๆคนอื่นเสีย 1

รักษาสัจจไม่พยายามหาเรื่องพูดเพื่อยกตน ยกฐานะตน 2

ให้ยอมรับฐานะเท่าที่ตัวเองมีอยู่ เท่าทีทำได้ เท่าที่รู้ แล้วดำเนินตามนั้น 3

ให้สัจจาแก่ตัวเองว่าจะไม่ดูถูก หรือ ขโมยแม้กระทั่งผลงานตัวเอง ขโมยแม้กระทั่ง
โอกาส วาสนาที่ได้เกิดเป็นคนของตนเอง การคิดทำสมาธิแล้วไม่กลับมาให้เลิกคิด 4

แล้วกลับมาเดินอิทธิบาท4 ให้มันตรงหลัก ไม่ใช่เอาอิทธิบาท4ไปสนองฐานะ มานะ อัตตา
โดยให้พอใจสิ่งที่เป็นอยู่ สิ่งที่ทำได้(ฉันทะ) ทำในสิ่งที่ทำได้ให้มันค่อยๆดี ต่อจากสิ่งที่มี
อยู่(วิริยะ) ไม่ใช่ไปต่อความฝัน แล้วตั้งจิตมั่น(จิตะ)ไม่ผิดสัจจเพราะความอยาก แล้วพอ
ใจกับผลที่ได้กลับมา ไม่ว่าจะแย่ จะดีอย่างไร ก็ให้พอใจตามนั้น(วิมังสา)

ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นแก้จากสิ่งที่เป็นปัจจุบัน แก้จากความจริง ตามจริง

เรื่องอดีตที่เห็น ไม่ว่าของตน ของใครๆ ก็ให้วางไว้ แลเห็นเป็นเพียงความไร้สาระ
ของการเวียนง่ายตายเกิด ไม่ใช่ไปเห็นว่ามันเป็นหนทางหลุดพ้น เขาให้เอามาแล
เห็นถึงความไร้สาระของสังสารวัฏเท่านั้น ยิ่งแก้ให้มันดีก็คือยิ่งเพิ่มความยาวของ
สังสารวัฏ ความยาวของสังสารวัฏมีมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งสะสมกรรมชั่วมากขึ้น
เท่านั้น การทำกาละ หรือ ดำริจะพ้นโดยการคิดสั้น ทางพระเขาเรียกว่าไปต่อความ
ยาวขงอสังสารวัฏเกิดตายในนรกเป็นพันๆกัป(จักรวาลแตกดับไปไม่รู้กี่รอบ)กว่าจะ
กลับมาเกิดเป็นคน ...ดังนั้น อย่าขโมยผลงานที่ตนได้ทำมาดีแล้วได้มาเกิดเป็นคน
มันจะหมดโอกาสเป็นคนไปอีกนานเพราะ ขโมยแม้กระทั่งผลงานตัวเอง

ตั้งสติดีๆ แล้วค่อยๆ พิจารณา หมั่นฟังธรรมเพิ่ม อย่าคิดว่า รู้ธรรมหมดแล้ว

แล้วเลิกฟังพวกลัทธิแก้กรรมที่มุ่งแก้อดีตได้แล้ว กรรมเขาแก้ลงที่กายที่ใจในปัจจุบัน

 

อนุโมทนาสาธุ เมื่อรู้อดีด ก็ต้องแก้ที่ปัจจุบันไม่ช้าไม่นานกรรมดีปัจจุบันให้ผลแน่นอนเก่งจังนะ รู้อดีตชาติ ผมนั่งสมาธิมาห้าสิบกว่าปืยังโมโหอยู่เลย มีเคล็ดฝึกอย่างไรบอกเป็นธรรมทานดัวยเถิด

 

จริงๆแล้วอะไรก็ช่วยไม่ได้..นอกจากตัวเราเอง ต้องหาสาเหตุของความทุกข์ว่าคืออะไร แล้วดับที่ต้นเหตุ... ถ้าเราอยากสอบได้..ในคณะที่ต้องการ เราต้องทำอะไร..มากขนาดไหน คะแนนถึงจะพอในคณะและมหาลัยที่เราต้องการ แล้วเราพยายามมากพอหรือยัง..ปัจจัยแวดล้อมเอื้ออำนวยไหม ถ้าพอไหวก็ทำต่อ..แต่ถ้าไม่ไหวก็เปลี่ยนความคิดและแนวทาง...เปลี่ยนความต้องการให้พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ แล้วทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

สุขทุกข์อยู่ที่ใจ..ถ้าใจเราเป็นสุข..สงบ อยู่ที่ไหนก็เป็นสุข เรียนอะไรก็มีความสุข สามารถขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของวิชาชีพนั้นๆได้ เป็นอะไร ทำอาชีพอะไร ก็ทำให้ดีที่สุด

อย่างเช่นเป็นช่างทำผม ก็ทำผมอย่างดีที่สุด มีค่าตัวราคาแพง ดาราHollywoodจองคิวกันเป็นเดือน อย่างทอม ทอร์.ถ้าเป็นนักวิทยาศาสตร์ก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุด สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ๆบนโลกอย่างดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ซึ่งเป็นนักคิด-นักวิทยาศาสตร์ ผู้คิดค้นระบบการลงจอดยาน<WBR>อวกาศบนดาวอังคาร .ถ้าเป็นคนทำขนมขาย..ก็ทำขนมให้อร่อยที่สุด คุณภาพดี มีชื่อเสียง อย่างขนมบ้านอาจารย์...คนเรามีทางเลือกมากมายขึ้นอยู่กับจะใช้ความสามารถที่มีอยู่และค้นหาศักยภาพในตัวเอง..และใช้มันให้คุ้มค่าได้อย่างไร..กลับไปลองคิดดูนะ

 

โดยส่วนตัวก็มีเรื่องคล้ายๆกันนี้เหมือนกันค่ะ..แต่เรื่องของเราจะเป็นกับเพื่อนร่วมงาน..
คือไม่ค่อยจะถูกกัน..ก็ไม่รู้ว่าเราไปทำอะไรให้เค้าก็ไม่รู้นะหรือเค้าอาจจะไม่ถูกชะตากับเราก็ได้มั้ง(หรืออาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวร)..แต่เราต้องทำงานที่ต้องติดต่อกับเค้าคือเค้าเป็นคนทำบัญชีส่วนเราเป็นการเงินไงก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงที่จะไม่พูดจากันได้เลย..วิธีแก้ไขของเราก็คือเราจะสวดมนต์ตอนกลางคืนก่อนนอนแล้วก็แผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวร..ทำแบบนี้ทุกคืนติดต่อกันประมาณ2-3 เดือน..เชื่อไหมค่ะว่าเพื่อนร่วมงานที่ไม่ค่อยจะถูกกันน่ะ..ก็กลับมาพูดคุยกันปกติแถมยังคุยกันเรื่องส่วนตัวได้อีกด้วย..เราก็คิดว่าคงจะเกิดจากการที่เราสวดมนต์แล้วแผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวรล่ะมั้ง..ไม่เชื่อก็ลองทำดูนะจ๊ะ(ไม่ลองก็ไม่รู้)

 

ข้อความจากกระทู้วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติค่ะ

<TABLE class=tborder id=post283609 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 21-07-2006, 06:14 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #45 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->kananun<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_283609", true); </SCRIPT>
หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ



วันที่สมัคร: May 2006
ข้อความ: 9,400
Groans: 10
Groaned at 19 Times in 19 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 39,990
ได้รับอนุโมทนา 172,062 ครั้ง ใน 9,411 โพส
พลังการให้คะแนน: 10174


</TD><TD class=alt1 id=td_post_283609 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->บทที่ 3.การชำระล้างจิต และการพลิกจิตสู่จิตระดับสูง


จากบทก่อนๆ ที่ทุกคนได้ศึกษามา ตอนนี้คุณมี่กำลังของสมาธิ มีปัญญาจากวิปัสนาญาณ มีบารมีของพระพุทธเจ้าคอยคุ้มครองจากการอาราธนาจับภาพพระเป็นพุทธานุสติ คุณรู้จักการจับลมหายใจ รู้จักการใช้พลังจิต ดึงปราณ และธาตุทิพย์จากพระนิพพาน รู้จักการอธิฐานกำกับ การอธิฐานขอบารมี รู้จักวสีความชำนาญในการเข้าออกฌาน กันแล้ว นับว่ามีพื้นฐานในการทรงฌาน และวิปัสณาญาณ ดีพอ

ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการชำระล้างจิตให้บริสุทธ์ขึ้น โดยการลด สลายบรรเทากรรมด้านอกุศลให้ลดลงด้วยกำลังของสมาธิและการอธิฐาน
จากนั้นจะเป็นเทคนิคการอธิฐานมหาโมทนา เพื่อเป็นการรวมบุญใหญ่เข้าสู่จิตของเรา

ต่อไปเป็นการอธิฐานเรียกบารมีเก่าให้มารวมตัว
และขั้นตอนสุดท้ายคือ วิชาเมตตาอัปปัณนาณฌาณ ซึ่งคุณจะเข้าใจถึงการแผ่เมตตาอย่างแท้จริง

ส่วนท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิ จะเพิ่มเติมการอธิฐานสัมมาทิษฐิ เพื่อการพลิกจิตเข้าสู่ความเป็นพระโพธิสัตว์ ครับ

เมื่อทบทวนและอธิบายเนื้อหาไปแล้วก็จะเริ่มฝึกแล้วนะครับ

--ขอให้ทุกคน จับลมสบาย จับภาพพระให้ใสเป็นเพชร แล้วตั้งจิตระลึกถึงศีล ว่าขณะที่ฝึกนี้ ศีลของเราบริสุทธ์ จากนั้นคิดว่า มีตัวเราอีกคนกำลังกราบที่ตักของพระพุทธรูป แล้วอธิฐานขอให้พระบารมีของพระพุทธองค์ท่านมาสถิตเป็นหนึ่งเดียวกับพระพุทธรูปในจิตของเรา ด้วยความศรัทธามั่นคงไม่ลังเล จากนั้น ขอขมาพระรัตนไตยว่า

"กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงละเมิดต่อพระรัตนไตยและสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ใจ จะเจตนา และไม่เจตนา จะระลึกได้ หรือระลึกไม่ได้ ก็ดี ได้ทำในอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี ข้าพเจ้าขอให้พระรัตนไตยได้โปรดงดโทษที่จะพึงเกิดแก่ข้าพเจ้าตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ"

จากนั้นให้กายในจิตกราบพระพุทธเจ้าท่าน สำหรับท่านที่ได้มโนฯให้ใช้กำลังใจ แยกอาทิสมานกายตามกำลังสูงสุด คือ พระวิสุทธิเทพ ขึ้นไปกราบพระพุทธเจ้าและพระอริยสงฆ์ บนพระนิพพานแล้วอธิฐานขอขมาได้เลยครับ

จากนั้นให้ทุกท่านอธิฐานต่อไปว่าขอให้พระพุทธเจ้าท่านเมตตาเป็นประธานและพยานให้แก่ข้าพเจ้าในการอธิฐานดังต่อไปนี้

"ข้าพเจ้าขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวรและบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย ในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกิน ละเมิด ต่อท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางกาย ทางวาจา ทางใจ ก็ดี ในอดีตก็ดี ในปัจจุบันก็ดี จะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี และมีเจตนาก็ดี ไม่มีเจตนาก็ดี ขอให้ท่านเจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ทั้งหลาย ได้โปรดอโหสิงดโทษที่พึงเกิดแก่ข้าพเจ้าตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมานับแต่ อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ และที่จะบำเพ็ญต่อไปในอนาคตข้าพเจ้าขออุทิศให้ท่านทั้งหลายได้โมทนา และมีส่วนร่วมในบุญกุศลเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าจะพึงได้รับทุกประการเทอญ"

การขอขมากรรมนี้จะช่วยให้การจองเวรกันลดลง หรืออาจจะสลายตัว เป็นโมฆะกรรมได้ และส่งผลให้ ชีวิตเราราบรื่น ปลอดโปร่ง สะดวกขึ้น เป็นการช่วยลดสภาวะกรรมรวมของโลก ที่จะส่งผลให้เกิดภัยพิบัติลดลง และในส่วนตัว บางท่านที่มีเจ้ากรรมนายเวรที่กะว่าจะเช็คบิลท่านใน ภัยพิบัติรอบนี้ อาจจะอโหสิและให้อภัยต่อท่านได้ครับ

ยังประคองจิตอยู่ต่อหน้าพระด้วยใจที่สบายนะครับ แล้วอธิฐานต่อว่า

"ข้าพเจ้านับแต่นี้จะมีแต่จิตใจที่ใสสะอาดบริสุทธ์ เต็มไปด้วยจิตใจที่ดีงาม เปี่ยมไปด้วยความเมตตาต่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายไม่ขอเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผู้ใดข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้กับเขาเหล่านั้นไม่ว่าเขาจะทำกรรมล่วงเกินข้าพเจ้าไม่ว่าจะเป็นทาง กาย วาจา ใจ ในอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี จะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้กับเขาเหล่านั้นขอให้เขาประสพแต่ความสุข พ้นจากความทุกข์ พ้นภัยจากวัฏฏสงสาร สัมผัสพระนิพพานอันเป็นบรมสุขด้วยเทอญ"

คำอธิฐานนี้มีผล สองประการคือเป็นการให้อภัยทานอันเป็นทานสูงสุด ใช้กำลังใจสูงสุดในการให้ครับ

แต่ คุณก็ทำได้ จิตก็จะยิ่งเบาขึ้นครับ อีกประการก็คือ คุณทุกคนบนโลกใบนี้นี่แหละครับ ที่เป็นคนทำให้เกิดกรรมแห่งการอาฆาตล้างแค้นกันและกันสะสม จนเกิดภัยพิบัติครั้งนี้ แปลกนะครับที่คนเรากลัวเจ้ากรรมนายเวรกัน เวลาทำบุญกรวดนำอุทิศส่วนกุศลให้ แต่กลับไม่เคยรู้ตัวเลยว่าเรานี่ละตัวดี เป็นเจ้ากรรมนายเวรของชาวบ้านชาวช่องเขา เวลาไปโกรธ อิจฉา ริษยา อาฆาตแค้นคนอื่นเขา
การสลายกรรมตรงนี้ส่งผลให้สภาวะกรรมรวมของโลกเบาบางลงครับ และการที่ตัวเจ้ากรรมนายเวรตัดสินใจลบบัญชีกรรมอโหสิให้เป็นโมฆะกรรมนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการที่จะไปออนวอนขอให้ เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ครับ เพราะบางคนก็ไม่ยอมง่ายๆครับ ต้องใช้เวลาและทำให้บ่อยๆครับ
ต่อไปเป็นการทำมหาโมทนาครับ

ประคองจิตให้อยู่ต่อหน้าพระพุทธเจ้าตั้งจิตให้เบาสบายและมั่นคงอธิฐานว่า"ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิฐานระลึกถึง บุญกุศล บารมีคุณงามความดี และจิตใจที่ดีงาม ของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสงฆ์ทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เทพพรหมเทวาทั้งหลาย สิ่งสักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย ตลอดจนความดีของสรรพสัตว์ทั้งหลายทั่วมหาอนันตจักรวาลที่ได้บำเพ็ญมานับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน

และที่จะบำเพ็ญประโยชน์ต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นทาน ศีล ภาวนา สัมมาทิษฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา ข้าพเจ้าขอกราบมหาโมทนาในบุญกุศลทั้งหลายเหล่านี้ด้วยความจริงใจ ขอให้อำนาจแห่งการมหาโมทนามัยนี้จงส่งผลเป็นกระแสบุญอันบริสุทธ์หลั่งไหลสู่ดวงจิตของข้าพเจ้านับแต่นี้ด้วยเทอญ" ขอให้ทุกท่านฉลาดในการทำบุญ ฉลาดในการโมทนา ฉลาดในการการอธิฐาน ฉลาดในการสร้างบารมีครับ พระท่านให้พรมาครับ

ยังประคองจิตอยู่ต่อหน้าพระนะครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อ่านหนังสือมากๆ ขยันมากขึ้นสัก10 เท่าและทำบุญมากๆ บุญสูงสุดคือทำกรรมฐาน

ครุกรรมจัดเป็นกรรมที่หนักที่สุด ให้ผลเร็วและแรง มีทั้งฝ่ายที่เป็นกุศลคือฝ่ายดีและฝ่ายที่เป็นอกุศลคือฝ่ายไม่ดี ครุกรรม เป็นกรรมหนักที่ให้ผลก่อน

ครุกรรมฝ่ายไม่ดีคือ อนันตริยกรรม 5 คือฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำโลหิตพระพุทธเจ้าให้ห้อ และทำสังฆเภทคือทำสงฆ์ให้แตกกัน
ส่วนครุกรรมฝ่ายดี หรือครุกรรมฝ่ายกุศลได้แก่ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 หรือสมาบัติ8

รูปฌาน 4
1.ปฐมฌาน = วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
2.ทุติยฌาน = ปีติ สุข เอกัคคตา
3.ตติยฌาน = สุข เอกัคคตา
4.จตุตถฌาน = อุเบกขา เอกัคคตา

อรูปฌาน 4
1.อากาสานัญจายตนะ
2.วิญญาณัญจายตนะ
3.อากิญจัญญายตนะ
4.เนวสัญญานาสัญญายตนะ

รู้แล้วก็เร่งทำกรรมฐานและอ่านหนังสือมากๆนะจ้ะ

​

 

คุณพี่ค่ะ แนะนำว่าดีที่สุดให้รักษาศีล 5 ตลอดชีวิต และมีเมตตา
และศีล 8 ทุกวันพระ
น้องเองก็เป็นคนทำอะไรไม่สำเร็จ เพราะน้องทำเค้าไว้เยอะ
แต่ทุกวันนี้น้องก็มีความสุข
อยากให้คุณพี่ทำแล้วจะมีความสุขนะคะ

 

เป็นกำลังใจให้ จขกท. นะคะ อย่าคิดมากไปเลย ดิฉันเองก็มีชีวิตที่แย่มากเลยค่ะ
ทำอะไรก็ไม่ประสปความสำเร็จเหมือนกัน

ยังไงคุณ จขกท. มีดีติดตัวมา คุณสามารถรู้กรรมได้ เพราะฉะนั้นคุณคงสามารถ
หาทางออกได้ไม่ยาก

คิดดี พูดดี ทำดี กับพวกเขาดูค่ะ 3 สิ่งนี้ อาจจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

 

:boo:ขอบพระคุณทุกๆข้อความ ทุกๆกำลังใจนะคะ หนูก็กลับบ้านเพื่อจะขออโหสิกรรม แต่
ยิ่งแค้นใจมากขึ้น ข้างบ้าน เค้าดีใจมากเลยที่รู้ว่าหนูพลาดสอบเข้ามหาลัยไม่ได้ วันนั้นหนูเฝ้าบ้านคนเดียว พี่ชายพาแม่ไปหาหมอ ข้างบ้านนั่งรวมหัวกัน นินทาหนูใหญ่เลย ทั้งเยาะเย้ย ถากถาง หนูก็นั่งอดทน ในใจแค้นจน คิดถึงคำว่า"แค้นแทบกระอักเลือด" รู้เลยว่าเป็นอย่างไร หนูกลับบ้าน นอนไม่หลับสักคืน ต้องดื่มเบียร์วันละ1กระป๋องให้มึนๆจะได้นอนหลับ(แต่จะไม่ดื่มวันพระ รับศีลเหมือนเดิม ก็สูบบุหรี่แทน)
หนูกลับบ้านไปขายน้ำมันขวด(หารายได้) หนูก็ดูสีที่ถูกโฉลกกับวัน แล้วแต่งออกมาขาย พอหันไปบ้านข้างๆ(ไม่อยากเชื่อ เปลี่ยนตามหนู) ตอนเช้าหนูเปิดร้าน ก็เปิดตาม มีวันหนึ่ง หนูจะลองดู คือตื่นแล้ว แต่ไม่เปิดร้าน เค้าก็ไม่เปิด ปิดร้านเหมือนกันค่ะ ถ้าหนูไม่ปิด เค้าก็ไม่ปิด แต่ที่น่าโมโหมากเลยคือเค้าขายดีกว่าบ้านหนู
และยังเปิดเพลงทั้งวันเลยคะ เปิดจนหนูเอาCDติวไปเปิดไม่ได้ ไม่ได้ยินเลยเสียงเพลงดังกลบ ยิ่งดึกเค้าตั้งวง โอโห ทั้งเสียงเพลง ทั้งเสียงแหกปากร้องเพลง ใจหนูนะอยากโทรแจ้งตำรวจทุกวันเลย แต่ก็ทำใจเย็น เปิดCD ติวของตัวเองไป แล้วบอกตัวเองว่า มาขัดขว้างการเรียนเราแบบนี้ ชาติหน้า ต้องมีคนมาขว้างไม่ให้ได้ดีเหมือนกัน ช่างน่าสงสารจริงๆ
สรุปแล้วคือ หนูเบื่อมากเลย เกือบเป็นฆาตรกร ฆ่ามันทั้งบ้าน เลยกลับมาพักหอ ทำออนไลน์ ดีกว่า แต่ก็สงสารที่บ้านเหมือนกัน ต้องอยู่ข้างๆบ้านแบบนั้น หนูควรจะทำยังไงดีค่ะ

 

หนู ทุกอย่างมีทางออก อย่าไปหมกมุ่น กับเรื่องเดิมๆ

หันหน้า หาอะไรใหม่ ให้กับจิตใจ ให้มันเบิกบานบ่อยๆ