แกงเนื้อพริกขี้หนู

ในห้อง 'เมนูอาหารและวิธีการทำอาหาร' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 2 มิถุนายน 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492


    [​IMG]

    ประสาคนญาติเยอะ ปกติก็จะมีข้าวหม้อแกงหม้อจากบ้านนั้นบ้านนี้มาช่วยเพิ่มรสชาติของชีวิต(และน้ำหนักตัว)ไม่ขาดอยู่แล้ว

    ชามล่าสุดนี่มาจากบ้าน"แม่เพ็ญ" แม่ของคู่เขย คนนครสวรรค์แต่มาได้กันกับคนสุราษฎร์ และเป็นประเภทชอบเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานทั้งคู่

    เรื่องฝีมือจึงไม่ต้องพูดถึง

    รู้ว่าลูกนอกไส้แถมปากหวานชอบกินอะไร ว่างมื่อไหร่ก็ส่งมาให้หายคิดถึง

    โดยเฉพาะ"แกงเนื้อพริกขี้หนู"

    ทั้งนวล(กะทิ) ทั้งเผ็ด(พริกขี้หนูสวน) ทั้งหอม(เครื่องแกงที่ตำพริกเข้าไปถึงใจ)

    หนหลังนี่แม่เพ็ญรู้ว่าหากินสองต่อ คือกินเสร็จแล้วเอามาเขียนด้วย จึงแนบสูตรมาด้วยเสร็จสรรพ

    ดังนี้

    เนื้อวัว 1 กิโล หั่นขวางเส้นจะได้นุ่มลิ้น ชิ้นหนึ่งหนาไม่เกินครึ่งเซนต์ หมักน้ำปลาดีกับน้ำตาลปี๊บ(ดีๆ)ไว้
    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    มะพร้าวขูดคั้นแล้วครึ่งกิโล และพริกขี้หนูสวน(ย้ำต้องสวนถึงจะเผ็ดหอม)อีกหนึ่งขีด

    ส่วนเครื่องปรุงพริกแกง มีพริกแดงเม็ดใหญ่ 10 เม็ด พริกขี้หนูแห้ง(แดง) 20 เม็ด พริกขี้หนูสด(แดง)อีก 20 เม็ด

    ตะไคร้หั่น 1 ต้น ข่าหั่น 1 ช้อนชา ผิวมะกรูดหั่น 1 ลูกเล็ก พริกไทย 20 เม็ด ลูกผักชีแห้งคั่ว 1 ช้อนชา รากผักชีสด 4-5 ราก เกลือ และกะปิ(ต้องดีอีกนั่นแหละ จะได้หอมอร่อย)

    ทั้งหมดใส่ครกตำละเอียด แล้วค่อยใส่กะปิประมาณ 1 ช้อนแกงเข้าไปหลังสุด

    หรือถ้าทันสมัยไม่ชอบเมื่อย จะเอาเข้าเครื่องปั่นก็ได้ไม่ว่ากัน <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    เริ่มต้นก็เอากะทิตั้งไฟ พอเดือดดีให้ช้อนหัวกะทิใส่ชามพัก

    หางกะทิเอาไปต้มต่อกับเนื้อที่หมักไว้ กะปริมาณกะปิกับเนื้อให้พอดีกันด้วย

    คะเนว่าเนื้อเริ่มเปื่อยก็เอาพริกแกงที่ตำ(หรือปั่น) ลงไปผัดกับเนื้อที่ต้ม

    ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลให้หอม แล้วเติมหัวกะทิ แล้วค่อยๆ คน

    พอได้รสได้กลิ่นอย่างที่อยากได้ ก็เอาพริกขี้หนูสวนที่ล้างสะอาดแล้วใส่ลงไป

    ทั้งก้าน

    แต่แบบชาววังจะกินอย่างไรไม่ทราบได้ แต่แบบชาวบ้านนี่ต้องทั้งก้าน เอาไว้หยิบขึ้นมาเคี้ยวแกล้ม

    อึ๋ย แค่พูดยังซ่านปาก

    ค่อยๆ คนแกงต่อไปจนน้ำแกงขลุกขลิก แล้วยกลงทันที

    อย่าปิดฝา

    ตักเสิร์ฟมากับข้าวสวยร้อนๆ หรือบางบ้านบางร้านกินกับโรตีแผ่น

    ลืมอ้วนลืมตายกันไปเลย

    มาเมื่อไหร่ก็หมดเมื่อนั้น

    สำหรับท่านที่ไม่กินเนื้อ จะเปลี่ยนเป็นหมูก็ยังได้

    แต่ขอยืนยันนั่งยันเอาไว้ตรงนี้ว่า ถึงอร่อยเหมือนกัน แต่รสกำซาบลิ้นนั้นคนละชั้น

    ที่สำคัญ ตอนกินต้องมีพริกขี้หนูแนบกับเนื้อ(หรือหมู) ทุกคำถึงจะอร่อย ไม่เลี่ยน

    ระหว่างเคี้ยวไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่

    แต่หลังจากกินอิ่มแล้ว คราวนี้อยู่ที่ลิ้นใครลิ้นมัน

    เผ็ดกันน้ำหูน้ำตาไหลก็มี เฉยๆและยังเด็ดพริกมาเคี้ยวเล่นอีกแก้มันปากก็มี

    ก็ของเขาอร่อยจริง

    [​IMG]
     
  2. juten

    juten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2006
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +296
    ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...