ความฝันกับการปฏิบัติธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Tboon, 13 ธันวาคม 2009.

  1. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ความฝัน คือ การเผลอคิด...

    เมื่อเผลอคิดแล้ว จิตของเราเข้าไปร่วมยึดมั่นถือมั่นด้วยหรือไม่ เราต้องสังเกตตรงนั้น...

    ถ้าจิตเกิดความยึดมั่นถือมั่นร่วมด้วย เราก็ต้องดับตรงนั้น นั่นคือ ดับกิเลสที่จิต

    ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศลก็ตาม ถ้าจิตจะเข้าร่วม จะมีอารมณ์ร่วม เราต้องดับเขาไว้ก่อน...


    (ดับให้ทันตั้งแต่ต้นตอให้ได้

    สติต้องฝึกเพื่อเอามาใช้ให้รู้เท่ารู้ทันตรงนี้

    กำลังจิตต้องสร้างเพื่อให้จิตมีพลังมากพอที่สลัดตัวเองออกมาจากความเพลินตรงนั้นได้

    ที่รู้แล้วดับได้หรือไม่ได้ มันอยู่ที่กำลังจิตตรงนี้ด้วยส่วนหนึ่ง และกำลังปัญญาหรือความเข้าใจด้วยอีกส่วนหนึ่ง)


    ...กลับมาอยู่กับฐานกายให้มาก

    ฐานกายคือ การรู้ลมหายใจ หรือรู้การเคลื่อนไหว รู้อิริยาบถน้อยใหญ่ สัมผัส แบบไม่วิพากษ์วิจารณ์ความรับรู้ตรงนั้น

    รู้ = sensing รับรู้แต่ไม่ปรุงแต่งต่อ

    เมื่อใดความปรุงแต่งต่อเกิดขึ้น เมื่อนั้น sensing จะหายไป นิวรณ์จะมาแทน


    พวกฤาษีที่ไม่รู้จักคำว่า " นิพพาน" จะไม่สนใจ process ที่นิวรณ์จะเข้าแทรกและทำให้สุขทุกข์เกิดขึ้น

    พระอริยเจ้าทั้งหลาย รู้จักและเข้าใจชัดใน process เหล่านั้นแล้ว ใช้การ sensing เป็นวิหารธรรม (เครื่องอยู่สุข) ทั้งยังไม่ติดยึดอีกด้วย

    ต่างกันนิดเดียว แต่ยากที่สุด ขึ้นอยู่กับวาสนาของผู้นั้น วาสนา = บารมี ๑๐

    ทุกข์ทั้งหลายมาจากการหลงความคิด หลงเพราะความไม่รู้ ไม่เข้าใจนั่นเอง (อวิชชา เป็นปัจจัยให้เกิด สังขาร ฯลฯ เป็นต้นไป)

    เราก็ฝึกเพื่อที่จะไม่หลงความคิดง่าย ๆ เป็นเบื้องต้นไปนี่แหละ ใช้ sensing เยอะ ๆ หลงความคิดเมื่อไหร่ ก็คือ ฝันเมื่อนั้น

    จะฝันแบบจงใจ ฝันตามกิเลส หรือฝันแบบไม่ตั้งใจ ฝันกลางวัน กลางคืน ก็คือฝันทั้งนั้น

    ใช้ฝันเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์ได้นะ ถ้ารู้จักสังเกต รู้จักใช้ รู้จักวาง ใช้เป็นวางเป็น ก็ดีเหมือนกัน


    ปีใหม่นี้ขอให้โชคดีมีแฮงกันทุกคนครับ
     
  2. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6,719
    ค่าพลัง:
    +39,008
    เราห้ามไม่ให้คิดได้เหรอ ....ในขณะที่มีสติตื่นอยู่ยังห้ามไม่ได้...
    แล้วขณะที่นอนหลับมิยิ่งกว่าเหรอ....
    ใครเป็นคนนอน...ใครหลับ...ใครคิด...ใครเป็นคนตื่น ...
    ลองถามตัวเองดูซิ...
    แต่ก็ยอมรับนะว่า ขณะที่นั่งสมาธิถ้าเข้าฌานน่ะ ไม่คิดแน่นอน...
    ตอนที่อ่านนี้ก็ต้องคิดทุกคนใช่ไหมล่ะ...
    ของมันมีอยู่แล้ว...เป็นของเขาแบบนั้น..เป็นธรรมชาติ...และเป็นธรรมะ
    ขออนุโมทนา
     
  3. tobetruly

    tobetruly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +427
    จิตห้ามมันไม่ได้ มันมีหน้าที่คิดของมันครับ

    แต่ตัวเรากับจิต จริงๆเป็นคนละส่วนกัน จิตไม่ใช่ของๆเรา

    แค่ให้มีสติรู้ตัวว่าจิตเรากำลังคิดอะไรอยู่แค่ก็พอ ไม่งั้น เผลอ ^^"
     
  4. godman

    godman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,254
    (f)(f)(f)(f)(f)
     
  5. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6,719
    ค่าพลัง:
    +39,008
     
  6. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    ในที่สุดก็จะเหลือแต่ตัวรู้ล้วน ๆ

    สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าดู สักแต่ว่าฟัง สักแต่ว่าทำ...ไปตามหน้าที่ ตามสมมุติ

    ตัวรู้ล้วน ๆ นั้นต่างกับ ตัวคิดล้วน ๆ นะ

    เรื่องตัวรู้กับตัวคิดนี้บางทีคนก็อาจเข้าใจผิดได้ง่ายเหมือนกัน...
     
  7. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6,719
    ค่าพลัง:
    +39,008
    เขามีหน้าที่ของเขาๆก็ต้องทำไปครับ ...เราอย่าไปยึดเขาไว้ก็แล้วกัน

    ต่างก็มีหน้าที่แต่อยู่ด้วยกัน เมื่อไหร่เลิกรู้ได้ก็พบความจริงครับ

    ของแบบนี้ต้องปฏิบัติไปถึงจะเห็นนะ ใครยังไม่รู้ไม่เห็นก็คงจะอธิบายให้เข้าใจได้ยาก
    ผู้รู้เขาไม่พูด..ที่พูดน่ะไม่รู้ ...เพราะว่ามันยังมีสมมุติอยู่...

    สาธุกับคุณทีบูนด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...