กระเทยไม่สามารถเข้าฌานได้จริงหรือครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย dawsonsc222, 13 ธันวาคม 2009.

  1. pataster

    pataster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +806
    ผมว่าเห็นด้วยกับทุกคนเลยครับ ทำความดีไม่จำกัดกาลครับ
    อยากทำอะไรทำเลยครับผมว่าธรรมะของพระพุทธเจ้า
    รอการพิสูจน์และพิสูจน์ได้ทุกยุคทุกสมัยชอบมีคนมาถามผมอยู่เรื่อยว่าทำได้จริงเหรอสมาธิเนี่ย ผมก็เอาคำครูอาจารย์มาตอบนะครับว่า
    ที่มาถามได้พยายามอย่างเต็มที่หรือยัง
    พุทธองค์ตรัสไว้ว่า เจริญสติปัฎฐาน ๔ อย่างเร็ว ๗ วัน อย่างกลาง ๗ เดือน อย่างช้า ๗ปี บรรลุธรรมแน่
    ถ้าเป็นชาวพุทธไม่เชื่อพระพุทธเจ้า ไม่เชื่อพระไตรปิฎก จะนับถือพุทธไปทำไม
    แล้วถ้าเชื่อก็ลองเลยสิครับ เอาเป็นอย่างช้า ๗ ปีไปเลยดูสิว่าพยายามอย่างอุกฤษฎ์ มันจะไม่ได้

    ถึงตอนนั้นค่อยเสียกำลังใจครับ
    เคยฟังหลวงพ่อฤาษีท่านเทศน์ บอกว่าพวกที่ชอบอ้างว่าบารมีอ่อนที่แท้อ่ะ อ้างขี้เกียจมากกว่า....ประมาณนี้นะครับ
    สุดท้ายเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับทำดีต่อไปครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2009
  2. kaoneaw

    kaoneaw สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    เพศเป็นเรื่องสมมติคิดไปเองว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ขออนุโมทนากับท่านผู้ปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธองค์ เชื่อในพุทธองค์ครับ
     
  3. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    แค่มีใจพอใจในเพศเดียวกัน ยังไม่ถือว่าเป็นกระเทยมั๊งครับ ดูตัวอย่างโสไรยเศรษฐี เดิมท่านเป็นผู้ชายมีภรรยาและมีบุตร 2 คน แต่ท่านก็มีจิตชอบผู้ชายหล่อๆ เห็นแล้วก็อยากได้เป็นภริยา(สมัยนี้แบบนี้เยอะ) บังเอิญว่าผู้ชายที่ท่านไปปิ๊งด้วย คือพระมหากัจจายนะ กรรมที่คิดล่วงเกินพระอรหันต์ผู้บริสุทธิ์เลยทำให้ท่านกลับกลายเป็นผู้หญิงในทันที จนอับอายต้องหนีไปต่างเมือง และได้แต่งสามีและมีบุตรด้วยกันอีก 2 คน ต่อมาท่านได้มีโอกาสขอขมาโทษต่อพระมหากัจจายนะ เมื่อท่านอดโทษให้ เพศหญิงก็กลับมาเป็นเพศชายอีกครั้ง โสไรยะเกิดความสลดสังเวชในวิบากกรรม จนตัดสินใจออกบวช และได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา
    เรื่องราวของท่านโด่งดังมาก เพื่อนภิกษุมักมาถาม ท่านว่ารักลูกตอนเป็นชายหรือหญิงมากกว่ากัน ท่านก็ตอบว่าตอนเป็นหญิงรักลูกมากกว่า แต่พอสำเร็จอรหันต์แล้ว ท่านก็ตอบว่าไม่รักบุตรคนไหนอีกเลย จนท่านถูกโจษว่าพยากณ์อรหัตผล พระพุทธองค์ต้องมาเฉลยว่าท่านเป็นพระอรหันต์จริง
    เท่าที่อ่านข้อมูลของคุณ ผมว่าระดับกับคุณยังไม่น่าเป็นกะเทย แค่แอบๆจิตเพราะเศษกรรมกาเมหลงเหลืออยู่ ใจจึงแกว่งปรุงแต่งไปตามกิเลสเก่าๆ ยังไงก็ตั้งใจปฏิบัติธรรมไปเถอะครับ ขนาดท่านโสไรยยะยังเป็นพระอรหันต์ได้เลย และพยายามคิดว่าเราเป็นพรหม ไม่มีเพศ ถือพรหมจรรย์
     
  4. graycie

    graycie สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +3
    jese199ta

    สำหรับตัวเราก็มีเพื่อนเป็นเกย์เยอะ เพื่อนเราชอบศึกษาเรื่องธรรมะมาก เราว่าเรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับจิตใจไม่ใช่เพศ เราคิดว่าเพศไหนๆ ก็ทำได้เหมือนกัน ถ้ามีความเพียรซะอย่าง การเกิดเป็นเกย์นั้นเป็นเรื่องของกรรมเก่า เราคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับการปฏิบัติ มันคนละเรื่องกัน ถ้าคุณคิดจะทำจริงซะอย่าง อย่าท้อ เพราะคุณจะต้องมั่นใจในพระรัตนตรัย เพราะการปฏิบัติธรรมทุกแบบต้องเอาพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว ขออย่าสนใจเรื่องอื่น ถ้าคุณท้อก็เหมือนคุณไม่แน่ใจในธรรมะของพระพุทธเจ้า
     
  5. graycie

    graycie สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +3
    พระพุทธเจ้าบอกว่าอย่าเชื่อเพราะผู้นั้นดูเป็นผู้รู้ เพราะดร.ไม่มีพระสัมมโพธิญาณ เหมือนพระพุทธเจ้า ที่มีญาณหยั่งรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ให้ท่านพิสูจน์ก่อนแล้วให้ผลมันออกมาก่อน แล้วท่านค่อยเชื่อว่าจริงหรือไม่จริง เพราะท่านยังไม่ได้ทำเลย แล้วจะให้เชื่อ ดร. ได้อย่างไร
     
  6. มนต์ชัยIM

    มนต์ชัยIM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +473
    ผมว่าธรรมะนั้นไม่ได้จำกัดเพศใดๆนะครับ บางคนยึดติดกับว่าเป็นชายจริงหญิงแท้
    เปรียบได้กับการใส่ชุดขาว แต่ให้ขาวขนาดไหนแต่ถ้าภายในแห่งจิตนั้นไม่ได้ขาวตามอย่างที่เสื้อผ้าีที่ใส่อยู่ เสื้อผ้านั้นก็เป็นเพียงสมมติบัญญัติเท่านั้น

    เปรียบเทียบได้กับบุคคลที่ปฏิบัติธรรม ภายนอกเป็นโ่น่นนี่ แต่ภายในเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาบรรลุธรรมไปแล้ว ท่านจะูรู้ได้อย่างไรว่าคนที่ท่านคุยอยู่นั้นเผลอๆอาจจะบรรลุยิ่งกว่าโสดาบันแล้วก็เป็นไ้ด้

    อย่าตัดสินคนที่ภายนอกเลยครับ ถ้าหากท่านยังวางไม่ได้ ท่านก็จะบรรลุไม่ได้

    คนทุกคนล้วนมีกรรมเป็นของๆตน คนบางคนต้องเกิดมาเป็นเช่นนี้มีเหตุและปัจจัยครับ

    ไม่ใช่ว่าไปจับสลากได้มาว่าเป็นก็ต้องเป็น...

    เอาเถิด... ผมขออนุโมทนาบุญกับความตั้งใจของคุณ dawsonsc222 ด้วยนะครับ

    ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง ขอให้ตั้งมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วท่านก็จะมีความสุขครับ...
     
  7. นายสาธิต

    นายสาธิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    409
    ค่าพลัง:
    +1,066
    เค้าทำไม่ได้หรอก เพราะเค้าไม่เคยทำ

    ถ้าเค้าทำ เค้าจะไม่เป็นอย่างที่เค้าเป็น นี้
     
  8. manussanun

    manussanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +202
    พอเริ่มจะปฎิบัติ มันก็มีอุปสรรคโผล่ขึ้นมา มากขึ้นเรื่อยๆ
    หนทางยากง่ายของแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน
    หนามากก็ยากหน่อย

    ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งรู้มาก บางทีรู้มากจนเกินไป โดยขาดการปฎิบัติ
    คงได้กลายเป็นมหาเถระผู้ทรงใบลานเปล่า
     
  9. จักรราศี

    จักรราศี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,086
    กระเทยไม่สามารถเข้าฌาณได้จริงหรือ?

    ไม่จริง เพราะ

    1.ก็เห็นพวกเขาได้ฌาณกันเยอะแยะ
    2. เกณฑ์ในการเข้าถึงฌาณคือการตัดนิวรณ์ 5 (ชั่วคราว) ช่วงไหนนิวรณ์ 5 ดับลง ช่วงนั้นคือฌาณ / ถ้าดับตลอด ก็คือมีฌาณตลอดเวลานั่นเอง(น้อยคนที่จะทำได้ แต่ไม่ใช่ไม่มี) นิวรณ์ 5 มีอะไรบ้าง ไปหาข้อมูลเอาเองนะ search google ก็ได้
    เพราะฉะนั้นไม่เกี่ยวกับเพศ 1 2 3 4 เอาเกณฑ์ นิวรณ์ 5 วัด ถ้าทำได้ก็คือได้ เพศไม่เกี่ยว
    3.หลายท่านเคยเป็นฤาษีมาในอดีตชาติ มีฌาณที่แก่กล้าเกินสามัญชนด้วยซ้ำ มีอุปนิสัยชอบด้านสันโดษไม่อยากมีคู่ เลยอธิษฐานให้เป็นแบบนี้ พอเกิดมามันจะะบีบบังคับให้เดินทางนี้เอง เพราะถ้าท่านเหล่านั้นเกิดเป็น ชายจริงหญิงแท้ เมื่อยังไม่หมดกิเลส ก็ยากที่จะเลี่ยงการมีคู่มีครอบครัวได้ จึงอธิษฐานทางหมดคู่ให้เป็นอย่างนี้ซะเลยนั่นเอง
    คนเหล่านี้เรียนรู้เร็วมาก ถ้าปฏิบัติธรรมจะอยู่ในระดับหัวกะทิของรุ่นเลยก็ว่าได้ ถ้าเป็นชั้นเรียนก็สอบได้เลขตัวเดียวนั่นเอง (แต่..ไม่ได้หมายถึงทุกคนนะ)
     
  10. คมคีรี

    คมคีรี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +13
    เห็นด้วยกับคุณ Nothing Eternal ครับ

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมไม่เคยสอนว่า เกย์ กระเทย เข้าถึงธรรมไม่ได้

    เหมือนที่พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า บุคคลใดเห็นธรรม บุคคลนั้นเห็นตถาคต

    ท่านหมายรวมถึงทุกคนครับ

    ถ้าหลวงพ่อยังอยู่ผมเชื่อว่า ท่านจะบอกกับคุณว่าให้ มั่นใจและ ตั้งใจรักษาอารมญ์สี่อย่างที่ท่านสอนเสมอครับ

    1 ให้รักษาศีลยิ่งชีพ
    2 เคารพพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง
    3 ไม่ลืมว่าเราจะต้องตาย เราตายได้ทุกเมื่อ
    4 เมื่อตายแล้วขอตั้งใจจุดเดียวคือพระนิพพาน

    ได้ไม่ได้อยู่ที่ความตั้งใจเอาจริงเอาจัง มิใช่ความชอบในทางเพศครับ เพราะสุดท้ายมันก็ไม่มีเหลือครับ

    สุดท้ายนี้ ขอฝากนิดนึงครับให้ฟังเสียงธรรมคำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง นะครับ ยึดท่านอย่างเดียวไม่ต้องคิดมากครับ ไม่มีใครรู้ว่าเราจะได้ไม่ได้ มันเหมือนกันทุกคนครับ หน้าไหน ประเทศไหน เพศอะไร เท่าเทียมกันหมดครับ
     
  11. apichen

    apichen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +162
    พวกพรหมก็ไม่มีเพศเหมือนกัน แต่เขาก็ยังบรรลุธรรมได้เลย อย่าไปคิดมาก ไม่ต้องหวังอะไรมาก เอาแค่ดับทุกข์ได้ก็พอแล้ว
     
  12. pataster

    pataster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +806
    ถ้ายังไม่เคยทำก็ทำซะ ตั้งกำลังใจให้ถูกทำไปเรื่อยๆอุปสรรคมีไว้ฝ่าฟันครับสู้ๆ
    มีคำถามอยากจะถามผู้รู้ครับ เพราะเคยอ่านว่าก่อนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
    ก็มีคนเข้าฌานได้กันทั่วไปสอนกันมาก่อนอีกเพียงแต่ยังหาทางหลุดพ้นไม่ได้เท่านั้น แล้วอย่างศาสนาอื่นๆเค้าก็มีการฝึกทำสมาธิในรูปแบบต่างๆ แล้วอย่างนี้จะกำหนดได้ยังไงว่าคนที่เป็นกะเทยไม่สามารถเข้าฌานในศาสนาพุทธได้ เพราะตามความคิดผม สมาธิเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลที่จะต้องฝึกครับ ก็ว่ากันไปสำหรับคนไม่อยากทำเจออุปสรรคนิดหน่อยก็ท้อ อย่างนี้เวลาคุณอ่านหนังสือ เวลาเรียนเรื่องยากๆก็คงโยนตำราทิ้งแล้วสิครับ แต่ถ้าไม่แสดงว่า ขณิกสมาธิก็พอได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไปต่อเลยครับ ถ้าทำนะครับไม่มีไม่ได้
     
  13. newearth

    newearth สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +17
    ความดีจะดูแลคนที่ทำดีครับ
     
  14. ดับเพลิงกิเลส

    ดับเพลิงกิเลส สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2009
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +10
    ทั้งนี้ทั้งนั้น กระผมคิดว่า ถ้าคุณตั้งใจทำกรรมฐานอย่างใดอย่างหนึ่งที่ตนเองถนัด แล้วควบด้วยวิปัสนากรรมฐาน ดูร่างกาย พิจารณาความตาย อยู่เรื่อยๆไป จนเกิดปัญญา ในระดับหนึ่งแล้ว เกิดธรรมภายในจิตใจที่มีสติ ตั้งมั่น พร้อมกับเห็นจริงได้ แล้ว คุณก็จะรู้ว่าจิตคุณยังยึดติดอยู่กับที่คุณเป็น เอาเป็นว่า คุณได้ปัญญาเมื่อไร คุณสำเร็จได้ ผมมั่นใจ อยากให้คุณพิจารณา จิตเป็นใหญ่ กว่าสิ่งทั้งปวง สิ่งทั้งหลายสำเร็จได้ด้วยจิต
     
  15. จักรราศี

    จักรราศี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,086
    ที่พูดๆกันมามันก็จริงอยู่

    รสนิยมทางเพศก็ไม่ต่างอะไรกับรสนิยมการกินอาหาร บางคนชอบเนื้อปลา, เนื้อหมู, เนื้อไก่, บางคนไม่กินเนื้อวัว, บางคนเหมากินมันทั้งหมด แต่ไม่ว่าจะกินอะไรก็อุจจาระออกมาเหมือนกันหมด

    คนก็เหมือนกัน เพศไหน พอตายแล้วก็เน่าเหมือนกันหมด สุดท้ายก็เหลือแต่ผงธุลี

    เพราะฉะนั้นอย่าได้เอามาเป็นข้อจำกัดตนเอง

    แต่..เรื่องนี้ เจ้าของกระทู้ถาม"เรื่องฌาณ"นะ ไม่ได้ถามเรื่องบรรลุธรรมหรืออริยะบุคคลเห็นหลายคนยังไม่เข้าใจคำถามลามตอบไปเรื่องนั้น ก็ถือว่าเป็นวิทยาทานและธรรมทานละกันนะครับ โมทนาด้วย
    ถามเรื่องฌาณก็ต้องตอบเรื่องฌาณ ไม่งั้นจะไม่ clear cut กลัวคนตั้งคำถามจะงง รู้สึกคนถามจะยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องฌาณเท่าไหร่ ให้กลับไปดูเกณฑ์นิวรณ์ 5 ใหม่ นะครับ

    ย้ำว่า "เรื่องฌาณ" กลับไปดูเกณฑ์ "นิวรณ์5"
    ส่วนเรื่อง "อริยบุคคลการบรรลุธรรม" กลับไปดู "อารมณ์พระโสดาบัน"(ตัดสังโยช3)

    หาอ่านเอาในหนังสือสายของหลวงพ่อพระราชพรหมยานมีเยอะแยะเลย

    ขอให้เจริญในธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2009
  16. casyrybacksed

    casyrybacksed Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +66
    กรรมในอดีต เป็นสิ่งที่แก้ไข ไม่ได้แล้วครับ (ถ้าในอนาคตมีไทม์แมชชีน แล้วมันจะย้อน

    เวลากลับไปแก้ไข ความผิดพลาด ได้มั้ยหนอ มันคงจะยุ่งกันน่าดูชม)

    ถ้ามันแก้ไม่ได้ เราก็ควร จะยอมรับมันครับ

    ถึงจะเป็นผู้ชาย หรือผู้หญิง หรือผู้ผิด วิปริตทางเพศ อย่างไร แต่สิ่งที่ทุกคนเหมือนกัน

    นั่นคือ ทุกคน เป็นมนุษย์ ครับ

    สามารถ สร้าง ประกอบกรรม ดี ชั่วได้ เหมือนกัน สามารถ ขึ้นสวรรค์ ลงนรก

    ได้เหมือนกัน แม้ว่า ผู้ผิดเพศ ทั้งหลาย จะไม่สามารถบรรลุธรรมได้ในชาตินี้

    (ขนาดผู้ชาย ทั้งแท่ง ยังไม่มีใครบรรลุธรรมได้เลยครับ ในปัจจุบันนี้)

    ฉะนั้น ไม่ใช่สิ่งน่าเสียใจ หรือปมด้อยเลยครับ คนเพศปกติเสียอีกครับ ถ้าเกิดมาแล้ว

    ในชีวิต ประกอบแต่บาปกรรม ทำชั่ว หาความดีแทบไม่ได้ เป็นโมฆะบุรุษ หรือโมฆะ

    สตรี อย่างนี้ ไม่น่าเสียใจกว่าหรือ

    ฉะนั้น จงภูมิใจเถิดครับ ที่เกิดมาแล้ว ยังอยู่ภายใต้พุทธศาสนา แล้วรู้จัก ทำความดี

    ละเว้นชั่ว (จะบรรลุธรรม หรือ ไม่บรรลุ มันเป็นสิ่งที่ยังไกลตัวครับ อย่างเพิ่งไปคิดถึง)

    เอาแค่ประคองตัวเอง ให้พ้นจากอบายก่อน แค่นี้ ก็ประเสริฐเลิศล้ำ แล้วครับ

    สำหรับยุคนี้ ถ้าหาก จับพลัดจับผลู ไปเกิด ในสูญกัปป์ ที่ไม่เจอพุทธศาสนา แล้วจะหนาว
     
  17. สังขรนาค

    สังขรนาค สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +7
    เห็นด้วยกับความเห็นข้างบนครับ แต่ไม่เห็นด้วยบางอย่างคือ การบรรลุธรรม ไม่ได้ไกลตัวครับ อยู่ต่อหน้าต่อตาเรานี้เอง อีกอย่างการเข้าใจธรรมมะอย่าไปหวังให้ชาติหน้าครับ เพราะว่า แม้ชาตินี้ที่เรามาพบพระศาสนายังเข้าใจธรรมะไม่ได้ชาติหน้ามันไม่แน่นอน แต่ทำชาตินี้ให้ดีที่สุด และวิธีที่ทำให้ถูก ท่านก็จะเข้าถึงธรรมเองครับผม เมื่อจิตไม่ข้อง ก็รู้ ก็เป็นครับ
     
  18. สังขรนาค

    สังขรนาค สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +7

    เห็นด้วยมากๆๆๆๆๆ ถึงมากที่สุด เครียร์แล้วครับกระทู้นี้ 555
     
  19. ทดแทน

    ทดแทน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    580
    ค่าพลัง:
    +116
    ทำไปเลยครับไม่ต้องไปกลัวว่าจะไม่ได้ญานครับ ถ้าคุนทำไปเรื่อยสักวันต้องได้ตามที่คุนหวังครับ ร่วมอนุโมทนาบุญที่คุนได้ทำดีแล้วครับ
     
  20. M_Janya

    M_Janya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +24
    ผมขอเสนอความเห็นของคนที่กำลังพยายามศึกษาพระธรรม...

    ท่าน จขกท. ได้แสดงความตั้งใจว่า
    "...ตั้งใจแล้วว่าจะทำบุญ รักษาศีลห้า และฝึกปฏิบัติธรรมไปตลอดชีวิต ไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องทางโลกอีก..."
    ประเด็นที่น่าสนใจคือ การเป็นเกย์ นอกจาก "อาจ" เป็นการผิดศีลข้อ กาเมสุมิจฉาจารา... แล้ว แต่ที่แน่ๆ ผมเห็นว่า การเป็นเกย์เป็นการโกหกเพศตนเอง เป็นการผิดศีลข้อ มุสาวาทา... อย่างแน่นอน
    เมื่อท่าน จขกท. ตั้งใจจะรักษาศีลห้า นั่นก็คือ ต้องตั้งใจว่าจะไม่เป็นเกย์ด้วย จึงจะรักษาศีลห้าได้
    ซึ่งจะสรุปได้ว่า ตั้งแต่ตั้งสัจจะว่าจะรักษาศีลห้า รวมกับที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องทางโลกอีก คุณก็จะต้องไม่ทำตัวเป็นเกย์อีกต่อไป ความเป็นเกย์ของคุณก็คงหมดไป ไม่จำเป็นที่คุณต้องกังวลอีก

    การตั้งใจปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ความอยากจะให้ได้ฌาน อยากจะเป็นอะไร ไม่อยากจะเป็นอะไร มันเป็นตัณหานะครับ

    ถ้าความเห็นของผมล่วงเกินหรือกระทบกระเทือนท่าน จขกท.ด้วยประการใดๆ ผมก็ขออโหสิครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...