ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    จิตของเรา คือตัวจริง
    ในชีวิตจริงบางครั้งกายก็มักจะนำพาจิตให้หลงได้
    แต่ในความฝัน นั่นคือจิตของเราจริงๆ
    ความเมตตา กรุณา หนึ่งในพรหมวิหาร4 แม้กระทั่งในฝัน ก็ถือว่าประเสริฐยิ่งแล้วค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาค่ะ
     
  2. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    เมื่อเช้าใส่บาตรมาครับ ตั้งใจใส่บาตรแบบไม่กำหนดว่าจะเป็นองค์ไหน คือปกติจะมีพระประจำสายที่ท่านเดินผ่านบ้านเราเป็นประจำ แต่วันนี้ขี่แมงกะไซค์ไปดักรอพระอยู่ริมถนนครับ เห็นหลวงพ่อกล่าวไว้บอกว่า การใส่บาตรแบบไม่เจาะจงองค์พระ ถือเป็นสังฆทานแบบบุญมาก

    ก็ขอเชิญเพื่อน พี่น้อง อนุโมทนาสาธุบุญร่วมกันครับ สาธุ...
     
  3. พรพิสุทธิ์

    พรพิสุทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +3,811
    จิตของเรา คือตัวจริง
    ในชีวิตจริงบางครั้งกายก็มักจะนำพาจิตให้หลงได้
    แต่ในความฝัน นั่นคือจิตของเราจริงๆ
    ความเมตตา กรุณา หนึ่งในพรหมวิหาร4 แม้กระทั่งในฝัน ก็ถือว่าประเสริฐยิ่งแล้วค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาค่ะ
    <!-- google_ad_section_end -->
    ***
    ขอขอบคุณ คุณอ้อยมากๆ เลยค่ะที่ชี้แนะเรื่องจิต เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะว่า
    จิตในฝันกับความเป็นจริง คือจิตดวงเดียวกัน สาธุ
    แต่ในฝันจิตไปเพ่งโทษ ว่าคนอื่นทำบาปเนี่ยไม่ดีเลยนะคะ อันนี้ต้องแก้ไขแล้ว แฮ่ะๆ
     
  4. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    แหม...น้องคะ แบบว่าดูหนังสดจะๆแบบไม่ทันตั้งตัว ก็สยองเหมือนกันนะคะ อิอิ ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่วิ่งป่าราบ ถ้าเป็นอย่างนั้นจะเสียหายมากกว่านี้ ฮาฮา

    ----------------------------------------------------------------------
    พยายามอย่ากล่าวโทษผู้อื่นนะคะ จะทำให้ก่อกรรมใหม่ขึ้นโดยไม่รู้ตัวค่ะ ในฝันนั่นเป็นการทดสอบค่ะว่า จิตลึกๆของเรายังมีความโลภ โกรธ หลง หรือกิเลสตัญหาอยู่หรือไม่ ระวังด้วยค่ะ

    ---------------------------------------------------------------------
    สาธุ ฝันดีค่ะ
     
  5. ButZa

    ButZa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +218
    อ่านแล้วตื่นเต้นจัง

    ถ้าฝึกเองไม่มีครูชี้แนะ สถานที่ไม่เอื้อ ไม่รู้ว่ามีของเก่าไหม จะหลงทางไหมคับ
     
  6. assume

    assume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +1,931
  7. assume

    assume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +1,931
    พระอาจารย์ที่สอนผมท่านแนะนำว่า หากยกเอาสิ่งที่พิจารณาขึ้นสู่พระไตรลักษณ์ (ความเป็นของไม่แน่นอน เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวตน) ก็ไม่ต้องกลัวหลงครับ และท่านยังแนะนำด้วยครับว่า ให้ดูพระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่างท่านใช้กรรมฐานใดก็ให้ทำตามท่านครับ

    หลวงพ่อฤๅษีลิงดำบอกว่า อานาปานุสสติห้ามทิ้งครับ และความเห็นส่วนตัวผมคือฐานคือ อานาปานุสสติครับส่วนกรรมฐานอื่นๆ ที่เอามาเสริมกับอานาปานุสสตินั้นขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละท่านเองครับ เพราะแต่ละคนก็เก็บสะสมมาไม่เหมือนกัน ดังนั้นหากค้นคว้ากรรมฐานต่างๆ แล้วพบว่าชอบกองใดแสดงว่าเคยมีพื้นฐานในกองนั้นมาก่อนแล้วครับ ชอบแบบไหนก็ลงมือปฏิบัติเลยครับ ก่อนเจริญพระกรรมฐานทุกครั้งควรอธิษฐานขอบารมีพระพุทธเจ้าตลอดจนครูบาอาจารย์ที่เราเคารพช่วยคุ้มครองรักษาอย่าให้มีมารเข้าแทรก อย่าให้หลงทางในการปฏิบัติด้วยครับ

    ขอให้ก้าวหน้าในการปฏิบัติครับ
     
  8. Lixalot's mummy

    Lixalot's mummy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +1,104
    คุณkonkangwad เปรียบเทียบซะปูหัวเราะก๊ากกกเลยนะเนี่ย คนยิ่งกำลังอินๆอยู่ อนุโมทนาค่ะ
     
  9. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386

    ก่อนฝึก น้อมจิตขอบารมีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ขอบารมีท่านมาคุ้มครองเรา และที่สำคัญ ขอให้มี สติ ค่ะ เวลาเห็นอะไร ให้พิจารณา เมื่อรู้แล้วให้ปล่อยวาง แล้วอย่ายึดติดกับนิมิตนั้น และตอนจะออกจาสมาธิ ให้กำหนดรู้ ค่อยๆถอนออกจากสมาธินะคะ

    สำคัญที่สุดคือน้อมจิตเข้าหาพระรัตนตรัยค่ะ ^_^
     
  10. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    อนุโมทนาครับสาธุ
     
  11. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    อนุโมทนาครับ ผมก็ฝึกเองใช้วิธีนี้แหละครับแต่ก็ยังไม่ไปไหนหรอกครับวนๆอยู่ในอ่างนี่แหละค่อยๆไปเดี๋ยวก็ถึงมีคนนำทางแล้วไม่กลัวหลงหรอกครับ
     
  12. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    อ่านเเล้วนึกถึงก่อนนอน สมเด็จองค์ปฐมท่านก็สอนฝนเรื่องไตรลักษณ์เหมือนกัน มองทุกอย่างให้ออกเป็นไตรลักษณ์
     
  13. ButZa

    ButZa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +218
    อนุโมทนาครับ

    จากที่ลองศึกษาดูแล้ว กรรมฐานที่ติดใจ ดูๆไปก็มีหลายกองที่ถูกใจนะครับ
    แต่ว่าแต่ละกอง ภาพมันลอยไปลอยมาในใจมาเฉยๆ แต่ไม่ถึงกับเป็น อุคคหนิมิต เป็นเรื่องปกติไหมครับ

    มีคำถามครับ (สงสัยเยอะไปรึเปล่านี่ (- -a) )
    - น้อมจิต คืออะไรอ่า (คำถามมันดูโง่ๆ แต่ไม่รู้จริงๆนะ - -")

    - เคยแต่ทำบุญ สร้างบารมีได้อย่างไรครับ

    - เมื่อไรจิตคนเราจะตื่นขึ้นมาเริ่มปฏิบัติธรรม เหมือนโดนสะกิดรึเปล่า
    ;aa40
     
  14. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    ขอเล่าความรู้สึกนะครับเวลาเดินทางไปไหนกับแฟนเจอขอทานก็จะช่วยตามกำลังครับสงสารนะครับแล้วคราวนี้มันก็คิดต่อไปอีก(คิดมากฮา)คือถ้ามีเงินเยอะๆๆๆๆๆจะสร้างที่อยู่มีอาหารพร้อมให้ไปอยู่กันเลยแฟนบอกคิดเหมือนกันเลยแล้วก็อีกเรื่องครับพระพุทธรูปที่เขาหล่อมาวางขายกันตามร้านบางทีวางไว้กับพื้นฟุทบาทคนก็เดินผ่านไปผ่านมาเอาอีกแล้วคิด(มาก)อีกแล้ว(ถ้าไง)มีเงินมากกกกกกจะบูชาท่านไปไว้ตามวัดคือคนจะได้กราบไหว้มันอิ่มใจกว่าคือที่สมควรวางองค์ท่านไม่ใช่วางไว้กับพื้นอย่างนั้นเพื่อนๆสมาชิกเคยคิดแบบผมใหมอ่ะ สงสัย(จิต)ผมเริ่มจะเพี้ยนแล้วมั้งฮา
     
  15. พรพิสุทธิ์

    พรพิสุทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +3,811
    ขอบคุณพี่ Me, myself มากค่ะที่กรุณาชี้แนะตักเตือนเรื่องเพ่งโทษคนอื่น
    เมื่อวานไปถวายภัตตาหารเช้ากับแม่ที่วัดถ้ำ กวาดบันไดวัดด้วยค่ะ
    ทำบุญช่วยผู้ป่วยโรคเอดส์ กับวัดพระบาทน้ำพุ 300 บาท
    ทำบุญร่วมไถ่ชีวิตโค-กระบือ เนื่องใน 12 สค.52 200 บาท
    วันนี้ไปถวายภัตตาหารเช้ากับแม่ที่วัดถ้ำ กวาดบันไดวัด กวาดศาลาโรงครัว

    เมื่อคืนหลังจากสวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาแล้ว ก็กำหนดจิตถึงพ่อแม่ครูอาจารย์
    หลวงปู่มั่น หลวงปู่ชอบ หลวงตามหาบัว และ หลวงพ่อฤาษีฯ ว่าลูกยังปฏิบัติได้ไม่ดี
    ไม่รู้จะไปทางไหน (ตอนนี้นั่งสมาธิแบบ อานาปนสติควบพุทโธ หรือไม่ก็กำหนดพุทโธ
    เฉยๆ โดยไม่ได้กำหนดลมหายใจ) ไม่ค่อยมีความก้าวหน้ายังคลานเป็นเต่าต้วมเตี้ยมอยู่เลย
    ได้โปรดเมตตาชี้แนะในฝันให้ลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ เสร็จแล้วก็เข้านอน ปรากฎว่าฝันค่ะ
    ฝันเห็นหลวงพ่อฤาษีฯ ในฝันท่านยิ้มเบิกบานเปี่ยมด้วยเมตตา แต่ไม่แน่ใจว่าท่านพูดอะไร
    รึเปล่า คือฝันไม่เป็นตุเป็นตะเท่าไร แต่เห็นท่านแน่ๆ เลยในฝัน พี่ Me, myself คุณอ้อย
    น้องฝน หรือญาติธรรมท่านอื่นว่ายังไงบ้างคะ หรือท่านหลวงพ่ออยากให้ลองฝึกมโนฯ
    ก็เลยมาโปรดในฝัน..เฮ้อ โง่จริงหนอเรา
     
  16. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    สาธุ...หลวงพ่อฤาษีท่านมาโปรดน้องแล้ว ส่วนเรื่องจะฝึกมโนฯนี่ ต้องแล้วแต่น้องนะคะ ถ้าอยากฝึกก็ลองดูก็ได้นี่คะ ไม่เสียหายอะไร ส่วนสมาธิแบบอานาปานสติ เราก็ทิ้งไม่ได้อยู่แล้วค่ะ มันเป็นพื้นฐาน
     
  17. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    เลือกเอาสักกองสิคะ เอาที่ติดใจติดตาที่สุดอ่ะค่ะ อย่ารักพี่เสียดายน้องเลยค่ะ เด๋วไม่ได้เจอทั้งพี่ทั้งน้องเด้อ

    น้อมจิต
    การที่เราจะกราบพระ แต่ใช้ใจกราบ คือกราบทางใจ เป็นการก้มกราบด้วยความศรัทธา ตัวเราจะอ่อนมือไม้ก็จะอ่อน ดวงจิตก็อ่อนน้อมต่อพระพุทธเจ้าค่ะ คือเอาความรักความศรัทธาความเทิดทูลทั้งหมดที่มีก้มกราบพระพุทธเจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าจะ งง หรือเปล่านะคะเนี่ย รอพี่me,myselfมาอธิบายแบบง่ายๆดีกว่านะคะ แง๊ว อ้อยก็มิรู้จะอธิบายให้เห็นภาพยังไงอ่ะค่ะ

    การสร้างบารมีก็คือ การให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ก็เป็นการสร้างบารมีแล้วค่า

    พุทธะ หมายถึง รู้ตื่น รู้เบิกบาน ตลอดเวลา
    ถ้าเป็นแบบนี้ แสดงว่าจิตเป็นพุทธะค่ะ
    ส่วนจิตจะตื่นเมื่อไหร่นั้น อันนี้บอกไม่ได้นะคะ ทางที่ดีก็ควรจะให้จิตตื่นตลอดเวลานั่นแหล่ะค่ะ เป็นการตั้งอยู่บนความไม่ประมาทค่ะ
     
  18. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    บารมี ๑๐ ประการ

    คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บารมี ๑๐ ประการ

    บารมี แปลว่า "เต็ม" ซึ่งหมายถึง "การทำให้กำลังใจเต็ม ทรงอยู่ในใจให้เต็มครบถ้วนบริบูรณ์ ไม่บกพร่องทั้ง ๑๐ ประการ"

    1. ทานบารมี
    จิตพร้อมในการให้ทานเป็นปกติ

    2. ศีลบารมี
    จิตพร้อมในการทรงศีลเป็นปกติ

    3. เนกขัมมะบารมี
    จิตพร้อมในการถือบวชเป็นปกติ ในที่นี้หมายถึงบวชใจ

    4. ปัญญาบารมี
    จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหารอุปาทานให้พังพินาศไป

    5.วิริยะบารมี
    มีความเพียรในทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ

    6. ขันติบารมี
    มีความอดทน อดกลั้นต่อสิ่งอันเป็นปฏิปักษ์

    7. สัจจะบารมี
    ทรงตัวไว้ว่าเราจะทำจริงทุกอย่างในด้านของการทำความดี ไม่มีคำไม่จริงสำหรับใจเรา

    8.อธิษฐานบารมี
    ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะ

    9. เมตตาบารมี
    สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตนเสมอด้วยบุคคลอื่น

    10.อุเบกขาบารมี
    การวางเฉยในกาย เมื่อมันไม่ทรงตัว

    องค์สมเด็จพระสวัสดิโสภาคย์ได้แสดงกฎของการปลดทุกข์ คือ ปลดอารมณ์แห่งความทุกข์ สร้างอารมณ์ความสุขให้เกิดขึ้นกับใจ มีอยู่ ๑๐ อย่าง ด้วยกันคือ
    ๑ ทานบารมี
    ๒ ศีลบารมี
    ๓ เนกขัมมะบารมี
    ๔ ปัญญาบารมี
    ๕ วิริยะบารมี
    ๖ ขันติบารมี
    ๗ สัจจะบารมี
    ๘ อธิษฐานบารมี
    ๙ เมตตาบารมี
    ๑๐ อุเบกขาบารมี

    คำว่า บารมี นี่แปลว่า เต็ม เมื่อเต็มแล้วก็ต้องเต็มจริงๆ เป็นอันว่าถ้าบารมีทั้ง ๑๐ ประการนี้เต็มครบถ้วนบริบูรณ์ ที่เรียกว่า ปรมัตถบารมี สำหรับพระสาวกนะ ไม่ใช่อันดับขั้นพระพุทธเจ้า สำหรับขั้นพระสาวกนี้ใช้อารมณ์ต่ำ อารมณ์ไม่สูงนัก ไม่ใช่ขั้นพระพุทธเจ้า

    ถ้าหากว่าบารมีทั้ง ๑๐ ประการนี้เป็น ปรมัตถบารมี (คำว่า ปรมัตถบารมี หมายความว่า มีอารมณ์ทรงสูงอย่างยิ่ง คำว่า อย่างยิ่งก็หมายความว่าไม่เคลื่อนไป อารมณ์ที่มีอาการตรงกันข้ามไม่เกิดขึ้นกับจิตใจของเรา)
    ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างนี้ครบถ้วนบริบูรณ์ ทุกท่านก็เป็นพระอริยเจ้าขั้นพระอรหันตผล

    นี่เดิมทีเดียวเราก็สอนกันมา แนะนำกันมาในหลักการทั่วๆ ไป แต่จะเห็นว่ากว้างเกินไปในการปฏิบัติ และเวลานี้บรรดาท่านพุทธบริษัท มีทั้งภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ที่มีกำลังใจคือ บารมีแก่กล้านี้มีอยู่ หรือว่าบางท่านที่ยังอ่อนยังย่อหย่อน ก็จะได้มีความเข้าใจในการปฏิบัติ เพราะการปฏิบัติจริงๆ เพื่อมรรคเพื่อผล ถ้าขาดบารมีทั้ง ๑๐ ประการแล้ว ทำอย่างไรมันก็ไม่มีผล ถ้าผลที่จะมีกับกำลังใจก็ได้แค่ผลหลอกๆ คือ อุปาทาน คำว่าหลอกลวงนี่ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาไปโกหกมดเท็จใคร แต่ว่ากำลังใจมันไม่จริง

    ที่เรียกว่าหยุดได้จากความโลภ ความโกรธ ความหลง อาจจะหยุดไปเพราะอารมณ์สบายชั่วคราว แต่ทว่าข้างหน้าต่อไปคลายไปก็มีทุกข์ มีความโลภ ความโกรธ ความหลง หรืออาจจะหยุดได้ด้วยกำลังของฌาน เช่น ฌานโลกีย์ กำลังใจยังดีไม่พอ ก็เอากำลังเข้าไปกดความโลภ ความโกรธ ความหลง นี่ถ้าหากว่าจะตัดกันตรงๆ ก็ต้องมาพิจารณาขันธ์ ๕ ว่ามันเป็นทุกข์ (ขันธ์ ๕ ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)

    นี่ขันธ์ ๕ เป็นทุกข์เพราะอะไร เพราะว่าเราขาด ทานบารมี ขาดศีลบารมี ขาดเนกขัมมะบารมี ขาดปัญญาบารมี ขาดวิริยะบารมี ขาดขันติบารมี ขาดสัจจะบารมี ขาดอธิษฐานบารมี ขาดเมตตาบารมี ขาดอุเบกขาบารมี

    และที่พูดวันนี้อาจจะมีหลายท่านจะตอบว่า บารมีทั้งหลายเหล่านี้มีครบถ้วนแล้ว แต่ก็อย่าลืมว่าบารมีนี้จัดเป็น ๓ ชั้น คือ

    * บารมีต้น เรามีทานมีศีลเหมือนกัน แต่ว่าทาน ศีลมันบกพร่อง มันไม่ครบถ้วนบริบูรณ์

    * ถ้าหากว่าบารมีอันดับที่ ๒ ที่เรียกว่า อุปบารมี ทาน ศีล ของเราดีครบถ้วนแต่จิตใจยังไม่สะอาดพอ ยังไม่รักพระนิพพาน

    * ถ้าหากว่าเป็น ปรมัตถบารมีแล้ว ไม่มีการหวังผลใดๆ ในโลกีย์วิสัย จะเป็นชาตินี้หรือว่าชาติหน้าก็ตามที กำลังใจของเราไม่มีการเกาะ การกระทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อพระนิพพานโดยเฉพาะ ทำด้วยจิตบริสุทธิ์

    ที่มา : หนังสือบารมี ๑๐, หนังสือ เร่งรัดการปฏิบัติ และหนังสือศิวโมกข์ ๔ ของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2009
  19. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    พรหมวิหาร 4
    เมตตา
    กรุณา
    มุทิตา
    อุเบกขา

    อ้อยเองก็เคยเจอปัญหานี้มาก่อนเหมือนกันค่ะ ^_^
    เลยกราบทูลถามขอความเมตตาจากพระศาสดา
    พระศาสดาทรงเมตตาบอกว่า
    การที่จะช่วยใครนั้น เราต้องดูตัวเองก่อนว่า เราพร้อมแล้วหรือยัง

    การมีเมตตานั้นเป็นสิ่งที่ดี
    หากเราเข้มแข็งดีแล้วทั้งกำลังใจ กำลังกาย และกำลังทรัพย์
    การทำบุญ อานิสงฆ์จะบังเกิดขึ้นมาก

    แต่ตราบใจที่เรายังไม่เข้มแข็งพอ (กำลังกาย กำลังใจ กำลังทรัพย์) แล้วคิดจะไปช่วยผู้อื่น จะทำให้จิตตกซะเปล่า
     
  20. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    สาธุ อนุโมทนานะคะ
    ก่อนที่อ้อยจะได้มโนมยิทธิ
    อ้อยก็เห็นหลวงพ่อฤาษี กับหลวงปู่แหวนค่ะ
    อิอิ ^_^

    ส่วนเรื่องการนั่งสมาธิ อย่าไปคิดว่าเราช้าหรือเร็วเลยค่ะ
    กำหนดนั่งแบบสบายๆ ตัดความกังวลไปให้หมด
    จะช้าหรือเร็วไม่สำคัญค่ะ สำคัญที่ว่า จิตเราเป็นสมาธิหรือเปล่า
    ออกจากสมาธิแล้วเราสุขที่ใจหรือเปล่า นะคะ ^_^
     

แชร์หน้านี้

Loading...