งานบุญพระพุทธศาสนา

มาแจ้งสถานะชวนทำบุญตอนนี้ครับ หลวงปู่ท่านจะพุทธาภิเษก10โมง24มค.
สงสัยไม่ได้ติดรถพิษณุไปแล้ว คงต้องไปเองกระมังครับ

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CSERVER%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Franklin Gothic Medium"; panose-1:2 11 6 3 2 1 2 2 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:647 0 0 0 159 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:36.0pt 90.0pt 36.0pt 90.0pt; mso-header-margin:35.3pt; mso-footer-margin:35.3pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <o:shapedefaults v:ext="edit" spidmax="1026"/> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <o:shapelayout v:ext="edit"> <o:idmap v:ext="edit" data="1"/> </o:shapelayout></xml><![endif]--> ​

[FONT=&quot]ขอเชิญร่วมบุญกุศล โครงการสร้าง[/FONT][FONT=&quot]พระกริ่งพุทธภูมิ[/FONT][FONT=&quot] ทูลเกล้าฯถวายพระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผ่านสมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระราชทานทหารตำรวจ
พลเรือน กับหลวงปู่บัณฑิต จิณณปุญโญ วัดพระธาตุศรีสามรักษ์ [/FONT]<o></o>

[FONT=&quot]--------------------------------------------------------------------------------------------[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]ที่ปรึกษาโครงการ[/FONT][FONT=&quot]หลวงปู่บัณฑิต(อดีต พลเอกบัณฑิต ฤชาปกรณ์ ) เจ้าอาวาส
วัดพระธาตุศรีสามรักษ์[/FONT][FONT=&quot] อ.เชียงดาว เชียงใหม่[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]ผู้ดำเนินการโครงการ[/FONT][FONT=&quot] กุศลมงคล สุวรรณกูฏ บิดามารดา ญาติมิตร มนตรีบริ
วาร[/FONT][FONT=&quot]เจ้ากรรมนายเวร สัมพันธชน สรรพชีวิต[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]วัดพระธาตุศรีสามรักษ์ เป็นวัดที่[/FONT][FONT=&quot]สมเด็จพระนเรศวรมหาราช[/FONT][FONT=&quot]เคยมาสร้างไว้
เมื่อครั้งชนะศึกกรุงหงสาวดี บนพื้นที่วัดเก่า ซึ่ง[/FONT][FONT=&quot]องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ
เจ้าผู้พิชิตมาร[/FONT][FONT=&quot]สมัยเสวยพระชาติเป็น[/FONT][FONT=&quot]พระโคโพธิสัตว์[/FONT][FONT=&quot]เคยมาอาศัยเป็นสถานที่
บำเพ็ญบารมี [/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]โครงการ ดำเนินการสร้างพระกริ่งพุทธภูมิจำนวน ๕พันองค์ เพื่อให้หลวงปู่บัณฑิตผู้มี
ส่วนอุปถัมภ์ชาวเขา๑๖เผ่าภาคเหนือ ท่านพิจารณาทูลเกล้าฯถวายองค์พระบาทสมเด็จ
พระพุทธเจ้าอยู่หัวผ่านสมเด็จพระ นางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เพื่อพระราชทานเหล่าข้า
ราชการทหารตำรวจพลเรือน๔จังหวัดชายแดนใต้) ซึ่งหลวงปู่(สมัยเป็นฆราวาสปืนบา
ซูก้ายิงไม่ออก)ท่านจะทำพิธีพุทธาภิเษกด้วย พระภิกษุสงฆ์๙รูป ใน[/FONT][FONT=&quot]เช้าวันบวงสรวง
องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชอาทิตย์ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๓ ณ วัดพระธาตุศรี
สามรักษ์[/FONT][FONT=&quot]โครงการ จะสร้างพระกริ่งพุทธภูมิกรรมการถวายหลวงปู่บัณฑิต ๓๐๐องค์
และอีก ๕๕๕ องค์สำหรับไว้เป็นของขวัญกรรมการที่ร่วมบุญทำให้โครงการฯสำเร็จได้
โดยดีงาม จำนวน ๕๐๐บาทขึ้นไป หากมีปัจจัยเหลือจะนำไปร่วมโครงการสร้างพระกริ่ง
แม่สอนลูกเพื่อสร้างเสนาสนะ สงฆ์(อาจเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์หรือวัดใดวัดหนึ่ง) สืบ
ทอดบำรุงพระพุทธศาสนานี้ให้มีอายุไม่ต่ำกว่า๕๐๐๐ปี พุทโธ ธัมโม สังโฆ อัปมาโณ
อายุ
วรรโณ สุขัง พลัง ปรารถนาสิ่งใดขอให้สำเร็จโดยดีงาม[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]พระ กริ่งพุทธภูมิ ประมาณ๕พันองค์ ผสมมวลสารจากชนวนพระโลหะเก่านับหลายร้อย
องค์ ผ่านพิธีเจริญพระพุทธมนตร์ โดยหลวงปู่พ่อแม่ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัต
โต ไม่ต่ำกว่า๑๖วัดใหญ่ ประมาณไม่ต่ำกว่า๕๐รูป[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]และผ่านการอธิษฐานจิตจากหลวงปู่พ่อแม่ครูบาอาจารย์<st1>จาก </st1>[/FONT]
[FONT=&quot]<st1> </st1>[/FONT] [FONT=&quot]<st1>วัดถ้ำผาจมจากวัดถ้ำผาจม</st1>[/FONT][FONT=&quot]เชียงราย วัดหนองช้างคาว อุดรธานี วัดปากน้ำ นนทบุรี
พระครูวิมุติยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดวิมุติยาราม เชิงสะพานพระราม๖ กทม.[/FONT][FONT=&quot]วัดเทพากร กทม.
วัดถ้ำปากเปียง เชียงใหม่ วัดปทุมวนาราม กทม. วัดใหม่บ้านตาล สกลนคร วัดปากน้ำ
ภาษีเจริญ วัดใหม่เทพพล[/FONT][FONT=&quot]กทม. วัดทุ่งแสงสว่างเจริญธรรมกาญจนบุรีอัญเชิญบารมี
หลวงพ่อฤาษีลิงดำฯลฯ [/FONT][FONT=&quot]นายกุศลมงคล สุวรรณกูฏภาวนาด้วยหัวใจพระไภสัชยคุรุ
(อายุวัฒนะ) ธรรมราชาพระเจ้า๑๖พระองค์ มงกุฎพระพุทธเจ้า ชินบัญชรฯลฯ[/FONT][FONT=&quot]
(สอบถามรายละเอียดได้ที่[/FONT]:[FONT=&quot]๐๘๙๓๐๐๖๙๐๒ ,๐๘๙๓๒๐๑๔๑๓[/FONT][FONT=&quot] )[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]พระกริ่งพุทธภูมิกรรมการ[/FONT] [FONT=&quot]มี มวลสารชนวนจากพระกริ่งพุทธภูมิแต่เพิ่มผงแร่บางไผ่
ผงเหล็กน้ำพี้ ชนวนนวโลหะพระนิรันตรายชมรมพุทธทีโอที ชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์
ชนวนพระกริ่งวัดบวรนิเวศน์ (มาร่วมอนุโมทนาตอนเจริญภาวนาพระกริ่งพุทธภูมิ
๕,๐๐๐องค์) ฯลฯ<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ข้าพเจ้า (กรุณาเขียนตัวบรรจง)...............................................................................[/FONT][FONT=&quot]
ร่วม บุญสร้างพระกริ่งพุทธภูมิถวาย (ราคาต้นทุนไม่รวมค่าขน
ส่งการประสานงานจัดการ สมโภชบวงสรวง อธิษฐานจิตพุทธาภิเษก ฯลฯ)
องค์ละ ๒๕ บาท จำนวน.....................................องค์คิดเป็น .............................
..............................บาท[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]ร่วม บุญเป็นกรรมการโครงการ(ท่านละ๕๐๐บาทขึ้นไป )
......................ท่าน จำนวน.....................................................บาท[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]ขอรับพระกริ่งพุทธภูมิกรรมการเป็นของขวัญจำนวน....................................องค์
(ตามจำนวนกรรมการ)[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]ร่วม บุญกุศลตามศรัทธา ...........................................บาท
รวมยอดร่วมบุญกุศล .............................................................บาท[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]ราย ชื่อผู้ร่วมบุญทั้งหมด จะได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชิ
นีนาถนำขึ้นทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว เพื่อนำพระกริ่งพระ
ราชทาน ให้ข้าราชการทหารตำรวจพลเรือนที่ปฏิบัติหน้าที่ ๔ จังหวัดภาคใต้
อันจักได้เป็นสิริมงคลสืบไป<o></o>[/FONT]
​

[FONT=&quot]ขออุทิศผลบุญกุศลสัมพันธ์นี้แด่สถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ผู้ร่วมบุญ
สัมพันธชน สรรพชีวิต[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ[/FONT][FONT=&quot]ตาเรยยัง
พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]เมื่อได้พุทธภูมิแล้วจักช่วยให้ผู้อื่น
ได้ด้วย

ที่มา
http://palungjit.org/threads/%E0%...89.215299/
[/FONT]

 

<null http:="" www.uppicweb.com="" i="" iy="" 200912081809565getattachment1.jpg="" rel="lightbox"></null>

 

<embed src="http://www.rusiedotton.thai.net/player-viral.swf" allowfullscreen="true" flashvars="level=0&repeat=always&autostart=true&dock=false&bandwidth=2788&file=FLV_video%2Fac01%2FEditing01_speak.flv&plugins=viral-2d" allowscriptaccess="never" allownetworking="internal" width="450" height="360">

 

กำหนดการออกเมรุพระราชทานเพลิงศพพระพุทธพจนวราภรณ์



งานพระราชทานเพลิงศพ พระเดชพระคุณพระพุทธพจนวราภรณ์ วัดเจดีย์หลวงฯ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชุมารี เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ พระเดชพระคุณพระพุทธพจนวราภรณ์ (หลวงปู่จันทร์ กุสลมหาเถร) ณ เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 17.00 น. บำเพ็ญกุศลออกเมรุวันที่ 5-17 มกราคม พ.ศ.2553

กำหนดการงานออกเมรุพระราชทานเพลิงศพ "พระเดชพระคุณพระพุทธพจนวราภรณ์ (หลวงปู่จันทร์ กุสสโล)" อดีตเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงฯ วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553 ณ เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ วัดเจดีย์หลวงฯ ต.พระสิงห์ อ.เมืองจ.เชียงใหม่

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553
07.00 น. ทำบุญตักบาตรถวายพระสงฆ์ 91 รูป
10.00 น.พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณร ประมาณ 300 รูป
19.00 น. พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ และพระสงฆ์ 4 รูป สวดพระอภิธรรม

วันที่ 6-14 มกราคม พ.ศ. 2553
07.00 น. ทำบุญตักบาตรถวายพระสงฆ์ 91 รูป
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณร ประมาณ 300 รูป
19.00 น. พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ และพระสงฆ์ 4 รูป สวดพระอภิธรรม (เปิดโอกาสให้กราบศพ และบำเพ็ญกุศลถวายหลวงปู่ตลอดทั้งวัน)

ศุกร์ที่ 15 มกราคม 2553
07.00 น. ทำบุญตักบาตรถวายพระสงฆ์ 91 รูป
10.00 น. พระสงฆ์ 91 รูป สวดธรรมนิยาม
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณรประมาณ 300 รูป
13.00 น. พิธีขอขมาสรีระสังขารหลวงปู่ และอาราธนาสรีระสังขารลงจากพระวิหารหลวง ตั้งขบวนอาราธนา อัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ เมรุปราสาทพญานกหัสดิลิงค์
19.00 น. พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ พระสงฆ์ 4 รูป สวดพระอภิธรรม

เสาร์ที่ 16 มกราคม 2553
07.00 น. ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 91 รูป
10.00 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดอนัตลักขณสูตร
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณร ประมาณ 300 รูป
19.00 น. พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ พระสงฆ์ 4 รูป สวดพระอภิธรรม

อาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2553
07.00 น. ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 91 รูป
10.00 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดอาทิตตปริยยายสูตร
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณร ประมาณ 300 รูป
16.30 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ (ในพระบรมราชานุเคราะห์)
17.00 น. พระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ พระสงฆ์ 4 รูป สวดคาถาธรรมบรรยาย
18.00 น. พระสงฆ์ 91 รูป สวดมาติกาบังสุกุล

จันทร์ที่ 18 มกราคม 2553
07.00 น. ทำบุญตักบาตรถวายพระสงฆ์ 91 รูป
10.00 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน (ในพระบรมราชานุเคราะห์)
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณรประมาณ 1,500 บาท
13.00 น. พระสงฆ์ 10 รูป รับบังสุกุล (ในพระบรมราชานุเคราะห์)
14.00 น. พระสงฆ์ 91 รูป ขึ้นพิจารณาผ้าไตรบังสุกุลบนเมรุ (ในพระบรมราชานุเคราะห์)
17.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชทานเพลิงศพ
19.00 น. ทำพิธีถวายเพลิง (เผาจริง) ตามโบราณล้านนาประเพณี อบรมจิตตภาวนา ปฏิบัติกรรมฐาน ฟังพระธรรมเทศนาจากครูบาอาจารย์สายกรรมฐานตลอดทั้งคืน อาทิ พระญาณวิศิษฐ์ วัดอโศการาม สมุทรปราการ พระครูวิบูลย์ธรรมกิจ (หลวงพ่อบัวเกตุ) วัดแม่ปาง จ.แม่ฮ่องสอน พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (หลวงปู่ท่อน) วัดศรีอภัยวัน จ.เลย

อังคารที่ 19 มกราคม 2553
07.00 น. พระสงฆ์ 3 รูป บังสุกุล รับพระราชทานภัตตาหาร 3 หาบ ในการเก็บอัฐิ
09.00 น. อัญเชิญอัฐิประดิษฐานบนพระวิหารหลวง
10.00 น. พระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ฉลองอัฐิ
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์สามเณรประมาณ 300 รูป เสร็จพิธี

จึงขอประทานกราบทูล ทูล กราบเรียน เรียน เจริญพร มาเพื่อทราบ

รูปปราสาทนกหัสดีลิงค์ประดิษฐานสรีระสังขารของหลวงปู่ครับ สวยงามมากครับ

<!--cached-Wed, 16 Dec 2009 16:07:36 +0000-->***************~~~~~*************
น สาธุ พลวา พาโล ยูถสฺส ปริหารโก
ผู้บริหารหมู่คณะ ถึงจะมีกำลังอำนาจ แต่เป็นคนพาลย่อมไม่ดี
ธีโร จ พลวา สาธุ ยูถสฺส ปริหารโก
ผู้บริหารหมู่ชน เป็นปราชญ์ และมีกำลังเข้มแข็ง จึงจะเป็นผลดี
(อมฤตพจนา หน้า ๑๕๓)

กำหนดการออกเมรุพระราชทานเพลิงศพพระพุทธพจนวราภรณ์ - ลานธรรมเสวนา

 

กำหนดการ พิธีบวงสรวงเปิดงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์
และงานกาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี 2553
และงานรัฐพิธีถวายสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2553
ณ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี


ภาคเช้า เวลา 07.00 น.
เวลา 07.00 น. - เจ้าหน้าที่ตั้งเครื่องบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระ นเรศวรมหาราชขึ้นไว้ เรียบร้อย ณ ด้านหน้าพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์
07.30 น. - ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน พร้อมกันบริเวณหน้าลานพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์
07.45 น. - ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ประชาชนในพิธีบวงสรวง
- จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และรับศีล
- ถวายภัตตาหาร จตุปัจจัยไทยธรรม
- พระสงฆ์อนุโมทนา
- จุดธูปเทียนถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์ดอนเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
- คล้องพวงมาลัยพระแสงของ้าว
- พราหมณ์อ่านโองการเชิญเทวดา
- ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวคำบวงสรวง และขอพระบรมราชานุญาตจัดงานเฉลิมฉลอง
- พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา
- ทหารยิงสลุด 21 นัด พร้อมจุดพลุ 21 ดอก
- เริ่มการแสดงตามประเพณีเสร็จแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวลาเครื่องบวงสรวง
- ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี มอบโล่เกียรติยศผู้สนับสนุนการจัดงาน

พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ (วางพานพุ่มดอกไม้สด)
เวลา 09.00 น. - ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน เตรียมเครื่องราชสักการะ (พานพุ่มดอกไม้สด) ไปพร้อมกัน ณ บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์
09.09 น. - ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี วางพานพุ่มดอกไม้สด
- ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ เหล่ากาชาดจังหวัด กลุ่มมวลชน และพ่อค้า ประชาชน วางพานพุ่มดอกไม้สด
- กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ วางพานพุ่มดอกไม้สด

การแต่งกาย : ข้าราชการพลเรือน ทหาร แต่งเครื่องแบบปกติขาว สวมหมวก หรือชุดสนาม เหล่ากาชาด อาสากาชาด องค์กรการกุศล มูลนิธิ แต่งเครื่องแบบต้นสังกัด พ่อค้าประชาชน แต่งชุดไทย หรือสากล




ภาคบ่าย เวลา 13.30 น.
เวลา 13.30 น. - ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และกลุ่มพลังงานมวลชน พร้อมกันด้านหน้า พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ หรือผู้แทนพระองค์
ถวายเครื่องราชสักการะเสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินหรือเดินทางกลับ (สำหรับเวลาและการเสด็จพระราชดำเนินเป็นไปตามที่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กำหนดภายหลัง)

การแต่งกาย : ข้าราชการพลเรือน ทหาร แต่งเครื่องแบบปกติขาว สวมหมวก หรือชุดสนาม เหล่ากาชาด อาสากาชาด องค์กรการกุศล มูลนิธิ แต่งเครื่องแบบต้นสังกัด พ่อค้าประชาชน แต่งชุดไทย หรือสากล

ภาคเย็น เวลา 17.00 น.
เวลา 17.00 น. - ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน พร้อมกันบริเวณหน้าพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์
- ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา ประธานในพิธีเปิดงานเดินทางมาถึงบริเวณพิธีพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์
- จุดธูปเทียนและถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
- ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวรายงาน
- ประธานในพิธี กล่าวเปิดงาน และกระทำพิธีเปิดงาน
- ประธานในพิธี เยี่ยมชมร้านธารากาชาดและร้านนิทรรศการผลิตภัณฑ์และสินค้าของส่วนราชการและภาคเอกชน

การแต่งกาย : ข้าราชการ แต่งกายชุดไทย หรือชุดสุภาพ ผู้เข้าร่วมพิธี แต่งกายชุดสุภาพ

การจัดงาน “ยกพลคนสุพรรณตามรอยพยุหยาตรากรีฑาทัพ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช”
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมืองสุพรรณบุรี เป็นเมืองหน้าด่านและเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญ ต้องผ่านศึกสงครามหลายต่อหลายครั้ง สภาพเมือง ตลอดจนประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ถูกทำลาย ปรักหักพัง จนกระทั่งถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เมืองสุพรรณได้ฟื้นตัว และตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำท่าจีน (ลำน้ำสุพรรณ) มาจนตราบทุกวันนี้ เมืองสุพรรณบุรี มีความสำคัญในด้านประวัติศาสตร์การกอบกู้เอกราชไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา ในฐานะเป็นเส้นทางการเดินทัพ และการสงครามเด่นชัดขึ้นอีกครั้ง เมื่อสมเด็จพระนเรศวรทรงประกาศให้กรุงศรีอยุธยาเป็นอิสระไม่ขึ้นแก่กรุงหงสาวดี ทำให้พระเจ้ากรุงหงสาวดีทรงพิโรธและส่งกองทัพเข้ามารบพุ่งกับกรุงศรีอยุธยาหลายครั้ง ซึ่งต้องใช้เส้นทางผ่านเมืองสุพรรณบุรีเกือบทั้งสิ้น ในแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราช การศึกระหว่างกรุงศรีอยุธยาและกรุงหงสาวดีที่สำคัญที่สุด คือ สงครามยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี ซึ่งเชื่อกันว่าสนามแห่งมหาสงคราม ครั้งยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นในเขตแดนของเมืองสุพรรณบุรี และยังปรากฏร่องรอยของซากเจดีย์ซึ่งเชื่อว่าเป็นเจดีย์ยุทธหัตถี ที่สมเด็จพระนเรศวรทรงโปรดให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะ หลังจากมหาสงครามครั้งนี้จบสิ้นลง เมืองสุพรรณบุรียังคงเป็นเส้นทางการเดินทัพและสนามรบอีกหลายครั้ง

กล่าวได้ว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นมหาบุรุษคนหนึ่งซึ่งใช้เวลาทั้งชีวิตไปกับการทำสงคราม พลิกฟื้นบ้านเมืองซึ่งแตกสลายให้กลับเป็นปึกแผ่น พระองค์ทรงเป็นวีรกษัตริย์ เป็นบรรพชนที่เราสามารถกราบไหว้ได้อย่างศรัทธา และจงสำนึกในคุณของเหล่าบรรพชนผู้กล้าทั้งหลายที่ยอมสละเลือดเนื้อเพื่อลูกหลานชนรุ่นหลัง ให้ได้มีผืนแผ่นดินไว้ยืนหยัดถึงความเป็นเอกราชจนถึงทุกวันนี้

จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีการจัดงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์และงานกาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ ๑๘ มกราคม ถึงวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ เป็นประจำทุกปี เป็นการเทิดพระเกียรติวีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์และงานกาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี ๒๕๕๓ นอกจากจะจัดการแสดงแสงเสียงประกอบยุทธหัตถีที่จัดเป็นประจำทุกปีแล้ว จังหวัดสุพรรณบุรี กำหนดจัดกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่เป็นพิเศษเพิ่มขึ้นอีก ๑ กิจกรรม ได้แก่ การจำลองเส้นทางการเดินทัพ การแต่งกายเสมือนจริงตามประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชนในจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดใกล้เคียงได้ศึกษาเรียนรู้ถึงเส้นทางการเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และตระหนักถึงความรักชาติ การรักษาชาติให้คงอยู่ โดยใช้ชื่อการจัดงานครั้งนี้ว่า “ยกพลคนสุพรรณตามรอยพยุหยาตรากรีฑาทัพสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ซึ่งกำหนดจัดในระหว่างวันที่ ๑๗ - ๑๘ มกราคม ๒๕๕๓ (รวม ๒ วัน ๑ คืน) โปรดติดตามชมความยิ่งใหญ่ของการจัดงานครั้งนี้... กำหนดการจัดงานยกพลคนสุพรรณตามรอยพยุหยาตรากรีฑาทัพสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์และงานกาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี ๒๕๕๓


๑๗ มกราคม ๒๕๕๓
เวลา ๐๘.๐๐ น. - พิธีบวงสรวง ณ พลับพลาตรีมุข วัดพระศรีสรรเพชญ์ จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลา ๑๐.๐๐ น. - พิธีตัดไม้ข่มนาม ณ เพนียดคล้องช้าง (ทุ่งลุมพลี) จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลา ๑๑.๐๐ น. - รวมพล ณ ทุ่งภูเขาทอง จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลา ๑๒.๐๐ น. - พักรับประทานอาหารกลางวัน
เวลา ๑๓.๐๐ น. - ยกพลไป ณ วัดท่าสุทธาวาส จ.อ่างทอง
เวลา ๑๕.๐๐ น. - ยกพลผ่าน อ.ศรีประจันต์ ไปตั้งค่าย ณ บ้านหนองสาหร่าย อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
เวลา ๑๗.๐๐ น. - พักแรมตั้งค่าย ณ บ้านหนองสาหร่าย อ.ดอนเจดีย์ ๑ คืน

๑๘ มกราคม ๒๕๕๓
เวลา ๑๔.๐๐ น. - รวมพล ณ โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา ๑ อ.ดอนเจดีย์
เวลา ๑๕.๐๐ น. - เริ่มยกพลเคลื่อนทัพร่วมพิธีเปิดงาน ณ บริเวณพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ (เดินเข้าทางประตูด้านหน้าพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์)
เวลา ๑๗.๐๐ น. - พิธีเปิดงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์และงานกาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี ๒๕๕๓ ณ บริเวณพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์


หมายเหตุ กำหนดการนี้ อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
กำหนดการแสดงยุทธหัตถีประกอบแสงและเสียง งานอนุสรณ์ดอนเจดีย์และงานกาชาดจังหวัดฯ ประจำปี 2553 วันที่ 18-1 กุมภาพันธ์ 2553 ณ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=532 border=0><TBODY><TR><TD noWrap width=55 rowSpan=2>

ลำดับที่ ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap colSpan=3>

รายการแสดงแสงและเสียงยุทธหัตถี ​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วัน เดือน ปี ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

จำนวนรอบ ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

เวลาแสดง ​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

1​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันอาทิตย์ที่ 17 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

รอบซ้อมใหญ่ 1 รอบ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

20.00-21.15 น.​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

2​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันจันทร์ที่ 18 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

รอบปกติ 1 รอบ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

20.00-21.15 น.​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

3​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันอังคารที่ 19 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

รอบปกติ 1 รอบ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

20.00-21.15 น.​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

4​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันพุธที่ 20 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

หยุดการแสดง ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

-​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

5​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันพฤหัสบดีที่ 21 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

หยุดการแสดง ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

-​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

6​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันศุกร์ที่ 22 ม.คี. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

รอบปกติ 1 รอบ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

20.00-21.15 น.​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

7​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันเสาร์ที่ 23 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

รอบปกติ 1 รอบ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

20.00-21.15 น.​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

8​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันอาทิตย์ที่ 24 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

รอบปกติ 1 รอบ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

20.00-21.15 น.​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

9​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันจันทร์ที่ 25 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

รอบปกติ 1 รอบ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

20.00-21.15 น.​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

10​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันอังคารที่ 26 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

หยุดการแสดง ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

-​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

11​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันพุธที่ 27 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

หยุดการแสดง ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

-​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

12​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันพฤหัสบดีที่ 28 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

หยุดการแสดง ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

-​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

13​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันศุกร์ที่ 29 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

รอบปกติ 1 รอบ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

20.00-21.15 น.​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

14​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันเสาร์ที่ 30 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

รอบปกติ 1 รอบ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

20.00-21.15 น.​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

15​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันอาทิตย์ที่ 31 ม.ค. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

รอบปกติ 1 รอบ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

20.00-21.15 น.​

</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom noWrap width=55>

16​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=170>

วันจันทร์ที่ 1 ก.พ. 53​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=150>

รอบปกติ 1 รอบ​

</TD><TD vAlign=bottom noWrap width=157>

19.00-20.15 น.​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
หน้าหลัก กรมประชาสัมพันธ์ © Copyright 2009. กรมประชาสัมพันธ์ designed by ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศการประชาสัมพันธ์<!-- google_ad_section_end -->

 

สภากาชาดไทย ขอเชิญชวนประชาชนร่วม บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ประเทศเฮติ ได้ที่........ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย

ชื่อบัญชี “สภากาชาดไทย เพื่อการรับบริจาค” (เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติ) หมายเลขบัญชี 045-2-88000-6

พร้อมส่งใบโอนเงินไปที่ คุณ ภารดี วนกุลหัวหน้าฝ่ายการเงิน สำนักงานการคลัง สภากาชาดไทย หมายเลข FAX 0-2250-0120

พร้อมระบุ ชื่อ–นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อให้ชัดเจนเพื่อขอรับใบเสร็จ

สภากาชาดไทยยินดีรับบริจาคเป็นเงินเท่านั้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายส่งสิ่งของสูงมาก เงินบริจาคดังกล่าวจะนำไปสนับสนุนปฎิบัติการบรรเทาทุกข์ของสหพันธ์สภากาชาด และสภาเสี้ยววงเดือน ซึ่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่ในประเทศเฮติขณะนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2256-4035 – 6 หรือ 0-256-4047 – 8

วันที่ประกาศ : 15 ม.ค 53 16:31

ที่มา http://www.redcross....?db=1&nsid=4885
ขอเชิญชวนร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติ - ลานธรรมเสวนา

 

<table width="100%"><tbody><tr valign="top"><td>

Subject​

</td><td>Fw: หาญาติ อาจารย์ใหญ่ (รบกวนช่วยเปิดอ่านนิดห นึ่งนะค่ะ )</td></tr></tbody></table>
<table> <tbody><tr valign="top"> <td>
</td><td>
</td></tr></tbody></table>



จากภาควิชากายวิภาคศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ด้วยภาควิชากายวิภาคศาสตร์จะจัดงานพระราชทานเพลิงศพประจำปีการศึกษา 2553
ในวันที่ 13-14 มีนาคม 53 นี้ ที่วัดมกุฏกษัตริยารามวรวิหาร แต่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังไม่สามารถติดต่อญาติอาจารย์ใหญ่บางส่วนได้
ถ้ามีผู้ใดรู้จักอาจารย์ใหญ่และญาติอาจารย์ใหญ่ ดังรายนามต่อไปนี้
รายชื่ออาจารย์ใหญ่ รายชื่อญาติ
1. น.ส.เขมาวดี ขันติตระกูล ญาติ คุณสกุล คำอ่อน
2. นางพิกุล ขำศิริ ญาติ คุณเดชา ขำศิริ
3. นายพิทยา พิทยาธนาคม ญาติ คุณบุญฐิตา พิทยาธนาคม และ คุณ วิไล
ขอความกรุณาติดต่อกลับมาได้ที่ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โทร 02-2564281 ต่อ 1405 และ 02-2564000 ต่อ 3247
เพื่อให้ญาติของอาจารย์ใหญ่ผู้มีอุปการะคุณแก่วงการแพทย์ได้ส่งท่านอาจารย์ใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย
ขอบคุณค่ะ แค่ส่งต่อก็ได้บุญแล้ว

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

ขอความอนุเคราะห์..ฝากเม้นท์ต่อด้วย !!!

ช่วย กระจายต่อ มหา วิทยาลัย ศิลปากร ต้อง การเลือดกรุ๊ปเอบี สำหรับ “ มิค” ภราดร ไชยวรณ์ เด็กคณะโบราณคณะเอกประวัติศาสตร์ศิลปะ ปี 4 ศิลปากร ป่วย ด้วยโรค SLE (โรคเดียวกับพุ่มพวง) อาการหนักมาก โรคที่เขาเป็นอยู่ทำให้รับ เลือดจากกรุ๊ปอื่นไ ม่ได้ ตอนนี้ต้องการเลือด 24 ถุง บริจาคได้ที่ รพ.รามา เบอร์ 0-2 54-7 08-10 ขอความกรุณาช่วยเหลือเขาด้วย ฝากเม้นต่อด้วย

 

http://www.pantip.com/cafe/jatujak/t.../J8792710.html

ด่วนนะ ช่วยหาบ้านให้แมวก่อนจะโดนไล่ออกจากที่อยู่

 

ขอโมทนาในบุญกุุศลที่เกิดขึ้นกับทุกท่านตั้งแต่ต้น

จนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงอนาคต จนกว่าจะตราบเท้าเข้าสู่พระนิพพาน

ขอโมทนาในบุญกุศลครับ

 

​

​

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.787078/[/MUSIC]​

http://palungjit.org/threads/%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99.217205/​

 

กำหนดการแสดงมุฑิตาจิตถวายสักการะ

แด่พระคุณเจ้าหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฑิโต​

เนื่องในวโนกาสเจริญอายุครบ ๘ รอบ ๙๖ ปี​

วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ – วันศุกร์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓​

ณ สวนทิพย์ จังหวัดนนทบุรี​

************​

วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กุมพาพันธ์ ๒๕๕๓
๑๙.๐๐ พิธีเจริญพุทธมนต์ ที่ศาลาดวงดอกไม้ เสร็จแล้วมีการแสดงพระ
ธรรมเทศนา

วันศุกร์ที่ ๑๙ กุมพาพันธ์ ๒๕๕๓
๐๗.๐๐ - พระสงฆ์ ๙๙ รูป ออกรับบิณฑบาตรบริเวณด้านหน้า
คอนโดทางกฏิพระ
-หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฑิโต ตักบาตรพระเถระ และออกรับบิณฑ
บาตร

๐๘.๓๐ ถวายสังฆทาน ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ พระสงฆ์อนุโมทนา
ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ประธานสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์

๑๐.๓๙ -ขอเมตตา หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณ.ฑิโต กล่าว สัมโมทนียคาถา
-ขอเมตตาจากพระคุณเจ้าหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฑิโต สรงน้ำ
หลวงปู่
-รับของที่ระลึก..เสร็จพิธี



[FONT=Lucida Handwriting, Cursive]
[FONT=Lucida Handwriting, Cursive]Onpatra


[/FONT][/FONT]

 

พระกริ่งพุทธภูมิ พุทธลักษณะท่านคล้ายกับองค์นี้ครับ

ขอเชิญสร้างพระกริ่งถวายในหลวง
สมเด็จพระราชินีพระราชทานชายแดนใต้ พระกริ่งโลหะทองเหลืองผสมชนวนห่วงทองเหลืองทองแดงพระเก่าต่างๆหลายร้อยองค์
5พันองค์+พระกรรมการ700องค์+300องค์ครับ

สร้างร่วมกับหลวงปู่บัณฑิต วัดพระธาตุศรีสามรักษ์ เชียงใหม่


ยอดผู้บริจาคโดยประมาณ ถ้าท่านผู้ใดพลาดไปไม่ได้ลงเข้ามาแจ้งเสริมได้นะครับ

ผมได้ออกปัจจัยล่วงหน้าไว้จำนวนหนึ่งครับ(เมื่อ วันรัฐธรรมนูญนำเงินไปมัดจำผู้รับ งานสร้างพระกริ่งเพิ่ม ตอนนี้รวมเป็น9พันบาทแล้วครับ ผู้สร้างใจบุญกุศลเลยรับสร้างในราคาพิเศษครับ<!-- google_ad_section_end -->) มีค่าใช้จ่ายจิปาถะเช่น ค่าขนส่งพระกริ่ง5พันองค์หนักประมาณ100-200กิโลกรัมกทม. เชียงใหม่ ชนวนโลหะเงินพระกรรมการ4พันบาท ถวายบำรุงสถานที่เช่นวัดหลวงปู่ครูบาอาจารย์มากบ้างน้อยบ้าง ฯลฯ



คุณฟ้าโอนเงินมาเพื่อร่วมบุญจำนวน 5,600 บาท
ผมได้ไปบอกบุญผู้คนที่ทีโอทีร่วมบริทำงานทีจาคมา1,251.75บาทครับ<!-- google_ad_section_end -->
รวบรวมซองบอกบุญรวมสายทีโอที และคุณพิษณุด้วย ตอนนี้ ได้ยอดรวมประมาณ เกือบ7พันบาทครับ
พี่ที่โอทีร่วมบุญมาด้วย900บาทครับ<!-- google_ad_section_end -->
คุณmanwalking ร่วมทำบุญสร่วมร้างพระกริ่งฯไม่ต่ำกว่า400บาทครับ<!-- google_ad_section_end -->
คุณkhomerayaขอทำบุญด้วย 201 บาท
หลวงปู่บัณฑิตร่วมบุญผมค่าเดินทางขนส่ง การจัดการ 1พันบาท
คุณเอก สำนักปฏิบัติธรรมเจโตวิมุติ และคณะร่วมบุญมา 2พันบาทครับ<!-- google_ad_section_end -->
คุณลัดดาวัลย์ และคณะกระดาษดับเบิ้ลเอร่วมบุญมา5พันบาทครับ
คุณอบและคุณแม่ร่วมบุญ 1พันบาท ขอรับพระของขวัญกรรมการ2องค์<!-- google_ad_section_end -->
คุณ visut_p ร่วมทำบุญสร้างพระกริ่งกับพี่มุ่งฯ 200 บาท
คุณโอม ร่วมทำบุญสร้างพระกริ่ง500 บาท
คุณต๊ะ nw21 ร่วมบุญเป็นกรรมการ500บาท
คุณkrongkamonsร่วมทำบุญ ๒๐๐ บาท


พระกริ่งพุทธภูมิ จำนวน 6,000 องค์ที่เฉพาะค่าจ้างสร้างพระท่านที่ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆองค์ละ25บาท ก็ไม่ต่ำกว่าประมาณ150,000บาทครับ

ยังขาดปัจจัยอีกมากครับ ขอให้การบุญกุศลนี้สำเร็จเรียบร้อยโดยดีงามครับ

http://palungjit.org/threads/ขอเชิญสร้างพระกริ่งถวายในหลวงพระราชทานชายแดนใต้.215299/page-8

 

<table width="100%" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>โพสต์ : วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2553 12:10:23</td> <td align="right">
</td> </tr> </tbody></table> <center>ประกาศสำคัญจากเว็บไซต์บ้านเรือนไทย ฉบับที่๑/๒๕๕๓</center>
<center>ณ วันอังคารที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๓</center>

เนื่องด้วยที่ผ่านมาทางเว็บไซต์บ้านเรือนไทยได้รับการติดต่อจากบุคคลกลุ่ม หนึ่ง ได้บอกเหตุผลต่างๆ นานาเพื่อที่ต้องการจะทำการสร้างสถานที่พำนักสงฆ์ชื่อ “ ศูนย์เผยแพร่ธรรมะพระกัมมัฏฐาน ” สถานที่สร้าง ต.สวนส้ม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เช่นบอกว่าเขาได้รับการอนุญาตและการสนับสนุนจากพ่อแม่ครูอาจารย์หลายต่อหลาย ท่าน ซึ่งจะเป็นจริงตามที่กล่าวอ้างมาหรือไม่นั้นทางเราก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ เพราะนับตั้งแต่ทางเราให้การสนับสนุนและความร่วมมือต่างๆ ก็ไม่เคยเห็นหลักฐานอะไรเลยที่เกี่ยวข้องกับการสร้างศูนย์ฯ เช่น ที่ดินเนื้อที่ 6 ไร่ ที่จะทำการสร้างศูนย์ฯ ว่าเป็นชื่อของใครกันแน่ การสร้างวัตถุมงคลพระบูชารูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ไม่ชัดเจน มาบัดนี้ทางเราได้วิเคราะห์และพิจารณาโดยใช้เหตุผลเป็นอย่างดีแล้ว เห็นว่าการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวนั้น ไม่มีความเหมาะสมในเจตนา, ไม่มีความชัดเจนในการสร้างศูนย์ฯ, ไม่มีความโปร่งใสในการจัดสร้างวัตถุมงคล และไม่มีมาตราฐานในการบริหารจัดการที่ดีที่มากพอ พอที่ทางเราจะให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือต่อไปได้ ทางเราจึงเห็นสมควรยุติให้การสนับสนุน, ยุติให้ความร่วมมือและไม่ขอมีส่วนร่วมรับผิดชอบใดๆ กับการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว จึงขอประกาศให้ทุกท่านรับทราบโดยทั่วกันนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

การดำเนินการขั้นต่อไปของทางเราต่อกลุ่มบุคคลนี้ก็คือ ทางเราจะขอทำการประชาสัมพันธ์ให้กับทุกท่านและทุกสถานที่ๆ ทางเราได้ไปร่วมงานต่างๆ ให้ได้รับทราบถึงการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวว่าไม่มีความเหมาะสมเพียงใด

สำหรับท่านที่สั่งจองพระบูชายอดจองจำนวนประมาณ 200 ท่านจากเว็บไซต์บ้านเรือนไทย ขอให้ทุกท่านกรุณาส่งหลักฐานการโอนปัจจัยของท่านมาที่อีเมล์ baanruenthai@gmail.com ทางเราจะรีบทำการโอนปัจจัยคืนไปให้ทุกท่านครบทุกบาทครบทุกสตางค์โดยเร็วครับ

ท้ายนี้ ทางเว็บไซต์บ้านเรือนไทย กราบขอภัยในความผิดพลาดทุกท่านกับเรื่องที่เกิดขึ้นมา ณ ที่นี้ ด้วยครับ

หากข้อความตอนหนึ่งตอนใดผิดพลาดกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครัย

 

<table width="100%" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>โพสต์ : วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2553 11:45:51</td> <td align="right">
</td> </tr> </tbody></table> วันนี้มีผมมีความเคลื่อนไหวมาบอกกล่าวกันครับ คือว่าเมื่อวันก่อนผู้ชายคนหนึ่งได้ใช้ให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ( ขอยังไม่เอ่ยนามทุกคน ) ซึ่งเป็นผู้ร่วมงานของเขาโทรมาหาผม บอกให้ผมโอนเงินของคนที่สั่งจองพระบูชาไปให้เขาทั้งหมด ผมก็เลยบอกให้ผู้หญิงคนนี้บอกชื่อและเบอร์บัญชีธนาคารส่งมาให้ทางมือถือ เขาก็ส่งมาให้ผมและผมก็เลยเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานต่อไปครับ คือว่าก่อนหน้านี้เขาบอกผมว่าหลวงพ่อสายทอง เตชธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม จ.ชัยภูมิ อนุญาตให้เขาสร้างศูนย์ฯ นี้ได้ โดยให้ใช้ชื่อหลวงพ่อสายทอง เตชธัมโม อ้างได้เลยและท่านก็ให้ผมเป็นคณะกรรมการของศูนย์เผยแพร่ธรรมะพระกัมมัฏฐาน นี้ด้วย ( เท็จจริงประการใดไม่ทราบเพราะผมเองก็ไม่เคยเห็นหลักฐานอะไรเลย ) แต่ผมก็ยังไม่ได้ตอบรับอะไรทั้งนั้นเพราะว่าผมยังไม่ทราบถึงจุดมุ่งหมายที่ แท้จริงว่าสร้างศูนย์ฯ ขึ้นมาเพื่ออะไรกันแน่ครับ

จริงๆ แล้ว เรื่องพระบูชารูปเหมือนองค์ยืน พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต จำนวน 499 องค์ ที่เขาเททองสร้างกันไปเมื่อไรซึ่งผมเองก้ยังไม่ทราบนั้น เขาคุยกับผมว่าเราจะแบ่งผลประโยชน์หรือค่าเหนื่อยกันองค์ละเท่าไรดี ( มากกว่า 1,000 บาท ต่อ 1 องค์ ต่อ 1 คน ) และผมบอกว่าผมไม่เห็นด้วยไม่เอาด้วย ผมบอกว่าใครทำบุญสั่งจองมาเท่าไรก็ให้ถวายหลวงพ่อสายทอง เตชธัมโม เพื่อสร้างศูนย์ฯ ไปให้หมด ซึ่งเขาก็รู้ดีว่าผมไม่ชอบเรื่องแบบนี้แต่เขาก็ยังมาถามผมเพื่อให้ร่วมด้วย ช่วยกันอีกครับ เรื่องทั้งหมดนี้ยังมีรายละเอียดและเรื่องอื่นๆ อีก ผมอาจจะเรียงร้อยถ้อยความแบบที่ผมตีแผ่เปิดเผยความไม่ชอบมาพากลของนางสุรี พันธุ์ บ้านลาดพร้าว ก็ได้ แต่วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ

 

เมื่อวานได้บอกบุญที่ทีโอทีได้ยอดร่วมบริจาค3,040บาท
ที่เเหลือ6,960บาทผมได้ปิดยอดประธานผ้าป่าสามัคคีสร้างพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล-วัดปากน้ำ-ภาษีเจริญ1กอง (1หมื่นบาท)
ขอเชิญร่วมอนุโมทนาบุญกุศลบารมีกันครับ

 

น้องหมา<!-- google_ad_section_end -->
http://palungjit.org/threads/%E0%B...ml#post2939148
<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start --> <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "pub-2576485761337625"; /* 250x250, created 31/01/09 */ google_ad_slot = "7252767143"; google_ad_width = 250; google_ad_height = 250; //--> </script> <script type="text/javascript" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/+sfgRmluamFuX1R5cGU9amF2YV9zY3JpcHQmRmluamFuX0xhbmc9dGV4dC9qYXZhc2NyaXB0+/+sfgRmluamFuX1R5cGU9amF2YV9zY3JpcHQmRmluamFuX0xhbmc9dGV4dC9qYXZhc2NyaXB0+/show_ads.js"> </script><script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/+sfgRmluamFuX1R5cGU9amF2YV9zY3JpcHQmRmluamFuX0xhbmc9SmF2YVNjcmlwdA==+/expansion_embed.js"></script><script src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/+sfgRmluamFuX1R5cGU9amF2YV9zY3JpcHQmRmluamFuX0xhbmc9SmF2YVNjcmlwdA==+/test_domain.js"></script><script>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</script>

​

อ้างอิง:
<table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ถาม : (เรื่องหมา)….
ตอบ : ถ้าอยู่ใกล้ๆ จะขอดูใต้คางเนาหน่อยว่าเขามีขนกี่เส้น จะ มีตุ่มอยู่ตุ่มหนึ่ง แล้วมีขนแข็งๆ ยาวๆ อยู่ใต้คางตรงนี้ ถ้าหากว่ามีขนเส้นหนึ่ง สองเส้น สามเส้น ส่วนใหญ่มาจากเทวดาหรือพรหมพวกนี้รู้ภาษาทุกตัวแหละ พูดอะไรเขาก็รู้ เส้นยาว ๆ แข็งๆ น่าไปเห็นปุ๊บก็เข้าใจแล้วล่ะ ถ้า ๔ เส้นขึ้นไปเริ่มดื้อ ถึงฟังรู้เรื่องแต่ว่ามันดื้อถ้าหากว่าขนเส้นเดียว หลวงพ่อบอกว่าเป็นราชาหมา ไปที่ไหนหมาตัวอื่นจะกลัว ในชีวิตเคยเจออยู่แค่ ๒ ตัว ยังไม่เจอตัวที่ ๓ ทั้ง ๒ ตัวอยู่ที่วัดท่าซุง ตัวแรกชื่อเจ้ามะดัน มันแสบขนาดเขาเลยเรียกไอ้มะดัน ขนมันสีแดงแปร๊ดเลย แต่มันแดงทั้งตัวนะ แดงแบบคุณทองแดงนี่ แหละ แต่มันแดงทั้งตัว คิดดูเป็นลูกหมานะอายุมันไม่ถึง ๒ เดือนเลย เวลากินอาหารนี่หมาใหญ่เข้ามา มันไล่กัดเขากระจายเลย แล้วหมาอื่นต้องหนีมันด้วยแต่ปรากฏว่าเก่งเกินไป เป็น Distemper หัดหมาตายเสียฉิบ แล้วลูกแม่นวล ไอ้ครอกนั้นไม่มากหรอก ๑๑ ตัว ตายเกลี้ยงหมด อีกตัวหนึ่งก็ ตี๋น้อย หมาของท่านตี๋ โดน รถชนอยู่ข้างถนน ท่านตี๋ก็เมตตามัน อุตส่าห์เอ้าน้ำมันชาตรีไปทาให้ ไปหยอดให้ หาข้าวให้มันกิน พอหายเจ็บมันก็ตามด้อยๆมอบกายถวายชีวิตเลย เขาก็เลยเรียกไอ้ตี๋น้อย อีกคราวนี้มันมอบกายถวายชีวิตอะไรเราก็ไม่ว่าหรอก มันรักเจ้านายขนาดออกไปบิณฑบาตด้วย แล้วพอเดินเข้าไปในหมู่บ้านแล้วมันเรอะ หมาแปลกหน้าไป ในหมู่บ้านมันก็แห่เข้าไปเป็นสิบ ๆ ปรากฏว่าไอ้ตี๋น้อยนอกจากมันไม่กลัว มันยังโดดใส่เขาซะอีก หมาอื่นกระจายหมดทั้งฝูงเลย เราเองพอเห็นเข้าหลาย ๆ ทีก็แปลกใจ ก็เลยไปขอดูใต้คางมันมีขนเส้นเดียวจริง ๆ อย่าลืมนะเส้นเดียว สองเส้น สามเส้น นี่เขามีที่มาจากพรหม จากเทวดานะ ถ้าหากว่าเจ้าของบารมีต่ำกว่า เขาจะไม่อยู่ด้วยเขาจะหนีไปอยู่กับคนอื่น ใครเลี้ยงหมาแล้วหนี้นี่พิจารณาตัวเองได้เลยเลวกว่าหมาจริง ๆ
<o></o>
ถาม : แล้วอย่างหมาลิ้นดำ ?
<o></o>
ตอบ : พวกลิ้นดำนี่ โบราณเขาเชื่อว่างูกัดไม่ตาย แต่จริง ๆ แล้วมันตายเหมือนกัน แต่ว่าอาจจะเป็นของดีประจำตัวเขาก็ได้ ให้สังเกตไว้อย่างหนึ่ง หมา แมวดำหากว่า ดำทั้งตัว ลิ้นดำ เล็บดำด้วย หายากมาก ถ้าแมวนี่ก็เป็นพันธุ์นิลรัตน์ นิลรัตน์นี่ก็คือแก้วสีดำ แมวขาวทั้งตัวน่ะ แล้วก็ประเภทว่าตาแดงอะไรพวกนั้น เขาเรียก ขาวแก้วมณี จะเป็นพันธุ์แก้วมณี นิลรัตน์กับแก้วมณี ถ้าหมาดำทั้งตัวประเภทลิ้นดำ เล็บดำด้วยนี่ยังไม่เคยเจอเลย แต่แมวที่เคยเจอมาแล้ว นาน ๆ เกิดทีหนึ่ง พวกที่มีอะไรผิดปกติจากเขา เป็นจุดเด่นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติโน่นแน่ะ อย่างคุณเอียงนั่นน่ะ นั่นตาเป็นแก้วทั้งสองข้างเลย คุณเอียงนั่นพันธุ์เก้าแต้ม พันธุ์เก้าแต้ม เคยนึกมั้ยว่ามันจะมีสีขนาดนั่นน่ะ ดำทั้งตัวไม่ว่าเล็บมันดำด้วย ลิ้นมันดำด้วย แหมถ้าไก่ดำจะไม่ว่าซักคำ ไก่ดำมันดำทั้งตัวจริง ๆ เนื้อดำกระดูกดำ
<o></o>
ถาม : (ไม่ชัด)
<o></o>
ตอบ : ก็บางทีมันเป็นปาน แต่ถึงดำขนาดทั้งลิ้นไม่มี ก็อย่างพระนเรศวรไง เขาเรียกเจ้าชายลิ้นดำ ของพม่าเขาเรียกอย่างนั้น เพราะว่าลิ้นท่านเป็นปาน แล้วไอ้แฝดจอมแสบของกระเหรี่ยงก๊อดอามี่นั่นน่ะ ลูเธอร์กับจอห์นนี่ นั่นก็ลิ้นดำ เขาถึงได้เชื่อว่าเป็นของที่พระเจ้าส่งมา ไป ๆมา ๆ เด็กพระเจ้าส่งมาอดข้าวมาก ๆ ยอมโดนจับดีกว่า ไม่มีจะกิน ทางฝั่งพม่ามันก็ต้อนไม่มีที่จะไป ฝั่งไทยก็ประเภทบล๊อกเอาไว้จนไม่มีที่จะปล้นหาของกินไม่ได้ ก็เลยต้องยอมแพ้ ตอนนี้น่าจะอยู่สหรัฐซะมั้ง ไทยเรามันก็ดีอยู่อย่างหนึ่ง จะปล้น จะฆ่าจะอะไรมาก็ตาม ถ้าหากว่าจับกันได้ก็ยังอุตส่าห์เห็นแก่มนุษยธรรมมั่ง ถ้าเป็นทหารพม่าป่านนี้มันเจี๋ยนไปละ…มีอะไรที่เป็นลัญลักษณ์พิเศษ มักจะเป็นพระโพธิสัตว์มาเกิด
<o></o>
ถาม : ทำไมต้องเป็นสีดำ ?
<o></o>
ตอบ : ก็พูดถึงว่าดำเลยไง ดำเลยมันมี อย่างช้างเผือก ๑๐ ตระกูลจะมีอุโบสถหัตถี สีกายเหมือนทองคำ ฉัตทันต์หัตถี สีกายเหมือนแผ่นเงิน ปัณฑรหัตถี สีขาวเหมือนสังข์ขัด ตามพหัตถี สีกายเหมือนทองแดง คังไคยหัตถี สีเหมือนน้ำไหล คงจะดำระยับเลย ปิงคลหัตถี เขาว่ามีกลิ่นกายหอมเหมือนแก่นไม้กฤษณา ไล่ไปเรื่อย ๆ ๆ จนกว่าจะครบ ๑๐ ตระกูล และแต่ละตระกูลนี่ ตั้งแต่อุโบสถหัตถี ไล่ลงมาๆ จะมีกำลังเหนือตระกูลอื่นเป็น ๑๐ เท่า ๑๐ เท่าตลอด ถ้ามาถึงประเภทช้างปกตินี่ อุโบสถหัตถีนี่จะมีกำลังเท่ากับช้างปกติ ๑๐๐ เท่า ก็ในชีวิตน่ะยังไม่เห็นช้างเผือกจริงๆ จังๆ นอกจากของพม่ากับลาว ของเรานี่ยังไม่เห็นจริงๆ ของพระนี่ก็นางพญาคำแก้วมิ่งเมืองลาวนั่นตามพระหัตถีนั่นตามพหัตถีสีทองแดงแจ่มจ้าเลย ขนทุกเส้นยังกะลวดทองแดงใหม่ ๆ เลย ตอนที่ สมเด็จพระเทพ ฯ เสด็จไปครั้งแรก เขาพาไปดู อายุคงประมาณซัก ๒-๓ ปี ยังไม่ถึง ๕ ปีงามจริงๆ แล้วมาตอนหลังเขาได้พระยาไชยมงคลมา อีกตัวหนึ่ง พระยาไชยมงคลนี่เป็นช้างเลี้ยงของชาวบ้านมานามถึง ๓๐ ปีแล้ว คราวนี้ของลาวเขาก็เหมือนของไทยสมัยก่อนก็คือว่า พอใช้งานจนถึงหน้าฝน ทำงานไม่ได้แล้วก็ปล่อยเข้าป่าไปหากินช้างที่ปล่อยเข้าป่าเขาจะมีโซ่พันคอไป ด้วย ถึงเวลาได้เดินไปหาตามเสียงใช่ไหม ปรากฏว่าเขาก็ทำอย่างงั้นมาทุกปี ถึงเวลาก็ไปตามคืนๆ ปรากฏว่าปี ๓๐ นี่ไปตามคืนมากลายเป็นช้างขาวจ๋องทั้งตัวเลย ตอนแรกเขาสงสัยอยู่อย่างเดียวว่า ช้างตัวนี้เฉลียวฉลาดมาก ควาญพูดอะไรไม่ต้องบังคับเลย เขาเข้าใจและทำตามได้ แล้วลักษณะท่าทางสง่ามาก เวลาเดิน เวลาอะไรจะอยู่คนเดียวเดี่ยวโดดจะไม่เข้าร่วมฝูงกับใคร แล้วเวลาผ่านช้างอื่น ช้างอื่นจะหลีกให้หมด เขาก็รู้อยู่แค่นั้น ปรากฏว่าพอตามกลับมากลายเป็นช้างขาวเผือกผ่องไปทั้งตัว เขาก็เลยเพิ่งจะรู้ว่า ที่แท้แม่ช้างเห็นตั้งแต่แรกว่าลูกตัวเองเป็นช้างเผือก ก็เลยกลัวว่าจะเป็นอันตราย เพราะว่ามนุษย์เห็นเดี่ยวเสร็จแน่ ก็คงไปหาพวกยางไม้พวกอะไรมาพ่นเสียจนดำปี๋ไปทั้งตัว อีกคราวนี้.....ก็คงมีอายุซัก ๓๐ ปีอะไรอย่างนั้น แล้วยางมันก็เสื่อมสภาพ เสื่อมสภาพไปโดนโคลนโดนเลน โดนอะไรมามั่ง ลอกหลุดหมด ขาวผ่องไปเลย ก็เลยขึ้นระวางเป็นช้างดีอยู่ทางเมืองลาว

<o></o>
จากหนังสือ กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๗ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ <o></o> </td> </tr> </tbody></table>


ที่บ้านผมไอ้ที่เลี้ยงในรั้วบ้าน (ไม่รวมพี่สาวที่เลี้ยงในบ้านเป็นประมาณ10กว่าตัว)
3ตัว มีขนใต้คาง1เส้น 2เส้น 3เส้นครบหมดเลยครับ

ก่อนหน้ามีหมาขาวปลอดทั้งตัวอยู่ตัว มีอานอยู่ที่หลัง ชื่อไอ้หอมใหญ่ (ตอนที่มีโฆษณาทีวีเครื่องสำอางค์ ว่าหอมใหญ่ๆๆ นั่นนะตั้งชื่อทีหลังนะครับ แหะๆ ตอนนั้นมันกำลังเปรียว ไม่รู้ตั้งชื่อตามหรือเปล่า) พอเผลอชอบวิ่งผลุบออกไปตอนเขาเปิดประตูรั้วออกไปตระเวณรอบหมู่บ้าน แล้วกลับมาเอง เวลาออกไปตามมันไม่รู้ว่าเรียกว่าเจ้าเล่ห่หรือฉลาด บางทีมันชอบทำท่าหยุดให้เราไปหามัน พอเราเข้าไปใกล้ๆจะไปอุ้มกลับบ้านมันยิ่งพาวิ่งออกไปไกลๆยิ่งไปอีก เหมือนจะพาไปแผ่อาณาเขตหมาของมัน หมาเป็นฝูงมันก็พาแหวกเข้าไปไม่กลัวเกรงเลยครับ สู้กับเขาได้ ที่บ้านผมได้มาตอนผมกำลังสร้างพระสมเด็จพุทธภูมิบารมี30ทัศน์พิมพ์กับมือเอง โดยน้องสาวผมได้มาจากวัดอ้อน้อย หลวงปู่พุทธอิสระ มันไม่มีเจ้าของ (เสียดายไม่ได้ดูเส้นขนใต้คาง เพราะไม่รูจักตำรานี้จากครูอาจารย์)
กับหมาดำปลอดอีกตัวชื่อไอ้ลับ (มันเป็นพี่น้องกับไอ้ลึกหมา4ตา4ขาสีดำขลิบทอง เดี๋ยวนี้พอโตมาขนมันเริ่มเหลือบสีทอง) มันเป็นหมาประหลาดเวลาออกจากบ้านผมจะชอบหันไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่โต๊ะหมู่บูชาพระ และืที่ตั้งในโต๊ะฯและหิ้งพระที่ตั้งอยู่ในอาคารต่างๆแล้ววนทักษิณาวัตรรอบ ตัวเองให้ทั่ว ไอ้นี่ มันจะชอบหมุนรอบตัวมันเวลามันเห็นผมจะเดินออกจากบ้าน แต่มันจะหมุนทิศตรงกันข้ามคืออุตตราวัตร และมันจะไม่ชอบให้ผมจับ พอผมเข้าไปใกล้มันจะคอยจ้องผมแล้วก็ถอยหนีไม่ยอมให้ลูบให้จับวิ่งหนีกันไป ทั่งบ้าน สงสารมันไม่ให้จับก็ตามใจ น้องผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาขอให้ผมรับเลี้ยงไว้ทั้งสองตัว โดยแอบนำมาปล่อย แล้วน้องสาวผมเขาสงสารรับเลี้ยงไว้ ไอ้ลับมันแสดงความรู้เรื่อง น่าจะขนาดรู้ความคิดคน ผมเดาเอาจากที่มันมีปฏิกิริยาจากความคิดผม และเวลามันเจอผม มันจะจ้องตาผมตลอดไม่ยอมวางสายตา

ส่วนไอ้ลึกมันจะตรงข้ามฟังรู้เรื่องชอบประจบ เวลาวิ่งมันวิ่งเหยาะๆยังกับม้าสวนสนามหลังตรงอกตรงดูสง่าแปลกมีขนใต้คาง ถ้าไม่3ก็หนึ่ง กลัวจำสับ กับ ไอ้ตาล หมาจรจัด ที่อยู่ก็เข้ามาอยู่ในบ้าน โดยหมาตัวอื่นเก่ง ไม่ทำอะไรให้อยู่เฉยๆ แปลก โดยมันมาแทนตอนที่ไอ้หอมใหญ่หาย ไอ้ตัวนี้มันจะมีอาการของโรคคล้ายทุกข์ที่ปรากฏกับผม ตอนเจริญอาณาปาณสติ และกายภาวนา และก็ดูโทรมตลอด เดินเอียงไปเอียงมา หายใจฟึดฟัดติดๆขัดๆ แก่ก็แก่ตาก็ดูจะมองไม่เห็น แต่ไม่ยอมแพ้ตัวอื่น เลย เดินเข้าหมู่นี้องอาจ (นานๆมันกัดกันทีหนึ่ง เลือดไหล ต้องช่วยกันแยกไปอยู่กันคนละที่ แล้วก็กลับมาดีกันใหม่ ผมเข้าใจว่ามันช่วยละลายเคราะห์กรรมให้เจ้าของบ้าน)

หมาสีปลอด2ตัวนี้มันหายไปเองตอนผมไปบวชเฉลิมพระเกียรติถวายในหลวง80พรรษา ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ 1พรรษา นานประมาณ3เดือน พอลาสิกขาบท(กลับมามวลสารที่ผมหมักเก็บไว้หายไปเป็นถัง (สงสัยพญานาคมาเอาไป แหะๆ) พี่สาวคนหนึ่งเขาย้ายเข้ามาใหม่ ไม่ค่อยชินกับเรื่องพวกพระเครื่อง เรื่องทำบุญให้ทานนี้ เขาก็บ่นว่าสกปรก แกบอกว่าแกไม่รู้เรื่องไม่ได้ิทิ้ง สงสัยแม่บ้านคนใช้เอาไปทิ้งลงไปถึงคลองบางพรมเอง (ตอนหลังพี่สาวผมแกเกิดอุบัติเหตุตอนช่วงปีชงชนคนตายแต่แกไม่เป็นไรมาก ต้องเสียเงินชดใช้เขา ผมก็เจริญพระพุทธมนตร์ แผ่เมตตา ให้เขายืมเงินบ้าง เอาใจช่วยพี่เขา) ดียังมีเหลืออยู่ถังใหญ่ อีกถังกว่า ใต้ถังเดี๋ยวก็งูดิน เดี๋ยวก็กิ้งกือ ฝูงมด หรือตัวอะไรบ้างจำไม่ได้มันมานอนอยู่ มานอนเฝ้าหรือเปล่ามั้ง แหะๆ ตาผมดันอาจจินตนาการ งูดินเป็นมังกรก็ได้ ฯลฯ เอามาสะสมมวลสารต่อไปครับ) แม่ผมก็ไม่สบาย หมา2ตัวก็หายไป

ผมก็เป็นห่วงมันทั้งคู่ สงสัยถึงวาระที่ต้องไป กลัวไอ้ลับโดนคนงาน มาก่อสร้างบ้านแถวนั้นจับไปกินหมาดำ (บางคนเชื่อประหลาด แย่จัง ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต)
ไอ้หอมใหญ่ มีไอ้ตาลมาแลกมั้ง มาเจอมันมาประจำตำแหน่งที่ไอ้หอมใหญ่มันชอบอยู่

มีอีกตัวชื่อ ป็อปปี้ ชื่อยังกับดอกไม้ทหารผ่านศึก พันธ์ผสม อัลเซเชี่ยนกับรอต ไวเลอร์หรือโดเบอร์แมน นี่แหละกระมังครับ เวลามันวิ่งห่อตัว ห่อไหล่ ก้มเก็บหัว วิ่งตรงๆ มีพลังยังกับทหารออกรบ ผมนึกถึงทหารกรีกในเรื่องสงครามกรุงทรอยของแบรดพิท เชื่องแต่อย่าเผลอโดนกัด เพราะธรรมชาติหมาเฝ้ายาม กับกำลังกรามมันแรงมาก เขาเอามาปล่อยที่วัดอ้อน้อยอิสระิ หลวงปู่พุทธอิสระ ตอนเอามาปล่อยขี้เรื้อนเต็มหน้า ท่าทางดูไม่ได้ ท่ายืนท่านั่งยังกับโดนฝึกมาแล้ว เอามาเลี้ยงก็ดูดีขึ้นบ้างครับ เชื่องมาก แต่อย่าเข้าไปผิดมุมผิดเหลี่ยม เพราะกำลังและสัญชาตญาณครับ ขนใต้คางมี2เส้นครับ



เรื่องราวพวกมันรายละเอียดก็ประมาณนี้ ผิดพลั้งไปขออภัยขมาครับ
http://palungjit.org/threads/%E0%....215299/page-8