พระอริยเจ้าแห่งดงหม้อทอง.."คุณยายชีโสดา โสสุด ผู้ถอดกายทิพย์เหาะเหนือภูทอก"

ขอเล่าประวัติที่น่าอัศจรรย์ของคุณแม่ชีโสดา โสสุด
(พระอริยเจ้าแห่งดงหม้อทอง)
ตอนอภินิหาร"ถอดกายทิพย์ เหาะเหนือภูทอก"
จากกระทู้คุณ drp48 (เว็บไซต์อุดร 108 (ห้องพระ)

**สำหรับตอนที่คุณยายชี"ถอดกายทิพย์เหาะเหนือภูทอก" นั้นท่านผู้ใคร่ในธรรมให้อ่านได้ในประวัติข้างล่างน่ะครับ

คุณยายชีโสดา โสสุด หนึ่งในพระอริยบุคคลผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบยึดถือข้อวัตรปฏิปทาการปฏิบัติธรรม อบรมจิตภาวนาตามสายหลวงปู่มั่น ในฝ่ายอุบาสิกา คุณแม่ชีเป็นศิษย์สายธรรมในองค์ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ (พระอรหันต์แห่งภูทอก) และคุณแม่ได้เคยเดินทางไปกราบฟังธรรมองค์หลวงปู่ขาว อนาลโย ที่วัดถ้ำกลองเพล นับว่าคุณแม่ท่านเป็นเนื้อนาบุญอันยอดที่พุทธศาสนิกชนควรกราบไหว้น้อมสักการะบูชา ดังที่ภายหลังท่านมรณภาพอัฐิท่านได้แปรสภาพเป็นพระธาตุ นั้นย่อมแสดงถึงภูมิจิตภูมิธรรมที่บริสุทธิ์ของคุณแม่ประจักษ์แก่สายตาพุทธศาสนิกชนที่ว่า"อุบาสิกา ถ้าทำจิตฝึกฝนให้ดีแล้วย่อมบรรลุถึงที่สุดได้" ในสายหลวงปู่มั่นนี้มีฝ่ายอุบาสิกาที่เด่นๆในภูมิจิตภูมิธรรมที่สูง มีหลายท่าน คือ
- คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ (มรณภาพแล้ว อัฐิแปรเป็นพระธาตุ ณ สำนักชีห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร)
-คุณแม่ชีกั้ง (อัฐิแปเป็นพระธาตุ )
-คุณแม่ชีพิมพา วงศาอุดม (วัดหินหมากเป้ง ขณะนี้ท่านชราภาพยังดำรงขันธ์อยู่)
-คุณแม่ชีโสดา โสสุด (มรณภาพแล้วอัฐิแปรเป็นพระธาตุ)

ชึ่งฉายา"โสสุด"นี้องค์ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ท่านเป็นผู้ตั้งฉายาให้คุณแม่ในอุบายทางธรรม
ถ้าท่านใดแวะไป อ.บ้านม่วง จ.สกลรคร ก็สามารถแวะเข้าไปกราบเจดีย์บรรจุอัฐิธาตคุณแม่ได้
ที่สำนักปฏิบัติธรรมทิพยสถานวิสุทธิมรรค บ้านดงหม้อทอง ชึ่งดงหม้อทองแห่งนี้เคยเป็นแหล่งพำนักพระป่าสายหลวงปู่มั่น เพราะดินแดนแห่งนี้คือ"ดงหม้อทอง"เหมาะแก่การเจริญจิตภาวนา ป่าไม้หนาร่มครึ้ม สัตว์ป่าเมือชุกชุม และมีหินรถไฟเป็นตู้
หลายก้อนชึ่งเหมาะแก่การทำความเพียร ดังนั้นเมื่อหลวงปู่ขาว ท่านพระอาจารย์จวน วิเวกผ่านแถวดงหม้อทองแห่งนี้ ท่านจึงหยุดพำนักเพื่อเจริญสมณธรรม ณ ดินแดนแห่งนี้..........

**ครูบาอาจารย์พระอริยเจ้าที่คุณแม่เคยได้ศึกษารับอุบายธรรมข้อวัตรปฏิบัติ / และรู้จักมักคุ้นในธรรมปฏิบัติ
มีดังต่อไปนี้






องค์หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู





ท่านพระอาจารย์จวน ท่านมากราบนมัสการ หลวงปู่ขาว ณ วัดถ้ำกลองเพล
เพราะก่อนหลวงปู่มั่น ท่านจะมรณภาพได้ฝากให้ท่านพระอาจารย์จวน ไปศึกษาอบรมธรรมกับหลวงปู่ขาว
เพระหลวงปู่มั่นพิจาณาแล้วว่าหลวงปู่ขาวถึงที่สุดแล้ว.....เป็นที่พึ่งแก่หมู่คณะได้






องค์ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
วัดภูทอก อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย





องค์ท่านหลวงปู่อุ่นหล้า ฐิตธัมโม (ยังดำรงขันธ์อยู่)
วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร


สถานปฏิบัติธรรมของคุณยาย






ขอบอกบุญในงานครบรอบมรณภาพปีที่ 1 ของคุณยายชีโสดา โสสุด
วันที่ 31 มกราคม 2553
เวลา 19.30 น. บวชชีพรามณ์ / ร่วมสวดมนต์เย็นฟังเทศน์ หลวงตาตุ๊ วัดดงพระบ้านเปือยสว่างแดนดิน
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553
เวลา 07.00 น. ตักบาตรพระสงฆ์และสามเณร 40 รูป
เวลา 08.00 น. บังสกุลอุทิศส่วนกุศลให้คุณยาย
เวลา 08.30 น. ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์และสามเณรและเรียนเชิญร่วมรับประทานอาหาร

ติดต่อสอบถาม/ตั้งโรงทานติดต่อ
พระอุดม จิรธัมโม หลวงพ่อดาว 0879557038
นายวรัตถ์ รุ่งเรือง 0828550384 (เษมครับ)
นายประชา เทษาวงค์ 0812629708 (แบ๊ลคครับ)


**** สำหรับท่านอุบาสิกา..ที่อ่านแล้วคงจะมีกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติอยู่บ้างในฝ่ายหญิง

 

หลังจากที่ประชุมเพลิงคุณแม่ปรากฏว่าอัฐิแปรสภาพเป็นพระธาตุดังภาพ

นำมาจากหนังสืออนุสรณ์มรณภาพ 100 วันของคุณยาย เป็นเนื้อหา

ประวัติเดียวที่มี อ่านวันละนิดละหน่อย ไม่มากหรอกครับ หาอ่านที่อื่นไม่ค่อยมีครับ

 

เรื่องคุณยาย ( แม่ชีโสดา ) ต่อจากท่าน drp48
ข้อความต่อไปนี้คัดลอกจากหนังสืออนุสรณ์ครบ 100 วันมรณภาพฯ เล่มเดียวกัน

พรรษาที่ 12-13 ( พ.ศ.2530-2552 )

พอเสร็จจากงานทำบุญครบรอบวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงปู่จวน กุลเชฎโฐ เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2530 แล้ว ลูกชายของคุณแม่จึงนิมนต์คุณแม่มาพำนักที่บ้านดงหม้อทอง อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร และได้มีการสร้างกุฏิถวายคุณแม่ เมื่อคุณแม่มาอย่ที่นี่ มีญาติโยมที่ตามมาเห็นที่พำนักของคุณแม่แล้วจึงคิดสร้างสำนักขึ้นที่นี่ เพราะเป็นที่ดินของลูกชายคุณแม่ด้วยจึงก่อตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมทิพยสถานวิสุทธิมรรค บ้านดงหม้อทองใต้ ต.ดงหม้อทองใต้ อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร จนถึงปัจจุบัน
ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณแม่ไม่มีแม่ชีที่อุปัฎฐาก มีแต่ญาติโยมคอยดูแลท่าน ปลายปี พ.ศ. 2541 แม่ชีคำไป่ ไตรธิเลน ได้มาบวชเป็นแม่ชีและอุปัฎฐากคุณแม่มาโดยตลอด ต่อมา ปี พ.ศ. 2546 คุณแม่ชีวิไลวรรณ บำรุสวัสดิ์ มาบวชเป็นแม่ชีอย่สำนักปฏิบัติธรรมของคุณแม่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ปี พ.ศ. 2544 คุณสมศักดิ์ คงสิทธิเศรษฐ์ ซึ่งเป็นโยมอุปัฎฐาก ได้มาก่อสร้างเจดีย์ถวายคุณแม่ชีโสดา โสสุด การก่อสร้างเจดีย์สำเร็จลงเมื่อ พ.ศ.2545 เหตุที่คุณสมศักดิ์มีศรัทธาสร้างเจดีย์ถวายคุณแม่นั้น เป็นเพราะคุณเล็ก ภรรยาของคุณสมศักดิ์ ( ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว ) ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่เต้านม รับการรักษาโดยการผ่าตัด ต่อมาสามปีมะเร็งลุกลามไปที่ศีรษะ คุณสมศักดิ์และภรรยามีความทุกข์มาก วันหนึ่งได้ไปกราบเยี่ยมพระอาจารย์ตุ๊ ซึ่งเป็นญาติคุณเล็กที่ภูทอก ท่านพระอาจารย์ตุ๊ได้แนะนำให้คุณเล็กไปหาคุณแม่ให้ช่วยเมตตาด้วย คุณแม่พิจารณาร้โดยธรรมว่าคุณเล็กหมดอายุไขแล้ว ท่านพระอาจารย์ตุ๊บอกว่าให้คุณแม่เมตตาช่วยเขาเพราะลูกยังเล็กพอจะมีทางช่วยเหลือได้หรือไม่ คุณแม่บอกว่าจะลองช่วยเหลือ และคุณแม่ก็ให้คุณเล็กตั้งสัจจะบวช 7 วัน พอวันที่ 7 คุณแม่ก็บอกคุณเล็กว่า มะเร็งที่ศีรษะ หมอบอกว่ามีสามจุด บัดนี้เหลือจุดเดียวเท่านั้น แต่ยังไม่หายนะ พอคุณเล็กกลับถึงกรุงเทพ และไปหาหมอตามนัด คุณหมอแปลกใจแต่ก่อนมีสามจุดแต่บดนี้เหลือเพียงจุดเดียว คุณเล็กมีหน้าตาสดใสขึ้นไม่เหมือนแต่ก่อน ซึ่งปวดหัวมากจนนอนไม่หลับ เป็นเพราะเมตตาธรรมของคุณแม่นั้นเองที่แผ่เมตตาช่วยเหลือ ทำให้คุณเล็กเชื่อในบุญกรรมและมีสุขภาพดีขึ้น หน้าที่การงานและการค้าขายก็ดีขึ้น คุณเล็กมีจิตศรัทธาทำบุญกับคุณแม่มาตลอด และมีจิตศรัทธาสร้างเจดีย์คงสิทธิเศรษฐ์ถวายคุณแม่ รวมทั้งกราบนิมนต์คุณแม่ไปจำพรรษาที่จังหวัดชลบุรี ต่อมาคุณแม่ได้พำนักอย่สถานปฏิบัติธรรมทิพยสถานวิสุทธิมรรค จังหวัดสกลนคร จนกระทั่งท่านมรณภาพรวมระยะเวลา 33 พรรษา
สุดท้ายหลังจากคุณแม่มรณภาพแล้ว คุณสมศักดิ์และคณะศิษย์ได้มีจิตศรัทธาสร้างรูปเหมือนหุ่นขี้ผึ้งคุณแม่ชี เพื่อนำมาประดิษฐานไว้ในเจดีย์คงสิทธิเศรษฐ์ ให้มีผู้มีจิตศรัทธาได้น้อมสัการบูชาต่อไป
คุณสมศักดิ์ เป็นผู้หนึ่งที่มีศรัทธาในคุณแม่ชี แต่ยังมีอีกหลายท่านที่ไม่สามารถกล่างถึงได้ทั้งหมด จึงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ประวัติการอาพาธ

 

แม่ชีโสดา เคนยา ซึ่งต่อไปขอใช้คำแทนแม่ชีว่า “คุณยาย” เกี่ยวกับตัวคุณยายนี้ รู้สึกว่า ไม่มีเรื่องของคุณยายนำเผยแพร่โดยเฉพาะที่เป็นหนังสือหรือนิตยสาร จะไม่เคยมีมาก่อน นอกจากบรรดาท่านที่เคยทราบปฏิปทาและจริยาวัตรตามแนวของพระธุดงคกรรมฐานของคุณยาย ปากต่อปากแล้วได้ไปกราบคุณยาย ขออนุญาตนำเสนอข้อมูลในส่วนของคุณยายเท่าที่ทราบและได้กราบคุณยายมา หากนำเสนอไม่ถูกใจก็เปิดผ่าน ๆ ไป และเรื่องจะค่อนข้างยาวไม่น้อย และขออภัยด้วย หากสนใจก็ลองติดตามดู ข้อมูลที่นำเรียนจะเน้นข้อมูลที่ชัดเจนและค่อนข้างแน่นอน
ในส่วนอัตชีวประวัติ พิมพ์แจกในงานประชุมเพลิงศพคุณยาย เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์2552 และแจกในงานทำบุญ 100 วัน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2552 ณ สำนักปฏิบัติธรรม
ทิพยสถานวิสุทธิมรรค ต.ดงหม้อทองใต้ อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร มีทั้งเล่มเล็กขนาด pocket book และเล่มใหญ่ขนาดสมุดปกอ่อน เนื้อความก็ตามที่ท่าน drp48 นำเสนอในกระทู้
คุณยายท่านเปี่ยมไปด้วยความเมตตาอย่างล้นเหลือ ไม่เคยปฏิเสธจากลูกศิษย์หรือญาติโยมที่ไปหาคุณยาย ยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดีกับทุกคน ปัจจุบันไม่มีคุณยายอีกต่อไปแล้ว จะเหลือแต่เพียงอนุสรณ์สถานคือ เจดีย์คงสิทธิเศรษฐ์ ที่ภายในเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสขนาดเท่าองค์จริงของคุณยายไว้ เพื่อน้อมบูชาพระคุณแด่คุณยาย เป็นที่ระลึกแก่ผู้ไปกราบไหว้
ย้อนหลังไปประมาณ 10 ปีก่อน ช่วงปี พ.ศ. 2540 คุณยายยังสุขภาพแข็งแรง สามารถรับเดินทางไปกับญาติโยมที่เคารพศรัทธาคุณยาย เดินทางไปแผ่เมตตา ภาวนา ให้กับญาติโยมที่มาขอความเมตตาจากคุณยาย ( ถ้าเป็นพระภิกษุก็เรียกว่า รับกิจมนต์ ) ไปโปรดลูกหลานที่มาขอให้คุณยายไปช่วยทำพิธีเสริมส่งกำลังใจ เช่น ( เอาเฉพาะที่รู้ที่เห็นกับตา ) ไปทำพิธีเพราะลูกศิษย์ ( คุณอา และพรรคพวกของคุณอา ) อยากขายตึกแถว 2 ห้องบริเวณหน้า บ.ข.ส.เก่า ใกล้กับบริษัท 407 ทัวร์ ติดประกาศขายมานานพอสมควรแต่ก็ขายไม่ได้ ก็ไปกราบเล่าเรื่องให้คุณยายฟัง เอารถไปรับคุณยายที่ดงหม้อทอง คุณยายมาก็เดินดูแล้วพนมมืออธิษฐานจิตให้ พร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งเป็นปกติของคุณยาย จากนั้นไม่ถึงเดือนก็มีคนมาติดต่อซื้อไป
( ส่วนนี้ rose เป็นเด็กมากในขณะนั้น เพียงแค่ได้ขึ้นรถไปกับคุณแม่และคุณอา รับและส่งคุณยาย คุณแม่และ rose ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อขาย คุณแม่พาไป ต่อมาไม่ถึงเดือน
ก็มีคนมาซื้อตึกและทำการโอนเรียบร้อย การซื้อขายเกิดจากคุณยายช่วยให้สำเร็จตามความต้องการ หรือเกิดจากพอดีมีคนต้องการซื้อ ส่วนนี้ก็สุดแท้แต่พิจารณา
หลายปีต่อมา คุณอา เป็นผู้จัดการธนาคารฯ และเป็นหุ้นส่วนเล็ก ๆ ได้เป็นนายหน้าขายที่ดินเปล่าจำนวนประมาณ 2 ไร่เศษ บริเวณวงแหวนรอบในแถวใกล้ ๆ แยกทางไปหนองสำโรง ได้ไปเล่าเรื่องให้คุณยายทราบ อยากจะขายที่ดิน แต่คุณยายสุขภาพไม่แข็งแรงพอที่จะ
เดินทางมาได้ คุณยายได้บอกว่าจะภาวนาช่วย และแนะนำให้ไปกราบหลวงปู่โสภา .........
ช่วยอีกแรงหนึ่ง จากนั้นคณะของคุณอา ก็ดำเนินการตามที่คุณยายบอก และต่อมาอีกจำไม่ได้ว่านานกี่วันหรือกี่เดือน ก็ขายได้ ราคา 12 ล้านบาท และทราบว่าต้นทุนเกือบ 10 ล้านบาท
คุณพ่อและคุณแม่ของ rose จะพาเราไปวัดต่าง ๆ บ่อยครั้ง คุณพ่อนี่จะเคยกราบและได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หลวงพ่อหลายวัด เช่นหลวงบู่บุญพินฯ เคยให้เข้าภายไปในห้องที่ท่านจำวัด ภายในห้องมีอัฐิธาตและผอบสวย ๆ หลายอัน ผ้ายันต์ผืนใหญ่ ๆ และพระบางหลวงปู่เทสก์ องค์รมดำ หรือไปกราบหลวงตาบุญหนาฯ ๆ เคยเรียกขึ้นไปชั้นบนกุฏิที่หลวงตาพำนักอยู่ และถ้าไปกราบหลวงพ่ออุ่นหล้า ( องค์นี้คุณพ่อเรียกท่านว่า หลวงพ่อ ) หลวงพ่อก็จะให้ไปกราบพระในกุฏิชั้นบนห้องที่หลวงพ่อจำวัด และเมื่อลงมาข้างล่างหลวงพ่อก็จะพาคุณพ่อไปสนทนากันที่ห้องด้านหลังของกุฏิที่หลวงพ่อพัก เป็นห้องที่มีประตูบานเลื่อนเป็นการส่วนตัวบ่อยครั้ง ถ้ามาเป็นคณะก็พบหลวงพ่อที่กุฏิท่าน ชั้นล่างด้านหน้า ซึ่งเป็นตรงที่ท่านนั่งโปรดญาติโยมทั่วไป และคุณพ่อก็ไม่เคยมาเข้าชม web ต่าง ๆ ( ขออภัย นอกเรื่องไปมากแล้ว )
ที่ได้ไปกราบคุณยายก็ไปกับคุณพ่อคุณแม่ เพราะสถานที่พำนักคุณยายอยู่ไกลมาก ออกจากอุดรธานี เข้าไป อ.บ้านดุง ตัดออก อ.บ้านม่วง แล้วเลี้ยวเข้าหน้าป้อมตำรวจ แล้วเข้าในหมู่
บ้าน เป็นทางลูกรัง จากอุดรธานีไปถึงคุณยาย ก็น่าจะประมาณ 100 ก.ม. ให้ไปเองตอนนี้ก็ไปไม่ถูกจ้ะ
เวลาที่ไปกราบคุณยายแต่ละครั้ง จะพบญาติโยมที่มากราบคุณยายหลายคนหลายคณะ และก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน สุดแท้แต่ใครจะมีจิตศรัทธานำอะไรไปถวาย บ้างก็เอาผลไม้ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำมัน เงินตรา ฯลฯ สุดแต่ศรัทธา เพื่อนำมาไว้ในโรงครัว เผื่อแม่ชีท่านอื่นด้วย แต่คุณยายจะไม่รับประทานประเภทเนื้อทุกชนิด ก็เห็นทุกคนมาเรียนเล่าเรื่องที่ตนต้องการให้คุณยายสงเคราะห์หรือช่วย เมื่อเล่าให้คุณยายทราบแล้วถามคุณยาย ๆ ก็จะเอาสมุดปิดหน้าเล็กน้อย แล้วตอบคำถามพร้อมกับข้อแนะนำให้นำไปปฏิบัติ คุณยายจะอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา เวลาถวายเงินให้กับคุณยาย ท่านก็รับและคืนเงินให้บางส่วน บอกว่าเอาไปต่อเงิน คนก็มาเรื่องขอให้คุณยายช่วยสารพัดเรื่อง ทั้งเรื่องงาน ขอให้ได้งานทำ ขอให้เลื่อนตำแหน่ง เรื่องส่วนตัวปัญหากลัดกลุ้มต่าง ๆ เล่าให้คุณยายฟัง ท่านก็ยิ้มตอบและภาวนาช่วยทุกคนทุกเรื่อง ส่วนจะสำเร็จแค่ไหน อันนี้ไม่ทราบได้ เพราะไปกราบแต่ละครั้งก็ไม่เคยขอ
อะไรให้คุณยายช่วย เพียงพบก็อิ่มเอิบเบิกบานใจ
ที่เห็นบ่อยคือมาบนกับคุณยาย ทางคุณยายเรียกว่า “ตั้งสัจจะ” คือขออะไรคุณยายก็เอาใจช่วย แล้วแต่ผู้บนว่า จะตั้งสัจจะอย่างไร เช่นถวายเงิน 100 บาท ถวายเทียนพรรษา ฯลฯ
เมื่อสิ่งที่มาบน สำเร็จก็มาแก้บนตามที่ตั้งสัจจะกับคุณยาย ไม่ทราบว่าพวกที่ตั้งสัจจะแล้วไม่มาแก้บน จะมีหรือไม่ ก็สุดแท้แต่ละบุคคลก็แล้วกัน

ภาควัตถุมงคล
นำเรียนยืนยันว่า วัตถุมงคลของคุณยาย มีรุ่นแรกและรุ่นเดียว และเป็นรุ่นที่คุณยาย ต้อง
บอกไปยัง “ตาแดง” ( ชื่อผู้ขออนุญาตคุณยายสร้างและได้รับอนุญาตแล้ว ไม่สร้างสักที ) ให้รีบเอา ล็อคเก็ต มาให้เร็ว ๆ คือ ในวันก่อนเข้าพรรษา ปี พ.ศ. 2551 ( เรื่องนี้สอบถามได้จากแม่ชีไป่ ที่ใกล้ชิดคุณยาย ) จากนั้นตาแดง คือคุณอาของ rose ชื่อเล่น แดง แต่คุณยายเรียก ตาแดง
ก็รีบทำและนำล็อคเก็ต มาถวายคุณยายก่อนเข้าพรรษา แล้วคุณยายก็คงอธิษฐานจิต ตลอดพรรษาปี 2551 ซึ่งคุณยายอาจจะทราบดีว่า เป็นพรรษาสุดท้ายของคุณยายแล้ว จำนวน 1,000 อัน ราคาสร้างอันละ 22 บาท เป็นเงิน 22,000 บาท มีขนาดค่อนข้างเล็กกว่าทั่ว ๆ ไปเป็นฉากสีฟ้า 200 องค์ ฉากสีเขียวประมาณ 800 องค์ ไม่ได้มีการปิดหรืออุดด้านหลังแต่อย่างใด หลังออกพรรษาก็ไปรับจากคุณยาย แล้วถวายคุณยายไปจำนวน 500 องค์ ที่เหลือก็นำกลับมาและอยู่กับคุณอาเพ็ญ ภรรยาของคุณอาแดง เก็บรักษาไว้ ตอนแรกก็มีคนรู้จักมาขอ ก็ให้ไป แต่ตอนหลังไม่ค่อยแจกเพราะบอกว่าแจกไปมากแล้ว เหลือน้อยใคร ๆ ก็มาขอ
ส่วนในวันวันทำบุญครบรอบ 100 วัน ก็มีภาพถ่ายแม่ชีขนาดเล็ก แจกจ่ายแก่ผู้มาร่วมงานเป็นที่ระลึก อันนี้ไม่มีการอธิษฐานจิตแต่อย่างใด แจกจ่ายเป็นที่ระลึก
ต่อมามีการจัดสร้างรูปหมือนคุณยายแบบเรซิ่นหรือ ขนาดหนักตักประมาณ 4 นิ้ว แบบบูชาสร้างโดยคุณศศิธร ซึ่งนับถือคุณยายมาก เป็นผู้สร้างภายหลังคุณยายละขันธ์แล้ว เมื่อเดือน กรกฏาคม 2552 นำไปให้พระภิกษุรูปหนึ่ง ที่รู้จักกันในนาม หลวงปู่เณรคำ วัดป่าสามัคคีธรรม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เป็นผู้ทำการปลุกเสก จำนวน 200 องค์ ราคาทุนเล่าให้ฟังว่า องค์ละ 500 บาท ให้เช่าบูชาองค์ละ 1,000 บาท รายได้ไม่หักค่าใช้จ่าย ถวายสถานปฏิบัติธรรมดงหม้อทองของคุณยายทั้งหมด และในขณะนี้ก็ไม่ทราบว่าจะเหลืออยู่ที่แม่ชีไป่ ซึ่งเป็นผู้เก็บรักษาไว้กี่องค์ ส่วนตัวคิดว่าคงเหลืออยู่แต่ไม่มาก
จากการเคยได้กราบได้สัมผัส คุณยายมีจิตใจโอบอ้อมอารี เมตตาเป็นอย่างมาก ไม่เคย
บ่นหรือทำหน้าเบื่อหน่ายกับผู้ใด ตัวเราเองเสียอีกบางครั้งก็ผิดที่ไปนึกรำคาญญาติโยมบางคน
เล่าเรื่องไม่ยอมหยุด ขอให้ทำนั่นทำนี่ ไม่คิดว่าคุณยายจะเหนื่อยจะเพลียบ้างหรืออย่างไร แต่ก็ไม่เคยไปพูดอะไรให้ใครเขา มีแต่นั่งนิ่งๆ ฟังด้วยความเบื่อแทนคุณยาย การเข้าพบก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรให้ยุ่งยาก ไปถึงก็ได้พบได้กราบ ไม่มีเลขา ไม่มีเส้นสาย เมตตาเท่ากันหมด
เคยถามหลวงปู่หลวงพ่อหลายองค์ ก็ยืนยันว่า “ แม่ชีเป็นผู้ปฏิบัติดีหลายจริง ๆ” แต่ก็ไม่รู้และไม่กล้าละลาบละล้วงว่าดีหลายนี่ดีขนาดไหน เอาว่าหลายองค์ยืนยันก็ควรแก่การกราบแล้ว
ส่วนที่บ้าน มีเสื้อขาวคุณยาย 1 ตัว คุณแม่เอาผ้าขาว 1 พับ ไปถวายแทนเสื้อเก่าที่คุณยายมอบให้ มีอัฐิคุณยาย 2 ผอบ ประมาณ 5 องค์ และรูปเหมือนเรซิ่นคุณยาย 5 องค์ ล็อคเก็ต 10 อัน
คุณพ่อเคยเรียนถามหลวงพ่ออุ่นหล้าฯ ว่าหลวงพ่ออุ่นหล้าฯ ได้นำอาหารและของใช้
ไปมอบให้คุณยายที่ดงหม้อทอง เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 ในช่วงบ่าย คุณยายก็ประนมมือรับ หลวงพ่ออุ่นหล้าฯบอกว่าไม่ต้องลำบากหรอก สักพักหลวงปู่อุ่นหล้าฯก็กลับวัด ในวันนั้นเวลาประมาณ 22.00 น. คุณยายก็ละสังขารโดยอาการสงบเหมือนคนนอนหลับ สิริอายุ
89 ปี 1 เดือน 21 วัน รวม 33 พรรษา
ในภายหลังคุณพ่อกราบเรียนถามหลวงพ่ออุ่นหน้า ว่า ทราบหรือครับว่าคุณยายจะละสังขาร หลวงปู่อุ่นหล้าฯ ตอบว่า พูดไปทั่ว อยากไปเยี่ยมยายชีเท่านั้น และไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน ก็ตอบเท่านั้นส่วนคุณพ่อก็ไม่ได้ถามต่อ

 

อนุโมทนาสาธุ ค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ ที่นำเรื่องของท่านมาให้อ่าน ชอบมากค่ะ