พบปีระมิดเก่าแก่มหึมาใต้ท้องสมุทร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย นืเฟร, 7 เมษายน 2006.

  1. นืเฟร

    นืเฟร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +433
    [​IMG]


    ณ บริเวณชายฝั่งของเกาะเล็กกระจ่อยร่อยในญี่ปุ่นนามว่า โยนากุนิ สิ่งก่อสร้างลักษณะคล้ายอนุสาวรีย์ยักษ์ได้จ่อมจมอยู่ใต้น้ำ มันเป็นวิหารหินขนาดมหึมาที่แม้ปัจจุบันหลายฝ่ายก็ยังถกเถียง และหาคำอธิบายที่ฟังขึ้นเกี่ยวกับมันไม่ได้ ประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมากที่สุดก็คือว่า อนุสาวรีย์แห่งโยรากุนินี้ เกิดขึ้นจากธรรมชาติหรือเกิดจากผลงานทางอารยธรรมของมนุษย์ ถ้าเป็นฝีมือมนุษย์ เทคโนโลยีขนาดไหนถึงจะรังสรรค์มันออกมาให้เกิดขึ้นได้ในรูปลักษณ์ที่โอ่อ่าอลังการเช่นนี้ หากเกิดจากธรรมชาติ คำอธิบายเกี่ยวกับเหลี่ยมมุมและแนวกำแพงที่ตรงแหนวแม่นยำราวกับเกิดจากการวัดคำนวณของวิศวกรมือเอกนี่เล่า จะอธิบายอย่างไร?
    บรรดานักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ที่ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้ต่างพากันลงความเห็นว่า อนุสาวรีย์ยักษ์นี้เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ อนุสาวรีย์หินที่โยนากุนิก็นับเป็นการค้นพบทางโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษ โดยเฉพาะในประเด็นของโบราณสถานใต้น้ำ แต่ก็นั่นล่ะครับ อายุอานามของอนุสาวรีย์(ขอเรียกแบบนี้ไปก่อนละกัน)แห่งนี้ เท่าที่คำนวณคร่าวๆแล้ว นักวิทยาศาสตร์หลายคนลงความเห็นว่า น่าจะอยู่ในตอนปลายของยุคน้ำแข็ง ซึ่งมันก็หมื่นสองพันกว่าปีมาแล้ว บางท่านว่าน่าจะเก่ากว่านั้นด้วยซ้ำ เอ... ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ยุคใหม่เราย้อนหลังไปไกลขนาดนั้นหรือครับ แถมถ้าเป็นอารยธรรมโบราณก่อนยุคน้ำแข็งจริง สิ่งก่อสร้างนั้นคือผลงานของอารยธรรมใดกัน? สิ่งก่อสร้างมหึมาเหล่านั้นใครเป็นผู้สร้างมันเอาไว้ให้มีขนาดใหญ่โตเกินเหตุ ในยุคโบร่ำโบราณที่อารยธรรมของมนุษย์ยังไม่ก่อกำเนิดแบบนี้







    <CENTER>[​IMG] </CENTER>
    สถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นข้อสรุปที่ดีสำหรับข้อถกเถียงในวงการโบราณคดีที่ว่า อารยธรรมโบราณก่อนหน้าที่มนุษย์จะรู้จักและยังคงเป็นตำนานอยู่นั้นมีจริงหรือไม่ เพราะจากหลักฐานเท่าที่มีในปัจจุบัน อารยธรรมของมนุษย์ที่พอยอมรับได้ว่าเป็นอารยธรรมมันเริ่มก่อตัวขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปีก่อนนี้เท่านั้นเอง แต่น่าประหลาดมากครับ อนุสาวรีย์ที่โยนากุนิ มีลักษณะคล้ายหรือใกล้เคียงกับอนุสรณ์สถานต่างๆในอเมริกาใต้เป็นอย่างมาก บางคนถึงกับเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า "ปิระมิดใต้ทะเลแห่งเอเชีย"เลยทีเดียว






    <TABLE cellSpacing=4 cellPadding=4 align=center border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]












    </TD><TD>
    [​IMG]












    </TD><TD>
    [​IMG]












    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    โบราณสถานแห่งนี้ อาจเป็นคำอธิบายที่ดี สำหรับอารยธรรมต่างๆในแถบอเมริกากลางและใต้ เช่น แอสเท็ค อินคา มายา นาซก้า ได้ว่า เหตุใดชนชาติเหล่านั้นจึงเจริญขึ้นอย่างไม่มีที่ไปที่มา และรังสรรค์งานสะท้านโลกออกมาให้มนุษย์ยุคใหม่อย่างพวกเราได้พิศวงกันจนถึงทุกวันนี้ ทฤษฎีที่เสนอแนะว่า บรรพบุรุษหรือผู้รอดตายจากแถบโยนากุนิ ได้เดินทางข้ามมหาสมุทรไปสู่โลกใหม่นั้น สร้างความเกรียวกราวในวงการอยู่พอสมควร มีหลักฐานจากสิ่งก่อสร้างใต้น้ำมายืนยัน ว่ามันเป็นลักษณะและไสตล์ที่เหมือนกันราวกับแหล่งเดียว แต่ว่า.. ยังมีแต่อยู่นิดนึงครับ [​IMG]
    โครงร่างคร่าวๆของโบราณสถาณแห่งนี้

    [​IMG] ปริศนาที่ยังไม่คลี่คลาย
    ขอย้อนอดีตไปยังปี ค.ศ. 1985 ที่โยนากุนิ อันเป็นดินแดนที่อยู่ค่อนไปทางนะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ใกล้ๆกับหมู่เกาะริวกิว โยนากุนิเป็นสถานที่ที่เลื่องชื่อในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยว อาทิ เป็นที่อยู่ของตัวมอธพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีแนวปะการังที่สวยงาม และธุรกิจสอนประดาน้ำกับการดำชมปะการังก็กำลังเฟื่องฟูในตอนนั้น แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายให้ความสนใจไปพักผ่อนกัน นอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว นักวิทยาศาสตร์และนักชีววิทยาทางทะเลจำนวนไม่น้อย ก็แห่กันไปที่นั่น เพื่อศึกษาพฤติกรรมของฉลามหัวฆ้อน อันมีอยู่อย่างชุกชมและถือเป็นแหล่งที่อยู่ของฉลามหัวฆ้อนแหล่งใหญ่อีกแหล่งของโลกเลยครับ
    ... ท่ามกลางความคึกคักของแถบนี้ ยังไม่มีใครรู้เลยว่า ไกลออกไปจากชายฝั่งไม่กี่อึดใจ โยนากุนิ ได้ซ่อนเอาโบราณสถานใต้น้ำขนาดมหึมาเอาไว้โดยไม่มีใครทราบมาก่อน
    บุคคลแรกที่ค้นพบโบราณสถานใต้น้ำแห่งโยนากุนิ เป็นนักประดาน้ำท้องถิ่นชื่อ คิฮาชิโระ อาระทาเกะ เขาเป็นครูาอนประดาน้ำรวมทั้งเจ้าของกิจการโรงแรมเล็กๆที่มีรายได้ไม่เลวเหมือนกัน จกาปากคำของอาระทาเกะ เขาพบโบราณสถานแห่งนี้ในฤดูใบไม้ผลิของปี 1985 ในวันที่ลมสงบและทะเลไร้คลื่น ใช่แล้วครับ บรรยากาศแบบนี้นับว่าหาได้ยากยิ่ง และดูเหมือนเป็นใจให้กับการประดาน้ำอย่างที่สุด อาระทาเกะตัดสินใจที่จะไปดำน้ำสำรวจชายฝั่งด้วยความตั้งใจสองประการคือ หนึ่ง ดำไปตามกิจวัติประจำวันของเขา และสอง สำรวจหาแหล่งประดาน้ำและแนวปะการังใหม่ เพื่อต้อนรับลูกค้าของเขานั่นเอง






    เรือของอาระทาเกะเดินทางออกมาทางตอนใต้ของชายฝั่ง และเมื่อถึงจุดที่ต้องการ อาระทาเกะก็กระโจนผลุงลงไปอย่างไม่รอช้า นักประดาน้ำหนุ่มก็ต้องอ้าปากค้างกับสิ่งที่เขาได้พบ ใครล่ะครับจะคาดดิดว่า บริเวณชายฝั่งของที่ที่ครึกครื้นอย่างโยนากุนิ จะซุกซ่อนเอาโบราณสถานขนาดมหึมาที่ยังไม่มีใครค้นพบเอาไว้ แถมยังอยู่ใกล้กับชายฝั่งชนิดจ่อคอหอย ใกล้กันเหมือนตากับคิ้วว่างั้นเหอะ







    <CENTER>[​IMG] </CENTER>
    สิ่งที่อาระทาเกะค้นพบนั้นมีลักษณะคล้ายกับวิหารครับ มีความยาวมากกว่า 300 ฟุต สูง 75 ฟุต และกว้าง 100 ฟุต นับว่าใหญ่โตเอาเรื่องเลยทีเดียว หลังจากว่ายน้ำวนเวียนสำรวจอยู่ครู่ใหญ่ อาระทาเกะก็ยิ่งทึ่งในโบราณสถานใต้น้ำแห่งนี้หนักเข้าไปอีก มันมีเหลี่ยมคูที่เที่ยงตรงเหมาะเหม็ง การตัดเส้น แนวกำแพงที่ตรงแหน๋ว รวมทั้งบริเวณที่มีลักษณะคล้ายกับระเบียงวิหาร เขาเก็บภาพอีกชุดหนึ่ง แล้วจึงกลับขึ้นเรือของเขาเพื่อที่จะแจ้งข่าวใหญ่นี้ให้คนอื่นในญี่ปุ่นได้ทราบกัน
    อีกไม่กี่เดือนถัดมา นักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดี และผู้สนใจก็แห่กันมาที่โยนากุนิให้ควั่ก มีการตั้งไซต์ขุดค้นทางโบราณคดีเพิ่มเติม โดยกระจายวงค้นหาไปทั่วบริเวณนับตั้งแต่ชายฝั่งของโอกินาวาไปจนถึงบริเวณหมู่เกาะริวกิว มีการค้นพบวิหารโบราณเพิ่มเติมจากเดิมเหมือนกันครับ บรรดานักสำรวจต่างก็งในความโอ่อ่าใหญ่โตของมัน แต่ก็ยังมีลักษณะแปลกๆของวิหารเหล่านี้อยู่ นั่นคือมันใหญ่โตเกินไปที่จะมาจากฝีมือของมนุษย์ หลายคนเสนอว่า โบราณสถานเหล่านี้ไม่น่าจะใช่โบราณสถานอย่างที่คิด มันอาจจะเป็นผลงานของธรรมชาติอันเป็นผลพวงจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา ที่บังเอิญรูปร่างรูปทรงของมัน ดันมาคล้ายวิหารหรือโบราณสถานโบราณให้คนที่ได้พบเห็นแตกตื่นเล่นเท่านั้นเอง ก็แล้วแต่จะว่ากันไปล่ะครับ
    อย่างไรก็ตาม หนึ่งในทีมงานสำรวจ Professor Masaaki Kimura แห่งมหาวิทยาลัยริวกิวได้ลงความเห็นว่า โบราณสถานเหล่านี้ น่าจะเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของมนุษย์มากกว่า เขาเชื่อมโยงลักษณะของโบราณสถานเข้ากับบรรดาปราสาทหิน และสุสานโบราณบนหมู่เกาะน้อยใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง และชี้ว่ามันเป็นสถาปัตยกรรมที่ใกล้เคียงกันมาก โถ.. แม้แต่หลักฐานที่หลงเหลือบนเกาะ ก็ยังไม่มีใครทราบเลยครับว่ามันมาจากไหน ต่อให้รู้ว่ามันมาจากแหล่งเดียวกัน คำตอบที่วงการวิทยาศาสตร์และโบราณคดีต้องการก็ยังไม่กระจ่างแจ้งอยู่ดีแหละน่า







    <CENTER>[​IMG] [​IMG] </CENTER>
    แม้ Professor Masaaki Kimura จะลงความเห็นว่า โบราณสถานแห่งโยนากุนิจะเกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ แต่นักวิทยาศาสตร์กลุ่มอื่นในญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยกับเขาอย่างสิ้นเชิง หลายกลุ่มเสนอแนวคิดว่า การเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาทำให้โบราณสถานแห่งโยนากุนิมีรูปทรงดังกล่าว เช่นการเปลี่ยนแปลงหรือการกระเทาะของเปลือกโลก อย่าเพิ่งหัวเราะไปนะครับ ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่ธรรมชาติจะรังสรรค์สิ่งมหัศจรรย์นี้ขึ้นมา ฉากมุม 90 องศาของโบราณสถานสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติพอๆกับการเกิดของคริสตัลที่เหลี่ยมมุมพิศดารกว่านี้น่านล่ะครับ

    - - - - - ข่าวคราวของโบราณสถานใต้น้ำโด่งดังจนลอยไปเข้าหูของนักสำรวจชาวตะวันตก หลายคนมีความหวังเกี่ยวกับแอตแลนติสตะวันออกขึ้นมา ภายใต้การสำรวจที่เต็มไปด้วยปัญหาและอุปสรรค พวกเขามีข้อสรุปหลายอย่างที่น่าสนใจออกมาครับ ซึ่งผมจะเก็บความเอามาเล่าในตอนต่อๆไป ตอนนี้ก็ดูรูปไปพลางๆก่อนนะครับ พิจารณาด้วยสายตาของท่านเองว่า โบราณสถานเหล่านี้ เป็นฝีมือของธรรมชาติหรือเกิดจากอารยธรรมโบราณที่เรายังไม่รู้จักกันแน่ - - - - -

    ที่มา :http://members.thai.net/myth/main.htm








     
  2. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    โอ้โห..! เกิดจากธรรมชาติรึฝีมือมนุษย์กันแน่หนอ..??? อยากรู้จัง
     
  3. ~Lee Ryan~

    ~Lee Ryan~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    315
    ค่าพลัง:
    +140
    ผมว่ามนุษย์ต่างดาวแน่นอน จากที่อ่านไปแล้ว มนุษย์คงสร้างแบบนี้ไม่ได้หรอกสมัยก่อนอะ
     
  4. Bank Chelsea

    Bank Chelsea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +140
    ผมว่ามนุษย์เราคงสร้างพีระมิดอย่างนี้ไม่ได้หรอก ขนาดสมันนี้ยังหาวิธีสร้างไม่ได้เลย
    แต่ไม่รู้ว่าอะไรสร้าง ลองถาม อ.ตาที่สามดูซิครับ
     
  5. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +1,444
    มนุษย์ต่างดาวที่ไหนจะมาสร้าง
    ตัวเป็น ๆ ผมก็ไม่เคยเห็น เคยเห็นแต่ในหนัง
    ผมเลยไม่เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวจะสร้างไว้
    ถ้าเป็นฝีมือพวกต่างดาวจริง งั้นพีระมิดที่อิยิปต์ คงไม่ใช่ฝีมือคนด้วยว่ามั้ย เออ ลองคิดดู ตามหลักวิทยาศาสตร์
    มนุษย์มีกระดูกที่ตั้งฉากกับโลก 1 เดียวในโลก
    ยืนด้วย 2 เท้าได้ มีมันสมองที่ปราดเปรื่องกว่าสัตว์อื่น ๆ ในโลก
    แล้วทำไมสร้างพีระมิดแค่นี้จะทำไม่ได้

    ลองคิดดู อย่างวิชาคณิตศาสตร์ที่เราเรียนกันอยู่ทุกวันนี้เราก็เรียนตามทฤษฎีที่คนสมัยคิดกันไว้ แค่เรียนตามหลังเขาเรายังไม่เก่งเท่าคนสมัยก่อนเลย ว่ามั้ย

    ผมว่า สมัยก่อนเป็นยุคแห่งการคิดค้นและค้นพบ นะ (Discovried)
    แล้วมาในสมัยนี้คงเป็นยุคแห่ง การนำมาประยุกต์ใช้ (Applied)
     
  6. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +1,444
    อย่างเช่น การเชื่อมต่อแบบไร้สาย หรือ Wireless
    ได้มีพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเริ่มต้นจากการค้นพบคลื่นวิทยุ
    ของ Alexander Graham Bell
     
  7. ~Lee Ryan~

    ~Lee Ryan~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    315
    ค่าพลัง:
    +140
    ผมก็เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวก็สร้างปิรามิดเหมือนกัน เขามีทฤษฏีที่เคยบอกว่ามนุษย์ต่างดาวเป็นคนเผยแผ่ความรู้ต่างๆ ทั้งการแพทย์ การทำมัมมี่ หรือทฤษฎีทางคณิตศาตร์หรือเรื่องดวงดาว แล้วก็เรื่องปิระมิดด้วย เขามีหลักฐานเช่นพวกรูปอักษรภาพต่างๆเช่นรูปคล้ายยาน UFO หรือภาพเทพเจ้าเขาขี่ยานบินผมเคยเห็นรูปและ ผมเคยเจอในเว็บไซต์ไหนไม่รู้เดี๋ยวถ้าเจอจะเอามาลงให้ดูงับ แบบว่าคล้ายๆกับหนังเรื่องพีเดเตอร์ VS เอเลี่ยนอะครับที่ตัวพีเดเตอร์เคยเอาอารยธรรมต่างๆมาเผยแผ่กับมนุษย์อะครับ เขาก็อิงมาจากทฤษฏีพวกนี้เหมือนกัน จะเห็นว่าลังพีเดเตอร์จะคล้ายปิรามิดเลยในหนังอะ แต่แล้วแต่ความเชื่ออะครับ
     
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ผมไม่รู้จะแนะนำคุณให้ไปค้นคว้าเพิ่มเติมอย่างไรดี แต่ใน web นี้แหละมีแหล่งข้อมูลเพียบอยู่แล้วครับ...รอเพียงแต่การเปิดใจ..และใช้เวลาในการอ่านสักนิดเท่านั้นเอง...ขอให้ได้คำตอบอย่างที่ต้องการนะครับ..โชคดีครับ
     
  9. tassanai_k

    tassanai_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,518
    เห็นด้วยครับ
     
  10. hexidecimal

    hexidecimal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,026
    ค่าพลัง:
    +1,637
    โลกนี้ช่างกว้างใหญ่จริงๆ มีอะไรให้ศึกษาต้องเยอะแยะ
     
  11. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +494
    อ้อ ผมคิดว่าถ้ามนุษย์ต่างดาวมาที่นี่จริงแล้วสร้างสิ่งนั้นไว้ก็"น่าจะ"เป็นเป็นไปได้(แต่ว่าสิ่งที่ขัดกับสิ่งนั้นน่าจะเป็นคลื่นวิทยุที่ตรวจจับนั้นจะมีโค้ดของเค้าซึ่งไม่สามรถตรวจสอบได้...(ใครเค้าจะใช้ภาษา...))และอีกอย่างอุปกรณ์ในการสร้างที่ต้องใช้เทคโนโลยีความร้อนสูงคุณเอาพลังงานมาจากไหนละ...(ทวีปแอตแลนติสน่าจะเป็นคำตอบสำหรับข้อสรุปนี้เพราะว่าใกล้กับญี่ปุ่นเหมือนอเมริกา(ซึ่งมีคนสันนิษฐานว่าตั้งอยู่แถบนั้น(จำชื่อทะเลไม่ได้น่ะสิครับ...)))
    แต่การที่ว่ามนุษย์สมัยก่อนฉลาดน้อยกว่าสมัยนี้เป็นการปลูกฝังที่ขัดกับหลักทฤษฎีวิวัฒนาการยังไงไม่รู้สินะ เหมือนสมองโตขึ้นแต่แทนที่ว่าจะว่าสมองโตขึ้นจะฉลาดขึ้นน่าจะขึ้นอยู่กับการใช้งานมากกว่า...(คนเราเห็นว่าอะไรน้อยก็เห็นว่าไม่ดีนิ...) งั้นทำไมลิงไม่วิวัฒนาการกลายเป็นมนุษย์ทั้งหมดละ...(แปลกเนอะ...)

    แต่ที่กำลังพูดกันอยู่คิดว่าเค้าอยู่สาขาวิชาไหนกันครับ จะให้พูดถึงมนุษย์ต่างดาวในเมื่อเค้าเป็นนักโบราณคดี...(มุขครับ)
    *เค้าไม่เรียกว่าปิรามิดละมั้ง อะไรๆก็เรียกปิรามิดหมด จะบ้ากันหรือยังไง...
    *ถ้าไอน์สไตน์ไม่คิดทฤษฎีสัมพันธภาพ คุณว่าโลกจะเป็นยังไง...
    1.เทคโนโลยีพลาสม่าเติมโต สามารถสร้างพลังงานได้ไม่มีที่สิ้นสุด(มั้ง)
    2.นาโนเทคโนโลยีไม่เกิด อุปกรณ์อิเลคทรอนิคทั้งหลายไม่เกิด(ละมั้ง)
    3.คนเริ่มพัฒนาอาวุธชีวภาพและเคมีจนเมื่อมันหลุดมาจากห้องทดลองทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ เหมือนกรณีเชอโนบิล
    4.โลกจะมีอีซีเอ็มขนาดยักษ์เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลรวมทั้งอาวุธต่างๆจะใช้ไม่ได้ รวมถึงนิวเคลียร์... และเลเซอร์
    5.การทดลองทางวิญญาณและพลังจิต(อย่างรัสเซียกับเยอรมันและอเมริกา) และการทดลองทางโบราณคดีได้รับการสนับสนุนอย่างก้าวกระโดดแทนงบของใครบางคนที่ใช้สุร่ยสุร่าย...
    ฯลฯ...
    >>>โลกมันจะดีขึ้นมากเลย...(นอกเรื่องไปไกลเลยแฮะ)
    *แล้วอะไรเป็นเหตุดลใจไอน์สไตน์ละ...
     
  12. ๛โอ๊ต๛

    ๛โอ๊ต๛ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +15
    อะไรแปลกๆก็หาว่ามนุษย์ต่างดาวทำ อะไรธรรมดาๆก็หาว่ามนุษย์ทำ ....แย่ๆ
     
  13. นืเฟร

    นืเฟร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +433
    โดยส่วนตัวแล้วคิดว่ามนุษย์นี่แหละทำ เป็นเศษซากของอารยธรรมอันรุ่งเรืองที่ล่มสลายไปไนอดีต เมื่อนานมาแล้ว อีกอย่างมันก็ไม่เชิงเป็นปีระมิดครับ ลักษณะของมันคล้ายกับวิหารของเทพเจ้าของชาวเมโสโปเตเมียที่เรียกว่า ซิกกูรัต มีหลักฐานหลายอย่างแสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิทยาศาตร์ หรือศาสตร์โบร่ำโบราณบางอย่าง ที่สร้างความฉงงว่า มนุษย์เคยพัฒนาได้แบบนี้เมื่อ หลายหมื่นปีที่แล้วงั้นเหรอ ทำให้เราต้องมาทบทวนประวัติศาสตร์ของมนุษย์กันใหม่ ว่ายุคนี้ที่ประชากรโลกเราจะมีประชากรเข้าใกล้ลักหมื่นล้าน นั้นเคยมีมาแล้วหรือ และก็หายไปเป็นตำนานแต่ละชนชาติไม่ว่าเช่นเรื่อง หอคอยบาเบลที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อนานแสนนานมาแล้ว ในสมัยที่มนุษย์ยังพูดภาษาเดียวกัน นับถือพระเจ้าองค์เดียวกัน เมื่อเทียบกับปัจจุบันแล้วเป็นไงครับ ตอนนี้ภาษาอังกฤษกลายเป็นภาษาสากลที่ใช้ติดตอกับคนทั่วโลก ตอนนี้เรานับถือบริโภคนิยมเป็นพระเจ้าองค์ใหม่ที่กำลังกลืนกินวัฒนธรรมให้เป็นรูปแบบเดียวกันหมด แต่หลังจากนั้นมาพระเจ้าทรงคิดว่ามนุษย์อาจจะทำกบฎต่อตนเอง เลยถล่มหอคอย และทำให้หมู่มนุษย์พูดคนละภาษา ทำให้ไม่มีโอกาศที่จะก่อกบฎอีกครั้ง
     
  14. สหายพัฒน์

    สหายพัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +104
    มีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่รู้
     
  15. seberton

    seberton เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2006
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +655
    ใครที่รู้จริงๆ ช่วยไขปริศนาให้ทีครับ
    ช่วยเพ่งดูหน่อยว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร คือมีคนมากมายถกเถียง สงสัยกันมาก

    ถ้าท่าน ตาที่สาม มาดูก็ช่วยไขคำตอบให้กระจ่างด้วยหรือ
    หรือผมที่มีฌาณที่เห็นจริงรู้จริงช่วยไขคำตอบให้ทีครับ
     
  16. Samy

    Samy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,295
    ค่าพลัง:
    +2,719
    หนูบ้านตัวเองยังไม่รู้เลยว่ามีกี่ตัว
     
  17. นืเฟร

    นืเฟร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +433
    มีหินรูปหน้าคนด้วยนี่
     
  18. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,252
    ค่าพลัง:
    +1,814
    ถ้ามีทางเข้าไปข้างในก็น่าจะเป้นฝีมือมนุษย์/มนุษย์ต่างดาว ถ้าไม่มี ก็ธรรมชาติสร้างมันขึ้นเอง
     
  19. zcracher

    zcracher เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +267
    ผมว่าธรรมชาติคงไม่สร้างหินหน้าคนขึ้นมาได้หรอก ส่วนทางเข้าดูแล้วผมว่ามีแน่แต่มนุษย์สมัยนี้คงหาทางเปิดได้ยากยกเว้นเจาะหรือขุดเข้าไป ข้างในมันต้องมีอะไรเด็ดๆ แน่นอน เชื่อดิแล้วโปรเจคนี้จะต้องใช้เงินมากกว่าการค้นหาสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้อีกด้วย
     
  20. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,790
    ค่าพลัง:
    +7,482
    ###อ่อน### มีเรื่องราวมากมาย ในดินแดนแห่งความลี้ลับ และดินแดนแห่งสนธยาหลังสงกรานต์ ###อ่อน### จะพยายามเรียบเรียงให้ โดยเฉพาะอาณาจักรแห่งลุ่มน้ำไนล์
     

แชร์หน้านี้

Loading...