ไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ไฉ่ซิ่งเอี้ย ตรุษจีนปี 2553 เฮงตลอดปี

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 10 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>ไฉ่ซิงเอี๊ย (ไฉเสิน เย่)财神爷 [​IMG]
    ไฉ่ซิงเอี๊ย (ไฉเสิน เย่)<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    财神爷<O:p></O:p>
    [​IMG]<O:p></O:p>
    “ไฉเสินเย่ (财神爷)” เป็นการออกเสียงเรียกด้วยสำเนียงจีนกลาง แต่เราจะคุ้นเคยในสำเนียงแต้จิ๋วว่า “ไฉ่ซิงเอี๊ย” มากกว่า (ท่านมีอีกชื่อหนึ่งว่า ท้าวเวศสุวรรณ) สำหรับชาวจีนแล้ว ไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) นั้นคือสัญลักษณ์ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยหรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ(คำว่า “ไฉ”()แปลว่า ทรัพย์สมบัติ, “เสิน”()แปลว่า เทพ , “เย่”() เป็นคำยกย่องเปรียบดั่งผู้มีคุณหรือ ปู่) นับเป็นเทพเจ้าที่ได้รับการกราบไหว้มากที่สุดองค์หนึ่ง และยังเป็นเทพที่ชนทุกชั้นนิยมกราบไหว้บูชา ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นคนยากดีมีจนแค่ไหน เพราะไม่ว่าจะเป็นยาจกหรือเศรษฐี ต่างก็ปรารถนาในทรัพย์สมบัติและความร่ำรวยด้วยกันทั้งนั้น<O:p></O:p>
    คตินิยมของจีนที่มีมาอย่างช้านานต่างเชื่อกันว่า การกราบไหว้บูชา “ไฉ่ซิงเอี๊ย” เทพแห่งความร่ำรวยและโชคลาภ จะนำพามาซึ่งความสุขสมหวังในทรัพย์สมบัติมากมายตลอดปี อีกทั้งเทพเจ้าไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) เป็นเทพองค์แรกที่ชาวจีนต้องกราบไหว้ของปีใหม่จีน (ตรุษจีน) คนจีนส่วนใหญ่นิยมไหว้ท่านในคืนก่อนวันตรุษจีนเพื่อเฉลิมฉลองวันแรกของปีใหม่แต่จริง ๆ แล้ว หากนับตามปฏิทินจันทรคติ วันเกิดของท่านคือวันที่ 5 หลังตรุษจีน(ชิวโหงว) แต่เพราะใกล้กับวันตรุษจีน รวมทั้งเพื่อความเป็นสิริมงคลในวันแรกของปีใหม่ คนจีนส่วนใหญ่จึงนิยมกราบไหว้ ไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) ในคืนสุดท้ายของปีเก่าก่อนขึ้นวันใหม่ในวันตรุษจีน เรียกกันว่า “ไหว้เจ้าสิ้นปี” นั้นเอง<O:p></O:p>
    ตามตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับ ไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) มีค่อนข้างมากมายและหลากหลายมากกว่าเทพองค์อื่น ๆ แต่ละตำนานก็แตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง ดังนั้น ในที่นี้จะประมวลสรุปเกี่ยวกับตำนานที่มาของ ไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) ที่มีความใกล้เคียงกันมากที่สุดเป็นลำดับแรก ๆ แล้วค่อยกล่าวถึงตำนานปลีกย่อยโดยสังเขป ทั้งนี้จะยึดถือเรื่องราวที่มาของไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) จากเอกสารภาคภาษาจีนเป็นหลัก<O:p></O:p>
    เทพเจ้าแห่งโชคลาภและความมั่งคั่งร่ำรวย ไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) จะมีอยู่ 2 องค์ ได้แก่ “เหวินไฉเสินเย่”หรือ “ไฉ่ซิงเอี๊ยะบุ๋น” (文财神爷) และ “อู่ไฉเสินเย่”หรือ “ไฉ่ซิงเอี๊ยบู๊” (武财神爷) ความเชื่อเรื่องไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) ทั้งบุ๋นและบู๊ก็มีความแตกต่างกัน หากคน ๆ นั้นทำงานทั่วไปและต้องการกราบไหว้ขอพรเพื่อความร่ำรวย ก็จะนิยมกราบไหว้ “เหวินไฉเสินเย่”หรือ “ไฉ่ซิงเอี๊ยะบุ๋น” แต่หากเป็นกิจการบริษัท, สำนักงานและโรงงาน ที่ต้องควบคุมคนเป็นจำนวนมาก และมีอานุภาพให้คุณสำหรับในเรื่องของหนี้สิน จะกราบไหว้ “อู่ไฉเสินเย่”หรือ “ไฉ่ซิงเอี๊ยบู๊” กล่าวคือ จะช่วยดลบันดาลให้ผู้บูชาที่เป็นเจ้าหนี้สามารถทวงหนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
    <!-- google_ad_section_end --> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เพื่อให้พิธีกรรมการขอพรเทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ยในปีนี้ ทั้งพิธีการ กาย วาจา ใจ และฤกษ์ยาม มีความสมบูรณ์มากขึ้น ดังนั้นจึงนำบทสวดบูชาเทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ยมาบอกกล่าวกันให้ทราบเพื่อมีความรู้สึกว่าได้เข้าถึงเทพเจ้าท่าน หรืออาจทำให้เทพเจ้าท่านมีความโปรดปรานเป็นพิเศษ บทสวดนี้เป็นหัวใจคาถาของทิเบต โดยจารึกเป็นภาษสันสกฤตมาแต่ครั้งโบราณ..

    คาถาบูชาเทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่ซิ้งเอี้ย)

    คาถาบูชาเทพเจ้าแห่งโชคลาภ
    ของพุทธตันตระ ฝ่ายมหายาน
    "โอม ชัมภาลา จาเลน ไนเยน สวาหะ"


    คาถาบูชาขอพรเทพเจ้าแห่งโชคลาภ

    เคล็ดคาถานี้บูชาสำหรับท่านที่เกิดปีต่าง ๆ ทั้ง 12 นักษัตร อันเป็นหัวใจคาถาของทิเบตจารึก เป็นภาษาสันสกฤตมาแต่ครั้งโบราณ โดยให้ตั้งจิตให้สงบระลึกถึงความดี และบุญกุศลที่ได้ประกอบมา แล้วท่องคาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล อธิษฐานขอพรจากท่าน
    • ท่านที่เกิดในปี ฉลู - มะโรง - มะแม - จอ
      คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ "โอม ชัมภาลา จาเลน ไนเยน สวาหะ"
    • ท่านที่เกิดในปี ขาล - เถาะ
      คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ "โอม อา ฮูโฮฮัม กษะสะ โอม ชัมภาลา ลาจาเลน ไนเยน สวาหะ"
    • ท่านที่เกิดในปี มะเส็ง - มะเมีย
      คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ "โอม ชัมภาลา จาเลน ไนเยน ธะนัม เมธิ หะรี ทากินี ชัมภาลา สะมะภารา สวาหะ"
    • ท่านที่เกิดในปี วอก - ระกา
      คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ "โอม ปัทมะ โกรธะ อรยะ ชัมภาลา หฤทัย หู ผะฏะ"
    • ท่านที่เกิดในปี กุน - ชวด
      คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ "โอม ชัมภะละ ชะเลนทะรา เย สะวาหา โอม อินทะระ ฌิมขัม ภะมะริ สวาหา"

     
  3. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,683
    ค่าพลัง:
    +9,239
    [​IMG]

    ขออนุโมทนาค่ะ
     
  4. jjshop

    jjshop สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    ผมจะใหว้ เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ย เป็นครั้งแรก แต่จะใหว้ตอน เที่ยงคืนได้ใหมครับ

    ผมจะใหว้ เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ย เป็นครั้งแรก แต่จะใหว้ตอน เที่ยงคืนได้ใหมครับ
    ช่วยแนะนำที เพราะเตรียมของหมดแล้วครับ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ดวงชะตาปีขาล ลิขิตฟ้า และ มานะคน
    China - Manager Online
    </TD><TD vAlign=baseline align=right width=85>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 กุมภาพันธ์ 2553 08:57 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ชาวจีนมักเริ่มต้นปีใหม่นี้ด้วยการระมัดระวังอย่างยิ่ง ทั้งในการสนทนาและพฤติกรรมของตนต่างๆ เพื่อป้องกันวิกฤติความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในด้านลบอย่างผู้ไม่ประมาทฯ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ปฏิทินปี 2553</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ปฏิทินปี 2553</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ปฏิทินปี 2553</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ปฏิทินปี 2553</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ตำนาน 12 นักษัตรจีนได้ปรากฏครั้งแรกในประเทศจีน ตั้งแต่ศตวรรษที่หนึ่ง คนจีนเชื่อว่าแต่ละราศี จะสำแดงบุคลิกภาพเด่นด้อยออกมา อันเป็นความเชื่อที่นิยมในชุมชนชาวจีนทั่วโลก

    ปีใหม่ทางจันทรคติ ของชาวจีนจะขึ้นอยู่กับรอบปี 12 นักษัตร เริ่มจาก ชวด, ฉลู, ขาล, เถาะ, มะโรง, มะเส็ง, มะเมีย, มะแม, วอก, ระกา, จอและกุน โดยปีขาลจะเริ่มที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 และไปจนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2554 ทารกเกิดภายในช่วงระยะเวลานี้เป็นชะตาผู้เกิดในปีเสือ

    เนื่องจากยังไม่ทราบว่าชะตาราศีบุคคลจะเป็นอย่างไร ชาวจีนจึงมักเริ่มต้นปีใหม่นี้ด้วยการระมัดระวังอย่างยิ่ง ทั้งในการสนทนาและพฤติกรรมของตนต่างๆ เพื่อป้องกันวิกฤติความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในด้านลบอย่างผู้ไม่ประมาทฯ

    ตรุษจีนปีนี้ มุมจีนขอนำคำทำนายของบรรดาซินแสจีนมาแบ่งปัน พร้อมกับภาพปฏิทินจีน ปี 2553 โดยขอวงเล็บไว้ว่า (คำทำนายเป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ)

    มะเมีย, มะแมและมะโรง เฮงๆ ปีขาล
    World Journal หนังสือพิมพ์รายวันภาษาจีน ซึ่งพิมพ์จำหน่ายแพร่หลายในทวีปอเมริกาเหนือ ได้รายงานคำพยากรณ์ของบรรดาซินแสจีน เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ว่าราศีปีเกิดที่ถูกโฉลกสำหรับปีขาลคือราศีเกิดมะเมีย, มะแมและมะโรง ในขณะที่ขาล, วอก, กุน และปีมะเส็ง จะเป็นอีกด้านตรงข้าม

    มัก หลิงหลิง หนึ่งในซินแสฮวงจุ้ย ชาวฮ่องกง ที่มีชื่อเสียง ผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์และเป็นผู้เขียนหนังสือหลายเล่ม ทำนายว่า ในปีขาลนี้ คนที่เกิดในปีมะเมียและปีมะแม จะมีโชคดี แต่ต้องไม่ทำอะไรด้วยความเร่งรีบเกินควร ส่วนผู้เกิดในปีมะโรงจะมีรายรับตามปกติแต่ไม่ควรคาดว่าว่าจะมีส้มหล่นหรือลาภลอยมา ขณะที่ผู้เกิดในปีขาลและปีวอก ชะตาปีนี้จะขึ้นๆ ลงๆ

    คนเกิดในปีวอกและกุนมีโอกาสดีในการทำรายได้ในสถานที่ไกลจากบ้านเกิด ขณะที่คนเกิดปีมะเส็ง อาจจะไม่มีโชคลาภนัก กระนั้นก็ตามยามตกทุกข์จะได้รับความช่วบเหลือจากผู้หญิงที่มีฐานะ

    ซินแสมัก เสริมว่า คนที่เกิดในปีเถาะจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้ชายที่ร่ำรวย และสามารถรับคำแนะนำทางการเงินได้จากผู้มีอายุสูงกว่า และคนเกิดปีระกาไม่ควรคาดหวังสูงในการลงทุน โดยให้พอใจในผลกำไรแม้เพียงเล็กน้อยไว้ ดีกว่าโลภเกินไปจนลาภหาย

    ปีขาลนี้ คนเกิดปีจอ ดูจะมีโอกาสในการลงทุนส่วนตัว มากกว่าร่วมทุนกับหมู่คณะอื่นๆ และสำหรับคนเกิดปีฉลู ซึ่งได้แรงดึงดูดจากชะตาแห่งความรัก จะได้พบเนื้อคู่และสมรักสมรส ซึ่งจะเสริมส่งให้ดวงชะตาปีนี้ดีขึ้นไปอีก

    ขาล, วอก, กุน และมะเส็ง ให้สุขุมรอบคอบไว้
    ทางด้าน หลี่ หมิงจู พยากรณ์อีกท่าน ได้ชี้ว่า คนที่เกิดในปีขาลและปีวอก อาจจะพบกับเรื่องยุ่งยากและความไม่แน่ไม่นอน ขึ้นๆ ลงๆ ในปีนี้ และขอแนะนำให้ก่อนทำอะไรควรได้ปรึกษาคนอื่นๆ ก่อน ส่วนผู้ที่เกิดปีกุน ควรจะระวังคู่อริและสนใจดูแลสุขภาพตนเองด้วย

    เสริมคำพยากรณ์จากผู้เชี่ยวชาญปรัชญาธรรมชาติ หลง เจิ้งเถียน ซึ่งก็กล่าวในทำนองเดียวกันว่า ในปีเสือนี้ ควรจะอยู่นิ่งๆ สงบเยี่ยงเสือไว้ แทนที่จะแวบไปมาบ่อยนัก ถ้าคนเกิดปีวอก ก็ควรจะทำตัวเงียบๆ อย่างเด่นโดดจนทำให้คนอื่นร้อนผ่าวในดวงตา อาจเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตด้านต่างๆ อาจต้องเดินทางบ่อย หรือถูกแต่งตั้งโยกย้ายให้ไปทำงานในที่อื่น

    หลี่ เจี้ยน จุน ผู้เชี่ยวชาญฮวงจุ้ย ระบุว่า คนเกิดปีหมูให้ระวังอุบัติเหตุในปีเสือ ขณะเดียวกันก็จะได้รับความช่วยเหลืออย่างไม่คาดฝัน พร้อมกับแนะนำว่า คนเกิดปีขาลและปีวอกไม่ควรลงทุนเก็งกำไรในปีนี้

    ทั้งนี้ คำพยากรณ์นั้นไม่อาจจะระบุได้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไช่ เจิ้งหลุน ผู้เชี่ยวชาญฮวงจุ้ย อีกท่านกล่าวว่า การรวบรวมคำนวณรหัสตัวเลขเป็นเหมือนการเดาทาง แต่ทางชีวิตไม่ได้กำหนดมีเพียงหนึ่งเดียว

    ดังเช่นที่ ขงจื่อ (孔子) เทพนักปราชญ์นักคิดคนสำคัญของจีน ได้สรุปรวบยอดถึงสรรพสิ่งที่พบพาน กับชีวิตที่เลือกได้ในสภาพความเปลี่ยนแปลงขึ้นลงนั้นว่า

    "ถ้าผู้ใดคิดจักเป็นใหญ่ ผู้นั้นจักได้เป็นใหญ่
    ถ้าผู้ใดคิดอยากเป็นอะไร ผู้นั้นก็จะได้เป็นสิ่งนั้น
    ด้วยแสวงหา มิใช่รอคอย
    ด้วยเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส
    ด้วยสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย
    ดังนี้แล้วจึงกล่าวได้ว่า "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน""


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>ไฉ่ซิงเอี๊ย (ไฉเสิน เย่)财神爷 [​IMG]



    </TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>ไฉ่ซิงเอี๊ย (ไฉเสิน เย่)财神爷 [​IMG]
    ไฉ่ซิงเอี๊ย (ไฉเสิน เย่)<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    财神爷<O:p></O:p>
    [​IMG]<O:p></O:p>
    “ไฉเสินเย่ (财神爷)” เป็นการออกเสียงเรียกด้วยสำเนียงจีนกลาง แต่เราจะคุ้นเคยในสำเนียงแต้จิ๋วว่า “ไฉ่ซิงเอี๊ย” มากกว่า (ท่านมีอีกชื่อหนึ่งว่า ท้าวเวศสุวรรณ) สำหรับชาวจีนแล้ว ไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) นั้นคือสัญลักษณ์ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยหรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ(คำว่า “ไฉ”( )แปลว่า ทรัพย์สมบัติ, “เสิน”( )แปลว่า เทพ , “เย่”( ) เป็นคำยกย่องเปรียบดั่งผู้มีคุณหรือ ปู่) นับเป็นเทพเจ้าที่ได้รับการกราบไหว้มากที่สุดองค์หนึ่ง และยังเป็นเทพที่ชนทุกชั้นนิยมกราบไหว้บูชา ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นคนยากดีมีจนแค่ไหน เพราะไม่ว่าจะเป็นยาจกหรือเศรษฐี ต่างก็ปรารถนาในทรัพย์สมบัติและความร่ำรวยด้วยกันทั้งนั้น<O:p></O:p>
    คตินิยมของจีนที่มีมาอย่างช้านานต่างเชื่อกันว่า การกราบไหว้บูชา “ไฉ่ซิงเอี๊ย” เทพแห่งความร่ำรวยและโชคลาภ จะนำพามาซึ่งความสุขสมหวังในทรัพย์สมบัติมากมายตลอดปี อีกทั้งเทพเจ้าไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) เป็นเทพองค์แรกที่ชาวจีนต้องกราบไหว้ของปีใหม่จีน (ตรุษจีน) คนจีนส่วนใหญ่นิยมไหว้ท่านในคืนก่อนวันตรุษจีนเพื่อเฉลิมฉลองวันแรกของปีใหม่แต่จริง ๆ แล้ว หากนับตามปฏิทินจันทรคติ วันเกิดของท่านคือวันที่ 5 หลังตรุษจีน(ชิวโหงว) แต่เพราะใกล้กับวันตรุษจีน รวมทั้งเพื่อความเป็นสิริมงคลในวันแรกของปีใหม่ คนจีนส่วนใหญ่จึงนิยมกราบไหว้ ไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) ในคืนสุดท้ายของปีเก่าก่อนขึ้นวันใหม่ในวันตรุษจีน เรียกกันว่า “ไหว้เจ้าสิ้นปี” นั้นเอง<O:p></O:p>
    ตามตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับ ไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) มีค่อนข้างมากมายและหลากหลายมากกว่าเทพองค์อื่น ๆ แต่ละตำนานก็แตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง ดังนั้น ในที่นี้จะประมวลสรุปเกี่ยวกับตำนานที่มาของ ไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) ที่มีความใกล้เคียงกันมากที่สุดเป็นลำดับแรก ๆ แล้วค่อยกล่าวถึงตำนานปลีกย่อยโดยสังเขป ทั้งนี้จะยึดถือเรื่องราวที่มาของไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) จากเอกสารภาคภาษาจีนเป็นหลัก<O:p></O:p>
    เทพเจ้าแห่งโชคลาภและความมั่งคั่งร่ำรวย ไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) จะมีอยู่ 2 องค์ ได้แก่ “เหวินไฉเสินเย่”หรือ “ไฉ่ซิงเอี๊ยะบุ๋น” (文财神爷) และ “อู่ไฉเสินเย่”หรือ “ไฉ่ซิงเอี๊ยบู๊” (武财神爷) ความเชื่อเรื่องไฉเสินเย่(ไฉ่ซิงเอี๊ย) ทั้งบุ๋นและบู๊ก็มีความแตกต่างกัน หากคน ๆ นั้นทำงานทั่วไปและต้องการกราบไหว้ขอพรเพื่อความร่ำรวย ก็จะนิยมกราบไหว้ “เหวินไฉเสินเย่”หรือ “ไฉ่ซิงเอี๊ยะบุ๋น” แต่หากเป็นกิจการบริษัท, สำนักงานและโรงงาน ที่ต้องควบคุมคนเป็นจำนวนมาก และมีอานุภาพให้คุณสำหรับในเรื่องของหนี้สิน จะกราบไหว้ “อู่ไฉเสินเย่”หรือ “ไฉ่ซิงเอี๊ยบู๊” กล่าวคือ จะช่วยดลบันดาลให้ผู้บูชาที่เป็นเจ้าหนี้สามรถทวงหนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
    [​IMG] [​IMG][​IMG]
    “ไฉ่ซิงเอี๊ยะบุ๋น” (文财神爷) “ไฉ่ซิงเอี๊ยบู๊” (武财神爷)
    ไฉ่ซิงเอี๊ย ทั้ง 2 องค์นี้เป็นใคร ? เกี่ยวกับเรื่องนี้มีตำนานเล่าขานมามากมายหลายกระแส แต่ส่วนใหญ่จะเล่ากันว่า ไฉ่ซิงเอี๊ยองค์บุ๋นคือ ปี่กาน และองค์บู๊คือ จ้าวกงหมิง ซึ่งมีตำนานเล่ามาดังนี้<O:p></O:p>
    นานมาแล้ว เจียงไท้กง เทพชั้นผู้ใหญ่ผู้มีหน้าที่แต่งตั้งเทพเจ้า วันหนึ่งท่านกำลังนั่งบำเพ็ญตบะอยู่ จู่ๆ หัวใจก็สั่นหวิว ท่านจึงทราบด้วยจิตญาณว่า เทพปี่กาน กำลังจะมีเรื่องเดือดร้อนหนัก จึงพยายามหาทางช่วย
    ปี่กาน นั้น เป็นอัครหมาเสนาบดีของจักรพรรดิอินโจ้ว ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์อิน ทรงลุ่มหลงสุรานารีไม่ใส่ใจราชกิจ ทรงมีสนมเอกนางหนึ่งนาม โซวถังกี้ (ซูต๋าจี่) ที่เป็นหณิงงามที่ลือชื่อในประวัติศาสตร์ ปี่กาน เป็นขุนนางผู้ซื่อตรง พยายามจะเตือนองค์จักรพรรดิให้หันมาสนใจราชกิจ แต่พระองค์ไม่สนพระทัยต่อคำเตือน ปี่กานจึงวางแผนให้ทหารไปจับสุนัขจิ้งจอกมาทำเสื้อคลุมถวายแด่องค์จักรพรรดิ เพราะเชื่อว่า ถังกี้ (ต๋าจี่) เป็นปีศาจจิ้งจอก เมื่อพบเห็นเสื้อคลุมก็จะตกใจและหนีไป แต่เหตุการณ์กับตรงกันข้าม เพราะถังกี้ไม่ตกใจ และยังวางแผนเล่นงานปี่กานกลับอีกด้วย<O:p></O:p>

    เย็นวันหนึ่ง ปี่กานได้ยินเสียงคนร้องขายของอยู่หน้าบ้าน ว่า “ขายหัวใจๆ” ก็แปลกใจ จึงออกไปดู พบเห็นคนแก่ยืนอยู่หน้าบ้านของตน จึงถามว่า “ท่านผู้อาวุโส จะขายหัวใจจริงหรือนี่” ชายชราก็ตอบว่า “ขายจริงๆ นายท่านสนใจซื้อหาหรือไม่”<O:p></O:p>
    ปี่กาน จึงแย้งไปว่า “หัวใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของร่างกาย ถ้านำมันออกมาแล้ว ทุกคนต้องตาย ท่านยังคิดที่จะขายหัวใจอยู่อีกหรือหาไม่” ชายชรากล่าวว่า “หัวใจเป็นต้นเหตุของความรู้สึกผิดชอบชั่วดี หากหัวใจไม่เที่ยงธรรม มือเท้าย่อมทำแต่สิ่งไม่ดี ถ้าเอาหัวใจออกมาขายเสีย ต่อไปข้าพเจ้าก็จะไม่เลือกที่รักมักที่ชัง มีแต่ความยุติธรรม จัดการปัญหาต่างๆ อย่ายุติธรรม เป็นเช่นนี้มิใช่ประเสริฐกว่าหรือ”
    ปี่กาน ยืนยันว่า “แต่หัวใจเป็นอวัยวะสำคัญมาก มีเพียงหนึ่งเดียว เมื่อขายแล้วท่านจะมีชีวิตสืบต่อไปได้อย่างไร”
    “ได้แน่นอน เนื่องจากข้าพเจ้ามียาวิเศษอยู่เม็ดหนึ่ง เมื่อกินเข้าไปแล้วถึงแม้ไม่มีหัวใจ แต่อวัยวะอื่นๆ ของร่างกายจะยังสามารถทำงานสืบไปได้เช่นเดิม”
    “งั้นขอให้ข้าพเจ้าได้ชมยาวิเศษสักนิดได้หรือไม่”
    ชายแก่จึงส่งมอบยาวิเศษเม็ดนั้นให้แก่ปี่กาน เมื่อเขานำมาดมดูก็รู้สึกหอมอย่างประหลาด รู้สึกมีพลังวิ่งไปทั่วร่างกาย แต่พอเงยหน้าขึ้นมากลับไม่พอชายชราผู้นั้นเสียแล้ว (ความจริงแล้ว ชายชราผู้นั้นคือเจียงไท้กงแปลงกายลงมานั้นเอง)<O:p></O:p>

    เช้าวันรุ่งขึ้น องครักษ์หลายนายได้มาเชิญตัวปี่กานไปเข้าเฝ้าแต่เช้า ปี่กานรู้สึกแปลกใจ เพราะจักรพรรดิอินโจ้วไม่เคยสนพระทัยว่าราชการ แต่กลับส่งคนมาเชิญตนแต่เช้า จึงไถ่ถามเหล่าองครักษ์ จึงทราบว่า พระสนมถังกี้ เป็นโรคประหลาด หมอหลวงอับจนปัญญาที่จะรักษาได้ มีแต่หัวใจของปี่กานเท่านั้นที่จะสามารถใช้รักษาโรคนี้ได้<O:p></O:p>
    จักรพรรดิอินโจ้วกำลังหลงพระสนมถังกี้มาก ทรงตรัสว่า “เจ้าเป็นพระสนมเอกแห่งเรา ส่วนปี่กาน เป็นแค่ขุนนางอันต่ำต้อย ชีวิตใครจักมีค่ามากกว่ากัน เรารู้ดี ดังนั้นขอเพียงรักษาอาการป่วยของเจ้าได้เท่านั้น อย่าว่าแต่ชีวิตของขุนนางผู้เดียวเลย ต่อให้ต้องฆ่าขุนนางสัก 100 คน เราก็เต็มใจ”
    ดังนั้นพระองค์จึงมีรับสั่งให้เบิกตัวปี่กานมาเข้าเฝ้าแต่เช้า หลังจากปี่กานทราบเรื่องก็ตกใจเป็นอันมาก เรียกหาคนในครอบครัวมาสั่งเสีย ทันใดนั้นเขานึกถึงยาวิเศษที่ได้รับมาจากชายชรา จึงรีบไปหยิบยาวิเศษเม็ดนั้นออกมากลืนกินลง แล้วตามเหล่าองครักษ์เพื่อเข้าเฝ้า
    พอมาถึงท้องพระโรง จักรพรรดิอินโจ้วก็ตรัสขอหัวใจของปี่กานเพื่อนำไปใช้รักษาอาการป่วยของพระสนมถังกี้<O:p></O:p>

    ปี่กานจึงทูลว่า “พระองค์รับสั่งให้ขุนนางตาย ขันนางผู้นั้นก็มิอาจมีชีวิตสืบไป แต่ก่อนที่กระหม่อมขอกราบทูลเตือนพระองค์เป็นครั้งสุดท้ายว่า พระองค์กำลังลุ่มหลงนางปีศาจ แลกำลังตกอยู่ภายใต้อำนาจของมัน หลังจากที่พระองค์ทรงประหารกระหม่อมแล้ว ราชวงศ์ของพระองค์ที่ดำลงคงอยู่มาถึง 28 รัชกาล ก็จะถึงกาลอวสานแล้ว”<O:p></O:p>
    อนิจจา องค์จักรพรรดิหาได้ใส่พระทัยต่อคำเตือนของปี่กานไม่ กลับรับสั่งให้ทหารควักหัวใจของปี่กานออกมาแต่ ปี่กาน ห้ามเหล่าทหารเอาไว้ และกล่าวว่า “พวกเจ้านั้นหาจำเป็นไม่ ขอเพียงมีมีดสั้นให้กับข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะกระทำการสืบไปเอง”<O:p></O:p>
    กล่าวจบ ปี่กานก็ใช้มีดแหวะอก และควักหัวใจออกมา โยนหัวใจนั้นทิ้งไว้กับพื้น แล้วเดินออกจากพระราชวังโดยไม่พูดอะไร แต่ที่มหัศจรรย์คือตลอดการกระทำของปี่กานนี้ หามีเลือดออกมาไม่ ตั้งแต่นั้นมา ปี่กานก็ออกท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ เขาโปรยเงินทอง แจกจ่ายแก่ผู้คนไปทั่ว กลายเป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ตามตำนานกล่าวกันว่า ปี่กานกินยาวิเศษของเจียงไท้กงเข้าไป ทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้ แม่ว่าจะไม่มีหัวใจ และกล่าวกันว่า เพราะปี่กานไม่มีหัวใจนี่เอง เขาจึงโปรยเงินโปรยทองแก่ผู้คนทั่วไป โดยไม่เลือกว่าคนนั้นดีหรือคนนี้ไม่ดี เลือกที่รักมักที่ชัง เป็นที่มีของเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยองค์บุ๋น นั้นเอง<O:p></O:p>
    ขณะเดียวกัน จ้าวกงหมิง ได้บำเพ็ญเพียรอยู่บนเขาบ้อไบ้ ได้สำเร็จมรรคผลเป็นเซียนมีฤทธิ์มาก กลับเกิดอาการเพี้ยนกลายเป็นนักพรตกังฉินที่ทั้งเก่งและอำมหิต จ้าวกงหมิง ถวายตัวรับใช้จักรพรรดิอินโจ้ว ได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากมาย จ้าวกงหมิงมีบริวารที่ร้ายกาจอยู่ตัวหนึ่ง คือ เสือดำ และยังมีของวิเศษหลายอย่าง อาทิ แส้เหล็ก ไข่มุกวิเศษ เชือกล่ามังกร ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ เจียงไท้กงซึ่งเป็นเทพชั้นผู้ใหญ่จึงสู้ จ้าวกงหมิงมิได้ มีคราวหนึ่ง เจียงไท้กงถูกจ้าวกงหมิงกักขังไว้ในค่ายกลสิบทิศ เจียงไท้กง พยายามหาทางออก เท่าไหร่ก็ไม่พบ ขณะเดียวกันก็ถูก จ้าวกงหมิง ทำร้ายแทบปางตาย ซ้ำยังขู่เข็ญให้เจียงไท้กงแต่งตั้งตนให้เป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภ โดยยื่นเงื่อนไขว่า “ตาเฒ่า เจ้าจงยอมแต่ตั้งให้ข้านี้เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภเสียแต่โดยดีเถิด แล้วข้าจะปล่อยแกออกไป ข้าต้องการควบคุมทรัพย์สินเงินทองทั้งหมด แต่ถ้าหากแกโยกโย้ ข้านี่จะทรมานให้แกสิ้นชีพในบัดดล”<O:p></O:p>
    เจียงไท้กงไม่มีทางเลือก จึงยื่นขอเสนอให้แก่จ้าวกงหมิงว่า “เราจักแต่งตั้งเจ้าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภได้อย่างไร เพราะเวลานี้ ปี่กานเป็นผู้ครองตำแหน่งนี้อยู่ หากแม้นเจ้ามีความสามารถนำเอาหัวใจของปี่กานออกมา ทำให้เขาสิ้นชีพวายชนม์เสีย ตำแหน่งเทพเจ้าแห่งโชคลาภนี้ ก็จะเป็นของเจ้าแต่เพียงผู้เดียว”<O:p></O:p>
    เมื่อตกลงกันได้เช่นนี้ จ้าวกงหมิง ได้ยินดังนั้นจึงย้ำกับเจียงไท้กงว่า “ตกลงเช่นท่านว่านี้แหละ ข้าจักฆ่าปี่กานเอก แต่เจ้าต้องรักษาคำพูดให้มั่นเล่า”
    เมื่อตกลงกันได้เช่นั้น จ้าวกงหมิงจึงยอมปล่อยตัวเจียงไท้กงออกมาจากค่ายกล หลังจากนั้น
    จ้าวกงหมิงจึงสั่งให้เสือดำออกตามล่าหาปี่กาน และได้กำชับเสือดำว่า ต้องนำหัวใจของปี่กานกลับมาให้ได้ อย่าได้ผิดพลาดเป็นอันขาด<O:p></O:p>

    เวลานั้น ปี่กานกำลังโปรยเงินโปรยทองแจกจ่ายแก่ผู้คนตามที่ต่างๆ ที่เขาเดินทางผ่าน บ่ายวันหนึ่ง ปี่กานเดินทางมาถึงเชิงเขาแห่งหนึ่ง เขารู้สึกเหนื่อย เมื่อยล้าจากงานสงเคราะห์ผู้คน จึงเอนตัวลงนอนพักบนโขดหิน พลันเกิดลมพายุกรรโชกอย่างรุนแรง ปี่กานตกใจอย่างมาก เห็นเสือดำตัวหนึ่งกระโจนใส่ตัวเขาอย่างรวดเร็ว ปี่กาน หลบมิทันถูกเสือตะปบล้มลง จากนั้นมันก็เริ่มตะกุยหน้าอกของปี่กานเพื่อควานหาหัวใจ แต่หาอย่างไรก็หาไม่พบ เพราะปี่กานไม่มีหัวใจแล้ว เสือดำจึงคำรามด้วยความโกธร และผละจากไปอย่างไม่พอใจ ทั้งนี้เพราะเจียงไท้กงออกอุบายหลอกจ้าวกงหมิงนั่นเอง อย่างไรก็ดี แม้เสือดำจะมิได้หัวใจของปี่กานไป แต่กงเล็บของมันที่ตะกุยอยู่ในทรวงอกของปี่กานนั้น ทำให้อวัยวะภายในของปี่กานสับสน ส่งผลให้ปี่กานกลายเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภที่ไม่เที่ยงธรรมนัก เขามักโปรยปรายเงินทองอย่างลำเอียง เจอใครก่อนก็ให้คนนั้นก่อน และมักจะให้เยอะๆ ทำให้คนที่ร่ำรวยอยู่แล้วก็ยิ่งร่ำรวยยิ่งขึ้น ส่วนคนยากจนอยู่เดิม ก็ยังคงยากจนต่อไป เพราะเป็นเรื่องลำบากไม่น้อย ที่จะหาเครื่องเซ่นไหว้ดีๆ มาบูชาตอนที่เขาออกมาเยือนผู้คนในแดนมนุษย์<O:p></O:p>
    ทางฝ่ายจ้าวกงหมิง แม้มิได้เป็น เทพเจ้าแห่งความโชคลาภตามที่ปรารถนา แต่เนื่องจากเจียงไท้กงเคยตกปากรับคำรับคำไว้ เจียงไท้กงจึงประทานของวิเศษให้ 4 ชิ้น คือ เจียป้อ หนับเตียว เจียไช้ และ หลี่ฉี้ ซึ่งเป็นของวิเศษที่ใช้เรียกเงินเรียกทองให้ไหลมาเทมา การค้าราบรื่น มีกำลัยดี ดังนั้น ชาวจีนจึงพากันกราบไหว้ จ้าวกงหมิง เป็น เทพเจ้าแห่งโชลาภอีกองค์หนึ่ง<O:p></O:p>
    ด้วยเหตุที่ว่า จ้าวกงหมิง เป็นผู้ที่มีฤทธิ์มาก เคยเอาชนะเจียงไท้กงมาแล้ว ชาวจีนจึงยกย่องให้เป็น “บู๊ไฉ่ซิงเอี๊ย” (เทพเจ้าแห่งโชคลาภองค์บู๊) และยกย่องปี่กานให้เป็น “บุ๋นไฉ่ซิงเอี๊ย” (เทพเจ้าโชคลาภองค์บุ๋น) เพราะเคยเป็นอัครมหาเสนาบดีขององค์จักรพรรดิมาก่อน<O:p></O:p>
    รูปลักษณ์และพลานุภาพของไฉ่ซิงเอี๊ย<O:p></O:p>
    ไฉ่ซิงเอี๊ย เป็นเทพชั้นสูงที่ชาวจีนให้ความสำคัญมาก เป็นเทพองค์แรกที่จะต้องเซ่นไหว้ก่อนเทพองค์อื่นๆ ทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่ทำมาค้าขาย ดังนั้นจึงมีการสร้างรูปเคารพของไฉ่ซิงเอี๊ยขึ้นมาสักการบูชากัน<O:p></O:p>
    ไฉ่ซิงเอี๊ยองค์บู๊
    มักจะเป็นรูปชายวัยกลางคน ใส่ชุดนักรบจีนโบราญ ประกอบด้วยชุดเกราะ หมวกขุนพล มือซ้ายถือกระบอง มือขวาถือเงินหยวน (หยวนเป่า)หรือทั้งสองมือถือเงินหยวน ใบหน้าดุ มีพาหนะเป็นเสือโคร่งลายพาดกลอนตัวใหญ่ ไฉ่ซิงเอี๊ยองค์บู๊ นี้ชาวจีนที่บูชาเชื่อกันว่า มีพลานุภาพให้คุณแก่ผู้บูชาในเรื่องของหนี้สิน ช่วยให้ผู้บูชาเก็บหนี้ได้ง่ายขึ้น ลูกหนี้ไม่คิดเบี้ยวให้เจ้าหนี้ต้องลำบากใจ นอกจากนี้ยังมีอนุภาพช่วย ดูแล และควบคุมบริวาร ตลอดจนลูกจ้างให้อยู่ในระเบียบวินัย มีความขยันในการทำงาน ดังนั้น ตามโรงงาน หรือบริษัทใหญ่ๆ จึงนิยมบูชา ไฉ่ซิงเอี๊ยองค์บู๊ ด้วยความเชื่อที่ว่า จะช่วยดูแลคนทำงาน ตลอดจนเป็นหูเป็นตาให้กับจ้าของกิจการ นอกจานี้บรรดาข้าราชการ ทหาร หรือตำรวจ (ของจีน) ล้วนนิยมบูชาเซ่นไหว้ ไฉ่ซิงเอี๊ยองค์บู๊ เพราะช่วยดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีจำนวนมากนั่นเอง<O:p></O:p>

    ไฉ่ซิงเอี๊ยองค์บุ๋น
    มักจะเป็นรูปของชายในชุดขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของจีนโบราญ สวมหมวกมีปีกออกไป 2 ข้างคล้ายๆ กับหมวกของเทพ ลก (หมายถึง ฮก ลก ซิ่ว) ชุดขุนนางจีนชั้นผู้ใหญ่ครบเครื่องทั้งเสื้อนอกใน มือทั้งสองข้างจะถือแผ่นผ้าจารึกอักษร ที่คลี่ออก เป็นอักษรมงคล หรือคำอวยพรที่เป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชา ชาวจีนเชื่อว่า ไฉ่ซิงเอี๊ยสามารถดลบันดาล หรือช่วยเหลือให้ผู้ที่บูชามีโชคมีลาภ ตลอดจนมีความมั่งคั่งร่ำรวย โชคลาภที่ได้นี้เนรายได้พิเศษ ไม่ใช่รายได้ประจำ (เงินเดือนหรือเงินค้าขายตามปกติ) ไฉ่ซิงเอี๊ยองค์บุ๋น นี้มีอานุภาพหรือให้คุณทางด้านเงินทอง หรือทรัพย์สิน ตลอดจนโชคลาภต่างๆ ทำให้ผู้บูชาประสบความสำเร็จ ลูกค้าเชื่อถือ <O:p></O:p>

    <O:p> </O:p>
    อ้างอิงจาก : หนังสือ 108 ลัญลักษณ์จีน – ปิยะแสง จันทรวงศไพศาล
    http://www.thaisamkok.com/forum/index.php?showtopic=454
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    เฒ่าประมงตกปลา [​IMG]


    เฒ่าประมงตกปลา [​IMG]

    渔翁得利<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    “เฒ่าประมงตกปลา” (渔翁得利) หรือ “ชาวประมงตกปลา” (渔人得利) เป็นภาพวาดจิตรกรรมและประติมากรรมที่หลายท่านคุ้นตากันดี แท้จริงแล้วรูปชายชราชาวประมงตกปลานั้นมีที่มาและความหมายที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เรียกภาพดังกล่าวนี้ว่า “อวี๋ เวิง เต๋อลี่” (渔翁得利) แปลตรงตัวก็คือ “เฒ่าประมงได้กำไร” อันมีความหมายเป็นมงคลนามว่า “ขอให้ท่านได้กำไรร่ำรวย ดั่งเฒ่าประมงตกปลา” ทั้งนี้เป็นเพราะคำว่า ลี่ () หมายถึง กำไร ผลประโยชน์ ดังนั้น จึงเกิดความคิดสร้างสรรค์กลายมาเป็นที่มาของภาพเฒ่าประมง(渔翁) ที่ได้โชคลาภโดยไม่คาดฝัน สิ่งนั้นก็คือความหมายของคำว่า “กำไรหรือผลประโยชน์” (得利) ซึ่งภาพที่มักพบเห็นได้โดยทั่วไป ดังเช่น ภาพของเฒ่าประมงกำลังยื่นเบ็ดตกปลา และภาพของเฒ่าประมงที่กำลังจับปลาไว้ในมือใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างร่าเริง และข้างกายก็มีปลาที่จับได้อยู่เต็มข้อง<O:p></O:p>
    ที่มาของภาพมงคล “เฒ่าประมงตกปลา” มาจากความตอนหนึ่งใน “บันทึกจ้านกั๋วเช่อ” (战国策) เล่าถึงเหตุการณ์สมัยนครรัฐ(ชุนชิว-จ้านกั๋ว) เมื่อครั้งกองทัพของรัฐเจ้าจะยกทัพบุกเข้ารัฐเอี้ยน ซูไต้ (苏代) ผู้เป็นขุนนางแห่งรัฐเอี้ยน อาสาไปเจรจาเกลี้ยกล่อมเจ้าฮุ่ยหวัง (赵惠王) กษัตริย์แห่งรัฐเจ้า โดยได้ยกนิทานเรื่องการทะเลาะวิวาทของนกกระสากับหอยมุกที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอะลุ้มอล่วยกัน หอยมุกงับปากนกกระสาไว้ไม่ยอมคาย นกกระสาจึงว่า “นี่ ๆ เจ้าหอย วันนี้ฝนไม่ตก พรุ่งนี้ฝนก็ไม่ตก เจ้าไม่มีน้ำก็ต้องตายแน่ ๆ” หอยมุกก็ตอบสวนไปว่า “วันนี้ออกไปไม่ได้ พรุ่งนี้เจ้าก็ออกไปไหนไม่ได้เหมือนกัน ตายแน่ ๆ เจ้านกกระสา” ต่างฝ่ายต่างยื้อยันกันอยู่อย่างนั้น หอยมุกไม่ยอมปล่อยปากนกกระสา เพราะกลัวมันจับกิน เจ้านกกระสาก็ไปไหนไม่ได้ <O:p></O:p>
    จนกระทั้งเฒ่าชาวประมงเดินผ่านมาเห็นเข้า จึงจับทั้งหอยและนกกระสาไปพร้อม ๆ กัน และหัวเราะเยาะในความโง่เขลาอวดดี และการไม่ยอมลดราวาศอกให้แก่กันและกัน จนนำมาสู่ความวิบัติในเวลาต่อมา<O:p></O:p>
    ภายหลังได้มีการสร้างรูป “เฒ่าประมงตกปลา” ขึ้นแทนที่จะจับนกกระสาและหอยมุก นานวันเข้าจึงเปลี่ยนไปเป็นภาพของการจับปลาเต็มข้องเพียงอย่างเดียว<O:p></O:p>
    นี่เองที่กลายมาเป็นคำคมของจีนว่า “เฒ่าประมงตกปลา” หรือ “เฒ่าประมงได้กำไร(โชคลาภ)” อย่างไม่ตาดฝัน<O:p></O:p>
    [​IMG] [​IMG]
    อ้างอิงจาก : หนังสือ 108 ลัญลักษณ์จีน – ปิยะแสง จันทรวงศไพศาล<!-- google_ad_section_end -->
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>อู่ลู่เสิน (เทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งห้า) [​IMG]
    五路神



    ͙腙蠊Թ (෾਩ҡ˨?⪤Œ?ѩ?˩ҩ




    [​IMG]


    “อู่ลู่เสิน” (五路神) หรือ “อู่ลู่ไฉเสิน”(五路财神) หมายถึง “เทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งห้า” หรือเทพเจ้าแห่งทางทั้งห้า” ในภาษาจีนจะมีคำเรียกอีกหลายชื่อ เช่น “ลู่โถวเสิน” (路头神), “อู่เซิ่งเสิน” (五圣神) และ “อู่ทงเสิน” (五通神)<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>


    ในคติสัญลักษณ์วัฒนธรรมจีน นับเทพเจ้าทั้งห้าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ หรือ “อู่ไฉเสิน”(五财神) หรือ “ไฉซิงเอี๊ยทั้งห้า” เพราะนอกเหนือไปจาก “ไฉซิงเอี๊ย (ไฉเสินเย่)” ที่รู้จักกันดีในฐานะเทพเจ้าแห่งโชคลาภแล้ว ก็ยังมีแยกออกเป็น “ไฉซิงเอี๊ยบุ๋น(เหวินไฉเสินเย่)” และ “ไฉ่ซิงเอี๊ยบู๊ (อู่ไฉเสินเย่)” แต่หนึ่งในตำนานที่แปลกแยกออกไปนี้ เรียกกันว่า “เพียนไฉเสิน” (偏财神) อันเป็นเทพเจ้าโชคลาภที่นิยมกันมากในหมู่ชาวบ้าน<O:p></O:p>


    “อู่ลู่เสิน” เป็นเทพเจ้าแห่งสิริมงคลที่ปรากฏอยู่ในศาลเจ้าของท้องถิ่นหรือในชนบทของประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ คนจีนพื้นถิ่นมักจะยึดเอาวันที่ 5 ของเดือนแรกของปีใหม่ (ตรุษจีน)หรือที่เรียก ชิวโหงว (初五) คือวันเกิดของเทพเจ้าทั้งห้าองค์ จึงนิยมกราบไหว้บูชา “อู่ลู่เสิน” ที่เป็นประหนึ่งเทพเจ้าโชคลาภในต้นปีใหม่ <O:p></O:p>


    ในสมัยราชวงศ์ชิง เหยาฟู่จวิน (姚富君)ได้บันทึกไว้ว่า ชาวบ้านในชนบทให้การกราบไหว้บูชา “อู่ลู่เสิน” คือเทพเจ้าโชคลาภทั้งห้าองค์ จะจุดธูปขอพรในตำแหน่งทั้งห้าของบ้าน และเชื่อกันว่า เมื่อออกไปนอกบ้านก็จะพบพานแต่ความมั่งคั่งร่ำรวย เพราะเทพเจ้าทั้งห้า ก็คือเทพแห่งทิศทั้งห้า ได้แก่ เหนือ, ใต้, กลาง, ตะวันออก และตะวันตก ไม่ว่าจะหันหน้าไปในทางทิศใดก็ล้วนแต่ร่ำรวยด้วยกันทั้งสิ้น เพราะเทพทั้งห้าสถิตอยู่ ในทุก ๆ ทิศ ทุก ๆ ทางแล้วทั้งนั้น<O:p></O:p>


    ในตำนานเรื่อง เฟิงเสินเอี่ยนอี้ (封神演义)ได้กล่าวถึง“อู่ลู่เสิน” ว่าเป็น “อู่ลู่ไฉเสิน” หรือ “เทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งห้าทิศ” มีผู้นำกลุ่มเทพเจ้าโชคลาภทั้งห้าคือ เจ้ากงหยวนไซว้ (赵公元帅) หรือ แม่ทัพเจ้ากง ซึ่งก็คือ เจ้ากงหมิง (赵公明) ที่เป็นเทพผู้ได้รับการเทิดทูนให้เป็นไฉซิงเอี๊ยบุ๋นนั้นเอง ในภาพเคารพของ “อู่ลู่เสิน” ภายในศาลเจ้าทั่วไป จะมีเจ้ากงหมิงประทับนั้งอยู่ตรงกึ่งกลาง ด้านซ้ายและขวาจะประทับยืนไว้ด้วยเทพเจ้าแห่งโชคลาภอีก 4 องค์อยู่เคียงข้าง<O:p></O:p>


    “อู่ลู่เสิน” หรือ“อู่ลู่ไฉเสิน” ประกอบไปด้วยเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งห้าพระองค์ดังนี้


    [​IMG]


    · เจ้ากงหมิง (赵公明) หรือเทพไฉเสิน (财神) องค์เทพผู้เป็นหัวหน้าของเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งห้า



    · เซียงเซิง (萧升) หรือ เทพ เจาเป่าเทียน(招宝天)องค์เทพแห่งการเรียกหาของวิเศษ<O:p></O:p>


    · เฉาเป่า (曹宝) หรือ เทพน่าเจินเทียน (纳珍天) องค์เทพแห่งการรวมสิ่งล้ำเลอค่า<O:p></O:p>


    · เฉินจิ่วกง (陈久公) หรือ เทวทูตเจาไฉสื่อเจ่อ (招财使者) องค์เทพแห่งการเรียกทรัพย์สิน<O:p></O:p>


    · เหยาเส้าซือ (姚少司) หรือ ขุนนางสวรรค์ลี่ซื่อเซียน (利市仙官)องค์เทพแห่งการค้าขาย<O:p></O:p>


    <O:p></O:p>


    ความเคารพศรัทธาเกี่ยวกับ “อู่ลู่เสิน” แท้จริงแล้วก็คือความเชื่อเกี่ยวกับการทำมาหากินและการค้าขายของชาวจีนมาแต่โบราณนั้นเอง เป็นความเชื่อท้องถิ่นที่ฝังรากลึกในคติชาวบ้านมากยิ่งกว่าเทพเจ้าโชคลาภองค์อื่น ๆ ด้วยซ้ำ กล่าวได้ชัดเจนว่า เป็นกลุ่มเทพเจ้าที่ใกล้ชิดสามัญชนที่สุด

    <O:p></O:p>

    อ้างอิงจาก : หนังสือ 108 ลัญลักษณ์จีน – ปิยะแสง จันทรวงศไพศาล
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เก็บตก ภาพบรรยากาศเทศกาลตรุษจีน</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 กุมภาพันธ์ 2553 10:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>มุมจีนขอเสนอภาพเก็บตก บรรยากาศเฉลิมฉลองปีใหม่จีน อันเป็นเทศกาลหยุดยาวที่สำคัญที่สุดของแดนมังกร โดยชาวจีนจุดพลุไฟกันเพื่อต้อนรับปีใหม่กันอย่างตระการตา รวมทั้งการแสดงต่างๆ เช่น การเชิดสิงโต การประดับโคมแดงตามสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตที่ย่างเข้าสู่ปีใหม่อีกด้วย

    เชิญชม ภาพชุดฉลองตรุษจีนทั่วแดนมังกร ระหว่างวันที่ 13-15 ก.พ. / ภาพเอเอฟพี


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=102 height=25>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/TabGalleryUBG.gif height=25>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=11 height=25>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle height=7>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ede9e8><TABLE cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">ชาวจีนออกมาชมพลุไฟอันงดงามตระการตาฉลองปีใหม่ ในกรุงปักกิ่ง</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">นักแสดงแต่งตัวในเครื่องแบบของราชวงศ์ชิง ในพิธีงานวัดในกรุงปักกิ่ง</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle>พลุดอกไม้ไฟอันเป็นสัญญาณแห่งการเฉลิมฉลองตรุษจีน ส่องสว่างเจิดจ้าเหนือท้องฟ้ากรุงปักกิ่ง </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">บรรยากาศตรุษจีน ในนครเซี่ยงไฮ้ มีการประดับโคมซึ่งเป็นประเพณีที่สืบต่อกันมาหลายศตวรรษ</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">ภาพอีกมุมหนึ่งของนครเซี่ยงไฮ้ ชาวเมืองหนุ่มสาว เดินชมโคมไฟและซุ้มประตู บนถนนสายหลักของเมือง</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle>พ่อค้าหนุ่มใหญ่ลงทุนสวมหมวกเสือ เรียกลูกค้าอยู่ภายในงานวัดประจำเทศกาลตรุษจีน ในกรุงปักกิ่ง</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">อากงยิ้มร่าพาตี๋น้อยเยี่ยมชมงานวัดด้วยคน</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">หญิงชาวจีนจุดธูปบูชา อยู่เคียงข้างหุ่นเชิดสิงโห ในงานฉลองตรุษจีน ที่นครเซี่ยงไฮ้</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle>บรรยากาศในวัดของลัทธิเต๋าในมหานครฉงชิ่ง (จุงกิง) ซึ่งมีผู้คนนับพันคนมาร่วมพิธีในวันตรุษจีน </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">ผู้คนจุดธูปขนาดยักษ์เพื่อความเป็นศิริมงคล ในวัดของลัทธิเต๋า ในมหานครฉงชิ่ง</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">วัดในฮ่องกง ก็คราคร่ำไปด้วยผู้คนที่มาขอพรในวันปีใหม่เช่นกัน </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle>หนุ่มสาวชาวจีน กำลังเขย่ากระบอกเซียมซี ลุ้นดวงชะตาในปีขาล</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. อาตี๊BKK

    อาตี๊BKK สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2009
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +12
    ขออนุโมทนาในเรื่องที่เผยแพร่ แต่อยากจะแก้ไขข้อมูลนิดหน่อย เทพไฉ่ซิ้งเอี๊ย คือเทพโชคลาภ ส่วนไท่ส่วยเอี๊ย คือเทพคุ้มครองดวงชะตา เห็นข้อมูลข้างต้น แรก ๆ ก็เริ่มด้วยการไหว้ไฉ่ซิ้งเอี๊ย ไหนมารวมกันข้อมูล ไท่ส่วยเอี๊ย ได้ อีกอย่างการจัดโต๊ะไหว้ที่แจ้งไว้ นั้นเป็นการไหว้องค์ไฉ่ซิ้งเอี๊ย ซึ่งเป็นเทพโชคลาภ กลับเขียนเป็นไท่ส่วยเอี๊ย อย่างนี้คนที่ไม่รู้อะไรเลย อ่านแล้วอาจทำให้สับสนได้ ต้องชี้แจงนะครับ
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    หากข้อมูลที่นำมาลง ไม่ถูกต้องอย่างไร ในโพสไหน รบกวนชี้แจ้งให้ด้วยนะครับ

    ผมเองก็ไม่ชำนาญด้านองค์เทพของชาวจีนมากนัก

    ขอบคุณครับ

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    เป็นโพสแรกใช่หรือไม่ครับ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...