ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    โมทนาสาธุครับ..คุณศิษย์น้อย
     
  2. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    ลูกขอน้อมเศียรกราบแทบพระบาทสมเด็จองค์ปฐมครับ
    และขออนุโมทนากับคุณฝนที่ได้นำเรื่องสำคัญมาบอกพวกเรา
     
  3. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    สวัสดีครับคุณนัฐเดช
    ผมอ่านทั้งสองกระทู้ครับ ทั้งกระทู้ของคุณMe, myself และกระทู้ภัยพิบัติฯ
    คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่นำทั้งสองกระทู้มาเชื่อมโยงกัน
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านคงเตรียมจัดสรรไว้ล่วงหน้าแล้ว
    ทำให้ผมยิ่งตระหนักถึงภัยใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
    และเร่งรัดปฏิบัติโดยไม่ให้เสียเวลาแม้วินาทีเดียว
    ขออนุโมทนากับคุณนัฐเดชอีกครั้งครับ
     
  4. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    หลวงพ่อสุชิน พระอาจารย์ที่สอนสุขวิปัสโกให้อ้อย
    เคยพูดไว้ว่า

    สวดมนต์ คือยาทา
    ภาวนา คือยากิน

    ยาทา กับ ยากิน รักษาคนป่วยได้เหมือนกัน
    แต่ อย่างไหนจะให้ผลเร็วกว่ากัน ลองพิจารณาดูนะคะ ^_^

    อ้อยเองชอบสวดมนต์อาจจะเพราะสัญญาเก่ามาแบบนี้
    แต่บางวันอ้อยก็นั่งสมาธินานกว่าสวดมนต์ คือบางทีสวดได้บทสองบทเกิดอาการอยากนั่งสมาธิแล้ว ก็ไม่ฝืน ก็จะนั่งสมาธิทันทีเลยค่ะ นั่นเพราะเราทราบว่าจิตเรานิ่งพร้อมแล้ว ไม่ต้องเรียงตามลำดับขั้นตอนนะคะ
    บางคนทำงาน มีเวลาว่าง 3 นาที หลับตา ลืมตา ภาวนาไปเลยค่ะ
    หายใจเข้า พุธ หายใจออก โธ สำคัญที่จับลมหายใจของเราให้ได้เมื่อรับรู้ว่าลมหายใจของเราอยู่ไหน นั่นแหล่ะค่ะ สมาธิค่ะ

    การภาวนา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เริ่มด้วยบทสวดมนต์ ก็สามารถทำได้ทันทีค่ะ
    ทุกที่ ทุกเวลา ทุกขณะจิต อย่าให้ลมหายใจหายไปจากจิต

    ^_^
     
  5. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    กราบแทบพระบาทสมเด็จองค์ปฐมด้วยจิตนอบน้อมเจ้าค่ะ
    และพี่ขออนุโมทนากับน้องฝนด้วยที่เอาข้อความที่ได้รับฟังจากสมเด็จมาบอกกล่าวแก่กัลยาณมิตร บางเรื่องต้องพูดต้องบอกเป็นการให้สัญญาณล่วงหน้า ส่วนใครจะรู้ตัวเร็วหรือช้านั้น อยู่ที่ตัวบุคคล แต่ถ้ารู้แล้วมีการเตรียมรับมืออย่างไม่ตื่นตระหนก ก็ถือว่าบุคคลนั้น เป็นผู้มีสติ พระพุทธศาสนาของเรา หลักธรรมของพระพุทธเจ้า ตลอดจนพระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ล้วนมีความเมตตาต่อ3โลกอย่างสุดประมาณ เร่งทำดีไว้เถิด เร่งปฏิบัติเถิด จิตใครที่ยังลังเล ก็ให้บวชจิตกันได้แล้วนะคะ สาธุค่ะ
     
  6. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    ขอกราบพระบาทสมเด็จองค์ปฐม ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
    และขอกราบพระบาทองค์สมเด็จพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์ทั้งหมด และพรหมเทวดาทั้งหมด

    ขอขอบพระคุณท่านพี่Me, myself<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2274344", true); </SCRIPT> ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา
    ขอบพระคุณคุณฝน cookieberry<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2275688", true); </SCRIPT> ที่นำเหตุการณ์ในอนาคตอันใกล้ มาแจ้งเตือน เพื่อความไม่ประมาทในการสร้างกรรมดี
    และขอขอบพระคุณ คุณอ้อยเจ๋วะรัฐถะ<!-- google_ad_section_end --> ที่ทำให้ทุกท่านมีความตั้งใจ เพื่อให้เห็นผลในการปฏิบัติครับ

    และขอโมทนาสาธุบุญในการปฏิบัติความดีกับทุกๆๆท่านครับ สาธุ...
     
  7. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    ก็แสดงว่าจิตเริ่มนิ่งเป็นสมาธิในระดับอุปจารสมาธิค่ะ
    ส่วนการนั่งสมาธินั้น หากไม่เห็นอะไรอย่าได้กังวลไปเลยนะคะ
    มันจะเห็นก็ช่าง ไม่เห็นก็ช่าง อย่าไปบังคับจิตนะคะ ปล่อยวาง
    จับลมหายใจไปเรื่อยๆ ซึ่งการจับลมหายใจก็จะมีอยู่ 3 ฐานคือ
    1. ตรงปลายจมูก ลมเข้า ลมออก เรารับรู้อยู่ตรงปลายจมูก อันนี้จะแบบหยาบหน่อยนะคะ
    2. ปลายจมูก กลางอก ช่องท้อง คือให้รู้ว่าตอนนี้ลมเข้าไปกระทบกับจุดสามจุดนี้แล้ว อันนี้จะเริ่มละเอียดขึ้นหน่อย เหมือนหลอกล่อจิตไม่ให้มันไปซนแวบๆน่ะค่ะ
    3. คราวนี้จะเห็นสายของลม เหมือนกระแสลมไหลเข้าจมูก ลงสู่กลางอก ลงช่องท้อง ม้วนกลับตัวขึ้นไปกลางอก ออกปลายจมูก พ่นตรงริมฝีปาก จะเห็นเป็นกระแสลมเลยน่ะค่ะ อันนี้จะเป็นแบบละเอียดค่ะ

    ลองค่อยๆทำดูนะคะ ฝึกบ่อยๆลมหายใจเราจะค่อยๆละเอียดขึ้นเรื่อยๆค่ะ
    ตอนนี้พวกเราคือพี่me,myself อ้อย น้องฝน พี่ลม(ชื่อสมมุติ) ก็กำลังฝึกกันตรงจุดนี้ด้วย ฝึกให้หนักเพื่อให้ฌานทรงตัวค่ะ

    เอาตรงจุดนี้ก่อนนะคะ ได้ผลยังไงเล่าสู่กันฟังนะคะ จะได้ไปต่อไปค่ะ
    อนุโมทนาด้วยค่ะ ^_^

    ปล. อ้อยเองไม่ได้เก่งอะไรมากมาย อาศัยเอาประสบการณ์ของตัวเองที่พอจะมีอยู่มาเล่าสู่กันฟังนะคะ คนที่มีประสบการณ์มากกว่าอ้อยในกระทู้นี้มีหลายท่านเลยค่ะ รบกวนช่วยแนะนำพวกเราด้วยนะคะ กราบขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ ^_^
     
  8. assume

    assume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +1,931
    เข้ามากระทู้นี้ก็กระโดดไปหน้า 104 แล้วอะครับ ไม่ทราบเค้าตอบปัญหานี้กันแล้วยัง ถ้าตอบซ้ำขออภัยด้วยนะครับ

    เคยมีกัลยาณมิตรท่านหนึ่งแนะนำโปรแกรมปรับแต่งเสียงมาให้ โปรแกรมนี้ใช้งานครับ ตั้งค่าเดซิเบลตามใจชอบ ผมเคยเอามาใช้ปรับเสียงให้ไฟล์ของอัลบั้มเพลงอยู่ในระดับเสียงที่ใกล้เคียงกันครับ เพราะเคยเจอปัญหาที่ในอัลบั้มเดียวกันบางไฟล์เสียงดัง บางไฟล์เสียงเบาครับ

    โหลดจากเว็บนี้ครับ MP3Gain ของเค้าฟรีด้วยนะครับ
     
  9. classic songs

    classic songs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +896
    ภัยพิบัติ ส่วนตัวดิฉันไม่กลัวเลยนะคะ ตายก็คือตาย

    ในใจลึกๆอยากให้เกิดขึ้นจริงด้วยซ้ำ เหมือนเป็นการล้างไพ่ใหม่หมด
    มองไปรอบๆตัวเราขณะนี้ มีวัตถุต่างๆ มีค่านิยมพฤติกรรมต่างๆ
    ที่มาจากความยึดติดใน ขันธ์ 5 มากมายเต็มไปหมด
    ยึดติดกันมากจนขนาดที่ว่า ไม่เหลือความละอายในความชั่วกันแล้ว

    หากเกิดภัยพิบัติแล้วจะทำให้เหลือแต่คนที่มีหิริโอตัปปะเยอะๆ ขอให้เกิดเถอะค่ะ โมทนา
     
  10. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160

    สาธุครับคุณนัฐเดช
    ผมได้เคยร่วมงานบุญนี้หลายวาระโดยโอนเงินผ่านทางบัญชีหลวงพี่เล็ก
    ดีใจมาก ๆ ครับที่องค์ปฐมจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
    ขอโมทนากับผู้ที่จะไปร่วมงานทุกท่านและขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ
     
  11. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    ขอให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทครับ เกิดแล้วตายเป็นเรื่องธรรมดาครับ
    ทุกวันนี้ ก่อนนอนก็ไหว้พระ แล้วคิดว่าพรุ้งนี้จะได้ตื่นเปล่าไม่รู้
    พอตื่นมาตอนเช้าก็ไหว้พระ คิดว่าวันนี้จะได้นอนหรือเปล่าก็ไม่รู้ครับ

    ทำอย่างนี้เป็นปกติ จนชินแล้วครับ จะตายวันไหนก็ไม่รู้ จึงต้องดำรงตนด้วยความไม่ประมาทครับ
     
  12. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    ในธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บอกไว้เสมอว่า
    ให้คิดถึงความตายทุกขณะจิต เพื่อเป็นการไม่ประมาท
    หากภัยจะมาถึง ณ วันนั้น หากเราจะต้องตาย ลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า ขออย่าหวั่นกลัว

    แต่การไปของจิตนั้น หากไม่มีสติ ใครที่ไม่ปฏิบัติบ่อยๆ ในวันนั้นหากคุมสติไม่ได้ จุดมุ่งหมายที่จะไปนั้น ย่อมต่างกัน พระพุทธองค์ถึงพร่ำเตือนตลอดเวลาว่า ปฏิบัติเพื่อให้เกิดสติ ในวันนั้นมันเป็นอะไรที่พวกเราไม่เคยเห็น สิ่งที่ทุกคนเคยรับรู้มานั้นเป็นเพียงสิ่งน้อยนิด เพราะฉะนั้นขออย่าได้ประมาท สำคัญที่สุดคือ สติ ค่ะ ^_^

    หลวงพ่อสุชิน พระอาจารย์สอนสุขวิปัสโก เคยให้อ้อยท่องบทความนี้ เห็นว่าอ่านแล้วเตือนสติอ้อยได้ดี เลยเอามาฝากท่านกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ

    เมื่อเจ้ามา(เกิด) มีอะไรมาด้วยเจ้า
    เจ้าจะเอาแต่สุขสนุกไฉน
    เมื่อเจ้าไป(ตาย) เจ้าจะเอาอะไรไป
    เจ้าก็ไปมือเปล่าเหมือนเจ้ามา
    ยศและลาภหาบไปไม่ได้แน่
    มีเพียงแต่ต้นทุนบุญกุศล
    ทรัพย์สมบัติทิ้งไว้ให้ปวงชน
    แม้ร่างตนเขาก็เอาไปเผาไฟ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2009
  13. pipopM

    pipopM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +480
    อนุโมทนา ครับ
     
  14. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เพิ่งกลับจากไหว้หลวงพ่อโตมาค่ะ แล้วก็ซื้อปลาดุกกับปลาช่อนที่ตลาดเอาไปปล่อยที่คลองหน้าวัดหลวงพ่อโตมาค่ะ เอาบุญมาฝากกันนะคะ
     
  15. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    รีบเข้ามาเอาบุญจากพี่me,myself
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิค่ะ
     
  16. prayut.r

    prayut.r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +1,707
    ขออนุโมทนา กับคุณ Me,myself ด้วยครับ

    ตอนแรกก็แค่เข้ามาอ่านเฉยๆ เพราะน่าสนใจดี ผมก็เป็นพวกประเภทปฏิบัติเพื่อ "อยาก"เห็นโน้นเห็นนี่เหมือนกันครับ

    คราวนี้พอได้อ่านเรื่องของคุณ Me, myself กับน้องฝนมากๆ เข้าก็รู้สึกว่าเรื่องที่เราอยากเห็นนี่มันเป็นเรื่องธรรมดาของทั้งสองคนนี้มากเลยครับ และรู้สึกว่าเอ๊ะ! ธรรมมะ ที่องค์สมเด็จและพระพุทธเจ้า รวมถึงพระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านสอนง่ายๆ ดีนะครับ ผมว่าบางครั้งอ่านแล้วความรู้สึกเหมือนพ่อสอนลูก ถ้าไปเทียบกับพวกเถรใบลานทั้งหลายแล้วผมงงจริงๆ ว่าจะเอาความรู้ทางธรรม ที่ตีความกันแปลกๆ มาอวดกันทำไม?

    ยิ่งอ่านมากเข้า(แฟนพันธุ์แท้เหมือนท่านอื่นๆ) ความรู้สึกอยากทั้งหลายแหล่ มันก็เริ่มหมดไปครับ แปลกมากๆ เมื่อก่อนอยากเห็นจะตาย เดี๋ยวนี้คิดอย่างเดียวว่าเอาอานาปานุสติให้ได้ ฌาณ 4 นี่ก็คงบุญตัวแล้ว เลยรู้สึกว่าการปฏิบัติมีผลมากขึ้น (แย่มาหลายปีเพราะไอ้ตัวอยากจริงๆ) แม้จะไม่เห็นอะไรเลยแต่ก็ไม่กังวลอะไร อยากรู้อะไรมาอ่านของคุณ Me, myself กับน้องฝนก็พอ 555
    ส่วนเรื่องอารมณ์เบื่อหน่ายโลก นี้ผมก็มีมานานแล้ว ทุกวันนี้รู้สึกว่าทำงานไปก็เหมือนเอาเงินไปบำรุงกิเลสอย่างเดียวเลยครับ อยากหนีไปบวชจัง เพราะคิดว่าถ้ายังอยู่ในสังคมแบบนี้ต่อไปคงต้องไปอยู่กับท่านยมแน่ๆ (ศีล 5 เมื่อก่อนว่าแน่นๆ พอทำงานอายุมากเข้าตัวสังคม กับสภาพแวดล้อมก็ดึงเรา ให้หายไปทีล่ะข้อๆ)

    ถึงตอนนี้ก็เร่งปฏิบัติอยู่ แม้หน้าที่การงานจะบังคับให้สติหลุดออกจากตัวบ่อยๆ แต่ก็จะพยายามครับ คิดว่าถ้าได้เกิดมาเป็นคน แถมยังอยู่ในเขตพระพุทธศาสนา แล้วยังเอาดีไม่ได้ก็แย่เต็มกลืนแล้วครับ
     
  17. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณคุณนัทมากนะคะที่แนะนำไฟล์ฝึกให้กับท่านกัลยาณมิตร

    เมื่อวานลองเปิดฟังแล้วฝึกตาม ก็จุกในอกแล้วปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที รู้แล้วว่าโดนห้าม พระศาสดาท่านห้ามพวกเราสี่คนฝึกกสิณโดยใช้มโนมยิทธิค่ะ ต้องฝึกแบบดั้งเดิม

    ฝึกโดยใช้มโนฯ มันง่ายสำหรับพวกเราค่ะ แต่ท่านว่าจะไม่มีฤทธิ์ ดังนั้นพวกเราสี่คน (ที่ถูกเลือก) เลยต้องไปฝึกแบบดั้งเดิมค่ะ ห้ามใช้มโนฯเด็ดขาดค่ะ แต่ยังไงก็ขอขอบคุณมากนะคะ
     
  18. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386

    กว่าจะหาสีเทียบเคียงกับดินสีอรุณได้
    เกือบโดนควายไล่ขวิดกลางทุ่งนาซะแระ [​IMG]
     
  19. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    ตอนนี้เราก็ได้คนที่สี่ที่เป็นกสิณลมแล้วค่ะ เรื่องราวที่พบเจอก็แปลกอัศจรรย์ แรกๆพวกเราก็มาคิดว่าจะเป็นใครในนี้ น้องอ้อยกับน้องฝนแล้วก็ดิฉันก็สงสัยว่าอาจจะเป็นคนโน้น อาจจะเป็นคนนี้ แต่พอดิฉันใช้จิตตรวจสอบแล้วไม่ใช่สักคน ไม่มีจิตใครเข้ากับพวกเราได้เลย ว่างเปล่ามากกก

    ดิฉันคิดว่าคนที่สี่นี่ต้องเป็นคนที่ชอบกสิณลม เพราะดิฉันเองตอนอ่านเรื่องกสิณดิฉันชอบน้ำมากเป็นพิเศษ ส่วนน้องฝนก็ชอบกสิณไฟ น้องอ้อยก็ชอบกสิณดิน ดังนั้นคนที่สี่ต้องชอบกสิณลม

    ตอนที่บังเอิญไปคุยกับคนที่สี่ คือจริงๆก็คือน้องกัลยาณมิตรในนี้แหละค่ะ คุยกันมาพักนึงแล้ว เป็นคนที่ไม่ได้มโนฯ แต่มีสัมผัสพิเศษด้านอื่น ทีนี้เมื่อวานก็ไปคุยกันเรื่องภัยพิบัติ เพราะเขาก็รู้จักกับกลุ่มอื่นแล้วมาตรงกับที่เรารู้เรื่องมา คุยกันไปคุยกันมา เขาก็ว่าเขาน่ะชอบกสิณ ดิฉันก็เริ่มเอะใจแล้วค่ะ แต่เขาก็ไม่รู้เรื่องอะไร คุยกันไปอีกเรื่องฝึกกสิณแบบของ อ. คณานันท์ เขาก็ว่าเขาคิดว่ามันง่ายไป ส่วนตัวเขาเองคิดว่า มันต้องฝึกแบบดั้งเดิม มันถึงจะสมบูรณ์ ดิฉันก็เห็นว่า เขามีความคิดเรื่องการฝึกเหมือนเรา แล้วเขาก็ยกตัวอย่างว่า อย่างเช่นดูใบไม้ไหว อารมณ์น้อมไป แล้วก็ต้องท่องว่า วาโยกสิณัง วาโยกสิณัง ดิฉันยิ่งเอะใจไปใหญ่เลย เลยได้ถามไปว่า ได้เคยฝึกไหม แล้วฝึกแบบเรียง ดินน้ำลมไฟ หรือเปล่า เขาก็บอกว่า แอบฝึกบ้าง แต่ไม่ได้เรียงตามหลัก ดิฉันเลยรู้เลยว่าคนนี้แหละคือคนที่สี่ที่พระศาสดาบอกไว้ว่า เดี๋ยวถึงเวลารู้เอง

    พอบอกน้องเขา เขาก็ว่า ไม่ใช่เขาหรอกมั้ง ดิฉันก็ว่าใช่ ถ้าไม่ใช่พวกเราไม่สามารถคุยกันได้นานขนาดนี้ทั้งสี่คน ตอนที่ดิฉันบอกเขาว่าใช่ พระศาสดาท่านก็อมยิ้มอยู่ แสดงว่าถูกต้อง ทั้งน้องอ้อยก็เห็นเช่นเดียวกัน เขาก็ว่า ตอนที่เห็นน้องฝนมาโพสเรื่องคนที่ฝึกลม เขาก็บอกว่า เขาเองก็ไปนึกถึงตอนที่เขาเด็กๆแล้วชอบดูใบไม้ไหว อารมณ์นั้นเลย ยิ่งตอกย้ำว่าเขานั่นแหละ เพราะชอบมาแต่เด็ก

    สรุปว่าตอนนี้พวกเราก็ครบแล้ว แล้วก็กำลังเตรียมตัวฝึกกสิณกันตามที่เบื้องบนสั่งมาค่ะ ห้ามใช้มโนในการฝึก ต้องฝึกแบบดั้งเดิมซึ่งจะไม่ได้มาง่ายๆ แต่ก็จะพยายามกันจนถึงที่สุดค่ะ

    ปล. ลืมบอกไป น้องคนที่สี่คือคุณตู่ หรือ ล๊อคอิน "Ga_t" นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กรกฎาคม 2009
  20. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    คืนก่อนหน้านั้นด้วยความสงสัยจึงกราบทูลถามพระศาสดาว่า อีกคนจะเป็นใครเจ้าคะ พระศาสดาก็ไม่ได้บอกอะไรมาก บอกแต่เพียงว่า คนที่สี่ เป็นผู้ชาย
    และ เป็นคนที่ ให้ปรากฏ บอกอ้อยมาแค่นี้ค่ะ พวกเราสามคนก็เลยมาประชุมกันว่า แล้วจะหายังไงล่ะเนี่ย เพราะเจ้าตัวเค้าก็ไม่ได้รู้เรื่องหรอก รู้แต่ว่า ต้องหาในกระทู้นี้แหล่ะ งานนี้ก็ต้องใช้สารพัดวิธีน่ะค่ะ ทั้งเปิดจิตตรวจดูจิตของคนที่เราคิดว่าใช่ พระศาสดาลงมาคุมเอง ก็ไล่คัดไปทีละคนๆ เกือบทั้งวัน เป็นวันที่พวกเราคุยกันได้นานโดยไม่วงแตก^^ เพราะต้องหาอีกคนให้เจอ ไม่งั้นก็จะฝึกต่อไม่ได้ ต้องมาคุยกันว่าจะฝึกกันยังไงเพื่อให้ไปในแนวทางเดียวกัน ทีนี้หัวเรือใหญ่ของเราจิตเข้มแข็งที่สุดก็ไปเจอสิคะ จิตของคุณตู่เข้ากับจิตของพวกเราทั้งสามคนได้ ก็ถามกันไปถามกันมา คุยกันไปเรื่อยๆ จนในที่สุดถึงตอนตื่นเต้น พอชี้ชัดว่า คนนี้แหล่ะ ใช่เลย พี่me,myself กับอ้อยก็เลยถามพระศาสดาอีกที (ต่างคนต่างถาม) พระศาสดายิ้ม ซึ่งปกติไม่ค่อยยิ้มอ่ะค่ะ แสดงว่าใช่แน่นอน อิอิ

    ทีนี้ก็มาคุยกันเรื่องแนวทางการฝึก ช่วงก่อนที่เราลองตามแบบที่คุณนัทให้มา
    กสิณ10กองฝึกโดยใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมง จบหมด แต่ว่าเราใช้มโนมยิทธินะคะ ดังนั้นผลที่เกิดขึ้นเกิดจากมโนมยิทธิค่ะ

    แต่กสิณที่พระศาสดาต้องการให้เราฝึก ต้องเกิดจากฌานค่ะ เพราะกำลังของฌานจะส่งผลให้ฤทธิ์เป็นจริง เห็นได้ด้วยตาเปล่าและสามารถใช้ได้จริงๆ แต่มโนจะเห็นได้เฉพาะในจิตค่ะ มันต่างกันตรงนี้ ดังนั้นพวกเราจึงต้องมาฝึกแบบยุคดั้งเดิม ก็ลำบากกันหน่อยค่ะ เหมือนนักเรียนต้องมาเริ่มใหม่เหมือนกันค่ะ ทำตัวให้โล่งๆจะได้รับได้เร็วหากว่าเรายึดติดอันเก่ามันจะทำให้ยาก อย่างการฝึก บางทีเราใช้มโนมันเร๊วเร็ว ก็ต้องวางมโนไว้ก่อน ถอนสมาธิแล้วเอาใหม่ วันนี้ก็ต่างคนต่างแยกกันทำสมาธิ จับลมหายใจตัวเอง เรียนรู้กำลังฌาน ก็กระดึ๊บๆไปเหมือนกันค่ะ เหมือนเราเริ่มพร้อมกันเลยนะคะเนี่ย อิอิ

    ของพี่me,myself ต้องเอาน้ำใส่ภาชนะค่ะ
    ของน้องฝน จุดเทียน(น้องบอกว่าเคยจุดบ่อย)
    ของคุณตู่ เพ่งใบไม้ตอนที่ลมพัด
    ของอ้อย ไปหาดินสีอรุณ ที่ปูเค้าขุดดินขึ้นมากลบปากหลุมน่ะค่ะ แต่หายากมาก เช้านี้เลยได้แต่เดินสำรวจดิน แต่ก็หาไม่เจอค่ะ เพราะความรู้สึกบอกว่าไม่ใช่ พอกลับมาที่ร้าน (เป็นร้านขายเครื่องเขียนค่ะ) เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งแวปๆ เลยไปดึงมาดูเป็นกระดาษที่อ้อยเคยสั่งมาเพื่อเอามาขายแต่มันไม่เคยขายออก ไม่เหมือนสีอื่นๆที่ขายไปหมดเกลี้ยง สงสัยตะหงิดๆ ว่าอันนี้หรือเปล่าหว่าสีของดินสีอรุณ คือมันจะเทาก็ไม่เทา ปนสีทองหน่อยๆ และไม่ใช่สีดำด้วยนะคะ แต่จำได้ว่า เคยเห็นปูขุดรู ขุยมันเป็นสีประมาณนี้ แต่ก็ยังไม่แน่ใจ วิ่งไปกลางทุ่งอีก ไปหาดูดิน ลองนึกว่าหากเอาดินมาผสมน้ำ แล้วทาให้ทั่วผ้าดิบที่ขึงบนสะดึง มันก็จะได้สีออกมาประมาณนี้เด่ะเลย เพื่อความแน่ใจถามพี่me,myself สรุปว่าดินสีอรุณคือสีตามกระดาษแผ่นนี้เด่ะเลยค่ะ แต่อ้อยก็ต้องสัมผัสธาตุดินด้วย วันนี้ไปกลางทุ่งนาบ่อยมากๆ จนควายจะไล่ขวิดอยู่แล้วค่ะ ^^
    สรุปอ้อยต้องมองกระดาษสลับกับมองดิน โดยให้สีของกระดาษเป็นดิน แต่ห้ามใช้มโนมยิทธิเด็ดขาดเล่นเอามึนเหมือนกันค่ะ หลังจากมองไปมองมาเกือบครึ่งวัน ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่ามันเป็นดินแล้วค่ะ

    ปล.เอารูปมาลงนะคะ สีอาจจะไม่เหมือนของจริงสักเท่าไหร่นะคะ ของจริงจะออกสีปนทองๆด้วยน่ะค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...