ทริปออกพรรษา ทอดกฐิน วัดหินหมากเป้ง ชมบั้งไฟพญานาค 4-6 ตุลาคม 2552

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 19 สิงหาคม 2009.

  1. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    11 022.jpg
    111 006.jpg
    111 004.jpg 111 007.jpg 111 008.jpg

    ถวายปัจจัยดอกไม้ธูปเทียนเครื่องหอมฯ บูชาพระรัตนตรัย,พระบรมธาตุฯ ร่วมสร้างและบูรณพระพุทธรูป,ฉัตรพระ,ภาพจิตรกรรมฝาผนัง,พระวิหารฯ ถวายประทีปเรือไฟ,ภัตตาหาร,ค่าน้ำไฟฯ ร่วมทำบุญทุกอย่างกับหลวงพ่อฯ ร่วมสร้างพระวิหารเชิงธาตุ(วัดหน้าพระธาตุ) ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ
    ปล.พระพุทธรูปและวิหารรวมภาพจิตรกรรมฝาผนังงดงามแปลกตาดีครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111 009.jpg
      111 009.jpg
      ขนาดไฟล์:
      235.4 KB
      เปิดดู:
      33
    • 111 011.jpg
      111 011.jpg
      ขนาดไฟล์:
      275.1 KB
      เปิดดู:
      35
  2. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    และพวกเราก็ได้เวลาเดินออกกำลังกายกันครับ ค่อยๆเดินกันขึ้นไป แบบวิญญาณยังเข้าร่างไม่หมด ระหว่างทางก็ได้แวะทำบุญบูชาพระธาตุ,พระศรีมหาโพธิ์ที่ได้นำมาจากประเทศ อินเดีย ปลูกฉลอง 25 พุทธศตวรรษ(ฉลองกึ่งพุทธกาล) ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ

    111 012.jpg

    111 013.jpg

    111 016.jpg

    111 017.jpg

    ถวายปัจจัยดอกไม้ธูปเทียนทองเครื่องหอมฯ บูชาพระรัตนตรัย,พระศรีมหาโพธิ์ฯ ร่วมปลูกและสร้างวิหารฯ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ
    ปล.ทริปในลาวครั้งนี้ทุกที่ที่ไปพวกเราจะเน้นการทำความสะอาด เก็บขยะฯ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ กันทุกที่ครับ ท่านที่มาทำบุญและนักท่องเที่ยวจะได้สะอาดตาสะอาดใจติดตามพระไปนิพพานได้ ง่ายขึ้นครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111 014.jpg
      111 014.jpg
      ขนาดไฟล์:
      300.9 KB
      เปิดดู:
      36
    • 111 015.jpg
      111 015.jpg
      ขนาดไฟล์:
      134 KB
      เปิดดู:
      47
  3. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 018.jpg
    111 021.jpg 111 022.jpg 111 023.jpg

    ระหว่างเดินขึ้นไปพวกเราก็จะเห็นประเพณีของชาวหลวงพระบางในการนำข้าวเหนียว และของทานได้มาวางตลอดข้างทางเดินขึ้นพระธาตุ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ บางท่านอาจจะมองดูแล้วไม่ค่อยเรียบร้อย แต่ของคณะเราเมื่อท่านถวายตั้งเจตนาเป็นบุญแล้วก็ต้องโมทนาอย่างเดียว อย่างน้อยก็ได้ให้ทานแก่คนยากและหมู่สัตว์ทั้งหลายได้ พวกเราก็วางเหรียญบาทพระเจ้าอยู่ภูมิพลฯ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ นำพาบุญของทุกท่านทั้งหมดที่ตกเรี่ยราดอยู่ตามทาง ให้เข้าไปในทางบุญของพระให้พระท่านได้สงเคราะห์ให้โดยตรง จะได้ไม่กลับมาเกิดมาทุกข์อีกครับ
    ปล.มองลงไปด้านล่างจะเห็นวังเจ้ามหาชีวิตอยู่ติดลำน้ำโขง บรรยากาศเงียบสงบดีครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111 019.jpg
      111 019.jpg
      ขนาดไฟล์:
      284.3 KB
      เปิดดู:
      38
    • 111 024.jpg
      111 024.jpg
      ขนาดไฟล์:
      291.4 KB
      เปิดดู:
      39
  4. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 031.jpg

    111 027.jpg 111 032.jpg 111 035.jpg


    ตามตำนานพระอุรังคธาตุ เมื่อสมเด็จพระศาสดาประทานรอยพระบาทไว้ที่พระบาทบัวบกแล้ว ได้เสด็จต่อไปยังหลวงพระบาง ดอยนันทกังรี ซึ่งเป็นที่อยู่ของนางนันทยักษ์ ก่อนเสด็จกลับพระเชตวันมหาวิหาร ในกรุงสาวัตถี
    ในหนังสืออุทยานประวัติศาสตร์อีสาณ เรียกว่าดอยผ่าม่อง มีพญานาคชื่อว่า"อ้ายโต่งกว้าง" หรือ "อ้ายโพงพางปากกว้าง" อยู่รักษา ณ ปากน้ำคาน ได้แลเห็นพระพุทธเจ้าก็เข้ามาถวายบังคม บนกลางดอยนั้นมีแอ่งน้ำหินอยู่แห่งหนึ่ง เป็นน้ำสะอาดมีรสจืด พระอานนท์ได้เอาที่กรองน้ำไปตักน้ำ แล้วพญานาคถือมาถวายพระพุทธเจ้า แอ่งน้ำแห่งนั้นจึงได้นามว่า"น้ำเที่ยง"ตั้งแต่นั้นมา ในขณะนั้นพระพุทธองค์จึงได้ตรัสเล่าว่าพญานาคตนนี้ ได้เคยเกี่ยวข้องกับพระตถาคตในสมัยที่เสวยชาติเป็นพระยาขันธนาม ครองเมืองจำปา หลังจากสวรรคตแล้ว พระโอรสอันมีนามว่าขันธเนตร ซึ่งเกิดแต่พระมเหสีนามว่าสีไว และขันธจันทร์ซึ่งเกิดจากพระมเหสีนามว่าพระนางสีดา พระโอรสทั้งสองได้ต่อสู้แย่งชิงราชสมบัติกันจนสิ้นพระชนม์ไป แล้วได้มาเกิดเป็นอ้ายโต่งกว้างนี่แหละ
    ครั้นแล้วพระพุทธองค์ก็ได้เสด็จขึ้นไปตามริมแม่น้ำโขงจนถึงเมืองชาทะบุรี ได้เสด็จรับบิณฑบาตจากชาวเมืองชาทะบุรีคนหนึ่ง แล้วเสวยภัตตาหารบนดอยแห่งหนึ่ง เมื่อเสร็จภัตกิจแล้วทรงทอดพระเนตรไปมาและทรงแย้มพระโอษฐ์ พระอานนท์จึงทูลถามถึงเหตุนั้น องค์สมเด็จพระภควันต์จึงได้ตรัสเล่าความเป็นมาของเมืองนี้ว่า


    pdvd000ng6[1].png

    ในกาลก่อน อานนท์ ในเมืองอุชเชนีได้มีพระยานามว่าปารุทธเสน มีพระมเหสี 12 องค์ซึ่งเป็นพระธิดาของเศรษฐีในเมืองอินทปัตถ์ ซึ่งพ่อเศรษฐีได้นำเอาไปปล่อยในป่าลึก จนไปอยู่อาศัยด้วยนางยักษิณีที่มีชื่อว่ากาเล และได้หนีนางยักษ์ไปพบวัวอสุภราชช่วยเหลือให้พ้นจากนางยักษ์ จนได้มาเป็นมเหสีของปารุธเสนราชา แต่เพราะกรรมเก่าจึงต้องถูกควักลูกตาออก
    บุพกรรมของนางสิบสอง ในอดีตกาลนางสิบสองนี้เกิดในตระกูลหนึ่ง ตระกูลนั้นเขาเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่ง แต่เป็นสุนัขสันหลังยาวเกียจคร้าน เพื่อพ่อของนางสิบสองจะไปป่าล่าสัตว์มาเป็นอาหารคราวใด ก็จะเรียกสุนัขตัวนั้นตามไปด้วย แต่เพราะด้วยสันดานขี้เกียจของมัน พอพ้นบ้านก็หนีกลับมาเรือนเสียทุกคราว จนลูกสาวทั้งสิบสองคนทนไม่ไหว จึงให้พ่อนำมันไปปล่อยไว้ในป่า เมื่อพ่อนำมันไปปล่อยไว้ในป่าแห่งหนึ่งแล้ว ต่อมาสุนัขผู้น่าสงสารจึงต้องหลงทาง จนไปพบหญิงชราที่ทำไร่อยู่ในป่าแล้วได้นำมันไปเลี้ยงไว้ อยู่มาวันหนึ่งเจ้าสุนัขก็ไปตะกุยเอากองขมิ้นยายเสียป่นปี้ แต่แทนที่ยายจะโกรธ กลับรีบไปเก็บนำไปใส่ครกโขลกแล้วคั้นน้ำไว้ และไปนำเอาผ้าจีวรมาย้อมด้วยน้ำขมิ้นนั้น แล้วได้นำไปถวายพระภิกษุสามเณร
    ฉะนั้นด้วยผลที่สุนัขได้ขุดคุ้ยหัวขมิ้นให้หญิงชรา จนได้นำมาย้อมผ้าจีวร ครั้นตายไปจึงได้มาเกิดเป็นเศรษฐีในเมืองอินทปัตถ์ ส่วนนางสิบสองนั้นก็ได้ไปเกิดเป็นลูกเศรษฐีถูกนำไปปล่อยในป่าลึก เพราะผลกรรมที่รบเร้าให้พ่อเอาสุนัขไปปล่อยนั่นเอง ส่วนผลบุญที่นางได้เคยเกิดเป็นคนใจบุญสุน ทาน วันหนึ่งหลังจากฟังธรรม ได้เดินมาระหว่างทาง พบปลาหมอตัวหนึ่งติดปลักอยู่ในแอ่งน้ำที่ขอดแห้ง นางจึงเกิดความสงสาร ช่วยกันอมปลาหมอตัวนั้นไปปล่อยที่แม่น้ำ ด้วยผลบุญนี้เมื่อนางสิบสองหลงทางอยู่ในป่า วัวอสุภราชก็ช่วยให้รอดพ้นจากนางยักษ์กาเลไปได้ และในอดีตวัวตัวนี้ก็หาใช่ใครอื่น ก็คือปลาหมอที่ติดปลักและพวกนางได้ช่วยไว้นั่นเอง

    ต่อมานางยักษ์ทราบข่าวว่า พวกนางสิบสองได้เป็นมเหสีของท้าวปารุธเสน จึงได้แปลงเป็นหญิงรูปร่างสวยงาม จนท้าวปารุธเสนหลงรักนำมาเป็นมเหสี ด้วยความหลงเสน่ห์ของนางจึงทำให้นางสิบสองถูกควักลูกนัยน์ตา ยกเว้นแต่นางปทุมมาคนสุดทห้องคนเดียวที่ถูกควักนัยน์ตาข้างเดียว ทั้งนี้ด้วยผลกรรมที่นางสิบสองเคยเกิดเป็นธิดาเศรษฐีในเมืองปัญจาละ ได้พากันไปงมปลาในสระแห่งหนึ่ง ซึ่งน้ำกำลังแห้งขอด พี่ทั้ง 11 คนเอาไม้แทงตาปลาทะลุทั้งสองข้าง ส่วนน้องคนสุดท้องแทงทะลุข้างเดียว เพราะบุพกรรมนั้นจึงถูกนางยักษ์ควักลูกตาเสียในครานี้
    ส่วนกรรมเก่าของนางกาเล และเมรี ต้องมาเป็นนางยักษิณีเพราะในชาติปางก่อน นางกาเลได้เป็นหญิงชรา ได้พาลูกสาวคือนางเมรีไปดายหญ้าในที่หวงห้ามทางศาสนา ได้ขุดเอาจิ้งหรีดมาเผาไฟที่ดายหญ้านั้น เป็นการไม่เคารพในสถานที่ จึงได้เกิดมาเป็นนางยักษิณีทั้งแม่ลูก
    เมื่อนางยักษ์ได้นำลูกตาไปฝากไว้แก่ลูกสาวเมรีแล้ว นางสิบสองจึงได้ถูกนำไปขังไว้ในถ้ำทั้งๆที่ตาบอด ต่อมานางปทุมมาได้คลอดบุตรชายมีชื่อว่า รุธเสน หรือ พระรถ ผู้เป็นหน่อเนื้อพระโพธิสัตว์ ครั้นโตขึ้นได้ไปอาศัยอยู่กับพระบิดา นางกาเลจึงหาอุบายที่จะฆ่า จึงหลอกไปให้ลูกสาวเมรีฆ่า แต่สองคนนั้นท่านมีบุญบุพเพสันนิวาสด้วยกันจึงได้เป็นสามีภรรยากัน ต่อมาพระรุธเสนได้พบหีบดวงตาของแม่และป้า จึงได้นำหนีมาพร้อมกับของวิเศษ นางเมรีได้ออกติดตามแต่มาไม่ทัน
    ร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดอกแตกตายเพราะความรักความอาลัย นอนเหนือแผ่นหินรอยต่อแดนยักษ์กับแดนมนุษย์ นางกาเลรู้ว่าพระรุธเสนไม่ได้ถูกลูกสาวของตนฆ่าจึงโกรธมากวิ่งเข้าไป แต่ถูกพระรุธเสนใช้พระขรรค์ฟันตัดขั้วหัวใจตาย ท้าวปารุธเสนก็พ้นจากเสน่ห์ของนางยักษ์ ให้ไปรับนางสิบสองกลับเข้าเมือง เมื่อพระรุธเสนรักษาแม่และป้าเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปหานางเมรีพบว่านางเมรีสิ้นใจตายแล้ว ด้วยความดีและเห็นใจในความรักที่นางเมรีมีต่อตน จึงร้องไห้อาลัยจนอกแตกตายนอนเอาหัวซุกซากนางเมรีด้วยความรักแท้
    เรื่องบุพกรรมในตอนี้เล่าว่า การที่พระรุธเสนปล่อยให้นางเมรีร้องไห้อกแตกตาย เป็นเพราะกรรมเก่าของนางเมรีเอง ส่วนในชาติต่อๆมาพระรุธเสนได้เกิดไปเป็นพระสุธน ร้องไห้ตามนางมโนราห์เลือดตามแทบกระเด็น จากเมืองปัญจาละ จนถึงเมืองภูเงินในแดนหิมพานต์ นานถึง 7 ปีจึงได้พบกัน
    ส่วนบุพกรรมของนางกาเล สมัยก่อนได้เกิดเป็นหมอตำแย มีหญิงชาวบ้านกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆเธอมีทองคำอยู่ร้อยแท่ง นางหมอตำแยไปขอซื้อ เธอไม่ขายให้เนื่องจากคิดว่าถ้าลูกเกิดมาเป็นชายจะได้เก็บไว้ทำทุน นางหมอตำแยเลยผูกใจเจ็บพอไปทำคลอดก็แกล้งตัดสายรกตรงจุดตาย เด็กก็ต้องตาย ด้วยกรรมนั้นเด็กนั้นก็ได้มาเกิดเป็นพระรุธเสน แล้วใช้พระขรรค์ตัดขั้วหัวในนางยักษ์กาเลด้วยเหตุนั้น นี่แหละผลบุญและบาปได้ติดตามหมู่สัตว์ทั้งหลายไปไม่มีหมด
    องค์สมเด็จพระทศพลตรัสต่ออีกว่า อานนท์ ในอนาคตหญิงเมืองชาทะบุรีนี้ จะเป็นคนมีมารยามากรู้จักเอาอกเอาในผู้ชายเก่ง มีเสน่ห์ยึดใจชายให้มาอยู่ในอำนาจปกครอง เหมือนสามีเป็นทาสชายของตน ย่อมนั่งอยู่เหนือดวงใจของผู้ชายเกาะกุมความภักดีไว้ได้ เพราะว่าพระรุธเสนต้องร้องไห้จนอกแตกตายตามนางเมรีนี่เป็นเหตุ จากนั้นทรงเทศน์โปรดเหล่าบรรดาพุทธบริษัทต่อไป เทพยุดาอารักษ์และเหล่านาคได้ทูลขอให้ประทับรอยพระบาทตามพุทธประเพณีของพระพุทธเจ้าองค์ก่อน


    SDC10263_resize.JPG

    เก็บตก เครื่องบินลาว ^^

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2009
  5. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 037.jpg

    111 038.jpg 111 039.jpg 111 042.jpg

    ถวายปัจจัยดอกไม้ธูปเทียนทองสรงน้ำพระฯ ประทักษิณาวัตรบูชาพระรัตนตรัย,พระบรมธาตุฯ บูรณรอยพระบาทเกือกแก้ว,ทองคำปิดองค์พระบรมธาตุฯ ร่วมสร้างและบูรณพระพุทธรูปและพระวิหารฯ ร่วมสร้างวัดพระธาตุพูศรี ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ
    คำอธิษฐาน ขอบารมีพระทุกพระองค์และบุญทั้งหมดที่ได้บำเพ็ญมา ให้สถานที่นี้เป็นเจริญรุ่งเรืองตั้งมั่นตามพุทธพยากรณ์ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และขอให้พุทธศาสนิชนเป็นสัมมาทิฏฐิ มีความสามัคคีกัน มีดวงตาเห็นธรรม สามารถปฏิบัติตนเข้าถึงได้ทั้งปฏิสัมภิทัปปัตโต ฉฬภิญโญ เตวิชโช สุขวิปัสโก หากเป็นพระโพธิสัตว์ก็ขอให้มีบารมีเต็มได้เป็นกำลังใหญ่ในการค้ำจุนพระศาสนา ตลอดกาลนานเทอญฯ
    ปล.ในระหว่างอธิษฐานปัจจัยทองคำบูรณะพระบรมธาตุมีรอยพระบาทเกือกแก้วปรากฏ ขึ้นเหนือรอยชำรุดบนองค์พระบรมธาตุ ซึ่งบังเอิญเป็นรอยพระบาทข้างซ้ายพอดีกับที่ได้ซ่อมไปเมื่อก่อนหน้านี้ครับ นาคน้อยได้นำบายศรีของคณะเราขึ้นไปถวายงามเด่นเป็นสง่าบนองค์พระบรมธาตุ ถวายเป็นพุทธบูชาฯด้วยครับ คณะเราได้อธิษฐานประดิษฐานพระธาตุไว้ที่นี่ด้วยครับ
     
  6. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 034.jpg

    111 036.jpg 111 040.jpg 111 041.jpg

    ถวายลูกแก้วบูชาพระรัตนตรัย,พระบรมธาตุฯ อธิษฐานขอบารมีพระทุกพระองค์และบุญทั้งหมดที่ได้บำเพ็ญมาให้ลูกแก้ว ประดิษฐาน ณ พระธาตุพูสีตราบสิ้นอายุพระศาสนา เพื่อปกปักรักษาพระบรมธาตุและพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองตั้งมั่นตามพุทธ พยากรณ์ฯ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ

    หมายเหตุ ได้ถวายทองคำและน้ำ ชำระหนี้สงฆ์หนี้เวรหนี้กรรมให้ทุกๆท่านด้วยนะครับ ทองคำที่ปิดบนฐานพระบรมธาตุมีรอยพระบาทมารองรับพอดีครับ ได้พบว่าบนดอยนันทกังรีนี้มีรอยพระบาทประทับอยู่เหนือดอย กลางดอย และใต้ดอยด้วยครับ รอยที่คณะเราบูรณเป็นรอยที่ประทับอยู่บนหงอนพญานาคพอดีครับ ลืมบอกชื่อท่านไปครับ ท่านชื่อ"พญาศรีสัตตนาค"ครับ

    ปล.นาคน้อยนำลูกแก้วไปวางในหลืบหิน เมื่อถ่ายรูปออกมาจะเห็นว่าบังเอิญวางอยู่บนเศียรพญานาคหินพอดีครับ

     
  7. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 048.jpg

    111 050.jpg 111 051.jpg 111 052.jpg


    หลังจากนั้นพวกเราก็เดินลงไปทางหลังเขา เพื่อที่จะไปกราบรอยพระบาท ระหว่างทางก็ได้ไหว้พระธาตุ,พระประจำวันและที่สำคัญก็คือพระบาง (พระบางจำลอง) ซึ่งมีพุทธลักษณะพุทธศิลป์แบบล้านช้าง แต่พระพุทธรูปองค์นี้ท่านใส่รองเท้าเกือกแก้วด้วยนะครับ พวกเราพากันงงว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้

    111 055.jpg
    111 056.jpg

    ถวายปัจจัยเครื่องหอมฯ บูชาพระรัตนตรัย,พระบรมธาตุฯ ร่วมสร้างและบูรณพระพุทธรูป,พระใหญ่ปางห้ามสมุทร,พระประจำวันฯ ร่วมสร้างถ้ำพระ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111 053.jpg
      111 053.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.5 KB
      เปิดดู:
      35
    • 111 054.jpg
      111 054.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101.5 KB
      เปิดดู:
      37
  8. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 057.jpg
    111 058.jpg 111 059.jpg 111 060.jpg

    ผ่านถ้ำพระ เดินไปด้านหลังต่ออีกไม่นานก็จะได้พบพระบาทน้อย เป็นพระบาทที่ทรงประทับอยู่กลางดอยครับ มีเครื่องบูชาพระบาทวางกันอย่างไม่เป็นระเบียบ พวกเราจึงจัดการให้เป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมเอาเทียนที่จุดในรอยพระบาทออกมาตั้งใหม่ด้านหน้ารอยพระบาท เพื่อให้พระบาทไม่เป็นอันตรายจากไฟ

    111 068.jpg

    ถวายปัจจัยเครื่องหอมฯ บูชาพระรัตนตรัย,รอยพระบาทฯ ร่วมทำบุญสร้างและบูรณมณฑปครอบรอยพระบาทฯ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ
    ปล.ทุกที่ก็จะมีข้าวเหนียวก้อนเล็กๆวางบูชาพระกันตลอดทางเหมือนเดิมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111 062.jpg
      111 062.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.9 KB
      เปิดดู:
      36
    • 111 063.jpg
      111 063.jpg
      ขนาดไฟล์:
      183 KB
      เปิดดู:
      37
  9. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 069.jpg

    111 070.jpg 111 071.jpg 111 077.jpg

    พวกเราก็เดินทางไปยังมณฑปครอบรอยพระบาทที่อยู่ใกล้เชิงดอยกันต่อไปครับ ระหว่างทางก็ได้ทำบุญสร้างพระพุทธรูป,พระปางนาคปรก,พระแม่ธรณีฯ ถึงมณฑปก็ต้องทำความสะอาดกันยกใหญ่ เครื่องบูชาวางเต็มหน้ามณฑปเหมือนเดิมครับ มณฑปนี้ท่านสร้างครอบพอดีกับรอยพระบาทเลยครับ เวลาเข้าไปไหว้ก็เข้าไปได้ทีละท่านเท่านั้น พวกเราทำความสะอาดเสร็จจึงได้เข้าไปสำรวจและกราบพระบาทที่ประดิษฐานอยู่ข้าง ใน แต่ก็ต้องประหลาดใจมากเนื่องจากรอยพระบาทนี้มีรอยนิ้วปลายแหลมไม่เหมือนกับ ที่อื่นครับ พวกเราทยอยกันเข้าไปไหว้สรงน้ำปิดทองบูชารอยพระบาทกันครบทุกท่านแล้ว จึงได้มารวมกันสวดมนต์บูชาพระบาทด้านนอกมณฑปกันต่อครับ
     
  10. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 076.jpg

    ถวายปัจจัยดอกไม้บายศรีธูปเทียนเครื่องหอมฯ บูชาคุณพระรัตนตรัย,รอยพระบาทฯ ร่วมทำบุญสร้างมณฑปครอบรอยพระบาทใหม่ฯ ร่วมทำบุญทุกอย่างกับหลวงพ่อฯ ร่วมสร้างถ้ำพระบาท ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ
    ปล.หลังจากบวงสรวงแล้ว พวกเราจึงได้รู้ว่าพระพุทธรูปที่ท่านสร้างทรงเครื่องเพียงรองเท้าปลายงอน นั้น คือการประทับรอยพระบาทขณะที่พระองค์กำลังทรงอธิษฐานทรงเครื่องพระนิพพานเหาะ ไปบนอากาศหลังจากประทับรอยพระบาทไม่ถึงเสี้ยววินาทีครับ ทำให้นิ้วพระบาทมีปลายแหลมทุกนิ้วฯ ไม่ค่อยได้เห็นที่อื่นทุกท่านที่ไปด้วยก็มีความดีใจกันมากที่ได้ไหว้รอยพระบาทรอยนี้ ต่างก็ขอให้บรรลุอภิญญาตามที่ท่านได้ทรงบรรลุแล้ว เพื่อค้ำจุนพระศาสนาให้ครบ 5,000 ปี ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และเพื่อตามเสด็จพระพุทธเจ้าไปอุปฐากพระองค์ได้ทุกหนแห่งตามที่ได้อธิษฐาน กันไว้ครับ ก็ท่านกะกันว่าจะตามรอยพระบาทกันไปจนถึงนิพพานกันเลยครับ
    หมายเหตุ พวกเราได้สอนให้คนขายบายศรีที่รอยพระบาท รู้จักคุณค่าของรอยพระบาทการบูชาและการดูแลรักษาฯ ท่านก็เข้าใจดีและคงดูแลให้พวกเราเป็นอย่างดี เพราะหลายท่านบรรยายอานิสงส์กันอย่างสุดๆครับ ใครๆได้ยินได้ฟังก็อยากทำบุญด้วยความปิติยิ่งครับ เพราะการได้อุปฐากพระพุทธเจ้าเป็นบุญใหญ่จริงๆครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111 056.jpg
      111 056.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.5 KB
      เปิดดู:
      31
  11. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 056.jpg

    111 078.jpg

    111 079.jpg 111 080.jpg 111 081.jpg

    ถวายบายศรีบูชาพระรัตนตรัย,พระบางฯ และถวายปัจจัยร่วมทำบุญบูรณหอพระบาง,กาชาดและบำรุงพิพิธภัณฑ์หลวงพระบางเก็บ รวบรวมพระพุทธรูปทองคำ,พระแก้วตลอดจนสมบัติของพระพุทธศาสนาฯ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ

    คำอธิษฐาน ร่วมอธิษฐานจิตถวายพระราชกุศลและกุศลให้ทุกๆท่านพ้นจากเครื่องจองจำ พันธนาการในโลกอันตระการดุจราชรถ ที่กำลังจะพาเราทั้งหลายไปสู่ความฉิบหาย ณ บัดนี้ (ตอนมามีอุบัติเหตุ 2 ครั้ง แต่บารมีพระก็คุ้มครองพวกเรารอดมาทำบุญพุทธบูชาฯได้กันอีกตามเคย)
    <!-- attachments -->
     
  12. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 082.jpg

    พักทานข้าวเช้าตอนเที่ยง ร้อนและก็เหนื่อยมากเนื่องจากเมื่อคืนก็อดหลับอดนอนกันมาตลอดคืน ก็นับว่าเป็น 2 คืนติดกันแล้วที่ไม่ค่อยนอน มีชีวิตอยู่บนรถตลอด ร้านอาหารในเมืองและริมโขงส่วนใหญ่ท่านตั้งใจรับฝรั่งกัน ราคาก็เป็นแบบฝรั่ง ท่านใดที่คิดจะไปก็เตรียมใจกันนิดนะครับ พยายามหาร้านหรือตลาดช้อปแล้วหาที่ทานดีกว่าราคาประหยัดดี แต่ความจริงก็ต้องแพงเป็นธรรมดาเพราะของส่วนใหญ่ก็เอาไปจากบ้านเราทั้งนั้น อะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111 083.jpg
      111 083.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.2 KB
      เปิดดู:
      38
  13. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 119.jpg

    111 084.jpg 111 086.jpg 111 085.jpg


    วัดเชียงทอง ถวายปัจจัยดอกไม้ธูปเทียนทองเครื่องหอมฯ บูชาพระรัตนตรัย,พระบรมธาตุฯ ร่วมสร้างและบูรณพระพุทธรูป,พระบรมธาตุ,พระวิหารฯ ร่วมทำบุญทุกอย่างกับหลวงพ่อฯ ร่วมสร้างวัดเชียงทอง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ
    ปล.วิหารเก็บพระโกศและราชรถเจ้ามหาชีวิต มีพระปางเสด็จลงจากดาวดึงส์,ปางเปิดโลกฯเยอะมากมายเลยครับที่เมืองหลวงพระ บาง ท่านชอบสร้างพระปางนี้ถวายเป็นพุทธบูชาฯกันมากจริงๆ พวกเราก็ถวายปัจจัยร่วมซ่อมพระกันยกใหญ่ บุญเยอะดีจริงๆครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111 087.jpg
      111 087.jpg
      ขนาดไฟล์:
      341.2 KB
      เปิดดู:
      35
    • 111 088.jpg
      111 088.jpg
      ขนาดไฟล์:
      354.6 KB
      เปิดดู:
      40
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2009
  14. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 091.jpg

    111 089.jpg 111 092.jpg 111 093.jpg

    111 095.jpg

    วิหารหลวง วัดเชียงทอง เป็นศิลปกรรมแบบล้านนาผสม ดูสวยงามลงตัวดีมากครับ พวกเราเข้าไปกราบพระประธานและสวดมนต์ร่วมทำบุญบูรณพระพุทธรูป,พระวิหารฯ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ กาลเวลาผ่านมาหลายร้อยปี วิหารแม้จะดูโทรมลงไปมาก แต่จิตวิญญาณของความสงบสว่างตามแนวของพระยังมีให้เห็นอยู่อย่างเหลือเฟือ ครับ ถัดจากวิหารลงไปก็เป็นแม่น้ำโขงครับ วัดนี้มีที่ตั้งดีมากครับ ดูสวยงามแบบธรรมชาติดีครับ สมเป็นเมืองมรดกโลกครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111 097.jpg
      111 097.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.5 KB
      เปิดดู:
      38
    • 111 098.jpg
      111 098.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.4 KB
      เปิดดู:
      31
    • 111 099.jpg
      111 099.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.5 KB
      เปิดดู:
      32
  15. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 103.jpg

    111 100.jpg 111 106.jpg 111 110.jpg

    วิหารประดับกระจกศิลปหลวงพระบาง นับว่าเป็นเอกลักษณ์ของงานประดับกระจกของที่นี่เลยครับ งดงามมากมายกว่าที่เห็นในรูปในภาพถ่ายเยอะครับ พวกเราขอร่วมโมทนาถวายปัจจัยซ่อมและบูรณเผื่อวันข้างหน้าจะได้อยู่ไปตลอด อายุพระศาสนาฯ ให้คนรุ่นหลังได้เห็นความเลื่อมใสในคุณพระรัตนตรัยของคนในสมัยก่อนๆ ว่ามีความอลัการเพียงใด บ่ายนี้แม้แดดร้อนมากพวกเราก็ไม่หวั่นในการทำบุญ ยังทำกันอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อยแม้จะล้าจากการเดินทางไกลก็ตาม
    ที่นี่มายากไหนๆก็มากันแล้วก็เก็บบุญเก็บกุศลกลับบ้านกันให้เต็มที่ครับ
    ปล.ชาวต่างชาติก็มากันมากมายเหมือนเดิมครับสำหรับที่นี่ ตรึม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111 111.jpg
      111 111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98 KB
      เปิดดู:
      31
    • 111 113.jpg
      111 113.jpg
      ขนาดไฟล์:
      428.2 KB
      เปิดดู:
      35
    • 111 114.jpg
      111 114.jpg
      ขนาดไฟล์:
      388.2 KB
      เปิดดู:
      36
    • 111 115.jpg
      111 115.jpg
      ขนาดไฟล์:
      231.9 KB
      เปิดดู:
      36
  16. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 116.jpg 111 118.jpg 111 116.jpg

    111 104.jpg

    คำอธิษฐาน
    ตั้ง นโมฯ 3 จบ ขอขมาคุณพระรัตนตรัย อาราธนาพระฯ สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย ขอบารมีพระทุกพระองค์ตลอดบุญทั้งหมดที่ได้บำเพ็ญมาให้สถานที่นี้เป็นที่ตั้ง ที่จำเริญแห่งพระพุทธศาสนาจนครบ 5,000 ปี ตามพุทธพยากรณ์ถวายเป็นพุทธบูชาฯ อุทิศส่วนกุศล กราบพระ แผ่เมตตาฯ

    หมายเหตุ หลังจากนั้นเราก็ปรารภกันเรื่องข้าวเหนียวและของทานอื่นๆที่ชาวบ้านนำมาวาง ไว้ตามบันได และที่อื่นๆเพื่อบูชาพระอีกเป็นอันมาก จึงอธิษฐานขอให้พระท่านสงเคราะห์รับไปให้หมด ไม่ให้ตกหล่น ระหว่างนั้นได้อยู่ใกล้ต้นมะม่วงยมกปาฏิหาริย์ ได้เห็นนิมิตพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากดาวดึงส์ จึงพร้อมใจกันอาราธนาพระอีกครั้ง แบบนี้เลยครับ

    คำอธิษฐานพิเศษ นโมฯ 3 จบ ขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าพร้อมพระอรหันต์ 500 รูปที่ได้เสด็จมาคราวนั้น ขอพระองค์และพระทุกองค์ได้โปรดสงเคราะห์เสด็จลงจากดาวดึงส์ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี เพื่อรับภัตตาหารที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้มีจิตเลื่อมใสในคุณพระรัตนตรัย จักถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาทุกปี นับจากนี้จนสิ้นอายุพระศาสนาฯ

    ปล.เหตุนี้เองจึงเป็นปัจจัยให้คณะเราจักกลับไปใส่บาตรพระ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ขอให้พระทุกพระองค์ได้โปรดสงเคราะห์ให้เป็นไปตามนั้นทุกประการครับ อันนี้เป็นการไปแบบอภิญญานะครับ ถึงตอนนี้พวกเราถึงรู้ว่าแม้สถานที่นี้ไม่ใช่สถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจาก ดาวดึงส์เพื่ออธิษฐานเปิดโลก ทำไมชาวเมืองที่นี่ถึงได้สร้างพระปางนี้ ถวายเป็นพุทธบูชาฯกันเยอะมากนับแต่ในอดีตที่ผ่านมา สาธุ ขอร่วมโมทนาบุญกุศลทั้งหมดนี้ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ ให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองตั้งมั่นตลอดกาลนานเทอญฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111 107.jpg
      111 107.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.7 KB
      เปิดดู:
      33
  17. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 001.jpg

    ถวายปัจจัยร่วมสร้างและบูรณพระพุทธรูป,พระวิหารฯ ร่วมสร้างประทีปเรือไฟฯ ร่วมทำบุญทุกอย่างกับหลวงพ่อฯ ร่วมสร้างวัดคีรี ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ
    หมายเหตุ วัดนี้ทำบุญระหว่างรอคนขึ้นรถ คนรอได้บุญทำให้เพื่อนๆหรือท่านที่มาช้ามีโอกาสไปทำบุญด้วย ระหว่างรอก็หาบุญทำเพิ่มก็ได้บุญเพิ่มไปอีก อนึ่งเป็นการฝึกอารมณ์ให้มั่นคงไม่หงุดหงิดฟุ้งซ่าน และการไม่เกิดอีกครับ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าธรรมดาโลกเป็นแบบนี้ ไม่มีอะไรลงตัว ไม่น่าอยู่ ควรไปพระนิพพาน และในเวลาอยู่ก็ไม่ควรประมาท ควรหมั่นขวนขวายและคิดทำในสิ่งที่ดีที่เป็นบุญเป็นกุศลเพื่อความไม่เกิดอีก เท่านั้นพอครับ ขอให้มีความสุขทุกๆท่านนะครับ
    ปล.ที่หลวงพระบางมีวัดเยอะมากครับ นึกถึงอยุธยา สุโขทัย เชียงใหม่ กำแพงเพชรฯ ขึ้นมาทันทีเลยครับ มีวัดอยู่ติดๆกันหลายๆวัดเหมือนกันอย่างกับแกะ ดีครับจะได้ร่วมทำบุญเยอะๆด้วยเหมือนกัน อิ่มบุญกันถ้วนหน้างานนี้ ในเมืองหลวงพระบาง ในช่วงออกพรรษาสังเกตดูทุกวัดจะสร้างประทีปเรือไฟ ถวายเป็นพุทธบูชาฯกันทุกวัดครับ
     
  18. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 003.jpg

    111 004.jpg 111 005.jpg 111 007.jpg

    ถวายปัจจัยร่วมสร้างและบูรณพระพุทธรูป,พระวิหารฯ สร้างประทีปเรีอไฟ,บูชาพระศรีมหาโพธิ์ฯ ร่วมทำบุญทุกอย่างกับหลวงพ่อฯ ร่วมสร้างวัดอาราม ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ
    หมายเหตุ เรื่องพระแม่ธรณีในเมืองลาว ส่วนใหญ่ท่านจะยืนบีบมวยผมนะครับ และมีกันทุกวัด ถ้าสังเกตให้ดีเมื่อเวลาชาวหลวงพระบางท่านทำบุญเสร็จแล้วจะต้องกรวดน้ำทุก ครั้งครับ เหมือนเป็นประเพณีของที่นี่เลยครับ

    ปล.พระเณรท่านกำลังสามัคคีขมักเขม้นทำเรือไฟ เพื่อลอยประทีปถวายเป็นพุทธบูชาฯกันในค่ำคืนนี้ครับ บางวัดก็ตั้งไว้แบบนี้ครับไม่ได้นำไปลอยในน้ำ จุดถวายกันบนบกเลย วัดนี้อยู่หลังเขาวัดพระธาตุพูสี มองเห็นพระธาตุพูสีงามเด่นเป็นสง่าอยู่บนดอยนันทกังรีด้วยครับ (ได้ไหว้พระธาตุพูสีกันอีกรอบครับ ดีจริงๆ)


    111 008.jpg 111 009.jpg 111 010.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111 001.jpg
      111 001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.1 KB
      เปิดดู:
      27
  19. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    111 006.jpg

    ถวายปัจจัยเครื่องหอมฯ บูชาคุณพระรัตนตรัย,พระบรมธาตุฯ ร่วมสร้างและบูรณพระพุทธรูป,พระบรมธาตุ,พระวิหารฯ ร่วมทำบุญทุกอย่างกับหลวงพ่อฯ ร่วมสร้างวัดวิชุนราช(ธาตุหมากโม) ถวายเป็นพุทธบูชาฯ และร่วมโมทนาบุญทั้งหมดในพระพุทธศาสนาฯ
    หมายเหตุ วัดวิชุนราช(ธาตุหมากโม)
    ตั้งอยู่ทาง ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวงพระบาง ถนนวิชุนราช สร้างขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ. 2046 ในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในบรรดาวัดทั้งหมดในเมืองหลวงพระบางเป็นต้องยกนิ้วให้วัดวิชุนในเรื่องมี ความแปลกที่พระธาตุรูปร่างโค้งมนเหมือนผลแตงโม และเจดีย์รูปทรงแปลกตานี้เอง ที่กระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรมของลาวยกให้มีความสำคัญและความโดดเด่นของวัด วิชุน
    • วัดวิชุนราชนี้สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐาน พระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ ภายในวัดวิชุนราชมีปทุมเจดีย์หรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ ซึ่งพระนางพันตีนเชียง พระอัครมเหสีของพระเจ้าวิชุนราชโปรดฯให้สร้างขึ้นในพ.ศ. 2057 หลังจากสร้างวัดแล้ว 11 ปี ด้วยรูปทรงของเจดีย์มีลักษณะคล้ายแตงโมผ่าครึ่งทำให้ชาวเมืองหลวงพระบาง เรียกว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุมีลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย บริเวณมุมฐานชั้นกลางและชั้นบนมีเจดีย์ทิศทรงบัวตูมทั่งสี่มุม พระธาตุหมากโมนี้มีสีดำเก่าๆ แม้จะเคยผ่านการบูรณะปฎิสังขรมาแล้วสองครั้ง ในปีพ.ศ.2402 รัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินทร์(คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ อีก 19 ปีต่อมา ในปี พ.ศ.2457 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์มีการปฎิสังขรอีกครั้ง ซึ่งการบูรณะครั้งนี้พบโบราณวัตถุมากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่แกะสลักจากแก้วซึ่งคล้ายกับพระแก้วมรกต โบราณวัตถุเหล่านี้ได้นำถวายเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเก็บรักษาไว้ในพระราชวังหลวงพระบางในปัจจุบัน
    พระอุโบสถหรือที่ชาวลาวเรียกว่าสิม เป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบาง ตัวอุโบสถมีรูปทรงอาคารไทลื้อสิบสองปันนา ซึ่งมีจุดเด่นคือส่วนคอชั้นสองจะยกระดับสูงขึ้นไป ส่วนบนหลังคาประดับด้วยโหง่(หรือช่อฟ้าแบบไทย) ตรงกลางหลังคามีช่อฟ้า เป็นรูปปราสาทยอดฉัตรเล็กๆ ลดหลั่นหลายชั้น หน้าต่างพระอุโบสถประดับด้วยลูกมะหวด บานประตูด้านหน้าทั้งสามช่องแกะสลักลงรักปิดทอง มีรูปพระศิวะ พระวิษณุ พระพรหม และพระอินทร์ ศิลปะแบบเชียงขวาง
    พระประธาน หรือพระองค์หลวงในพระอุโบสถมีขนาดใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง ด้านหลังพระประธานมีโบราณวัตถุที่เก็บรวบรวมมาจากวัดร้างต่างๆ ในหลวงพระบาง เช่นพระพุทธรูปสำริด พวกไม้จำหลักลวดลายต่างๆ พระพุทธรูปไม้แกะสลักลงรักปิดทองสูงเท่าคนจริงจำนวนมาก

    ปล.ธาตุหมากโมนี้มีความเกี่ยวพันกับตำนานการกำเนิดพระแก้วด้วยนะครับ วัดนี้อยู่ติดกับวัดอารามเลยครับ พวกเราเดินเข้ามาทางวัดอารามกันใกล้ดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    ยังมาไม่ถึงครึ่งทางเลยครับ ไว้ค่อยมาโพสต่อ .... ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...