ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. classic songs

    classic songs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +896
    เฮ่ออ คนเราหนอ ที่พระท่านว่ามีกรรมเกี่ยวเนื่องกันมาน่ะ คงจะจริง

    มงคลที่ 26 คือ การฟังธรรมตามกาลที่มีโอกาส
    พวกเราเป็นผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต ความสนใจตรงกันทำให้พวกเราได้มาร่วมกันติดตามกระทู้นี้

    สำหรับผู้ที่สั่งสมบุญมามาก ก็มีเหตุให้พวกท่านได้ถ่ายทอดกุศลธรรมให้เพื่อนๆรับรู้
    ส่วนผู้ที่บุญยังน้อยอยู่ ก็มีโอกาสได้รับรู้ธรรมอันเป็นประโยชน์มากมาย

    บางข้อความไม่ใช่แค่ประโยชน์ แต่เป็นถึงแรงบันดาลใจให้เราได้เลยทีเดียว
    และก็ยังมีมิตรภาพ มีกำลังใจให้เห็นตลอด

    เหมือนไม่ใช่เหตุบังเอิญเลยเนอะ ^-^
     
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    ขออนุโมทนากับคุณฝนที่ได้นำพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์มาลงให้อ่านในเว็บ
    ชุมชนมโนมยิทธิ น่าจะนำมาลงที่นี่ด้วยครับ
    และขอโมทนากับคุณ classic song ที่เกิดธรรมปิติซึ่งเป็นบุญที่มีอานิสงส์สูง
    ที่ยกเรื่องนี้มาเพื่อจะแสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระอภิธรรม ๗ คำภีร์
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี ท่านเคยกล่าวไว้ ในสมัยพระพุทธกัสสปสัมมา
    สัมพุทธเจ้า มีพระสวดพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ในถ้ำ มีค้างคาว ๕๐๐ ตัวอาศัย
    อยู่ ได้ฟังพระสวดแล้วตกลงมาตาย ด้วยอานิสงส์ที่ฟังพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
    แม้จะฟังไม่รู้เรื่อง พวกเขาก็ยังได้อานิสงส์ตายแล้วไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
    แต่น่าเสียดายที่คนในสมัยนี้ ส่วนใหญ่จะสู้ค้างคาวไม่ได้ เพราะจะเห็นกันมาก
    มายที่เวลาคนไปฟังพระสวดพระอภิธรรมในงานศพ น้อยคนจะตั้งใจฟังด้วย
    ความเคารพ ส่วนใหญ่จะคุยกันแข่งกับพระ ค้างคาวฟังแล้วไปเกิดเป็นเทวดา
    แต่คนบางคนฟังแล้วอาจจะตกนรก เพราะขาดความเคารพในธรรม
     
  3. jajamicky

    jajamicky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +768
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณฝนด้วยอีกคนค่ะ การให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ทั้งปวงจริงๆ ขอบคุณจริงๆค่ะ
     
  4. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    เรื่องบทสวดที่เป็นบาลีถ้าสวดแล้วแปลตามไปด้วยจะมีคนเข้าใจอีกมากเลยละครับผมเองยังเคยคิดเลยว่าพระท่านก็สวดกันเหนื่อยจะแย่แต่คนไม่รู้เลยว่าแปลว่าอะไร มีวัดสังฆทานที่นนทบุรีครับที่แปลตามให้ด้วยผมว่ามีประโยชน์มากเลยน่าจะมีเยอะๆนะครับ
     
  5. classic songs

    classic songs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +896
    ขอบพระคุณค่ะพี่ paitoon หนูจึงคิดว่าคุณฝนได้อานิสงค์มหาศาล

    คือ การตั้งอารมณ์อยู่ในพระคุณของพระศาสดานั้น อาจต้องใช้เวลา
    แต่แค่อ่านพระอภิธรรมบท 1 เท่านั้น จิตน้อมถึงพระคุณของพระศาสดาอย่างเต็มเปี่ยม
    บทสวดนี้นำพาให้คนซาบซึ้งกับพระธรรมได้อย่างรวดเร็ว
    จึงเป็นบทที่ศักดิ์สิทธิ์จริง ลึกซึ้งอย่างยิ่งค่ะ
     
  6. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    เรื่องสวดมนต์เเปลฝนก็ถามสมเด็จองค์ปฐมท่านเหมือนกัน ท่านว่าถ้ารู้คำเเปล จิตใจจะน้อมระลึกถึงบุญคุณ บารมีของพระพุทธเจ้า พระธรรม เเละพระสงฆ์ท่านด้วย ไม่ใช่สักเเต่ว่าสวดๆ เป็นนกเเก้ว นกขุนทองเเบบฝนที่ว่าถึงจะรู้คำเเปลเเล้วก็จิตไม่ได้ระลึกตาม ท่านว่าอย่ารีบสวดให้จบๆ ให้สวดไปนึกระลึกถึงบุญคุณไปตามที่บทสวดเขียนไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2009
  7. วิณวิญ

    วิณวิญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +2,089
    "โปรดจงรู้ว่ามี...อยู่ตรงนี้อีกคน" แหะๆ เพลงพี่เบิร์ดเก่าไปหน่อยแต่มันใช่เลยค่ะ ไม่ต้องกังวลนะค่ะพี่Classic song เอก็ยังต้วมเตี้ยมอยู่อีกหนึ่งคนค่ะ

    วันนี้ก็มีนิมิตหมายอันดีเกิดขึ้นมานิดหน่อยแล้วนะคะพี่ๆ หลังจากที่เอได้จัดพานไหว้ครูและถวายข้าวพระพุทธตามคำแนะนำของพี่Me,myselfและพี่อ้อย พร้อมทั้งท่องนะมะพะทะในใจตลอดเวลาที่รู้สึกตัว ทั้งก่อนนอนและหลังตื่นมาก็ท่องต่อไปอีก จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัดใจมากเลยไม่ชอบท่องนะมะพะทะเลย รู้สึกว่าทำให้หายใจลำบากมากกว่าท่องคำว่าพุทโธ ที่มีแค่2พยางค์ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกรื่นไหลไปได้เองแล้ว

    พอตอนเช้ามืดวันนี้เอได้ยินเสียงพระสวดมนต์แบบหลายๆองค์ประสานเสียงกันนะคะ ในความรู้สึกตอนนั้นก็ตั้งใจฟังว่าพระสวดว่าอะไร ปรากฎว่าเป็นเสียงพระสวดนะโมตัสสะ ฟังได้แค่2จบเองค่ะ คือตอนนั้นตั้งใจจะฟังให้แน่ใจว่าใช่ภาษาไทยหรือป่าว หรือว่ามัสยิสเค้าเริ่มละหมาดรอบเช้ามืดกันแน่ หรือหูเราแว่วไปเอง กลัวว่าจะอุปทานฟุ้งซ่านไงค่ะ แต่ว่าไม่ใช่แล้วเสียงดังก้องอยู่ในหูมากๆเลยแล้วก็สะดุ้งตกใจตื่น พอลืมตาปุ๊ปรอบตัวเราเงียบสงัดไปหมด ก็รู้สึกเสียดายว่าเรานะน่าจะตั้งสติให้ดีกว่านี้ไม่น่าตกใจตื่นเลย ไม่อย่างงั้นก็จะได้ฟังพระสวดมนต์ต่อแล้ว ถ้าตอนนั้นประมาณตี4ที่เมืองไทยก็8โมงเช้า คงเป็นเสียงพระทำวัตรเช้าแน่ๆเลย

    อ่อ...ลืมเล่าไปค่ะ เมื่อ2วันก่อนเอโหลดเสียงสวดมนต์มาจากเน็ท แต่ที่ได้มาเป็นเสียงสวดมนต์แบบร้องเพลงมีคาราโอเกะด้วยอ่ะคะ ก็เลยบ่นๆกับแฟนว่าไม่ชอบอย่างนี้เท่าไหร่อยากได้แบบเสียงพระสวดมนต์จริงๆมากกว่า สงสัยท่านก็เลยเมตตามาให้ตามคำขอ แต่เจ้าตัวดันจิตตกตื่นก่อนซะนี่

    สำหรับเรื่องของเอก็เป็นแค่ระดับจิ๊บๆของพวกพี่ๆนะคะ แต่แค่นี้ก็รู้สึกดีใจและสร้างกำลังใจให้ปฎิบัติดีต่อไปมากๆเลยค่ะ เหมือนคุณครูมาชมเราหรือวาดดาวให้เราหนึ่งดวงเวลาส่งการบ้านเลยนะคะ ^^
     
  8. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    จะว่าไปนะคะพี่อ้อย ฝนมันเป็นประเภทพวกสอดรู้สอดเห็นค่ะ เเล้วอะไรที่มันไม่รู้มันก็จะค้างคาใจค่ะ ฝนเลยไปถามเรื่องพี่อ้อยกับสมเด็จองค์ปฐมว่า เพราะอะไรสมเด็จองค์ปัจจุบันท่านถึงเคร่งกับพี่อ้อยจัง

    สมเด็จท่านว่าที่พระศาสดาท่านเคร่งเพราะท่านอยากให้พี่อ้อยได้ดี ท่านสอนทฤษฎีก่อนเเล้วค่อยๆให้พี่อ้อยปฏิบัติตาม ท่านวางเเผนให้พี่อ้อยจนสุดทางเดินอ่ะค่ะ เท่าที่ตามอ่านจากที่พี่อ้อยโพสมาฝนคิดว่าฝนรู้ว่าสุดทางเดินที่ท่านวางให้พี่อ้อยอยู่ที่ตรงไหน

    ฝนมีบทความจากหนังสือสวดมนต์ของพระอาจารย์ฝน สมเด็จท่านเคยให้ฝนกับพระองค์น้องอ่าน ให้ฝนโทรไปบอกพระองค์น้องว่ามาจากพ่อถึงลูก "พ่ออยากให้ลูกอ่านให้เข้าใจว่าเพราะอะไรพ่อถึงดุลูก" เพราะช่วงนั้นสมเด็จท่านให้ฝนโทรไปดุพระองค์น้องทุกวันเลย ท่านว่าให้โทรไปดุในนามของท่านบอกพระองค์น้องท่านไปเลยว่าสมเด็จองค์ปฐมฝากดุมา ฝนก็เหวยโทรไปดุว่าที่พระอรหันต์นี้นะ ฝนก็นึกถึงพระอาจารย์ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงอย่าให้ฝนโทรติดเลยนะ ฝนยังเข็ดอยู่กับเรื่องหัวเข่าเเตก กลัวๆๆ เเต่ก็โทรติดทุกครั้งค่ะ

    วันนี้ฝนเปิดหนังสือสวดมนต์อ่านไปอ่านมาก็คิดถึงพี่อ้อย สมเด็จองค์ปฐมท่านบอกให้ฝนพิมพ์ให้พี่อ้อยอ่าน ท่านว่าพระศาสดาท่านก็คงอยากสอนพี่อ้อยเเบบนี้เหมือนกัน
    -------------------------------
    อ้างอิง: หนังสือมนต์พิธี วัดป่าหนองเเวงเเสงเพชร

    อย่าประมาทอย่าหลง

    ครั้นยอเจ้า พวกเจ้า ก็ยิ่งเหลิง

    คอยระเริง ริษยา ก่อสาไถย

    ครั้นพ่อดุ ก็หดหู่ หมดฟูใจ

    ครั้นพ่อไซร้ ไม่ชมว่า ก็พาเละ

    ลูกลูกเอ๋ย พ่อชมเชย ในองค์ธรรม

    พ่อจะดุ ก็ยาม เจ้าไขว้เขว

    จงเป็นธรรม ดูท่า อย่าเสเพล

    จงเป็นกลาง เลิกโซเซ จะสิ้นทุกข์

    --------------------------------
    ผู้ชี้ขุมทรัพย์

    "อานนท์" เราจักไม่พยายามทำกะพวกเธออย่างทะนุทะนอมเหมือนพวกช่างหม้อที่ทำกับ หม้อที่เปียก ยังดิบอยู่

    "อานนท์" เราจะขนาบเเล้ว ขนาบอีก ไม่มีหยุด

    "อานนท์" เราจักชี้โทษเเล้วชี้โทษอีก ไม่มีหยุด ผู้ใดมีมรรคผลเป็นเเก่นสาร ผู้นั้นจักทนอยู่ได้ คนเราควรมองผู้มีปัญญาใดๆ ที่คอยกล่าวขนาบอยู่เสมอไปว่า คนนั้นเเหละคือ "ผู้ชี้ขุมทรัพย์" เเละควรคบบัณฑิตที่เป็นเช่นนั้น เมื่อคบหากับบัณฑิตเช่นนั้น ย่อมมีเเต่ดีส่วนเดียว "ไม่มีเลวเลย"

    (พระพุทธวจนะ)
    --------------------------------------------------------------

    ไม่รู้สินะ ฝนอ่านเเล้ว ฝนนึกถึงความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกจัง เหมือนพ่อสอนลูกให้เข้าใจว่าเพราะอะไรท่านถึงดุ

    บทความสุดท้ายอ่านเเล้วเข้าใจองค์พระศาสดาท่านจริงๆ อ่านเเล้วทำให้ฝนเข้าใจว่าทำไมท่านถึงเคร่งกับพี่อ้อยขนาดนี้

    พระศาสดาเองท่านใช้เวลาเเค่เพียง 4 อสงไขยกำไรเเสนกัปเพื่อบรรลุพระโพธิญาณ ใช้เวลานิดเดียวเอง สมเด็จองค์ปฐมท่านว่าเป็นเพราะท่านเคร่งครัดในการปฏิบัติท่านถึงได้บรรลุเร็ว ในเมื่อท่านปฏิบัติของท่านอย่างเคร่ง มันก็คงไม่เเปลกอะไรที่ท่านจะสอนลูกของท่านอย่างเคร่งๆเพื่อให้ปฏิบัติเดินตามรอยท่าน

    ใช่ไหมคะพี่อ้อย

    ฝนขออนุโมนทนาในความเมตตาที่พระศาสดาท่านมีให้เเก่พี่อ้อย

    เเละฝนขออนุโมทนาในความตั้งใจในการบำเพ็ญเพียรของพี่อ้อยเช่นกันค่ะ

    ฝนขอสาธุให้ดังๆได้ยินไปทั้งสามโลกเลยค่ะกับข้อความที่ฝนพิมพ์ไปทั้งหมด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2009
  9. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    เห็นด้วยคร้าบ
     
  10. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    ขออนุโมทนากับคุณฝน คุณclassic song และคุณพี่ชนะด้วยครับ

    ผมยอมรับเลยว่าเป็นคนนึงที่ไม่ได้ตั้งใจพระพระสวดอภิธรรมในงานศพเลย
    เพราะไม่ได้ศึกษามาก่อนว่าพระท่านสวดอะไร มีความหมายอย่างไร และมีอานิสงส์อะไรบ้าง แต่นี้ต่อไปผมจะตั้งใจฟังด้วยความเคารพทุกครั้งครับ และผมกราบขอขมาพระรัตนตรัยมา ณ ที่นี้

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
    อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
    อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
    หากข้าพระพุทธเจ้าได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
    ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลายและผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ
     
  11. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    ขออนุโมทนาที่คุณฝนได้โพสต์มาครับ ยอดเยี่ยมจริง ๆ
    ผมขออนุญาตนำมาใช้ด้วยนะครับ
     
  12. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    ความรัก ไม่ใช่การตามใจไปทุกเรื่อง
    ต้องรักให้ถูก และรักให้เป็น
    รักให้ถูก คือยึดถือความถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
    รักให้เป็น คือแนะนำให้สร้างสมความดี มีความเห็นตรง คือเป็นสัมมาทิฏฐิ
    ความรักที่ถูกต้อง คือการเตือนเมื่อทำผิด
    เมื่อเตือนแล้วไม่เชื่อฟังก็ต้องลงโทษ
    เพราะถ้าไม่ลงโทษ เขาก็จะทำผิดอยู่เรื่อยไป
    เมื่อละชั่วได้และหันมาทำความดี ก็ต้องชมเชยให้กำลังใจตามสมควร

    เพราะทุกคนที่เกิดมาไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิด
    และไม่มีคำว่าสาย สำหรับคนที่จะเริ่มทำความดี
     
  13. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160

    โมทนาสาธุครับคุณพี่ชนะ
     
  14. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    ขออนุญาตใช้พื้นที่ตามหาคนหายนะคะ

    พี่ "Me,Myself" เเละ"พี่เจ๋วะรัฐถะ"หายไป

    ได้ยินเเล้ว ติดต่อน้องด้วยเด้อ

    น้องเป็นห่วง งุงิๆ

    ขอบคุณค่ะ
     
  15. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    มารายงานตัวก่อนค่ะ เดี๋ยวน้องเป็นห่วง
    พี่เพิ่งตอบน้องในpmเสร็จก็เข้ามาห้องนี้เลยจ้า

    ตอนนี้พี่กำลังศึกษาอสุภกรรมฐานอยู่ค่ะ
    แต่เมื่อคืนเข้ามาแล้ว ว่าจะตอบเกี่ยวกับการปฏิบัติ พอดีโพสไม่ขึ้น
    ที่พิมพ์ไป หายเกลี้ยง (หากตีเป็นหน้ากระดาษA4 ก็คงราวๆ4-5 หน้ามังคะ)
    เลยคิดว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องโพส พอมาวันนี้ ก็เข้าใจทันทีค่ะ
    แต่เดี๋ยวพี่จะโพสใหม่อีกรอบ หากพระศาสดาทรงอนุญาตคงจะโพสได้
    แต่ว่าพี่ต้องตั้งสมาธิพิมพ์ให้ละเอียดน่ะค่ะ
    ส่วนบทสวดที่น้องฝนพิมพ์มาก็ดี บทแผ่เมตตาที่พิมพ์มาก็ดี
    พี่ขออนุโมทนากับมหาบุญกุศลที่น้องตั้งใจทำ สาธุ ค่ะ

    อยากจะบอกว่า บทแผ่เมตตาที่น้องโพสมานั้น
    เป็นบทเดียวกัน กับสำนักวิปัสนาพระอาจารย์ของพี่
    ที่สอนสุขวิปัสโกให้พี่เลยน่ะค่ะ
    พี่เองตอนนี้ก็เรียนรู้ทั้งสุขวิปัสโก ควบไปกับมโนมยิทธิ
    แต่ว่าตอนนี้เห็นทีจะต้องเพิ่มอีก ตามที่พระศาสดาทรงเมตตาบอกแนวทาง
    อาจจะยาก แต่ปลาถ้าไม่ว่ายทวนน้ำ จะเจอน้ำสะอาดได้ฉันท์ใด

    คิดถึงนะคะน้องน้อย อย่ากังวลกับพี่ๆจนลืมปฏิบัตินะคะ
    ตอนนี้พี่ๆเองก็ต้องเร่งเพียรอยู่ บางทีเข้ามาไม่เจอกัน เหมือนเวลามันคลาดเคลื่อนกันไปหมด ก็ไม่เป็นไร จิตของพวกเราไม่ทิ้งกันอยู่แล้วจ้ะ ^_^
     
  16. assume

    assume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +1,931
    อย่าคิดอย่างนั้นซิครับ ผมก็ยังไม่ถึงไหนเหมือนกันครับ แต่เห็นคนที่เค้าได้แล้วนี่มีกำลังใจครับ

    อนุโมทนากับทุกๆ ท่านครับ
     
  17. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    อ่านแล้วน้ำตาซึมค่ะ ตรงใจมากเลยค่ะน้องฝนจ๋า
    สองวันมานี่ ขบคิดถึงเรื่องที่พระศาสดาทรงเมตตา
    พระกรรมฐาน40กอง พระปิติทั้ง5 วิปัสนาญาน ทั้ง9
    พี่จะทำได้ครบหรือเปล่าก็ไม่รู้ (เสียงหงอยๆ)
    ที่ได้ก็ยังเป็นส่วนน้อยอยู่ ที่ไม่ได้ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้เพิ่มไหม ปัญญาของพี่ยังน้อยนิด ที่มีอยู่ ณ ตอนนี้คือ ความเคารพศรัทธาและเชื่อมั่นต่อองค์พระศาสดาด้วยจิตใจนอบน้อมที่สุดที่พึงจะกระทำได้

    ยิ่งตอนนี้พระศาสดาให้พี่ฝึกอสุภกรรมฐาน
    เพื่อก้าวไปสู่การฝึกกรรมฐานกองอื่นๆ
    ถามว่าหนักไหม ตอบแบบไม่อายเลยว่า หนักมากสำหรับพี่ พี่เพิ่งได้อะไรมา และยังได้ไม่ครบ ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แต่สำนึกบอกกับตัวเองว่า หากพระศาสดาไม่รักไม่ห่วงก็คงไม่เป็นแบบนี้ ยิ่งซาบซึ้งในความเมตตาของพระศาสดาพี่ก็ยิ่งต้องเร่งเพียรให้หนัก

    ต้องขอบใจน้องน้อยของพี่มาก
    ทำให้พี่มีกำลังใจขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
    ^_^
    และพี่ขออนุโมทนากับน้องฝนที่เอาบทสวดมนต์และบทแผ่เมตตามาฝากให้เป็นธรรมทานด้วยจ้า พี่เองก็ยังต้องศึกษาอีกเยอะเลย ดีจังจะได้นั่งศึกษาบทสวดมนต์ที่น้องฝนตั้งใจโพสมา อนุโมทนา สาธุ ค่ะ ^_^
     
  18. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    สาธุด้วยนะคะ ฝนเองก็อยากฝึกกสิณอยู่เหมือนกันเพราะอะไรๆก็มาคอยอยู่หมดเเล้ว ยกเว้นอย่างเดียวพระอาจารย์ท่านห้าม ฝนคิดว่าคงยังไม่ถึงเวลา ต้องทำจิตให้นิ่งวางลงได้ก่อน ต้องให้ได้ฌาน 4 ของสายสุกขวิปัสสโก ไม่ง่ายเลยค่ะ ทุกวันนี้พยายามฟังขันติธรรม ที่หลวงปู่เหรียญท่านเทศน์ไว้เอาไว้เป็นเเรงใจ พยายามขยัน อดทนปฏิบัติให้ได้ก่อนปีใหม เพราะพระอาจารย์ท่านก็พูดเรื่องฌานสี่กับฝนเกินครึ่งปีเเล้ว ฝนยังไปได้ไม่ถึงไหน อายพระอาจารย์ท่านจัง ไม่อยากให้ท่านเสียใจ

    สู้ๆด้วยกันนะคะ
     
  19. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    เป็นกำลังใจ

    คุณอ้อยครับ
    คุณรู้ไม๊ที่คุณได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระศาสดาโดยตรงนั้นแสดงว่าคุณมีบุญมากมาย
    ผมขอแสดงมุทิตาจิตและอนุโมทนากับคุณด้วยจากใจจริง
    เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งหนักใจกับการปฏิบัติธรรมนะครับ
    การปฏิบัติธรรมนั้นถ้าตั้งใจปฏิบัติจริง ๆ แล้วไม่ใช่ของเบา ๆ ครับ
    แต่ถึงเป็นของหนัก หลวงพ่อฤาษีสอนว่าให้เราวางอารมณ์เบา ๆ อย่าเครียดจนเกินไป
    และอย่าลืม "มัชฌิมาปฏิปทา" คือเดินสายกลางนะครับ
    อีกอย่างพระศาสดาทรงให้คุณฝึกอสุภ แสดงว่ากรรมฐานกองนี้ตรงกับจริตของคุณ ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ แล้วกรุณามาสอนพวกเราด้วยนะครับ
     
  20. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    อ้อยเคยโพสวิธีปฏิบัติของอ้อยไว้แล้วรอบหนึ่งค่ะ แต่อ้อยจำไม่ได้ว่าอยู่หน้าไหนค่ะ ^^
    วันนี้จะเอาบทสวดมนต์ที่อ้อยใช้สวดเป็นประจำทุกวัน(เช้า-กลางคืน)มาโพสนะคะ
    ก่อนสวดมนต์ให้น้อมจิตระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    จากนั้น อ้อยจะเริ่มสวด ชุมนุมเทวดา
    <O:p</O:p

    บทสวดชุมนุมเทวดา
    สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง ปะริตตังนุภาโว สะทา รักขะตูติ
    ผะริตวานะ เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา อะวิกขิตตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ
    ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ผู้มีเมตตา จงแผ่เมตตาจิต ด้วยคิดว่า
    ขออานุภาพพระปริตร จงรักษาพระราชาผู้เป็นเจ้าแห่งนรชน
    พร้อมด้วยราชสมบัติ พร้อมด้วยราชวงศ์ พร้อมด้วยเสนามาตย์
    อย่ามีจิตฟุ้งซ่าน ตั้งใจสวดพระปริตร
    สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน
    ขอเชิญเหล่าเทพเจ้าซึ่งสถิตย์อยู่ในสวรรค์ชั้นกามภพก็ดี รูปภพก็ดี
    และภุมมเทวดา ซึ่งสถิตย์อยู่ในวิมานหรือยอดเขาและหุบผา ในอากาศก็ดี
    ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
    ในเกาะก็ดี ในแว่นแคว้นก็ดี ในบ้านก็ดี ในต้นพฤกษาและป่าชัฏก็ดี ในเรือนก็ดี ในที่ไร่นาก็ดี
    ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา
    เทพยดาทั้งหลาย ซึ่งสถิตย์ตามภาคพื้นดิน รวมทั้งยักษ์ คนธรรพ์และพยานาค
    ซึ่งสถิตย์อยู่ในน้ำ บนบก และที่อันไม่ราบเรียบ ก็ดี
    ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ
    ซึ่งอยู่ในที่ใกล้เคียง จงมาประชุมพร้อมกันในที่นี้
    คำใดเป็นของพระมุนีผู้ประเสริฐ ท่านสาธุชนทั้งหลาย จงสดับคำข้าพเจ้านั้น
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม

    บูชาพระรัตนตรัย
    อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อภิปูชะยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อภิปูชะยามิ
    <O:p</O:p

    บทกราบพระรัตนตรัย
    อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
    พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)
    กราบที่1 น้อมจิตนมัสการสมเด็จองค์ปฐม พระศาสดา ด้วยจิตนอบน้อม
    <O:p</O:p

    สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
    ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
    กราบที่ 2 น้อมจิตกราบพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะมโมว่ามีดอกมะลิแก้วลอยจากโอษฐ์ของพระศาสดาลงมาบนหัวเรา
    <O:p</O:p

    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    สังฆัง นะมามิ (กราบ)
    กราบที่3 น้อมจิตกราบพระอริยสงฆ์สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยจิตนอบน้อม <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นมัสการพระรัตนตรัย
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (สวด ๓ จบ)<O:p</O:p
    ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมนมัสการสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์พระองค์นั้นตลอดชีวิต<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อาราธนาศีล 5
    มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
    ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ
    ทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
    ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ
    ตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
    ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ไตรสรณคมณ์
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้า ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้า ขอถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระอริยสงฆ์สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


    <O:p</O:p
    ศีล 5
    ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ<O:p</O:p
    เราจะไม่ฆ่าและทรมานคนและสัตว์ให้ตาย หรือให้ได้รับความเดือดร้อน ตลอดชีวิต<O:p</O:p

    อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ<O:p</O:p
    เราจะไม่ลักขโมย คดโกง หลอกลวง เป็นต้น ในทรัพย์สินของคนอื่นเอามาเป็นของเรา ตลอดชีวิต<O:p</O:p

    กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ<O:p</O:p
    เราจะไม่ทำชู้ ลูกเมีย สามี ภรรยา และคนในปกครองของผู้อื่น โดยที่ผู้ปกครองและเจ้าของไม่อนญาต ตลอดชีวิต<O:p</O:p

    มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ<O:p</O:p
    เราจะไม่พูดปด คือวาจาไม่ตรงความจริง ไม่พูดวาจาหยาบให้เป็นที่สะเทือนใจของผู้รับฟัง ไม่ยุหรือนินทาคนอื่นให้เป็นเครื่องบาดหมางหรือแตกร้าวกัน ไม่พูดวาจาเหลวไหลไร้ประโยชน์ตลอดชีวิต(รวมกรรมบถ10ไว้ด้วย คือวจี4)<O:p</O:p

    สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ<O:p</O:p
    เราจะไม่ดื่มสุราและเมรัย ตลอดชีวิต<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คำขอขมาพระรัตนตรัย
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตเยนะกะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย
    อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์พระธรรม
    และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดีด้วยวาจาก็ดี
    ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี<O:p</O:p
    ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์
    ทั้งหลายและผู้มีพระคุณทุกท่านได้โปรดงดเว้นโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า
    ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บทสวดพระพุทธคุณ<O:p</O:p
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ <O:p</O:p
    วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู <O:p</O:p
    อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิสัต<O:p</O:p
    ถาเทวมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บทสวดพระธรรมคุณ<O:p</O:p
    สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม <O:p</O:p
    สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก<O:p</O:p
    โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ ฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บทสวดพระสังฆคุณ<O:p</O:p
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ<O:p</O:p
    อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ<O:p</O:p
    ญาญะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา<O:p</O:p
    เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ<O:p</O:p
    อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย<O:p</O:p
    อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บทสวดชยสิทธิคาถา<O:p</O:p
    พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง<O:p</O:p
    คฺรีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง<O:p</O:p
    ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตวา มุนินโท<O:p</O:p
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะสิทธิ นิจจัง ฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ)
    พาหุงสะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ <O:p</O:p
    มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ <O:p</O:p
    นาฬาคิริง คะชะวะรังอะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ <O:p</O:p
    อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะ สุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ <O:p</O:p
    กัตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ <O:p</O:p
    สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ <O:p</O:p
    นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะานิ <O:p</O:p
    ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง (อ่านว่า พรัมมัง) วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ <O:p</O:p
    เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โยวาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะ เนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ <O:p</O:p
    (* ถ้าสวดให้คนอื่น ให้เปลี่ยนจากคำว่า เม เป็น เต) <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ชัยปริตร (มหากาฯ)
    มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโตสัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม* ชะยะมังคะลัง ฯ<O:p</O:p
    ชะยันโตโพธิยา มูเล สักยานัง นันทิ วัฑฒะโน เอวังอะหังวิชะโย โหมิ (ถ้าสวดให้คนอื่นเปลี่ยนเป็น ตะวัง วิชะโย โหหิ) ชะยัสสุชะยะมังคะเล <O:p</O:p
    อะปะราชิตะ ปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเกสัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะ ติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ (อ่านว่า พรัมมะ) จาริสุ ปะทักขิณังกายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต ปะทักขิณา ปะทักขิณา นิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ ฯ <O:p</O:p
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตาสัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม* ฯ <O:p</O:p
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตาสัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม* ฯ <O:p</O:p
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตาสัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เม* ฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระคาถาชินบัญชร
    ก่อนที่เจริญภาวนาให้ตั้งนะโม 3 จบ แล้วระลึกถึงเจ้าประคุณสมเด็จด้วยคำว่า <O:p</O:p
    ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตังสุตตะวา อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ <O:p</O:p
    ชะยาสะนากะตา พุทธา เชตะวา มารัง สะวาหะนัง จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุง นะราสะภา <O:p</O:p
    ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเก เต มุนิสสะรา <O:p</O:p
    สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร <O:p</O:p
    หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะ ทักขิเณ โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก <O:p</O:p
    ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะราหุลา กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก <O:p</O:p
    เกเสะโต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโยวะ ปะภังกะโร นิสินโน สิริสัมปันโน โสภีโต มุนิปุงคะโว <O:p</O:p
    กุมาระกัสสะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิ คุณากะโร <O:p</O:p
    ปุณโณ อังคุลิมาโล จะ อุปาลีนันทะสีวะลี เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเฏ ติละกา มะมะ <O:p</O:p
    เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา <O:p</O:p
    ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะสุตตะกัง ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง <O:p</O:p
    ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะสุตตะกัง อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา <O:p</O:p
    ชินาณาวะระสังยุตตา สัตตัปปาการะลังกะตา วาตะปิตตาทิสัญชาตา พาหิรัชฌัตตุปัททะวา <O:p</O:p
    อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะเตชะสา วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร <O:p</O:p
    ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮีตะเล สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา <O:p</O:p
    อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโค สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ <O:p</O:p
    ชินะปัญชะเรติ ฯ <O:p</O:p
    (ชินะปัญชะระคาถา นิฏฐิตา) <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บทแผ่เมตตาแก่ตนเอง
    อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข <O:p</O:p
    นิททุกโข โหมิ ปราศจากความทุกข์ <O:p</O:p
    อะเวโร โหมิ ปราศจากเวร <O:p</O:p
    อัพยาปัชโฌ โหมิ ปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง<O:p
    อะนีโฆ โหมิ ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ <O:p</O:p
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ มีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
    สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น <O:p</O:p
    อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย <O:p</O:p
    อัพะยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย <O:p</O:p
    อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย <O:p</O:p
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เถิด ฯ
    <O:p</O:p
    บทแผ่ส่วนกุศล
    อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้ามีความสุข <O:p</O:p
    อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข <O:p</O:p
    อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุคุรูปัชฌายาจริยา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้าขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>ของข้าพเจ้า มีความสุข <O:p</O:p
    อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข <O:p</O:p
    อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข<O:p</O:p
    อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข <O:p</O:p
    อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คาถาเงินล้าน
    (ตั้ง นะโม ๓ จบ)
    สัมปะจิตฉามิ(คาถสนองกลับ)
    นาสังสิโม (คาพระพุทธกัสสป)<O:p</O:p
    พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค) <O:p</O:p
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุเม (คาถาเงินแสน) <O:p</O:p
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม (คาถาลาภไม่ขาดสาย) <O:p</O:p
    มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน) <O:p</O:p
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระ โคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมานะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า) <O:p</O:p
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น) <O:p</O:p
    เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ (บูชา 9 จบ)
    ผู้หมั่นภาวนาก่อนที่จะทำบุญให้ทานใด ๆ หรือสวดก่อนที่จะเข้านอนเสมอ ๆ มิได้ขาดท่านว่า จักเป็นบุญบันดาลอันประเสริฐเลิศล้ำด้วยลาภผล เป็นเศรษฐีมิต้องยากจนแล <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คาถาบูชาสมเด็จองค์ปฐม

    นะโม กาเยนะ วาจายะ เจตะสา วา วะชิรัง นามะ ปะฏิมัง อิทธิธรรมะปาฏิหาริยะกะรัง
    สมเด็จพ่อองค์ปฐมต้นพุทธะรูปัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา อะหัง วันทามิ สัพพะโส สะทา โสตถี ภะวันตุ เม

    คาถาแผ่เมตตาขอบารมีสมเด็จองค์ปฐม

    สวดอย่างน้อย 9 จบ อย่างมากตลอดเวลา

    นะโมพระพุทธสิกขีพระพุทธเจ้า ขอได้โปรดดลบันตาลให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก ได้หลุดพ้นจากภัยพิบัติวัฏฏสงสารโดยสิ้นเชิง
    ด้วยพระบารมีมิอาจประมาณ ลูกขอนอบน้อมนมัสการด้วยจิตใจ ขอให้ลูกมีจิตสะอาดสว่างใส หลุดพ้นไซร้สู่บ้านนิพพานเทอญ สัมปะจิตฉามิ

    คุณประโยชน์ของการอุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาจิตให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลกไปกับฉัพพรรณรังสี รัศมี 6 ประการ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์แรกเริ่มมีดังนี้

    1. โปรดช่วยสรรพสัตว์ได้ แดนเปรต อสุรกาย มนุษย์โลก สัตว์ทั้งที่มีชีวิตและเป็นภูมิผีวิญญาณเร่ร่อน แผ่ไปทั่วเทวโลก พรหมโลก ได้รับโมทนาบุญกับเรา การแผ่เมตตา แผ่ส่วนกุศลไปยังสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก รวมถึงเจ้ากรรมนาย<st1:personName ProductID="เวร จงทำทุกวัน" w:st="on">เวร จงทำทุกวัน</st1:personName> จงตัดเวรตัดกรรม ให้อโหสิกรรมต่อกัน ยกเป็นอภัยทาน ถวายพระพุทธเจ้า ถ้าเราโกรธตอบจะเพิ่มภพชาติให้เกิดมาใช้หนี้เวรกรรมกันอีก

    2. สวดด้วยจิตศรัทธาแท้ เทพ พรหมรักใคร่ สรรเสริญ เมตตาติดตามรักษาเราให้อยู่เย็นเป็นสุข

    3. สวดตลอดเวลา คิดปรารถนาสิ่งใดก็สมหวัง

    4. สวดตลอดเวลาจิตเป็นสมาธิ ภาวนาจิตไม่ฟุ้งซ่าน จิตสะอาดปราศจากนิวรณ์

    5. จิตสะอาดสว่างไสว จิตหลุดพ้นจากการหลงยึดติดในขันธ์ 5 จิตเป็นจิตประภัสสร เป็น จิตพระอริยบุคคลได้ง่าย เพราะเป็นจิตที่มีเมตตา เคารพบูชา พระรัตนตรัยมองเห็นภัยในวัฏฏสงสาร เป็นจิตฉลาดไม่มีอวิชชา เป็นจิตที่มีพระนิพพานเป็นกรรมฐานได้ 8 กรรมฐาน คือ

    1) พุทธานุสสติกรรมฐาน
    2) ธรรมนุสสติกรรมฐาน
    3) สังฆานุสสติกรรมฐาน
    4) พรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
    5) อุปสมานุสสติกรรมฐาน นึกถึงความดียิ่งของพระนิพพาน
    6. เป็นการอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ตัดเวรตัดกรรม ยกเป็นอภัยทาน ถวายพระพุทธเจ้า ถ้าเจ้าโกรธก็เป็นการเพิ่มภพเพิ่มชาติ
    7. การอุทิศแผ่กุศลไปยังสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก จงทำทุก ๆ วันละอย่างน้อยสวด 9 จบ ช่วยทั้งคนทั้งผี ทั้งสัตว์โลก สัตว์นรก ช่วยเทพเทวดา มีโอกาสโมทนากับพวกเราด้วย

    8. พระคาถาสวดพระนามพระพุทธเจ้านี้ พระท่านให้ไว้แก่มวลมนุษย์มาจากเบื้องบนพระนิพพาน ให้สวดทุกวัน เพื่อช่วยมวลเวไนยสัตว์ และตนเองก็หลุดพ้นจากนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ไม่ต้องได้เกิดในแหล่งอบายภูมิ 4 อย่างนี้ เป็นการเสริมบารมีให้แก่ตนและผู้อื่น

    9. การแผ่พลังจิตให้เป็นพลังไปรอบทิศจักรวาลทั้ง 3 โลกนั้น ทำจิตให้ว่างจากขันธ์ 5 ว่างจากกิเลสตัณหา ทำบุญกุศลทุกอย่าง ขอถวายทางจิตให้องค์สมเด็จพระบรมครูพระพุทธเจ้าโปรดโมทนาบุญกุศลทุก ๆพระองค์ เพื่อประโยชน์สูงสุดแด่มวลสรรพสัตว์ทุกจิตดวงธรรมญาณได้รับผลบุญที่ลูกแผ่ไปให้ทุกดวงจิตธรรมญาณเทอญ การขอแรงพลังจิตขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นการขอแรงคลื่นวิทยุของท่านผู้เป็นใหญ่บุญบารมีใหญ่ ช่วยอีกแรงหนึ่งเพื่อให้สรรพสัตว์ 3 โลก ได้ยินคลื่นวิทยุได้ดียิ่งขึ้น จิตของสัตว์อบายภูมิน้อยนักที่จะได้รับได้ยินเหมือนคนตาบอด แต่ถ้าเขาโมทนายินดีรับกับการอุทิศบุญกุศลแผ่เมตตาไปให้กับเขา ก็ทำให้เขาเป็นสุข พ้นทุกข์จากอบายภูมิได้ทุกคน เราต้องทำจิตให้สะอาดทำจิตว่างจากขันธ์ 5 ปล่อยพลังจิตไปทั่วรอบทิศจักรวาล

    10. สวดพระคาถาพระนามองค์สมเด็จพระปฐมบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ฝากบุญกุศลไว้กับท่านท้าวยมราชได้แน่นอน โปรดสัตว์ได้ทั่วทั้ง 3 ไตรภพ แล้วแต่จะกำหนดจิตโปรดได้หมดทุกประเภท ทั้งชาติกำเนิด 4 คือ(เกิดในไข่ เกิดในคูต เกิดเป็นตัว เกิดขึ้นเอง เช่น ผี เทพ พรหม ) ภูมิวิถี 6 คือ

    1) สัตว์นรก
    2) เปรต
    3) อสุรกาย
    4) สัตว์เดรัจฉาน
    5) คน
    6) เทวดา พรหม

    โปรดสัตว์ได้ตามวาระจิตของวิญญาณใด ถึงพร้อมย่อมสามารถเข้าถึงสุขติภูมิ คือ สวรรค์ และคนชั้นสูงมีความสุขตามฐานะ กฎของกรรมต่าง ๆ ที่คอยกีดกั้นขวางงาน เป็นเมตตาบารมี กฎของกรรมก็ตามไม่ทัน เพราะบุญใหญ่ เวลาการบำเพ็ญบารมีของแต่ละท่านก็แตกต่างกันคือ พระสาวกภูมิ ต้องบำเพ็ญบารมีนาน 1 อสงไขยกับแสนกัป พระอัครสาวก ต้องบำเพ็ญบารมีนาน 2 อสงไขยกับแสนกัป พระปัจเจกพุทธเจ้า ต้องบำเพ็ญบารมีนาน 2 อสงไขยกับแสนกัป พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมีนาน 4 อสงไขยกับแสนกัป พระพุทธเจ้าศรัทธาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมีนาน 8 อสงไขยกับแสนกัป พระพุทธเจ้าวิริยะธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมีนาน 16 อสงไขยกับแสนกัป
    (คาถาแผ่เมตตาขอบารมีสมเด็จองค์ปฐมและอานิสงค์การสวดคาถาแผ่เมตตานี้ได้มาจากท่านพระยายมราช)<O:p</O:p
    <O:p</O:p




    <TABLE style="MARGIN: auto auto auto 0.75pt; WIDTH: 170.65pt; BORDER-COLLAPSE: collapse; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" class=MsoNormalTable border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=228><TBODY><TR style="HEIGHT: 174.25pt; mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #fefefe; BORDER-LEFT: #fefefe; PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 174.25pt; BORDER-TOP: #fefefe; BORDER-RIGHT: #fefefe; PADDING-TOP: 0cm">คาถาบูชาพระอนุรุททะ

    (อ้อยได้มาจากพี่me,myselfค่ะ)


    มัยหัง ปุตโตปุญญะวากะตา

    ภินิหาโร ภะวิสสะติ

    เทวะตะหิ ปาติง ปูเรตะวา
    ปูวาปะหิตาภะวิสสะตีติ<O:p</O:p












    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    <O:p</O:p
    ผู้ใดเล่าบ่นจำเริญไว้เป็นประจำ หมั่นทำบุญใส่บาตร สวดพระคาถาอธิฐานปรารถนาสิ่งใดซึ่งคนพึงประสงค์สิ่งนั้นๆ พลันอุบัติให้ได้ด้วยอำนาจเทพยดาบัลดาลให้เป็นไปภาวนาพระคาถาบทนี้แล้วไซ้ร์ จะคิดทำสิ่งใดอย่างพูดคำว่า "ไม่มี-ไม่ได้"เพราะอำนาจของพระคาถานี้จะดลบันดาลให้สำเร็จดุจดังกับอนุรุทธกุมารซึ่งท่านไม่เคยรู้จักคำว่า "ไม่มี" เลยตลอดชนมายุของท่านแลฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พออ้อยสวดมนต์เสร็จ ก็จะนั่งสมาธิ<O:p</O:p
    น้อมจิตรำลึกถึงพระพุทธเจ้า<O:p</O:p
    กล่าวคำสมาทานพระกรรมฐาน<O:p</O:p
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า 3 จบ)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจัจจชามิ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้า ขอมอบกาย ถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<O:p</O:p
    ข้าพเจ้า ขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เป็นที่สุด หลวงพ่อสุชิน ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐานทั้ง40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 ขอพระกรรมฐานทั้ง40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิดปรากฏ ในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด<O:p</O:p
    ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะแห่งเมฆจิต สามารถกำหนดจิตรู้ภาวการณ์ต่างๆ ทั้ง เหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบันได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้น ได้ชัดเจนแจ่มใส และพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกประการ เหตุใดที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้น ได้โดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    จากนั้นนั่งขัดสมาธิ หายใจลึกๆ สูดลมหายใจเข้า-ออกลึกๆให้สุดๆสัก 4-5 ครั้งเพื่อให้อินทรีย์หยาบปรับสภาพจากนั้นเริ่มภาวนา พุทโธ หายใจเข้าภาวนา พุธ หายใจออกภาวนา โธ (หรือบางคนอาจจะภาวนายุบหนอ พองหนอก็ได้นะคะ และบางคนอาจจะภาวนา นะมะ พะธะ ก็ได้เช่นกันค่ะ หรือจะลองสลับกันก็ได้ แล้วสังเกตว่าจิตเราไปตามคำภาวนาไหนก็ให้จับคำภาวนานั้นๆ) อ้อยจะใช้การภาวนาแบบพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ สีลานุสสติ จาคานุสสติ เทวตานุสสติ มรณานุสสติ กายคตานุสสติและอาณาปานุสสติ หรือจะเลือกใช้กองใดกองหนึ่งก็ได้ตามความเหมาะสมค่ะ(จากอนุสสติทั้งหมด 10 กองค่ะ) สำหรับตัวอ้อยเองบางวันก็ขอใช้ทั้งหมด แต่บางวันก็ไม่ครบค่ะ แต่สำหรับพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติและอานาปานุสสตินี่ พยายามให้มีทุกขณะจิตค่ะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พอจิตนิ่งสงบดีแล้ว ให้เจริญวิปัสสนา ตัดขันธุ์5<O:p</O:p
    1. รูปขันธ์ คือสิ่งที่เรามองเห็น ได้แก่เนื้อ แก่หนัง<O:p</O:p
    2. เวทนาขันธ์ ความเสวยอารมณ์ที่มีความรู้สึกเป็นสุขบ้าง เป็นทุกข์บ้าง ไม่สุข ไม่ทุกข์บ้าง<O:p</O:p
    3. สัญญาขันธ์ ความจำ จำดีบ้าง จำชั่วบ้าง<O:p</O:p
    4. สังขารขันธ์ อารมณ์ที่ปรุงแต่งใจด้านความดี ความชั่ว และอารมณ์ที่ทรงเฉยๆ<O:p</O:p
    5. วิญญาณขันธ์ ความรู้สึกหนาว รู้สึกร้อน รู้สึกหิว รู้สึกกระหาย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    จากนั้น ตัดสังโยชน์ 10 ค่อยๆตัดไป โดยการทำความเข้าใจไปด้วยน่ะค่ะอ้อยเองก็ได้ไม่ครบหรอกค่ะ กำลังพยายามตัดไปเรื่อยๆค่ะ <O:p</O:p
    1. สักกายทิฏฐิ ความรู้สึกว่าร่างกายไม่ตาย เป็นเรา เป็นของเรา (หากพิจารณาอสุภกรรมฐานไปด้วยจะดีมากค่ะ) ตะก่อนอ้อยพิจารณาว่าไม่ยึดติดในกาย คืออาศัยท่องจำแต่ไม่ลึกซึ้งเท่าไหร่ แต่พอถูกทดสอบเลยทำให้ทราบว่าลึกๆแล้วจิตเรายังไม่ละเอียดพอ เลยต้องพิจารณาอสุภควบคู่ไปด้วย จะทำให้เราปลงได้สนิทใจค่ะ<O:p</O:p
    2. วิจิกิจฉา สงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้า (ต้องหมั่นศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกขณะที่ทำได้ แล้วพิจารณาถึงความแยบยลในเมตตาธรรมของพระองค์ จะทำให้จิตเรานอบน้อมต่อพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ค่ะ)<O:p</O:p
    3. สีลัพพตปรามาส ไม่รักษาศีล (อันนี้ควบคู่ไปกับกรรมบถ10ด้วยค่ะ หากทำได้ทั้งกาย วจี และมโน จะทำให้จิตละเอียดเพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากมีเหตุให้ผิดศีล ให้ขอขมาพระรัตนตรัยและรีบสมาทานศีลทันทีค่ะ แต่ถ้าเป็นไปได้ ให้ระวังกาย วาจา ใจทุกขณะจิตจะทำให้เกิดการสำรวมเพื่อจะได้ไม่ผิดศีลค่ะ)<O:p</O:p
    4. กามฉันทะ พอใจในกามคุณ บางครั้งเราคิดว่าเราตัดได้ กายเราไม่ยุ่งเกี่ยวก็จริง แต่จิตมันอาจจะซุกซนอยู่ ก็ให้พิจารณาอสุภกรรมฐานด้วยจะทำให้เห็นความจริงชัดขึ้นค่ะ อสุภคือไม่สวย ไม่งาม ในเมื่อมันไม่สวย ไม่งาม ไม่น่าดู แล้วเราจะไปยึดติดมัน มันจะก่อให้เกิดประโยชน์ไหม(อันนี้เอาไว้ถามตัวเองค่ะ) <O:p</O:p
    5. ปฏิคะ มีอารมณ์กระทบใจ จิตมีความโกรธ ความโกรธก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่ง หากมันมาเยือน ก็เหมือนเราจุดไฟในตัวเราดีๆนี่เอง ดับได้ให้รีบดับ ทางที่ดี ยึดเอาบารมีทานเป็นเกราะป้องกันความโกรธ การให้อภัยเป็นทานอย่างหนึ่งค่ะ ^_^ และให้ยึดพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทุตา อุเบกขา แต่ถ้าหากว่าเผลอไป จิตมีความโกรธก็ให้รีบดับความโกรธโดยไว แรกๆอ้อยจะใช้การภาวนาเข้าช่วยค่ะ และใช้การเพ่งกสิณพระพุทธเจ้าค่ะ <O:p</O:p
    6. รูปราคะ หลงในรูปญาณ(ข้อนี้อ้อยไม่สามารถตอบได้ค่ะต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งเลยนะคะเพราะไม่รู้จริงๆค่ะ ปัญญายังน้อยนิดอยู่เลยค่ะ)<O:p</O:p
    7. อรูปญาน หลงในอรูปญาณ(ข้อนี้อ้อยไม่สามารถตอบได้ค่ะต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งเลยนะคะเพราะไม่รู้จริงๆค่ะ ปัญญายังน้อยนิดอยู่เลยค่ะ)<O:p</O:p
    8. มานะ การถือตัวถือตน อ้อยเองก็ยังพยายามตัดอยู่ค่ะ ยังไม่ดีนัก แต่พยายามเอาความอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าเตือนจิตอยู่เสมอๆ บางทีใจฟูๆก็ต้องรีบเตือนตัวเองดึงๆมันไว้ โดยใช้หิริโอตัปปะเข้าช่วย ถึงใครไม่รู้ไม่เห็น แต่เราละอายแก่ใจของเราเอง <O:p</O:p
    9. อุทธัจจะ มีอารมณ์ฟุ้งซ่าน ข้อนี้อ้อยก็พยายามตัดอยู่ค่ะ ยังไม่ดีเช่นกันค่ะ ดังนั้นจึงต้องเอาจิตเกาะติดพระพุทธเจ้าไว้ทุกขณะจิต จะได้ไม่ฟุ้งซ่านค่ะ<O:p</O:p
    10. อวิชชา ไม่รู้ตามความเป็นจริงเรื่องนิพพาน ข้อนี้จิตใจต้องเข้มแข็งว่าชาตินี้เราขอเข้านิพพานให้ได้ กำลังใจต้องเข้มแข็ง ขออย่าได้ท้อนะคะ อาจมีบททดสอบก็ต้องใช้สติสัมปชัญญะพิจารณา
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    รู้สึกว่าชักจะยาวเกินไป อ้อยขอตัดเป็นหัวข้อหลักๆนะคะ เกรงจะเปลืองเนื้อที่น่ะค่ะ ^_^<O:p</O:p
    การพิจารณาของอ้อยเองคือจะพิจารณาถึง<O:p</O:p
    นิวรณ์ <O:p</O:p
    บารมี 10<O:p</O:p
    ทุกข์ สำหรับตัวนี้ เราใช้ได้ในชีวิตประจำวัน สำหรับอ้อยเอง มองอะไรให้มันเป็นทุกข์เข้าไว้ หิวก็ทุกข์ อิ่มก็ทุกข์ หนาวก็ทุกข์ ร้อนก็ทุกข์ อะไรๆก็ทุกข์ แล้วเราจะเกิดมาทำไมเนี่ย? คิดแบบนี้ไว้ แต่จิตห้ามตกนะคะ ให้รู้ว่ามันเป็นทุกข์น่อ ในเมื่อเรารู้เหตุแห่งทุกข์แล้วก็พยายามดับทุกข์และตัดหนทางสู่ทุกข์ เหมือนที่พวกเรากำลังเร่งทำกันอยู่ก็คือ เข้านิพพานค่ะจะได้ไม่ต้องเกิดอีก เพราะถ้าหากมาเกิดอีกก็ต้องทุกข์อีก แต่ถ้ารู้แล้วไม่ปฏิบัติ มันก็ทุกข์อยู่น่อ<O:p</O:p
    ศีล(5ข้ออย่างต่ำ) และ กรรมบถ10(กาย3 วจี4 มโน 3)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หมายเหตุนะคะ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ไม่ใช่ว่าอ้อยจะทำได้ครบหมดนะคะ แต่ที่อ้อยเอามาโพสไว้ก็คือ อ้อยยึดปฏิบัติตามแนวทางนี้ อ้อยเองยังทำได้ไม่ดีเลยค่ะ ยังเขลามากมาย พระศาสดาเลยเมตตาอ้อยเป็นกรณีพิเศษเพราะความเขลาของอ้อยนี่แหล่ะค่ะ อ้อยนึกถึงนักเรียน หากเราไม่รู้แล้วอยู่หลังห้อง คอยหลบครู เราก็จะไม่มีความรู้การเรียนก็ไม่ก้าวหน้า แต่ถ้าเราสนใจ มุ่งมั่น ถึงจะโดนดุไปบ้างเพราะครูรักและหวังดี อ้อยว่าได้กำไรนะคะ ดังนั้นคอยเกาะครูไว้ พระศาสดาเป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งครู อะไรที่ไม่เข้าใจก็ให้รีบถาม แล้วเอามาปฏิบัติอย่างมุ่งมั่นด้วยความนอบน้อม และด้วยความสำนึกในความเมตตา กรุณา ของพระศาสดาน้อมกราบนมัสการพระศาสดาด้วยดวงจิตนอบน้อมเจ้าค่ะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ตะก่อนตอนที่อ้อยยังไม่ได้มโนมยิทธิพอจิตเข้าเป็นสมาธิแล้ว อ้อยจะเจริญวิปัสสนาญาณตามที่กล่าวมาข้างต้น แต่ตอนนี้พอเข้าสมาธิปุ๊บ พระศาสดาท่านคอยอยู่ก็เลยรีบขึ้นไปกราบนมัสการ แต่การเจริญภาวนาและเจริญวิปัสสนาญาณนั้น อ้อยจะทำทุกเวลาที่มีเวลาว่างค่ะ อ้อยเป็นแม่ค้าก็เลยโชคดีหน่อยค่ะ ยิ่งมาอยู่ในหุบเขาแบบนี้อ้อยถือว่าเป็นโชคดีของอ้อยมากๆเลยที่ทำให้ได้มีเวลาปฏิบัติน่ะค่ะ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ก่อนจะออกจากสมาธิก็ค่อยๆกำหนดออก ค่อยๆคลายสมาธิค่ะ จากนั้นก็จะอุทิศบุญกุศล โดยการตั้งจิตอธิษฐาน นึกถึงพระรัตนตรัย บุญคุณของพ่อ-แม่ บุญคุณของครูบาอาจารย์<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ขอบารมีและอำนาจคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ บิดามารดาครูบาอาจารย์ โปรดช่วยดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าที่ทำมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้แก่(อ้อยจะกล่าวเฉพาะของอ้อยนะคะ)สมเด็จองค์ปฐม พระศาสดาพระอริยสงฆ์สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์ทั้งทางโลกและทางธรรมหลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อโต หลวงปู่แหวน พระอาจารย์สุชิน พี่me,myself น้องฝน กัลยาณมิตรทางธรรมทุกท่าน พระอินทร์ พระพรหม พระยายมราช ท้าวจตุโลกบาลทั้ง4 พระโพธิสัตว์กวนอิม พระแม่คงคา พระแม่ธรณี พระแม่โพสพ ครุฑ นาค ปรไมยไอศวร แม่ย่านางรถที่อ้อยขับอยู่ เผ่าพงศ์มังกร พระภูมิ เจ้าที่ เทวดาที่คุ้มครองดูแลรักษาตัวเอง พ่อ แม่ ญาติสนิทมิตรสหาย เทวดาที่คุ้มครองแม่และน้อง น้องเล็ก น้องฟูๆ น้องปุ้มปุ้ย(น้องฝากบอกว่าคิดถึงแม่มากมายแต่พี่ไม่อนุญาตให้น้องไปเดี๋ยวไปรบกวนการถือศีลค่ะ) สัตว์เลี้ยงที่เราเลี้ยงดูอยู่ เจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติ วิญญาณและสัมภเวสีที่ได้ยินและมาขอรับส่วนบุญ เทวดาที่ดูแลวัดวาอาราม เปรตที่อยู่ในวัด <O:p</O:p
    และสุดท้ายตั้งจิตให้มั่นที่สุดและอธิษฐาน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐาน ให้ทะลุจักรวาลทั้ง3โลก ชาตินี้จะขอเข้าพระนิพพานด้วยดวงจิตที่มุ่งมั่น สาธุ สาธุ สาธุ <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p
    เมื่อคืนอ้อยมาพิมพ์แล้วหนึ่งรอบค่ะ แต่ว่าพอโพสแล้วข้อความหายเกลี้ยง ไม่ได้เซฟไว้ด้วย เลยนั่งพิมพ์ใหม่ ใช้เวลาเกือบ3ชั่วโมง แต่ตั้งใจไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่า ยังไงอ้อยก็จะต้องมาโพสให้ได้ ที่โพสไม่ได้อาจจะเป็นเพราะอ้อยยังไม่ละเอียดบางจุดต้องเติมให้เต็ม วันนี้ก็เลยตั้งใจพิมพ์ โดยส่วนตัวแล้วอ้อยรู้ตัวว่า อ้อยนั้นไม่เก่งอะไรเลยค่ะ ยังเหมือนเด็กๆอยู่ ยังไม่ไปถึงไหนเหมือนกันค่ะ แต่จะไม่ละความพยายาม เพราะไม่อยากทำให้พระศาสดาผิดหวัง และที่สุดแล้วก็เพื่อตัวเราเอง หากเราไม่ช่วยตัวเรา เราจะไปถึงฝั่งได้อย่างไรกัน ใช่ไหมคะ ^_^ ทำใจให้สบายๆ ค่อยๆฝึกไป เหนื่อยนักก็พักก่อน หายเหนื่อยแล้วก็ไปต่อ จะไม่มีคำว่าท้อสำหรับเรา หากว่าหนทางเส้นนี้มุ่งตรงสู่นิพพาน ^_^ อ้อยเองปัญญายังน้อยนิดหากมีข้อผิดพลาดประการใดเกิดขึ้นก็ต้องกราบขอขมาและขออโหสิกรรมไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ท่านกัลยาณมิตรหลายท่านถามอ้อยมาว่ามีหลักปฏิบัติอย่างไร อ้อยก็ตอบไม่ถูก ครั้นจะอธิบายสั้นๆอ้อยยิ่งไม่ได้ใหญ่เลยค่ะ เพราะปัญญาอ้อยน้อยจริงๆค่ะเหมือนปลาทอง ก็เลยยกมาทั้งหมดที่อ้อยทำอยู่ หากพอจะมีประโยชน์เกิดแก่เพื่อนกัลยาณมิตรบ้าง อ้อยก็ขออนุโมทนาด้วยนะคะ

    เพิ่มเติมการถวายข้าวพระพุทธอีกนิดนะคะ
    ก่อนจะกินข้าว อ้อยจะถวายข้าวพระพุทธก่อน
    สำหรับตัวอ้อยเอง จะทำให้ตัวกิเลส คือความอยากลดลง
    จากที่ตะก่อน บางครั้งอ้อยอยู่เพื่อกินจริงๆ
    แต่พอได้ถวายข้าวพระพุทธบ่อยๆ ทำให้เราพิจารณาว่า คนเรา ก็กินแค่อิ่มเท่านั้นเอง เพื่อความคงอยู่ของอัตภาพกายนี้


    คำถวายข้าวพระพุทธ

    (ถ้าเป็นอาหารที่เรากิน ให้เทน้ำและอาหารวางชิดกันแล้วน้อมจิตกล่าวนมัสการพระรัตนตรัย
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ(ว่า 3 จบ)แล้วกล่าวคำว่า
    อิมัง สูปะพยัญชนะ สัมปันนัง
    โภชะนัง สาลีนัง อุททกังวรัง
    สัมมา สัมพุทธัสสะ ปูเชมิ
    จากนั้น นิ่งภาวนาพุทโธ ประมาณ 9 รอบ
    แล้วขออนุญาตนำอาหารและน้ำอันบริสุทธิ์นี้มารับประทาน โดยกล่าวคำว่า

    เสสัง มังคะลัง ยาจามิ
    โภชนาอาหารและน้ำนี้ ข้าพเจ้าขอถวายเป็นพุทธบูชา ข้าพเจ้าได้ ถวายแล้ว ขออนุญาต รับประทานเพื่อเป็นมงคล

    คำกล่าวพิจารณาอาหาร ( ทำได้ทุกมื้อ)
    อาหารนี้ ข้าพเจ้าจะรับประทานเพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ให้มีชีวิตอยู่เพื่อกระทำความดี เพื่อปฏิบัติธรรมะ จะไม่รับประทานเพื่อบำรุงกิเลสตัณหา อุปาทาน ขอให้ผู้บริจาคทุกท่าน ผู้บริการทุกท่านและผู้รับประทานทุกท่าน จงมีอายุ วัณณะ สุขุ พละ ปราศจากโรคภัยอันตรายทั้งปวง เทอญ
    </O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...