ถ้าเรากรวดนํ้าให้คนที่ตายไปเเล้ว เขาจะได้นํ้าจากเราไว้ดื่มเปล่าครับ ?

ขออนุญาต ตอบเท่าที่พอจะทราบนะคะ ถ้าผิดพลาดต้องขออภัย และรบกวนผู้รู้ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ ขอตอบเป็นเรื่อง ๆ นะคะ

เทวดาจะมีจิตเป็นทิพย์ค่ะ ถ้าต้องการอะไรก็เพียงแค่นึกก็ได้ตามที่ต้องการ แต่ทั้งที่ต้องขึ้นอยู่กับบุญบารมีที่มีด้วยนะคะ

การทำทานต่าง ๆ ผู้ที่เราอุทิศบุญกุศลไปให้เขาก็จะได้รับเป็นบุญกุศล แล้วเขาก็จะอธิษฐานจากบุญนั้นค่ะ ไม่ใช่ว่าเราตักบาตรด้วยข้าวผัด แล้วเขาจะได้ข้าวผัด เขาจะได้เป็นบุญค่ะ ถ้าเขาหิว เขาก็จะอิ่มด้วยบุญที่เราอุทิศให้ แต่ถ้าเขาไม่มีเสื้อผ้า เราต้องถวายผ้าค่ะ แล้วก็อุทิศให้เขา เขาก็จะมีเสื้อผ้าใส่ เป็นต้นค่ะ

ส่วนที่ว่าวิญญาณเขาไม่มีอาหารกิน เห็นอาหารคนอื่นจะเข้าไปกินก็กินไม่ได้ เพราะว่าตอนที่เขายังไม่ตายเขาไม่ได้ทำบุญไว้ และพอตายแล้วก็ยังไม่มีคนทำบุญให้เขาด้วย ก็เลยทำให้ต้องอดนะค่ะ น่าสงสารจัง

ส่วนการกรวดนํ้าไปนี่ จะเป็นวิธีของทางพราหมณ์ตั้งแต่สมัยโบราณ แล้วก็ใช้กันมาเรื่อย ๆ ที่ใช้น้ำนั้นเพื่อให้พระแม่ธรณีเป็นสักขีพยานในการอุทิศส่วนกุศลค่ะ เขาจะไม่ได้รับเป็นนํ้าจากเราไปดื่ม

ไม่ทราบว่าตอบได้พอเข้าใจหรือเปล่า อธิบายไม่ค่อยเก่งค่ะ ถ้างงก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ

 

การกรวดน้ำเป็นธรรมเนียมของพราหมณ์เวลาจะยกของให้ใครก็เทน้ำให้
พระเจ้าพิมพิสารถวายพระเวฬุวันให้เป็นวัดแห่งแรกในพระพทธศาสนาก็รินน้ำลงบนพระหัตถ์พระพุทธเจ้าเป็นการยกเวฬุวันถวาย
สมัยพระพุทธเจ้าบำเพ็ญเพียรเป็นพระโพธิสัตว์ก็รินน้ำยก ลูกให้ชูชก อย่างนี้เป็นต้น

การกรวดน้ำ น้ำที่เรากรวดก็เป็นแค่เครื่องมือ สำหรับการให้ ไม่ใช่น้ำที่ถวายพระ ดังนั้นน้ำที่กรวดไม่ได้มีส่วนในผลบุญนั้น เททิ้งไปเฉยๆ แต่ที่เทวดาหรือดวงจิตทั้งหลายจะได้รับก็ส่วนที่ถวายไป เช่นน้ำที่เราถวายให้พระไปแล้ว ในส่วนนั้นถึงจะได้รับ

แต่ว่า ท่านทั้งหลายอย่าไปติดกับการกรวดน้ำ หากเราไม่มีขวดน้ำ ไม่มีน้ำให้กรวด ก็ให้เจริญอาณาปานุสติ แล้วก็ตั้งใจอุทิศให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็ได้ผลเหมือนกัน ไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำกรวด บางท่านก็ว่า หากไม่ใช้น้ำกรวด ญาติจะไม่ได้รับ อันนี้อาจจะเข้าใจผิดไป ผลบุญนั้นไม่เกี่ยวกับน้ำหรอก
ที่เราทำๆกันมานี่เพราะตามๆประเพณีที่พระเจ้าพิมพิสาร ท่านทำไว้แบบนี้ พระพุทธเจ้าก็ไม่ทรงห้าม เพราะว่าธรรมเนียมเป็นแบบนี้ แต่ก็ขอให้ระลึกไว้ว่านี่เป็นแค่พิธีกรรมเท่านั้น

 

สาธุ สาธุ สาธุ
อนุโมทนาค่ะ


ได้รับความรู้เพิ่มเติมมากมายค่ะ
: )

 

บุญรักษาท่านผู้เจริญ

ท่านอธิบายมาถูกทางแล้วครับ ขอความคล่องตัวในธรรมของพระพุทธองค์จงบังเกิดมีแด่ท่านทั้งหลาย

ขอสรุปแบบกระชับนะครับ


ท่านผู้เจริญ " ขึ้นชื่อว่า บุญกุศล ย่อมแปรเปลี่ยนไปเป็น สภาวะปัจจัย ตามชั้น ตามภูมิ ทุกภพ ทุกภูมิ ของสัตว์เหล่านั้น ตามแต่เหตุปัจจัยของภพภูมิที่สัตว์เหล่านั้นอาศํยอยู่ และย่อมเป็นไปตามที่จิตเราพึงปรารถนาทุกประการ ขึ้นว่าสั่งสมบุญ คือบุคคลผู้ไม่ประมาท ครับ "

ขออนุโมทนาสาธุการ

 

ใช่เลยคะ การกรวดน้ำนั้นเป็นเพียงแค่ ตัวกลางทำให้จิตของเรานิ่ง เมื่อจิตเรานิ่ง ก็จะมีพลังในการแผร่เมตตา แผร่สุวนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้วคะ

ส่วนผู้ที่เราแผร่ส่วนบุญให้นั้น จะได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับว่า
1 จิตของเรามีพลังมากขนาดไหน ถ้าเราปฏิบัติ(นั่งสมาธิ)มากพอ ที่จะทำให้เราจิตนิ่ง และมีพลังแล้ว สามารถส่งบุญถึงหมดคะ
2 ผู้ที่เราแผร่ให้นั้น อยู่ในภาวะที่สามารถรับได้หรือไม่ ถ้าเค้าไปเกิดเป็นสัตว์เดรฉานแล้ว บุญเหล่านั้นจะไปรอเค้าอีกภพนึงคะ เพราะสัตว์เดรัจฉาน ไม่สามารถรับบุญได้(ส่วนมาก)
3 ผู้ที่เราแผร่ส่วนบุญให้นั้น ถ้าเค้ามีจิตที่เรียกว่า ละเอียดแล้วหละก็ (จิตมีพลัง) ไม่ว่าจะเกิดเป็นคน หรืออะไร ก็สามารถรับรู้ได้ว่า เราอุทิศส่วนบุญให้เค้า และ เค้าก็ได้รับด้วย

สรุปง่ายๆ จะได้รับบุญหรือไม่ขึ้นอยู่กับ พลังของกระแสจิตของผู้ส่ง และผู้รับ มีมากพอแล้วหรือยัง

ส่วนเทวดาพวกนี้ เค้ามีอาหารทิพย์คะ แต่อาจจะอยากได้เพิ่มอีก (เหมือนกับว่า บุญที่สั่งสมมากำลังจะหมดต้องการบุญจากเราเพิ่ม) เพราะเทวดา ก็ยังมี กิเลสคะ ยังมีความอยากมีอยากได้อยู่

ทั้งหมดนี่เป็นสิ่งที่รู้คะ