(ขอปิดกระทู้ถาวร) เนื่องจากไม่มีเวลาเข้ามาตอบครับ

กราบนมัสการ หลวงพ่อด้วยความเคารพ

ยินดีที่หลวงพ่อเข้ามาชมครับ

 

ชุดพระหลวงพ่อทาบ

พระผงคลุกรัก ผสมสีผึ้งเขียวมรกต และผงโสฬส

พระชุดนี้ สร้างเมื่อ ปี พศ.๒๕๐๕
หลวงพ่อทาบ ปลุกเสก ๑ ไตรมาส
หลวงปู่ทิม ปลุกเสกนานหลายชั่วโมง

 

หลวงปู่ทิม ท่านพูดถึง เหรียญ พระเครื่อง ของท่านว่าอย่างไร? และใช้อย่างไร?

เขียนโดย ชินพร สุขสถิตย์

หลวงปู่ทิมท่านกล่าวว่า

เหรียญส่วนใหญ่ จะลงหนักไปทางเมตตามหานิยม
ใช้ อธิษฐานแก้ข้อขัดข้อง ส่วนเรื่องอยู่ยง คงกระพันนั้นก็มีอยู่บ้าง
และไม่ควรจะ เอาพระไปลองเพราะเหรียญนั้นคุ้มตัวเองไม่ได้
จะใช้ให้ได้ผลต้องเกี่ยวข้องอยู่กับ จิตผู้ใช้ด้วยเหมือนดังเช่นรถยนต์ หรือ เครื่องยนต์ มีพลังงานอัดอยู่เต็มรถ ถ้า เราไม่หมุนเครื่อง หรือสตาร์ทเครื่อง รถ นั้นก็แล่นไม่ได้เหมือนท่อนซุงท่อนไม้เรา ดีๆ นั่นเอง

การจะใช้พระให้ได้ผลต้องมี ผู้ใช้อยู่ด้วยจึงจะสัมฤทธิ์ เวลามีคนเอาไป ทดลอง ออกบ้างไม่ออกบ้างนั้นเป็นด้วย จิตของผู้ลองเป็นสำคัญ ถ้ามุ่งมั่นเชื่อว่า ไม่ออกแน่ พระก็จะแสดงออกในด้าน มหาอุด


แต่ถ้าจิตใจโลเลไม่เชื่อมั่นจะออกไปในทางแคล้วคลาดเพราะเหรียญที่ทำขึ้นเป็นเหรียญสำเร็จที่ประจุสูงไป ในทาง เมตตาแคล้วคลาด ตามด้วยคง กระพันและมหาอุด

เรียนถามท่านว่า
เวลาจะใช้ ทำอย่างไร? ท่านว่าให้นึกเอาในใจว่าจะ ใช้ทางไหน
ส่วนคาถากำกับจะมีหรือไม่มี ก็ได้ ถ้าจะใช้คาถาด้วยท่านให้ว่าดังนี้
มะอะอุ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ

จากคาถาที่ท่านบอกให้ท่องนี้ ถ้า พิจารณาดูให้ดีจะเห็นว่า
หลวงปู่ทิมเป็น เพราะที่ปลงตกในทุกสิ่งทุกอย่างแล้วคือ
เชื่อได้ว่าท่านไม่ยึดมั่นถือในสิ่งใดแล้ว ตัด ขาดจากข้อยึดมั่นความกังวลทั้งปวง เพราะแม้แต่คาถาอาราธนาพระท่านยัง ให้ท่องคำว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพราะท่านรู้ดีว่า คนเราทุกวันนี้หันมาหา พระก็เพราะสนใจมุ่งแต่พระเครื่อง ท่าน จึงใส่คำนี้เข้าไป เพื่อให้คนคิดกันบ้าง ว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นไม่เที่ยงแท้แน่นอน อย่าไปยึดมั่นถือมั่นอะไรให้มากนัก นับว่า คาถาปลุกพระของท่านแปลกกว่าของ พระอาจารย์องค์อื่นๆ

 

ตอนนี้มีเหรียญอนาคตของ ลป.ทิม ปรากฏขึ้นในวงการขึ้นอีกรุ่น คือ เหรียญเจริญพร3 จัดสร้างโดย อ.ชินพร จำนวน 1000 เหรียญ

เดิมรุ่นนี้วงการเล่นกันเปน เหรียญเจริญพรบนรุ่นแรก อ.สาคร ปี 2530 แต่ปัจจุบันได้รับการเปิดเผยจาก อ.ชินพรว่า รุ่นนี้เปนอีกรุ่นที่ทัน ลป.ทิม ปลุกเสก ตรงนี้ผมว่าแล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคลแล้วกันน๊ะคับ

แต่ขอบอกว่า ไม่ว่าจะทันหรือไม่ทัน ณ ปัจจุบันนี้ เหรียญรุ่นนี้ดังกระซูดและมีอนาคตแน่นอน

อ. ชินพร เปิดให้บูชาที่มูลนิธิของท่านเมื่อ 2 เดือนก่อน เหรียญละ 1 หมื่น ตอนนี้ทราบว่า ปิดการให้บูชาแล้ว และราคาวิ่งไปที่ 1.5-2 หมื่นบาทแล้วคับพี่น้อง

ใครไม่อยากตกรถเหรียญอนาคตรีบเก็บเน้อ

 

คุณวิสุทโธ มีแต่ของดีดีทั้งนั้นเลยนะครับ เยี่ยมๆ

 

มีดศาสตราวุธ

มีดปากกาหลวงพ่อเดิม

 

มาเป็นช่อ

พระชัยวัฒน์พระอรหันต์
ผู้มีอภิญญาสูงส่ง สายหลวงปู่มั่น

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

 

สวัสดีครับพี่วิสุท งานยุ่งหรือครับไม่ค่อยเจอพี่ในบอร์ดเท่าไหร่ครับ

 

รบกวนช่วยดูให้ด้วยครับว่าของหลวงพ่อใดครับ ขอบคุณครับ

 

ศิลป์หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน นนทบุรี

น่าจะสร้างย้อนยุค

 

ขอบคุณครับ ผมจะได้อาราธนาติดตัวครับ ขอให้รู้ว่าผ่านการปลุกเสกมาก็พอแล้วครับ เพราะกลัวจะเป็นของเทียมครับ

 

เข้ามาชมต่อครับ.....โอ้งามหลายครับ

ขอบคุณ
ท่าน วิสุทฺโธ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2991366", true); </SCRIPT>
ที่ถ่ายทอดประสบการณ์ดูเครื่องรางให้ครับ....บังเอิญกระทู้ตกไปหน้าอื่นผมก็ดูแค่หน้าแรกเพิ่งจะมาเปิดดูครับ.....

ผมคงต้องเก็บประสบการณ์อีกเยอะครับสำหรับการเล่นสายเครื่องราง....หุหุหุ

 

พระกรุเก๋งจีน


ผู้สร้างคือพระอุปัฌชาย์สังข์้เฒ่า เจ้าอาวาสวัดเก๋งจีนในสมัยนั้น
ท่านเป็นพระสายวิปัสสนากรรมฐานและยังเป็นอาจารย์ใหญ่ภาคตะวันออกสายเมืองระยอง ท่านเป็นอาจารย์และเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้กับหลวงพ่อโตวัดเขาบ่อทอง หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก หลวงพ่อทาบวัดกระบกขี้ผึ้ง หลวงพ่อวงศ์วัดบ้านค่าย และหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่


พระอุปัฌชาย์สังข์เป็นพระที่เรืองวิทยาอาคมมาก ขนาดน้ำลายที่ท่านถมถ้าถูกพื้น ๆ จะแตก ท่านเป็นพระสายวิปัสสนากรรมฐาน และยังเป็นถึงอาจารย์ใหญ่ภาคตะวันออกสายเมืองระยอง พระอุปัฌชาย์สังข์้นั้น มีศักดิ์เป็นปู่แท้ๆของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่


พระกรุเก๋งจีน เป็นพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดงลงรักปิดทอง
เมื่อผลิกดูด้านหลังจะพบคราบปูนสีขาวอมเหลืองติดอยู่ทุกองค์ไม่มากก็น้อย
ทั้งนี้เนื่องจากพระวัดเก๋งมิได้ถูกบรรจุอยู่ในกรุ แต่ใช้น้ำอ้อยผสมกับปูนขาวนำไปทาด้านหลังพระทุกองค์ แล้วนำไปแปะติดประดับประดาตามผนังอุโบสถ


ที่สำคัญ เป็นพระที่ยังพอหาได้ไม่ยาก ราคาไม่แพง พุทธคุณสุดยอดไม่รองใคร




พระกรุวัดเก๋งจีนแตกกรุออกมาประมาณปี 2515 เป็นพระเนื้อชินปนตะกั่วเพียงเนื้อเดียว ด้านหลังจะเรียบ พระเกือกทั้งหมดจะลงรักปิดทอง มีพิมพ์ต่างๆมากมายนับไม่ถ้วนนับได้ร่วม 100 แม่พิมพ์ ดังนั้นพระที่แตกออกมาจากกรุวัดเก๋งจีนจึงมีจำนวนมาก แต่ส่วนมากพระจะชำรุดงอและไม่ค่อยสวยเพราะพระส่วนมากเป็นพระที่บอบบางง่ายต่อการชำรุดผุกร่อน สนนราคาสภาพดีๆทั่วๆไปยังหาได้ไม่ยากและไม่แพงนัก นอกจากพิมพ์นิยมคือพิมพ์มารวิชัยฐานผ้าทิพย์ พิมพ์สมาธิฐานสองชั้น พิมพ์โมคคัลลาร์ ในองค์ที่สวย ๆ และพิมพ์พิเศษที่หายากพิมพ์ต่าง ๆ เช่น พิมพ์พระสังกัจจายน์ พิมพ์พระประจำวัน พิมพ์นาคปรกและพิมพ์พระประธานฐานผ้าทิพย์ ฯ ที่สภาพสวยสมบูรณ์ ราคาจึงจะสูง

 

พี่เชียรอยากเห็นตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ครับ

 

ผมชอบคำนี้จังครับ

 

ขอถามคุณคุณวิสุทธโธ หน่อยครับ ตะกรุดเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นของหลวงพ่อ หลวงปู่ องค์ไหน เราดูรอยถัก ผมคิดว่าคงไม่ชัวร์ครับ จะต้องดูอะไรประกอบด้วย นอกจากความเก่า อย่างหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ดอกละเป็นล้าน เราจะดูอะไร และสังเกตุตรงไหนว่าเป็นของหลวงปู่เอี่ยม ถ้าจะคลี่ตะกรุด เจ้าของคงไม่ยอม ขอความรู้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

คำถามที่ 1 ตะกรุดเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นของหลวงพ่อ หลวงปู่ องค์ไหน

สำคัญที่สุด คือ เอกลักษณ์ของแต่ละสำนัก

ขอยกตัวอย่างเดียว เช่น ตะกรุดวัดสะพานสูง จะมีเอกลักษณ์ของแต่ละอาจารย์ที่สร้าง

ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม จะมีเอกลักษณ์ ดังนี้

ตะกรุดมหาโสฬสของหลวงปู่เอี่ยม มีอายุการสร้างจนถึงปัจจุบันมีอายุประมาณ 130-140 ปี มีการม้วน (พัน) เท่าที่ได้พบเห็นมาจะมีจำนวน 7-9 รอบ ส่วนใหญ่รูร้อยเชือกเล็กกว่าตะกรุดโทนของคณาจารย์รูปอื่น แผ่นทองแดงที่มีขนาดบางมากแล้วถักด้วยเชือกสายสิญจ์มักจะเป็น 4 เกลียว หรือ 5 เกลียว ( 4 เสา หรือ 5 เสา ) เป็นลายกระบองไขว้โผล่หัวโผล่ท้ายเรียกกันว่า " ก้นแมลงสาบ " และท่านจะโรยด้วยผงวิเศษ 5 ประการที่ท่านปลุกเสกเองกับผงยันต์ตะกรุดโสฬสมงคลและผงพระยันต์ไตรสรณาคมแล้ว จึงทาหรือจุ่มรักเพื่อให้คงทนที่ผสมด้วยผงพุทธคุณ
ด้านนอกของแผ่นโลหะจารยันต์ไตรสรณาคม ด้านในจารยันต์มงคลโสฬส


มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนการสร้างตะกรุดของคณาจารย์รูปอื่น ๆ เช่น
-การม้วนแบบก้นแมลงสาบ
-การตัดขอบมุมแผ่นโลหะแบบป้าน
-ความเก่าเป็นธรรมชาติของแผ่นโลหะทองแดงจนกลายเป็นสำริด
-ความเก่าของเชือก เป็นเชือกปอและเชือกใยสัปปะรด จะเก่าจนกลายเป็นเนื้อไม้
-ความเก่าของรัก มีอายุเป็นร้อยปี รักจะหดตัวเป็นขยุ้มเป็นกระแจ๊ะเงามัน มีสีดำอมแดง เมื่อส่องกับแดดหรือที่สว่าง เมื่อพิจารณาจะเห็นเม็ดแดงๆ ชัดเจน
-ผงวิเศษมงคลโสฬสที่ใช้โรยตะกรุด จะมีกลิ่นหอมเย็นๆ

ตะกรุดมหาโสฬสของหลวงปู่กลิ่น

จะแตกต่างจากหลวงปู่เอี่ยม ตรงที่อายุรัก ความเก่าของเชือก ความเก่าเป็นธรรมชาติของแผ่นโลหะทองแดง

ตะกรุดมหาโสฬสของอ.แปลก

จะแตกต่างจากหลวงปู่เอี่ยม และหลวงปู่กลิ่น ตรงที่ลายเชือกจะเป็นลายกระบองไขว้เกลียวแน่น ม้วนทองแดงหลวม

ความแตกต่างระหว่างตะกรุดของหลวงปู่เอี่ยมกับหลวงปู่กลิ่น
อายุรักของหลวงปู่เอี่ยม รักจะยุบหดตัว อายุรักลึกกว่าของหลวงปู่กลิ่นแบบชัดเจน
ความเก่าของเชือก เชือกจะไหม้และกลืนเป็นเนื้อเดียวกันกับรักจนเหมือนเนื้อไม้ เชือกไม่เป็นขุย
ความเก่าเป็นธรรมชาติของแผ่นโลหะทองแดง สีของทองแดงจะเป็นสีสำริด
โลหะทองแดงหมดน้ำยาโลหะจะกรอบแห้งไม่มันวาว

 

ผมเลยขออนุญาติพี่วิสุทโธสักนิดครับ คือผมมีตะกรุดอยู่1ดอกยาว2.5นิ้วได้จากคุณตา
แต่ผมไม่เคยถามท่านว่าเป็นของท่านใดครับ รบกวนด้วยครับผม

 

ตะกรุดเปลือย ยากจะบอกว่า เป็นของสำนักไหน

เพราะมีข้อจำกัดในการพิจารณา

ต้องถามจากคุณตา ได้จากแถบไหน ประมาณปีพศ.ที่ได้รับ

เป็นข้อมูลที่พอจะคาดคะเนได้เท่านั้นครับ

 

พี่วิสุทุโธครับ พอดีผมได้เช่าพระมาองค์นึงครับ เป็นหลวงพ่อเนียม วัดน้อยเค้าว่ามานะครับ ผมเกิดความสงสัยมาว่า หลวงพ่อเนียมรุ่นนี้มีไหมครับ ภาพอาจไม่ชัด แต่เค้ารับประกันครับว่าถ้าไม่แท้ ยินดีคืนเงินครับ ผมอยากรบกวนพี่วิสุทุโธและท่านอื่นด้วยครับ ขอบคุณครับ

พอดีผมไปเช่าพระบูชามาองค์นึงครับ เขียนว่า หลวงพ่อดำ วัดที่จังหวัดชัยนาทครับแล้วเค้าก็แถมพระมาให้อีกองค์ขอถามรวบยอดเลยนะครับว่าเกจิท่านใดเป็นผู้สร้างครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ