"สุนทรียสนทนา" เพื่อการเปลี่ยนชีวิต

"สุนทรียสนทนา" คำๆนี้มีอิทธิพลกับชีวิตของผมมากมายโดยที่ผมไม่เข้าใจเข้าใจกระบวนการของมันอย่างท่องแท้มาก่อน เพราะที่ผ่านมาผมยังไม่ได้พบกับคุณมาติน่าซึ่งท่านทำให้ผมเห็นโดยตลอดถึงกระบวนการของการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตความเป็นอยู่โดยการยอมรับในสิ่งที่เป็นสิ่งที่ติดตัวผมมาตั้งแต่เกิดจนถึงใช้มันในการทำประโยชน์ให้กับสังคมและการเปลี่ยนภาษาที่ผมใช้ สิ่งที่ได้รับกลับมานั้นคุมค่าอย่างยอดเยี่ยมเพราะการที่ผมตระหนักถึงคำพูดที่ผมต้องการพูดในแต่ละครั้งแล้วจะทำให้เกิดสิ่งที่ยิ่งใหญ่ทั้งตัวของผมเองและผู้ฟัง แค่นี้ก็ทำให้เกิดพลังอย่างมากมายในการดำเนินชีวิตต่อแล้วครับ

มีหลายครั้งที่ผมเห็นคนรอบข้างที่กำลังตื่นรู้จากคุณมาติน่าในคำพูดง่ายๆที่พันทนาการชีวิตของเขามาทั้งชีวิต คอยฉุดรั้งไม่ให้ไปต่อ รวมทั้งเขาสามารถปลดปล่อยพันทนาการนั้นได้แล้วรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย สิ่งนี้เองที่จะเติมแต่งชีวิตของผมให้หลากสีสันตลอดไปครับ ^_^

ตัวอย่าง [urli="http://www.youtube.com/user/ThaiOliveBranch"]สุนทรียสนทนา โดย คุณมาติน่า[/urli]

ไม่ทราบว่าในที่นี้มีเพื่อนที่เคยผ่านการอบรมจากคุณมาติน่าบ้างไหมครับ

 

วันนี้มีเวลาตอนเย็นเลยลองสอบถามดูว่าแต่ละคนที่ผ่านการอบรมแล้วถูกรื้อภาษาในการพูดใหม่ แต่ละคนมีการพัฒนาการทางภาษา-อารมณ์เป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น มีสติโดยที่พูดแต่ละครับใช้แต่คำพูดที่ก่อให้เกิดพลังที่ดี มีศิลปะในการใช้ชีวิตขึ้น รวมทั้งที่เห็นชัดเจนคือมีความเอื้ออารีย์ต่อกันมากขึ้น ต้องตามดูต่อละครับว่าแต่ละคนจะมีเรื่องราวชีวิตใหม่อย่างไร

 

เป็นเรื่องน่าสนใจทีเดียว เข้าใจ(เอง)ว่า มีสองประเด็นใหญ่ คือ การค้นพบตัวเอง และ การให้ความสำคัญเลือกใช้คำพูดที่สร้างพลังด้านบวกให้

ไม่ทราบคุณศิริพัฒน์ช่วยกรุณาเล่ากระบวนการการเรียนรู้ และ/หรือ ยกตัวอย่าง คำพูดที่ได้รับการแนะนำให้เปลี่ยน บ้างได้ไหมคะ ถือว่าแชร์ประสบการณ์กัน
ปล ที่จริง การค้นพบตัวเอง เป็นเรื่องใหญ่มาก จะมีสักกี่คนที่รู้จักตัวตนของตนเองอย่างถ่องแท้

 

เริ่มจากก่อนที่จะได้พบคุณมาติน่า ผมมีโอกาสศึกษาความรู้เรื่องการพัฒนาเพื่อดึงพลังจากจิตเหนือสำนึกขึ้นมาใช้ในการเปลียนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น อยู่ได้ในสังคมอย่างมีความสุข จากหลายที่ คู่ไปกับการปฏิบัติธรรม แต่สิ่งที่ผมเห็นได้ชัดจากที่ได้ผ่านการอบรมของคุณมาติน่าซ้ำๆหลายๆครั้งคือ ตัวผมเองและทุกคนที่เข้าอบรมล้วนถูกคำพูดรวมถึงวิธีพูด(ที่ครั้งแรกผมคิดว่าสำคัญน้อยกว่าความคิด) กำหนดชีวิตให้เป็นไปตามคำพูดที่ตัวเราเองพูดออกมาทุกอย่าง สิ่งที่ผมเริ่มเข้าใจคือ คำพูด วิธีพูดของผมจะสะท้อนความคิดของผมออกมา โดยที่ผมไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อทราบดังนั้นแล้ว ผมจึงหมั่นสังเกตุตัวเองทบทวนในคำที่พูดออกมาแยกเป็นพูดโดยตั้งใจ และไม่ตั้งใจ เพื่อติดตามจิตเหนือสำนึกของผมเองว่ามีข้อมูลอะไรที่แสดงผลอยู่ และเวลาที่พูดทุกครั้งถ้าตามทันก็จะใช้คำพูดที่ส่งผลให้ใจเบา(เคยไหมครับยิ่งพูดร่ายกายยิ่งหนัก บัั่่นทอนพลังของตัวเอง) รวมทั้งติดตามเข้าอบรมกับคุณมาติน่าตลอดเพื่อเอาตัวเองไปให้คุณมาติน่าจับคำพูดที่ส่งผลมาจากแผลในอดีต จะได้ปลดล็อคคำพิพากษา(ด้วยประโยคคำพูดของตัวเอง เช่น ผมไม่เก่ง ผมทำไม่ได้)ออกไป

อีกกระบวนการหนึ่งก็คือ การทำให้ตัวเองเป็นผู้เริ่มต้นใหม่ทุกครั้งเวลาที่คุยกับใครหรือได้รับความรู้จากใคร สิ่งนี้ยอมรับว่ายากจริงๆครับ คือถ้าใครมาพูดในสิ่งที่เราเคยรู้แล้วมันอดไม่อยู่ แทนที่จะฟังเพื่อหาสิ่งที่เรายังไม่รู้จากเขา(มันคอยแต่จะหาช่องในการพูดสวน เหอๆ) เดียวนี้ดีขึ้นแล้ว ยังดีที่ผมคิดได้ข้อนี้ไม่งั้นจะทำให้ผมพัฒนาช้า เพราะมัวแต่อยู่บนยอด

กระบวกการอีกกระบวนการที่ทำอยู่คือ
การเก็บกวาดข้อมูลที่ทำค้างคาเอาไว้(เริ่มอะไรไว้แล้วทำไม่เสร็จ) มันเหมือนผมอยู่ในห้องแล้วมีกล่องวางเกะกะอยู่เวลาเดินผ่านต้องคอยหลีก แถมเวลาหลีกไปก็คิดถึงสิ่งที่ทำค้างเอาไว้ทุกครั้ง ที่ผมใช้มีอยู่ 2วิธี คือทำต่อให้เสร็จหรือไม่ทำแล้วก็จบโปรเจคไปเลย รวมทั้งทำสิ่งใหม่ๆให้กับชิวิตที่ยังมีเวลาเหลืออยู่ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นไป

 

ส่วนคำพูดที่คุณมาติน่าแนะนำให้เปลี่ยน คือทุกคำพูดที่ทำให้จิตใจและร่างกายรู้สึกหนัก ตัวอย่างเช่น ต้องทำ อดทน ค่อยๆทำ ฟันฝ่า อะไรประมาณนี้ เลือกใช้คำพูดที่ทำให้ใจฟูๆ(เวอร์ๆไว้ก่อนได้ผลเร็วครับ ^_^') เช่น ต้องการ ได้รับ ทำได้ ง่าย สำเร็จ

แต่เวลาใช้จริงมักหลุดอยู่บ่อยๆ ไม่แปลกนะครับ เพราะเป็นสิ่งที่ผมเคยชินมาก่อน แต่พอรู้แล้วชีวิตผมเบาขึ้นเยอะเลย

ตอนนี้ก็เลยนำคนใกล้ตัว เช่น คุณแม่ รวมทั้งญาติๆ เข้าอบรมเพื่อให้ท่านเข้าใจว่าตัวผมเริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว ขอโอกาสให้ผมก้าวหน้าขึ้น ประมาณนี้ครับ

 

ที่สำคัญที่สุดสำหรับผมตอนนี้คือถอยออกมาเป็นผู้สังเกตชีวิตของตัวเอง แล้วจึงรู้ว่าผมมีตัวตนหลายตัวตนอยู่ ซึ่งมาในรูปแบบเสียงในหัว แต่พอเราถอยออกมาดู ทำให้ผมรู้ทันตัวตนเหล่านั้นและเลือกที่จะกำหนดชีวิตไปในแนวทางของตัวเอง โดยเลิกเป็นแค่เครื่องจักรสะท้อนปฏิกริยาเท่านั้นครับ

 

น่าสนใจดีค่ะ ...สุนทรียสนทนา...เพื่อการเปลี่ยนชีวิต.

การค้นพบตัวเอง...นี่สุดยอดจริงๆ ค่ะ.

ไม่ทราบมีข้อมูลเพิ่มเติมเปล่าคะ.

ขอบคุณค่ะ

 

น้ำคือชีวิต อยากขอให้ผู้ที่มีแนวคิดใกล้เคียงกันมารวมกลุ่ม "น้ำ และสุขภาพแบบพอเพียง" <!-- google_ad_section_end -->

 

ผมก็ได้คิดเรื่องนี้จริงจัง ตอนที่เริ่มเข้าใจที่คุณมาติน่าแนะนำครับ

 

ตอบคุณipecครับ ส่วนใหญ่ที่ผมเข้าอบรมก็จะทำในรูปของ Workshop ครับ และก็ได้ใช้ในกับผู้ที่ทำงานร่วมกันในที่ทำงานด้วย ก็เห็นผลได้เลยว่ามีอะไรหลายอย่างที่ดีขึ้น ตอนนี้ผมก็กำลังวางรูปแบบสำหรับไปจัดให้กับหน่วยงานที่ต้องการ ในรูปแบบของการตอบแทนคืนสังคมอยู่ครับ แต่ยังไม่สรุปว่าจะมีเวลาไหม

การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันต่างเร่งรีบ สับสน ดังนั้นสิ่งที่เราเป็นโดยที่ไม่รู้ตัวคือเครื่องจักรตอบโต้ทางอารมณ์อัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น ในปัจจุบันถ้าเด็กผู้หญิงทะเลาะกันส่วนใหญ่ก็จะตบกัน ซึ่งเป็นปฏิกริยาตอบโต้ทางอารมณ์ที่ส่งผลไปถึงร่างกายแบบอัตโนมัติ เพื่อให้ "ต้องรอดให้ได้" ดังนั้นจึงมีความจำเป็นในการที่เราจะต้องมาจัดระเบียบของข้อมูลในสมองก่อนการนอนหลับ ซึ่งเท่าที่ได้ทดลองมาก็รู้สึกดี ว่าจะลองเอามาแบ่งปันกันในที่นี้ครับ ไม่ทราบว่ามีผู้ใดสนใจไหมครับ

 

(good)

 

เป็นเรื่องการปฏิบัติของจิต กาย วาจา ใจ อยู่ในคำสอนพระพุทธเจ้าหมดแล้ว
พวกฝรั่งลอกพระไตรปิฏกไปแปลงสาร เขียนตำราให้อ่าน ให้อบรม หลอกแดกเงินคนไทยมานานแล้ว

 

ทางโลกจ้าทางโลก ^_^'

 

จริงๆก็อาศัยหลักการทำสมาธิ