ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    ขออนุโมทนากับคุณเมย์ และพี่ jks ด้วยนะคะ
    ดีใจจังเลยค่ะ จะได้ร่วมปล่อยปลาและโคกระบือด้วย
    และในวันที่ 23 คณะของพวกเราอยู่ในเวียงเจียงใหม่กันอยู่แล้ว จะได้กราบนมัสการหลวงพ่อทองและครูบาดวงดีด้วยค่ะ ท่านเป็นพระอริยเจ้าที่มีความเมตตาสูงมากค่ะ โชคดีมากๆเลยค่ะ ^_^

    ส่วนเรื่องการเข้าชมการถ่ายทอดสด เดี่ยวใกล้ๆวันงานอ้อยจะเอาลิงก์มาโพสไว้นะคะ ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากค่ะ แค่คลิกเข้าไปตามลิงก์ก็จะสามารรับฟังและรับชมได้เลยค่ะ ^_^

    ปล. น้องคาเรียคะ พวกพี่พักโรงแรมใกล้ๆ มช. น่ะค่ะ สามารถไปรับน้องมาที่วัดพร้อมกันได้ค่ะ ^_^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2009
  2. Ga_t

    Ga_t เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +867
    อยู่ใกล้กับตัวเมืองครับแต่ระหว่าง มช. กับที่วัด อยู่คนละฟากเลยครับ ที่พวกเราไปพักกันก็อยู่ใกล้ๆกับ มช. นั่นแหละครับ เข้าใจว่าน่าจะอยู่ทางถนนห้วยแก้วครับ(ที่พัก) ลองดูครับเผื่อได้มาทำบุญร่วมกัน ขออนุโมทนาด้วยครับ

    ส่วนรูปถ่ายผมว่าบางส่วนน่าจะเอาไปลงที่เวปนี้ด้วยนะครับ
    http://www.ourmanomayitti.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2009
  3. Nutthawut

    Nutthawut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +479
    อ่านกำหนดการแล้วรู้สึกอิ่มในบุญที่จะเกิดขึ้น เสียดายผมอยู่ไกลและไม่ค่อยสะดวกเลยไม่ได้มีส่วนร่วมเลย แต่ขอร่วมโมทนาในมหากุศลครั้งนี้ด้วยครับ ขอผลบุญที่ทุกท่านได้ร่วมกันบำเพ็ญในครั้งนี้จงเป็นปัจจัยให้ทุกท่านเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาตินี้ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. Ga_t

    Ga_t เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +867
    สาธุ ขออนุโมทนาด้วยครับ เดี๋ยวลองปรึกษากันหาที่นัดเจอกันที่สะดวกก่อนเคลื่อนขบวนกันอีกทีจะได้สะดวกกันทุกๆท่านครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2009
  5. ปฏิสัมภิทัปปัตโต

    ปฏิสัมภิทัปปัตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    375
    ค่าพลัง:
    +1,326
    อนุโมทนากับน้องเจี๊ยบด้วยค่ะ
     
  6. Doughnut

    Doughnut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +15,615

    กราบพระบาทองค์พระศาสดา พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์ทั้งหมด รวมถึงเหล่าเทพเทวดาและพรหม


    ขออนุญาต คุณ me,Myself ตัดทอนข้อความบางส่วนออกไป จากที่คุณ Me,myself เขียนมานะคะ (ละไว้ ด้วย .... ) ด้วยความเคารพค่ะ

    เหตุที่นำมาเพียงบางส่วน เพราะเมื่อวานนี้ช่วงกลางคืน ตั้งใจจะเปิดหาภาพวัดกู่เสือ ให้แม่ได้เห็นว่าลูกสาวจะเป็นตัวแทนคนในครอบครัวไปทำบุญที่ไหน จะนำภาพให้ดู แต่ว่า..หลายหน้าเหลือเกิน เปิดเน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ ช้าพอๆ กับพัฒนาการของหลินปิง + เต่าน้อยเดินถอยหลัง.. หาเท่าไหร่ไม่พบภาพวัดค่ะ

    ได้แต่บอกแม่คร่าวๆ ว่าเราไปทำบุญอะไรบ้าง บังเอิญพบข้อความที่คุณ Me,myself เพิ่งโพสจบไปหมาดๆ ขยายใหญ่ ให้แม่ได้อ่าน แม่อ่านแล้วบอกว่า "ขอโมทนา สาธุ" กับญาติธรรมทุกท่านในบุญกุศลครั้งนี้ด้วยค่ะ

    แต่หนิงสงสัยเองว่า "กฐิน" และ "มหากฐิน" แตกต่างกันตรงไหนค่ะ เข้าใจว่ามหากฐินคือการถวายกฐินที่ยิ่งใหญ่ เป็นการรวมกลุ่มคนมากมายร่วมกันทำกฐินในครั้งนี้ซึ่งถือว่าเป็นการรวมตัวที่มากกว่า การจัด "กฐิน" อื่นๆ หรือเปล่าคะ

    แหะๆ โปรดเมตตาด้วยนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2009
  7. คาเรีย

    คาเรีย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +3,611

    อ๋อค่ะ จะได้บอกเพื่อนถูก หนูก็เพิ่งคิดได้ว่ามีเพื่อนเรียน มช.นี่หว่า
    เลยโทรหามันเมื่อวาน เพราะตอนแรกเหมือนจะเข้าใจว่าช่วงนั้นมันกลับมากรุงเทพ ที่ไหนได้ มันบอกว่าอยู่ ชม. พอดี (แหะๆ ประหยัดตังค์เลย หนูยังเด็กหาเงินเองยังไม่ได้)
    แถมเพื่อนยังอยากจะไปร่วมงานด้วยอีกต่างหากค่ะ ตอนนี้หนูกำลังหาหนทาง
    เดินทางจากอุดรไปเชียงใหม๋อยู่ค่ะ ^^

    ปล. ขอบคุณพี่อ้อยมากนะคะ หนูขอติดรถไปด้วยนะคะ หนูไปไม่เป็น T^T
     
  8. ขาโจ๋ข้าเอง

    ขาโจ๋ข้าเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +4,856
    ถาม : (ไม่มีเสียง)

    ตอบ : เรื่องของบุญกฐินหลวงพ่อเคยบอกเอาไว้ว่า ใครเป็นเจ้าภาพกฐินตั้งแต่ ๓ ปี ติดกันขึ้นไปให้สังเกตตัวเองไว้ ความเป็นอยู่จะคล่องตัวกว่าคนอื่นเขา อันนี้พิสูจน์มาแล้ว เพราะว่าจะเป็นเจ้าภาพกฐินทุก ๆ ปี ติดกันมาตั้งแต่ก่อนบวช จนกระทั่งบวชมาสิบกว่าปีแล้วรู้สึกว่าทำอะไรคล่องตัวดี

    ถาม : หมายถึงในปัจจุบันด้วยนะคะ ?

    ตอบ : จ้ะ ชาติปัจจุบันนี้เลย ความคล่องตัวมันจะเกิดขึ้นเอง ถ้าเราไม่มีความสามารถจะเป็นประธานกฐินเองก็ร่วมกับคนอื่นเขา จะปัจจัยหรือว่าเป็นสิ่งของก็ได้ อย่างพระพุทธเจ้าสมัยท่านเกิดเป็นมหาทุคคตะ เจ้านายจะทอดกระฐิน ท่านเองท่านอยากจะร่วมบุญด้วย มีแค่เข็มกับด้ายเท่านั้นเอง ร่วมในกฐินแล้วท่านตั้งความปรารถนาขอให้ท่านสำเร็จพระโพธิญาณในอนาคตด้วย อย่าคิดว่าทำแค่นั้นนะ ปรากฏว่าได้อย่างที่ต้องการ

    บุญกฐินเป็นบุญสังฆทานพิเศษ เหตุที่เรียกว่า เป็นสังฆทานพิเศษ เพราะจำกัดจำเขตที่ทำปีหนึ่งจะมีเวลาทำบุญกฐินได้แค่เดือนเดียว คือแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ จนถึงกลางเดือน ๑๒ วันลอยกระทง เพราะฉะนั้นบุญกฐินก็เลยถวายเป็นบุญพิเศษ เป็นสังฆทานที่มีอานิสงส์ใหญ่มาก

    หลวงพ่อท่านบอกว่าบุคคลที่ทำบุญกฐินถ้าเกิดใหม่จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๐๐ ชาติ หมดบุญจากนั้นลงมาเป็นพระมหากษัตริย์ ๕๐๐ ชาติ เป็นมหาเศรษฐี ๕๐๐ ชาติ ได้ลงไปเรื่อย ๆ ยังไม่ทันจะหมดบุญจากกฐินเข้านิพพานกันหมดแล้ว เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาสก็ทำถ้าไม่มีโอกาสก็รวมกันหลาย ๆ คน ไม่จำเป็นต้องมาก บุญกฐินสำคัญที่สุดตรงผ้าไตร ถ้าเรามีน้อยสบงผืนหนึ่งก็ได้ มีมากหน่อยก็จีวรสักผืนหนึ่งถ้าหากว่ามีครบไตรได้ก็ดี ถ้ามีมากกว่านั้นพระเขามีกี่องค์ถวายให้ครบองค์เป็นมหากฐิน

    เพราะฉะนั้นกฐินสำคัญตรงผ้าไตร กว้างคืบยาวคืบพระท่านเรียกว่าผ้าไตรแล้ว ผ้าสบงมันเกินคืบแน่ ๆ ก็คือจีวรในพระพุทธศาสนาดังนั้น ผู้ที่ถวายจีวรในพระพุทธศาสนาถ้าเป็นผู้หญิงเกิดใหม่จะมีเครื่องมหาลดาปสาธน์แบบนางวิสาขามหาอุบาสิกา เครื่องมหาลดาปสาธน์นี่เป็นเสื้อคลุมทั้งตัว ที่มีมงกุฏเป็นรูปนกยูงรำแพน หางลงมาข้างล่างต่อลงมาเป็นเสื้อคลุมทั้งตัว ท่านใช้คำว่า ร้อยด้วยแก้วมณี เฉพาะแก้วก็คือเพชร แก้วมณีคือเพชร เฉพาะเพชรอย่างเดียว ๑๖ ทะนาน บุญไม่ดีจริงคอหักตายไปเลย ถ้าเป็นผู้ชาย ถ้าได้บวชกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพอท่านตรัสเอหิภิกขุจะมีจีวรสำเร็จด้วยฤทธิ์ลอยมาสวมตัวให้เลย ได้ทั้งหญิงได้ทั้งผู้ชาย เกิดเป็นผู้หญิงก็ได้บุญอันนี้ เกิดเป็นผู้ชายก็ได้บุญอันนี้

    เพราะฉะนั้นการถวายจีวรในพระพุทธศาสนาจะมีกุศลขนาดนี้ แล้วถ้ายิ่งเป็นจีวรในช่วงกฐินด้วย กฐินสมัยก่อนผ้ามีน้อย ส่วนใหญ่ท่านจะคัดเลือกบุคคล คือ ภิกษุที่มีผ้าเก่าที่สุดเพื่อที่จะมอบผ้าใหม่ผืนนั้นให้กับท่านไป

    แต่ว่าในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่ผ้าจะได้มากอย่างวัดท่าซุงสมัย ก่อน หลวงพ่อท่านถวายองค์ละไตรเลย อย่างของอาตมาที่นิมนต์เขามาทุกวัดก็ถวายครบทุกองค์ เพราะฉะนั้นแต่ละปี ๆ จะสั่งผ้าไตรจีวรจากร้านประจำ สั่งกันมาทีหนึ่งหลายลัง ทางด้านร้านประจำเขาจะมาส่งจีวรถึงที่แล้วคิดราคาเดิมทุกปีไม่มีขึ้น เขาถือว่าเป็นลูกค้าประจำ ปีที่แล้วก็สั่งไป ๕๐ ชุด

    ถาม : ถ้าจบกฐินแล้ว (ฟังไม่ชัด)

    ตอบ : ไม่มีปัญหาอะไร เพราะว่าอนิสงส์กฐินจริง ๆ มันอยู่ที่คนทำซะมาก พระนี่พอรับกฐินแล้วจะมีอานิสงส์ตรงที่ว่าสามารถจะผ่อนคลายสิกขาบท คือ ศีลพระ ได้หลายข้อ อย่างเช่นว่า เที่ยวไปไม่ต้องบอกลา ถ้าก่อนจะได้อานิสงส์กฐินนี่จะไปไหนต้องแจ้งก่อนทุกครั้ง

    บางคนจะไปในที่ ๆ ตนเองคิดว่ามันไม่น่าจะบอกคนอื่นก็จะอึดอัดใจ ไม่อยากบอกใคร อย่างนี้สามารถฉันโภชนาได้ คณะโภชนาก็คืออาหารที่เจ้าภาพเขาออกชื่อ ถ้าเจ้าภาพนี่เขาออกชื่อนี่จะไปฉันเกิน ๓ องค์ไม่ได้ ถ้าเกิน ๓ องค์ เขาปรับอาบัติศีลขาดหมดเลย เพราะว่าสมัยก่อนพระมีเยอะ พอเจ้าภาพออกชื่ออย่างเช่นว่าถ้านางวิสาขามหาอุบาสิกา บอกพรุ่งนี้จะเลี้ยงข้าวมธุปายาส พระไปซะ ๕๐๐ องค์ อยากกินของดี เลยต้องสั่งห้ามคณะโภชนา คือเจ้าของออกชื่ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นแกงหมู แกงเป็ด แกงไก่ ถ้าบอกชื่อขึ้นมานี่ห้ามฉันเกิน ๓ องค์ ถ้า ๔ องค์ขึ้นไปเรียกว่า คณะโภชนา โดนปรับอาบัติทุกองค์ ถือว่ารบกวนเขามาก

    เพราะฉะนั้นพวกเราถ้านิมนต์พระฉันนี่ ให้บอกว่านิมนต์ฉันเช้า นิมนต์ฉันเพล อย่าไปออกชื่ออาหาร ถ้าออกชื่ออาหารพระไม่ได้ฉันหรอก ให้ฉันปรัมโภขนาได้ ปรัมโภชนานี่หมายความว่าเราฉันจากที่ของเราก่อนแล้วไปในที่นิมนต์ฉันต่อได้ เพราะว่าบางเจ้า อย่างทางวัดท่าซุง ถ้าเจอผู้ใหญ่จันทร์นิมนต์ นี่หน้ามืดทุกทีแหละ เพราะผู้ใหญ่จันทร์นี่สองโมงครึ่งยังไม่ได้ฉันเช้าเลย แกจะลากยาวของแกไปเรื่อยแหละ พอคนเตือนก็ ฮึ้ม ! มันจะหิวอะไรนักหนาเชียว ก็ตัวเองกินข้าวเย็น ตื่นเช้าขึ้นมาฟาดกาแฟไปอีกต่างหาก ส่วนพระแขวนท้องมาอย่างน้อย ๑๘ ชม. แล้วเขาไม่ได้นึกถึงตรงจุดนี้

    เพราะฉะนั้นถ้าได้อานิสงส์กฐิน เราฉันไปก่อนจะเป็นข้าวต้ม หรือกาแฟ หรือโอวัลติน ไปก่อนได้ แล้วไปฉันต่อที่โน่น แต่ถ้าหากว่าไม่ได้อานิสงส์กฐินแล้ว ไปฉันอย่างนั้นพระพุทธเจ้าท่านปรับอาบัติ ศีลขาดเพราะว่าไปฉันของเขาได้น้อย เดี๋ยวเจ้าภาพเขาจะเสียใจ มันทำลายศรัทธาเขา

    ผ้าที่เกิดขึ้นในที่นั้นสามารถเก็บไว้เป็นของตัวเองได้ คือหมายความว่า ผ้าที่ได้ในช่วงนั้น ถ้าเราได้อานิสงส์กฐิน เราเก็บไว้ใช้เองได้ ถ้าหากว่าไม่ได้อานิสงส์กฐินได้มาต้องวิกัป คือทำเป็น ๒ เจ้าของ หมายความว่า เป็นเจ้าของร่วมกับคนอื่น หากเขาต้องการใช้เขาเอาไปได้ ไม่อย่างนั้นแล้วกลัวจะเป็นการสะสมเพราะสมัยนั้นถ้าหากว่าเศรษฐีเขาถวายใช่ มั้ย ? อย่างผ้าสาฏกผืนหนึ่งราคาต่ำสุด ๒๐๐,๐๐๐ กหาปณะ ๘๐๐,๐๐๐ บาทสมัยโน้นน่ะ สมัยนี้ ๘๐๐,๐๐๐ ก็ไม่ได้หรอก กลัวว่าพระจะสะสมของดี ๆ เยอะไป ก็เลยห้ามไว้เหล่านี้ เป็นต้น

    เพราะฉะนั้นจะผ่อนคลายสิกขาบทนี้ได้ ศีลทั้งหลายเหล่านี้ พระพุทธเจ้าท่านจะหย่อนให้ คือ เครียดมาทั้งพรรษาแล้ว ออกพรรษาได้อานิสงส์กฐิน ผ่อนให้หน่อยหนึ่งจนถึงกลางเดือนสี่ เป็นอันว่าเริ่มกลับเข้าไปเข้างวดตามเดิม อานิสงส์กฐินนี่ถ้าจำพรรษามา ตลอดพรรษาแล้ว ไม่ได้กรานกฐินจะได้อานิสงส์นี้เดือนเดียว แต่ถ้าได้กรานกฐิน ก็เพิ่มให้จนถึงกลางเดือนสี่ ก็เท่ากับว่าได้ไปห้าเดือนเต็ม ๆ เพราะฉะนั้นอานิสงส์กฐินมีมาก คนทำได้เยอะแต่ขณะเดียวกันก็ช่วยให้พระสงส์ได้ผ่อนคลายจากระเบียบอันเข้มงวด ลงไปบ้าง แล้วอีกอย่างหนึ่งเป็นทานที่จำกัดเวลา ก็เลยมีอานิสงส์มากเป็นพิเศษ

    หลวงพ่อท่านให้สังเกต ก็ลองสังเกต จริงอย่างท่านว่าทุกอย่าง ท่านบอกว่าใครได้เป็นเจ้าภาพกฐินติดกันตั้งแต่ ๓ ปีขึ้นไป สังเกตความเป็นอยู่ของตัวเองจะคล่องขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เราเองถ้าไม่ได้สังเกตก็ไม่รู้สึก แต่ถ้าสังเกตแล้วจะรู้ อย่างคนคนอื่นลำบากทำไมเราไปของเราเรื่อย ๆ จะเป็นอย่างนั้น ที่วัดก็ตั้งใจทอดกฐินถวายหลวงพ่อปีละ ๙ วัดทุกครั้ง แต่ส่วนมากมันเกินปีที่ผ่านมาเจอไป ๒๒ วัด คือพอเขาได้ยินแล้ว เขาเองกฐินไม่มีเขาก็จะมาขอ พอมาขอก็เอา ถึงเวลานิมนต์เขามา พอเรารับกฐินได้เท่าไหร่ก็หารกันไปเลย

    ตอนนั้นนะกลายเป็นว่า ถ้าเป็นกฐินของอาตมานี่ ตัวเองแทบจะไม่ได้รับเลย (หัวเราะ) คราวที่แล้วเจ้าภาพหลวงพี่สพฤกษ์ ท่านเป็นเจ้าภาพ ท่านจะนิมนต์พระมานั่งเรียงกันไปเลย แล้วเจ้าภาพแต่ละคนถวายเฉพาะของใครของมันเลย แต่ว่าโดยมารยาทแล้วถ้าถวายเสร็จนี่เขาจะถวายกลับคืนไห้กับเจ้าของวัด เราต้องประกาศเลยว่า อันนี้ถวายขาดเป็นสิทธิ์ให้เขาเอากลับได้เลย ไม่อย่างนั้นถ้าเขาคืนมาเขาจะไม่ได้อะไร เพราะฉะนั้นเจ้าภาพแต่ละคนมีแต่ประเคนไปเองเลย แล้วเขาเองเขารับเสร็จก็หอบกลับวัดไปได้เลย

    หลายคนเขาแปลกใจว่าเรารับกฐินแล้วทำไมไม่ได้สตางค์อะไรมากมายเหมือนคนอื่น เขา บอกไม่ขาดทุนก็บุญแล้ว (หัวเราะ) เพราะว่ายังต้องเลี้ยงโยมเลี้ยงอะไรอีก มันจะมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ว่าจากความตั้งใจคือเดือนตุลาคม ซึ่งมักจะเป็นช่วงกฐิน จะเป็นเดือนมรณภาพของหลวงพ่อ แล้วเป็นเดือนที่จัดงานวันเกิดหลวงพ่อด้วย ทั้งเกิดและทั้งตายเดือนเดียวกัน ตั้งใจตั้งแต่ออกไปอยู่ทองผาภูมิว่าจะทำถวายหลวงพ่อทุกปี แล้วก็สามารถทำมาได้ทุกปีเหมือนกันนะ




    จากกระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๗ หน้า ๕ ของหลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุนครับ
    อ่านเจอมาพอดีฮับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2009
  9. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เอามาให้อ่านกันค่ะ
    -------------------------------------------------------------------------
    อานิสงส์การทอดกฐินและการทอดผ้าป่า
    <HR>
    ผู้ถาม : "การทอดผ้าป่า บางแห่งเขามีชะนีกับพุ่มไม้ แต่ที่วัดท่าซุงนี่ไม่เห็นมีอะไรเลย อานิสงส์จะสู้มีชะนีได้หรือเปล่าคะ.?"
    หลวงพ่อ : "สู้ไม่ได้หรอก เพราะไม่มีร้อง "ผัวโว้ย ๆ" คือว่าผ้าป่านี่น่ะ เดิมทีเดียวพระพุทธเจ้าท่านแนะนำให้ถวายสังฆทาน ท่านบอกว่าถวายของไม่เจาะจง รูปหนึ่งรูปใดมีอานิสงส์มากเป็นสังฆทาน ทีนี้ต่อมาญาติโยมมีน้อย พระมาก แกจะประเคนองค์ใดองค์หนึ่งก็เกรงใจองค์อื่น เลยเอาแบบนี้แล้วกัน เราไม่เจาะจงพระเอาไปแขวนตามต้นไม้ใกล้กุฏิ หรือป่าช้า ถ้าพระองค์ไหนพบ ชักเอาไปก็ถือว่าเป็นสังฆทาน เขาถือตามรูปนี้นะ ต่อมาญาติโยมอยู่ไกลป่า เลยไปตัดกิ่งไม้มา ชะนีก็ชะนีปลอม คือไม่มีความจำเป็นนะ ถวายผ้าป่าก็คือถวายสังฆทาน นั่นเอง ก็ทำมันตรงไปตรงมาก็หมดเรื่อง"

    ผู้ถาม :
    "ที่วัดท่าซุง ชอบใจอยู่อย่างครับ คือไปถึงก็ถวายได้เลย ไม่ต้องไปว่า อิมานิ อิมาแนะ สู้สะดวกนิของหลวงพ่อไม่ได้"
    หลวงพ่อ : " จะไปว่าอะไร เขาตั้งใจมาตั้งแต่บ้านแล้ว ที่นำน่ะ หมายถึงหลายๆ คน ด้วยกัน ต้องว่านำ ดีไม่ดีหัวหน้าว่ามากเกินไป รำคาญ บุญหล่นอีก อันที่จริงพระท่านก็ทราบแล้วว่าเป็นสังฆทาน ผู้รับองค์เดียวก็ไม่มีสิทธิ์ใช้แต่ผู้เดียว"

    ผู้ถาม : "ปัจจุบันโรงเรียนหลายแห่งมักจะหาเงินเข้าโรงเรียนโดยการทอดผ้าป่า มีผ้าไตรจีวรเสร็จ แล้วก็แบ่งถวายพระเล็กน้อย ส่วนใหญ่ก็เข้าโรงเรียน ลูกมีความไม่สบายใจเกรงว่าบุญอันนี้จะไม่สมบูรณ์แบบ เกรงว่าจะเป็นของสงฆ์ไปด้วย ลักษณะอย่างนี้อยากเรียนถามหลวงพ่อว่า ได้บุญมากกว่าหรือบาปมากกว่าเจ้าคะ..?"
    หลวงพ่อ : "ความจริงถ้าบอกเขาตรง ๆ ว่าจะไปช่วยโรงเรียนนะ แล้วก็บอกเขาว่าส่วนหนึ่งก็จะถวายพระ ถ้าทำตามนั้นอานิสงส์สมบูรณ์แบบ พูดตรงไปตรงมานะ โกงไปโกงมาไม่ได้ หมายความว่าส่วนใดถวายพระ นั่นเป็นสังฆทานแท้ ส่วนใดที่ให้โรงเรียนก็เป็นทานบารมีไป เป็นทานส่วนบุคคลนะ อานิสงส์ต่ำหน่อย"

    ผู้ถาม : "เมื่อปี พ.ศ. 2527 กระผมเป็นหัวหน้าจัดทอดผ้าป่าหลายครั้ง ได้เงินเป็นจำนวนมาก แต่เวลาเดินทางไปผมก็ซื้อขนมเลี้ยงกันในรถ เลี้ยงเหล้าเลี้ยงอาหารก็หลายครั้ง ตอนนี้ผมหูตาสว่างเมื่อได้พบหลวงพ่อ จึงอยากจะชดใช้เวรกรรมที่กระทำไว้ จึงขอปรึกษาหลวงพ่อว่า เราควรจะเพิ่มดอกเบี้ยเท่าใด พระยายามจึงจะอโหสิครับ..?"
    หลวงพ่อ : "เอ..เดี๋ยว ๆ ขอค่าติดต่อ ได้ตังค์แล้วตอนนี้(หัวเราะ) มิน่าเล่าตอนนั่งสมาธิท่านลุง (พระยายม) ถึงได้ขึ้นมา ถาม "มีเรื่องอะไร ลุง" บอก "วันนี้มีธุระ" อันนี้จริง ๆ นะ"

    ผู้ถาม : "แสดงว่าท่านรู้ล่วงหน้าหรือครับ..?"
    หลวงพ่อ : "ใช่ ท่านรู้ว่าฉันจะได้สตางค์ เอายังงี้ก็แล้วกันนะ ประเดี๋ยวก่อน คนที่ไปกินด้วยกันคือพวกเดียวกันหรือเปล่า พวกออกสตางค์หรือเปล่า ต้องดูก่อนนะ ถ้าเงินที่อื่น คนอื่นด้วย ก็ควรชำระหนี้สงฆ์ไป
    ถ้าหากว่าคนที่ไปเป็นคณะ เราเรี่ยไรเฉพาะคณะนั้นนะ แล้วไปด้วยกันซื้อแบ่งกันกิน อันนี้ไม่เป็นไรต่างคนต่างกิน ลงก็ลงด้วยกัน แต่คงไม่ลง คือว่าถ้าเรี่ยไรเฉพาะคนนั้น เขาทราบอยู่อันนี้ไม่เป็นไร ถ้าเอาเงินจากคนอื่นไปด้วย อันนี้ควรจะชำระหนี้สงฆ์"

    ผู้ถาม : "ต้องเป็นวัดที่เราเคยไปทอดใช่ไหมครับ..?"
    หลวงพ่อ : "วัดไหนก็ได้ เข้าเขตสงฆ์ก็แล้วกัน ใครทำมาบ่อยก็จัดการแก้ไขเสีย"

    ผู้ถาม : "หลวงพ่อคะ การทอดผ้าป่า กับ การทอดกฐินอย่างไหนได้อานิสงส์มากน้อยกว่ากันคะ..?"
    หลวงพ่อ : "ความจริง ผ้าป่า กับ กฐินเป็นสังฆทานด้วยกันทั้งคู่นะ แต่ถ้าว่าอานิสงส์โดยเฉพาะกฐินได้มากกว่า เพราะว่ากฐินมีเวลาจำกัด จะทอดตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงกลางเดือน 12 แต่อานิสงส์ได้ทั้งสองฝ่าย คือ ผุ้ทอดก็ได้ พระผู้รับก็ได้ พระผุ้รับมีอำนาจคุ้มครองพระวินัยได้หลายสิกขาบท ทำให้สบายขึ้น
    ต้นเหตุแห่งการทอดกฐินนี้ ก็มี นางวิสาขา เป็นคนแรก ในสมัยนั้นพระพุทธเจ้าท่าทรงบัญญัติการจำพรรษา เพื่อป้องกันพระไปเดินเหยียบต้นพืชต้นข้าวที่ชาวบ้านเขาปลูกไว้ใน ฤดูฝนไม่ให้เสียหาย
    ครั้นเมื่อออกพรรษาแล้ว ภิกษุชาวปาฐา 30 รูปเดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ในเวลานั้นพระสงฆ์ทั้งหลายมีผ้าจำกัดเพียง 3 ผืนเท่านั้น เมื่อมาถึงในขณะที่นางวิสาขา เฝ้าพระพุทธเจ้าอยู่พอดี เห็นพระมีผ้าสบงจีวรเปียกโชกด้วยน้ำฝนและน้ำค้าง จึงได้กราบทูลขอพรแด่พระพุทธเจ้าว่า " หลังจากออกพรรษาแล้ว ขอบรรดาประชาชนทั้งหลายมีโอกาสถวายผ้าไตรจีวร แก่คณะสงฆ์ด้วยเถิด" พระพุทธเจ้าก็ทรงอนุมัติ ส่วนผ้าป่าก็เป็นสังฆทาน แต่อานิสงส์จะน้อยไปนิดหนึ่ง แต่ทั้งสองอย่างก็เป็นสังฆทานเหมือนกัน แต่เป็นสังฆทานเฉพาะกิจ กับสังฆทานไม่เฉพาะกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าป่า ผู้ให้ก็ได้อานิสงส์ ผุ้รับก็มีอานิสง์แต่เพียงแค่ใช้ เป็นอันว่าทั้งสองอย่างนี้ถือว่าอานิสงส์การทอดกฐินมากกว่าผ้าป่า แต่ว่าการทอดกฐินปีหนึ่งครั้งเดียว ผ้าป่าทอดได้หลายครั้ง อานิสงส์ผ้าป่าย่อมได้น้อยกว่านะ"

    ผู้ถาม : "แล้วองค์กฐินที่แท้จริงเป็นอย่างไรคะ..?"
    หลวงพ่อ : "องค์กฐินจริง ๆ คือ ผ้าไตร นอกนั้นเป็นบริวาร เวลากรานกฐินจริง ๆ เรากรานกันแต่ผ้า การถวายก็ไม่ยาก เรามีผ้าจีวรผืนหนึ่งหรือว่าสบงผืนหนึ่ง หรือว่าสังฆาฏิผืนหนึ่งอย่างใดอย่างหนึ่งก้ได้ เขาเรียกว่า จุลกฐิน หรือจะถวายไตรจีวรครบทั้งวัด เขาเรียกว่า มหากฐิน
    ฉะนั้น จะถวายมากก็ได้ ถวายน้อยก็ได้ อานิสงส์เหมือนกัน โดยเฉพาะที่วัดท่าซุง จัดเป็นกฐินสามัคคี เป็นเจ้าภาพร่วมกันทุกคน ได้อานิสงส์เท่ากันหมด
    สำหรับการทอดกฐินครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านเคยเทศน์คือพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระปทุมุตตระท่านเคยเทศน์วาระหนึ่ง สมัยที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็น มหาทุคคตะ
    คำว่า มหาทุคคตะ นี้จนมาก เป็นทาสของท่านคหบดี ได้ไปฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้าว่า อานิสงส์กฐินนี้มีมาก ท่านจึงกลับไปชวนนาย แต่นายก็มอบหมายทรัพย์สมบัติให้ท่านเป็นผู้จัดการทุกอย่าง ท่านมหาทุคคตะอยากมีส่วนร่วมในทานนี้ด้วย แต่ไม่มีอะไรมีแต่เสื้อผ้าเก่า ๆ ขอตนที่มีติดตัวอยู่เพียงชุดเดียว จึงนำไปแลกที่ร้านในตลาด มีด้าย 1 กลุ่ม เข็ม 1 เล่ม เอามาร่วมในการทอดกฐินกับเจ้านาย เพื่อปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล พระองค์ทรงตรัสว่า คนถวายผ้ากฐิน หรือ ร่วมในการถวายกฐินทานครั้งหนึ่ง จะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็ได้ จะปรารถนาเป็นพระอรหันต์ก็ได้ แต่ถ้าหากว่ายังไม่ถึงพระนิพพาน เพียงใดอานิสงส์จะให้ผลแก่ท่านผู้นั้น เมื่อตายจากความเป็นคนไปเกิดเป็นเทวดาแล้วก็จะลงมาเป็น พระเจ้าจักรพรรดิ ปกครองโลก 500 ชาติ เมื่อบุญน้อยลงมาจะเป็น พระมหากษัตริย์ 500 ชาติ เป็น มหาเศรษฐี 500 ชาติ เป็น อนุเศรษฐี 500 ชาติ เป็น คหบดี 500 ชาติ แต่คนที่ทอดผ้ากฐิน หรือว่าร่วม ในการทอดผ้ากฐินครั้งหนึ่งก็ดี บุญบารมีส่วนนี้ยังไม่ทันหมดก็ปรากฏว่า ท่านเจ้าของทานไปนิพพานก่อน"


     
  10. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ผู้ถาม : "แล้วองค์กฐินที่แท้จริงเป็นอย่างไรคะ..?"
    หลวงพ่อ : "องค์กฐินจริง ๆ คือ ผ้าไตร นอกนั้นเป็นบริวาร เวลากรานกฐินจริง ๆ เรากรานกันแต่ผ้า การถวายก็ไม่ยาก เรามีผ้าจีวรผืนหนึ่งหรือว่าสบงผืนหนึ่ง หรือว่าสังฆาฏิผืนหนึ่งอย่างใดอย่างหนึ่งก้ได้ เขาเรียกว่า จุลกฐิน หรือจะถวายไตรจีวรครบทั้งวัด เขาเรียกว่า มหากฐิน
     
  11. squrez

    squrez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +2,987
    อนุโมทนา กับทุกๆท่านครับ
    พอดีผมมีเส้นทางการเดินทางจากที่พัก ไป ยังวัดกู่เสือมา แนบมาด้วยครับ เผื่อว่าน่าจะพอมีประโยชน์บ้างครับ (ปรึกษาพี่อ้อยแล้วครับ)^^
    [​IMG]

    ภาพที่พักแบบขยายครับ
    [​IMG]

    ภาพวัดแบบขยายครับ (ถ้าไม่ผิดนะครับ แฮะๆ)
    [​IMG]

    ขอบคุณเว็บ google มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
    ปล. www.maps.google.com ผมดูก่อนเดินทางไปไหนเป็นประจำครับ เผื่อมีประโยชน์ครับ ^.^
     
  12. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    แจ้งข่าวหน่อยค่ะ หลังจากที่ปรึกษากับคุณชนะแล้วก็น้องอ้อยแล้ว พวกเรามีความเห็นว่าจะคงเครื่องกฐินของกองกลางไว้ครบทุกอย่าง เพื่อให้ครบองค์มหากฐิน ส่วนท่านใดจะถวายเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาก็ยังสามารถทำได้อยู่ ส่วนเครื่องกฐินของกองกลางยังจะต้องมีอยู่ครบห้ามตัดออกค่ะ เพื่อให้ได้บุญกฐินครบถ้วน ดังนั้นเครื่องกฐินกองกลางก็จะมี

    1. ผ้าไตร 5 ชุด (ถวายแก่พระทั้งวัดซึ่งมี 5 รูป)
    2. พระพุทธรูป
    3. ผ้าห่มองค์พระประธาน
    4. หมอนกฐิน
    5. สัปทน
    6. บาตร
    7. ย่าม
    8. ตาลปัตร
    9. ที่ปักตาลปัตร
    10. เทียนปาติโมกข์
    11. ธงธรรมจักร
    12. ธงจรเข้
    13. หนังสือพระไตรปิฎกฉบับประชาชน
    จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกันนะคะ
     
  13. Doughnut

    Doughnut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +15,615
    กระจ่าง ชัดเจน แจ่มแจ้ง..แล้วค่ะ _/\_

    ขอบพระคุณมากค่ะ คุณ Me,myself และคุณขาโจ๋ฯ

    แปลกจัง ไม่รู้จะมีใครเป็นหรือเปล่าหนอ หลังจากถามคำถามไปแล้ว เข้ากระทู้นี้ไม่ได้อีกเลย.. จนกระทั่งเมื่อตอนทุ่มเศษๆ ถึงจะเข้าได้ (รีบตอบก่อนจะปิดเครื่องกลับบ้าน...หิวข้าวแล้วค่ะ)

    กลับบ้านแล้วจะไปแจ้งให้แม่ทราบ ว่าเรามีคำตอบให้แม่แล้วจ้า..
     
  14. โครตภู

    โครตภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +3,631
    น้องนารูฟอสรับจัดการเรื่องการถ่ายทอดให้ครับ น้องเขาเรียนโทด้านคอมฯ (รับเขียนโปรแกรมด้วย โฆษณาแฝง ฮา)

    น้องเขาว่าจะไปถึงประมาณเที่ยงวันที่ 23 ต.ค. งั้นเดี๋ยวผมช่วยบีบคอให้น้องเขาซ้อมออกอากาศตั้งแต่วันที่ 23 เลยแล้วกัน พูดเองเออเองเลยดีเนอะ ไม่รู้จะได้หรือปล่าว อิอิ

    ถ้าหากเกิดผิดพลาดประการใดไม่สามารถเผยแพร่ภาพได้ก็ขออภัยแทนน้องเขาไว้นะโอกาสนี่เลยแล้วกันนะครับ

    ป.ล. พระศาสดาเจ้าพระบรมไตรโลกนาถทุกพระองค์เสด็จ และท่านอื่นๆอีกจะถ่ายทอดไม่ได้ ได้ไงล่ะเจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2009
  15. gentenaar

    gentenaar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,320
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2009
  16. gentenaar

    gentenaar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,320
    ขอบพระคุณคุณน้องสาวมากค่ะ ที่ได้เมตตานำคำสอนของสมเด็จองค์ปฐมมาแบ่งปัน น้อมรับคำสอนและนำมาปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น

    บุญรักษาค่ะ
     
  17. jajamicky

    jajamicky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +768
    เอาบุญมาฝากค่ะ

    วันนี้ไปตลาดสด ไปซื้อสัตว์ที่จะถูกฆ่าไปปล่อย ปล่อยปลาช่อน 2 ตัว หอยขม 5 กิโล ปล่อยกบ 2 ตัว ให้อาหารปลา

    ^_^
     
  18. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
    พึ่งอ่านได้ ๒๐ หน้า ค่ะ
    บุญเหมือนเรือเลยนะคะ
     
  19. ปฏิสัมภิทัปปัตโต

    ปฏิสัมภิทัปปัตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    375
    ค่าพลัง:
    +1,326
    เห็นด้วยค่ะ
     
  20. แม่หมูอ้วน

    แม่หมูอ้วน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +6,061
    พระศาสดา - งานกฐินนี้เป็นงานใหญ่ได้บุญมาก ปกติกฐินก็จัดได้แค่ปีละครั้งเท่านั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นกฐินธรรมดาๆ แต่งานนี้เป็นมหากฐินด้วยบุญยิ่งมากเป็นหลายเท่า ฝากบอกทุกคนด้วยว่า ให้น้อมใจถวายผ้าพระกฐินนี้ด้วยใจที่ตั้งมั่นและศรัทธา แล้วก็ให้อธิฐานขอในสิ่งที่เราปรารถนาจะสมหวัง ใครที่มีกรรมหนัก กรรมนั้นจะบรรเทาเบาบางลง ใครที่มีเจ้ากรรมนายเวรตามรังควาญอยู่มาก เจ้ากรรมนายเวรก็จะอโหสิกรรมให้ได้ง่ายๆ จงได้ขออโหสิกรรมต่อกันซะ ใครที่ดีอยู่แล้ว ก็จะส่งผลให้ดียิ่งๆขึ้นไป ดังนั้นจงได้ตั้งจิตอธิฐานให้ดีๆ ฝากบอกทุกคนด้วย

    โมทนาสาธุกับทุกท่านที่ได้ร่วมทำมหาบุญด้วยค่ะ คือว่าวิไม่สามารถจะไปร่วมงานบุญครั้งนี้ แต่ก็มีบุญได้ร่วมทำบุญครั้งนี้(ปัจจัย) จึงอยากจะตั้งใจน้อมถวายผ้าพระกฐินจากที่บ้าน ในวันที่ 24/10 นี้ ขอทราบเวลาประมาณ ว่าจะถวายผ้ากฐินตอนกี่โมงคะ วิจะได้เข้าห้องทำสมาธิน้อมจิตไปถวายด้วยค่ะ ด้วยความเคารพ
     

แชร์หน้านี้

Loading...