ท่านทราบถึงความปรารถนาในโพธิญาณของตนเองเมื่อไหร่...?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย NikuSeed, 9 กันยายน 2009.

  1. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    ท่านทราบถึงความปรารถนาในโพธิญาณของตนเองเมื่อไหร่...?

    นี่ก็...เป็นคำถามที่ผมถามตัวเองบ่อยๆ แล้วก็จบลงด้วย "ไม่นานมานี้มั้ง"
    แล้วยิ่งถ้าถามว่าอะไรมันทำให้ปรารถนาขึ้นมานี่ก็ "ไม่รู้สิครับ(ฮา)"
    เลยอยากจะทราบของท่านอื่นๆบ้าง ว่าจำกันได้บ้างมั้ย


    ผมขอถามรวมทั้งผู้ปรารถนาในพุทธภูมิและปัจเจกภูมิเลยนะครับ ^^

    ท่านทราบเมื่อไหร่...?
    อะไรมันดลใจ...?
    เหตุผลที่ปรารถนาในโพธิญาณคือ...?
    แล้วท่านใช้อะไรเป็นตัวนำในการสร้างบารมีกันเหรอครับ...?
    (รู้สึกที่นี่จะปัญญาธิกะกับวิริยาธิกะกันเยอะสินะครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2009
  2. neung48

    neung48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +457
    ทราบเมื่อความไม่มีบังเกิด
     
  3. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    ท่านผู้เจริญมีธรรมใดเป็นตัวนำหรือ?
     
  4. อภิภู

    อภิภู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +82
    ความปราถนาในพระโพธิญาณก็มีมาไม่นานนี้เหมือนกันครับ(ประมาณ3-4ปี) ส่วนอะไรมาดลใจ ผมก็ให้คำตอบชัดเจนไม่ได้ เพราะมีแรงดลใจหลายสิ่ง หลายอย่าง อย่างละนิด ละหน่อย มากระตุ้นความรู้สึก ส่วนเหตุผลในความปราถนาพระโพธิญาณจริงๆ คือ ความต้องการหลุดพ้นจากภัยในสังสารวัฎนี้รวมเข้ากับความรู้สึกอยากจะช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นภัยเฃ่นเดียวกับเราด้วย นั่นคือเหตุผลในความปราถนาของผมครับ ส่วนผมใช้อะไรเป็นตัวนำในการสร้างบารมี สำหรับผมเริ่มที่ "ทาน" ครับ พยายามสละกิเลสออกจากใจครับ เพราะกิเลสที่ทำให้เราทุกข์ ตราบใดที่ใจเรายังเต็มไปด้วยกิเลส ก็คงจะยากที่จะบรรลุพระโพธิญาณได้ เพราะใจที่เต็มไปด้วยกิเลส ก็จะไม่มีวันจะพ้นไปจากสังสารวัฎได้
     
  5. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    ธรรมใดนั้น ผมหมายถึงธรรมอันเป็นตัวนำสำหรับพระโพธิสัตว์ที่มี 3 อย่างได้แก่
    ปัญญา ศรัทธา วิริยะ

    3-4 ปีนี่ ก็มิใช่น้อยเลยนะครับเนี่ย

    ขอให้ท่านสมดังปรารถนาด้วยนะครับ ^^
     
  6. neung48

    neung48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +457
    ธรรมที่นำมาคืิอ .
     
  7. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    คือธรรมอันเป็นที่ตั้ง เพื่อโพธิญาณ เป็นแรงในการบำเพ็ญบารมี
    อย่างตัวข้าพระพุทธเจ้านั้น ชอบใน วิริยะ เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งอันจำเป็นกว่า ปัญญา และ ศรัทธา

    แล้วแต่ว่าใครจะเห็นยังไง
    เมื่อเห็นอย่างใด ชอบอย่างใด นั่นแลธรรมอันเป็นพลังให้แก่ตัวท่าน

    ชอบอย่างใดนั้น หมายถึงการเห็นว่า สิ่งนั้น สำคัญกว่าอีกสองสิ่ง
    หากมีปัญญาเป็นตัวนำ ย่อมเห็นว่าปัญญาสำคัญกว่าศรัทธาและวิริยะ
    หากมีศรัทธาเป็นตัวนำ ย่อมเห็นว่าศรัทธาสำคัญกว่าปัญญาและวิริยะ
    หากมีวิริยะเป็นตัวนำ ย่อมเห็นว่าวิริยะสำคัญกว่าปัญญาและศรัทธาก็

    แม้บอกว่าสำคัญกว่า แต่อีกสองสิ่งก็สำคัญ เพียงแต่สิ่งที่ชอบสำคัญมากกว่า
    เปรียบได้ว่าเป็นดั่ง ฝน ลม แดด ที่จำเป็นต่อการทำให้ต้นพืชที่ปลูกไว้ เติบโตขึ้น
    บางคนเห็นว่าฝนสำคัญที่สุด หรือ ลมสำคัญที่สุด หรือ แดดสำคัญที่สุด แต่หากขาดสิ่งใดไป ต้นไม้ก็อาจตายได้
    นี่แล เหตุที่ธรรมทั้งสามจำเป็นทั้งหมด

    ท่านชอบธรรมใดในสามอย่างนี้ นั่นแหละธรรมที่ท่านใช้มานานเพื่อให้บรรลุในโพธิญาณ
     
  8. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    คะเต คะเต ปะระคะเต ปะระสังคะเต โพธิสวาหา น้ำเดียวกัน ไม่แบ่งแยก ไปกันเถอะ ทุกรูปทุกนาม
     
  9. อภิภู

    อภิภู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +82
    ถ้างั้นสำหรับผมคงเป็น"ปัญญา" ครับ
     
  10. power30

    power30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2007
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +104
    - ขออนุญาติคุยด้วยนะครับ

    - ผมเองเคยตั้งความปรารถนามาตั้งแต่อายุได้ 6 - 7 ขวบ

    - จำได้ว่าไปงานลอยกระทงที่วัดใกล้บ้าน และมีการทำบุญโดยการชักลอกกระเบื้องหลังคาศาลาของวัด

    - ทายกพูดได้จับใจมากว่าการทำบุญเปลี่ยนหลังคาศาลาววัดนั้น เราสามารถปรารถนาเป็นสาวกก็ได้ หรือปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็ได้

    - ( ผมเลยทำบุญ ชักลอกหลังคาศาลา และปรารถนาพุทธภูมิตั้งแต่นั้นมา )
     
  11. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    ท่าน power30 ปรารถนาเร็วมากครับ o_O!

    ผมนี่ เสียเวลาไปตั้ง 16 ปี เอาแต่ใช้ชีวิตแบบไร้ค่าไปตั้ง 16 ปี T^T
    (ไร้ค่าทางธรรมน่ะครับ ตอนนั้นไม่ค่อยรู้เรื่อง บาป บุญ คุณ โทษ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2009
  12. power30

    power30 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2007
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +104
    - ตอนนั้นได้ยินทายกท่านพูดมันรู้สึกว่ากำลังใจมันหึกเหิมบอกไม่ถูก

    - แต่หลังจากวันนั้นแล้วก็ใช้ชีวิตตามสภาพวัยเด็กธรรมดานี่แหละครับ

    - แถมตั้งแต่อายุ 15 - 24 นี่ ดำเนินชีวิตตามแนวเข้าหาอบายภูมิมาตลอดครับ

    - อายุ 25 นี่ ก่อนบวชพระ ญาติกันส่งหนังสือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาให้

    - ตั้งแต่นั้นหลังบวชแล้วก็ค่อย ๆ ปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง ครับก็เท่านี่แหละ
     
  13. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    นึกออกแล้วครับว่าพบตอนไหน !
    ตอนเบื่อโลก เบื่อการเกิด ขั้นรุนแรงนั่นล่ะครับ
    แล้วก็เหมือนจะมีคำว่า "พระพุทธเจ้า" ผุดขึ้นมาในหัว
    แล้วก็เกิดความปรารถนาขึ้นมานับจากนั้น...

    เผอิญว่าผมเผลอทำอารมณ์ให้เหมือนตอนนั้น มันเลยรู้ขึ้นมาได้ ^^"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2009
  14. amarin_kh

    amarin_kh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +48
    เหมือนกันครับ
     
  15. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    โอ้ O[]o!

    เริ่มอยากรู้จริงๆแล้วสิ(ตอนแรกว่าจะตั้งกระทู้เล่นๆ =w=)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2009
  16. มรรค 8 ประการ

    มรรค 8 ประการ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    884
    ค่าพลัง:
    +2,642
    ทำไปเรื่อยๆก็จะรู้เองครับ ว่าเคยปรารถนาหรือไม่เคยปรารถนา
     
  17. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    มีพระท่านหนึ่งเคยกล่าวว่า

    เราถามเจ้าหน่อย ใจเจ้ามันเข้มแข็งตลอดหรือไม่

    ยามใดที่ทุกคนจากไปใจเจ้ารู้ศึกว้าเหว่หรือไม่หนอ

    ใจเจ้ามันรู้สึกอยากมีผู้ช่วยในเรื่องบางเรื่อง มีคนคอยฟังเจ้าพูดในเรื่องบางเรื่อง มีคนคอยให้ในบางสิ่ง มีคนคอยรับสิ่งที่เจ้าให้ในบางอย่าง

    ลองตอบดูครับ



    โดดเดี่ยวผู้ยิ่งใหญ่
     
  18. NCK2046

    NCK2046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +3,793
    รู้ตอนโดนรถชนลงไปกระแทกกับพื้นเมื่อ 10 กว่าปีก่อนค่ะ

    ตอนฟาดเปรี้ยงลงไปกับพื้นรู้สึกเหมือนโดนเสาเข็มตอกลงมาที่ตัว

    วินาทีนั้นมองเห็นพระปางยืนอุ้มบาตร และปางไสยาสตร์องค์ใหญ่มหึมาปรากฏขึ้นและจิตก็พูดขึ้นมาว่า พระพุทธเจ้า

    นับแต่นั้นมาก็เป็นอันเรียกคืนความรู้ว่าตัวเองปรารถนาอะไรมาก่อน

    และทราบขึ้นมาเองว่า ศรัทธาธิกะค่ะ
     
  19. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    "อนุโมทนา สาธุ" ครับผม ^^
    (ช้าไปหรือเปล่าเนี่ย ฮะๆ)

    แสดงว่าตอนนั้นคงเผชิญความทุกข์แสนสาหัสสินะครับนั่น
    จำได้ด้วยสินะครับ ว่ามีศรัทธาเป็นตัวนำ

    ตอนแรกผมก็ไม่รู้น่ะครับว่าอะไรเป็นตัวนำกันแน่
    มาลองนึกทีหลังถึงจะนึกออก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2009
  20. มารวิกะ

    มารวิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +526
    ของผมออกจะแปลกๆนิดนึงตรงที่ ไปดูหนังเรื่อง little Buddha ตอนอายุ16ปี
    ดูถึงรอบที่3 ตอนท้ายๆเรื่องจะมีการกล่าวถึงการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ผมเลยหลับตา
    แล้วคิดตามนั้น พอหนังจบ ออกมาจะกลับบ้านเดินข้ามถนนพอถึงอีกฝั่ง เลยตัดสินใจ
    ได้ว่า จะเป็นพระพุทธเจ้า พอตัดสินใจแล้ว เกิดอาการปิติ แบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
    เวลาเดินแต่ละก้าว แทบจะไม่รู้สึกถึงน้ำหนักที่กดลงไปเลย มันเบาไปหมด แล้วก็มีความสุข อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต เดินไปเรื่อยๆจนถึงแยกลำสาลี (ข้ามถนนอีกทีกลับบ้าน) พอดีจังหวะนั้น มีรถบรรทุก6ล้อ เลี้ยวมาด้วยความเร็วคงด้วยเพราะ คนขับไม่ชินกับเส้นทางเลยเลี้ยวตีวง กินเข้ามาในฟุตบาทจุดที่ผมยืน รอข้ามถนนพอดี ในเสี้ยววินาทีนั้นๆ
    ผมยังจำได้ว่า เวลาเหมือนจะเดินช้าลงจนจดจำอาการและสีหน้า ของคนขับรถบรรทุกคันนั้นได้อย่างชัดเจน ว่าตกใจแค่ไหนที่รถเกือบจะชนผม ห่างกันแค่ไม่ถึงครึ่งฟุตเท่านั้นเอง
    แต่ ณ ขณะนั้น ผมกลับไม่มีความหวาดกลัวใดๆเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ยังคงข้ามถนน
    กลับถึงบ้าน โดยปกติ(เดินแบบตัวจะลอยทุกก้าว) และหลังจากนั้นไม่นานถึงได้เข้าใจความหมายของ คำว่า พระโพธิสัตว์ ว่าหมายถึงผู้ใด และมีหน้าที่อะไร และจากนั้น
    เวลาทำบุญทุกครั้ง จะอดอธิษฐาน ปราถนาพระโพธิญาณ ไม่ได้เลยซักครั้งเดียว

    ส่วนเวลานี้ รู้สึกจะเน้นหนักไปทาง เมตตา กับ วิริยะ เป็นหลักครับ
    เมตตา คือ เมตตาสัตว์ทั้งหลายที่ตกทุกข์ได้ยาก สัตว์จรจัด ถ้าเจอและพอช่วยเหลือได้ก็จะช่วยครับ
    วิริยะ คือ ความพยายามหาทาง ทำบุญนั้นๆที่ต้องการจะทำให้ได้ ครับ ซึ่งปกติ มักจะมีอุปสรรค
    แบบแปลกๆมาขวางเสมอๆ บางทีป่วยหนักจนลุกไม่ขึ้น ลุกไม่ขึ้นจริงๆ แต่พอได้ยินเสียง แมวจรจัด
    แถวบ้านมาร้องขอ อาหารกิน ต่อให้คลานไปก็ต้องทำให้ได้ โดยระลึกอยู่เสมอว่าถ้าแค่นี้ยังทำไม่ได้
    จะไป สงเคราะห์ สัตว์ทั้งหลายได้อย่างไร พอนึกขึ้นได้ก็เกิดมีกำลังขึ้นมาพอที่จะ ประคองตัวเอง
    เดินไปหลังบ้านหยิบอาหารให้แมว ตัวนั้น พอเห็นมันกินอิ่มแล้ว ก็มีความสุข
    สำหรับผมแล้ว คงจะมีแต่เพียงความ สงสาร ตัวเดียวเท่านั้น ที่ยังฉุดรั้งไว้ให้ยังคงตั้งใจตามเดิมต่อไป
    ทั้งๆที่รับรู้ว่า ต้องทนเกิดไปอีกนับไม่ถ้วนแค่ไหนก็ตาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...