พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    แล้วพี่นี้พี่เพชรอธิษฐานหรืออยากได้อะไรบ้างครับ (ห้ามจุดเทียนบนหมูกรอบสามชั้นนะครับ)
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า พี่ว่าไม่ได้จุดเทียนบนหมูกรอบสามชั้นครับ

    วันนี้ น่าจะปิดไฟ จุดเทียนไว้บนเชิงเทียนสวยๆ ทานข้าวสวยร้อนๆกับหมูกรอบสามชั้นกับ ผบทบ.คุณเพชร สองต่อสอง แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ


    .
     
  3. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เคล็ดลับของการเปลี่ยนปี พ.ศ. ปี ค.ศ. วันสำคัญต่างๆ มักจะแนะนำให้ทาน"ลาบ(ภ)หมู" เพื่อเป็นเคล็ดศิริมงคลกับตนเอง เมื่อวานได้อ่านเรื่องการทำหมูกรอบโดยไม่ต้องทอดของคุณอุไรที่เป็นอาจารย์สอนทำอาหาร เคล็ดลับแบบนี้ ไม่มีที่ไหน ไม่มีใครนำมาเปิดเผยกันครับ ส่วนมากเราก็เห็นแต่ตั้งน้ำมันใส่กระทะใบโตๆ เห็นแค่นั้น ยังไม่อยากนึกไปว่า น้ำมันในกระทะนั้นจะดำขนาดไหน ใช้มากี่ครั้งแล้ว มารู้อีกทีเขาเสริฟใส่จานกรอบ พอง ฟู น่าทานไปหมด หนนี้ด้วยความสงสัย เลยลองทำตามสูตรคุณไรเขา หากสำเร็จ ต้องยกคุณความดี วิทยาทานให้กับคุณไรเขานะ...:cool:

    วันนี้ก็เลยทำหมูกรอบ จากหมู 3 ชั้น แทน เคล็ดความสำเร็จแบบ 3 ชั้น 3 เด้ง ไงครับ...

    เรื่องกระทู้พระวังหน้า หากเป็นท่านที่สนใจจริงๆ ไม่ใช่สนใจประเดี๋ยวประด๋าว เขาย่อมต้องเข้ามาติดตามทุกวัน มีสาระมั่ง ไม่มีสาระมั่งมั่ง ก็ถือเป็นการผ่อนคลาย เปรียบเหมือนห้องๆหนึ่ง นั่งคุยกัน บางครั้งอาจจะไปยกน้ำชากาแฟ มาทานกันในห้องนี้ อย่างวันนี้ ยกหมู 3 ชั้นมาทำกันในห้องรับแขก อาจจะมีกลิ่นที่รบกวนเพื่อนๆในห้องกันบ้าง ก็ต้องขออภัย เสร็จแล้วมาทานกันมะ...
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อาทิตย์หน้า ว่าจะทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวนมาทานกันในห้องรับแขก...
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียน คุณjirautes

    ผมได้ส่งพระสมเด็จ (กลักไม้ขีด ลงรัก) (หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า , หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า ,หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิต)

    , พิมพ์พิเศษ (เป็นที่รักของ 3 โลก ที่เป็นพิมพ์ใหญ่) (หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิต)

    , พิมพ์ปิลันทร์ซุ้มครอบแก้ว (สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หลวงปู่ปิลันทร์ อธิษฐานจิต)

    และ พิมพ์พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง (หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า และ หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง อธิษฐานจิต)

    ให้เรียบร้อยแล้วในวันนี้( 3 กุมภาพันธ์ 2553) (เวลา 13.28 น.) ผมส่งแบบ EMS นะครับ พรุ่งนี้น่าจะได้รับครับ

    หากท่านใดที่ร่วมทำบุญแล้ว ผมยังไม่ได้จัดส่งพระพิมพ์ให้ ผมรบกวนต้องทวงผม ผมเองลืมเป็นประจำ ทวงผม ผมไม่โกรธ ไม่โมโห แต่จะดีใจนะครับที่ทวง

    ขอบคุณครับ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับพิมพ์พิเศษเป็นที่รักของสามโลก ผมจะมอบให้กับท่านที่จองล็อกเก็ต ซึ่งมีทั้งหมด 18 ท่าน ผมจะมอบให้ท่านละ 1 องค์เท่านั้นครับ

    และที่จะมอบให้ จะเป็นพิมพ์ใหญ่ครับ

    อย่างที่<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ลูกน้องผม<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2929500", true); </SCRIPT> บอกไว้ว่า น่าเสียดายสำหรับท่านที่ไม่ได้จองล็อกเก็ต รุ่น "คณะเผยแผ่พระพุทธศาสนา" เพียงแค่องค์ล็อกเก็ตเอง ก็มากด้วยคุณค่าแล้ว ยังมีพระพิมพ์(ลูกอมปิดตา) ที่ติดด้านหลังให้ แถมยังมีพระพิมพ์ที่ผมตั้งใจมอบให้เพิ่มเติมอีก (ตั้งใจว่า จะแจกอยู่แล้ว) หลายองค์ ครับ

    .
     
  8. sittiporn.s

    sittiporn.s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +748


    สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดครับ
    มุขทีละเท้าคิดได้งัยยยยยยยยย
     
  9. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  10. dragonlord

    dragonlord เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,541
    Happy Birthday ka P'เพชร
     
  11. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    อ้าวตกลงวันนี้วันเกิดพี่เพชรหรอครับ(ขำๆ) มิน่าล่ะพี่หนุ่มถึงหลีกทางให้วันนี้ :boo:
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ขอบคุณครับ สำหรับคำอำนวยพรที่พี่ๆเพื่อนๆน้องๆได้มอบให้ วันนี้เฝ้าหมูไป ก็ต้องระวังสัตว์ 2 เท้าที่ว่า กลัวมันจะมาทีละเท้า ต้องคอยหลบครับ...ตั้งเตาอบอุ่นเครื่องเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รอกระดาษฟรอยซ์มาก่อน เดี๋ยวก็ได้ทานกันแล้ว มาดูว่า จะน่าทานกันขนาดไหน...
     
  14. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อ้าว พี่เพชรเกิดวันนี้หรือคร๊าบ หุ หุ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มีน้องอีกท่าน pm มาเตือนความจำผม เดี๋ยวคืนนี้ จะรีบดำเนินการให้ครับ

    พรุ่งนี้น่าจะส่งได้ ไม่มีปัญหา

    ต้องทวงและเตือนความจำผมด้วยนะครับ

    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พรุ่งนี้ จะมาชมครับ

    .
     
  17. พุทธันดร

    พุทธันดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +3,969
    สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณเพชร
    ขอให้มีแต่สิ่งที่ดีๆเกิดขึ้นตลอดไป
    สมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนานะคะ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อาณาจักรทวาราวดี
    .:: อาณาจักรทวาราวดี - คลังปัญญาไทย ::.


    <DL><DD>เมื่อประมาณ พ.ศ. ๗๐๐ ชนชาติละว้าซึ่งเข้าครอบครองถิ่นเจ้าพระยา ได้ตั้งอาณาจักรใหญ่ขึ้นสามอาณาจักรคือ </DD></DL><DL><DD>อาณาจักรทวาราวดี มีอาณาเขตประมาณตั้งแต่ราชบุรี ถึงพิษณุโลก มีนครปฐมเป็นเมืองหลวง </DD></DL><DL><DD>อาณาจักรโยนกหรือยาง เป็นอาณาจักรทางเหนือในเขตพื้นที่เชียงราย และเชียงแสน มีเงินยางเป็นเมืองหลวง </DD></DL><DL><DD>อาณาจักรโคตรบูรณ์ มีอาณาเขตตั้งแต่นครราชสีมาถึงอุดรธานี มีนครพนมเป็นเมืองหลวง </DD></DL>
    ทวารวดี เป็นคำภาษาสันสกฤต เกิดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๔๒๗ โดยนายแซมมวล บีล (Samuel Beal ) ได้แปลงมาจากคำว่า “โถ-โล-โป-ติ” (T’o-lo -po-ti) ที่มีอ้างอยู่ในบันทึกของภิกษุจีนเฮี้ยนจัง(Hiuan -tsang) ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๒ กล่าวว่า “โถโลโปติ” เป็นชื่อของอาณาจักรหนึ่งตั้งอยู่ระหว่างอาณาจักรศรีเกษตร (พม่า) และอาณาจักรอีสานปุระ (กัมพูชา) และเขาได้สรุปด้วยว่าอาณาจักรนี้เดิมตั้งอยู่ในดินแดนประเทศไทยปัจจุบัน และยังสันนิษฐานคำอื่นๆที่มีสำเนียงคล้ายกันเช่น จวนโลโปติ (Tchouan-lo-po-ti) หรือ เชอโฮโปติ (Cho-ho-po-ti) ว่าคืออาณาจักรทวารวดีด้วย
    ต่อมาความคิดเห็นนี้ได้มีผู้รู้หลายท่านศึกษาต่อและให้การยอมรับเช่น นายเอดัวร์ ชาวาน(Edourd Chavannes) และ นายตากากุสุ(Takakusu) ผู้แปลจดหมายเหตุการเดินทางของภิกษุอี้จิงในปี พ.ศ. ๒๔๓๙ และ นายโปล เปลลิโอต์(Paul Pelliot) ผู้ขยายความอาณาจักรทวารวดีเพิ่มอีกว่ามีประชาชนเป็นชาวมอญในปี พ.ศ. ๒๔๔๗ เป็นต้น ดังนั้นบรรดาเมืองโบราณรวมทั้งโบราณวัตถุสถานต่างๆที่พบมากมายโดยเฉพาะในบริเวณลุ่มน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแต่เดิมไม่สามารถจัดกลุ่มได้ว่าเป็นของขอมหรือของไทย แต่มีลักษณะคล้ายกับศิลปะอินเดียสมัยราชวงศ์คุปตะ - หลังคุปตะ ราวพุทธศตวรรษที่ ๙-๑๓ ที่พันตรีลูเนต์ เดอ ลาจองกีเยร์(Lunet de Lajonguiere) เรียกว่า "กลุ่มอิทธิพลอินเดียแต่ไม่ใช่ขอม" จึงถูกนำมาสัมพันธ์กลายเป็นเรื่องเดียวกัน โดยศาสตราจารย์ ยอร์ช เซเดส์ (พ.ศ. ๒๔๖๘) และสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ (พ.ศ. ๒๔๖๙) เป็นกลุ่มบุคคลแรกที่กำหนดเรียกชื่อดินแดนที่เมืองโบราณเหล่านี้ตั้งอยู่ รวมทั้งงานศิลปกรรมที่พบนั้นว่าคือดินแดนแห่งอาณาจักรทวารวดี และศิลปะแบบทวารวดี โดยใช้เหตุผลของตำแหน่งที่ตั้งอาณาจักรตามบันทึกจีนกับอายุของบันทึก และอายุของงานศิลปกรรมที่ตรงกัน อาณาจักรทวารวดีจึงกลายเป็นอาณาจักรแรกในดินแดนไทย กำหนดอายุตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒ ลงมาถึงพุทธศตวรรษที่ ๑๖
    ทวาราวดี แปลว่า ประตูที่ดี มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 มีศูนย์กลางอยู่ที่นครปฐม จากหลักฐาน ทางโบราณคดีที่ค้นพบบ่งบอกว่า อาณาจักรทวาราวดีมีการติดต่อค้าขายทางทะเล อย่างกว้างขวาง เพราะทวาราวดีมีทางออกสู่ทะเลมากมาย เนื่องจากมีอาณาเขต ติดต่อกับอาณาจักรศรีวิชัยทางทิศใต้และติดต่อไปจนถึงลำพูนทางทิศเหนือ ทาง ทิศตะวันตกติดต่อกับทางตอนกลางของพม่า ทิศตะวันออกติดต่อกับอาณาจักรเขมร ซึ่งได้เริ่มสร้างอาณาจักรขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบ เกี่ยวกับทวาราวดีเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถบ่งบอกเรื่องราวของทวาราวดี ได้มากนัก เพราะส่วนมากจะเป็นบันทึกที่กล่าวถึงแต่เรื่องทางศาสนา ไม่ค่อยจะได้ กล่าวถึงเหตุการณ์ต่างๆมากนัก ถึงจะมีอยู่บ้างแต่ก็น้อยเต็มทีและเป็นเรื่องที่ไม่ปะ ติดปะต่อกัน ทำให้เรื่องราวที่เกี่ยวกับทวาราวดียังไม่มีความชัดเจนพอที่จะหาข้อสรุป ได้ บอกแต่เพียงว่า อาณาจักรทวาราวดีมีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ส่วนใดบ้าง ประชาชนนับถือศาสนาอะไร พูดภาษาอะไร ซึ่งสรุปได้อย่างกว้างๆเท่านั้น
    บันทึกของพระถังซำจั๋งในศควรรษที่ 12 ได้กล่าวถึงอาณาจักรทวาราวดีว่าชื่อ โถโล โปลี มีความเจริญรุ่งเรืองมากทางด้าน การค้า และศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ทิศตะ วันตกติดต่อกับอาณาจักรศรีเกษตร (คือพม่าปัจจุบัน) ตะวันออกติดต่อกับอาณาจักร อิสานปุระ (อาณาจักรเขมร)
    เมื่อเขมรสร้างอาณาจักรจนเป็นปึกแผ่น และมีความเข้มแข็งมากขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นเวลา เดียวกับที่ทวาราวดีเกิดความอ่อนแอ ทำให้เขมรเข้ามาครอบครองทวาราวดีในหลาย ยุคหลายสมัย แต่บางครั้งที่เขมรอ่อนแอ มอญก็เข้ามาครอบครองทวาราวดีแทนเช่น ในสมัยของพระเจ้าอนุรุ แห่งเมืองพุกาม
    อาณาจักรทวารวดี มีแหล่งชุมชนส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลางของประเทศไทย แหล่งชุมชนของทวารวดีในภาคกลางที่สำรวจพบมีถึง 15 แห่ง ทิศเหนือสุดจดจังหวัดพิจิตร ทิศใต้จรดจังหวัดเพชรบุรี เมืองที่กระจายห่างออกไปทางตอนเหนือ เช่น เมืองหริภุญชัย ในภาคเหนือ และเมืองฟ้าแดดสูงยาง ในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีเมืองนครปฐมเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญ หลวงจีนอี้จิง หรือ พระภิกษุอีจิ๋นและหลวงจีนเฮียนจัง(ยวนฉ่าง) พ.ศ.1150 ได้กล่าวไว้ในจดหมายเหตุของท่านว่า มีอาณาจักรอันใหญ่โตอาณาจักรหนึ่ง อยู่ในระหว่างเมืองศรีเกษตร (พม่า) และอิสานปุระ (เขมร)ชื่อโตโลปอตี้ (ทวารวดี) และอาณาจักรนี้ก็เป็นอาณาจักรที่นักโบราณคดีได้สำรวจพบโบราณสถาน และพระพุทธรูปที่สร้างตามแบบฝีมือช่างครั้งราชวงศ์คุปตะของอินเดีย (พ.ศ.860-1150) เป็นจำนวนมากที่นครปฐม และเมืองในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เรื่อยไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จนถึงเมืองนครราชสีมา และเมืองบุรีรัมย์
    นครปฐมเป็นเมืองมาตั้งแต่สมัยแรกสร้างพระปฐมเจดีย์ คือราว ๆ พ.ศ.300 เคยมีอำนาจสูงสุดครั้งหนึ่ง และเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรทวารวดี (พุทธศตวรรษ11-16) ปูชนียสถานที่ใหญ่โตสร้างไว้เป็นจำนวนมาก และยังเหลือเป็นพยานปรากฏอยู่อย่างเช่น วัดพระประโทนเจดีย์ วัดพระเมรุ วัดพระงาม และวัดดอยยายหอม เป็นต้น โบราณสถานที่ค้นพบล้วนฝีมือประณีต งดงาม มีเครื่องประดับร่างกายสตรีทำด้วยดีบุก เงิน และทอง รูปปูนปั้นชาวต่างประเทศก็มี ทำให้สันนิษฐานได้ว่าชาวทวารวดีมีการติดต่อกับประเทศอื่น เช่น ประเทศจีน ศิลปต่าง ๆ ขณะนี้เก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์
    นครปฐมมีกษัตริย์ปกครองหลายพระองค์ เพราะปรากฎว่าได้พบปราสาทราชวังเหลือซากอยู่ เช่น ตรงเนินปราสาทในพระราชวังสนามจันทร์ เคยทำเงินตราขึ้นใช้เอง เช่นเงินตราสมัยนั้นมีหลายรูปแบบ ซึ่งนอกจากเป็นรูปสังข์และประสาทยังมีตราแพะ ตราปรูณกลศ (หม้อน้ำที่มีน้ำเต็ม)ฯลฯจึงเป็นสิ่งยืนยันว่า อาณาจักรทวารวดีมีจริง และมีพระมหากษัตริย์ปกครองแน่นอน ศาตราจารย์ยอร์ช เซเดส ได้อ่านจารึกที่เงินตราแล้วแปลได้ความว่า บุญกุศลของพระราชาแห่งศรีทวารวดี
    นครปฐมมีอำนาจสูงสุดประมาณ 200 ปี แล้วค่อยเสื่อมลง พวกขอมขณะนั้นกำลังรุ่งเรืองก็ถือโอกาสตีเมืองของอาณาจักรทวารวดีทีละเมืองสองเมืองจน พ.ศ. 1500 อาณาจักรทวารวดีก็เสื่อมลงเป็นธรรมดาหลังจากที่เจริญรุ่งเรืองอย่างที่สุด และตกอยู่ในอำนาจของขอม พวกขอม คงจะกวาดต้อนผู้คนไปเป็นเชลย นำไปใช้เป็นกำลังทำงานต่าง ๆ คนไทยยังมีตามหัวเมืองโบราณในแคว้นสุวรรณภูมิหลายเมือง เช่น ลพบุรี อู่ทอง กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี แต่ยังไม่มีอำนาจในการปกครองแต่อย่างใด ครั้นเมื่อ พ.ศ. 1800 ซึ่งเป็นเวลาที่ไทยยึดอำนาจการปกครองจากขอมได้ นครปฐมกลายเป็นเมืองร้างไปเสียแล้ว จึงไม่ปรากฎในศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหง สาเหตุที่เป็นเมืองร้าง เนื่องจากแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำแม่กลองซึ่งแต่เดิมเคยไหลผ่านนครปฐมเปลี่ยนทิศทางเดินใหม่ ไหลผ่านจากตัวเมืองไปมากจนทำให้นครปฐมเป็นที่ดอนขึ้น ไม่เหมาะแก่การทำไร่ทำนา ผู้คนจึงถอยร่นไปอยู่ริมแม่น้ำด้วยเหตุนี้เมืองนครปฐมจึงเสื่อมลง
    อาณาจักรทวารวดี เป็นที่น่าเชื่อถือขึ้นอีกเมื่อพบเหรียญเงิน ๒ เหรียญ มีจารึกภาษาสันสกฤตอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓ จากเมืองนครปฐมโบราณ มีข้อความว่า ศรีทวารวดีศวรปุณ-ยะ ซึ่งแปลได้ว่า บุญกุศลของพระราชาแห่งศรีทวารวดี หรือ บุญของผู้เป็นเจ้าแห่ง(ศรี)ทวารวดี หรือ พระเจ้าศรีทวารวดีผู้มีบุญอันประเสริฐ อาณาจักรทวารวดีจึงเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่ามีอยู่จริง และยังเชื่อกันอีกด้วยว่าเมืองนครปฐมโบราณน่าจะเป็นศูนย์กลางหรือเมืองหลวงของอาณาจักร (แต่ปัจจุบันพบเหรียญลักษณะคล้ายกันอีก ๒ เหรียญ ที่อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และที่อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ความสำคัญของเมืองนครปฐมจึงเปลี่ยนไป) แต่ขณะเดียวกันนักวิชาการบางท่านก็เชื่อว่าอำเภออู่ทอง หรืออาจเป็นจังหวัดลพบุรี ที่น่าจะเป็นเมืองหลวงมากกว่า

    [แก้ไข] พระพุทธศาสนา สมัยทวาราวดี

    ผืนแผ่นดินจุดแรกของอาณาจักรสุวรรณภูมิ หรือที่เรียกกันว่า "'แหลมทอง'" ซึ่งท่าน พระโสณะกับพระอุตตระได้เดินทางจากชมพูทวีปเข้ามาประดิษฐานนั้น จดหมายเหตุของหลวงจีนเหี้ยนจัง เรียกว่า "ทวาราวดี" สันนิษฐานว่าได้แก่ที่จังหวัดนครปฐม เพราะมีโบราณสถานและโบราณวัตถุต่าง ๆ เช่น พระปฐมเจดีย์ ศิลารูปพระธรรมจักร เป็นต้น ปรากฏว่าเป็นหลักฐานประจักษ์พยานอยู่ พระพุทธศาสนาที่เข้ามาในครั้งนี้ เป็นแบบเถรวาทดั้งเดิม พุทธศาสนิกชนได้มีความศรัทธาเลื่อมใสบวชเป็นพระภิกษุจำนวนมาก และได้สร้างสถูปเจดีย์ไว้สักการะบูชา เรียกว่า สถูปรูปฟองน้ำ เหมือนสถูปสาญจีในอินเดีย ที่พระเจ้าอโศกทรงสร้างขึ้น ศิลปะในยุคนี้เรียกว่า ศิลปะแบบทวาราวดี
    จากหลักฐานโบราณสถาน โบราณวัตถุในดินแดนประเทศไทย ทำให้เราได้ทราบว่าอารยธรรมอินเดีย ได้หลั่งไหลแผ่เข้ามายังดินแดนประเทศไทย ตั้งแต่ครั้งพุทธศตวรรษที่ 6-7 ชาวอินเดียเรียกประเทศไทยว่า ดินแดนสุวรรณภูมิ และได้เข้ามาตั้งหลักแหล่งในแหลมอินโดจีนพร้อมทั้งได้นำวัฒนธรรมและศาสนา คือ ศาสนาพราหมณ์และพระพุทธศาสนา เข้ามาเผยแพร่ด้วย ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 7 ถึง 11 ตามหลักฐานจากจดหมายเหตุของจีนว่ามีอาณาจักร "ฟูนัน" ตั้งอยู่แถบลุ่มแม่น้ำโขงตอนใต้ และได้แผ่อาณาเขตไปทางทิศตะวันตกถึงแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย เมื่ออาณาจักร "ฟูนัน" สลายตัวในต้นพุทธศตวรรษที่ 12 แล้ว ในดินแดนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาได้เกิดอาณาจักรที่สำคัญทางพุทธศาสนาขึ้น ชื่อว่า อาณาจักรทวาราวดี
    คำว่า "ทวาราวดี" เดิมเป็นเพียงข้อสันนิษฐานจากชื่ออาณาจักรที่จดหมายเหตุจีนเรียกว่า "โถโลโปติ" (To-lo-po-ti) ว่า ตรงกับคำสันสกฤตว่า "ทวาราวดี" และคำนี้ได้ติดอยู่เป็นสร้อยชื่อของนครหลวงของประเทศไทย มาตั้งแต่สมัยอยุธยา ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2512 ได้มีผู้พบเหรียญเงินมีอักษรจารึกที่นครปฐมคำจารึกเป็นอักษรสันสกฤต รุ่นพุทธศตวรรษที่ 13 มีข้อความว่า "ศรีทวาราวดี ศวรปุณยะ" แปลว่า งง"บุญกุศลของพระราชาแห่งศรีทวาราวดี" อันแสดงว่าอาณาจักรทวาราวดีนั้นมีจริงในประเทศไทย
    อาณาจักรทวารวดีเป็นอาณาจักรประวัติศาสตร์สมัยแรกในประเทศไทย อาณาจักรนี้มีเมืองอู่ทองอาจเป็นราชธานีอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง มีการค้นพบแผ่นทองแดง ของพระเจ้าหรรษาวรมันที่เมืองอู่ทอง ซึ่งมีจารึกใช้ตัวอักษรอยู่ประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 12 ก็อาจหมายความว่า พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้เป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์แรก ที่ทราบพระนามสำหรับอาณาจักรทวารวดี เมืองอู่ทองจึงเป็นเมืองสำคัญในอาณาจักรทวารวดีในพุทธศตวรรษที่ 11-12
    ประวัติของไทยนั้นเก่าแก่มาก จดหมายเหตุจีนเมื่อประมาณ 300 ปีก่อนพุทธกาลกล่าวถึงภูมิลำเนาเดิมของไทยว่าอยู่ในลุ่มน้ำตอนกลางของแม่น้ำเหลือง ซึ่งอยู่ในท้องที่มณฑลฮูเป และโฮนานในบัดนี้ ในสมัยเดียวกันนั้น จีนก็ได้มาตั้งภูมิลำเนาอยู่ตามที่ราบสูง ในลุ่มน้ำเหลืองตอนบน คือ มณฑลกังซูในบัดนี้ ซึ่งเห็นจะเป็นเพราะถูกพวกต้นตระกูลตาดรุกราน จึงได้ร่นลงมาและปะทะกับไทยเข้า ไทยมีจำนวนน้อยจำต้องร่นลงมาทางใต้หลายทิศหลายทาง
    พวกไทยส่วนมากร่นลงมาตามแม่น้ำแยงซีเข้าไปในยูนนาน ต่อสู้ชนะพวกพื้นเมืองเดิมและได้ตั้งอาณาจักรน่านเจ้า โดยมีตาลีฟูเป็นเมืองหลวง ต่อมาเมืองหลวงก็ได้ย้ายไปตั้งอยู่ ปูเออฟู อาณาจักรน่านเจ้าครอบครองท้องที่มณฑลยูนนานปัจจุบัน พม่าเหนือและภาคเหนือของสิบสองปันนาประวัติของไทยในสมัยที่กล่าวนี้ รุ่งเรืองที่สุดและอำนาจอยู่อย่างนี้ 4 ศตวรรษ
    เมื่อจีนรุกรานหนักเข้า ไทยก็จำต้องอพยพร่นลงมาอีก และกว่าจะต่อสู้เอา ชัยชนะขอมเจ้าของถิ่นเดิมได้ ก็เป็นเวลาตั้งหลายศตวรรษ แล้วจึงได้ตั้งอาณาจักรใหม่ ณ เชียงแสน บนฝั่งแม่น้ำโขง อาณาจักรใหม่นี้มีประวัติรุ่งเรืองเหมือนอาณาจักรเดิมต่อมานั้นได้ย้ายจากเชียงแสนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ และตั้งอาณาจักรขึ้นใหม่ที่ลุ่มแม่น้ำสาลวิน มีภุกามเป็นเมืองหลวง แต่อาณาจักรนี้ไม่ยั่งยืนเพราะอยู่ใกล้ขอมมาก จึงถูกขอมขับกลับไปเลยไปสร้างเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองหลวงใหม่ขึ้นที่ แม่น้ำปิง

    การอพยพลงมาทางใต้ยังคงดำเนินไปอยู่เรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเรียกกันว่าดินแดนแหลมทองหรือสุวรรณภูมิ อันเป็นที่ตั้งประเทศไทยปัจจุบันนี้ ได้มีชนชาติอื่นอาศัยอยู่ก่อนแล้ว ได้แก่พวกละว้า ซึ่งได้ตั้งภูมิลำเนาอยู่ 3 แคว้นด้วยกัน คือ
    1. แคว้นโยนก อยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย คือ ดินแดนที่เป็นมณฑลพายัพ และลานนาไทยปัจจุบัน มีอาณาเขตตั้งแต่เมืองเชลียง (สวรรคโลก) ขึ้นไปจนตลอดหัวเมืองลานนา และลานช้าง ได้ตั้งราชธานี อยู่ที่เมืองเงินยาง (เชียงแสน)
    2. แคว้นทวารวาดี อยู่ตรงตอนกลางของประเทศไทย คือ ดินแดนบริเวณจังหวัดนครปฐม อยุธยา พิษณุโลก นครสวรรค์ ปราจีนบุรี รวมทั้งแหลมมลายู ตั้งราชธานีอยู่ที่นครปฐม
    3. แคว้นโคตรบูร อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยปัจจุบัน มีราชธานีอยู่ที่สกลนคร
    สำหรับแคว้นทวารวดีนั้น ต่อมาได้ถูกพวกมอญขยายอาณาเขตเข้ามาทางแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าครอบครองกลายเป็นอาณาจักรหนึ่งของชนชาติมอญ สันนิษฐานว่า พวกมอญคงจะได้ตั้งอาณาจักรนี้ขึ้น เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 10 และสิ้นสุดลงตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 16 เนื่องจากอำนาจของขอมได้แผ่เข้ามายังภาคกลางของประเทศไทย อาณาจักรทวารวดี ก็เปลี่ยนมาเป็นอาณาจักรของขอม ซึ่งเรียกเป็นเฉพาะว่าอาณาจักรลพบุรี

    [แก้ไข] ภาพจำหลักศิลปทวาราวดีอายุกว่า 1000 ปี

    พระพุทธเจ้าแสดงธรรม วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี (คัดลอกข้อมูลจาก น.ที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูโกศลวิหารกิจ หน้า 32)
    ถ้ำพระโพธิสัตว์ มีอีกชื่อว่าถ้ำพระงามหรือถ้ำเขาน้ำพุ ประกอบด้วยคูหาน้อยใหญ่ 6 คูหา คูหาที่มีภาพสลักบนผนังเป็นคูหาติดทางปากเข้า และเป็นคูหาที่มีแสงสว่างส่องถึงมากที่สุด คูหานี้มีเจดีย์ปิดทองตั้งอยู่บนฐานโบกปูน ปูด้วยกระเบื้อง เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นในสมัยปัจจุบัน ณ ผนังด้านเหนือของคูหานี้สูงขากพื้นถ้ำ 3.27 -5.25 เมตร มีภาพสลักนูนต่ำศิลปกรรมสมัยทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 13-14 ) ขอบเขตของภาพ 3.30 x 2.08เมตร เป็นภาพที่ประกอบด้วยรูปบุคคล 6 ภาพในอิริยาบถ ที่ต่างกัน
    สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นภาพตอนที่บรรดาเทพเจ้าเผ้าทูลอาราธนาให้พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเพื่อโปรดสรรพสัตว์ในโลกและเมื่อทรงแสดงธรรมก็มีเทพเข้า มนุษย์ อสูร คนธรรพ์ มาเฝ้าเพื่อสดับธรรม ดังที่มีรายละเอียดปรากฏอยู่ในลลิตวิสตระอันเป็นคัมภีร์แสดงพุทธประวัติฝ่ายมหายาน ซึ่งเข้าใจว่าความรู้เรื่องคัมภีร์นี้มีแพร่หลายในสมัยนั้น อาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม สันนิษฐานถ้ำนี้ว่า “ น่าจะเป็นที่จำศีลภาวนาของนักบวชและฤาษี ภายในถ้ำโอ่โถงพอสมควร พอเป็นที่อาศัยพำนักได้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในระดับที่สูงแต่ก็ไม่มีอะไรที่ลำบากแก่การดำรงชีวิต อันเนื่องมาจากบริเวณที่ตีนเขาตรงหน้าถ้ำนั้นมีธารน้ำตกเหมาะกับการตั้งหลักแหล่งพำนักอาศัยของบรรดานักบวชหรือไม่ก็ชุมชน และผู้คนที่อยู่ในที่สูงป่าเขา อาศัยผลผลิตของป่าในบริเวณนั้นหาเลี้ยงชีพ ”
    ถ้ำพระโพธิสัตว์เป็นถ้ำหินอ่อนล้วน มีภาพศิลปะนูนต่ำ ดังที่กล่าวมาและมีหินงอก หินย้อย รูป ช้าง สิงโต เต่า หัวจระเข้ ลิ้นพญามัจจุราช พระปางนั่งสมาธิบนเพดานถ้ำ เพชรน้ำ (น้ำหยดลงหินเป็นประกายลักษณะคล้ายหินปะการัง) ถัดจากถ้ำพระโพธิสัตว์ คือถ้ำธรรมทัศน์ มีความยาวประมาณ 800 เมตรเศษ เป็นที่จำพรรษาของพระสงฆ์ในอดีต ภายในมีหินงอกหินย้อยรูปหัวพญานาค สันนิษฐานว่าเป็นเสาหลักเมืองเก่า
    จากถนนมิตรภาพมุ่งหน้าไปทางโคราช ถึงโรงปูน 2 (ปูนนครหลวงนกอินทรี) กลับรถบนสะพานจากสะพานกลับรถถึงทางแยกระยะทางประมาณ 3 ก.ม. จะเห็นป้ายวัดถ้ำดาวเขาแก้ว ตรงสะพานลอยคนข้ามเลี้ยวซ้ายเข้าไปถึงทางแยกมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายไปวัดถ้ำพระโพธิสัตว์ จากทางแยกไปอีกประมาณ 6.5 กม. ก็ถึง



    แหล่งข้อมูลอ้างอิง
    1. www.geocities.com/nashville/opry/3009/history/014.htm/
    2. www.geocities.com/sakyaputto/tavaravadee.htm
    3. www.dhammathai.org/thailand/thailand.php
    4. th.wikipedia.org/wiki
    5. www.moohin.com/
    6. www.baanjomyut.com/76province/center/02.html
     
  19. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โมทนาสาธุครับ

    สวัสดียามเช้าครับทุกท่าน ...
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 44 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 38 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, sittiporn.s+, chantasakuldecha+, pootoop, nongnooo+, psombat+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ่า สวัสดีทุกๆท่าน ตอนเช้าแก่ๆ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...