เราจะรักอย่างไร้เงื่อนไขได้อย่างไร?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย datedoctor, 19 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านถามหาว่าความรักคืออะไร?

    เมื่อนั้นมันก็ได้นำพาความเจ็บปวดระคนทุกข์มายังท่านแล้ว เพราะการทำเช่นนั้นได้ทำให้ดวงตาของท่านมืดบอดลง

    เพราะณจุดนี้ท่านเพียงแค่ต้องการเหตุผล ของความรัก ต้องการที่จะเปรียบเทียบ ความรักของท่านจึ่งเต็มไปด้วยเงื่อนไขต่างๆ เช่น ฉันจะรักคุณถ้า.................
    ถ้าคุณไม่เป็นเช่นนั้นฉันก็จะไม่รักคุณ.........ใช่ถ้าคุณเป็นผู้ชายแท้ๆฉันก็จะรักคุณ แล้ว ถ้าวันหนึ่งคุณรู้ว่าเขาเป็นเกย์ล่ะ เพราะคุณสวยกว่าใครๆฉันจึ่งรักคุณแล้วถ้า วันหนึ่งเธอคนนั้นเสียโฉมล่ะ หรือไม่ใช่นางฟ้าแบบที่คุณคิดเป็นนางมารร้ายล่ะ คุณยังจะรักเธออีกหรือเปล่า? ถ้าลูกคุณไม่เป็นอย่างที่คุณหวังว่าเขาจะสอบติดแพทย์ คุณจะเลิกรักเขาเช่นนั้นหรือ ถ้าแกเป็นแบบนี้แกก็ไม่ใช่เพื่อนของฉันเพราะแกมันพวกสีแดง แกมันพวกสีเหลือง แกมันไม่ใช่คนไทย เช่นนั้นหรือ?

    ถ้าใครสักคนไม่ได้เป็นแบบที่คุณต้องการล่ะคุณจะยังรักเขาหรือเธออีกรึเปล่า?
    [​IMG]

    นี่แหละที่ทำให้ข้าพเจ้าหัวเราะเยาะท่าน ท่านที่ยังมีความคิดเช่นนี้ท่านที่ลึกในใจต้องการเหตุผลของความรัก ท่านที่กล่าวว่าไม่เหลือเหตุผลที่จะรักคนๆนี้อีกต่อไป ท่านนี่ช่างโง่เขลาเสียจริงๆ วิกลจริต และตาบอด อย่างสมบรูณ์แบบ ถ้าท่านไม่ตาบอดท่านก็สายตาท่านก็สั้นจงมองไม่เห็นมัน หรือไม่ก็สายตาก็ยาวจนมองเลยมันไป
    ขอให้ท่านพึ่งรับรู้เถอะว่า ความรักนั้นหาได้เคยทำให้ผู้ใดตาบอดไม่ ตรงกันข้าม มีเพียงความรักที่มีดวงตา สิ่งต่างๆที่ปราศจากรักล้วนตาบอด

    ท่านเชื่อข้าพเจ้าได้เลยกับถ้อยคำนี้ มีเพียงความรักเท่านั้นที่สามารถหยุดเวลา หรือดวงดาราไม่ให้เคลื่อนไปได้ มีเพียงความรักเท่านั้นที่สามารถขับเคลื่อนโลกใบนี้ได้ มีเพียงความรักเท่านั้นที่ทำให้ท่านสามารถมองเห็นความจริงได้

    ประเด็นคือ อัตตา มันมักกระซิบบอกว่า ท่านฉลาด ท่านรู้ ท่านเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ท่านสมบรูณ์แบบ ท่านงดงาม ท่านร่ำรวย ท่านเหลือกว่าใครๆ ดังนั้นท่านจึ่งต้องการผู้ที่ดีกว่าหรือไม่ก็คู่ควร ทั้งๆทีจริงแล้วท่านนั้นโง่เขลามากและไม่ได้เป้นเช่นนั้น ท่านเป็นแค่กุ๋ยกระจอกๆ ที่หลบงตัวเอง เป็นแค่ปรสิททางสังคมที่มักจะพูดสิ่งสวยหรู ใส่หน้ากากสวยหรู แต่ลึกๆในใจท่านขัดแย้ง ลึกๆในใจท่านสับสน ลึกในใจท่านต่อสู้กันเอง สิ่งที่ท่านทำจึ่งเป็นเพียงขอทานโง่ๆที่ขอบริจาคความรัก ขอหยิบยืม ขอและขอ แต่ไม่เคยให้ ไม่เคยหยุดและปิดตามอง ดูว่ามันไม่ใช่สิ่งที่อยู่ภายนอกมันอยู่บท่านที่ถายในนี้ ถ้าท่านฉลาดจริงๆ ท่านจะไม่มาพูดว่า ความรักนะ มันต้องการเหตุผล ฉันนะไม่สามารถรักใครหรืออะไร?โดยไม่มีเหตุผล ไม่ได้หรอก ฉันรุ้ดีว่าเขาเป็นเช่นนั้นเช่นนี้เขาจึ่งไม่ใช่สำหรับฉัน ท่านแค่คิดว่าท่านรู้ ท่านแค่คิดว่าท่านรู้ว่าความรักเป็นเช่นไร?

    อย่างไหนที่เรียกว่ารัก และควรที่ท่านจะรัก นั้นแหละที่น่าขำ ท่านกำลังป่วยวิกลจริตเสียแล้ว กับการพยายามแสวงหาเหตุผลมาสนองอัตตาของท่าน ท่านวิกลจริตกับการเสียเวลาโง่ๆไปกลับ การมานั้งถามว่าความรักคืออะไร? ทั้งที่ท่านเพียงแค่ต้องยอมรับในความไม่รู้นั้น ความไม่มีเหตุผลนั้น และท่านจะเห็นความงามของความรัก

    ขอให้ท่านพึ่งรับรู้ว่าจงอย่าหาเหตุผล ความรักไม่ใช่เรื่องของคนฉลาด เพราะคนฉลาดมันจะใช่ปรีชาชาญหาเหตุผล และเลือกที่จะทำเช่นนั้นเช่นนี้เสมอ จงโง่เขลา เมื่อใดก็ตามที่ท่าน ตระหนักว่า ท่านนั้นโง่เขลาและอ่อนแอความรักก็เปิดออกแล้ว เพราะเมื่อนั้นปัญญาญาณได้เปิดออกความฉลาดที่แท้จริงได้ก้าวเข้ามาแล้ว ความทุกข์ได้หายไปเพราะท่านเรียนรู้กับสิ่งที่ผิดพลาดและสามารถแก้ไขปัญหาใหม่ๆที่ผ่านเข้ามาได้

    ข้าพเจ้านั้นไม่รุ้ว่าความรักคืออะไร? ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าความรักเกิดขึ้นได้อย่างไร? ไม่มีใครรู้คำตอบพวกนี้หรอก แม้แต่ พระพุทธเจ้า พระเจ้าเองก็ด้วย แต่ข้าพเจ้าบอกท่าน ได้เพียงแต่ว่าวินาทีแรก ที่ท่านรู้จักมัน ท่านจะรู้สึกสนุกกับชีวิต วินาทีต่อมาท่านจะอยู่ไม่ได้หากขาดมัน จงจำไว้ว่าการมีลมหายใจใช่เรียกว่า ชีวิต แต่มันคือ การมีชีวิตจนลืมหายใจได้ต่างหาก หากชีวิตคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของท่านและความตายคือจุดสูงสุดของการใช้ชีวิต ความรักก็คือเครื่องยืนยันความมีคุณค่านั้น


    ข้าพเจ้าเชื่อว่าที่ผ่านมาท่านเอาแต่แสวงหา ท่านอาจจะไปตามผับเพื่อรอคอยใครสักคนให้เขามาหาท่าน ท่านอาจจะพบใครสักคนที่บอกว่าเขาชอบท่าน แล้วไปจบกันตามโรงแรม ใครสักคนที่ท่านคบกับเขามาหลายปี แต่ท่านก็ยังอยากที่จะแสวงหาคนใหม่ๆ ท่านอาจจะมีคู่นอนหลายคน แต่ไม่มีใครเลยที่เวลากอดกับเขา แล้วเขาทำให้หัวใจของท่านถูกโอบกอด

    ยิ่งท่านแสวงหา ท่านก็ยิ่งพบว่าท่านอ่อนล้า แต่ถึงเป็นเช่นนั้นท่านก็ยังไม่พบใครสักคนเลยที่จะมาเติมเต็มความรักให้กับท่านได้ ท่านจะได้แค่คอยเฝ้าดูคนที่เขารักกัน และอิจฉา หรือไม่ก็ขังตัวอยู่ในห้องฟังเพลงรัก ดูหนังรักและได้แค่ฝันให้มันมีอยู่จริง เจ้าชายขี่ม้าขาวที่จะมาช่วยปลอดคำสาป โฉมงามผู้ที่จะรักอสูรร้าย

    ไม่ว่าจะกี่คนที่เดินเข้ามา ถ้าท่านยังเป็นเช่นนี้ข้าพเจ้าสก้พนันได้ว่า ท่านจะไม่พบ เพราะความคิดเหล่านี้ คือจุดผิดพลาด ข้าพเจ้ามีเพื่อนเป็นชายรักร่วมเพศทุกวัน เขาจะมีคู่นอนไม่ซ้ำหน้า เขาจะไปตามที่ ที่เขาคิดว่าเขาจะหาความรักเจอ แต่จริงเขาก็เพียงแต่ไปหาSexเพื่อดับความเหงาของเขาเท่านั้น ลึกๆในใจเขาก็ว่างเปล่า ใช่ข้าพเจ้ารู้ดีทุกครั้งที่เขาเสียใจกับความรักที่จบลง เขาจะมาบอกกับข้าพเจ้า ว่าเห็นไหมทรักแท้ๆไม่มีในหมู่เกย์ เขาคิดว่าข้าพเจ้าจะช่วยเขาได้อย่างน้อยก็ช่วยให้เขาได้ระบาย แต่เปล่าเลยข้าพเจ้าทำได้เพียงแค่ช่วยให้เขาสบายใจเท่านั้น
    เพราะเขาจะต้องเปลี่ยนมุมมองด้วยตัวเขาเอง เขาต้องพึ่งตัวเอง

    [​IMG]


    จงหยุดแสวงหาและเปิดตามองมันอยู่กับท่านแล้ว จงรักในทุกๆสิ่งโดยปราศจากเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ ต้นไม้ แม่น้ำ ลำธาร จงรักมันเหมือนที่ท่านรักตัวท่านเอง จงอย่าได้มีเงื่อนไขอะไร?ทั้งนั้น นั้นจะยิ่งทำให้ท่านหลงทาง

    การได้มา อย่างที่เงื่อนไขนั้นตั้งไว้ หาใช่ความรักไม่ มันนั้นเป็นเพียงความต้องการมีอำนาจเหนือกว่าเท่านั้น จงจำไว้ว่าไม่มีใครที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วปฏิเสธความรักหรอก

    อำนาจคือ ความต้องการอยากจะครอบครองสิ่งต่างๆ สนองอัตตาของตน หากท่านรู้เพียงศาสตร์มันก็จะเป็นเช่นนี้ อำนาจกับราคะคือสิ่งเดียวกันมันเป็นเรื่องของคนบ้า คนโรคจิต คนที่กระหาย ทุกๆสิ่ง เยี่ยงอสูรกาย ยิ่งเขาแย่งชิงและได้มันมา เขาก็ยิ่งจะแย่งชิงวต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายเขาก็จะไม่เหลืออะไรเลย สิ่งที่เขาแย่งชิงมาทั้งชีวิตสุดท้ายก็ถูกคนอื่นแย่งชิงไป เขามาตัวเปล่า แล้วจะจากไปโดยไม่ตัวเปล่าได้อย่างไร? ข้าพเจ้าไม่ได้บอกว่าอำนาจเป้นสิ่งดีหรือไม่มันขึ้นอยุ่กับท่าน ท่านจะใช้อำนาจเป็นก็ต่อเมื่อท่านรู้ศิลปะ ของมันด้วย

    ในชีวิตท่าน ท่านจะพบกับเรื่องพวกนี้มากมาย ตอนท่านยังเด็กท่านคิดว่า ท่านเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง จงดูสิท่านร้องไห้งอแง เพราะ ท่านรู้ว่าถ้าท่านร้องพ่อแม่ท่านจะนำอาหารมาให้ นำนมมาให้ ทำสิ่งต่างๆให้ท่าน เห็นไหมนี่คือการใช้อำนาจแล้วมันตราตรึงอยู่กับ ท่านตั้งแต่ท่านเกิดแล้ว ดูพ่อแม่ท่าน แน่นอนพวกเขารักท่าน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็รักไม่เป็นเช่นกันพวกเขาจึ่งทำถูกบ้างผิดบ้าง พวกเขาจะรักเป็นได้อย่างไร ?ในเมื่อพวกเขายังหึ่งหวงกันและกัน ยังใช้การแต่งงานเป็นเงื่อนไขในการผูกมัด ครอบครองอีกฝ่าย มีหลายครั้งที่อำนาจทำให้พวกเขาหลงทาง จงดูเถอะ ถ้าลุกเป็นเด็กดีแม่จะรัก เห็นไหมมีเงื่อนไขอีกแล้ว เพราะงั้นลึกในใจท่านตอนนั้นท่านจึ่ง สงสัยว่าพวกเขาเก็บเรามาเลี้ยงหรือเปล่านะ
    คนเราพยายามแสวงหาอำนาจสนองอัตตาเสมอๆ ทั้งนี้ก็เพราะต้องการปกปิดปมด้อยของตนเอง พวกเขาหนีจากตนเอง พึ่งจำไว้ว่าคนเราทุกคนแสวงหาสิ่งจอมปลอมนี้เพื่อสนองอัตตาของตน มันไม่จำกัดว่าท่านจะเป็นใครก็ตาม ไม่ว่าท่านจะเป็นคนธรรมดา เป็นพระ เป็นนักการเมือง ล้วนไม่แตกต่าง

    ถึงจุดนี้ท่านอาจจะถามว่า เช่นนั้นนั้นฉันต้องทำเช่นไร? จึ่งจะไม่หลงทาง

    ขอให้ท่านจงรักในทุกสิ่ง แม้สิ่งนั้นจะเป็นความชั่ว เป็นความตายก็ตาม ถ้าท่านเกลียดความชั่วท่านก็จะไม่พบแสงสว่าง เมื่อท่านเกลียดความตายท่านก็จะไม่พบคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ จงอย่าแสวงหาความสมบรูณ์แบบ มันไม่มีในโลกถึงดลกนี้จะกว้างใหญ่มากเพียงใดก็ตามที ถึงท่านจะใช้เวลาทั้งชาติ เพื่อหาคนที่สมบรูณ์แบบมีทุกๆสิ่ง
    ข้าพเจ้าขอพนันว่า ท่านจะไม่มีวันพบ ถึงท่านอาจจะคิดว่าท่านพบ แต่ท่านจะรู้ได้ไงว่าเขา เองจะไม่พยายามแสวงหาคนที่สมบรูณ์แบบเช่นกัน
    จงอย่าครอบครองความรัก แต่ก็จงอย่าถูกมันครอบครอง จงอย่าแสวงหา ท่านนั้นอยู่ในความรักแล้ว สรรพสิ่งก็เช่นกัน จงดูเถอะว่า ดอกไม้นั้นงดงามเพียงใด แต่ทว่าเมื่อใดก็ตามที่ท่านเด็ดมันออกมา มันก็ได้ถูกทำลายลงเพราะอำนาจนั้น เมื่อท่านรักใครสักคน
    จงอย่าได้ อยากที่จะครอบครองและอย่าถูกความรักปลอมๆครอบงำ จงมอบอิสรภาพให้เขาไปด้วยเหมือนที่ท่านจะต้องมอบมันให้ตัวท่านเองด้วย จงอย่าจองจำเขาไว้กับท่าน ตรึงเขาไว้กลับท่านมิให้เขาไปยุ่งเกี่ยวกับใคร และจงอย่าตรึงตัวเองไว้กับใครท่านไม่ใช่ทาสของใคร จงอย่าทำเช่นนั้น จงให้เขาได้เป็นตัวของเขาเองเหมือนที่ท่านให้ตัวท่านเองได้เป็นตัวท่านเอง

    ความรักคืออิสรภาพ คือพระเจ้า คือหนทางไปสู่นิพพาน แผ่นดินพระเจ้า คือกุณแจที่จะปลดแอดท่าน จงอย่ากลัวการพรากจาก จงอย่ากลัวว่าพรุ่งนี้ท่านอาจจะไม่ได้เจอหน้าคนๆนั้นเหมือนเก่า จงจำไว้ว่าอะไรทจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะคงอยุ่ไม่เปลี่ยนแปลงไป แต่ท่านต้องพึ่งรับรุ้ว่าความรักนั้นหาได้หายไปไม่มันอยู่ตรงนั้นเสมออยู่ตรงหน้าท่าน ตราบใดที่ท่านหยุดค้นหาและเปิดตามอง

    ท่านอาจจะคิดว่าถ้าท่านเจอกับความชั่วหรือคนที่ท่านคิดว่าเขาชั่วล่ะแหละต้องทำเช่นไร? ท่านทำใจรับมันไม่ได้
    ขอท่านจงจงอย่าเกลียดชังความชั่ว จงเฝ้ามองความชั่ว อย่ายึดติดกับเรื่องกรรม จงรักมันเหมือนที่ท่านรักความดีงาม เมื่อท่านตื่นนอนท่านเคยพบความเกลียดชังในหัวใจท่านหรือไม่? ข้าว่าไม่ เพราะในขณะที่ท่านหลับสนิท อัตตาของท่านได้หายไปชั่วขณะหนึ่ง โลกไม่มีสำหรับท่านอีกต่อไป ดังนั้นอะไรก็ตามที่ท่านเคยเกลียดชังมันก็หายไประยะหนึ่ง

    ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะรักทุกสิ่งไม่ว่ามันจะเป็นความชั่ว โดยท่านต้องไม่ถามหาเหตุผล แบบว่านั้นมันความชั่วนะ ทำใจให้รักมันได้อย่างไร? มันคือวายร้ายที่จะฆ่าข้า ดังนั้นท่านต้องกำจัดมันทิ้งก่อน
    จงอย่าได้คิดเช่นนี้เลย ทำไม นะหรือ? เพราะ เมื่อความชั่วมันกระซิบ
    บอกให้ท่าน กระทำบางสิ่งบางอย่างให้ท่านตกเป็นทาสของมัน จงบอกกับมันว่า เธอที่รัก ฉันอยุ่ที่นี่เพื่อเธออย่างแท้จริง ขอเธอที่รักจงจูงมือฉัน แล้วไปสัมผัสความดีงามพร้อมกับฉัน เธอที่รักจงเดินทางไปกับฉันเถอะ ไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอจะหลอกฉันเพราะ ฉันนั้นได้รู้ถึงผลของสิ่งที่เธอกำลังจะให้ฉันทำแล้ว และฉันรู้จักเธอดี แต่ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะมอบสิ่งดีๆให้กับเธอที่รักของฉัน จงเดินตามฉันมา มาสัมผัสสิ่งที่เธอนั้นไม่รู้จักแต่ฉันนั้นรู้แล้วเพราะ ฉันได้สัมผัส ได้เฝ้าดุ มากับฉันเถอะ มาสัมผัสอีกด้านหนึ่งขอตัวเธอที่เธอนั้นมองไม่เห็นมัน

    เมื่อท่านเจอคนที่เจ้าคิดว่าเขาชั่ว จงทำแบบนี้เช่นกัน? ไม่มีประโยชน์อะไรที่ท่านจะเกลียดชังเขา ท่านเป็นใครมาตัดสินเขา ท่านแน่ใจหรือว่า ลึกๆแล้วท่านเป็นตัวดีงามกว่าเขา แม้คนที่ชั่วที่สุดในโลกก็รู้จักความรัก เพราะอย่างน้อยเขาก็รักตัวเขาเอง นั้นก็เพียงพอแล้วที่ท่านจะรักเขา เพราะความดีงามยังอยู่ในตัวเขา
    ถ้าท่านทำเช่นนี้ได้ท่านจะหมดข้อสงสัย ท่านจะไม่ต้องการเหตุผล สังคมจะบัดซบอย่างไร ก็ไม่อาจจะแยกหัวใจท่านออกจากความรักได้ ท่านจะตระหนักว่าความรักนั้นยิ่งใหญ่จริงๆ ไม่น่าแปลกใจที่โฉมงามจะรักได้แม้อสูรร้าย เมื่อความรักนั้นได้เข้ามาประตูแห่งความแตกต่างก็หายไป
    [​IMG]


    เมื่อ โนอาห์ ต่อเรือขึ้นมาพร้อมสรรพสัตว์แต่ล่ะคู่ คนเรากับหลงลืมที่จะมองศรัทธาที่แท้จริง ที่โนอาห์ มีต่อพระเจ้า และพระเจ้ามีต่อโนอาห์ ไม่ว่าเรื่องนี้จะจริงหรือไม่ คนเราก็ดุจะไม่ค่อย
    สนใจมันเท่าความโกรธของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ พวกเขาไม่เคยมองเลยว่า สรรพสัตว์มากมายมากันเป็นคู่ๆเพื่อมาให้กำลังใจแก่กัน มาเติมเต็มความรักให้แก่กัน ครอบครัวของโนอาห์ ก็เช่นกัน พวกเขามีกันและกัน พวกเขาศรัทธาในกันและกัน พวกเขารักกัน พวกเขารู้จักพระเจ้า สรรพสัตว์เหล่านั้นก็เช่นกัน ท่านจะเห็นได้ว่า พระเจ้าไม่ได้ทรงทำอะไรเลยพระองค์แค่ทรงอยู่กับพวกเขา พระองค์คือความรัก ที่เป็นพลังให้พวกเขาก้าวเดินไปร่วมกัน ทั้งครอบครัวโนอาห์ และสรรพสัตว์ ความรักต้องการศรัทธาครอบครัวของโนอาห์ พวกเขาและสรรพสัตว์ที่มาเป็นคู่ๆศรัทธาในกันและกัน และช่วยเหลือกันจนเรือเสร็จ ปฏิหาริยน์ที่แท้จริงเกิดที่ตรงนี้ ไม่ใช่จากการภาวนาแล้วพระเจ้าจะให้ ท่านคิดว่าถ้าท่านเป็นบิดา เมื่อลูกของท่านขอความกล้า ท่านจะมอบความกล้านั้นให้เขา หรือเส้นทางไปสู่ความกล้านั้น

    ถ้าลูกท่านขอให้ความรักผูกพวกเขาไว้ด้วยกัน ท่านจะให้เขาหรือจะมอบเส้นทางให้เขาไปสู่สิ่งนั้น
    ไปคิดดูเถอะ ว่าการภาวนาคือ ความตั้งใจว่าจะทำสิ่งนั้นใช่ไหม? โดยตระหนักรู้ถึงมันอยู่ทุกเวลาใช่ไหม?

    ความศรัทราคือ ความเชื่อในตัวท่านเองเมื่อลงมือกระทำใช่ไหม? คือการวางใจชีวิต
    [​IMG]


    จงเป็นคนอ่อนแอ เพราะเมื่อ เมื่อท่านอ่อนแอ ท่านจะได้รับการยกให้สูงขึ้น ท่านจะสามารถอภัยให้ทุกสิ่ง แม้แต่คนที่ท่านไม่ชอบเขา คนที่เกลียดท่าน พระพุทะเจ้า พระเยซุก็สอนท่านแล้วนี่ว่าไม่มีการให้ใดๆยิ่งใหญ่ไปกว่าการให้อภัย​

    ถ้าท่านสามารถให้ได้โดยไม่มีเหตุผล ท่านจึ่งจะสามารถยื่น แกล้มอีกข้างให้ใครตบท่านก็ได้ ความอ่อนแอจึ่งเป็นสิ่งดี เพราะมันทำให้ท่านตระหนักรู้ถึง หัวใจ และละวางตัวตน ได้ คนที่อ่อนแอนั้นแหละคือผู้แข็มแข็งอย่างแท้จริง ท่านจะรู้จักพระเจ้าและเข้าถึงแผ่นดินของพระองค์ เข้าถึงโพธิสัตว์บารมีแบบที่มหายานสอน
    สิ่งสุดท้ายคือพึ่งรับรู้ว่าความรัก นั้นจากไปเสมอ เพื่อที่มันจะได้เกิดใหม่ ความรักเป็นปัจจุบัน ไม่ใช่อดีต ดังนั้นมันจึ่งไม่ใช่สิ่งที่เป็นอมตะ ในเมื่อสรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงความรักก็เช่นกัน ท่านจะต้องสร้างมันขึ้นมาใหม่ตลอกเวลา
    จงอย่ากลัวที่จะรักหรือแสดงความรัก ความกลัวหาใช่สิ่งไม่ดี เมื่อท่านกลัวก็จงกลัว แต่อย่าวิ่งหนีจากความกลัวนั้น จงเผชิญหน้ากับมัน
    จงอย่าเดาล่วงหน้าในความรัก ไม่มีผู้ใดรู้อนาคตหรอก ไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้หรืออีกไม่กี่นาทีนับจากนี้จะเป็นเช่นไร?จงอย่าทำให้มันเป็นเกม อย่าต่อรองแบบธุรกิจ แม้ว่าหนามของความรักจะทิ้มต่ำหัวใจท่าน หากท่านสามารถรักอย่างไร้เงื่อนไข มันก็หาเจ็บปวดไม่
    จงให้มันชักนำท่านไป จงไปตามเสียงที่หัวใจท่านเรียกร้อง ให้มันถุกแสดวงออกมาทุกส่วนของร่างกายของท่าน จงอย่าให้มันออกมาเพียงแค่คำพูดไม่เช่นนั้นมันก็ไม่ต่างกับคำสัญญาไร้สาระ ที่คาบเกี่ยวกับอนาคตจอมปลอม
    หากท่านอยากเห็นความรัก จงเป็นความรัก จงทำให้มันเป็นการภาวนา จงสั่นสะท้านไปกับมัน จงเต้นรำไปพร้อมกับมัน เมื่อสรรพสิ่งเฉลิมฉลอง จงเฉลิมฉลอง มีเพียงความรักเท่านั้นที่ละลายอัตตา จงจำไว้ว่าเมื่อความรักนั้นเข้ามา ตัวท่านก็ลืมการหายใจ ท่านหาได้อยู่ที่นั้นไม่ หาได้มีความแตกต่างระหว่างตัวท่านกับผู้อื่น หรือกับสรรพสิ่งไม่ จงหมุนวนไปกับมันเมื่อรักหมุนรอบตัวเรา จงเคลื่อนเข้าสู่ภายใน แต่อย่าเคลื่อนเพราะความกลัวทำให้เป็นไป จงขอบคุณในทุกสรรพสิ่ง จงรักพวกมัน


    ท่านที่รักของข้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2010
  2. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    ติดตามต่อตอนหน้า

    [​IMG]

    [​IMG]
    ข้าพเจ้าทำบุณมากมาย สร้างวัดวาอาราม สนับสนุนพระพุทธศาสนาข้าจะได้อะไร?

    หามีไม่ ถ้านรกมีพระองค์จะได้สิ่งนั้น

    อริยสัจมีว่าอย่างไร?

    โลกกว้างใหญ่ แต่หามีสิ่งนั้นไม่มหาบพิทธ


    แล้วเบื้องหน้าเรานี้เป็นผู้ใด?

    อาตมาไม่รู้
     
  3. ระยับแดด

    ระยับแดด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +117
    แล้วสุภาษิตที่ว่า
    "จงเป็นคนอ่อนน้อม แต่อย่าเป็นคนอ่อนแอ"
    นี่ไม่ขัดกันหรือครับท่าน
     
  4. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    เดี๋ยวนี้กระทู้แนวnew ageเยอะจัง
     
  5. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    ท่าน<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ระยับแดด<!-- google_ad_section_end -->

    ที่รัก ประเด็นคือ อะไรคือความเข้มแข็ง อะไรคือความอ่อนแอ

    คนมากมายมักไม่ค่อยจะชอบความอ่อนแอสักเท่าไหร่? เหตุผลนั้นง่ายมาก พวกเขาคิดว่าความอ่อนแอเป็นเรื่องของคนโง่ เป็นเรื่องของผู้หญิง เป็นเรื่องของคนที่ยอมแพ้ต่อชีวิต

    เพราะพวกเขาอาศัยตรรกะว่าชีวิตคือการต่อสู้ คือการแข่งขัน ชีวิตไม่มีที่ให้หยุดพักนอกจากเมื่อท่านตายเท่านั้น
    แต่ท่านคิดว่าอะไร? คือความแข็มแข็งกัน
    ท่านคิดว่า นโปเลียน เจงกีสข่าน จินซีฮ่องเต้เป็นคนแข้มแข็งเช่นนั้นหรือเปล่า? ท่านแน่ใจ หรือว่าพวกเขาแข็มแข็งจริง ท่านอาจจะบอกข้าพเจ้าว่า ถ้าพวกเขาอ่อนแอพวกเขาก็พิชิตโลกไม่ได้นะสิ แล้วทำไม เวลาพวกเขาตายถึงได้มีจุดจบแบบกังวลว่า คนที่เครียดแค้นจะมาทำลายหลุมศพพวกเขา คนมากมายเรียกพวกเขาว่ามหาราช แต่ขอให้ท่านลองนึกดูว่าพวกเขาฆ่าคนไปเท่าไร? กัน กี่หมื่น กี่แสน หรือกี่ล้าน และมีคนอีกเท่าไหร่? กันที่เรียกพวกเขาว่าทรราช ถ้าความแข็มแข็งในมิติของท่านคือการใช้อำนาจ ความแข็มแข็งนั้นก็จะเป็นเพียงขยะ ของคนวิปริตเท่านั้น คนบ้าที่มีแต่ความทะยานอยากมีแต่ไขว่คว้า แต่ชีวิตปราศจากสันติสุข ท่านว่ามีกี่คืนกันในชีวิตของพวกเขาที่สามารถนอนตาหลับ

    งั้นมาดูพระพุทธเจ้าท่านว่า พระพุทธเจ้าแข็มแข็งรึ ท่านแน่ใจหรือท ถ้าพระพุทะเจ้าแข็มแข้งจริงทำไมจึ่งหนีปัญหามาออกบวชกันล่ะ คิดดูดีๆเถอะข้าพเจ้าว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนอ่อนแอ ในอีกมิติหนึ่งท่านก้แข็มแข็งเช่นกัน
    เพราะท่านแปรเปลี่ยนความอ่อนแอนั้นให้เป็นพลังที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาได้

    ข้าพเจ้าบอกให้ท่านอ่อนแอจริง แต่ไม่ได้บอกให้ท่านใช้ความอ่อนแอนั้นเป็นข้ออ้างหนีปัญหา

    ท่านคิดว่า คนอย่างนโปเลียน เจงกีสข่าน จินซีฮ่องเต้ จะยอมอ่อนน้อมไหมล่ะ เขาจะยิ้มให้ท่าน ก้มหัวให้ท่านทักทายท่านได้ไหมล่ะ ท่านว่าลึกๆแล้วคนเหล่านี้แข็มแข็งหรือ ข้าพเจ้าว่าเขาอ่อนแอมากๆ มากกว่า ท่านเสียอีก พวกเขาวิกลจริต โรคจิต และอันตราย พวกเขาแค่เป็นคนมีปมด้อย ดังนั้นพวกเขาจึ่งไขว่คว้าอำนาจ อยากพิชิตโลก อยากให้คนสยบ อยากให้คนยอมรับ เพื่อปกปิดปมด้อยว่า เขาไม่สมบรูณ์แบบ นี่คือความแข็มแข็งที่ท่านพูด และท่านว่าสุดท้ายพวกเขาเหลืออะไร? ถ้าพวกเขาพิชิตโลกได้แล้วไงต่อล่ะ เขายังจะพิชิตอะไร? ได้อีกตอนนี้โลกตกเป็นของเขา เขาอยุ่บนยอดเขาแล้วเขาทำได้แค่เพียงกระโดลงมา ฆ่าตัวตายเท่านั้น เนื่องจากเหตุผลในการมีชีวิตของเขาบัดนี้หายไปแล้ว
    นั้นไงนี่คือความอ่อนแอในอีกมิติหนึ่ง ขอให้ท่านพึ่งรับรุ้ว่า ความแข็มแข้งและอ่อนแอคือสิ่งเดียวกันมันไม่มีเส้นแบ่ง ที่ชัดเจน ถ้าท่านไขว่คว้าด้านที่แข็มแข็งท่านก็ต้องยอมรับด้านที่อ่อนแอด้วย ความรักคือ ด้านที่อ่อนแอของคนเรา ในมุมกลับกันมันก็เป็นด้านที่แข็มแข็งที่สุดเช่นกัน
    ความเกลียดก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันเพราะมันคือ อีกมุมหนึ่งของความรัก
    ท่านเคยได้ยินเรื่องนี้ไหมล่ะ
    กาลครั้งหนึ่งราชอาณาจักรที่ชื่อว่านังนัง (Nangnang) นั้นมีกลองศํกดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ มีชื่อว่าจามอง ซึ่งเป็นกลองที่สามารถส่งเสียงดังได้เองเมื่อมีศัตรูเข้ามาบุกรุก จึงทำให้มีศัตรูมากมายหวังที่จะทำลายกลองนี้ซะ เพราะชะตาของ
    แคว้นขึ้นอยุ่กลับกลองนี้หากกลองนี้ถูกทำลายแคว้นนังนังก็ต้องล่มสลาย ต่อมาพระราชามูยุล แห่งราชอณาจักรโกคุโรยอ ต้องการจะตีนังนังพระองค์จึ่งได้บังคับ พระโอรสให้บังคับพระชายาของพระองค์ที่เป็นเจ้าหญิงของแคว้นนังนัง ให้ทำลายกลองจามองซะ และแล้วเจ้าหญิงผู้ลุ่มหลงในรักก็ทรยศแผ่นดิน ทรยศบิดามารดา ทำลายกลองจามองทิ้ง ส่งผลให้นังนังล่มสลายลง ซึ่งสุดท้ายนางก็ตายภายใต้มือของพระราชบิดาของนางเองเพราะนางเป็นสาเหตุให้นังนังสิ้นชาติ พระราชสวามีของนางพอรู้ข่าวก็ฆ่าตัวตายตามพระชายาไปเพราะความรักนั้น ท่านเห็นไหมว่าเจ้าหญิงทรงเข็มแข็งเด็จเดี่ยวเพื่อรักแท้ของพระนางแค่ไหน? ในอีกมุมหนึ่งนางก็อ่อนแอจนกระทั้งทำลายล้างทุกๆสิ่งแม้แต่ตัวนางเอง
    [​IMG]


    [​IMG]


    ท่านเคยเห็นกิ่งไผ่
    ไหมล่ะท่านว่า มันอ่อนแอ แต่มันกับต้านพายุได้ แต่ต้นไม้ใหญ่กลับทำไม่ได้ เมื่อใดก็ตามที่ท่านอ่อนแอท่านจะอ่อนน้อมด้วย เช่นกันเพราะอัตตาของท่านลดลง อัตตาที่กระซิบว่าท่านแข็มแข็งเหนือใคร ยิ่งใหญ่กว่าใคร

    ผู้แข็มแข้งที่แท้จริงมิใช่ผุ้ที่ใช้พลังหรือความเข้มแข็งแย่งชิงสิ่งต่างๆมา แต่เป็นผุ้ที่อ่อนแอที่สุด ผู้ที่ยอมก้มหัวอ่อนน้อมต่อคนทุกชนชั้น ผู้ที่เป็นที่รักของคนทุกชนชั้น นี่คือความแข็มแข็งที่ไม่ต้องแย่งชิง จงเป็นคนแบบนี้ท่านที่รัก<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2994312", true); </SCRIPT>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2010
  6. mib8gdviNz

    mib8gdviNz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ขอบคุณมากครับ ที่ทำให้ผมเข้าใจคำว่า"รัก" มากขึ้น...
     
  7. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    ..พรหมวิหารสี่คือคำตอบของความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข..
     
  8. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    ไม่มีเงื่อนไข..........อยากได้ ฟรี ว่างั้น
     
  9. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    อ่า ขยันเขียนยาวดี งั้นเรายินดีให้สิ่งตอบแทนเป็นเรื่องของเรา มีอยู่ว่า


    เราตกงานมานาน จึงกลับบ้านแล้วหันไปปลูกผัก หลายชนิด เพื่ออยู่ให้รอดและ
    เพื่อแจกชาวบ้านทำทานบารมีไปด้วย ด้วยความคิดว่าจะทำอย่างไรให้ผักที่ปลูก
    มีความยั่งยืนของมันเอง จึงลดสิ่งช่วยเหลือลง เช่น ไม่ให้ปุ๋ย ไม่มียาฆ่าแมลง
    หรือมีให้น้อยที่สุด และไม่ดายหญ้าด้วยเอ้า หรือดายให้น้อยที่สุด


    เชื่อว่า ผักมันก็คือพืชที่มีชีวิต มันต้องอยู่ได้เองตามธรรมชาติสิน่า จึงหาวิธีทำให้
    มันเป็นธรรมชาติที่สุด แล้วพ่อของผม ก็ทนเห็นความทุเรศของแปลงผักนั้นไม่ได้
    บวกกับคงจะเอาที่ไปทำอย่างอื่น ผักที่ปลูกพอใช้ได้แล้วในสายตาผม และเริ่มเก็บ
    มาแจกคน ทำข้าวผัดให้พ่อแม่กินด้วย


    ในที่สุด พ่อเอาที่ตัดหญ้าตัดเกลี้ยงแบบทุเรศมากเลย เละเทะไม่เหลือชิ้นดีเลย
     
  10. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ผมมีทางเลือกคือ


    ๑) คุยกับพ่อว่าพ่อไม่ควรทำแบบนี้ มีวิธีอื่นตั้งมาก
    แต่ผมรู้ดีว่าพ่อไม่ฟังเหตุผล ถ้าผมพูดบ้านจะแตกแน่

    ๒) ยอมรับสภาพ คือ ทำมาทั้งหมด เกือบได้ผล
    กลายเป็นศูนย์ไป ยอมเป็นคนแพ้ แพ้เป็นพระไป


    ผมจะเลือกทางไหนดี...
     
  11. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    สุดท้าย ผมอยากจะออกจากบ้านเพื่อไปให้พ้นพ่อ และหาที่ทำสิ่งที่ตนเองต้องการ
    เพื่อไม่ต้องมารบรากะพ่อ อุดมการณ์บ้าบอของผม คุยให้เขาฟังไม่ได้ โดนด่าว่าบ้าแน่



    และพ่อผมอาระวาดรุนแรงด้วย



    แต่แล้ว ผมก็คิดว่า เราจะยอมเสียสิ่งที่ทำมาทั้งหมดเพียงแค่นี้หรือ?
    ผมกลับไปที่แปลงผักที่สภาพทุเรศมากๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่อยากเห็นมันเลย
    ผมเก็บเศษผักที่เหลือ ด้วยคิดว่าผักต้องเอาไปหั่น แม้ถูกตัดขาดก็ยังกินได้
    เอามารวม ล้าง มัดเป็นมัดๆ แล้วเตรียมพร้อมแจกจ่ายให้ทานคน


    ในที่สุด เราก็ได้ผล เป็นผักหอบใหญ่เชียว ...
     
  12. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ผมได้เรียนรู้ว่า...


    ๑) บางครั้งสิ่งที่เราเพียรพยายามมาทั้งหมด อาจกลายเป็นศูนย์ในพริบตา
    ก็เป็นธรรมดา และเราต้องพร้อมยอมรับสภาพนั้นให้ได้ ไม่หนีปัญหานั้น

    ๒) เมื่อสิ้นสภาพไปแล้ว เราจะโทษใครหรือ จะจับผิดใครหรือ ไม่มีประโยชน์
    เราค่อยๆ ทำต่อไป ไม่ละทิ้งอุดมการณ์ ทำต่อเท่าที่ทำได้ ต้องมีทางไปได้

    ๓) การอดทนไม่ตอบโต้ ก็นับว่าผ่าน แต่ถ้ายอมแพ้แล้วที่ทำมาศูนย์เปล่านั้น
    ก็ยังไม่ใช่ เรายังต้องเดินหน้าทำสิ่งที่เราควรทำต่อไป เท่าที่จะทำได้



    ผมเก็บผักไปก็นึกถึงการฟื้นฟูเฮติ และถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับประเทศไทย
    เหมือนแปลงผักที่ผมเฝ้าดูแลเลี้ยงดูด้วยอุดมการณ์นี้ มันสลายลงไป
    วันนั้น เรายังมีกำลังใจลุกขึ้นสู้ต่อไปไหม จะกลับมาดู และเก็บกู้สิ่งที่
    เหลืออยู่ได้ไหม หรือเราจะสูญสิ้นทั้งกำลังใจ จนต้องร้องขอต่างชาติ
    ให้มาทำงานแทน...
     
  13. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เทียบแปลงผักเป็นประเทศไทย


    ถ้าประเทศไทยมีสิ่งทุเรศมาก มีหญ้ารก คือ คนโกงกินคนไม่ดีมาก
    ผมรู้อยู่ และไม่คิดที่จะถอนรากถอนโคน แต่กำลังปล่อยให้ทุกอย่าง
    อยู่ร่วมกันได้ตามธรรมชาติของมัน ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวให้มากที่สุด


    วันหนึ่ง คนเลวก่อกรรมมากเข้า แรงกรรมโหมเข้ามา พ่อ (ยูไล) เห็น
    ว่าควรล้างบางไปบ้าง แล้วส่งภาคทำลายล้างลงมาเก็บกวาด อ่า...


    มันก็คล้ายๆ กันนะ...
     
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    พ่อของผมไม่เหมือนพ่อของแผ่นดินนี้


    พ่อของแผ่นดินนี้ มีปัญญามีเมตตา เป็นที่น่าศรัทธาและนำทางลูกได้
    พ่อของผมยากจนและมีปมด้อยมาตั้งแต่เด็ก และเก็บความคับแค้นใจ
    มายาวนาน หลายครั้งก็เอามาลงที่ลูกและเมีย


    ผมไม่มีพ่อที่น่าศรัทธาอย่างพ่อของแผ่นดินนี้ แต่ผมก็มีพ่อคนเดียว
    คนที่ดูดุร้ายคนนี้ ซึ่งขัดขวางการบำเพ็ญของผมทุกอย่าง ด้วยทิฐิ
    ประหลาดๆ เช่น ไปทะเลาะกับคนรุ่นลูกมา แล้วแค้นใจ ลงที่เขาไม่ได้
    ก็หาเรื่องเพื่อมาลงกับลูกและเมีย ลูกและเมียรูดี จึงฝึกตนและไม่ตอบโต้
    หลังๆ เลยไปหาวิธีลงกับอย่างอื่นเพื่อระบายความแค้น


    คุณอาจโชคดีที่มีพ่อดี เป็นแบบอย่างให้นะ...
     
  15. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    คุณอาจคิดว่าคุณเป็นคนดี


    คนเลวมันมีปมด้อย จึงหาเรื่องทำลายประเทศ
    เหมือนกับที่คุณมองคุณทักษิณว่าเลว และคุณคือตัวดี
    นี่ตัวดี นี่ตัวเลว


    ตราบใดที่คุณยังเสวยบุญเกิดมาบนพานทองอย่างนั้น
    คุณจะไม่มีทางเข้าใจคนที่ผ่านความยากลำบากมาได้เลย
    คุณก็คิดแต่ว่าไอ้เลวคนไหนจะมาทำร้ายฉัน ฉันทำดีตลอด
    ยังมาทำฉันได้อีก นี่เลว นั่นดี คุณคิดได้แค่นี้ และไม่มีวัน
    เข้าใจว่าทำไม เยาวชนของเรา จึงไปขี่รถแว้นท์


    คุณไม่มีวันเข้าใจ ตราบเท่าที่คุณยังถือตัวเป็นคนดีอยู่ต่อไป
     
  16. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    หญ้าในแปลงผัก จำเป็นต้องถอนเสมอไปหรือ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2010
  17. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    ประเด็นหนึ่งก็คือท่านmib8gdviNz<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3027175", true); </SCRIPT>
    จะต้องไม่ใช่คำว่าเข้าใจความรักมากขึ้น
    เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะเมื่อไหร่? ก็ตามที่ท่านพยายามทำความเข้าใจมันท่านก็จะหลงทางโลกกว้างใหญ่ ผู้คนก็มากมาย แต่ไม่มีใครเข้าใจความรัก ท่านจะต้องกล่าวว่าท่านได้เรียนรุ้เกี่ยวกับมันมากขึ้น ท่านมีประสบการณ์มากขึ้น นั้นแหละคือสิ่งที่ท่านจะกล่าวได้ ท่านอาจจะเคยอ่านคัมภีร์ไบเบิ้ลมาบ้าง ท่านจะพบว่าตัวคัมภีร์นั้นไม่ได้พูดถึงความรักว่าคืออะไร? แต่เป็นเสียงของความรักว่าความรักนั้นเป็นเช่นไร? พรหมวิหาร4ก็เช่นกันท่านจะเห็นว่ามันไม่ได้อธิบายตัวมันเองว่าพรหมวิหาร4คืออะไร? ท่านจะต้องทำความเข้าใจมันเหมือนเรื่องอื่นๆ เปล่า มันเพียงแค่บอกท่านว่าผู้มีพรหมวิหาร4นั้นเป็นเช่นไร?
    กล่าวก็คือจงอย่าพูดเกี่ยวกับความรัก แต่จงเป็นเสียงของความรัก เป็นทางผ่านของความรัก ท่านเคยเห็นนี่ไหม นักบวชมักจะพูดเกี่ยวกับสวรรค์เทพเทวา พระพุทธเจ้า แต่พวกเขานั้นลึกๆลงไปไม่รู้อะไรเลย ถ้าพวกเขารุ้ พวกเขาคงจะไม่พูดเกี่ยวกับเพื่อปกปิดความโง่เขลา หรอก แต่ท่านดุผู้ทรงปัญญาสิ พวกเขาพูดเหมือน พวกเขาเป็นพระเจ้า พุดในสิ่งที่พระเจ้า ควรจะพุด พูดในสิ่งที่พระพุทธเจ้าควรจะพูด ในวิธีทางของพวกเขาเอง
    ถ้าท่านอยากจะเห็นความรัก ขอท่านจงเป็นเสียงของความรักเถอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2010
  18. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เสี้ยนหนามแผ่นดิน


    เมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ เสี้ยนหนามของแผ่นดิน
    เรายังจัดการได้ แต่เมื่อเราสิ้นไปแล้ว ลูกหลานเรา
    จะอยู่อย่างไร


    การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน สร้างวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกัน
    ท่ามกลางความแตกต่าง ทั้งคนดี คนชั่ว คนถูก คนผิด
    นี่ต่างหาก ที่จะทำให้ลูกหลานเราอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีเรา
    เมื่อเราจากไปแล้ว ลูกหลานได้อาศัยวัฒนธรรมการอยู่
    ร่วมกันนั้น ยืนยาวสืบไป เพราะการขจัดเสี้ยนหนามของ
    แผ่นดิน ไม่มีวันทำได้หมดสิ้น ดุจหญ้าที่ไม่มีวันหมดไป
    จากแผ่นดินหรือแปลงผักได้ฉะนั้น



    (เราในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงผมนะ)
     
  19. datedoctor

    datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +678
    ประเด็นคือ
    ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ไร้ค่า ทุกสิ่งล้วนมีประโยชน์และโทษควบคู่กันไปท่านเห็นอะไร?ไหม ท่านบินเดี่ยว

    ลองมองดุไปรอบๆตัวของท่านสิท่านจะพบมันเป็นเช่นนั้นจริง แม้จุลลินทรีย์จะทำให้เกิดโรคร้าย แต่มันก็ช่วยให้ระบบขับถ่ายของท่านทำงานได้ดี ดุขยะสิ บางส่วนก็สามารถนำมาสร้างเป็นงานศิลปะได้ ถ้ามันอยู่อย่างสมดุลในร่ายกายของท่าน ดังนั้นท่านจะต้องมองหาประโยชน์ของมันให้พบก่อน และจัดการมันด้วยความพอดี นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก

    ประเด็นคือท่านได้สร้างอุดมคติขึ้นมานั้นคือท่านคิดว่าท่านจะประสบความสำเร็จในการปลูกผัก เพียงไม่กี่ครั้งท่านเห็นอะไรไหม

    ท่านดุสิท่านคิดว่าท่านปลุกไม่กี่ครั้งมันก็จะสำเร็จเปล่าเลย ของเหล่านี้มันต้องอาศัยประสบการณ์ ชาวสวนที่ทำสวนผลไม้จนยืนได้นั้นต้องอาศัยประสบการณ์ ทั้งความผิดพลาด ทั้งการประสบความสำเร็จ จึ่งจะทำได้อย่างพอดีเมื่อเขาหาจุดสมดุลเจอ แต่นั้นก้ไม่ได้รับประกันว่าเขาจะประสบความสำเร้จตลอดไป

    มันต้องมีช่วงที่ราคาผลไม้ชนิดนั้นลดลง ล้นตลาด อยุ่แน่ แต่ตอนนี้เขารุ้ถึงจุดนั้นแล้วจึ่งมีแผนรับมือกับมัน ความทุกข์และความสุขที่ผ่านมาก้เป็นเช่นนี้ท่านจะแก้ไขมันได้เรียนรุ้ที่จะอยุ่กับมันได้ ท่านก้ต้องมีประสบการณื จงอย่ามีอุดมคติไม่เช่นนั้นท่านจะหลงทาง ท่านคิดใช่ไหมว่าการปลุกผักครั้งนี้จะประสบความสำเร็จใช่ท่านคิด ไม่งั้นท่านคงไม่ทำเช่นนี้หรอก แต่ท่านเห็นอะไรไหมพอมันล้มเหลวท่านก็เสียใจเพราะมันไม่ได้เป็นไปตามหวัง
    นั้นไงสิ่งที่ท่านควรทำจึ่งเป็นจงทำตามหัวใจ ชีวิตที่เป็นมายานี้มันเป็นของท่าน ท่านจะต้องอยู่กับปัจจุบันสิ่งที่ผ่านมาแล้วจงลืมมันเสียอย่าให้มันพันธนาการณ์ท่าน
    ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าอนาคต มีแค่ปัจจุบันที่เป็นของท่าน จงทำไปตามหัวใจท่านในขณะนี้ที่มันเรียกร้อง หาท่านอยากปลูกผักจงปลูกต่อไป ต่อให้ท่านจะต้องล้มก็จงล้มและลุกขึ้นมา
    แต่ท่านจะต้องมองหาโอกาสในตอนที่ท่านล้มลงแต่ล่ะครั้งด้วย ท่านรู้จักเอดิสันไหม เขาทำผิดพลาดมากว่า2000ครั้ง มีคนหาว่าเขาบ้าทั้งประเทศ แต่ท่านเห้นอะไรไหมในที่สุดเขาก้ทำมันได้ ทำหลอดไฟที่เขาเองก้ไม่ได้คราดหวังว่ามันจะสำเร้จ ใช่เขาไม่ได้คลาดหวังท่านคิดดูถ้าเขาคลาดหวังเขาคงยอมแพ้ไปนานแล้ว รู้ไหม?เขากล่าวว่าไง ข้าพเจ้าไม่ได้กำลัง ทำผิดพลาด2000ครั้งข้าพเจ้าประสบความสำเร้จ2000ครั้งในการหาวิธีทำหลอดไฟฟ้าให้ล้มเหลว นั้นแหละคือสิ่งที่ท่านควรทำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2010
  20. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    สวนครัวแบบ Modern Tropical


    เคยปลูกพืชประดับแบบ Modern Tropical คือ เอามารวมๆ
    กันหลายชนิด แล้วให้พึ่งพาอาศัยกันเอง ก็พอไหว แต่กับผักนี่ยากหน่อย


    กำลังเปลี่ยนเป็นผักมีแก่น กินยอดแทน หาอยู่ว่าผักหวานนี่เขา
    ปลูกที่ไหน มีพันธุ์ที่ไหน กะจะผสมผักหวาน, ชะอม ฯลฯ
    พวกกินยอดนี่ เราไม่ต้องปลูกแล้วตัดหมด มันจะกลายเป็นสวน
    อย่างหนึ่งได้ แล้วพวกกินดอกด้วย เช่น ดอกแค อันนี้ ต้นแข็งแรง
    ไม่ต้องดูแลประคบประหงมมาก อยู่ได้ยาวนาน น่าจะเป็นสวนผสม
    สวนผักที่อิงอาศัยกันเองได้ ถ้าพื้นล่างปลูกชะพลูไว้ ก็จะกันน้ำไม่
    ให้ระเหยไปหมดเร็ว ประหยัดน้ำได้ ฯลฯ
     

แชร์หน้านี้

Loading...