"สวดพระ" เซียน...มีสิทธิ์กระอักเลือด !

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 4 พฤศจิกายน 2009.

  1. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    "สวดพระ" เซียน...มีสิทธิ์กระอักเลือด !

    [​IMG]

    คมชัดลึก : พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตฌช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต) อธิบายความหมายไว้ในพจนานุกรม เพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ชุด "คำวัด" ได้ให้ความหมายของคำว่า "สวด" หมายถึง การว่าออกเสียงเป็นทำนอง, การว่าบทมนต์โดยออกเสียงที่เป็นภาษาบาลี อันมีมาในพระไตรปิฎกบ้าง แต่งขึ้นภายหลังโดยพระเถระผู้เป็นนักปราชญ์บ้าง เช่น เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน โดยเรียกรวมว่า สวดมนต์

    ส่วน "สวด" ในคำไทยมักใช้เป็นสำนวนพูดในความหมายว่า นินทา บ่นว่า ดุด่า ว่ากล่าวตักเตือน เช่นใช้ว่า "วันนี้แต่งตัวไปโรงเรียนไม่เรียบร้อยเลย โดนครูสวดเสียพักใหญ่"

    นอกจากนี้แล้ว สวดมีการแยกเรียกพิเศษต่างหาก คือ ถ้าสวดมนต์ในงานที่เป็นมงคล เรียกว่า เจริญพระพุทธมนต์ ในงานอวมงคล คือ งานที่เกี่ยวกับการตาย เรียกว่า สวดพระพุทธมนต์

    ในขณะที่วงการพระเครื่อง ก็มีการใช้คำว่า "สวด" เช่นกัน แต่กลับมีความหมายไปอีกมุมหนึ่ง คือ "ใส่ร้ายคนอื่นว่า เป็นพระดูยาก" หรือว่า "เป็นพระเก๊ พระปลอม" นั่นเอง

    การสวดพระในวงการเช่าซื้อพระเครื่องเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เซียนพระบางคนตั้งป้อมสวดพระของคนอื่น ทั้งๆ ที่ยังไม่เห็นองค์พระ

    ในขณะที่เซียนพระหลายคน ไม่กินเส้นกัน หากใครไปเช่าก็จะสวดส่ง เพื่อทำลายเครดิตนอกจากนี้แล้ว เซียนพระจำนวนไม่น้อย สุ่มสวดเอาดื้อๆ โดยไม่มีความรู้เรื่องพระเครื่อรุ่นนั้นๆ เลย ประเด็นปัญหาที่ตามมา คือ เมื่อเร็วๆ นี้ เซียนพระกริ่งดันไปสวดพระเนื้อผง ผลที่ตามมา คือ "เซียนคนดังกล่าวถึงกับกระอักเลือดเลยทีเดียว!"

    อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น ระหว่างเจ้าของพระ กับความเห็นของเซียนพระ ในวงการพระเครื่องจึงมีภาษาที่บัญญัติขึ้นเฉพาะ

    คำศัพท์เหล่านี้ เป็นการพูดเล่นๆ กันก่อน จากนั้นก็พูดต่อๆ กันจนได้รับความนิยม โดยเฉพาะในหมวดของความหมายว่า "พระปลอม" มีมากที่สุด

    และคำที่ถือว่า เก่าแก่ที่สุด คือ คำว่า ซาลูตู้ หมายถึง ใช้ไม่ได้ โง่ ไม่รู้เรื่อง หรือหมายถึง พระเก๊ คำนี้ปัจจุบันไม่ค่อยได้ยินพูดกัน

    นอกจากนี้แล้ว ยังมีคำที่มีความหมายว่าพระปลอมอีกหลายคำ เช่น ชุกซัว ดุ๊ย พระไม่มีพุทธคุณ พระดูยาก ไม่ถึงยุค และไม่ถนัด

    "เหตุผล ที่ต้องมีภาษาเซียนนั้น น่าจะเป็นการพูดเพื่อป้องกันความปลอดภัยของตัวเซียนพระ โดยเฉพาะในหมวดของคำที่เกี่ยวข้องกับ พระเก๊ หรือ พระปลอม จะมีการคิดคำแปลกๆ ใหม่ๆ ขึ้นมามากที่สุด การจะบอกว่า พระองค์ใดองค์หนึ่งว่าเป็น พระปลอม จะทำให้เจ้าของพระโกรธ เพราะพระบางองค์เจ้าของได้รับการสืบทอดมาจากรุ่นทวด แต่เจ้าของพระลืมไปว่า การปลอมพระมีกันมาตั้งแต่รุ่นทวดเช่นกัน"

    นี่คือ ความเห็นของนายสมศักดิ์ ศกุนตนาฏ ผู้อำนวยการ สำนักพิมพ์คเณศ์พร และ ประธานชมรมนักข่าวและช่างภาพพระเครื่อง ซึ่งคร่ำหวอดอยู่ในวงการทำหนังสือ พระเครื่องมาหลายสิบปี

    พร้อมกันนี้ นายสมศักดิ์ ยังบอกด้วยว่า นอกจากภาษาเซียนแล้ว วงการพระยังมีภาษามือด้วย โดยจะใช้นิ้วชี้แล้วงอนิ้วลงมา ซึ่งหมายถึงพระเก๊นั่นเอง หรืออาจจะพูดว่าหงิก แต่ใช้มือเป็นสัญลักษณ์แทน

    ภาษาเซียน เหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงตามยุคตามสมัย เมื่อเซียนพระรุ่นก่อนๆ ตกยุคไป ภาษาเซียนก็จะตกยุคตามไปด้วย เช่น คำว่า ซาลูตู้ หมายถึง ใช้ไม่ได้ โง่ ไม่รู้เรื่อง หรือหมายถึง พระเก๊ คำนี้ปัจจุบันไม่ค่อยได้ยินพูดกัน แต่ก็มีหลายคำ ที่ยังถูกนำมาใช้กันในหมู่เซียนพระ

    ทางด้าน นายนิพนธ์ เฮ็งเส็ง หรือ นุ เพชรรัตน์ เซียนพระรุ่นใหม่ บอกว่า นอกจากนักเลงพระรุ่นก่อนได้คิดภาษาเซียนแล้ว นักเลงพระยังตั้งบัญญัติ "อย่า ๑๐ ประการ" เป็นคำกลอนสอนเซียนด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันนี้ ถ้าเซียนพระคนใดยึดปฏิบัติ วงการพระเครื่องก็น่าจะมีการพัฒนามากกว่านี้

    "บัญญัติ อย่า ๑๐ ประการ" ที่ว่า คือ

    "อย่า...ทำตนไถพระเขาฟรี อย่า...อวดดีอย่างคางคก
    อย่า...ฟูมฟกเมื่อเจอพระเก๊ อย่า...ทำเก๋ชักดาบเขา
    อย่า...มัวเมาเล่นจนหลง อย่า...พะวงพระลาวตกรถ
    อย่า...ใจคดทุบหม้อข้าว อย่า...เช่าพระใกล้พลบค่ำ
    อย่า...ลูบคลำพระถูเหงื่อ อย่า...เชื่อหูแต่จงเชื่อตา"

    การสวดอย่างมีเชิง...

    พระปลอม หรือ เก๊ ซึ่งส่วนใหญ่เซียนพระ จะใช้พูดเพื่อรักษาน้ำใจเจ้าของพระ เซียนพระบางท่านอาจจะใช้ คำว่า "อายุไม่ถึง" ในขณะที่บางคนอาจจะใช้คำว่า "ไม่ถนัด" อย่างกับกรณีของ พยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมพระเครื่องและพระบูชาไทย นายพิศาล เตชะวิภาค หรือ ต้อย เมืองนนท์ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยคนที่ ๑ หรือแม้กระทั่ง นายกิติ ธรรมจรัส หรือ กวง ท่าพระจันทร์ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยท่านที่ ๒ รวมทั้งเซียนพระชุดเบญจภาคีท่านอื่นๆ เมื่อใครนำพระสมเด็จ รวมทั้งพระองค์อื่นในชุดเบญจภาคีมาให้ดู อย่างกรณีพระสมเด็จกรุขุนอินทรประมูล บุคคลเหล่านี้จะใช้คำว่า "อายุไม่ถึง" หรือ "ไม่ทันสมเด็จโตสร้าง"

    แต่ถ้าเป็นคนกันเอง ที่รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี บุคคลเหล่านี้ก็จะตอบแบบฟันธงกันตรงๆ

    ต้อย เมืองนนท์ บอกว่า การจะบอกว่า พระชุดเบญจภาคีของใครคนใดคนหนึ่งนั้นว่า เป็นพระแท้หรือพระปลอมนั้นต่างกันมาก เพราะใครๆ ก็อยากได้ยินคำตอบว่า พระชุดเบญจะที่ให้ดูนั้นเป็นของแท้ เพราะฉะนั้น หมายถึงราคาที่เช่าหาจะสูงตามไปด้วย

    แต่ถ้าตอบว่าเป็นพระปลอม พระที่เช่ามาในราคาหลักล้าน อาจจะเหลือเพียงหลักสิบเท่านั้น ทุกครั้งที่เห็นว่า เป็นพระปลอมจะใช้คำว่า อายุไม่ถึง เนื้อไม่ถูกต้อง หรือ พิมพ์ทรงไม่ใช่

    อย่างกรณีพระที่มีลักษณะคล้ายกับสมเด็จวัดระฆัง ที่เชื่อว่าทุกวัดมีการสร้างขึ้นมา พระที่สร้างมาและออกโดยระบุว่าวัดหรือพระรูปใดสร้างนั้น ถือว่าเป็นพระสมเด็จของแท้ แต่ถ้ามาบอกว่า เป็นพระที่สมเด็จโตสร้างนั้น จะกลายเป็นพระปลอมไปทันที

    ในขณะที่ นายวันชัย สอนมีทอง ประธานฝ่ายประสานงานด้านสื่อมวลชน ของสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย แนะนำว่า เพื่อหาข้อยุติว่า พระที่อยู่ในความครอบครองนั้นเป็นของแท้หรือปลอม มีใบประกาศนียบัตร หรือที่เรียกกันว่า ใบเซอร์พระ (Certificate) ถือเป็นใบรับรองพระแท้ ที่สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ออกให้พระแต่ละองค์ ที่ให้ทางสมาคมพิจารณา ทั้งนี้ได้รับความเชื่อถือจากวงการพระโดยทั่วไปมากกว่า ใบประกาศนียบัตรจากงานประกวดพระ

    ประเภทพระที่จะเปิดรับการตรวจสอบ (พระแท้ พระปลอม) ได้แก่ พระชุดเบญจภาคี ทุกพิมพ์ พระเนื้อดิน พระเนื้อผง พระเนื้อชิน ฯลฯ โดยมีค่าบริการองค์ละ ๕๐๐ บาท สำหรับพระชุดเบญจภาคี และ ๓๐๐ บาท สำหรับพระเนื้อดิน ทั้งนี้จะมีการออกใบเซอร์พระอย่างน้อยปีละ ๒ ครั้ง โดยครั้งล่าสุดออกไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑ พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

    "การจะบอกว่า พระองค์ใดองค์หนึ่งว่าเป็น พระปลอม จะทำให้เจ้าของพระโกรธ เพราะพระบางองค์เจ้าของได้รับการสืบทอดมาจากรุ่นทวด แต่เจ้าของพระลืมไปว่า การปลอมพระมีกันมาตั้งแต่รุ่นทวดเช่นกัน"

    เรื่อง - ภาพ... "ไตรเทพ ไกรงู"
    หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.5 KB
      เปิดดู:
      5,557
  2. อิทธิปาฏิหาริย์

    อิทธิปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,834
    ค่าพลัง:
    +1,472
  3. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915
    สมเด็จพิมพ์นี้ได้ถูกแอบฝังไว้ในช่วงก่อน 2500 โดยบุคคลบางกลุ่มที่มีความสามารถทำพระเครื่องปลอม โดยไม่กลัวบาป เวลาผ่านไปหลายปีแล้ว มีคราบแล้ว ก็นำมาปั่นขายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แต่คนสะสมพระเครื่องรุ่นผม คงหลอกยาก เพราะเรายึดหลักมาตราฐาน เนื้อหา มวลสาร ทรงพิมพ์ เป็นหลัก ดูจากเวลาประกวดพระเครื่องในสนามใหญ่ จะไม่รับพระเครื่องประเภทนี้เข้าประกวดเลย ฉนั้นเราควรศึกษาให้กระจ่างก่อน มิเช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มบุคคลในวงการพระเครื่อง
     
  4. จักราธร

    จักราธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +180
    อาชีพขายพระเลี้ยงชีพ...มองมุมไหนก็ไม่สวยครับ...เป็นความเห็นส่วนตัวครับ..
     
  5. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ขอขอบคุณสำหรับบทความอันเป็นวิทยาทานนี้
     
  6. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    เห็นด้วยครับ และขออนุโมทนากับทุก ๆ ท่าน และเจ้าของกระทู้ครับ
     
  7. kunphon2009

    kunphon2009 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2009
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +82
    ครับผมเห็นด้วยเรื่องการสวดพระ ของเซียนทั้งหลายหรือพึ่งเป็น ถ้าไม่แน่ใจอย่าไปสวดเลยท่านเพียงแค่ ปุถุชนคนขี้เหม็นไปสวดพระถึงขั้นได้ฌาณ ก็สมกะอักเลือด โสน่าน่า
     
  8. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +4,558
  9. ครูพระ

    ครูพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +601
    ไม่ทราบว่าข้อความที่นำมาลง ตรวจสอบกันดีหรือยัง ระวังตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มคนบางกลุ่ม จงใช้วิจารณายานในการอ่าน ข้อความเป็นการพาดพิง พระสงฆ์องค์เจ้าที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ที่ขุดพบจะเสียหายกันไปหมด จงใช้สติและมี หิริ,โอปตัปปะ เทอญ สาธุ สาธุ
     
  10. ครูพระ

    ครูพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +601
    พระปลอม หรือ เก๊ ซึ่งส่วนใหญ่เซียนพระ จะใช้พูดเพื่อรักษาน้ำใจเจ้าของพระ เซียนพระบางท่านอาจจะใช้ คำว่า "อายุไม่ถึง" ในขณะที่บางคนอาจจะใช้คำว่า "ไม่ถนัด" อย่างกับกรณีของ พยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมพระเครื่องและพระบูชาไทย นายพิศาล เตชะวิภาค หรือ ต้อย เมืองนนท์ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยคนที่ ๑ หรือแม้กระทั่ง นายกิติ ธรรมจรัส หรือ กวง ท่าพระจันทร์ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยท่านที่ ๒ รวมทั้งเซียนพระชุดเบญจภาคีท่านอื่นๆ เมื่อใครนำพระสมเด็จ รวมทั้งพระองค์อื่นในชุดเบญจภาคีมาให้ดู อย่างกรณีพระสมเด็จกรุขุนอินทรประมูล บุคคลเหล่านี้จะใช้คำว่า "อายุไม่ถึง" หรือ "ไม่ทันสมเด็จโตสร้าง"
     
  11. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915
    สรุปบทเรียนจากตลาดพระเครื่อง: เงินและความรู้ขั้นต่ำในการเช่าพระแท้ๆสักองค์
    โดย ดร. แสวง รวยสูงเนิน

    ในตลาดพระเครื่อง มีความซับซ้อนมากกว่าตลาดทั่วๆไป ตรงที่
    แม้ท่านจะมีเงิน ก็อาจไม่มีโอกาสได้พระแท้ไว้ครอบครอง
    แต่จะต้องมีความรู้ขั้นต่ำประกอบด้วยเสมอ
    นี่คือเสน่ห์ของตลาดพระเครื่อง ที่ทำให้ต้องมีการเรียนรู้ตลอดเวลา และหาที่สิ้นสุดได้ยาก ทั้ง
    · ระบบตลาดโดยรวม
    · ระบบแผงพระ
    · สังคมของผู้ให้เช่าพระ
    · ชนิดของพระเครื่อง เนื้อ พิมพ์ ความเก่า ความสมบูรณ์
    · แหล่งที่มาของพระเครื่อง ของแท้ ของปลอม พิมพ์นิยม พิมพ์ไม่นิยม
    · ราคาและคุณภาพ
    ถ้าไม่มีความรู้ หรือรู้ไม่พอ แม้จะใช้เงินมาก ก็ยังอาจได้ของปลอม
    แต่ถ้ามีความรู้ ใช้เงินน้อย ก็ได้พระแท้
    ดังที่ผมเคยเขียนไว้แล้วว่า พระแท้ๆ มีราคาตั้งแต่ ๒๐ บาท ขึ้นไป ถึงเป็นหลักล้าน ในขณะที่พระปลอม ก็มีราคาใกล้เคียงกันมาก ที่มีการพัฒนาฝีมือการปลอมที่สูงมาก ระดับที่ใช้กันว่า “ปาดคอเซียน”
    คือแม้แต่เซียนก็พลาดได้ เพราะขาดการพิจารณาบางประเด็น
    โดยเฉพาะ พระที่ใช้วัสดุ หรือมวลสารเดิม ลอกพิมพ์เดิม แต่งเติมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งเนื้อดิน เนื้อว่าน และเนื้อโลหะ
    สนิม คราบเก่า รอยกร่อน ใบรับรองปลอม ประกาศนียบัตรปลอม แม้แต่รางวัลปลอม ทำได้โดยช่างฝีมือทั้งหมด จาก “โรงงาน” บางองค์มีการแกล้ง “ทำหัก” อำพรางความใหม่ อีกด้วยซ้ำ
    ฉะนั้น จึงไม่อาจดูจากเนื้อและพิมพ์ได้ ต้องดูบริบทโดยรวม ที่มา และความสอดคล้องกันของเนื้อพระ
    และความรู้ที่สำคัญ ก็คือ ความแตกต่างระหว่างความเป็น “ธรรมชาติ” ของแต่ละพื้นที่ของแหล่งพระ และสิ่งที่เกิดจาก “ฝีมือ” ของช่างจากโรงงาน ที่ยังมีความแกต่างในรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย
    ดังนั้น ถ้ามีเงินทุนแค่ ๒๐ บาท ถึงหลักร้อย
    ก็ต้องมีเวลา และต้องมีความรู้ระดับ “เซียน” ในแต่ละกลุ่ม แต่ละรุ่น และ แต่ละประเภทของพระเครื่อง ตามลำดับ ที่อาจเรียกว่า “เซียนเฉพาะสาขา หรือ เฉพาะประเภท หรือ เฉพาะรุ่น หรือ เฉพาะพื้นที่” แล้วแต่กรณี ที่มักเรียกตามชื่อพระเครื่องหรือกลุ่มพระเครื่อง
    แต่ถ้าไม่จำกัดประเภทพระ ก็ต้องระดับ “เซียนใหญ่
    และถ้าไม่จำกัดเขตแหล่งที่มาของพระ ก็ต้องระดับ “เซียนทะลุโลก” ที่ใช้เรียกกันเล่นๆ แต่ก็สะท้อนระดับความสามารถของคนคนนั้นได้ดี
    แต่ถ้ามีเงินระดับพัน หรือหมื่น ความรู้ที่จำเป็นก็น้อยลง โดยอาจพึ่งพาความรู้จาก “เซียน” ระดับต่างๆ แต่ก็ต้องระวังการ “กินหัวคิว” หรือ “พระปลอมยัดกรุ” ที่ทำให้อย่างไร ก็ต้องมาศึกษา ให้ได้ความรู้ไว้ป้องกันตัวเองอยู่ดี
    จึงอาจสรุปในชั้นนี้ได้ว่า ความรู้ไม่พอนั้น เสี่ยงมาก พึ่งพาคนอื่น ก็อาจโดนหลอก (ทั้งโดยตั้งใจ และไม่ตั้งใจ) ได้โดยง่าย
    การจัดการความรู้เพื่อการพึ่งตนเอง จึงมีความจำเป็นมากครับ
    และตลาดพระเครื่อง เป็นตัวอย่างที่ดีจริงๆ
    ที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตจริงได้มากมายจริงๆ
    วันนี้ หลังจากเรียนรู้มาระยะหนึ่ง
    ผมจึงขอฟันธง แบบมั่นใจสุดๆ ว่า
    หันมาเรียนรู้ เพื่อการพึ่งตนเอง ดีกว่าการเรียนรู้เพื่อพึ่งผู้อื่นมากมายเลย
    ผมซึ้งกับวิถีนี้จริงๆครับ


    ขอขอบคุณ ดร.แสวง รวยสูงเนิน ผู้เขียนบทความ
    อ่านเล่นๆ เพื่อสมองอันชาญฉลาด
     
  12. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915
    อย่าพึ่งเบื่อนะครับ
    ขอเพิ่มข้อมูลอีกสักบทคความ ของ ดร.แสวง รวยสูงเนิน

    สรุปบทเรียนจากตลาดพระเครื่อง: พระเก๊เกรด “A” ที่ควรระวัง

    เมื่อวันก่อนมีสมาชิกเข้ามายกย่องว่าผมเซียนพระเก๊ ที่ช่างแทงใจดำกันจริงๆ
    ผมยอมรับครับว่าตอนนี้ ถ้าจะเป็นเซียน ก็ได้แค่เซียนพระเก๊นั่นแหละครับ
    เพื่อไม่ให้ผิดหวังกับการยกย่องผม
    วันนี้ก็เลยขอพูดถึง “พระเก๊” ยอดนิยมสักหน่อยครับ
    ที่ว่ายอดนิยมเพราะว่า “มีให้เช่ามาก แทบไม่จำกัด มีคนเช่ามาก และ เป็นกระแสหมุนเวียนหลัก” ของตลาดพระเครื่องอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
    เพราะประเภท “เก๊ตาเปล่าระดับรองๆลงไป (B C D F) ใครที่ศึกษาพระเครื่องหน่อยก็พอจะดูออกว่าเก๊” ราคาก็โก่งได้ไม่เกินหลักร้อย นอกจากเจอหมูสนามจริงๆจึงจะได้หลักพัน เพราะต้นทุนมาจากโรงงานไม่เกินหลักสิบบาทครับ
    ทีนี้พระเก๊ เกรด A นั้น ก็เป็นพระผลิตจากโรงงาน ที่มีเทคโนโลยีการผลิต และบุคลากรที่มีความสามารถสูง ต้นทุนมาจึงสูงเป็นหลายสิบจนถึงเกือบร้อยบาท ที่ถือว่าแพงมากสำหรับพระเก๊ และจะมีเนื้อหา ความกร่อน คราบกรุ ความผุ และมวลสาร ใกล้เคียงหรือตรงกับที่เขียนไว้ในตำราแทบทุกประการ โดยเฉพาะตำราที่เขียนโดยเซียนพระที่มีระบบพุทธพานิช ของตนเอง ที่ต้องเขียนให้เข้าทางตนเองที่พรรคพวกตนเองสร้างขึ้นมา หรือมีสะสมอยู่แล้วมากที่สุด เวลามีคนมาเช่า ก็จะเปิดตำราด้วย ชี้จุดสำคัญด้วย (ก็ที่ทำเก๊ไว้เรียบร้อยนั่นแหละครับ) พร้อมเล่านิทานที่มาของพระ ประสบการณ์ที่ดีสุดยอด ตามที่เขาอ่านใจว่าคนฟังอยากฟังเรื่องอะไร
    ระดับการเล่านิทานนั้น ถ้าลิงไม่หลับก็ถือว่าฝีปากการเล่าไม่ถึงขั้นครับ
    ดังนั้น พระเครื่องที่ทำเก๊ได้ถึงระดับเกรด A ได้ง่ายในโรงงาน หรือมีในมือมาก ทุกเนื้อ ทุกรุ่น ทุกพิมพ์ (เช่นพระผง เหรียญเกจิอาจารย์ต่างๆ) ก็จะมีการปั่นตลาด หรือโฆษณามาก ทั้งในระบบสังคม ในอินเทอร์เนต ในหนังสือพิมพ์ ในตำราพระเครื่อง และหนังสือพระเครื่องสารพัด เพราะได้กำไรดีมาก
    พระเครื่องที่ทำปลอมยาก ก็อาจนำมาพูดบ้าง พอเป็นไม้ประดับ เช่นพระกรุ พระเนื้อโลหะ ที่จะไม่ค่อยมีพระเก๊เกรด A ให้ปั่นตลาดได้ แต่อาจมีอย่างมากก็เกรด C หรือ D ไปโน่น ดูว่าเก๊ตาเปล่าได้ไม่ยากนัก
    ดังนั้น พระเก๊เกรด A จึงเป็นพระเครื่องที่มีกระแสหมุนเวียนมาก ปั่นราคาได้สูง เพราะทั้งเป็นไปตามตำรา ความเชื่อ ทั้งเชิงพุทธพานิช และพุทธคุณ และมีจำนวนมากแบบไม่จำกัด แต่เขาจะฉลาดแบบค่อยๆปล่อยมาทีละองค์สององค์ ในที่ต่างๆ ไม่ให้ไก่ (หรือหมูสนาม)ตื่น และค่อยๆเพิ่มจำนวนได้ตามความต้องการของตลาด
    การหลีกเลี่ยงที่จะไม่ไปหอบพระเก๊เกรด A มาไว้เต็มบ้านก็คือ ต้องศึกษาจากประวัติการสร้าง จำนวนที่สร้าง วิธีการ วัสดุ สภาพแวดล้อม ให้ชัดเจน
    อย่าเชื่อตำราเล่มใดเล่มหนึ่ง หรือเซียนคนใดคนหนึ่ง หรือแม้แต่พระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมแจกพระให้ทำบุญ เป็นอันขาด
    พอใครว่ามีพระเครื่องแท้หรือเก๊ ให้คิดไว้เลยว่า ผิดทั้งคู่ หรือถูกทั้งคู่ก็ได้
    อย่าผลีผาม ศึกษาไปทีละขั้น ใครว่าพระเครื่องของตนเองแท้ ฟังหูไว้หู แต่ขอดู และขอคำอธิบายที่ชัดๆ ถ้าไม่ชัดอย่าไปแย้ง ฟังแล้วก็ลืมไปซะ
    ถ้าชัดก็เก็บมาประมวลเป็นข้อมูลไปเรื่อยๆ ดูมากๆ คิดมากๆ ฟังมากๆ อ่านมากๆ คือทางออกที่ปลอดภัยครับ
    ที่สำคัญ และเป็นทางออกที่ดีที่สุด ก็คือ ให้ดูพระเครื่องที่เขาว่าแท้ๆ นั้น ว่ามีอะไรทีเหมือนกัน ที่ไม่มีอยู่ในตำรา (เพราะที่มีในตำรานั้น เขาทำเก๊ไว้หมดแล้ว)
    แล้วพยายามจำทั้งเนื้อ และพิมพ์ ที่เหมือนกัน และไม่มีในตำรานั้น เป็นวิธีการศึกษาต่อไป
    ทำดังนี้ท่านจะรอดจากการตีกรอบล้อมของคนที่พยายามจะยัดพระเก๊เกรด A ให้ท่าน และท่านจะมีโอกาสได้พระแท้ไว้ในบูชาครับ
    และพระเครื่องแท้ จริงๆ นั้นราคาไม่สูงครับ จึงอย่าเล่นเกินหลักร้อย ที่เกินนั้นเป็นราคาปั่นและเข้าไปอยู่ในเขตอันตรายแล้วครับ
    ถ้าราคาเกินนี้ แม้จะดูว่าแท้อย่างไรก็ให้รีบถอยเลยครับ อย่าเสียดาย โอกาสยังมีอีกมาก (เมื่อเราเรียนรู้แล้ว) ก่อนที่กลายเป็นหมูสนาม ให้แผงพระหรือผู้ให้เช่าพระเชือด แล้วก็หัวเราะเยาะเราลับหลัง
    ขอให้โชคดีแคล้วคลาดจากพระเก๊เกรด A ครับ


    ขอขอบคุณ ดร.แสวง รวยสูงเนิน ผู้เขียนบทความ
     
  13. ครูพระ

    ครูพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +601
    สาธุ สาธุ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
     
  14. chonthipat

    chonthipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +543
    การบูชาพระหรือสะสมพระก็เป็นสิ่งที่ดีที่ได้ระลึกถึงคุณพระสงฆ์และคุณพระพุทธผู้สร้างก็ดีนะครับแต่เซียนส่วนใหญ่สมัยนี้ชอบปั่นราคาพระจนเกินไปเรื่องสมเด็จก็มีหลายสายนะครับเซียนกันเองถ้าไม่ใช่สายที่ตัวเองปั่นราคาอยู่ก็ตีเก๊หมดครับพระสมเด็จต้องอาศัยผู้รู้จริงและชำนาญในการพิจารณาและทราบประวัติศาตร์ในยุคนั้นเป็นอย่างดีครับ


    ชมพระเครื่องร่วมสนุกเชิญครับ
    http://www.bestpra.com
     
  15. ครูพระ

    ครูพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +601
    มงคลชีวิต<O></O>
    แปลว่าเหตุเป็นเครื่องถึงความเจริญแห่งสมบัติทั้งปวง, ผู้ประสงค์ความสวัสดีทั้งหลาย ย่อมปรารถนาความเจริญอยู่ด้วยกันจึงต่างขวนขวายแสวงหามงคล คือเหตุหรือทางให้บรรลุถึงความเจริญนั้น, มีความเห็นเรื่องมงคลต่างกันแบ่งออกเป็น ๓ พวกคือ พวกหนึ่งแสดงว่า ทิฏฐะ คือรูปที่ตาเห็นเป็นมงคล. อีกพวกหนึ่งค้านว่ารูปที่ตาเห็นนั้นย่อมมี ทั้งดีทั้งชั่วถ้าจะถือว่ารูปที่ตาเห็นมงคลทั้งหมดแล้ว, รูปที่ชั่วก็จะเป็นมงคลไปด้วย..สุตะคือเสียงที่ได้ยินต่างหากเป็นมงคล.อีกพวกหนึ่งค้านว่าเสียงที่ได้ยินย่อมมีทั้งดีและชั่ว, ถ้าจะถือว่าเสียงที่ได้ยินเป็นมงคลไปทั้งหมดแล้ว, เสียงที่ชั่วก็จะเป็นมงคลไปด้วย, มุตะ คือกลิ่น รส โผฏฐัพพะที่รู้ต่างหากเป็นมงคล.พวกข้างต้นก็คัดค้านโดยนัยเช่นเดียวกัน ไม่ตกลงกันได้.ปัญหาได้ขึ้นไปถึงเทวโลก ทั้งนี้ เพราะปรารภมงคลภายนอก. จนเมื่อพระสัมมาสัม-พุทธเจ้าเสด็จมาอุบัติในโลก, เทวดาจึงมาเฝ้าทูลถาม.ส่วนในพระบาลีต้นพระสูตรอันพระ-ธรรมสังคาหกาจารย์ร้อยกรองไว้ว่า สมัยเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่ในเชตวนารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐีใกล้กรุงสาวัตถี, ครั้งนั้นเมื่อปฐมยามล่วงแล้ว เทพดาองค์หนึ่ง มีผิวพรรณงาม ส่องพระเชตวันโดยรอบให้สว่างทั่วด้วยรัศมีแล้วได้ยืน ณ ส่วนข้างหนึ่งดังนี้.เทพดานั้นได้ทูลขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงมงคลด้วยคำเป็นคาถาว่าพหู เทวา มนุสฺสา จ มงฺคลานิอจินฺตยุํ อากงฺขามานา สตฺถานํ พฺรูหิมงฺคลมุตฺตมํแปลว่าเทพดาและมนุษย์ทั้งหลายมากหวังคิดถึงมงคลทั้งหลาย,ขอพระองค์ตรัสมงคลอันอุดมแก่ผู้ประสงค์สวัสดีเถิด ดังนี้.<O></O>
    ด้วย อานุภาพคุณพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ ด้วยบุญบารมีที่ข้าพเจ้าสร้าง และด้วยอฐิษฐานบารมี บุญอันใดที่ข้าพเจ้าได้เคยทำมาแล้วนี้ ตั้งแต่ชาติใดก็ตาม ขอแบ่งให้กับทุกท่านที่ได้อ่านเมล์นี้ด้วยเทอญสาธุ<O></O>
    <O></O>ขอ อำนวยพรให้ท่านทั้งหลาย จงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปณิธาณธนะสารสมบัติ ตลอดจนมนุษย์สมบัติ ในปัจจุบันชาติ เทอญ เจริญพร.<O></O><!-- google_ad_section_end -->
     
  16. พาหุง

    พาหุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +21
    ขอขอบคุณสำหรับข้อความดีๆ ที่มีมาให้รับรู้ ขออนุโมทนาครับ
     
  17. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    อนุโมทนาด้วยครับน้องบอย.

    thaiput007@hotmail.com โทร.084-6245007
     
  18. nanodent

    nanodent เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,730
    ค่าพลัง:
    +943
    ถ้าไม่มีความโลภมาครอบงำ...ฤาจะมีคนทำพระเก๊หรือ...ฤาจะมีเซียนพระสวดพระแท้ชมพระเก๊หรือ...บาปหนอ บาปหนอ...
     
  19. ชื่นชม

    ชื่นชม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +39
    การดูพระแท้

    พระเครื่องเป็นของมงคลที่พระเกจิไทยได้ตั้งใจสร้างเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนที่ได้ครอบครองไว้ให้เป็นคนดียึดมั่นในคุณธรรม แต่คนสมัยนี้กลับนำมาตีเป็นราคาค่างวดเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับตัวเองบางคนถึงขนาดโจมตีกันว่าของเราแท้ของคุณไม่แท้ ไม่รู้ว่าจะตัดสินกันเพื่ออะไร ทั้งที่พระแต่ละองค์ก็มีพุทธคุณแตกต่างกัน และพระแต่ละองค์ย่อมเลือกผู้ครอบครอง ดังที่ว่ากันว่า "ของของใครคนนั้นเขาก็เอาไป" ส่งของทุกอย่างในโลกล้วนมีผู้ครอบครอง แม้กระทั่งชีวิตของคุณเองยังมีจิตคุณเองเป้นผู้ครอบครอง อย่างในกรณี สมเด็จพระวัดขุนอินท ท่านเป็นพระเครื่องถ้าใครได้มีโอกาสเห็นของคนพื้นบ้านที่มีสมเด็จวัดขุนอินท ละก็ท่านจะต้อง คืนคำพูดของตัวเลยที่เดียว และสิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นมักจะเป็นของที่ทำเลียนแบบขึ้นเพราะถ้าคนที่เป็นนักสะสมพระเครื่องจริงๆๆ ที่ศึกษาเกี่ยวกับวิธีดูพระเครื่อง ท่านจะรู้เลยว่า สิ่งที่นักวิจารณ์ทั้งหลายออกมาให้ความเห็นนั้นความจริงพระชุดนี้เป็นมาอย่างไร และ นี่ก็เป็นคนหนึ่งที่สัมผัสกับพระพุทธคุณของพระสมเด็จวัดขุนอินทว่าท่านศักดิ์สิทธิ์เพียงใด และคาดการณ์ว่าอีกเวลาไม่เกิน20 ปีนี้ พระชุดนี้จะดังขึ้นเรื่อยๆๆ และ ขอความกรุณาว่าอย่ามากล่าวหาว่าพระชุดนี้เป็นของปลอม เพราะคนเฒ่าคนแกของตำบลอินทประมูลเค้ายืนยัน ว่าพระวัดขุนอินทศักดิ์สิทธิ์จริง ๆๆ เว้นแต่ท่านจะตาไม่ถึง บุญบารมีไม่ถึงที่จะได้ครอบครอง ผุ้ใดที่มีไว้ในครอบครองขอแนะนำให้ท่านสวดคาถาชินบัญชร และขอในท่านอาราธนาขอพรแล้วท่านจะให้ในสิ่งที่คุณต้องการ(ท่านต้องประกอบแต่กรรมดีด้วยนะ) อย่างไรก็ขอฝากเอาไว้ว่า ก่อนจะตัดสินว่าของใคร แท้ ของใครปลอม ท่านควรใช้ใจและเหตุผลในการตัดสินพระทุกชนิดก่อน (ไปเช่าของมีใบเซอร์มาเซียนยังว่าปลอม) แล้วจะเอาอะไรมาตัดสินว่าไหนจริงไหนปลอม เกิดไม่ทันกันซักคน สาธุ
     
  20. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915
    พระยัดกรุ
    พระยัดกรุทำกันมานานแล้ว โดยมีนายทุนที่ให้ความสนับสนุน รู้เห็นเป็นใจกับพระหรือคนในวัด

    บางกรณีที่เจ้าอาวาสมีเจตนาสืบต่อพระพุทธศาสนาก็มี แต่ท่านสร้างและทำพิธีอย่างถูกต้องแล้วนำไปบรรจุกรุ อันนี้น่าสนับสนุน

    ถามว่าทำไมพระจึงศักดิ์สิทธิ์
    พระที่อยู่ในกรุต่างๆล้วนมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณทั้งสิ้น เนื่องจากทางวัดได้สวดมนต์ ทำอุโบสถ์เป็นประจำ เหล่าเทพเทวาท่านยอมมีหน้าที่รักษาองค์พระที่อยู่ในวัด เมื่อผู้มีจิตศรัทธานำไปคล้อง ยอมเกิดเป็นมงคลต่อผู้มีศรัทธาอย่างแน่นอน

    การดูพระ
    คนที่เขาดูพระเป็น เขาไม่ยอมสอนใครง่ายๆ ยิ่งในสังคมปัจจุบันนี้ มากด้วยบุคคลที่มีมิจฉาทิษฐิ มิจฉาอาชีวะอยู่มาก เมื่อรู้ความลับ จุดลับต่างๆแล้ว ย่อมจะมีผู้ผลิตพระปลอมออกมามาก ก่อนผมจะเรียนรู้ อาจารย์ผู้สอนต้องบอกให้ผมสัญญาก่อนว่า จะไม่นำสิ่งที่รู้ไปทำพระปลอม และต้องจะไม่บอกใคร ให้ตายไปกับตัว หากต้องการสืบทอดศาสนาค่อยนำออกมาใช้ จะได้ไม่สูญหาย เห็นได้ว่าคนโบราณเขารู้และรู้จริง และมีคุณธรรม

    พระกรุวัดขุนอินทร์ฯ ดูจากมวลสารแล้วไม่สามารถตีเป็นพระของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)ได้ พระสมเด็จของท่านมีเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นพระผงแก่ปูนผสมผงพุทธคุณและมวลสารศักดิ์ต่างๆที่ท่านได้ศึกษามา แล้วนำมาผสม แต่เอาพระกรุวัดขุนอินทร์ฯ มาพิจารณา ไม่มีหลักการสร้างของเจ้าพระคุณสมเด็จโตฯให้เห็นเลย(ความเห็นส่วนตัวจากการศึกษา) หากไม่เชื่อก็หาสมเด็จแท้ทั้ง 3 วัด มาเปรียบเทียบ ก็จะเข้าใจเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...