11111111111111* 11111111111111* แบ่งให้บูชาพระเครื่องหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พรแม่ศรี, 13 พฤษภาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    พระหางหมาก เบา ๆ
    บูชา 390 บาท ค่าส่ง 50 บาท (ปิดรายการนี้ให้คุณสร้างบารมี)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1070140.jpg
      P1070140.jpg
      ขนาดไฟล์:
      152.4 KB
      เปิดดู:
      40
    • P1070141.jpg
      P1070141.jpg
      ขนาดไฟล์:
      153 KB
      เปิดดู:
      42
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2009
  2. สร้างบารมี

    สร้างบารมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,657
    พระหางหมาก เบา ๆ
    บูชา 390 บาท ค่าส่ง 50 บาท
    จองครับ
     
  3. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    15,005
    ค่าพลัง:
    +10,040
    รายการนี้จองครับ (ทดลองจองแบบหวังผลครับ) โอ้ ยังไม่ทันอีกเหรอ
     
  4. สร้างบารมี

    สร้างบารมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,657
    ขอบคุณสิ่งศักดิ์สทธิ์...ที่ช่วยเหลือ
     
  5. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    รู้ทัน.. ทำไง บอกมั่งสิ อยากล่องหนมั่ง :boo:ก้าก...กั๊กกๆๆ
     
  6. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    15,005
    ค่าพลัง:
    +10,040
    ฝากไว้ก่อนครับ แล้วจะแก้มือใหม่อิ อิ อิ
     
  7. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    ขอบพระคุณทุก ๆ ท่านมาก ๆ นะครับ วันนี้หมดรายการแล้วครับ ราตรีสวัสดิ์ครับผม
     
  8. คนบรรพต

    คนบรรพต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    647
    ค่าพลัง:
    +4,456
    ฮือ ๆจองไม่ทันสักองค์เลยครับ ขอตัวนอนก่อนแล้วครับผม
     
  9. panchita

    panchita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    15,692
    ค่าพลัง:
    +49,188
    อกหักตลอด..กระทู้นี้..ไม่เคยได้จองอะไรเล้ยยย :d

    ไปนอนละค่ะ..ฝันดีนะค้า..ทุกๆคน...(k)(k)(k)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2009
  10. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    11111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111
     
  11. สิงหนวัติ

    สิงหนวัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +2,107

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ว่านี้ เกี่ยวกับความเร็วของอินเตอร์เน็ตหรือเปล่าครับ อิอิ :cool::cool::boo:
     
  12. the_club

    the_club เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    2,682
    ค่าพลัง:
    +15,283
    ตื่นเช้ามา ก็โดนนิมนต์ไปหมดซะแล้ว
     
  13. baimin

    baimin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,933
    ค่าพลัง:
    +14,580
    ขออนุญาติแทรก ธรรมะยามเช้า ครับ (พี่ทศพล)
    ขอขอบพระคุณทุกท่านที่อ่าน
    (ขออภัยหากเป็นการรบกวน)
    ขอบพระคุณครับ...baimin

    สัมมัตตะ ๑๐

    มรรค ๘ ที่เป็นปฏิปทาหรือทางปฏิบัติเพื่อการดับไปแห่งทุกข์ หรือก็คือ ทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดสัมมาวิมุตติหรือสุขจากการหลุดพ้นจากกองกิเลส เป็นอริยมรรคหรือมรรคในอริยสัจ ๔ อันประกอบด้วยองค์ ๘
    ส่วนสัมมัตตะ ๑๐ นั้นเป็นภาวะที่ถูกต้อง, เป็นความถูกต้องที่บังเกิดขึ้นแล้ว หรือความเป็นถูก หรือความถูกต้องยิ่งในการปฏิบัติ อันมีองค์ ๑๐ บางทีจึงเรียกกันว่ามรรคองค์ ๑๐ อันมีในพระอริยเจ้า ผู้ซึ่งปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างถูกต้องบริบูรณ์ จนถึงที่สุดแห่งทุกข์แล้ว กล่าวคือประกอบด้วยมรรคองค์ ๑๐ อันประกอบด้วยมรรคทั้ง ๘ ในอริยมรรค และเพิ่ม สัมมาญาณเป็นข้อหรือองค์ที่ ๙ และ สัมมาวิมุตติเป็นองค์ที่ ๑๐
    อนึ่ง ต้องการชี้เน้นให้เห็นความเป็นเหตุปัจจัยในการปฏิบัติ หรือแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้เกิดภาวะที่ถูกต้อง อันเป็นปฏิจจสมุปบันธรรมคือเกิดขึ้นจากการเป็นเหตุปัจจัยกันนั่นเอง ก็เพื่อให้เห็นว่าสมาธิที่เราปฏิบัติกันนั้น ต้องเป็นสัมมาสมาธิที่เป็นเครื่องหนุนการเจริญวิปัสสนา จึงจักเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดสัมมาญาณหรือสัมมาปัญญา จึงจะยังให้เกิดผลอันยิ่งตามมาคือสัมมาวิมุตติ หรือสุขจากการหลุดพ้นจากกองทุกข์ด้วย
    หรือสรุปกล่าวได้ว่า มรรคทั้ง ๘ ในอริยสัจ ก็ล้วนเป็นเหตุปัจจัยเครื่องสนับสนุนกันอยู่ในที ดังเช่น สัมมาทิฏฐิความเห็นชอบ,เห็นโดยชอบ คือมีความเห็นถูกต้องดีงาม ย่อมเป็นเหตุปัจจัยเครื่องสนับสนุนในสัมมาสังกัปปะคือความคิดชอบ,ความคิดความไตร่ตรองที่ถูกต้องที่ถูกทาง จึงเป็นเหตุปัจจัยกันเป็นลำดับไปในมรรคทั้ง ๘ และเมื่อประสานสอดคล้องกันอย่างถูกต้องทั้ง ๘ ก็คือเกิดอาการมรรคสมังคี ที่ยังให้เกิดสัมมาญาณเป็นลำดับขั้น เช่น ญาณอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากมรรคทั้ง ๘ ได้แก่ โสดาปัตติผล...อรหัตตผล จึงยังให้เกิดสัมมาวิมุตติเป็นลำดับขั้นของอริยบุคคลเช่นกันจนถึงที่สุดคืออรหัตตผล

    ดังมีพุทธพจน์ที่ตรัสไว้เกี่ยวกับมรรคองค์ ๘ และมรรคองค์ ๑๐ (สัมมัตตะ ๑๐) ไว้ดังนี้
    "ภิกษุทั้งหลาย บรรดาองค์มรรคเหล่านั้น
    สัมมาทิฎฐิเป็นตัวนํา, สัมมาทิฏฐิ เป็นตัวนําอย่างไร ?
    ด้วยสัมมาทิฎฐิ จึงรู้จักมิจฉาทิฎฐิ ว่าเป็นมิจฉาทิฎฐิ, รู้จักสัมมาทิฎฐิ ว่าเป็นสัมมาทิฎฐิ,
    รู้จักมิจฉาสังกัปปะ ว่าเป็นมิจฉาสังกัปปะ, รู้จักสัมมาสังกัปปะ ว่าเป็นสัมมาสังกัปปะ,
    รู้จักมิจฉาวาจา ว่าเป็นมิจฉาวาจา, รู้จักสัมมาวาจา ว่าเป็นสัมมาวาจา,
    รู้จัก..................ฯลฯ"
    (มหาจัตตารีสกสูตร ฉบับสยามรัฐ เล่ม ๑๔, ข้อ ๒๕๓)

    "ภิกษุทั้งหลาย สัมมาทิฎฐิเป็นหัวหน้าอย่างไร?
    เมื่อมีสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะจึงพอเหมาะได้
    เมื่อมีสัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจาจึงพอเหมาะได้,
    เมื่อมีสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะจึงพอเหมาะได้,
    เมื่อมีสัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะจึงพอเหมาะได้,
    เมื่อมีสัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะจึงพอเหมาะได้,
    เมื่อมีสัมมาวายามะ สัมมาสติจึงพอเหมาะได้,
    เมื่อมีสัมมาสติ สัมมาสมาธิจึงพอเหมาะได้,
    เมื่อมีสัมมาสมาธิ สัมมาญาณจึงพอเหมาะได้,
    เมื่อมีสัมมาญาณ สัมมาวิมุตติจึงพอเหมาะได
    โดยนัยดังนี้แล พระเสขะ ผู้ประกอบด้วยองค์ ๘
    จึงกลายเป็นพระอรหันต์ผู้ประกอบด้วยองค์ ๑๐"

    (มหาจัตตารีสกสูตร ฉบับสยามรัฐ เล่ม ๑๔, ข้อ ๒๗๙)

    [​IMG]

    มิจฉัตตะ ๑๐
    มิจฉัตตะ ความเป็นผิด, ภาวะที่ผิดมี ๑๐ อย่างเช่นกัน คือ
    ๑. มิจฉาทิฏฐ เห็นผิด, ความเห็นที่ผิดจากคลองธรรม เช่นเห็นว่าทำดีได้ชั่ว ทำชั่วได้ดี มารดาบิดาไม่มี เป็นต้น และความเห็นที่ไม่นำไปสู่ความพ้น
    ๒. มิจฉาสังกัปปะ ดำริผิด ได้แก่ ดำริแส่ไปในกาม ดำริพยาบาท ดำริเบียดเบียนเขา
    ๓. มิจฉาวาจา วาจาผิด, เจรจาผิด ได้แก่ ๑. มุสาวาท พูดปด ๒. ปิสุณาวาจา พูดส่อเสียด ๓. ผรุสวาจา พูดคำหยาบ ๔. สัมผัปปลาปะ พูดเพ้อเจ้อ
    ๔. มิจฉากัมมันตะ ทำการผิด ได้แก่กายทุจริต ๓ คือ ๑. ปาณาติบาต ฆ่าสัตว์ ๒. อทินนาทาน ลักทรัพย์ ๓. กาเมสุมิจฉาจาร ประพฤติผิดในกาม
    ๕. มิจฉาอาชีวะ เลี้ยงชีพผิด ได้แก่ หาเลี้ยงชีพในทางทุจริตผิดวินัยหรือผิดศีลธรรม เช่น หลอกลวงเขา เป็นต้น
    ๖. มิจฉาวายามะ พยายามผิด ได้แก่ พยายามทำบาป พยายามทำอกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เป็นต้น
    ๗. มิจฉาสติ ระลึกผิด ได้แก่ ระลึกถึงการอันจะยั่วให้เกิดราคะ โทสะ โมหะ
    ๘. มิจฉาสมาธิ ตั้งใจผิด ได้แก่ จดจ่อ ปักใจ แน่วในกามราคะ ในพยาบาท ในความสุขสงบสบายอย่างติดเพลินในฌานสมาธิ เป็นต้น
    ๙. มิจฉาญาณ รู้ผิด เข้าใจผิด เช่น ความรู้ในการคิดอุบายทำความชั่ว, รู้เข้าใจผิดๆอันยังให้เกิดโทษหรือกิเลส
    ๑๐. มิจฉาวิมุตติ ความสุขสงบ ความพ้นผิด เช่นการระงับกิเลสบาปธรรมได้ชั่วคราว เพราะกลัวอำนาจพระเจ้าผู้สร้างโลก การระงับกิเลสนั้นแม้ดี แต่ยังเป็นการระงับเพราะกลัวอำนาจพระเจ้าสร้างโลกนั้น จึงยังผิดทางอยู่ จึงไม่ทำให้พ้นทุกข์ได้จริงหรือถาวร
     
  14. สร้างบารมี

    สร้างบารมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,657
    เช้าวันนี้โอนเงินให้เรียบร้อยแล้วครับ

    รายละเอียดทาง PM ครับผม

    ขอบคุณครับ
     
  15. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    รับทราบครับผม ขอบพระคุณมากครับ
     
  16. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174
    สวัสดีจ้าพี่ๆ ทุกคน กลับไปอ่านกระทู้ย้อนหลังแล้วเสียดายมากมาย... มีแต่พระสวยๆ แต่เราดันไม่อยู้เนี่ยสิ
    เสียดาย....

    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> ณ แปดริ้ว, ouuu99, SOMPOCHT, สร้างบารมี, ศิษย์ต่างแดน, wara43</td></tr></tbody></table>
     
  17. พรแม่ศรี

    พรแม่ศรี ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    18,789
    ค่าพลัง:
    +55,474
    นรอท อดตามเคย กิ๊กกๆๆๆ ๆๆๆๆ
     
  18. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,769
    ค่าพลัง:
    +206,084
    ไม่อยู่ยังเสียดาย อยู่แต่ไม่ได้นี่สิน้องเอ๊ย....ไม่รู้จะโทษใครดี เฉือนกันเป็นวินาทีตั้งหลายคน แหม...เสียดายกว่าอีกนะ
     
  19. ณ แปดริ้ว

    ณ แปดริ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,701
    ค่าพลัง:
    +54,174
    ทั้งปีแหล่ะ ครับท่าน แห้วตลอด.... อยากขอตำแหน่ง

    Man of the แห้ว จังเลย...
     
  20. Pattana

    Pattana ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    12,769
    ค่าพลัง:
    +206,084
    [​IMG]

    แห้ว ชื่อสามัญ Water chesnut ชื่อวิทยาศาสตร์ Eleocharis tuberosa, Roxb.
    แห้วเป็นพืชปีเดียว ขึ้นในน้ำเหมือนข้าว ต้นเล็กเรียว คล้ายต้นหอม หรือใบกก หรือใบหญ้าทรงกระเทียม ใบน้อย หัวเป็นประเภท คอร์ม (corm) สีน้ำตาลไหม้ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-4 ซม. เนื้อสีขาว
    ปลูกมากในจังหวัด สุพรรณบุรี โดยเฉพาะ อ. เมือง และ อำเภอศรีประจันต์

    สรรพคุณทางยา :
    ในผลแห้วมีสารอาหารต่าง ๆ มากมาย เช่น แคลเซียม เหล็ก และวิตามิน ซี ตลอดจนสารที่ชื่อว่า “Puchin” ที่มีสรรพคุณในการช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้วผลของแห้วก็ยังมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย แก้อาการกระหายน้ำ อาหารไม่ย่อย ท้องผูก และแก้อาการเป็นพิษเนื่องมาจากการดื่มสุรา
    ตำรับยาแผนโบราณ :
    หากนำเอาเนื้อของผลแห้วสดมาถูในบริเวณที่เป็นหูดอย่างต่อเนื่องแล้วก็จะทำให้ก้อนหูดนิ่มลงได้ หรือหากรับประทานผลแห้วสดเป็นประจำแล้วก็จะช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวารได้ เช่นเดียวกับการดื่มน้ำแห้วสดที่สามารถจะรักษาอาการพิษของสารประกอบจำพวกทองแดงได้
    รากของแห้วกินเป็นยาช่วยย่อย , หัวใต้ดินมีแป้งเป็นส่วนประกอบอยู่มากใช้กินได้ เป็นยาเย็น บํารุงธาตุ
    ขับนํ้านม ฝาดสมานในทางเดินอาหาร และกระตุ้นการทํางานของร่างกาย ,ใบใช้ตําเป็นยาพอกเหงือก แก้ปวดฟัน นอกจากคนทั่วไปจะเรียกแห้วแต่แห้วยังมีชื่ออื่นอีกคือ มะนิ่ว ซึ่งเป็นภาษาทางภาคเหนือ แห้วมีหลายชนิดได้แก่ แห้วจีน แห้วไทย แห้วกระดานซึ่งตามหนังสือที่ได้สืบค้นมามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cyperus esculentusLinn.

    แห้วถ้าเป็นคำนามก็จะมีความหมายตามด้านบน แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เรามักนำเอามาใช้เป็นคำกริยา ซึ่งตีความได้ประมาณว่า "อด" หรือออกเสียงเป็นสำเนียงเจ๊กว่า "อกแหลก" หรือประมาณว่า "ชวด" (ที่ไม่ใช่ ชวด ฉลู นะวุ้ย)
    แห้วได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น สมหวัง ในสมัยรัฐมนตรีฯเกษตรที่ชื่อ ประพัตร (เขียนถูกหรือเปล่าหว่า) ดังนั้นต่อไปนี้ใครนำคำว่า "แห้ว" มาใช้เพื่อเป็นคำกริยา ขอให้ตีความว่าคนนั้น "สมหวัง" นะครับ กั๊กๆๆ(เสี่ยงหัวเราะแบบคนแก่น่ะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2009
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...