ในที่สุดก็ระลึกชาติได้เป็นครั้งที่ ๒

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย hatcheryorn, 4 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    วันนั้นบอสโทรมา บอกว่า ไม่อยู่ หวานแมวแล้ว มีที่ทำกรรมฐานแล้ว ก็ที่ห้องทำงานบอสนั่นเอง ไม่มีใครกล้าเข้ามากวน เวลาทำกรรมฐานแน่นอน
    ลั่นสัจจะว่า จะทำกรรมฐาน เดินจงกรม ๔๕ นาที นั่งสมาธิ ๔๕ นาที รวมเก็บแต้มคืนนี้ ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที

    เริ่มด้วย สวดมนต์ (ตามหลักพระสังฆราชสอน)

    ตามด้วย เริ่มเดินจงกรม จิตวิ่งเร็วมาก จับไม่อยู่เลย ต้องอาศัยปักจิตที่ลิ้นปี่
    "ฟุ้งซ่านหนอ ฟุ้งซ่านหนอ" ไปเรื่อยๆ
    เสียงมากระทบให้ได้ยิน ก็ "เสียงหนอ เสียงหนอ"


    ใจเราก็คิด ทำไมเดินจงกรมวันนี้ไม่นิ่งเลยหนอ..... แต่ก็พยายาม จะจับจิตให้นิ่ง ซึ่งได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ใจก็คิดวันนี้คงไม่ได้พระกรรมฐานมาสถิตย์แน่ๆ จนนาฬิกาดังว่า ครบ ๔๕ นาที


    เราลงมานั่งสมาธิอีก ๔๕ นาที แต่ความประหลาดใจก็บังเกิดเจ้าค่ะ เรากำหนด พอง ยุบ ได้ ตั้งแต่ประมาณ ๕ นาทีแรกเลย ดีใจจัง แป้บนึงจิตก็คิดเรื่อง ระลึกชาติ เราก็คิดว่า "เมื่อไหร่จะทำกรรมฐานได้แกร่งเหมือนสมัยเราอยู่ที่ฟาร์มอยุธยานะ ขนาดว่าทำกรรมฐาน ๓ ชั่วโมง ต่อวัน ถึงจะระลึกชาติได้ แล้วนี่ เราได้ทำบ้างไม่ได้ทำบ้าง ได้แต่สวดมนต์ทุกวัน จะได้ระลึกชาติได้อีกไหมหนอ ครั้งนั้น เห็นแป้บเดียวเอง"


    ในช่วงที่หลับตาอยู่ การจับ พอง ยุบ ของเรา ทำให้เราเริ่มรู้สึกว่า เราหายใจทางสะดือ รู้สึกสงบนิ่งดีจัง เราภาวนา พองหนอ ยุบหนอ ไปเรื่อยๆ จิตยังจดจ่อกับการ พอง ยุบที่สะดือ มีบางอย่างเปลี่ยนไปในกรรมฐาน ทุกอย่างยังมืดสนิทเพราะหลับตาอยู่ เรามองรอบๆตัวว่าเราอยู่ไหน มันมืดมาก เห็นอิริยาบทตัวเองว่ากำลังนั่งงอเข่า (อิริยาบทของเด็กในท้องแม่)

    "เอ.... นี่ที่ไหนนะ " เรากำลังมองไปที่สะดือ ซึ่งเรายังจับจดกับการหายใจที่สะดือ


    "อ้าว ที่เราอยู่ในท้องแม่นี่ กลับมาจำความรู้สึกในท้องแม่ได้แล้ว สติเราพูดเลยว่า "เราหายใจและกินอาหารผ่านสะดือแม่" จิตดิ่งลงไปแล้ว เริ่มย้อนลึกขึ้นเรื่อยๆ


    นึกถึงคำหลวงพ่อจรัญสอนเลย เรื่องคุณของพ่อแม่ไว้ว่า

    อาตมาไม่สอนใครไปสู่สวรรค์ นิพพาน แต่สอนพระกรรมฐานให้ระลึกชาติได้ ระลึกบุญคุณคนได้ นึกถึงพ่อแม่ นึกถึงตัวเอง และสงสารตัวเอง จะได้ทำแต่สิ่งดี ๆ แค่นี้พอก่อน บางคนลืมพ่อลืมแม่ อย่าลืมนะ การเถียงพ่อเถียงแม่ไม่ดีขอบิณฑบาต สอนลูกสอนหลานอย่าเถียงพ่อแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่ ไม่งั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร ก้าวถอยหลังเลย ดำน้ำไม่โผล่

    หนี้บุญคุณอันยิ่งใหญ่เหลือจะนับจะประมาณนั้น คือหนี้พระคุณของบิดามารดา คำพังเพยเปรียบเทียบสั่งสอนมาสองพันกว่าปีแล้ว ว่าจะเอาท้องฟ้าหรือแผ่นดินมาเป็นกระดาษ เอาเขาพระสุเมรุมาศมาเป็นปากกา จะเอาน้ำมหาสมุทรมาเป็นน้ำหมึก ก็ไม่สามารถจะจารึกพระคุณของบิดามารดาไว้ได้ เพราะน้ำในมหาสมุทรจะเหือดแห้งหมดก่อนที่จะจารึกพระคุณบิดามารดาได้จบสิ้น

    คนอื่นที่เป็นเพื่อนที่รักหรือยอดหัวใจก็ยังมีโทษแก่ตัวเรา รักเราไม่จริงเหมือนบิดามารดา เขาพึ่งเราได้เขาจึงมารักเรา




    เมื่อรู้ว่าอยู่ในท้องแม่ ระลึกความรู้สึกในท้องแม่ได้ ทันใดนั้น ภาพเปลี่ยนทันทีจากความมืด เป็นสว่างทันที แสงแดดอบอุ่น ไม่ร้อนเกินไป เรามองออกไปเห็นบ้านคน เป็นประตูบ้านไม้ที่ทาสีขาวมี ๓ ซุ้มโค้งประตู แต่ละซุ้มประตูมีไม้ฉลุงดงามมาก ตรงไม้ฉลุ เป็นสีน้ำเงินเข้ม ตัดกับสีขาวสวยงามมาก ดูแล้วทำให้เราคิดถึง ไม้ฉลุที่เป็นประติมากรรม จาก พระที่นั่งวิมานเมฆ และ พระราชวังมฤคทายวัน เรามองดูอยู่ไกลๆ ในใจก็คิด


    "เอ..... นี่มันบ้านของเรา ในอดีตชาติเหรอนี่ ? คงไม่มั๊ง ชาติก่อน สมัยสงครามในอยุธยา ยังเป็นแค่สามัญชน กระเดียดไปทางทาส เลย คงไม่มีวาสนาได้อยู่บ้านนี้หรอก เพ้อเจ้อแน่เลย "

    เราคิดว่าเพ้อเจ้อ เรากำหนด "เห็นหนอ เห็นหนอ ฟุ้งซ่านหนอ " ภาพหายไป เรากำหนดพอง ยุบ ต่อตามปกติ


    ไม่นาน ภาพใหม่ปรากฏขึ้นมาเป็น เรากำลังยืนอยู่หน้ารูปภาพขนาดเท่าตัวจริงของใครคนหนึ่ง ภาพนั่นเสมือนตัวจริง เพียงแต่เป็นภาพวาดเก่าโบราณ มีสีสันชัดเจน


    คน คนนั้นในภาพ เป็นผู้ชายสูงวัย แต่สง่างามยืนตัวตรง ทรงผมมหาดไทย ตาดุ ไว้หนวดหนา ทรงโค้งตวัดขึ้น คางแหลม รูปร่างผอมแต่สูง จนเราต้องเงยหน้ามองภาพนั้น เสื้อผ้าใส่ชุด ราชประแตน เสื้อขาว โจงกระเบนน้ำเงินเข้ม จำไม่ผิดมือซ้าย ท่านถือไม้เท้า


    เรามองภาพนั่น "เอ... คนนี่พ่อเราในชาตินั่นเหรอ ไม่หรอกมั๊ง อย่างเราคงไม่มีปัญญาได้เกิดในตระกูล เจ้าขุนมูลนายหรอก" ไม่รู้ทำไม ถึงคิดว่าคนนี้คือพ่อ


    เรายังคิดว่าเพ้อเจ้อ เรากำหนด "เห็นหนอ เห็นหนอ" ภาพหายไป เรากำหนดพอง ยุบ ต่อตามปกติ


    ภาพใหม่สว่างวาบขึ้นมา อ้าว..! บ้านไม้หลังนั่นกลับมาอีกแล้ว แต่ไกลมากกว่าเดิม ไม่เห็นประตูบ้านเต็มจอแบบตอนแรก


    ประตูบ้านที่เห็นเมื่อกี้ อยู่ทางซ้ายสุด ทำให้ภาพกว้างขึ้น เรามองไปทางขวาว่ามีอะไร เป็นทางเดินทำเป็นซุ้มไม้เชื่อมไปหาบ้านไม้หลังใหญ่อีกหลัง สีเขียวอ่อน ปนเทา ดูเก่าๆ ไม่สดใสเหมือนสีประตูหน้าบ้านเลย


    ทันใดนั่น เสียงหนึ่งตะโกนออกมาทางด้านซ้ายว่า "ท่านพ่อเรียกๆ รีบไปที่ตึกใหญ่เร็ว" เราได้ยินเสียงคนหลายคนวิ่งขึ้นตึกไป เสียงเท้าคนกำลังวิ่งกระทบกับพื้นบ้านที่เป็นไม้ เรามองตามไปที่ตึกใหญ่ทันที เรารู้สึกถูกดูด จิตเราลอยตามเสียงฝีเท้าคนกลุ่มนั่นทันที


    แว้บเดียว เรามองเห็น เรากำลังยืนอยู่ในห้องนอน ของ ท่านขุนคนนั้น แกยังใส่ชุดราชประแตนชุดนั้น นอนอยู่บนเตียงไม่มีผ้าห่ม เตียงตั้งหันด้านข้าง หัวอยู่ทางขวาปลายเท้าอยู่ซ้าย เรามองเห็น ท่านขุนไม่ถนัดนัก เพราะ ที่ข้างเตียง มีคนที่วิ่งขึ้นไปหาท่าน นั่งคุกเข่าแต่ไม่นั่งทับส้นเท้า เพียงแต่คุกเข่าลง นั่งเรียงกันตัวติดกันเลย ทั้ง ๕ คน หันหลังให้เรา


    เราจ้องมอง เห็นเป็น ผู้หญิง ๕ คน ใส่เสื้อผ้าแบบสาวไทย สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ (คิดว่านะ) ใส่ผ้านุ่งประมาณปิดหัวเข่า เสื้อมีสองชั้น ตัวนอกเป็นสีขาวแบบลูกไม้ มองทะลุเห็นเสื้อตัวในได้ สาว ๕ คนใส่เสื้อตัวในสีสันแตกต่างกัน ออกไป เราจำไม่ได้ว่าสีอะไรบ้าง น่าจะมีคนนึงใส่สีเหลืองอ่อน คนนึงสีเขียวอ่อน ทรงผม สั้นประบ่า แล้วดัดหยิกเล็กน้อย ผมสีดำเป็นเงาเหมือนชะโลมด้วยน้ำมันมะกอก


    สายตาเราจ้องมองไปที่ผู้หญิงคนที่นั่งคุกเข่า อยู่ตรงกลาง เรามองดูว่า เธอใส่เสื้อสีอะไร เราเห็นชายเสื้อสีน้ำตาลอ่อน จิตเรารู้ทันทีว่า เฮ้ย!!! นั่นมันตัวเรานี่ แถมอวบด้วย !!! ถึงไม่ได้เห็นหน้า เพียงเห็นเท่านั่น เราก็จำได้ทันที่ว่านั่นคือตัวเรา (แอบเคือง แหม...อวบกว่า ในบรรดา ๕ คน ) พ่อกำลังจะตาย เรียกพวกเรา ๕ คน พี่น้องไปสั่งเสีย เศร้านิดๆ ตอนเห็นภาพนั่น มันสะเทือนใจ


    เรากำหนด เห็นหนอ เห็นอดีตชาติแล้วหนอ แล้วก็กำหนด พอง ยุบ จนครบเวลา จากนั้นแผ่บุญออกไปตามเดิม


    ครั้งนี้ได้พิสูจน์ที่หลวงพ่อสอนว่า ระลึกชาติ จะเกิดขึ้น เป็นลำดับคือ ระลึกกรรม ระลึกลงไปในท้องแม่ แล้วระลึกอดีตชาติ ก็จริงตามที่ท่านสอนไว้

    ข้อคิดที่ได้จากการระลึกชาติ ในความคิดของอรคือ

    ชาติก่อนดูเหมือนสามัญชน กระเดียดไปทางทาส

    ชาติอีกชาติเป็นลูกท่านขุน มีบ้านหลังใหญ่

    ชาตินี้ครอบครัวพอมีกินมีใช้ ไม่ได้รวย มีบ้านหลังโตๆ แต่โชคดีที่พ่อแม่เป็นคนมองโลกกว้างๆ



    ทำให้ได้ข้อคิดนะ ว่า ถึงชาตินี้เราใช้ชีวิตอย่างลำบาก แต่หมั่นทำความดี ชาติหน้าเราก็จะได้เกิดในที่ที่ดี พอเกิดในที่ที่ดี แต่ประมาทในการใช้ชีวิต บุญกุศลไม่สร้าง บวกทำเลวด้วย ชาติต่อไปก็ไม่แคล้วเกิดมาลำบากลำบนอีก

    สิ่งที่ยึดอรไว้ไม่ให้เลวถึงขีดสุด ก็เป็นเพราะ พระศาสนา ที่ทุกชาติอรจะอธิฐานจิตเสมอว่า "ขอให้ได้เกิดมาอยู่ใต้ร่มโพธิ์ของพระศาสดา และได้ปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆชาติต่อๆไป"



    ปล. การจำตัวเองได้นั้น เหมือนเราส่องกระจก หรือดูภาพถ่ายของตัวเอง แล้วรู้ว่านี่เรา แม้ว่าหน้าตาไม่เหมือนกัน ครั้งนี้หน้าก็ไม่เห็น แว้บเดียวที่เห็นด้านหลัง เราก็จำได้ แบบตกใจสุดๆ ว่านั่นมันเรานี่ แต่โชคดีที่ไม่หลุดจากกรรมฐาน ไม่ตื่นเต้นแบบครั้งแรกที่ระลึกชาติได้
     
  2. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    ขอบพระคุณทุกคน ที่สละเวลามาอ่านนะค่ะ

    คุณพระรักษา เทวดาคุ้มครองนะเจ้าค่ะ
     
  3. เลิกตาย

    เลิกตาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +416
    ยินดีด้วยคับ
     
  4. คาคะ

    คาคะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +1,533
    อนุโมธนาสาธุคะ อยากทำได้บ้างจังคะต้องทำไงบ้างคะใช้เวลานานไหมคะกว่าจะได้เห็นหนอนะคะ
     
  5. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    อร เรียนกรรมฐาน สายสติปัฏฐาน ๔ น่ะค่ะ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ที่สิงห์บุรีค่ะ ลองฝึกได้ที่นั่นค่ะ แนะนำว่าอย่าไปช่วงวันหยุดเทศกาล เพราะว่า คนมาเยอะมาก อาจจะเรียนรู้ได้ไม่มาก


    ที่สำคัญ ต้องมีความเพียรและความอดทนสูง น่ะค่ะ

     
  6. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144

    ขอบคุณมากนะเจ้าค่ะ

    ไม่ชอบตรงไหนแสดงความคิดเห็นได้นะค่ะ

    อรเล่าตามประสบการณ์ที่เจอน่ะค่ะ

    คุณพระรักษา เทวดาคุ้มครอง
     
  7. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ขออนุโมทนาค่ะ
     
  8. กิ่งขวัญ

    กิ่งขวัญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +701
    ขออนุโมทนาสาธุการค่ะ ตามอ่านทุกข้อความรู้สึกว่าได้สิ่งดีๆ ในการอ่านและทำให้รู้ว่ามาถูกทาง ทำให้หลาย ๆ คน มีความมุมานะที่จะทำสิ่งดี ๆ ตามค่ะ อย่าลืมมาเขียนให้อ่านบ่อย ๆ นะคะ
     
  9. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144

    ขอบคุณค่ะ คุณกิ่งขวัญ พูดแบบนี้ อรมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย ตื้นตัน (แอบซึ้งนิดๆนะค่ะ ^_^ )

    อรไม่ได้เก่งอะไรนะค่ะ อาศัยความเพียร และอดทนสูง น่ะค่ะ

    หลวงพ่อจรัญ ท่านมีบุญคุณกับอรมาก เดี๋ยวจะเล่าในคราวต่อๆไปนะค่ะ


    ด้วยความที่เคยเลวมาก่อน และกรรมส่งผลแล้ว ถึงได้กลัวบาปกรรมมากน่ะค่ะ

    แต่บุญยังพอมี ที่ทำให้อรไม่เลวถึงขีดสุดน่ะค่ะ



    แรกๆ สวดมนต์ทั้งน้ำตาเลย เพราะทุกข์มาก เดี๋ยวนี้ พอรู้เหตุแห่งทุกข์ก็แก้ที่จุดนั้นเลย ไม่ทุกข์อีกเลยค่ะ

    ทำกรรมฐาน ทำก่อน ทำหลัง ทำมานานไม่สำคัญนะค่ะ
    หากตั้งใจจริง มีความเพียร มีความอดทน รับรองว่าได้พระกรรมฐานมา สถิตย์แน่นอนค่ะ ฮึกเหิมเข้าไว้นะค่ะ อิอิ
     
  10. Guide_Raito

    Guide_Raito เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    892
    ค่าพลัง:
    +2,990
    โมทนาบุญคร้าบบ
    __________________________________________________________________________________________________________________________
    มีบุญมาฝากคับทางกลุ่มพระพุทธศาสนา ม. สงขลานครินทร์ ภูเก็ต ได้ จัดทำโครงการแจกสือ่ ธรรมะของสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำคับ เพราะ ที่นี่มีเด็กหลายคนสนใจมาฝึกมโนมยิทธิและหันมาทำความดีกัน เนื่องด้วย สื่อ ธรรมะ ของหลวงพ่อ ครับทางชมรมเลยจัดโครงการแจกสือ่ธรรมะเป็นสาธารณะประโยชน์ แก่ โรงเรียน ห้องสมุดต่างๆเพื่อ ชักจูง คนให้เป็นสัมมาทิฐิและเป็นกำลังพระศาสนา สืบต่อไปครับ
    ขอให้ชาวเวปพลังจิตทุกท่าน เจริญขึ้นทั้งทางโลก และทางธรรม เข้าถึงธรรมขององค์สมเด็จฯ ได้โดยง่ายครับ
    [​IMG] [​IMG]
    เข้าชมรายละเอียดได้ที่http://palungjit.org/forums/ขอเชิญร่วมบุญ-โครงการธรรมทานกับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์-ภูเก็ต-[.109/FONT]218421.html<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  11. Mantalay

    Mantalay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,065
    อนุโมทนาคะ เขียนเรื่องระหว่างการปฏิบัติมาบ้างนะคะ ว่ายากมากมั้ยกว่าจะระลึกชาติได้คะ
     
  12. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144

    ปฏิบัติต่อเนื่องทุกวัน หรือสม่ำเสมอ
    สวดมนต์ก่อน
    แล้ว เดินจงกรม ไม่หยุด 1 ชม ครึ่ง เมื่อยแขนที่ไพล่หลังอยู่ ก็ไม่ขยับเปลี่ยนท่า ปวดก็หยุดนิ่ง แล้วกำหนดตามเวทนาที่มี จนกว่าจะหายปวดน่ะค่ะ

    พอครบเวลา ก็ลงนั่งสมาธิ 1 ชม.ครึ่ง สำหรับอร จะไม่มีขยับตัวเลย ยิ่งนิ่ง เรายิ่งนั่งได้นาน จะมีอาการปวดขา ปวดหลัง ราวๆ เลย 1 ชม.ไปแล้ว ก็กำหนดตามอาการปวดทันที ไม่ลืมตา ลั่นสัจจะไว้แล้ว นาฬิกาดังครบเวลาค่อยลืมตา


    มีเสียงมากระทบให้ได้ยิน ก็รู้ว่า เสียงกระทบหู ไม่รับฟัง แต่ภาวนา เสียงหนอ เพื่อจิตเราไม่ไปคิด ติดตามเสียงนั้น

    ได้กลิ่น กระทบจมูก กำหนด กลิ่นหนอ ไม่ให้จิตเราไปคิดว่า หอมหนอ เหม็นหนอ

    ปวดก็อดทน ตายเป็นตาย

    จากตอนแรกๆ เริ่มเพียง เดิน 30 นั่ง 30 นาที ปวดแสนปวด ไม่นานก็ไม่มีเวทนาอีกเลย

    ก็เพิ่มเวลาให้นานขึ้นอย่างละ 45 นาที พอไม่มีเวทนาอีก
    ก็เพิ่มเป็น เดิน 1 ชม นั่ง 1 ชม. จนไม่เวทนาก็เพิ่มเวลาขึ้นอีก




    หลวงพ่อจรัญ ท่านสอนว่า

    ถ้าเราเจริญกรรมฐาน เราจะรู้กฎแห่งกรรมได้ตอนมีเวทนา คนไหนอดทนต่อเวทนาได้ กำหนดผ่านเวทนาได้ เราจะรู้ได้ว่าทุกข์ทรมานที่ผ่านนั้นไปทำกรรมอะไรไว้ มันจะมีกรรมอะไรมาแทรกซ้อน มันจะบอกเราเอง

    เวทนาจึงมีสำคัญมากน่ะค่ะ ทำไมเราต้องรู้กฏแห่งกรรมล่ะ?

    เพราะเมื่อรู้แล้วจะได้ไม่กลับไปทำเลวซ้ำเดิมอีกน่ะค่ะ ยอมรับกรรมที่ทำ และไม่ต่อกรรมกันอีก

    หากสนใจ ลองไปวัดอัมพวันได้ค่ะ แต่ไม่มีความสบายนะค่ะ เหนื่อย หนัก ต้องมีระเบียบสูง ความเพียรสูง อดทนสูง

    เวลาอร ท้อ จะกลับมาอ่านหนังสือที่ท่านเคยสอนไว้ อาจยาว แต่อยากแบ่งปันกันค่ะ



    เจริญกรรมฐาน เป็นผลงานกฎแห่งกรรม แก้กรรมได้คนที่เป็นหนี้เขา ยังใช้หนี้ไม่หมด สร้างความดีไม่ขึ้นหากินไม่ขึ้น บางคนหาเงินโดยค้าขายร่ำรวยจริง แต่เก็บไม่อยู่ ทำอย่างไรก็ไม่อยู่ ไม่รู้ไหลออกไปทางไหนหมดให้มานั่งกรรมฐานเสีย แก้กรรมนี้ ก็ได้ความว่าสร้างเวรสร้างกรรมมามากยังใช้ไม่หมด พอใช้เวรใช้กรรมหมด อโหสิกรรมแผ่เมตตา บำเพ็ญกุศลเสร็จเรียบร้อย ทีนี้เงินเก็บอยู่ละ เป็นเศรษฐีได้ นี่กลายเป็นคนมีเงินมีทองไปแล้ว นี่แหละใช้หนี้ใครไม่หมดไม่เจริญหรอก ทำไม่ขึ้น ขอฝากไว้สั้น ๆ นะ

    บางคนมาถามว่า "ฉันมีเวรมีกรรมอะไร"
    "มานั่งกรรมฐานซิโยม จะได้รู้"


    "โอ๊ย ฉันไม่มีเวลา ไม่ว่าง"




    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="88%">แต่เวลาไปคุยบ้านเหนือบ้านใต้ว่างดีนัก คุยนินทากันนั่นแหละว่าง ไปสร้างความชั่วว่าง

    แต่สร้างความดีไม่มีใครว่าง

    ถูกต้องแล้วน่าเห็นใจ เพราะคนเราจะดีเหมือนกันทุกคนไม่ได้ แล้วแต่วาสนาบารมี คนที่ไม่มีบุญวาสนา มันทำยาก
    อาตมาก็เห็นใจด้วยคนเราที่จะดึงมาสร้างความดีดึงยาก เพราะดูเหตุการณ์แล้ว คนนั้นไม่มีบุญ ไม่มีวาสนา เขาจึงทำยาก อย่าไปว่าเขาเลย เพราะไม่มีวาสนา ทำอย่างไรก็ทำไม่ขึ้น และทำไม่ได้ด้วย

    </TD></TR></TBODY></TABLE>




    นั่นล่ะค่ะ อรก็หมั่นสร้างบุญ ให้ตัวเองมีบุญ มีวาสนากะเค้าบ้าง เหอะๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  13. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,684
    ค่าพลัง:
    +9,239
    สิ่งที่ยึดอรไว้ไม่ให้เลวถึงขีดสุด ก็เป็นเพราะ พระศาสนา ที่ทุกชาติอรจะอธิฐานจิตเสมอว่า "ขอให้ได้เกิดมาอยู่ใต้ร่มโพธิ์ของพระศาสดา และได้ปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆชาติต่อๆไป"

    ขออนุโมทนาค่ะ
     
  14. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144


    ขอบคุณ คุณ wvichakorn มากนะค่ะ

    ไม่อายเลยค่ะที่จะบอกว่า เราเคยเลวมาก่อน ช่วงนั้น บอกกับตัวเองเลยว่า ใครอยากนิพพานเชิญ เราขอกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก ยังตัดกิเลสไม่ได้

    ตอนนี้หรือค่ะ คิดเพียงว่า ขอให้ได้ใช้กรรมเจ้ากรรมนายเวร ให้หมด ไม่ต่อกรรมกันอีก (ถ้าไม่ต้องเวียนว่ายในสังสารวัฏ ก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้ แหะแหะ แอบหวังลึกๆๆๆๆๆ ลึกมั่กๆๆ)
     
  15. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    โมทนาด้วยนะคะ

    อ่านแล้วรู้สึกดี และเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง เข้าใจแนวการสอนของหลวงพ่อจรัญด้วยค่ะ ก่อนหน้านี้เคยศึกษามาบ้าง แต่ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ค่ะ ทำให้มีกำลังใจ และแนวทางในการปฏิบัติต่อไปค่ะ

    ขอบคุณนะคะ ^^
     
  16. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144

    ขอบคุณคุณน้ำใสเช่นกันนะค่ะ ที่แวะมาอ่านเรื่องที่อรเล่า อรได้ฟังแบบนี้แอบซึ้งอีกแล้วค่ะ ตื้นตันใจมากๆเลย
    คุณพระรักษา เทวดาคุ้มครองนะเจ้าค่ะ
     
  17. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    ขอบคุณมากค่ะ ชอบคำว่า ไปกลับ หลับตื่น ฟื้นมี หนีพ้น จังค่ะ อ่านแล้วอมยิ้มเลย
     
  18. huten

    huten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,808
    ค่าพลัง:
    +15,229
    อ่านเรื่องคุณอรแล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย ตอนนี้เราปฎิบัติก็พยายามหาแนวทาง
    จากผู้รู้เรื่อยๆมาปรับใช้กับตัวเองตอนนี้ก็ดีขึ้นตามลำดับ คุณอรทำให้เรามีมานะใน
    การปฎิบัติ อนุโมทนา..สาธุ. ค่ะ:cool::cool:
     
  19. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144

    สวัสดีค่ะคุณ huten อรก็ปลื้มใจมากเลยค่ะ ที่บทความที่เขียนทำให้หลายคน มีกำลังใจการปฏิบัติต่อไป อรเป็นคนธรรมดาคนนึง ที่อาศัยความเพียรและความอดทน สูงๆ เหมือนคนไม่มีพรสวรรค์แต่อาศัยพรแสวงน่ะค่ะ

    คุณ huten สู้ๆนะค่ะ อดทนผ่านมันไปให้ได้ ผลที่ได้คุ้มค่าแน่นอน
     
  20. หมาป่าพเนจร

    หมาป่าพเนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +161
    อ่านเรื่องราว ของคุณอร แล้วรู้สึกกลับมามีกำลังใจที่จะกลับมาปฎิบัติ อีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปนาน ครับ ขออนุโมทนา จากใจ
     

แชร์หน้านี้

Loading...