ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ฮิลลารี คลินตันห่วงเกาหลีเหนือผูกสัมพันธ์พม่ากระทบเสถียรภาพเอเชีย

    [​IMG]

    [​IMG]
    ผู้นำประเทศพม่ากับผู้นำเกาหลีเหนือ

    สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 กรกฎาคม 2009 11:30:00 น.

    นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวในการแถลงข่าวหลังจากเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า ความร่วมมือทางทหารระหว่างเกาหลีเหนือและพม่าแบบลับๆนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากยิ่งขึ้นสำหรับความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย และอาจจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในภูมิภาค ตลอดจนเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อประเทศเพื่อนบ้านของพม่า ​

    อย่างไรก็ดี นางคลินตันไม่ได้แสดงความเห็นเจาะจงถึงเรื่องข้อกล่าวอ้างที่ว่า เกาหลีเหนืออาจจะช่วยเหลือรัฐบาลทหารพม่าในการจัดตั้งโรงงานนิวเคลียร์หรือยูเรเนียม ​

    ที่ผ่านมา สหรัฐและประเทศพันธมิตรในเอเชียต่างระมัดระวังและเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตนิวเคลียร์โดยเกาหลีเหนือ และเมื่อเร็วๆนี้ กองทัพเรือสหรัฐเองก็ได้ติดตามเรือคัง นัม I ของเกาหลีเหนือที่มุ่งหน้าไปยังพม่าพร้อมด้วยสิ่งของบนเรือที่ไม่ทราบว่าเป็นอะไร แต่หลังจากนั้น เรือลำดังกล่าวก็วกกลับและเดินทางกลับประเทศเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ​

    คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์เมื่อเดือนมิ.ย.ให้ใช้มติลงโทษเกาหลีเหนือ ซึ่งครอบคลุมถึงเรื่องการควบคุมการปล่อยเงินกู้และการโอนเงินให้เกาหลีเหนือ การจัดตั้งทีมสำรวจตรวจสอบสินค้าที่ต้องสงสัยว่าจะมีวัตถุดิบที่อาจจะนำไปใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์หรือจรวดขีปนาวุธ หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ​

    ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการแพร่กระจายนิวเคลียร์และกลุ่มผู้คัดค้านพม่าชี้ว่า กองทัพพม่ากำลังพยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมา ซึ่งข้อกล่าวอ้างดังกล่าวมีหลักฐานสนับสนุนจากรูปภาพอุโมงค์ในพม่าที่สร้างขึ้นมาโดยได้รับความช่วยเหลือจากเกาหลีเหนือถึง 800 รูป ทางด้านเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของเกาหลีใต้ระบุว่าภาพถ่ายดาวเทียมเรือขนส่งสินค้าคัง นัม นั้น ชี้ให้เห็นว่า สินค้าที่อยู่บนเรือเป็นสินค้าที่เกี่ยวพันกับนิวเคลียร์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐระบุว่า สินค้าดังกล่าวอาจจะเป็นอาวุธยุทโปกรณ์หรืออาวุธขนาดเล็ก บลูมเบิร์กรายงาน ​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2009
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อุโมงค์ลับในพม่า ใกล้ไทยเกือบ 40 แห่ง

    [​IMG]

    posted on 28 Jun 2009 19:21 by leadership in Crisis-Management

    หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นฉบับวันนี้ เผยแพร่รายงานข่าวโดยแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสพม่าหลายนายถูกปลด หลังมีการเผยแพร่ภาพของ “อุโมงค์ลับในพม่า” ใกล้กับกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงใหม่ของพม่า ห่างไปทางเหนือของย่างกุ้ง 450 กิโลเมตร ที่สร้างโดยผู้เชี่ยวชาญเกาหลีเหนือ ระหว่างปี 2003-2006

    ทำให้เจ้าหน้าที่ข่าวกรองพม่าได้เริ่มการสอบสวนครั้งใหญ่ และได้สัมภาษณ์ผู้ใกล้ชิดกับพลโทขิ่น ยุ่น อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองเพื่อสืบว่า ใครเป็นผู้เปิดเผยโครงการลับนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายคน รวมถึงผู้สื่อข่าวซึ่งอาจเข้าถึงภาพและเอกสารเหล่านี้ด้วย

    รายงานข่าวระบุว่าภาพนี้ ปรากฎครั้งแรกใน “เยล โกลบอล ออนไลน์”(Yale Global Online) เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน สร้างความประหลาดใจให้กับนักการทูตในกรุงเทพฯ ขณะที่หน่วยงานข่าวกรองของไทยยืนยันว่า มีอุโมงค์นี้จริง แต่ไม่ได้แสดงความวิตกในเรื่องนี้ แหล่งข่าวชี้ด้วยว่า ผู้นำรัฐบาลทหารพม่ากลัวถูกโจมตีจากต่างประเทศ จึงสร้างสถานที่หลบซ่อนใต้ดิน ปัจจุบัน ยังไม่แน่ชัดว่า ผู้เชี่ยวชาญเกาหลีเหนือได้รับค่าจ้างในรูปแบบไหน อาจเป็นรูปแบบอาหารหรือสินค้า เพราะพม่าเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรมีค่า และผลผลิตทางการเกษตร

    ที่มาจากสำนักข่าวเนชั่น

    และจากลิ้งค์นี้ค่ะ http://dek-d.com/board/view.php?id=1372833

    มีแผนที่อุโมงค์ให้ดูด้วย อุโมงค์ชื่อ "กระดองเต่า" สร้างไว้ 800 แห่ง สามารถจุคนได้ถึง 600 คน มีอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกพร้อม แต่ที่น่าสงสัยคือ สถานีฐานใหญ่ๆ มีกว่า 50 แห่ง แต่ใกล้ประเทศไทยถึง เกือบ 40 แห่ง

    เอ ... หรือ พม่าจะขุดอุโมงค์ไว้หนีน้ำท่วมโลก แล้วในฐานะผู้นำ เราจะทำยังไงกันดีคะเนี่ย ??

    ที่มา อุโมงค์ลับในพม่า ใกล้ไทยเกือบ 40 แห่ง | :: Leadership ::
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2009
  3. krisdasri

    krisdasri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2008
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +759
    อย่าประมาณไปนะครับ ระวังก่อนก็ดีนะครับ


    [​IMG]สวนสัตว์เชียงใหม่เปิด แพนด้าสโนว์โดม ห้องปรับอุณหภูมิภายในลบถึง 5 องศา ประกอบด้วย ส่วนระเบียงชม ลานหิมะ และลานเลื่อนหรือสไลเดอร์ ส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าาแห่งใหม่ พร้อมระเบียงชมหมีแแพนด้า



    นายชุมพร แสงมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ ร่วมกันเป็นประธานเปิดแพนด้าสโนว์โดม ในวันนี้ซึ่งการก่อสร้างแพนด้าสโนว์โดมนี้ มีแนวคิดมาจาก การที่สวนสัตว์เชียงใหม่ได้รับหมีแพนด้าจากประเทศจีน ซึ่งเป็นเมืองหนาวมาเลี้ยงไว้ที่ประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองร้อน การนำหมีแพนด้ามาเลี้ยงจึงจำเป็นต้องจัดสถานที่อยู่ให้มีความเหมาะสมในการดำรงชีวิตของหมีแพนด้า ซึ่งในช่วงแรกก็ได้จัดเตรียมที่อยู่ที่เป็นห้องปรับอากาศ ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 18- 25 องศาเซลเซียส ซึ่งก็พอที่จะให้หมีแพนด้าอยู่ได้อย่างสบาย แต่ก็ยังไม่เหมือนกับที่ประเทศจีนทั้งหมด เพราะในฤดูหนาวของประเทศจีนจะหนาวเย็นถึงขั้นมีหิมะตก และถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของหมีแพนด้าก็อยู่บนเทือกเขาสูง อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี

    จากครอบครับข่าว 3
     
  4. kittitpx

    kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    ในความเห็นของผมนะครับ
    ที่มีหลายท่านบอกว่าภัยพิบัติครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น
    ผมมองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น
    ผมไม่ได้มองแต่เพียงว่ามีหลายท่านที่พูดตรงกันเกี่ยวกับภัยพิบัติ
    ไม่ว่าจะเป็นพระ นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ หรือท่านอื่นๆ
    ผมมองว่า ในปัจจุบันนี้นั้น ธรรมชาติเสียความสมดุลไปมาก และอาจจะเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ
    เพราะกิจกรรมของมนุษย์ การระเบิดภูเขา เพื่อนำหินมาทำถนน
    หรือ การตัดไม้ทำลายป่า เมื่อประชากรของโลกเพิ่มมากขึ้น ความต้องการในการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติ
    ก็เพิ่มมากขึ้น เมื่อ ความต้องการในการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น ธรรมชาติก็ถูกทำลายไปมากเท่านั้น
    จนเกิดปัญหาต่อโลก เช่น ภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป โลกก้าวหน้าขึ้น เทคโนโลยีเจริญมากขึ้น แต่ความเจริญทางโลกนี้ ก็ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆกัน
    สงคราม การทดลองนิวเคลียร์ การใช้อาวุธนิวเคลียร์ ทำลายล้าง สิ่งนี้ก็เป็นภัยโดยตรงที่ร้ายแรง
    ต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

    ที่กล่าวมานั้น ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้โลกเกิดความไม่สมดุลทั้งนั้น
    ซึ่งผมคิดว่า ก็ยังจะมีสาเหตุอื่นอีกที่มีผลต่อโลกหรือธรรมชาติในทางลบ
    เมื่อธรรมชาติเกิดความไม่สมดุล ธรรมชาติจึงต้องทำอะไรบางอย่าง
    เพื่อให้ตัวมันเองกลับไปสู่ภาวะสมดุล เพื่อความเป็นปกติอีกครั้ง

    เมื่อมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เซลล์เม็ดเลือดขาวก็จะทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมนั้นที่เข้ามาในร่างกาย
    เพื่ออะไร เพื่อให้ร่างกายเกิดความสมดุล เพื่อให้ร่างกายเกิดความเป็นปกติเหมือนเดิม
    เช่นกัน มนุษย์นั้นแหละเป็นสาเหตุหลัก เป็นตัวที่ทำให้ธรรมชาติหรือโลกเกิดความไม่สมดุล
    มนุษย์เหล่าใดเป็นตัวทำให้ ธรรมชาติเกิดความไม่สมดุลตามระบบหรือกฎของธรรมชาติ
    มนุษย์เหล่านั้นก็จะถูกธรรมชาติกำจัด เหมือนอย่างเชื้อโรคที่ถูกระบบของร่างกายกำจัด ฉันนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2009
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <big>2009-07-23 10:17:13 - Storm Surge - India</big>

    EDIS CODE: SE-20090723-22505-IND
    Date & Time: 2009-07-23 10:17:13 [UTC]
    Area: India, State of Maháráshtra, Mumbai, Colaba, Worli, Mahim, Khar, Juhu, Versova and Marve,

    <fieldset style="border: 1px solid Maroon; background-color: Yellow; font-family: Verdana,Geneva,Arial,Helvetica,sans-serif; font-size: 10px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: bolder; color: Red; text-align: center; text-decoration: blink; vertical-align: middle;">!!! WARNING !!!</fieldset>

    <small>Damage level: Heavy (Level 3)
    </small>
    Not confirmed information!
    Description:
    Sea waves measuring up to 5.1 metres lashed Mumbai and other places in the Konkan region, flooding homes of people living in the coastal areas here Thursday afternoon, civic officials said. The highest tide in last 100 years — measuring up to 5.5 metres — is forecast for Friday. The sea water flooded low-lying coastal areas like Cuffe Parade in south Mumbai, Colaba, Worli, Mahim, Khar, Juhu, Versova and Marve, a police official said. Huge sea waves crossed the retaining walls at Gateway of India and the Taj Mahal Palace & Tower Hotel, Nariman Point, Marine Drive, Girgaum Chowpatty and Worli Sea Face. Roads in Dadar, Mahim, Prabhadevi, Versova and Juhu were also flooded while in other places the sea waters entered homes of people, including the official bungalow of Mayor Shubha Raul at Dadar sea face. The high tide, which peaked around 1.30 p.m., is expected to last for another couple of hours. The century’s highest tide is expected 2.05 p.m. Friday. The civic authorities have put in place disaster management measures, an official said. The Municipal Corporation of Greater Mumbai (MCGM) had issued warnings to people in low lying and coastal areas to watch out for the gigantic tides and take adequate precautions. On Wednesday, the city witnessed a 4.85-metre high tide that flooded slums at Cuffe Parade and Vile Parle. The fire brigade had responded to distress calls and rescued 23 people from the affected areas. In a precautionary measure, the MCGM last week inserted big and small advertisements in the Mumbai newspapers warning people of the potential damage by the high tides and details of emergency services contact numbers. Civic officials said that MCGM would also monitor the situation in flood-prone areas through closed circuit TVs. As many as 11 hotlines have been established and 34 rain gauges are installed from where round the clock information on rainfall is being collected, and control rooms have been set up at all 24 civic wards, a civic official said.
     
  6. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    และแล้ววันนั้นก็ผ่านไป.. มีแต่เหตุการณ์ดาวพฤหัสถูกชน และเคยถูกชน
    มาก่อนโดยดาวหางชูเม็คเกอร์เลวี่ย์-9 จึงเบี่ยงเบนไปไม่โดนโลก
    ดาวศุกร์ ดาวอังคาร หรือว่าครั้งนี้ก็เป็นการปกป้อง ดาว 3 ดวงนี้อีกครั้ง
    อาจมุ่งหน้ามาที่โลกก็ได้ เพราะพลังลบจำนวนมากที่โลกดึงดูดมา
    (จากหน้า 120 จิตจักรวาลซีรี่ส์ 1)
     
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    อย่าประมาทครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้

    ตอนนี้เห็นชัดเจนก็ไข้หวัด2009 นี่ล่ะครับ ที่เริ่มเข้าสู่ สเตจที่คนเริ่มตายเร็วขึ้นมากขึ้นแล้ว

    แต่ของจริงนี่คือเสียชีวิตแบบใบไม้ร่วงเลย

    ดังนั้นทุกๆคนต้องไม่ประมาทและ ดูแลสุขภาพร่างกาย ที่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ดูแลจิตใจของเราให้เป็นกุศล เป็นสมาธิ มีวิปัสนาญาณให้เป้นปกติครับ
     
  8. bluejet

    bluejet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +2,181
    ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์เพิ่งทราบแล้วว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้มีอัตราการเกิดการผ่าเหล่าเร็วกว่าสายพันธุ์์อื่นๆมาก นอกเหนือจากมีการระบาดเร็วมากกว่าไวรัสพันธุ์ปกติ ความหมายก็คือ ในอนาคตมันอาจจะผ่าเหล่าไป จนเกิดความรุนแรงมากกว่านี้ก็ได้ ตอนนี้ใครเป็นไข้หวัดใหญ่ส่วนมากจะเป็นสายพันธุ์ใหม่นี้ แต่ผมคิดเอาว่า ถ้าใครเกิดเป็นตอนนี้ก็ไม่น่ากลัวเท่าไร เพราะอัตราการตายยังต่ำมาก (ปัญหาอยู่ที่มันมีการแพร่กระจายเร็ว คนจึงติดแยะ) แต่ถ้ามันผ่าเหล่าจนความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต จะน่ากลัวกว่า เพราะอัตราการตายน่าจะสูงขึ้นๆ ใครเป็นไข้หวัดใหญ่ช่วงนี้กลับจะได้ภูมิคุ้มกันไปป้องกันตัวสายพันธุ์ที่จะกลายไปอีกในอนาคตได้ดีพอควร เป็นประโยชน์เสียอีก และวัคซีน ก็แว่วๆมาว่า ไม่รู้จะทำมาจากไวรัสที่ต่างออกไปมากเกินไปจนไม่ค่อยให้ภูมิคุ้มกันหรือเปล่าด้วย

    อนึ่ง กลุ่มเสี่ยงที่พบว่าติดไวรัสมากคือคนอายุวัยรุ่นจนถึงห้าสิบปี ผมเข้าใจเอาว่า เป็นเพราะคนช่วงอายุดังกล่าวต้องออกไปเรียนหนังสือ ไปทำงาน เจอผู้คน เข้าแหล่งชุมชน เป็นประจำ ก็เลยทำให้ติดไวรัสมากกว่ากลุ่มอื่น

    รักษาสุขภาพกันดีๆครับทุกๆท่าน
     
  9. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ปกติ ในช่วงเข้าพรรษา

    หลวงปู่สุภา ศิริมายุครบ 115 ปี วันที่ 17 กันยา 2552 ท่านจะปวารณา บิณฑบาตร ทุกวันพระใหญ่ (แล้วแต่ วาระ สังขาร )

    เช้าวันที่ 22 กค.52 วันพระใหญ่ หลวงปู่ ท่านแจ้งให้ศิษย์ที่ดูแลใกล้ชิด นำท่าน โปรดชาวป่าตอง ภูเก็ต เพื่อ โปรด บิณฑบาตร ครับ

    และช่วงเย็นผมเดินทางร่วมบุญทำวัตรเย็น ภาวนา จากนั้น ร่วมถวายดอกมะลิ บูชาครู (ทุกวันพระทางชีจะประดิษฐ์ดอกไม้ เพื่อ ให้พระ และชี ถวายดอกไม้บูชาครูหลวงปู่สุภา ครับ )

    ชีท่านหนึ่งถักหมวกไหมพรม ถวายหลวงปู่ ในคืนนี้ด้วย เพราะ แอร์ในห้องหลวงปู่เย็นกระทบ ท่านหนาว ครับ

    จากนั้น ผมถวายดอกมะลิ และ ทางน้องชายผม hs8osw ใด้ร่วมบุญถวายปัจจัย หลวงปู่ ครับ

    หลวงปู่ท่าน ให้ทางศิษยานุศิษย์อัญเชิญ สมเด็จหลวงปู่อุปคุต ประดิษฐานใว้ 4 มุมเมืองภูเก็ต เพื่อ บรรเทพ ภัยพิบัติ หลังเหตุการณ์ 2547

    (ก่อนหน้านี้ หลวงปู่ ท่านปรารถ แล้ว แต่....)

    ที่ประดิษฐานสมเด็จหลวงปู่อุปคุต ที่ศิษยานุศิษย์หลวงปู่สุภา อัญเชิญประดิษฐานใว้ 4 มุมเมืองภูเก็ต โดย

    โดยทิศเหนือที่วัดท่าฉัตรไชย
    ทิศใต้ที่วัดในหาร
    ทิศตะวันออก ที่ศูนย์สถาบันชีววิทยาทางทะเล
    ทิศตะวันตกคือที่สำนักสงฆ์แหลมเพชร ซึ่งอยู่ หน้าหาดป่าตอง

    [​IMG]

    [​IMG]

    คำบูชาพระอุปคุต
    อุปะคุตโต จะ มะหาเถโร สัมพุทเธนะ วิยากะโต มารัญจะ มาระพะลัญจะ โส อิทานิ มะหาเถโร นะมัสสิตะวา ปะติฎฐิโต
    อะหัง วันทามิ อิทาเนวะ อุปะคุตตัง จะ มาหาเถรัง ยัง ยัง อุปัททะวัง ชาตัง วิธัง เสติ อะเสสะโต มะหาลาภัง ภะวันตุเม ฯ

    หรือ (แบบย่อ)(เกิดโชคลาภและคุ้มกันภัยภิบัติอันตรายทั้งปวง)

    อุปะคุตโต จะ มะหาเถโร ยักขาเทวา นะระปูชิโต โสระโห ปัจจะ ยาทิมหิ มะหาลาภัง ภะวันตุเม ฯ

    เพิ่มเติมครับ
    ภาพสมเด็จหลวงปู่อุปคุต ที่ทางกลุ่มพลังจิตฯ ภัยพิบัติ ร่วมสร้างและ อัญเชิญใว้ ตามที่สถานที่ต่างๆ ครับ (ห้องพระบ้านผม ท่านดร.<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sutatip_b<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1985327", true); </SCRIPT> เมตตาอัญเชิญให้บูชาครับ )

    http://palungjit.org/threads/ร่วมสร้าง-หลวงปู่อุปคุต-เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ.111894/page-25



    [​IMG] [​IMG] [​IMG][​IMG] [​IMG] <!-- google_ad_section_end -->

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2009
  10. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,667
    ค่าพลัง:
    +9,239
    ขอบคุณทุกท่านที่มาบอกเล่าเรื่องต่าง ๆ ค่ะ
     
  11. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    เอ!! สงสัยเรื่องหวัดนะจ๊ะ
    ไอ้เรานี่ก็เป็นหวัดมาตั้งแต่เล็กยันโตก็คือเป็นแล้วเป็นอีกๆๆ
    เลยอยากจะรู้ว่าไอ้ที่บอกกันว่าเป็นไข้2009แล้วจะมีภูมิคุ้มกันแล้วไม่เป็นอีก
    มันชัวร์หรือมันมั่วนิ่มกันแน่อ๊ะ เพราะแค่หวัดธรรมดายังเป็นได้บ่อยๆไม่เกิดภูมิ
    คุ้มกันอะไรสักติ๊ด
     
  12. มาม่า

    มาม่า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +12
    ไข้หวัดมันมีหลายชนิด หลากหลายสายพันธุ์ครับ ถ้าเราเคยเป็นไข้หวัดชนิดไหน
    ร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกันชนิดนั้นขึ้นมา (เฉพาะชนิดที่เราเป็นเท่านั้น)

    แต่ถ้าเราไปรับเชื้อสายพันธุ์อื่นๆมา ภูมิคุ้มกันเดิมในร่างกายเรา จะใช้ไม่ได้ครับ
    และต่อไปถ้ามันกลายพันธุ์แตกย่อยออกไปมากๆ ภูมิคุ้มกันที่อยู่ในร่างกายเรา
    ก็ยิ่งไม่มีประโยชน์อะไรเลยครับ
     
  13. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    บทพิสูจน์? มนุษยชาติ
    ด้วย.. ภัยพิบัติล้างโลก
    hello8hello8hello8
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2009
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แผ่นดินไหวที่เวเนซุเอลา แต่ไม่กระทบแหล่งน้ำมัน

    [​IMG]

    คารากัส 24 ก.ค.-เจ้าหน้าที่เวเนซุเอลา กล่าวว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.6 ริกเตอร์ บริเวณแหล่งน้ำมันทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเวเนซุเอลา เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บ

    ผู้อำนวยการศูนย์แผ่นดินไหวท้องถิ่นในเวเนซุเอลา กล่าวว่า เหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.25 น.ตามเวลาท้องถิ่น ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองปุนโต ฟิโจ บริษัทเปโตรเลียส เดอ เวเนซุเอลา แถลงว่า โรงกลั่นน้ำมันใกล้เมืองที่เกิดแผ่นดินไหวไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ เวเนซุเอลาเป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-24 07:35:26

    ยอดผู้เสียชีวิตจากดินถล่ม-น้ำท่วมญี่ปุ่นเพิ่มเป็น 12 คน

    [​IMG]

    โตเกียว 23 ก.ค. - หน่วยกู้ภัยพบร่างผู้หญิงคนหนึ่งใต้ดินถล่มและซากปรักหักพังของบ้านพักคนชราที่ประสบเหตุดินถล่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมเป็น 12 คน ภายหลังฝนตกหนักทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่น

    ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉิน ยังคงค้นหาผู้สูญหายอีก 6 คน ภายหลังน้ำท่วมและดินถล่มจากฝนตกหนักเมื่อ 2 วันก่อน โฆษกสำนักงานตำรวจในจังหวัดยามางูจิ บนเกาะฮอนชู กล่าวว่า การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น ขณะที่ยังหวังว่าอาจมีผู้รอดชีวิต

    ในจำนวนผู้เสียชีวิต 12 คน เป็นผู้เสียชีวิตที่จังหวัดยามางูจิ 11 คน และชายอีกคนเสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำในแม่น้ำที่จังหวัดทตโตริ. - สำนักข่าวไทย

    2009-07-23 18:53:47

    ดินถล่มที่จีนเสียชีวิต 4 สูญหาย 53 ราย

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 23 ก.ค. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และสูญหาย 53 ราย ภายหลังฝนตกหนัก ทำให้ดินถล่มในพื้นที่ห่างไกลและแถบภูเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน วันนี้

    ผู้เสียชีวิตเป็นคนงานก่อสร้างกำลังทำงานที่เขื่อนแห่งหนึ่งในเขตคังติง ซึ่งเป็นพื้นที่อาศัยของชาวทิเบตในมณฑลเสฉวน และเกิดดินถล่มเมื่อเวลา 03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ดินถล่มยังปิดขวางเส้นทางแม่น้ำในท้องถิ่นด้วย ส่วนผู้ที่ติดอยู่ภายในซากหักพังได้รับการช่วยเหลือออกมาแล้ว

    สถานีวิทยุจีน รายงานว่า เส้นทางหลวงในระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร เต็มไปด้วยดินถล่ม ขณะที่ไฟดับและการคมนาคมขัดข้องในพื้นที่ดังกล่าว. - สำนักข่าวไทย

    2009-07-23 18:40:55

    มีผู้เสียชีวิต 6 คนจากพายุกระหน่ำโปแลนด์และเช็ก

    [​IMG]

    วอร์ซอว์ 24 ก.ค. - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคนในโปแลนด์และสาธารณรัฐเช็ก เมื่อวานนี้ หลังจากพายุรุนแรงและฝนตกหนักทำให้ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น หลังคาปลิวหลายแห่ง

    สำนักข่าวโปแลนด์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 5 คนที่โปแลนด์ โดย 4 คนเสียชีวิตจากต้นไม้โค่นทับ ส่วนอีกคนจมน้ำ สถานีโทรทัศน์ระบุตัวเลขผู้เสียชีวิต 7 คน แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ ส่วนผู้บาดเจ็บหลายสิบคน มีอยู่ 17 คนที่ถูกไฟดูดจากเสาไฟฟ้าแรงสูงโค่นลงมา เจ้าหน้าที่กล่าวว่า พายุที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วลมถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้หลังคาปลิว และกระทบการจราจรทั่วโปแลนด์ มีรายงานต้นไม้โค่นหลายต้นในกรุงวอร์ซอว์ ขณะที่สาธารณรัฐเช็ก หญิงชราวัย 75 ปีเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายคนจากพายุกระหน่ำเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา .-สำนักข่าวไทย

    2009-07-24 08:34:00

    อังกฤษพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่รายใหม่ถึง 1 แสนคน

    [​IMG]

    ลอนดอน 24 ก.ค. - ทางการอังกฤษรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 รายใหม่ถึง 1 แสนคน ขณะที่อังกฤษจัดตั้งระบบบริการสายด่วนในการสั่งยาต้านไวรัสทางโทรศัพท์

    กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 คนจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ประกอบด้วยในอังกฤษ 26 คน และสกอตแลนด์ 4 คน ส่วนอีก 840 คนอยู่ในโรงพยาบาลที่อังกฤษ ซึ่งรวมถึงที่อยู่ในหอผู้ป่วยหนักอีก 63 คน เจ้าหน้าที่แพทย์อังกฤษ กล่าวถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นซึ่งมีจำนวนเกือบสองเท่าของสัปดาห์ที่แล้วที่มีอยู่ 55,000 คนว่า เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่เน้นว่าคนไข้ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง

    อังกฤษเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสเอช1 เอ็น1 รุนแรงที่สุดในยุโรป โดยได้ยกเลิกความพยายามที่จะควบคุมการระบาดในตอนแรก และมุ่งเน้นมาที่การรักษาผู้ติดเชื้อแทน ในขณะที่การระบาดเพิ่มขึ้น สำนักงานสาธารณสุขอังกฤษจึงได้จัดตั้งระบบบริการสายด่วนเพื่อให้สามารถสั่งจ่ายยาต้านไวรัสทางอินเตอร์เนตและทางโทรศัพท์ได้ โดยมีเจ้าหน้าที่สอบถามอาการในเบื้องต้นก่อน

    ส่วนในรายที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น หญิงมีครรภ์ ผู้มีปัญหาสุขภาพ และเด็กเล็ก จะต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัย รายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตร้อยละ 67 เป็นผู้มีปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ร้อยละ 11 มีอาการป่วยปานกลาง เช่น เบาหวาน และอีกร้อยละ 6 มีอาการความดันโลหิตสูง เด็กเล็กจนถึงอายุต่ำกว่า 14 ปีได้รับผลกระทบหนักที่สุด ซึ่งหนึ่งในสามของผู้เสียชีวิตมีอายุต่ำกว่า 15 ปี .-สำนักข่าวไทย

    2009-07-24 08:37:29

    จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในญี่ปุ่นทะลุ 5,000 คน

    [​IMG]

    โตเกียว 24 ก.ค. – เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นรายงานวันนี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในญี่ปุ่นพุ่งขึ้นเป็น 5,031 คนแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง

    ตัวเลขดังกล่าวรวมถึงคนที่ถูกกักตัวไว้สังเกตอาการเมื่อเดินทางเข้ามายังญี่ปุ่น 36 คน ทหารสหรัฐและครอบครัวที่ประจำการในญี่ปุ่น 9 คน ญี่ปุ่นพบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นครั้งแรกเมื่อต้นเดือนพ.ค. และระบาดอย่างรวดเร็วไปยังโรงเรียนชั้นมัธยมในเมืองโกเบและโอซากาทางตะวันตกก่อนจะระบาดเป็นวงกว้าง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 1,000 คน เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา. -สำนักข่าวไทย

    2009-07-24 13:55:16

    วัวบุกโรงแรมในจีน

    [​IMG]

    ซานตง 23 ก.ค. - โรงแรมแห่งหนึ่งในจีนต้อนรับวัวเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ หลังจากวิ่งพลัดหลงเข้ามาในโรงแรม และนอนอยู่ในห้องพักตลอดทั้งคืน

    แม่ของเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองจี่หนาน มณฑลซานตง ระบุว่า ขณะเกิดเหตุเธอนอนหลับอยู่บนเตียง แต่ทันใดนั้นก็มีวัวตัวหนึ่งวิ่งทะลุประตูเข้ามาในห้อง ขึ้นมายืนบนเตียงและมองมาที่เธอ ในตอนนั้นเธอรู้สึกกลัวมาก และพยายามซุกอยู่ใต้เตียง รอจนกระทั่งลูกชายมาขับไล่วัวออกไปที่ห้องว่าง แต่ทำอย่างไรวัวก็ไม่ยอมออกไป

    ตำรวจต้องนำเชือกมาผูกวัวไว้กับราวบันได เพื่อพยายามป้องกันไม่ให้ทำร้ายตัวเองหรือสิ่งของรอบข้าง จึงต้องยอมให้วัวตัวนี้นอนค้างคืนอยู่ที่โรงแรม โดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่หยวนเดียว รอเวลาหาเจ้าของมารับกลับไป. - สำนักข่าวไทย

    2009-07-23 16:15:31

    งูจงอางหลงทางเข้าสภาฯ ทำให้การประชุมชะงักในอินเดีย

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    ภุพเนศวร 23 ก.ค. - เจ้าหน้าที่สภาอินเดีย กล่าวว่า งูจงอางพลัดหลงเข้ามา ทำให้การประชุมสภาฯ ต้องชะงักไปเป็นเวลาหลายชั่วโมง ที่รัฐโอริสสาของอินเดีย ในวันนี้

    พนักงานทำความสะอาดสังเกตเห็นงู ซึ่งคาดว่าเป็นงูจงอาง ระหว่างมาทำความสะอาดในช่วงเช้า จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสภาฯ ทราบ ขณะที่ประธานสภาฯ ต้องเลื่อนการประชุมออกไปก่อน เพื่อความปลอดภัย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าและผู้เชี่ยวชาญด้านงูมาช่วย พร้อมด้วยสุนัขดมกลิ่น

    ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่า กล่าวว่า งูมักพลัดหลงเข้ามาในส่วนที่เป็นพื้นที่ก่อสร้าง เนื่องจากการก่อสร้างมักทำให้งูต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยของพวกมัน. - สำนักข่าวไทย

    2009-07-23 16:27:34

    ฮิลลารีแถลงเกาหลีเหนือดื้อรั้นและสร้างปัญหา

    [​IMG]

    ภูเก็ต 23 ก.ค. - นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า เกาหลีเหนือได้แสดงท่าทีขัดขืนที่จะล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ ในที่ประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เออาร์เอฟ)

    นางคลินตัน ระบุว่า ผู้แทนของเกาหลีเหนือได้แต่ปฏิเสธการรับรู้ว่าเกาหลีเหนือกระทำในสิ่งที่ผิด และไม่ได้แสดงความปรารถนาอย่างชัดเจนว่าจะปฏิบัติตามแนวทางการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งสิ่งนี้กำลังสร้างปัญหา ไม่แต่เพียงสหรัฐ แต่ต่อภูมิภาคและประชาคมนานาชาติ

    รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า เกาหลีเหนือไม่เหลือเพื่อนที่จะช่วยปกป้องจากความพยายามของประชาคมระหว่างประเทศที่ต้องการให้เกาหลีเหนือล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ และว่า การลงโทษเกาหลีเหนือในระยะสั้น คือ การโดดเดี่ยวประเทศนี้ เพื่อกดดันให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และเข้าสู่ทางเลือกอื่น เพื่อผลประโยชน์ของทุกฝ่าย. - สำนักข่าวไทย

    2009-07-23 15:41:08

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ข่าวจาก บีบีซี 22 กรกฎาคม 2552

    [​IMG]

    [​IMG] แสดงแผ่นดินเลื่อนที่ Fiordland หลังแผ่นดินไหว

    แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 7.8 ริกเตอร์เมื่อสัปดาห์ก่อนทำให้เกาะนิวซีแลนด์ใต้เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเข้าใกล้ทวีปออสเตรเลียมากขึ้น 30 ซม.แต่ชายฝั่งตะวันออกเคลื่อนไปทางตะวันตกเพียง 1ซม. เท่านั้น ทำให้เกาะนิวซีแลนด์มีพื้นที่มากขึ้น

    การเคลื่อนตัวครั้งนี้แสดงถึงการสั่นไหวอย่างแรง แผ่นดินไหวดังกล่าวก่อให้เกิดซึนามิขนาดเล็กนอกชายฝั่งนิวซีแลนด์ตะวันตก มีการเตือนภัยให้ประชาชนในพื้นที่ย้ายขึ้นที่สูง

    [​IMG]

    แผ่นดินไหวนี้มีขนาดใหญ่สุดในรอบ 78 ปี แต่ทำความเสียหายน้อยเพราะเกิดในบริเวณที่มี
    ประชากรน้อย แถบ Fiordland ในบริเวณ Invercargill

    [​IMG]

    นิวซีแลนด์ประสพแผ่นดินไหวบ่อยเพราะตั้งอยู่บนรอยต่อระหว่างออสเตรเลียและแปซิฟิกเพลท

    ภาพจากอินเตอร์เน็ต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2009
  16. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    ต้องเปลี่ยน..ความคิด..นักเศรษฐศาสตร์..ผู้นำ world bank,IMF,UN,ศจ.เศรษฐศาสตร์

    เศรษฐกิจในโลกที่จำกัด



    <O:p</O:p
    เศรษฐกิจในโลกปัจจุบัน ได้ขยายตัวใหญ่ขึ้น จนเราไม่อาจหลอกตัวเองได้อีกต่อไปว่า เศรษฐกิจสามารถขยายตัวต่อไปได้ไม่รู้จบ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่มีขอบเขตขีดจำกัด บัดนี้คงถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะต้องยอมรับความเป็นจริงของโลกที่กำลังเสื่อมโทรมลงทุกวัน ในทุกๆด้าน ก่อนที่หายนะโลกครั้งต่อไปจะมาถึง จึงจำเป็นต้องมีวิธีคิด วิถีชีวิตแบบใหม่ เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้ชีวมณฑลและระบบนิเวศ์ของโลกที่จำกัด <O:p></O:p>

    โดยทั่วไปถือกันว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจ คือ ยาครอบจักรวาล ที่สามารถแก้ไขปัญหาทุกประเภท ทุกระดับในโลกยุคใหม่ ไม่ว่าความยากจนก็ต้องใช้การขยายตัว โดยการเพิ่มปริมาณการผลิตสินค้า และบริการ และกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการบริโภค แล้วคอยเฝ้าดูความมั่งคั่ง ที่พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จงอย่าแบ่งปันความมั่งคั่ง จากคนร่ำรวยไปให้กับคนยากจน เพราะจะชะลอการขยายตัว <O:p></O:p>

    -ปัญหา การว่างงานก็เพียงแต่กระตุ้นอุปสงค์ หรือความอยากได้สินค้าและบริการ ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และกระตุ้นการลงทุน อันจะนำไปสู่ตำแหน่งงานที่เพิ่มขึ้น และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ<O:p></O:p>
    -ปัญหา อัตราการเกิดและจำนวนประชากร ต้องผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และรอให้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านประชากรในการลดอัตราการเกิด ดังที่ปรากฏในประเทศอุตสาหกรรมระหว่างทศวรรษที่ 20 <O:p></O:p>
    -ปัญหา การเสื่อมโทรมของสภาวะแวดล้อมก็ไม่ใช่เรื่องยาก โดยเชื่อในแนวคิดที่ว่า มลพิษจะเพิ่มขึ้นระหว่างการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงต้นๆเท่านั้น ในที่สุดก็จะแตะระดับสูงสุด แล้วลดลงเรื่อยๆเอง <O:p></O:p>

    ความเชื่อเหล่านี้จะเป็นจริงๆได้ ก็ต่อเมื่อ เศรษฐกิจของโลกเติบโตในอากาศธาตุที่ไม่มีขอบเขตที่สิ้นสุด แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เศรษฐกิจของโลกเป็นเพียงระบบย่อยๆที่ดำรงอยู่ในชีวมณฑลและสิ่งแวดล้อมที่มีขอบเขตอันจำกัด แม้จะสร้างขึ้นใหม่ได้ แต่ก็มีความเร็วและปริมาณจำกัดในระดับหนึ่ง<O:p></O:p>

    เมื่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ กัดกร่อนระบบนิเวศน์สิ่งแวดล้อมของโลกจนเสียสมดุล มนุษย์ก็ต้องสังเวยด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า (สัตว์ น้ำ พื้นที่ป่า แร่ธาตุสำคัญ) ซึ่งมีคุณค่าสูงกว่าทรัพยากรที่มนุษย์สร้างขึ้นหลายเท่า (ถนน โรงงาน เครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆ) ที่เป็นเช่นนี้ก็เพียงเพื่อ เพิ่มพูนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เท่านั้น ซึ่งอันที่จริงควรเรียกว่า “การขยายตัว ที่ไม่ส่งผลดีทางเศรษฐกิจ” เพราะสร้างให้เกิดผลลัพท์ทางด้านลบมากกว่า และเห็นผลได้รวดเร็วกว่าด้านบวก แท้ที่จริงแล้วกลับทำให้เราจนลง ไม่ใช่รวยขึ้น เมื่อเข้าสู่วิกฤติระดับหนึ่ง การขยายตัวเพื่อความมั่งคั่งกลับกลายเป็นสิ่งที่โง่เขลา ทำลายตัวเองในระยะสั้น และเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในรูปแบบเช่นนี้ในระยะยาว ประจักษ์พยานที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ได้แก่วิกฤติเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน อันมีที่มาจาก เศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเข้าสู่ช่วง “การขยายตัว ที่ไม่ส่งผลดีทางเศรษฐกิจ” เรียบร้อยโรงเรียนฝรั่งไปแล้ว<O:p></O:p>

    แต่คงเป็นเรื่องที่ยากมากๆยากถึงที่สุด ที่จะให้เกิดการยอมรับและหลีกเลี่ยงการขยายตัวตามความเชื่อ ตามแนวทางเก่าๆที่พิสูจน์แล้วว่า ส่งผลเสียมากกว่าผลดี ปัญหาที่สำคัญประการหนึ่ง เพราะว่า มีมนุษย์จำพวกหนึ่งที่ได้รับผลประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แบบนี้ จึงมองไม่เห็นและไมให้ความสำคัญใดๆ กับการเปลี่ยนแปลงหลักคิด วิธีการ วิถีชีวิต หรือกิจกรรมใดๆไปจากเดิม และในบัญชีงบดุลของชาติก็ไม่ต้องแสดงรายการที่ต้องสูญเสียไป เพื่อแลกกับ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ผู้คนได้สำเหนียกถึง มูลค่าที่แท้จริง<O:p></O:p>

    ณ ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านอันสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์นี้ มนุษยชาติต้องหันไปหา หลักการ วิธีคิดแบบใหม่ๆ ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับความเป็นไปและเป็นจริงของโลกพิภพใบนี้ เพื่อก้าวไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ที่แท้จริง ต้องทำความเข้าใจและตระหนักในข้อจำกัดและขีดจำกัดทางชีวฟิสิกส์ กายภาพของโลก เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ได้ต่อเนื่อง ยืนยาวไปได้ในอนาคต แต่หากเรายังยึดติด ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงใดๆ ผลลัพท์ที่จะเกิดขึ้น ไม่เพียงแต่เป็นการขยายตัวที่ไม่ส่งผลดีทางเศรษฐกิจ แต่จะเป็นหายนะทางสิ่งแวดล้อมของโลกพิภพ ที่ไม่อาจคาดเดาได้ถึงผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และวิถีการดำรงชีวิต ของมนุษย์ในอนาคต อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดูคล้ายๆกับคำทำนายทั้งหลายที่กล่าวถึง ภัยพิบัติหายนะของโลกพิภพ<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    ชีวมณฑลอันจำกัด<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    ทุกวันนี้ นักเศรษฐศาตร์โดยส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่า มนุษยชาติ นำโดยสหรัฐและอีกหลายประเทศทั่วโลกกำลังพากันเดินหน้าเข้าสู่สภาวะ “การขยายตัว ที่ไม่ส่งผลดีทางเศรษฐกิจ” พวกเขาไม่ใส่ใจและไม่ให้ความสำคัญกับ แนวคิดการขยายตัวอย่างยั่งยืน โดยพวกเขายังเชื่อมั่นว่า โลกได้เดินตามแนวทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจมานานแล้ว และจะยังเดินหน้าตามแนวคิดแนวทางนี้ต่อไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด<O:p></O:p>

    สำหรับแนวคิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในโลกตะวันตกนั้น ได้รับการขานรับจากนักเศรษฐศาสตร์ ที่เรียกกันว่า นักเศรษฐศาสตร์เชิงนิเวศน์ และปรากฏอยู่ในแขนงหนึ่งของเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก เรียกว่า เศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อม แต่ในภาพรวมแล้ว บรรดานักเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก(นีโอคลาสสิค) ก็ยังพากันมองว่า แนวคิดเกี่ยวกับความยั่งยืน เป็นเพียงกระแสนิยม ตามยุคสมัยคล้ายแฟชั่น พวกเขายังยึดติด ยึดมั่นกับ แนวคิดการส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไม่มีขีดจำกัด<O:p></O:p>

    แต่ในโลกความเป็นจริง ไม่ได้เป็นแดนสวรรค์ทางเศรษฐกิจ ที่ไร้ขีดจำกัด ไร้ขอบเขตชีวมณฑล และทรัพยากรนั้นมีปริมาณจำกัดเป็นระบบปิด และถูกจำกัดอยู่ภายใต้กฎเทอร์โมไดนามิกส์ ระบบย่อยใดๆก็ตามภายในโลก เช่น ระบบเศรษฐกิจ เมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็จะหยุดเติบโต หยุดขยายตัว และปรับตัวเองเข้าสู่สภาวะสมดุล หรือสภาวะคงที่ (Steady state) เช่น อัตราการเกิดจะสมดุลเท่ากับอัตราการตาย อัตราการผลิตจะเท่ากับอัตราการเสื่อมค่า <O:p></O:p>

    ในช่วงเวลา 70 ปีที่ผ่านมา ประชากรโลกได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ส่วนวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้น และผลิตในเชิงสินค้ามีปริมาณมากขึ้นหลายเท่า จากการศึกษาผลกระทบด้านนิเวศน์แสดงให้เห็นว่า ปริมาณพลังงานและวัตถุดิบที่ต้องใช้ในการดูแลรักษา หรือทดแทนสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นยิ่งมีจำนวนสูงขึ้นมากเช่นกัน และเมื่อโลกเราเต็มไปด้วยมนุษย์และสิ่งที่เราสร้างขึ้นยิ่ง สิ่งที่มีอยู่เดิมบนโลกย่อมลดน้อยลงมากขึ้น และในการรับมือกับการขาดแคลนในรูปแบบใหม่นี้ บรรดานักวิทยาศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ ต้องพัฒนาแนวคิดเศรษฐกิจใหม่ใน “โลกอันแออัด” เข้าแทนที่แนวคิดเศรษฐกิจแบบเดิมๆที่มีพื้นฐานอยู่บน “โลกที่ว่างเปล่า”<O:p></O:p>

    ในการศึกษาเศรษฐศาสตร์จุลภาค ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตรวจวัดประมาณการณ์ และแสดงสมดุลระหว่างต้นทุนกับ ผลประโยชน์ที่ได้รับในกิจกรรมหนึ่งๆ บุคคลเฉพาะรายและธุรกิจจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า เมื่อใดควรยุติการขยายตัวของกิจกรรมนั้นๆ ในความเป็นจริง เมื่อกิจกรรมหนึ่งขยายตัว ในที่สุดแล้ว มันจะเข้าแทนที่กิจกรรมอื่นๆ ซึ่งกิจกรรมที่สูญเสียไปต้องนับเป็นต้นทุนด้วยเช่นกัน ธุรกิจจะหยุดขยายตัว ณ จุดที่ต้นทุนที่จ่ายเพิ่มขึ้น มีค่าเท่ากับหรือมากกว่าผลประโยชน์ที่ได้รับเพิ่ม เช่น เราจะหยุดจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อไอศกรีม เมื่อไอศกรีมที่ซื้อเพิ่มนั้น สร้างความพอใจให้เราน้อยกว่า การนำเงินนั้นไปซื้อสิ่งอื่น นี่คือ เกณฑ์มาตรฐานในเศรษฐกิจระดับจุลภาค แต่ในเศรษฐศาสตร์ระดับมหภาคแบบเดิม ไม่มีเกณฑ์บ่งชี้ว่า “เมื่อใดควรจะหยุด”<O:p></O:p>

    เนื่องจากการหันไปยึดแนวทางการดำเนินเศรษฐกิจแบบยั่งยืนที่แท้จริง ในโลกอันจำกัด ต้องก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวอย่างมาก ทั้งในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ นักการเมือง และประชาชน บางคนถึงกับระบุว่าแนวคิดนี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่อีกด้านหนึ่ง แนวคิดเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ในรูปแบบที่มีการขยายตัวไปตลอดกาลตามแนวทางแบบเก่า เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในแง่กายภาพ ชีวฟิสิกส์ของโลกใบนี้ ดังนั้นถ้าให้เลือกระหว่าง สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ทางการเมือง กับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ทางกฎเกณฑ์ธรรมชาติ คงพอจะมองกันออกว่า มนุษยชาติ ควรเลือกฟันฝ่าอุปสรรคไปทางใดที่พอจะมีความเป็นไปได้ ???<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    อย่างไร? ถึงจะเรียกว่าเป็น ความยั่งยืน<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    เศรษฐกิจแบบยั่งยืนมีลักษณะเป็นอย่างไร โดยทั่วไปแล้วกล่าวได้ว่า เป็นเศรษฐกิจที่สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้ในอนาคตที่ยาวไกลท่ามกลางข้อจำกัดของโลกพิภพ แต่ในรายละเอียด เราจะต้องพิจารณาปัจจัยที่ถือเป็นเกณฑ์วัด เป็นรายตัวอย่างลึกซึ้ง และทำความเข้าใจถึงความหมายที่ถูกต้อง รวมถึงสถานะบทบาทที่แท้จริงของปัจจัยแต่ละตัว ในการเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของความยั่งยืน บรรดานักเศรษฐศาสตร์ได้ให้ความสำคัญกับปัจจัย 5 ประการ ได้แก่ <O:p></O:p>

    ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ GDP<O:p></O:p>
    อรรถประโยชน์ Utility<O:p></O:p>
    จำนวนวัตถุดิบจากทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้ไปและทิ้งไป Throughput<O:p></O:p>
    ทรัพย์สินทางธรรมชาติ Natural capital<O:p></O:p>
    ทรัพย์สินโดยรวม Total capital<O:p></O:p>

    บางคนอาจคิดว่าเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ก็คือ การรักษาอัตราการเติบโตของ GDP ไว้ให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ตามแนวคิดนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่ยั่งยืน มีความหมายเท่ากับ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการเข้าใจที่ผิดอย่างร้ายแรง และพวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพิจารณาตอบคำถามที่ว่า การเติบโตขยายตัวอย่างยั่งยืนตามแนวคิดมีความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ตามหลักชีวฟิสิกส์ของโลกหรือไม่??? แต่ว่าแนวคิดนี้มีประโยชน์มากในทางการเมือง เพราะคำว่า “เศรษฐกิจแบบยั่งยืน” สามารถสร้างความประทับใจ และเป็นโวหารที่สามารถปลอบประโลม บรรเทาปัญหาต่างๆที่สุมรุมเร้าอยู่ได้ ทั้งที่ในโลกแห่งความเป็นจริงบนพื้นฐานของแนวคิดแบบเดิมๆไม่อาจเกิดเศรษฐกิจที่ยั่งยืนขึ้นได้ <O:p></O:p>

    แม้จะพยายามให้คำจำกัดความของความยั่งยืนในแง่ของการรักษา GDP ให้อยู่ในปริมาณที่คงที่ตลอดไป ปัญหาก็ยังไม่หมดไป เพราะ GDP ประกอบไปด้วย การปรับปรุงเชิงคุณภาพ คือการพัฒนา และการเพิ่มในเชิงปริมาณ คือการขยายตัว เศรษฐกิจที่ยั่งยืน ณ จุดหนึ่ง การขยายตัวจะต้องยุติลง แต่การพัฒนายังคงดำเนินต่อไป การปรับปรุงคุณภาพของสินค้าไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นการเพิ่ม GDP โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรเพิ่ม แนวคิดหลักอันเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงได้แก่ การหันเหจากแนวทางการขยายตัวในเชิงปริมาณ ด้วยการมุ่งเน้นจำนวนตัวเลข ซึ่งไม่อาจยั่งยืนไปได้นานนัก ไปมุ่งเน้นการพัฒนาเชิงคุณภาพ ซึ่งมีความยั่งยืนยาวนานกว่า<O:p></O:p>

    ปัจจัยตัวต่อไปที่เป็นองค์ประกอบของความยั่งยืน ได้แก่ อรรถประโยชน์ ซึ่งหมายถึง ระดับของความพึงพอใจที่ต้องการ หรือกล่าวง่ายๆคือ ระดับของความกินดีอยู่ดีของประชากร นักเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก สำนักนีโอคลาสสิค เชื่อว่า ความยั่งยืน คือ การรักษาหรือเพิ่มอรรถประโยชน์ให้ยืนยาวนานหลายชั่วอายุคน แต่คำจำกัดความนี้ไม่มีประโยชน์อันใดในทางปฎิบัติ ความพึงพอใจของมนุษย์เป็นเพียง ประสบการณ์ส่วนบุคคลเท่านั้น จึงไม่อาจถือเป็นบรรทัดฐานได้ และไม่อาจยึดถือเป็นพินัยกรรมสืบทอดไปหลายชั่วอายุคนได้<O:p></O:p>

    ระดับความพึงพอใจของมนุษย์ หรือ ระดับของความกินดีอยู่ดีของประชากร ควรอยู่ ณ จุดใด ไม่มีใครบอกได้ชัด แต่มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย ทั้งในระดับปัจเจกชนและระดับประเทศ ที่มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง แม้ปราศจากทรัพย์สินมากมาย แต่ก็มีชีวิตอยู่อย่างมีคุณภาพ เช่น ภูฎาน ลาว ฯลฯ ส่วนไทยเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ในขณะที่การแสวงหาความมั่งคั่ง ฟุ้งเฟ้อ อยากมี อยากได้ โดยคิดว่าจะทำให้มีชีวิตที่อยู่ดีกินดี กลับทำให้ชีวิตขาดคุณภาพ และเป็นการทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัวอย่างรุนแรง <O:p></O:p>

    ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในโลก ถือเป็นเกณฑ์วัดมาตรฐานได้ และเป็นมรดกสืบทอดจากมนุษย์จากรุ่นสู่รุ่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สามารถวัดปริมาณวัตถุดิบ ที่เศรษฐกิจฉกฉวยประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติได้ มนุษย์นำวัตถุดิบมาจากธรรมชาติที่มีความซับซ้อนต่ำในระบบนิเวศน์ แปรสภาพเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้เป็นประโยชน์ แต่ในที่สุด มนุษย์ก็ต้องทิ้งกลับคืนสู่ธรรมชาติในสภาวะที่มีความซับซ้อนสูง ถ้ากระบวนการดำเนินไปในทางมุ่งเน้นปริมาณ ท้ายที่สุดแล้ว ความสมดุลทางธรรมชาติจะสูญเสียไป ความยั่งยืนที่แท้จริง ในแง่ของทรัพยากรธรรมชาติ และระบบนิเวศน์อันจำกัด คือ การตระหนักถึงขีดความสามารถในการสร้างทรัพยากรทดแทน ตามกระบวนการทางธรรมชาติ และศักยภาพในการรองรับสิ่งเหลือใช้และขยะมลพิษต่างๆ จากกระบวนการผลิตสินค้าและจากตัวสินค้าเองที่เสื่อมสภาพ<O:p></O:p>

    นักเศรษฐศาสตร์ถือว่า ทรัพย์สินเป็นทุน หรือเป็นองค์ประกอบของความมั่งคั่ง คือ วัตถุดิบ สินค้าที่ผลิต และตัวโรงงาน ทรัพย์สินที่เป็นทุน แบ่งได้อย่างกว้างๆ คือ ทรัพย์สินทางธรรมชาติ และทรัพย์สินที่มนุษย์สร้างขึ้น<O:p></O:p>

    นักเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก สำนักนีโอคลาสสิค เชื่อว่า ทรัพย์สินที่มนุษย์สร้างขึ้น สามารถทดแทนทรัพย์สินทางธรรมชาติได้ ดังนั้น การจัดการดูแลจึงสามารถมองภาพรวมทั้งสองด้านไปพร้อมๆกันได้ แนวทางนี้เรียกว่า “ความยั่งยืนแบบอ่อน” แต่นักเศรษฐศาสตร์เชิงนิเวศน์ เชื่อว่า ทรัพย์สินทางธรรมชาติ และทรัพย์สินที่มนุษย์สร้างขึ้น มีส่วนเกื้อหนุนกัน แต่ไม่อาจทดแทนกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรธรรมชาติจะมีการปรับสร้างและดูแลตัวเอง ถือเป็นปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีความจำกัดในตัวเอง แนวทางนี้เรียกว่า “ความยั่งยืนแบบเข้ม” <O:p></O:p>

    ตัวอย่างเช่น ความยั่งยืนแบบเข้มระบุว่า ปริมาณการจับปลาแต่ละปีมีจำนวนจำกัด เนื่องจาก ประชากรปลาแต่ละชนิดมีจำนวนจำกัด และไม่ว่าจะเพิ่มปริมาณทรัพย์สินที่มนุษย์สร้างให้มากขึ้นเท่าใด ก็ไม่สามารถทดแทนหรือชดเชยปริมาณปลาที่น้อยลงได้ แต่แนวคิดความยั่งยืนแบบอ่อนระบุว่า ปริมาณการจับปลาที่ลดน้อยลง สามารถชดเชยได้ด้วยการสร้างเรือหาปลาเพิ่มขึ้น ซึ่งแนวคิดความยั่งยืนแบบเข้มยืนยันว่า การเพิ่มจำนวนเรือหาปลา ไม่มีประโยชน์อันใดถ้าปริมาณปลายังมีจำนวนเท่าเดิม หรือลดน้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้น หนทางที่ดีที่สุดคือ การจำกัดปริมาณการจับปลา เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะมีปลาให้จับในอนาคตอันยืนยาว<O:p></O:p>

    ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์แบบดั้งเดิม มักเกี่ยวข้องกับปัญหาด้านการจัดสรรปันส่วน การกำหนดส่วนแบ่ง ส่วนกระจาย ท่ามกลาง ประชากรผู้แข่งขันในการแสวงหา แต่ไม่คำนึงถึงปริมาณในภาพกว้างทางด้านกายภาพของโลกใบนี้ ดังความเชื่อที่ว่า ตลาดที่มีกลไกเหมาะสม จะสามารถกระจายและแบ่งปันทรัพยากรและสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ปัญหาก็คือ มันคนละเรื่องเดียวกันกับ ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ ที่จะสามารถบรรลุได้ด้วยนโยบายที่ถูกต้อง เหมาะสม มองการณ์ไกล และสอดคล้องกับความเป็นจริงของโลกใบนี้เท่านั้น

    <O:pซึ่งผู้เขียนหมายถึง ปรัชญาแนวคิดที่ยิ่งใหญ่ ของพระมหากษัตริย์ไทย ที่มอบไว้ให้มวลมนุษยชาติและโลกใบนี้ ที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่สู้จะใส่ใจ เข้าใจ เข้าถึงกันนัก แต่ก็มักจะพูดถึงเสมอ นั่นคือ "เศรษฐกิจพอเพียง"</O:p

    ยุทธ กัลยา:eek:<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2009
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แผ่นดินไหวรุนแรง 6.2 ริกเตอร์ ที่ปาปัวนิวกินี

    [​IMG]

    พอร์ตมอร์สบี 25 ก.ค. – เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง วัดความสั่นสะเทือนได้ถึง 6.2 ริกเตอร์ บริเวณใกล้กับเกาะ บูแกงวิล ของปาปัวนิวกินีในวันนี้ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

    สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ ระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.42 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 08.42 น. ตามเวลาประเทศไทย จุดศูนย์กลางอยู่ที่ห่างจากเมืองอราวาไปทางตะวันตก ราว 80 กิโลเมตร ในระดับความลึกลงไปใต้ดินราว 65 กิโลเมตร โฆษกศูนย์ตรวจจับแผ่นดินไหวแห่งชาติของปาปัวนิวกินี เผยว่า ในขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ โดยเฉพาะคลื่นยักษ์สึนามิ และว่า ในระดับความแรง 6.2 ริกเตอร์นี้ มักไม่มีสึนามิแต่อย่างใด ประเทศปาปัวนิวกินีนั้นตั้งอยู่บริเวณรอยเลื่อนของเปลือกโลกใต้มหาสมุทรแปซิฟิก ที่เรียกกันว่า วงแหวนไฟ ทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นบ่อย ๆ. -สำนักข่าวไทย

    2009-07-25 10:28:16

    เครื่องบินอิหร่านไถลออกนอกรันเวย์-ไฟลุก ดับ 17 ราย

    [​IMG]

    อิหร่าน 25 ก.ค.-เครื่องบินโดยสารสายการบินของอิหร่านประสบอุบัติเหตุลื่นไถลออกนอกรันเวย์ และเกิดเพลิงลุกไหม้ หลังลงจอดที่สนามบินทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน

    สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เครื่องบินโดยสารแบบอิลยุสชิน ผลิตในรัสเซีย ของสายการบินเอกชน เอเรีย แอร์ไลน์ พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 153 คน เดินทางจากกรุงเตหะรานไปยังเมืองมาชาด ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 1,000 กิโลเมตร ลื่นไถลออกนอกรันเวย์หลังจากนักบินนำเครื่องลงจอด ก่อนเกิดเพลิงลุกไหม้ ส่งผลให้ส่วนหัวของเครื่องบินที่เป็นห้องนักบินได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ส่วนอื่น ๆ ยังคงสภาพเดิม

    เจ้าหน้าที่ระบุว่า พบผู้เสียชีวิต 17 คน และอีกกว่า 20 คนได้รับบาดเจ็บ ส่วนผู้โดยสารและลูกเรือที่เหลือปลอดภัยและได้รับการอพยพจากที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน

    เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา เครื่องบินโดยสารของอิหร่านเพิ่งประสบอุบัติเหตุตกหลังบินขึ้นจากกรุงเตหะรานไม่นาน คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือ 168 คน.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-25 03:12:00

    รถโดยสารประสานงารถบรรทุกน้ำมันที่รัสเซีย คร่า 25 ชีวิต

    [​IMG]

    รัสเซีย 25 ก.ค.-มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน จากอุบัติเหตุรถโดยสารพุ่งชนประสานงากับรถบรรทุกน้ำมันทางตอนใต้ของประเทศรัสเซีย

    เจ้าหน้าที่กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซียเปิดเผยว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น บนทางหลวงห่างจากเมืองรอสตอฟออนดอน ทางใต้ของประเทศไปทางเหนือราว 30 กิโลเมตร โดยรถบรรทุกน้ำมันได้เสียหลักพุ่งชนประสานงากับรถโดยสารที่มีผู้โดยสารเต็มคันรถ ที่แล่นสวนทางมาอย่างจัง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 21 คน ในจำนวนนี้รวมถึงคนขับรถของทั้งสองคัน ส่วนอีก 4 คนไป เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างน้อย 9 คน อย่างไรก็ดี อุบัติเหตุรถชนครั้งนี้ไม่ได้เกิดเพลิงลุกไหม้ และเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีน้ำมันอยู่ในถังของรถบรรทุกน้ำมันหรือไม่

    ส่วนที่โครเอเชีย เกิดอุบัติเหตุรถไฟโดยสารที่มีตู้โดยสาร 2 ตู้ ซึ่งเดินทางจากกรุงซาเกร็บ มุ่งหน้ายังเมืองสปลิตทางภาคใต้ ตกรางก่อนถึงจุดหมายประมาณ 30 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 20 คน ตู้รถไฟ 1 ตู้ขาดเป็น 2 ท่อน ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-25 02:18:01

    เกิดน้ำท่วมและแผ่นดินถล่มตอนใต้ของญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิต 4 คน

    [​IMG]

    โตเกียว 25 ก.ค. – ตำรวจญี่ปุ่นรายงานว่า เกิดน้ำท่วมและแผ่นดินถล่มเนื่องจากฝนตกหนักตอนใต้ของญี่ปุ่นเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน

    ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ก็มีรายงานการเกิดแผ่นดินถล่มและน้ำท่วมทางภาคตะวันตกของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 คน

    รายงานระบุว่า ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุแผ่นดินถล่มและน้ำท่วมบนเกาะคิวชูวานนี้ รายแรกเป็นชาย วัย 73 ปี เสียชีวิตหลังจากโคลนถล่มใส่บ้านในจังหวัดฟูกูโอกะเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนรายที่สอง เป็นหญิง วัย 54 ปี เสียชีวิตหลังจากรถถูกกระแสน้ำพัดตกคลองชลประทาน รายที่สามเป็นชาย วัย 61 ปี พลัดตกลงไปในคูน้ำข้างถนน รายที่สี่เป็นชาย วัย 67 ปี เสียชีวิตในจังหวัดนางาซากิ และอีกรายเป็นเด็กชายอายุ 7 ปี เสียชีวิตในจังหวัดโออิตะ หลังถูกกระแสน้ำพัด. -สำนักข่าวไทย

    2009-07-25 10:47:52

    สเปนเตือนประชาชนระวังภัยจากไฟป่าในระดับสูงสุด

    [​IMG]

    สเปน 25 ก.ค.-ทางการสเปนออกแถลงการณ์ เตือนประชาชนระมัดระวังภัยจากไฟป่าในระดับสูงสุด เนื่องจากไฟป่ายังลามไม่หยุด และคร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงไปแล้วอย่างน้อย 6 นาย

    แถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทยสเปน เตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการจุดไฟกลางแจ้ง เนื่องจากอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 39.1 องศาเซลเซียส อีกทั้งกระแสลมแรงยิ่งทำให้ไฟป่าที่ลุกลามในหลายพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศขยายวงกว้างมากขึ้น ชาวบ้านกว่า 2,000 คน ต้องอพยพจากเมืองตากอากาศโมฆาซา ขณะที่ทางการต้องส่งกำลังเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงนับพันคน และเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงอีกกว่า 30 ลำ ช่วยสกัดเพลิง แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ ไฟป่าในสเปนช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้นักผจญเพลิงเสียชีวิตไปแล้ว 6 นาย

    ส่วนที่เกาะคอร์ซิกาของฝรั่งเศส ไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 25,000 ไร่ นักผจญเพลิงได้รับบาดเจ็บไป 5 นาย จนถึงขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้เพียง 1 ใน 3 เท่านั้น ขณะที่เมืองอฌัคซิโอก็เผชิญกับไฟป่าเผาทำลายพื้นที่เกษตรกรรมนับหมื่นไร่ ชาวบ้านนับพันคนต้องอพยพออกนอกพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-25 04:17:18

    ไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาด 160 ประเทศ

    [​IMG]

    25 ก.ค.-องค์การอนามัยโลกเผย ขณะนี้ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แพร่ระบาดไปเกือบทุกประเทศ และดินแดนทั่วโลกแล้ว

    นายเกรกอรี ฮาร์ติ โฆษกองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงข่าววานนี้ว่า จนถึงขณะนี้พบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด A H1N1 ใน 160 ประเทศและดินแดนทั่วโลก จากจำนวนประเทศสมาชิก WHO ทั้งหมด 193 ประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วราว 800 คน เป็นการตอกย้ำถึงความจำเป็น ที่จะต้องตรวจหากลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อให้การรักษาอย่างเร่งด่วน

    นายฮาร์ติ กล่าวว่า วัคซีนล็อตแรกสำหรับป้องกันไข้หวัดชนิดนี้ น่าจะพร้อมใช้ได้ในอีกหลายเดือนข้างหน้า ซึ่งอาจเป็นในเดือนกันยายน.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-25 10:31:58

    ที่มา http://news.mcot.net/international/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    :z10เห็นข่าวแผ่นดินไหวตอนนี้รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วเ;aa6พราะรู้ด้วยความรู้สึกมาก่อนเสมอถึงแรงสั่นสะเทือนต่างๆที่เกิดขึ้นแต่ไม่รู้เท่านั้นว่าจะเกิดขึ้นที่ไหนอย่างไรhello10คนที่ฝึกพลังจักรวาลจะเป็นแบบนี้ทุกคนหรือไม่ he llo _carก็ไม่ทราบแต่ก็เป็นแบบนี้มาได้2-3ปีแล้วตั้งแต่ก่อนเข้ามาเป็นสมาชิกเว็ปนี้hello10hello10ทำให้เชื่อว่าตัวของคนเราเชื่อมต่อกับจักรวาลเหมือนเป็นสิ่งเดียวกัน:z10มิอาจแยกออกจากกัน:z10ไม่ได้คิดว่าเป็นคนพิเศษจึงมีสัมผัสนี้;aa40แต่คิดว่าที่บางคนไม่รู้สึกเพราะจิตเกาะอยู่กับว้ตถุภายนอกมากไปเลย;aa40ลืมภาวะภายในที่เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลลองทำใจว่างจากภายนอกมองเข้ามาภายในจะได้พบสิ่งดีๆในตนที่ไม่จำเป็นต้องไปหาจากที่อี่นเลย;aa40;aa40
     
  19. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ไข้หวัดใหญ่ 2009
    คำอธิบายที่เป็นไปได้เรื่องสาเหตุหนึ่งของการเสียชีวิต และหนทางดูแลตนเองและครอบครัวโดยใช้พืชผักภูมิปัญญาไทยจากคำแนะนำของนัก วิจัยต่างประเทศ


    รศ. ดร. กรณ์กาญจน์ ภมรประวัติธนะ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 24 กรกฎาคม 2552

    พายุไซโตไคน์ ศัพท์ทางการแพทย์คำนี้ใช้เป็นครั้งแรกในปีพศ. 2536 เป็นอาการทางภูมิคุ้มกันซึ่งทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ เกิดจากการเหนี่ยวนำเชิงบวกต่อเนื่องระหว่าสารไซโตไคน์กับเซลล์ในระบบภูมิ คุ้มกัน

    อาการบ่งชี้แรกคือไข้สูง บวม เหนื่อยมากและคลื่นไส้ ในบางกรณีปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต

    สาเหตุ เมื่อระบบภูมิคุ้มกันต่อสู้กับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม ไซโตไคน์จะกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกัน เช่น ทีเซลล์ (ในต่อมไทรอยด์) และเซลล์เม็ดเลือดขาวมาโครฟาจให้เดินทางไปยังตำแหน่งที่ติดเชื้อ นอกจากนี้แล้วไซโตไคน์ยังกระตุ้นเซลล์ดังกล่าวให้สร้างไซโตไคน์เพิ่มขึ้น ปรกติวงจรนี้จะถูกควบคุมให้พอเหมาะพอดีโดยร่างกายของเรา แต่บางครั้งวงจรดังกล่าวหลุดจากการควบคุมของร่างกาย และเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันจำนวนมากถูกกระตุ้นในที่เดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ยังอธิบายปรากฏการณ์นี้ไม่ได้ แต่สัณนิษฐานว่าการหลุดจากการควบคุมเกิดเมื่อร่างกายพบเชื้อโรคที่ไม่เคยพบมาก่อนชนิดที่ก่อความเสียหายให้กับร่างกายสูง

    พายุไซโตไคน์มีศักยภาพที่จะทำความเสียหายอย่างยิ่งให้กับเนื้อเยื่อและอวัยวะในร่างกาย อาทิ ถ้าเกิดพายุไซโตไคน์ในปอด จะเกิดการสะสมของของเหลวและเซลล์เม็ดเลือดขาวมาโครฟาจซึ่งจะอุดตันทางลำเลียงอากาศนำไปสู่ความตายได้ในที่สุด

    พายุไซโตไคน์เกิดได้ทั้งในโรคติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ เช่น การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อและอวัยวะ การติดเชื้อในกระแสเลือดไข้หวัดนก ไข้ทรพิษ adult respiratory distress syndrome (ARDS) และ systemic inflammatory response syndrome (SIRS)

    งานวิจัยจากวารสาร The New England Journal of Medicine เชื่อว่าพายุไซโตไคน์เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้ป่วยจำนวนมากในโรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดทั่วโรคในปี คศ. 1918 ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ในครั้งนั้นเป็นคนหนุ่มสาว รายงานจากฮ่องกงเชื่อว่าพายุไซโตไคน์เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจำนวนมากในการระบาดของไข้หวัด SARS ในพศ. 2545 และของการเสียชีวิตของผู้ป่วยไข้หวัดนกจำนวนหนึ่ง การมียอดผู้เสียชีวิตจำนวนมากในผู้ป่วยที่แข็งแรงในไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำให้คิดว่าส่วนหนึ่งเกิดจากปรากฏการณ์พายุไซโตไคน์ดังกล่าว

    การช่วยเหลือผู้ป่วยจากพายุไซโตไคน์โดยพืชผักจากธรรมชาติ


    1. สารต้านอนุมูลอิสระ พบในผักผลไม้ที่มีสีส้ม แดง ม่วง ขาว รวมถึงขิง ข่า ขมิ้น พริกหวานแดงเหลือง แครอท มะละกอ มะม่วง มังคุด ลิ้นจี่ ลำไย ชาเขียว ชาอูหลง ฯลฯ

    2. TNF-alpha blocker ตัวนี้เป็นความโชคดีของประเทศไทยเพราะมีในขมิ้นชันและน้ำมันหอมระเหยจากขมิ้นชัน และเหง้าของขิงข่า

    แพทย์ทางเลือกในสหรัฐอเมริกาแนะให้บริโภคกระเทียมวันละ 3 กลีบ ทุบแล้วทิ้งไว้ 15 นาทีก่อนบริโภค สร้างสุขภาพที่ดีป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 นี้ ถ้าอยู่ในเขตระบาดของโรครับประทานได้วันละ 14 กลีบ และเพิ่มการบริโภคขมิ้นชัน พริกแดง ขิง กระเทียม หอมใหญ่ และน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลหมัก ถ้าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ให้เพิ่มการบริโภคขมิ้นชัน พริกแดง ขิง กระเทียม หอมใหญ่ และน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลหมัก และลดอาหารแป้งขัดขาว ไข่ เนื้อแดง น้ำตาล นม ให้บริโภคหนักไปทางผัก ผลไม้ และโปรตีนพืชเช่นนมถั่วเหลือง โปรตีนเกษตร และถั่วต่างๆ เพื่อลดสารต่างๆ ที่จะไปช่วยให้เชื้อเพิ่มจำนวนได้มากขึ้นและลดการสร้างสารคัดหลั่ง (ทำให้ปอดทำงานลำบาก)

    เรื่องพบแพทย์ก็ทำตามปรกติ อันนี้เป็นส่วนที่ทำให้ตัวเอง ดูแลตัวเองนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2009
  20. Freiheit

    Freiheit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2006
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +103
    ถ่ายภาพประหลาด จานบิน พร้อมบริวารอีก4ลำ

    เด็กชายวัย 10 ปี ถ่ายติดภาพคล้ายจานบิน พร้อมบริวาร 4 ลำ ขณะกำลังถ่ายภาพเฮลิคอปเตอร์บังคับ ในงานแสดงเครื่องบินเล็ก ที่จ.พัทลุง เตรียมนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ ...
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (25 ก.ค.) ได้รับแจ้งจากชาวบ้านรายหนึ่งว่า มีเด็กชาย วัย 10 ปี สามารถถ่ายภาพจานบินได้ 1 ลำ พร้อมบริวารอีก 5 ลำ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปหาเด็กชายคนดังกล่าว ทราบชื่อ ด.ช.พิริยกร เวชรังษี หรือ น้องต้นกล้า อายุ 10 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 5 ถนนพิเศษกิจ ต.ตำนาน อ.เมือง จ.พัทลุง

    นายสมชาติ เวชรังษี อายุ 40 ปี บิดา ด.ช.พิริยากร เปิดเผยว่า บุตรชายกำลังเรียนในชั้น ป.5 โรงเรียนเทศบาลคูหาสวรรค์ และเป็นนักกีฬาเฮลิคอปเตอร์บังคับ ประเภท f 3 c เยาวชนแห่งชาติ และยังเป็นตัวแทนภาคใต้ในการเข้าแข่งขันเครื่องบินบังคับ และเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนได้พาน้องต้นกล้า ไปเที่ยวในงานที่วิทยาลัยเทคนิคพัทลุง ซึ่งตนเองได้นำเครื่องบินเล็กและเฮลิคอปเตอร์บังคับไปแสดงในงานดังกล่าวด้วย โดยให้บุตรชายนำกล้องถ่ายภาพนิ่งยี่ห้อหนึ่ง ไปบันทึกภาพนิ่งขณะตนนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินอยู่ในงานของวิทยาลัยเทคนิค พัทลุง แต่ก็ไม่ได้เปิดกล้องขึ้นดูภาพ
    [​IMG]

    นาย สมชาติ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งคืนวันที่ 24 ก.ค. ได้นำภาพจากกล้องภาพนิ่งที่ น้องต้นกล้า ถ่ายมาเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ปรากฏว่าในจำนวนภาพหลายภาพมีอยู่เพียง 2 ภาพ ที่กล้องภาพนิ่งสามารถบันทึกจุดเล็กอยู่ใกล้กับเฮลิคอปเตอร์บังคับ ด้วยความสงสัย จึงขยายภาพบนจอคอมพิวเตอร์ ปรากฏว่าจุดเล็กๆ ที่ขยายออกมามีภาพคล้ายจานบิน 2 ใบ มาประกบกันด้านบนของจานบินเป็นคล้ายโดมโค้ง ด้านล่างมีลักษณะคลุกคละ เหมือนกับมีไอของความร้อนพ่นออกมา และเมื่อขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นพบว่ามีจานบินลำเล็กๆ อีก 4 ลำ เหมือนเป็นจานบินลำลูก ลักษณะคล้ายจานใบเดียวคว่ำ และมีปีกออกมาทั้งสองข้าง ที่บินคุ้มกันให้จานบินลำแม่ รวมมีจานบิน จำนวน 5 ลำ เป็นจานบินลำแม่ 1 ลำ และ ลำลูกอีก 4 ลำ และ บินอยู่บนน่านฟ้าของ จว.พัทลุง
    นายสมชาติ กล่าวด้วยว่า ตนมีความประหลาดใจให้กับภาพจานบินดังกล่าว จึงเชิญเพื่อนๆ มาภาพกันหลายคน ซึ่งทุกคนต่างประหลาดใจเหมือนกันทุกคน ซึ่งตนจะได้นำเรื่องดังกล่าวไปสอบถามผู้มีความรู้ความชำนาญในเรื่องจานบิน ต่อไป
    [​IMG]
    อย่าง ไรก็ตาม หลังจากที่ผู้สื่อข่าวไปดูคอมพิวเตอร์พบว่า ภาพแรกที่น้องต้นกล้าถ่ายไว้จะเห็นจานบินลำแม่อยู่เหนือเฮลิคอปเตอร์ เป็นจุดดำๆ และห่างลงมาด้านขวาของภาพเล็กน้อยจะเห็นจานบินลำลูก อีก 1 ลำ ส่วนอีก 3 ลำ ต้องขยายภาพให้ใหญ่ จึงจะมองเห็น และภาพถ่ายใบที่สอง ถ่ายภาพห่างจากภาพแรกเพียง 4 วินาทีเศษ จะเห็นว่าจานบินลำแม่ และลำลูกอีก 3 ลำบินหายไป เหลือเพียงลำลูกเพียงลำเดียว ต่อมาจานบินก็บินหายหมด
    ไทยรัฐออนไลน์


    • โดย ไทยรัฐออนไลน์
    • 25 กรกฎาคม 2552, 22:10 น.
     

แชร์หน้านี้

Loading...