ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. nahathai

    nahathai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,393
    Subject: FW: Time magazine ที่อเมริกาวิจัยพบว่าคนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก คือ....




    <TABLE class=MsoNormalTable border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-RIGHT: 0cm; PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top>


    >


    <TABLE style="WIDTH: 100%" class=MsoNormalTable border=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 100%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top width="100%"><TABLE style="WIDTH: 100%" class=MsoNormalTable border=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 100%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top width="100%">

    <TABLE style="WIDTH: 100%" class=MsoNormalTable border=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 100%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top width="100%">
    <TABLE style="WIDTH: 100%" class=MsoNormalTable border=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-BOTTOM: 0.75pt; PADDING-LEFT: 0.75pt; WIDTH: 100%; PADDING-RIGHT: 0.75pt; PADDING-TOP: 0.75pt" vAlign=top width="100%">[​IMG]




    หนังสือ time magazine บอกว่าที่อเมริกา ได้มีงานวิจัย พบว่า คนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก ก็คือ พระในทางพุทธศาสนา โดยทดสอบด้วยการสแกนสมองของพระที่ ทำสมาธิ และได้ผลลัพธ์ ออกมาว่าเป็นจริง..


    หลักความเชื่อของศาสนาพุทธ ก็คือ เหตุที่ทำให้เกิดความสุข นั้นก็คือ อยู่กับปัจจุบันขณะ ปล่อยวางได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ควบคุมความอยากที่ไม่มีสิ้นสุด ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ทะเลาะ และใช้หลัก เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ให้อภัย ตัวเอง และผู้อื่น มีจิตใจเมตตากรุณา และเสียสละเพื่อผู้อื่น



    อริยะสัจ 4 สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบและ บอกไว้ ว่าด้วย ทุกข์ สมุทัย มรรค นิโรธ แท้จริงแล้วก็คือ ทางเดินไปหาคำว่า " ความสุข " เพราะถ้าเมื่อไรเรากำจัด " ความทุกข์ " ได้แล้ว ความสุขก็จะเกิดขึ้นทันที


    อุปสรรคของความสุข ก็คือ แรงปรารถนา และตัณหา พระอาจารย์บอกว่า คนเราจะมีความสุขมันไม่มีขึ้นอยู่กับว่า " มีเท่าไร " แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าเรา " พอเมื่อไร " ความสุขไม่ได้ขึ้นกับจำนวนสิ่งของที่เรามีหรือเราได้...


    ท่านสังเกตเอาจากชาวนาที่ จ อุบล ถ้าบ้านไหนมีควายไว้ช่วยทำนา 1 ตัว บ้านนั้นจะมีความสุข แต่เมื่อไร ที่ชาวนาคนไหนอยากจะได้ ควาย ตัวที่ 2 ปั๊ป ชาวนาคนนั้นจะไม่มีความสุข เลย


    เพราะต้องเริ่มคิดว่าจะทำไงดีถึงจะได้ควายอีกสักตัว เราก็เหมือนกัน เมื่อไรที่เรา อยากได้รถคันใหม่ อยากได้บ้านใหม่ อยากไปเที่ยว อยากจะมัดใจไอ้หมอนั้น ให้ได้ (อิอิ) ฯลฯ เราจะเริ่มเป็นทุกข์ เพราะเราต้อง คิดหาทางที่จะเอามันมาให้ได้ มาเป็นของเรา..
    [​IMG]

    ดังนั้นวิธีจะมีความสุข อันดับแรก ต้อง " หยุดให้เป็น และพอใจให้ได้ " ถ้าเราไม่หยุดความอยาก(ที่มากเกินไป) ของเราแล้วละก็ เราก็จะต้องวิ่งไล่ตาม หลายสิ่งที่เรา " อยากได้ " แล้วนั่นมัน เหนื่อย!!!และความทุกข์ ก็จะตามมา...


    ข้อต่อมาที่ทำให้เราเป็นสุข คือ การมองทุกอย่างใน แง่บวก เมื่อเสร็จงานแล้วกลับถึงบ้าน คนที่บ้านถามว่า วันนี้เป็นไงบ้าง ? ส่วนใหญ่เราจะตอบว่า " โดนบอสด่ามา วุ่นวาย ลูกค้า งี่เง่า ฯลฯ " ทำไมเราถึงชอบคิดถึงแต่เรืองไม่ดี


    ในชีวิตแต่ละวัน แน่นอน เราต้องเจอทั้งเรื่องดี และไม่ดี แต่ถ้าเราอยากจะมีความสุขเราต้องเริ่ม ด้วยการมองแต่สิ่งดีๆ มองให้เป็นบวก เพื่อที่ใจเราจะได้เป็นบวก คิดถึงสิ่งที่เราทำสำเร็จแล้วในวันนี้ สิ่งดีๆที่เราได้ทำ....


    ข้อต่อมาคือ การให้ หมายรวมถึงการให้ในรูปแบบสิ่งของหรือ เงิน เรียกว่าบริจาค และการให้ ความเมตตา กรุณาต่อกัน ให้อภัย ทั้งตัวเอง และคนอื่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ เป็นปัจจัย ทำให้เรามีความสุข....


    การปล่อยวาง ให้ได้ ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าเรื่องจะร้ายแรงและเศร้าโศกเพียงใด



    </TD></TR></TBODY></TABLE>(ช่วงรอคอย หัวเรือใหญ่กลับมา ขออนุญาต นำข้อความ มาคั่นรายการ สนทนาธรรมของพวกเรา ซักเล็กน้อย แบบเล่าสู่กันฟัง เพราะข้าพเจ้ายังไม่มีประสบการณ์การปฏิบัติ ขออนุญาตนะคะ)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    ขอบคุณน้องฝนจ้าจะพยายามไปต่อ เวลาที่เหลือกับทางที่เลือกของคนกิเลสหนาปัญญาน้อยแต่อายุเยอะอย่างพี่คงต้องเร่งแล้วหล่ะยังไงก็อย่าลืมคนที่ยังต้วมเตี้ยมๆ เน้อ
     
  3. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    พี่ฝนตอบไม่ได้อ่ะจ้า ว่ากสิณอันไหนง่ายสุด เเต่พี่ฝนเคยอ่านเจอเป็นคำเเนะนำของหลวงปู่ฤาษีว่า ให้ไปอ่านดูให้ครบทั้งสิบกอง เเล้วเลือกอันที่น้องอ่านเเล้วชอบที่สุด ก็คืออันนั้นเเหล่ะจ้า

    ถ้าได้ฌาน ๔ จากสุกขวิปัสสโกเเล้วเข้ากสิณนี้คงง่ายเลยเนาะ พี่ฝนลองเอากสิณไปเพ่งดูเเล้ว รู้สึกไม่ต่างจากสุกขวิปัสสโกเท่าไร ต่างกันเเค่ตรงที่กสิณจิตต้องเพ่งรูปไว้ให้ได้ตลอด เเต่สุกขวิปัสสโกต้องทิ้งนิมิตทั้งหมดที่เห็น ที่เหลือก็เหมือนกัน

    เป็นกำลังใจให้นะคะ พี่ฝนเองยังไม่รอดเลย โงกไปเงกมาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเเปลง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2009
  4. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    เเหมพี่พูดอย่างกับว่าฝนได้ไปไกลนู่นเเล้ว ฝนยังโงกไปเงกมาอยู่เลยค่ะ พี่ๆน้องๆเเถวนี้มีอะไรก็ช่วยกันอยู่เเล้ว ไม่มีใครทิ้งคนที่ตั้งใจจะเอาดีจริงๆหรอกไม่ต้องกลัวเด้อค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2009
  5. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    เมื่อวานพี่ยัง งง อยู่ว่าท่านครูฤาษีท่านหายไปไหน เอาพี่ไปฝึกตั้งไกล แล้วทำไมทิ้งกันไปแบบนั้น T_T
    แถมพระศาสดาก็นั่งสมาธิลึกอีก เหมือนพี่ฝึกอยู่คนเดียวเลย
    แต่เช้านี้หลังจากนั่งสมาธิพระศาสดาทรงเมตตาก็เลยทำให้เข้าใจค่ะ

    คืนก่อนนั้นที่พี่ลองฝึกครั้งแรก ตอนแรกไปตามที่ครูบอก สมาธิเราจะจดจ่อเพราะเราตื่นเต้นที่จะได้ฝึกไงคะสมาธิเราเลยนิ่งกลัวไม่ทัน ก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามขั้นตอนของครู อันนี้ล่ะฌาน4ของจริงน่ะค่ะ จะสังเกตว่าเราลืมภายนอกหมดเลยแม้กระทั่งลมหายใจก็ไม่สนใจคือมันจะเป็นไปเองค่ะ ใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ครูกำลังพูดเพื่อให้เราฝึกตาม แต่พอครูบอกเร่งสปีด ทีนี้ล่ะพี่ใช้มโนมยิทธิเลย เพราะไม่งั้นไม่ทันแน่ค่ะแต่รู้สึกว่ามันจะหน่วงๆ เนื่องจากสมาธิยังอ่อนอยู่ ฌานยังไม่แข็งพอ แต่ตอนหลังครูค่อยๆปรับอารมณ์ให้ช้าลง พี่ก็คลายจากมโนมยิทธิแล้วจับตามอารมณ์ของครูเลยทำให้หายหน่วงลง นี่แหล่ะค่ะเราต้องมาพิจารณาว่าสิ่งที่เราทำไปนั้น ภาวะอารมณ์เรา ณ ขณะนั้นเป็นอย่างไรเพื่อนำมาปรับแก้ไข ให้ถูกต้อง

    ที่พระศาสดากับท่านครูฤาษีเอาพี่ไปฝึกแบบนั้นให้พี่เพ่งดิน แบบเพ่งเพื่อให้ค่อยๆเปลี่ยน ตอนแรกไม่รู้ก็ใช้มโนมยิทธิแบบปุ๊บปั๊บเหมือนกันค่ะ แต่มันอธิษฐานแล้วไม่เกิดผล พี่เลยลองใหม่ ก็เลยค่อยๆเปลี่ยน จับภาพดินที่ปั้นกลมๆ จำสีดินให้ติดตาติดใจแล้วเอาใหม่ ให้มันค่อยๆเปลี่ยนไปทีละนิดๆ จนกลายเป็นแก้วประกายพฤกษ์ แล้วลองค่อยๆเปลี่ยนให้กลับมาเป็นดินเหมือนเดิม แบบค่อยๆเปลี่ยน คราวนี้รู้สึกว่าใจเราสบายขึ้นไม่หนักแล้ว คือเราวางอารมณ์ได้พอสมควร อันนี้น่าจะเป็นผลจากฌาน4 ส่วนมโนมยิทธิมันจะอารมณ์หนักๆไปเร็วมาก ปุ๊บปั๊บคือความอยากรู้อยากเห็นมันมีมากกว่าจิตเรางัยคะ จิตเรามันยังหยาบอยู่เหมือนมันถูกลากไป มันก็เลยทำให้อารมณ์หนักไป

    เช้านี้พระศาสดาเมตตาให้ศึกษาฌานให้คล่องก่อน ส่วนกสิณนั้นหลังจากที่ฌานคล่องแล้ว ต่อไปก็จะไม่ยาก แต่ที่พระองค์ให้เราลองฝึกก่อนเพื่อที่จะได้เรียนรู้ว่า การวางอารมณ์หนักเบาของสมาธินั้น สำคัญ ไม่งั้นหากฌานไม่เกิดจะทำให้ฝึกยากอธิษฐานฤทธิ์ก็จะทำได้ยาก ส่วนมโนมยิทธินั้น ให้วางไว้ก่อน ถ้าใช้มโนมยิทธิเข้ามาช่วยมันไปเร็วก็จริงแต่มันไม่เกิดผลค่ะ ที่จะเกิดผลได้ก็คือผลของฌานซึ่งได้มาจากการทำสมาธิที่ละเอียดอ่อนมากๆ อันนี้พี่เองก็ยังทำได้ไม่ดีนัก ต้องฝึกอีกเยอะเลยค่ะ

    นึกไปนึกมาแล้ว พี่มีความรู้สึกว่า ตัวพี่เหมือนเป็ด รู้นั่นนิดนี่หน่อย แต่รู้ไม่ถ่องแท้สักกะอย่าง เหมือนท่านให้หัวข้อมาเพื่อให้รู้ทั้งหมด แล้วให้มาฝึกปฏิบัติให้ชำนาญเองน่ะค่ะ
    แต่ก็ดีเหมือนกันนะคะ จากที่ไม่รู้อะไรเลย พอรู้แนวมันก็เกิดแรงฮึดน่ะค่ะ ต้องทำให้ได้
    หลวงพ่อฤาษีบอกว่า ความอยากอย่างอื่นเป็นตัวกิเลส แต่ถ้าอารมณ์อยากไปนิพพานนี่ ให้ฝึกความอยากเข้าไว้ อยากไปนิพพานเป็นสิ่งที่ดี ก็เลยทำให้มีความมุ่งมั่นค่ะ ^_^

    เพื่อนๆกัลยาณมิตรทุกๆท่านคะ
    ขอได้โปรดอย่าเข้าใจว่าอ้อยไปเร็วเลยนะคะ
    เพราะตัวอ้อยเองก็ยังไม่ไปถึงไหนหรอกค่ะ
    อย่าท้อเพราะเห็นว่าทำไมคนอื่นไปได้ไวจัง
    เราจะก้าวไปพร้อมๆกัน ช่วงก่อนหน้านั้นเป็นการวิ่งไปดูลาดเลาข้างหน้าให้ก่อนค่ะ เมื่อทราบว่าหนทางเป็นอย่างไรก็มาบอกให้เพื่อนๆ จะได้เตรียมเสบียงบุญกันได้ถูก แล้วเราจะก้าวไปพร้อมๆกันเป็นกลุ่มธรรมใหญ่ๆค่ะ ยังไงงานนี้หากต้องฉุด รั้ง ลาก ดึงก็จะต้องทำแล้วค่ะ
    ตอนนี้ก็รอพี่me,myselfกลับมานำพวกเราก่อนนะคะ รอให้พี่เสร็จภาระอันยิ่งใหญ่ก่อน หากภาระนั้นเสร็จ ปล่อยวางลงได้แล้ว พี่me,myselfจะกลับมาค่ะ
    อ้อยเชื่อว่าพี่ไม่ทิ้งพวกเราไปแน่นอน ^_^

    ช่วงระหว่างที่รอ ก็ให้ปฏิบัติกันไปตามสมควรก่อนนะคะ
    พระศาสดาบอกว่าหนทางมีหลายทาง เราก็ลองเดินไป หากเห็นว่าเราไม่คุ้นก็หาเส้นทางใหม่ ถึงมันจะเสียเวลาไปบ้างแต่มันก็คุ้มนะคะ ทุกๆเส้นทางย่อมฝากประสบการณ์ให้เราได้เรียนรู้ หากว่าเจอหนทางจริงแล้วนำประสบการณ์ที่เคยพบเจอมาใช้ มันก็จะส่งผลให้เราก้าวไปข้างหน้าได้เร็วขึ้นน่ะค่ะ

    เช้านี้พระศาสดาเมตตาบอกว่า
    หากใครตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว
    หากเคยกระทำความผิดมา จะด้วยการตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี
    ให้ขอขมาพระรัตนตรัยเสียเถิด แล้วตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติต่อไป
    วางทุกอย่างไว้เบื้องหลัง อดีตไม่สำคัญ ทำตรงนี้วินาทีนี้ให้ดีที่สุดค่ะ

    เป็นกำลังใจให้ท่านกัลยาณมิตรทุกท่านนะคะ
    สาธุค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2009
  6. ต้องตา

    ต้องตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +1,282
    ตอนเช้านี้ได้ถวายสังฆทาน ทำบุญชำระหนี้สงฆ์ที่วัดไม้ลวก จ.เพชรบุรี ขอผลบุญนี้จงได้แก่ท่านกัลยาณมิตรทุกท่านเทอด
     
  7. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    ขอบพระคุณมากๆเลยนะคะ ขอบคุณในความพยายามของคุณนัท
    ทำให้อ้อยกับน้องฝนและกัลยาณมิตรทุกท่านได้เรียนรู้พระธรรมคำสอนเพิ่มขึ้น
    ไม่มีใครรู้อะไรมาก่อน ทุกอย่างต้องอาศัยการเรียนรู้ การทำความเข้าใจทั้งนั้นเลยใช่ไหมคะ ^_^ ยิ่งได้กัลยาณมิตรดี ก็จะทำให้การปฏิบัติของเราก้าวหน้าขึ้น ขอกราบอนุโมทนาสาธุด้วยความจริงใจค่ะ
     
  8. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    น้องนฤพล ลองฟังไฟล์แรกก่อนนะคะ
    ไฟล์เสียงแนะนำสมาธิ โดย กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ - Buddhism Audio

    ลองฟังให้เข้าใจแล้วลองปฏิบัติตามดูก่อนนะคะ เป็นไปตามขั้นตอน ก่อนที่จะไปไฟล์สองค่ะ พี่ใจร้อนเลยเอาไฟล์สองก่อน มันลัดขั้นตอน วงจรมันเลยช๊อตน่ะค่ะ ^^ กว่าจะรู้ตัวก็กินเวลาหลายชั่วโมงเลย เอ๊า สู้ๆนะคะ
     
  9. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    สาธุครับคุณอ้อย

    ลูกขอกราบแทบพระบาทพระศาสดาในพระมหากรุณาธิคุณ
    และขอยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุด
    มีพระนิพพานเป็นจุดหมายปลายทางด้วยดวงจิตที่แน่วแน่

    ผมเห็นด้วยกับคุณอ้อยที่ว่าที่ผ่านมาเป็นการดูลาดเลาล่วงหน้า
    ผมเองก็ได้เริ่มปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อฤาษี
    และได้ฟังคำแนะนำของอาจารย์คณานันท์เรื่องอานาปาน กสิน ๑๐ อรูปฌาน ๔ แล้ว ตอนนี้กำลังศึกษามหาสติปัฐฐาณจากเทปหลวงพ่อฤาษี
    ผมเห็นว่าถ้าเรารู้ทั้งหมดคือกรรมฐาน ๔๐ ปีติ ๕ วิปัสสนาฌาณ ๙ รูปฌาน อรูปฌาน สังโยชน์ ๑๐ มหาสติปัฐฐาณ ๔ ฯลฯ
    เหมือนกับเรารู้หลักสูตรในการเรียนการสอน
    ทำให้เรารู้ว่าเรากำลังศึกษาอะไร มีหลักสูตรอย่างไรบ้าง แต่ละหลักสูตรมีวิชาอะไรบ้าง แต่ละวิชามีกี่หน่วยกิต แล้วจะจบหลักสูตรต้องผ่านวิชาบังคับอะไรบ้าง ต้องมีคะแนนสะสมกี่หน่วยกิตจึงจะเรียกว่าจบหลักสูตร ก็คือมรรคผลนิพพาน
    สมถะกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน อริยสัจ ๔ สังโยชน์ ๑๐ เหมือนวิชาบังคับ กสินและอภิญญาเหมือนวิชาเลือก
    การที่เรารู้หลักสูตรทั้งหมดจะช่วยให้เราสามารถปฏิบัติอย่างมีขั้นมีตอน ไม่สะเปะสะปะ มีจุดหมายที่แน่นอน เหมือนที่คุณอ้อยบอกเป็นการไปดูลาดเลาล่วงหน้า
    ขั้นตอนต่อไปก็คือการปฏิบัติอย่างจริงจังและมุ่งมั่นไม่ท้อถอยและไม่ยอมแพ้ต่อกิเลสตัณหาอุปปาทานแต่อยู่บนพื้นฐานของมัชฌิมาปฏิปทา
    ผู้ที่ศึกษาจนถ่องแท้แล้วจะมีปัญญารู้เท่าทันทุกอย่าง สามารถรับมือทุกสถานการณ์อย่างมีสติ
    ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ทุกท่านครับ และขอให้ก้าวหน้าในปฏิบัติทุก ๆ ท่าน
     
  10. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    ฝนก็ไม่ได้ฟังอันเเรกเหมือนกัน
     
  11. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    สวัสดีค่ะทุกท่าน

    พอดีช่วงนี้ปลีกวิเวก เลยได้แต่อ่านหนังสือธรรมะ วันก่อนไปอ่านประวัติหลวงปู่ดุลย์ ตกกลางคืนฝันเห็นหลวงปู่มาสอนธรรมะ เช้าขึ้นมาลืมหมดเลย จำได้ข้อเดียว คือ อย่าเอาจิตส่งออกนอก

    ทำไมพวกท่านอาจารย์ทั้งหลายชอบมาสอนธรรมะตอนง่วงนอนกันจังก็ไม่รู้ ไม่เคยจำได้สักทีเลย เฮ้อ..เวรกรรม
     
  12. laecheln

    laecheln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +175
    สวัสดีค่ะ ทุกๆท่าน แอบอ่านมาก็นานหลายเดือนแล้ว กว่าจะตัดสินใจเข้ามาได้ คิดอยู่หลายรอบ แปลกใจมาก ทุกครั้งที่มีปัญหา คุณ Me, myself คุณอ้อย หรือน้องฝน ได้เข้าเฝ้าพระศาสดา แล้วเอามาโพส มันกลายเป็นการตอบปัญหา ที่เราอยากรู้พอดีทุกทีเลย

    คุณMe, myself คะ ก่อนนอนตั้งจิตก่อนว่า ถ้าในฝัน เห็นอะไร ให้จำ จำ จำ หรือท่องไว้เลยค่ะ แรกๆมันจะจำได้ทีละนิด แล้วมันจะจำได้เอง ไปโดยอัตโนมัติ ^-^ เมื่อก่อนเราชอบฝันเห็นหวย แล้วจำไม่ได้ มีคนสอนมาให้ตั้งใจ แล้วท่องตั้งแต่ในฝันเลยค่ะ ต่อมา ฝันอะไรก็จะจำได้เกือบหมด ทดลองดูนะคะ เผื่อจะช่วยได้บ้าง

    ขอร่วมเดินทางไปด้วยคนนะคะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ ;aa8
     
  13. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ฮาฮา แต่เรื่องตัวเลขอ่ะ มันจำได้แบบไม่ต้องท่องค่ะ ส่วนธรรมะอ่ะ มันท่องไว้เหมือนกัน คือปากก็ทวนสิ่งที่ท่านสอนมานะคะ แต่ว่ามันไม่ใช่แค่ประโยคเดียวอ่ะดิ มันยาวไปเรื่อยๆ ก็เลยจำได้มั่งไม่ได้มั่งน่ะค่ะ
     
  14. laecheln

    laecheln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +175
    คุณMe, myself อยู่พอดีเลย สวัสดีอีกครั้งค่ะ ต่อไปถ้าคุณMe, myself ค้นหาเทคนิคในการจำได้ กรุณาเอามาแนะนำด้วยนะคะ พอดียังไม่เคยเจอท่านสอนแบบยาวๆสักที มีมาแต่สั้นๆ แล้วให้ไปค้นต่อเองทุกที อ้อ ลืมบอกไปค่ะ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ จะมาสอนค่ะ ท่านก็จะให้แต่หัวข้อมา แล้วบอกว่า ท่านได้พูดสอนไว้แล้ว ไปเปิดอ่าน หรือฟังเอง 5555555
     
  15. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    หลวงพี่เล็กบอกว่าหลวงพ่อท่านเคยบอกว่าให้จดเอาไว้ ท่านแนะให้เอาสมุดปากกาไว้ใกล้ๆ พอได้ยินก็ให้จดๆไว้ก่อน แบบคร่าวๆ พอตื่นขึ้นมามาอ่านจะได้จำได้ ดิฉันก็เอาไปไว้หัวนอนเลยนะคะ แต่พอถึงเวลามันงัวเงีย ก็เลยไม่ได้จดสักที อิอิ
     
  16. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    พวกเราเหล่ามาชุมนุม ต่างกุมใจรัก สมัครสมานนนนนนนนนนนนนน
    ^^

    สวัสดีค่ะ
    ดีใจจังเลยค่า พี่me,myselfมาแย๊ว
    ฮิ้วววววววววววววว
    ยินดีต้อนรับคุณlaechelnนะคะ

    วันนี้ขอเป็นลิงสักวันเต๊อะ 555 ^_^
    ขออนุญาตสักวันนะคะ แฮ่ๆ
     
  17. naruphos

    naruphos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +1,737
    ขอบคุณครับพี่ฝน โดยส่วนตัวผมชอบไฟที่สุด แต่กลัวเผลอไปเผาใครเข้า รองลงมาคือ แสงครับ เพราะได้จักษุญาณโดยตรง และ น้ำครับคิดว่าปลอดภัยสุด

    ถามพี่ๆที่ฝึกกสิณ เวลาใช้ไฟนี่ต้องใช้ไฟแบบที่กองสุมขนาดใหญ่เลยหรอครับ ใช้เทียนได้ไหมครับ (smile)
     
  18. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    เทียนก็ได้ค่ะ ให้ดูเปลวเทียนสีนวลๆที่แสงเปลวสม่ำเสมอกันน่ะค่ะ ^_^
     
  19. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ง่ะ เขาให้เพ่งเทียนก็ได้อ่ะน้อง แบบว่าปิดไฟให้หมด มีแต่เปลวเทียน พี่ก็เคยฝึกเพ่งเทียนมาก่อน จะเอากองไฟไปทำไรจ้ะ เดี๋ยวก็ได้พระเพลิงหรอก
     
  20. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    อนุโมทนากับคุณไพฑูรย์ด้วยนะคะ
    เปรียบเทียบได้เห็นภาพชัดมากเลยค่ะ
    สาธุค่ะ ^_^
     

แชร์หน้านี้

Loading...