ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ตอนนี้ ขอนำภาพการเปิดมิติกองบัญชาการฯ ชุดใหม่มาให้ชมกันค่ะ



ภาพการเปิดมิติกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา

วันที่เปิดมิติให้บันทึกภาพ

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2541

สถานที่ บนเขากะลา นครสวรรค์

ผู้บันทึกภาพ Mr.John วิศวกรชาวอังกฤษ

พยานอยู่ในเหตุการณ์ ประมาณ 20 คน


เป็นภาพวัตถุสีเงินขนาดใหญ่ คล้ายโลหะสะท้อนแสงขนาดใหญ่ ปรากฏอยู่บนยอดเขา เวลาประมาณ 16.00 นาฬิกาของวันที่ 3 พฤศจิกายน 2541 ซึ่งในวันนั้นได้มีการนัดหมายกันของกลุ่มบุคคลที่จะขึ้นไปปฏิบัติธรรมบนเขากะลา

และได้มีผู้เห็นเหตุการณ์วัตถุดังกล่าวปรากฏขึ้นมา จากปกติจะไม่มีปรากฏ จึงเรียกกันมาดูและ มิสเตอร์จอห์น ฮอร์เน็ต ได้มาดูพร้อมทั้งบันทึกภาพด้วยกล้องวีดีโอไว้ และขณะที่บันทึกภาพอยู่นั้น วัตถุสีเงินขนาดใหญ่ได้ค่อย ๆ เลือนหายไปต่อหน้าต่อตาของผู้ที่กำลังยืนดูอยู่ และสักพักได้ปรากฏขึ้นมาใหม่ ค่อย ๆ ชัดขึ้น แล้วค่อย ๆ หายไป รวม 3 ครั้ง แล้วหายไป ไม่ปรากฏให้เห็นอีก

ซึ่งการบันทึกภาพไว้ในครั้งนี้ ได้รับมอบมาจากมิสเตอร์จอห์น ฮอร์เน็ต และพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ประมาณ 20 ท่านได้มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ซึ่งได้มีการสื่อสารจากมนุษย์ต่างดาว แจ้งว่า ได้เปิดมิติให้เห็นกองบัญชาการของมนุษย์ต่างดาว ที่เปิดทับซ้อนกับมิติของโลกมนุษย์อยู่บนยอดเขาแห่งนั้น เพื่อเป็นฐานปฏิบัติการร่วมกับดวงดาวต่าง ๆ ในภารกิจที่จะช่วยเหลือโลกมนุษย์ในเรื่องของภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น

และได้สื่อสารข้อความผ่าน จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน แจ้งว่า กองบัญชาการที่เปิดมิติให้เห็นนี้ มีมนุษย์ต่างดาวมาปฏิบัติภารกิจจาก 2 ดวงดาว ประจำการอยู่จำนวน 3,000 คน



รายละเอียดเหตุการณ์ต่าง ๆ อยู่ในเว็บไซด์ www.ufoatkaokala11.com ในห้อง คลิปวีดีโอ UFO ค่ะ

[VDO]http://palungjit.org/attachments/a.649022/[/VDO]​

 

ไข้หวัดใหญ่ 2009
คำอธิบายที่เป็นไปได้เรื่องสาเหตุหนึ่งของการเสียชีวิต และหนทางดูแลตนเองและครอบครัวโดยใช้พืชผักภูมิปัญญาไทยจากคำแนะนำของนักวิจัยต่างประเทศ

รศ. ดร. กรณ์กาญจน์ ภมรประวัติธนะ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 24กรกฎาคม 2552

พายุไซโตไคน์ ศัพท์ทางการแพทย์คำนี้ใช้เป็นครั้งแรกในปีพศ. 2536 เป็นอาการทางภูมิคุ้มกันซึ่งทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ เกิดจากการเหนี่ยวนำเชิงบวกต่อเนื่องระหว่างสารไซโตไคน์กับเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน

อาการบ่งชี้แรกคือไข้สูง บวม เหนื่อยมากและคลื่นไส้ ในบางกรณีปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต
สาเหตุ เมื่อระบบภูมิคุ้มกันต่อสู้กับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม ไซโตไคน์จะกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกัน เช่น ทีเซลล์ (ในต่อมไทรอยด์) และเซลล์เม็ดเลือดขาวมาโครฟาจให้เดินทางไปยังตำแหน่งที่ติดเชื้อ นอกจากนี้แล้วไซโตไคน์ยังกระตุ้นเซลล์ดังกล่าวให้สร้างไซโตไคน์เพิ่มขึ้น ปรกติวงจรนี้จะถูกควบคุมให้พอเหมาะพอดีโดยร่างกายของเรา แต่บางครั้งวงจรดังกล่าวหลุดจากการควบคุมของร่างกาย และเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันจำนวนมากถูกกระตุ้นในที่เดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ยังอธิบายปรากกการณ์นี้ไม่ได้ แต่สัณนิษฐานว่าการหลุดจากการควบคุมเกิดเมื่อร่างกายพบเชื้อโรคที่ไม่เคยพบมาก่อนชนิดที่ก่อความเสียหายให้กับร่างกายสูง

พายุไซโตไคน์มีศักยภาพที่จะทำความเสียหายอย่างยิ่งให้กับเนื้อเยื่อและอวัยวะในร่างกาย อาทิ ถ้าเกิดพายุไซโตไคน์ในปอด จะเกิดการสะสมของของเหลวและเซลล์เม็ดเลือดขาวมาโครฟาจซึ่งจะอุดตันทางลำเลียงอากาศนำไปสู่ความตายได้ในที่สุด

พายุไซโตไคน์เกิดได้ทั้งในโรคติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ เช่น การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อและอวัยวะ การติดเชื้อในกระแสเลือดไข้หวัดนก ไข้ทรพิษ adult respiratory distress syndrome (ARDS) และ systemic inflammatory response syndrome (SIRS)

งานวิจัยจากวารสาร The New England Journal of Medicine เชื่อว่าพายุไซโตไคน์เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้ป่วยจำนวนมากในโรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดทั่วโรคในปี คศ. 1918 ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ในครั้งนั้นเป็นคนหนุ่มสาว รายงานจากฮ่องกงเชื่อว่าพายุไซโตไคน์เป้นสาเหตุของการเสียชีวิตจำนวนมากในการระบาดของไข้หวัด SARS ในพศ. 2545 และของการเสียชีวิตของผู้ป่วยไข้หวัดนกจำนวนหนึ่ง การมียอดผู้เสียชีวิตจำนวนมากในผู้ป่วยที่แข็งแรงในไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำให้คิดว่าส่วนหนึ่งเกิดจากปรากฏการณ์พายุไซโตไคน์ดังกล่าว

การช่วยเหลือผู้ป่วยจากพายุไซโตไคน์โดยพืชผักจากธรรมชาติ

1. สารต้านอนุมูลอิสระ พบในผักผลไม้ที่มีสีส้ม แดง ม่วง ขาว รวมถึงขิง ข่า ขมิ้น พริกหวานแดงเหลือง แครอท มะละกอ มะม่วง มังคุด ลิ้นจี่ ลำไย ชาเขียว ชาอูหลง ฯลฯ

2. TNF-alpha blocker ตัวนี้เป็นความโชคดีของประเทศไทยเพราะมีในขมิ้นชันและน้ำมันหอมระเหยจากขมิ้นชัน และเหง้าของขิงข่า

แพทย์ทางเลือกในสหรัฐอเมริกาแนะให้บริโภคกระเทียมวันละ 3 กลีบ ทุบแล้วทิ้งไว้ 15 นาทีก่อนบริโภค สร้างสุขภาพที่ดีป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 นี้ ถ้าอยู่ในเขตระบาดของโรครับประทานได้วันละ 14 กลีบ และเพิ่มการบริโภคขมิ้นชัน พริกแดง ขิง กระเทียม หอมใหญ่ และน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลหมัก ถ้าป่วยให้เพิ่มการบริโภคขมิ้นชัน พริกแดง ขิง กระเทียม หอมใหญ่ และน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลหมัก และลดอาหารแป้งขัดขาว ไข่ เนื้อแดง น้ำตาล นม ให้บริโภคหนักไปทางผัก ผลไม้ และโปรตีนพืชเช่นนมถั่วเหลือง โปรตีนเกษตร และถั่วต่างๆ เพื่อลดสารต่างๆ ที่จะไปช่วยให้เชื้อเพิ่มจำนวนได้มากขึ้นและลดการสร้างสารคัดหลั่ง (ทำให้ปอดทำงานลำบาก)

เรื่องพบแพทย์ก็ทำตามปรกติ อันนี้เป็นส่วนที่ทำให้ตัวเอง ดูแลตัวเองนะคะ

 

วันนี้คณะเขากะลาขอขมากรรมอโหสิกรรมให้คณะบุคคลหลายชาติสามภาษา
เจอคนเก่าๆ เหมือนรวมญาติ และเจอคนใหม่ๆ เหมือนว่าครอบครัวได้ขยายขนาด

เครื่องสแกนกรรมของพี่เม้าท์จอแบนเปิดปุ๊บติดปั๊บเห็นเพชรฆาตคลุมโม่งประหารชีวิตนักโทษชัดเจน ต้องขอขมาและปล่อยปลากันอุตลุตต่อไปเพื่อขอไถ่โทษ
หมอจีนท่านสุดยอดแมะข้อมือเห็นต่อมลูกหมากโต ปกปิดอะไรไม่ได้นะนี่ ใครขี้อายห้ามตรวจร่างกายกับหมอคณะนี้เด็ดขาด..

ขออนุโมทนาบุญคุณจอห์นนี่เจ้าของสถานที่และทุกท่านค่ะ

จะรอดูรูปจากแฟรงค์จ้า

 

กลับถึงบ้าน และกำลังจะโพสรูปภาพจากแผ่นที่คุณจอห์นนี่ ไรท์ให้
(ใช้กล้องคุณจอห์นนี่ถ่ายด้วย)
ปรากฏว่า แผ่นไม่อ่านครับ.....

พรุ่งนี้รอดูภาพจากกล้องพี่เม้าท์ก่อนนะครับ
(พี่เม้าท์ไม่น่าจะว่างถ่ายรูป..)

ไม่งั้นพรุ่งนี้เย็นๆค่ำๆ รอฟิล์มเจ้าเก่าอีกแล้วครับ...55

 

เมื่อวาน ระบบ ใช้ขันธ์ห้า คุ้มสุดๆ ทั้งสแกนกรรม รักษา และถ่ายรูป THREE IN ONE เดี๋ยวจะรายงานโดยสรุปพร้อมภาพ ให้ชมกันครับ

 

เมื่อวานนี้(25/7/52)ที่สถานธรรมธนบุรีรมณ์
หมู่บ้านมัณฑณา ของอาจารย์จอนห์นี่ จะว่าไปก็เป็นงานใหญ่พอสมควร มีอาจารย์ระบบ ไปกันหลายท่าน
เริ่มต้นจาก สแกนกรรม โดยใช้อุปกรณ์ระบบ
ผู้ที่ได้รับการสแกนกรรม ไปแล้ว สามารถเทียบเคียงกับ ผลที่กระทบกับตนเองในขณะปัจจุบันได้

การสแกนกรรม ของระบบ ผู้รับการสแกน ไม่ต้องเล่ารายละเอียดถึง อุปสรรค การงาน โรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่ เพียงแต่นั่งเฉยๆ ปล่อยวาง
ทำจิตให้สงบ หลับตา แล้วก็อธิษฐาน ขออนุญาตเจ้ากรรมนายเวร เปิดกรรม ให้ทราบ เพื่อ ขออโหสิกรรม ลดกรรม เพื่อให้เกิดความผาสุก ในชีวิต กระทำเฉพาะหน้าขณะที่เจ้ากรรมนายเวรกำลังส่งผล

การสแกนกรรม หรือเปิดเผยกรรมที่ไม่เคยรู้
เริ่มต้นตั้งแต่เวลาประมาณ 14.30 น. ไปจนหมดครบทุกท่านที่มา ก็เกือบ 17.00 น.แล้ว
จำนวนผู้ที่มาร่วมงาน ไม่ต่ำกว่า 60 คน

ผลของการสแกนกรรม คงต้องสอบถามผู้ที่ได้รับการสแกน ไปแล้ว
ส่วนภาพถ่าย คงต้องรอจากกล้อง จารย์แฟรงค์

หลังจากสแกนกรรม ทราบถึงที่มาที่ไปของกรรมที่ส่งผลให้ขณะปัจจุบันแล้ว เจ้ากรรม ยอมผ่อนคลายให้ ผู้เจ็บป่วยก็สามารถเข้ารับการบำบัดรักษาด้วยพลังรักษาจากอาจารย์ระบบ

หลังจากนั้นจึง เข้าร่วมพิธี ขออโหสิกรรม ต่อเจ้ากรรมนาย


งานนี้ระบบ ส่งอุปกรณ์มาหลายอย่าง แบบที่เรียกว่าคาดไม่ถึง หรือเกินความคาดหมาย

ต้องให้ผู้เข้าร่วมในพิธี มาเล่าสู่กันฟัง
การที่คนระบบ จะเล่าเองในสิ่งเหล่านี้
จะดูเหมือนกับการโฆษณาแต่ฝ่ายเดียว
ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์โดยตรงของระบบ

ระบบให้สแกนกรรม
แล้วให้ขยายระบบ ให้ธรรมขั้นพื้นฐาน
ในเรื่องความเข้าใจในขันธ์ห้า
ซึ่งหลายท่านก็ได้รับฟังและเกิดความเข้าได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งต้องขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
ถือว่าจิตวิญญาณ ของท่านนั้น ได้รับการพัฒนา ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นแล้ว

นอกจากนี้ยังได้รับความเมตตาจาก อาจารย์แพทย์ฝังเข็ม แมะชีพจร จากไต้หวัน ได้มาตรวจโรคภัยที่แฝงอยู่ในตัวเรา อีกด้วย ซึ่งแม่นยำราวกับปาฏิหาริย์

ทั้งหมดทั้งปวง นี้ ระบบจัดสรร ไม่มีการเรียกร้องเงินทองแต่ประการใด เป็นการให้เพื่อคลายทุกข์ที่กำลังเกิดกับขันธ์ห้า เป็นการให้ธรรมะ เพื่อละวางอัตตาตัวตน แม้ผลจะไม่ได้ในทันที
แต่ถือว่า หลายคนเกิดความเข้าได้ดี ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลัก

 

เข้าประจำที่แล้ว เริ่มพิธี



จารย์ไอย นั่งเป็นประธานต้นเสียงสวดขมากรรม ดังกว่าใช้ไมค์







มีการโยงสายสิญจ์น โดยระบบให้หยิบมาแบบไม่เข้าใจเหมือนกันว่าให้หยิบมาทำไม



สายสิญจ์นที่โยง เป็นสายสิญจ์น จากสุสานไตรลักษณ์ ลำปาง ของพระคุณเจ้าหลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นผู้อธิษฐานจิต สามารถโยงได้ครบทุกคนพอดี ไม่มีขาด ไม่มีเกิน







จารย์แฟรงค์ มือถ่ายติดอันดับ ถ่ยแบบใกล้ชิด



ภาพที่คุ้นเคยกันมานาน ร่วม 1 ปี

 

อาศรมพุทธะ สถานที่สำหรับจุดธูปเทียน บูชา หลังจากเสร็จจากการทำพิธีขอขมากรรม



จุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ เป็นพุทธบูชา



ชีวิตนี้เกิดมาทุกข์ยิ่งนัก เข้าใจในขันธ์ห้า จึงออกจากทุกข์มาได้



ขอพึ่งพา คำสอนของพระพุทธองค์ เพื่อกำจัดทุกข์ และกิเลสทั้งหลายให้หมดไป

 

จารย์จอนห์นี่ ต้อนรับขับสู้ อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ทำอาหารด้วยตัวเอง เลี้ยงดูผู้มาร่วมงานทุกคน

 

สัจจะ ความเป็นจริง ล้วนมีอยู้แล้ว ในธรรมชาติ ขอนอบน้อม รับสัจจะ ความเป็นจริงนั้น

 

วันนี้(26/7/52) มีอีกหนึ่งกิจกรรม ที่อาคารเอื้ออาทร บึงกุ่ม
ตึก65 ชั้น 5 ห้อง41-42

สอนโหราศาสตร์ โดยอาจารย์นีโม่ เป็นครั้งที่สอง

จากนั้น สนทนาธรรม
หากมีผู้สนใจ จะสแกนกรรม ระบบ ยินดีจัดให้สำหรับท่านที่พลาดจากงานบ้าน อ.จอนห์นี่ ครับ


สอนโหราศาสตร์ 13.00 น.
15.00 น. สนทนาธรรม สแกนกรรม

 

ขออนุโมทนากับอาจารย์ SUTASSEE ที่มีเมตตา เผื่อแผ่ให้กับญาติธรรม เพื่อนร่วมงานทั้งหลาย ได้มีโอกาส รับทราบกรรม และขอขมากรรม
นับเป็นบุญ ยังประโยชน์ตน และประโยชน์ท่าน ในคราวเดียวเป็นจำนวนมาก

ขอคารวะในความเป็นผู้มีจิตใจที่สูงส่ง และมองเห็นความน่ากลัวในชีวิตที่มีขันธ์ห้าเป็นองค์ประกอบ ของอาจารย์สุทัศสี ด้วยครับ

 

วันนี้ 26/7/52.....มีเวลาแวะไปที่ อ.อ.ท บึงกุ่ม ดูนะครับ
อย่างน้อยก็มีสแกนกรรม ส่วนการรักษา ถ้าไม่มีอะไรติดขัด เดี๋ยวระบบผลักดันให้อาจารย์รักษา มาเองครับ

ส่วนขอขมากรรม คงต้องรอ คำตอบจากระบบ ผ่านอาจารย์นีโม่ อีกที

 

ขออนุโมทนากับอาจารย์นีโม่ และ คณะอาจารย์ทุก ๆ ท่าน รวมถึงผู้ที่ได้สนใจติดตามข้อมูลจากกระทู้ของเขากะลา และได้เดินทางไปร่วมในกิจกรรมของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ที่สถานธรรมธนบุรีรมย์ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา

และขออนุโมทนากับอาจารย์จอห์นนี่ เจ้าของสถานธรรม ที่ได้เอื้อเฟื้อสถานที่ให้เป็นธรรมสถาน เพื่อให้บุคคลต่าง ๆ ได้เข้ามาร่วมใช้สถานธรรมแห่งนี้ เพื่อรับฟังธรรม ขออโหสิกรรม และมีโอกาสได้บำบัดรักษาอาการป่วยไข้จากโรคของกรรมที่ได้ติดตามมา

รวมทั้งอาจารย์จอห์นนี่ ยังได้สร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ ในการเป็นเจ้าภาพพิมพ์หนังสือธรรมะเพื่อแจกเป็นธรรมทานแก่ผู้ที่สนใจด้วย

ขอให้ทุก ๆ ท่าน ที่ได้มีโอกาสมาพบเจอกัน มารับทราบ มารับรู้ในเรื่องของกรรม ของวิบากกรรมที่ส่งผลตามมา จงได้เกิดปัญญาเห็นธรรม เห็นถึงกฏแห่งกรรม กฏของธรรมชาติ ที่เป็นไตรลักษณ์ คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ขออนุโมทนาให้ทุกท่านจงก้าวล่วงพ้นจากบ่วงของอุปาทาน ที่มันร้อยรัดมัดติดไว้กับขันธ์ห้าอย่างแยกกันไม่ออก ให้เห็นถึงโทษภัยในวัฏฏสงสาร เห็นถึงความทุกข์ทรมาน แล้วเกิดความเบื่อหน่ายที่จะต้องมาเวียนว่ายตายเกิดซ้ำ ๆ ซาก ๆ เช่นนี้ เพื่อที่จะได้เพียรละวางจากอุปาทาน เพื่อออกจากสังสารวัฏอันยาวนานกันเสียที

ขออนุโมทนา

 

เมื่อวานตั้งใจจะไปเข้าร่วมพิธีขอขมากรรม
และให้อ.เม้าท์สแกนกรรมให้...มีเหตุให้ไปไม่ได้



วันนี้...ก้ออดได้ไปเรียนโหราศาสตร์กับอ.โม่อีก
เฮ้อออ...(cry)สงสัยเจ้ากรรมนายเวรไม่เปิด
คงต้องก้มหน้ารับกรรมต่อไปpity_pig

นร.ไม่ได้โดดนะค๊าจาร สุดวิสัยจริงๆ

 

วันนี้เพิ่งได้เห็นรูปอ.จอห์นนี่แบบเต็ม ๆ
เพราะเคยเจอท่านที่วัดสวนแก้ว จ.อ่างทอง (ตอนนั้นไม่รู้จักอ.)
ตอนช่วงเข้าพรรษา เห็นท่านห้อยประคำเหมือนของระบบเปี๊ยบเลย...ทีแรกตั้งใจเข้าไปทักทายว่าเป็นประคำของเขากะลาหรือป่าว แต่ไม่แน่ใจเลยไม่กล้ากลัวหน้าแตก


ที่ไหนได้เป็นระดับอาจารย์ของเขากะลาเลยนะเนี่ย
เรานี่ช่างมีตาหามีแววไม่....

 

วัตถุบินลึกลับลอยขึ้นมาจากบึงบอระเพ็ด

ในวันที่ 17 ตุลาคม 2541

ในวันนั้น มีบุคคลเดินทางขึ้นมาบนเขากะลาเป็นจำนวนมาก ประมาณ 40 ท่าน และในช่วงหัวค่ำ ได้มีวัตถุลึกลับ ลอยขึ้นมาจากบึงบอระเพ็ด เป็นดวงไฟสีขาวปนส้มสว่างมาก ลอยขึ้นมาจากพื้นน้ำภายในบึงบอระเพ็ด ลอยขึ้นมาช้า ๆ ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางสายตาของผู้ที่ยืนอยู่บนลานดูดาวบนเขากะลา

คุณอนุ และคุณอนวัช จึงได้นำกล้องวีดีโอ ออกมาบันทึกภาพไว้ โดยตั้งกล้องไว้บนขาตั้งกล้องเพื่อให้นิ่ง จะได้เห็นการเคลื่อนที่ของวัตถุบินลำนั้น

เมื่อวัตถุบินลำนั้นลอยขึ้นมาจนอยู่ในระดับที่สูงแล้ว ก็เปิดไฟกระพริบขึ้น รอบ ๆ ลำ และลอยจากด้านบึงบอระเพ็ด ตรงเข้ามาหาเขากะลาที่มีกลุ่มบุคคลยืนดูอยู่จำนวนมากนั้น

จนกระทั่งวัตถุบินลำนั้น ลอยมาถึง และลอยผ่านเขากะลาไป ทุกคนก็แหงนหน้าขึ้นไปมอง เห็นไฟกระพริบเปลี่ยนตำแหน่งไปมา และไม่มีเสียง

เสียงฮือฮาดังไปทั่ว เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก

ซึ่งตัดข้อสงสัยเรื่องเครื่องบินไป เพราะได้เห็นวัตถุลำนี้ตั้งแต่แรกที่เริ่มลอยขึ้นมาจากบึงบอระเพ็ด เป็นดวงไฟดวงเดียว แล้วจึงค่อยมาเปิดไฟกระพริบที่กลางท้องฟ้า

จึงขอนำภาพมาใช้ชมกันค่ะ ซึ่งคุณอนุ และคุณอนวัช คุณพ่อและคุณลูก เป็นผู้บันทึกภาพไว้ได้ ท่ามกลางพยานบุคคลไม่ต่ำกว่า 40 คน ในวันนั้น

คุณอนุ พัฒนาพรรณ์ (เสื้อสีเทา) และคุณอนวัช บุตรชาย เป็นผู้บันทึกภาพวัตถุบินได้หลายครั้ง รวมทั้งร่างเรืองแสงที่เขากะลาด้วย





คุณอนวัช บันทึกภาพด้วยกล้องวีดีโอ

ย้อนรอย อีกครั้ง
กับ
วัตถุลึกลับที่เขากะลา​

[VDO]http://palungjit.org/attachments/a.649985/[/VDO]​

 

ภาพเหตุการณ์วัตถุบินลอยขึ้นมาจากบึงบอระเพ็ดนี้ ได้มีปรากฏให้เห็นอีกครั้ง ที่บึงบอระเพ็ด เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2552 ก่อนพิธีวางศิลาฤกษ์สถานธรรม จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน

คณะบุคคลที่เห็น จำนวน 7 บุคคล คือคุณพีท คุณนัน คุณสมจิตร คุณหนุ่ย คุณอ้อย น้องมิ้งค์ และพี่สุดใจ

สถานที่ที่เห็นวัตถุบิน บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์

เหตุการณ์ที่ได้เห็นในคืนนั้น คือวัตถุเรืองแสงสีส้ม ลักษณะคล้ายกันกับที่บันทึกภาพได้เมื่อปี 2541 นี้ โดยค่อย ๆ ลอยขึ้นมาจากน้ำในบึงบอระเพ็ด แล้วมาหยุดนิ่งอยู่กลางฟ้า ก่อนจะลอยไปด้านข้าง ขนานไปกับบึงบอระเพ็ด ในวันนั้น ซึ่งได้มีการเล่าเหตุการณ์ไว้แล้วก่อนหน้านี้


สรุปว่า คณะของคุณพีท ก็ได้พบเห็นวัตถุลึกลับที่ลอยขึ้นมาจากน้ำเหมือนกัน


ดังรายละเอียดที่เคยเล่าไว้ก่อนหน้านี้แล้ว


<TABLE class=tborder id=post2107321 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">16-05-2009, 12:29 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#8884 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2107321", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Aug 2007
อายุ: 51
ข้อความ: 1,677
Groans: 1
Groaned at 6 Times in 6 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 4,539
ได้รับอนุโมทนา 39,883 ครั้ง ใน 1,579 โพส
พลังการให้คะแนน: 1094






</TD><TD class=alt1 id=td_post_2107321 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->หลังจากนั้น ก็พากันเดินไปที่หาดทราย ข้างบ้านพัก ซึ่งตรงบริเวณนั้นจะมืดมาก และมองเห็นดาวเต็มท้องฟ้า ทั้งยังมองไปกลางบึงเห็นเด่นชัด หากมีสิ่งใดปรากฏขึ้นมา






ปรากฏว่าขณะที่กำลังสนทนากันอยู่นั้น มีวัตถุบินมาปรากฏในระยะที่ไม่สูงนัก ไฟกระพริบหมุนตลอดเวลา และบินส่ายไป ส่ายมา ไม่มีเสียง ทุกคนหยุดคุยกัน ต่างยืนมองวัตถุลำนั้นที่กำลังลอยผ่านไปอย่างช้า ๆ

คุณนัน ซึ่งเป็นสจ๊วตเครื่องบิน บอกว่า วัตถุที่กำลังลอยผ่านนี้ ไม่ใช่เครื่องบินแน่ เพราะไฟที่เปิดนั้น ไม่อยู่ในตำแหน่งของเครื่องบิน การกระพริบก็ไม่ใช่ เพราะเร็ว และรัวแบบไม่มีจังหวะ สีก็ไม่ใช่ ไม่มีสีเขียวแดง ระยะต่ำนี้ต้องได้ยินเสียง แต่กลับไม่มีเสียง คุณนันพยายามใช้มือถือถ่ายภาพ แต่ไม่สามารถบันทึกภาพได้เลย จึงได้แต่ยืนดูด้วยตาเปล่าหลายคน

และหลังจากนั้น ก็มีดวงไฟสีส้มดวงใหญ่ ค่อย ๆ ลอยขึ้นจากบึงบอระเพ็ด ตอนแรกไม่ได้สนใจ แต่พอลอยสูงขึ้นมาบนฟ้าระยะหนึ่ง แล้วหยุดนิ่ง ทุกคนก็เลยมองไปที่จุดนั้นเป็นจุดเดียว

ท่ามกลางสายตาของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ 7 คน วัตถุลำสีส้มลำนั้น หลังจากลอยนิ่งอยู่ประมาณ 2 - 3 นาที ก็เคลื่อนที่ขนานไปในแนวระนาบกับพื้นน้ำ และเพิ่มความเร็วมากขึ้น มากขึ้น จนหายลับไป

คุณพีท และคุณนัน นิ่งอึ้งด้วยไม่เคยเห็นชัด ๆ กับตาตนเองเหมือนในขณะนี้ แต่รุ่นอาวุโส 5 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ เคยเห็นหลายครั้งที่เขากะลา ในช่วงฝึกปี 41 -42 นั้น

และจากนั้น ก็มีวัตถุบิน ลอยผ่านมาอีกในระยะไม่สูงนัก ซึ่งก็เป็นการมาปรากฏคนละด้านกันกับลำที่ผ่านมา ไฟก็แตกต่างกันไปอีก เสียงก็ไม่มี

และก่อนกลับ ก็มีการแสดงปิดฉากแถมอีกลำหนึ่งกลางบึงบอระเพ็ด เป็นสีส้มสว่างลอยขึ้นมาจากกลางบึง มาหยุดกลางท้องฟ้า แล้วลอยไปทางซ้ายมือ แล้วหายไป


จบการแสดง จากเพื่อนต่างดาว เพียงเท่านี้

พี่สุดใจและคณะ ก็เดินทางกลับ

คุณพีท และคุณนัน ก็กลับขึ้นห้องพัก และนัดพบกันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 นาฬิกา ที่นครสวรรค์

ประสบการณ์ของคุณพีท และคุณนันครั้งนี้ ไม่มีหลักฐานภาพถ่ายใด ๆ เพราะคุณนันถ่ายภาพไม่ติด จึงไม่มีภาพมาให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้ชมกัน

มีแต่คำของคุณพีท....ที่อุทานว่า.... สุดยอด...! มาฝากเท่านั้นค่ะ


บรรยากาศริมชายหาดภายในบึงบอระเพ็ด ที่มายืนดูวัตถุบิน ที่ลอยผ่านเหนือศรีษะ และวัตถุลึกลับสีส้มสว่างที่ลอยขึ้นจากบึงบอระเพ็ด 2 ลำ ก่อนหายไป





<!-- google_ad_section_end -->




<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>







</FIELDSET>




</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อาจารย์ครับ ตาดีๆ ช่วยดูทีครับ มีอะไรผิดปกติรึป่าว
เมื่อเช้าเอาฟิล์มไปล้าง ค่ำๆไปรับฟิล์ม
กลับถึงบ้านก็เริ่มปรับแต่งรูปภาพนิดหน่อย
พอเช็คมาถึงภาพนี้(ตีหนึ่งกว่าแล้วครับ)
......ตอนซินแสขออโหสิกรรม

ภาพที่10(นับจากในฟิล์ม) ยังไม่มีอะไร.....


ภาพถัดมา ภาพที่11.....

 

เขามาทวงหนี้โดยตรงเลย(cry)