จะไปดูนรกสวรรค์พรหมนิพพาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 9 มิถุนายน 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>[​IMG]

    จะไปดูนรก สวรรค์ พรหม นินพาน ได้อย่างไร

    เมื่อหลวงพ่อได้ยินยันให้ข้าพเจ้าทราบแน่ชัดแล้วว่า นรก สวรรค์ พรหม และนิพพาน มีจริงตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้

    ก็ทำให้ข้าพเจ้าอยากที่จะได้ไปรู้ไปเห็นกับเขาบ้าง จะได้ไม่เป็นมนุษย์หลงโลก หรือปลาหลงหนองน้ำเน่าอย่างที่หลวงพ่อว่าอีกต่อไป ดังนั้นข้าพเจ้าจึงรีบถามหลวงพ่อในทันใดว่า


    “ถ้านรก สวรรค์ พรหม และนิพพานมีจริง แล้วผมจะไปดูกับเขาบ้างได้ไหมครับหลวงพ่อ?”

    หลวงพ่อหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ถามข้าพเจ้าว่า “เออ!..นี่คุณอ่านหนังสือออก เขียนหนังสือได้มาจนถึงทุกวันนี้ เป็นเพราะคุณเชื่อตามที่ครูเขาสอนมาใช่หรือไม่?”


    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>


    ข้าพเจ้านิ่งคิดเพราะไม่ทราบว่าหลวงพ่อจะมารูปใดแน่ แต่ก็ตอบว่า

    “ครับ ต้องเชื่อครู”

    “ถ้าครูเขาสอนว่า ก.ไก่ต้องเขียนอย่างนี้ ข.ไข่ต้องเขียนอย่างนี้ แต่คุณไม่สนใจ กลับหนีไปเล่นหยอดหลุม ทอยกองเสีย คุณจะรู้ไหมว่าก.ไก่เขียนอย่างไร ข.ไข่เขียนอย่างไร?” หลวงพ่อถามเรื่อยๆ
    “คงไม่ทราบครับ” ข้าพเจ้าตอบอย่างระแวง
    “ถ้าครูเขาสอน กอ-อะ-กะ, กอ-อา-กา แล้วคุณไม่ฟังไปเล่นหยอดหลุม ทอยกองอีก คุณจะอ่านออกเสียงกับเขาได้ไหม?” หลวงพ่อถามต่อ “คงไม่ได้ครับ” ข้าพเจ้าตอบตามความเป็นจริง
    “คราวนี้ถ้าครูเขาสอนให้อ่าน ตาดี ตีงู..แล้วคุณก็ยังหนีไปเล่นหยอดหลุมทอยกองอีก คุณคิดว่าคุณจะผสมคำอ่านไปกับเขาได้ไหม?” หลวงพ่อถามยิ้มๆ
    “คงไม่ได้ครับ” ข้าพเจ้าตอบ
    “รวมความว่าที่คุณอ่านหนังสือออก เขียนหนังสือได้ เพราะคุณเชื่อตามที่ครูสอนแน่นะ” หลวงพ่อถามย้ำ
    “ครับ ต้องเชื่อครู”
    “นั่นแหละ เหมือนกัน ถ้าคุณอยากจะไปดูว่านรก สวรรค์ พรหม และนิพพานมีจริงหรือไม่ คุณก็ต้องเชื่อและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซิ

    คราวนี้คุณลองถามตัวเองดูซิว่าคุณเคยให้ทานไหม เคยรักษาศีลไหม เคยเจริญสมถกรรมฐานไหม เคยเจริญวิปัสสนากรรมฐานไหม เคยบูชาพระหรือไหว้พระสวดมนต์เป็นประจำไหม เคยรู้จักระงับนิวรณ์ ๕บ้างไหม เคยทรงพรหม ๔ บ้างไหม เป็นต้น ถ้าคุณไม่ตอบ ฉันก็เต็มให้ในหลักใหญ่ๆ ว่าทานนั้นคุณอาจทำบ้างเต็มใจบ้างไม่เต็มใจบ้าง ศีลของคุณอาแค่ศีล๕ ก็รู้สึกว่าจะกระทำพร่องกระแพร่งเต็มที โดยเฉพาะศีลข้อ ๕ ของคุณนั้นขาดกระจุย ยิ่งการเจริญภาวนาด้วยแล้ว คุณไม่มีเลยนะ นี่แนพูดชี้ให้คุณเห็นเฉพาะแค่ ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งเป็นบันได ๓ ขั้นเท่านั้นนะ เมื่อเป็นเช่นนี้คุณก็คงจะตอบตัวเองได้ใช่ไหมว่า คุณนั้นหาได้เชื่อฟังและปฏิบัติจามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาอย่างจริงจังไม่?

    ดังนั้นการที่คนอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ เพราะไม่เชื่อครูฉันใด คุณก็ย่อมไม่มีวันที่จะได้ไปเห็นนรกสวรรค์ พรหม และนิพพาน เพราะคุณไม่เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าฉันนั้น

    ข้าพเจ้านั่งตาปริบๆ ฟังหลวงพ่ออย่างตั้งอกตั้งใจ แม้ใจซึ่งเต็มไปด้วยมิจฉาทิฐิอยากที่จะโต้แย้งบ้าง แต่ก็อับจนปัญญาที่ไม่รู้จะโต้ไปแบบใด เพราะหลวงพ่อพูดความจริงทุกอย่าง จึงได้ส่งเสียงอึกอักอยู่ในลำคอ
    หลวงพ่อเห็นข้าพเจ้านั่งฟังด้วยอาการสงบ ก็พูดต่อว่า

    “การที่พระพุทธเจ้าสอนให้รู้จักการให้ทานนั้น ก็เพราะเป็นพื้นฐานของบุญขั้นแรก หากคุณปฏิบัติตามได้จะมีผลอย่างมหาศาล คุณลองพิจารณาดูจะเห็นได้ว่า
    ทุกครั้งที่คุณควักเงินออกบริจาคเป็นทาน จิตของคุณในขณะที่ให้ทานย่อมไม่มีความโลภใช่ไหม เพราะถ้ามีความโลภคุณก็บริจาคทานไม่ได้ เงิน ๑๐บาท ๒๐บาทก็มีความหมายใช่ไหม เพราะถ้าคุณมีความโกรธอยู่ ใครมาขอเงินแค่ ๑ บาท คุณก็ไล่ตะเพิดไปแน่ๆใช่ไหม และเมื่อจิตไม่มีโลภ ไม่มีโกรธ ก็ย่อมไม่มีความหลงใช่หรือไม่ และผลที่ตามมาจากการให้ทานบ่อยๆนี้เองจะทำให้คุณเกิดพรหมวิหาร ๔ ใน ๒ ข้อแรกคือ เมตตา( ความรัก) กรุณา(ความสงสาร) ขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    และเมื่อความเมตตา กรุณาเกิดขึ้นในจิตใจ ก็จะทำให้คุณยิงนก ตกปลา ฆ่าชีวิตคนและสัตว์ไม่ได้ จะลักขโมยของผู้ใดก็เกิดความสงสารเห็นใจ จะเป็นชู้กับลูกเมียใครก็ทำไม่ได้ จะโกหกมุสาใครแม้นัดเขาไว้ไม่ไปตามนัดก็สงสารเขา จะเสพสุรายาเมาก็สงสารลูกเมีย ในที่สุดคุณก็จะรักษาศีล ๕ ได้โดยไม่ยากเย็น เป็นการก้าวเข้าสู่บันไดขั้นที่ ๒ ของบุญได้ใช่ไหม และเมื่อใดศีล ๕ ของคุณบริสุทธิ์ การเจริญภาวนาซึ่งเป็นบันไดขั้นที่๓ ก็ย่อมไม่มีอุปสรรคมากนัก

    ข้าพเจ้าฟังหลวงพ่ออธิบายอย่างเพลิดเพลิน และคิดตามไปด้วยเหตุและผลโดยตลอด แม้จะยืดยาวเพียงไรข้าพเจ้าก็จดจำได้อย่างแม่นยำและจำได้ตลอดกาลด้วย (สำหรับการจำแม่นนี้อาจเป็นเพราะข้าพเจ้าเคยสร้างสมมาแต่ปางก่อนก็ได้ เพราะตั้งแต่เด็กข้าพเจ้าสอบได้ที่ ๑ มาโดยตลอด ก็เพราะสามารถอ่านหนังสือครั้งเดียวจำได้ โดยไม่ต้องนั่งท่องจำเหมือนคนอื่นให้เสียเวลาเลย)
    หลวงพ่อก็คงรู้ว่าข้าพเจ้าเข้าใจที่ท่านพูด และยังมีความสนใจที่จะฟังต่ออย่างไม่รู้เบื่อ จึงอธิบายต่อว่า

    “การที่จะนั่งพิสูจน์ค้นคว้าเกี่ยวกับ นรก สวรรค์ พรหมและนิพพาน หรือหลักสูตรพระพุทธศาสนาในเรื่องต่างๆนั้นจะมาค้นหากันในด้านวัตถุของโลกวิทยาศาสตร์นั้น ย่อมไม่มีทางสำเร็จได้
    เพราะเป็นการค้นหาและพิสูจน์ที่ไม่ตรงจุด ถ้าจะให้ตรงจุดก็จะต้องใช้อารมณ์ค้นคว้า เพราะพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนในด้านอารมณ์

    ดังนั้นคุณก็จะต้องหัดทรงอารมณ์ต้นๆ ๓ ประการให้ได้เสียก่อน ๑. เลิกสนใจความดีความชั่วของผู้อื่น สนใจแต่อารมณ์ของตนเองให้ทรงอยู่ในความดีโดยเฉพาะ ๒.ทรงศีล ๕ บริสุทธิ์ตลอดกาล ไม่แนะนำให้คนอื่นทำลายศีล และไม่ยินดีเมื่อคนอื่นทำลายศีล ๓. ระงับนิวรณ์ ๕ ให้ได้และเมื่อทรงอารมณ์ดี ๓ประการได้แล้ว ก็พยายามทรงพรหมวิหาร ๔ (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) ให้ครบถ้วนตลอดเวลาที่มีลมปราณอยู่ และให้ทรงได้เป็นปกติด้วย

    ต่อจากนั้นไปคุณก็ฝึกจับนิมิตด้วยกสิณอย่างใดอย่างหนึ่งในกสิณ ๓ อย่างนี้ คือ ๑.เตโชกสิณ(เพ่งไฟ) ๒.โอทาตกสิณ(เพ่งสีขาว) ๓.อาโลกกสิณ (เพ่งแสงสว่าง) การเพ่งนั้นเมื่อคุณทรงอารมณ์ขั้นต้นจนเป็นปกติ ผลของการเพ่งไม่มีอะไรยาก ใช้เวลาไม่เกิน ๗วันก็จะทรงนิมิตเป็นฌานได้อย่างสบาย และใช้นิมิตนั้นเป็นสื่อนรก สวรรค์และพรหมโลกได้ และเมื่อใดคุณทรงวิปัสสนาญาณได้ อารมณ์ถึงโคตรภูญานเป็นอย่างน้อย คุณก็จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าพระนิพพานนั้นมีจริงอีกด้วย และจะให้ดีอีกสักนิด เห็นชัดอีกสักหน่อย คุณก็พยายามละโลกธรรม ๘ ประการเสียเลย เรื่องได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ สุข ทุกข์ สรรเสริญ นินทา จงปล่อยไป ไม่สนใจมาเป็นอารมณ์ หากทำได้เช่นนี้แล้วคุณก็จะสามารถพิสูจน์ความจริงได้ว่า นรก สวรรค์ พรหมและพระนิพพานนั้นมีจริง

    อ้าว
    !..นั่นคุณนั่งหลับไปแล้วรึ”

    “เปล่าครับหลวงพ่อ ผมเข้าสมาธิฟังครับ ผมถนัดในการนั่งหลับตาฟังเพราะจำได้แม่นยำดี อ้อ!..หลวงพ่อครับ โคตรภูญาณ คืออะไรครับ?” ข้าพเจ้ารีบตอบแล้วถามต่อ
    “เมื่อคุณเจริญสมถกรรมฐานด้วยการเพ่งกสิณจนได้ทิพยจักษุญาณแล้ว คุณก็จะต้องเจริญวิปัสสนากรรมฐานให้เข้าถึงโคตรภูญาณ ยังไงล่ะ โคตรภูญาณนั้นจะอยู่ระหว่างโลกียะกับโลกุตรชน คือส่วนหนึ่งของใจยังเป็นโลกียชน แต่อีกส่วนของใจเป็นโลกุตรชน คือใกล้จะเป็นพระโสดาบันนั่นแหละ”

    หลวงพ่อตอบ “เป็นยังไงยังงงๆใช่ไหม ไม่เป็นไร ต่อไปฉันจะเขียนคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานให้ อ่านดูแล้วปฏิบัติตามไป สักวันหนึ่งไม่นานเกินรอคุณก็จะเข้าใจที่ฉันพูดมานี้ทุกอย่างได้”

    “หลวงพ่อครับแล้ว มโนมยิทธิ ล่ะครับ ไปดูนรก สวรรค์ พรหมและนิพพานได้ไหม?”ข้าพเจ้ารีบถามเพราะเคยได้ยินบางท่านพูดถึง
    “คุณจะต้องเข้าใจก่อนว่ามโนยิทธินั้นหมายถึงอะไร มโนมยิทธิแปลว่ามีฤทธิ์ทางใจ ถ้ามโนมยิทธิแบบเต็มกำลังแล้ว ท่านหมายถึงการถอดจิตออกจากร่างแล้วท่องเที่ยวไปในภพต่างๆ และผู้ที่สามารถทำได้ จะต้องทรงวิชชาสาม หรือ ทรงอภิญญา ๖

    คุณไม่เข้าใจอีกละซิ เห็นทำหน้างงๆ ไม่เป็นไรถ้าอยากรู้ว่าวิชชาสามและอภิญญา ๖มีอะไรบ้าง ฉันจะเขียนไว้ในคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน แล้วคุณไปนั่งอ่านเอาเองละกัน

    เอาเป็นว่าหากคุณทรงฌาน ๔ ได้ในกสิณอย่างใดอย่างหนึ่งในกสิณ ๓ อย่างที่ฉันว่า แต่ขอแนะนำให้เจริญอาโลกสิณ คือเพ่งแสงสว่างจะเป็นการดี เพราะเป็นกสิณที่สร้างทิพยจักษุโดยตรง เมื่อได้ทิพยจักษุญาณแล้วก็จะทำให้จิตโปร่งสว่างไสว แล้วกำหนดจิตว่าขอร่างกายนี้จงเป็นโพรง

    ก็จะเห็นร่างกายเป็นโพรงใหญ่ ต่อจากนี้ก็กำหนดจิตว่า ขอร่างอีกร่างหนึ่งจงปรากฏขึ้นในกายนี้ กายอีกกายหนึ่งก็จะปรากฏขึ้น ต่อจากนี้ค่อยบังคับกายนั้นให้เคลื่อนไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย อาทิเช่น ตับไตไส้ปอด เส้นเลือดทุกเส้น ลำไส้ทุกส่วน บังคับให้กายนั้นเดินตรวจให้ทั่วทั้งร่างกายจะเห็นแม้เส้นเลือดฝอยเส้นเล็กๆ ร่างนั้นก็เดินไปอย่างสบายเสมือนเดินอยู่บนถนนสายใหญ่ เห็นร่างกายเรานี้เป็นโพรงใหญ่คล้ายเรือหรือถ้ำขนาดใหญ่ เมื่อท่องเที่ยวร่างกายจนชำนาญแล้ว ก็ควรหาความรู้ในสภาพของอวัยวะต่างๆ ตลอดจนความสกปรกโสมมในร่างกายของเราไปด้วย


    เมื่อมีความชำนาญในการเที่ยวและการตรวจสอบสภาพร่างกายของเราดีแล้ว ก็กำหนดจิตว่าเราจะไปนรกขุมไหน สวรรค์ชั้นใด พรหมชั้นใด หรือพระนิพพาน หรือบ้านเมืองใด ดาวดวงใด ก็พุ่งกายออกไปก็จะถึงที่ประสงค์ทันที ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวินาที เมื่อถึงแล้วจิตจะบอกเราว่าสถานที่นั้นเป็นภพภูมิใด บ้านเมืองใดใครบ้างที่พบพบโดยไม่ต้องมีคนบอกเพราะสภาพของจิตเป็นทิพย์ กิเลสไม่ได้หุ้มห่อไปด้วย จึงรู้อะไรได้ตามความเป็นจริงเสมอ

    เป็นยังไงล่ะคุณมนูญ นั่งฟังเพลินเลย น่าสนุกนะ หากฝึกได้ล่ะก็คุณได้เที่ยวสนุกแน่ ไม่ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักและค่าใช้จ่ายอื่นใดเลยนะ ไม่ต้องไปเที่ยวยืมจมูกใครหายใจ ไม่ต้องเสียเวลาขออนุญาตเจ้านาย ไม่ต้องไปทำพาสปอร์ตหรือวีซ่า จะไปที่ใดก็ไม่ต้องขออนุญาตเจ้าของบ้านเจ้าของสถานที่ สามารถเข้าไปตรวจสอบอะไรต่ออะไรได้หมดเลยนะ”

    “ครับ ผมจะพยายามฝึก” ข้าพเจ้าตอบ
    เป็นยังไงล่ะครับท่านผู้อ่าน อยากรู้ว่านรก สวรรค์ พรหม นิพพานมีจริงหรือไม่ จะไม่ลองพิสูจน์โดยการฝึกปฏิบัติตามที่หลวงพ่อสอนบ้างหรือ ยิ่งในปัจจุบันนี้หนังสือคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานของหลวงพ่อก็มีการจัดพิมพ์ขึ้นมาแล้ว มิหนำซ้ำหลวงพ่อยังได้เมตตาฝึกมโนมยิทธิให้ลูก หลาน ญาติ มิตร อยู่อย่างสม่ำเสมอทุกเดือนที่บ้านพลอากาศโท ม.ร.ว. เสริม ศุขสวัสดิ์ ณ ซอยสายลมอีกด้วย จึงนับเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งของท่านที่สนใจทั้งหลาย
    อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าก็แอบภาคภูมิใจไม่น้อยที่คำถามของข้าพเจ้ามีส่วนช่วยผลักดันให้หลวงพ่อจัดทำหนังสือ คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานขึ้นมา เพราะหลวงพ่อคงได้พิจารณาแล้วว่าหากไม่จัดทำก็คงต้องทนนั่งตอบคำถามของข้าพเจ้า ซึ่งเป็นคนขี้สงสัยอยู่อย่างไม่มีวันจบสิ้นนั่นเอง และแม้ข้าพเจ้าจะหมดสงสัย ลูกหลานญาติมิตรของหลวงพ่ออีกไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนคน ก็คงสงสัยโน่น สงสัยนี่กันอีก และหลวงพ่อก็คงตอบคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไม่มีวันสิ้นสุดอยู่ดี
    ดังนั้น หากท่านผู้อ่านไม่เข้าใจในศัพท์บางคำที่ข้าพเจ้าเขียนก็ดี หรือปฏิบัติแล้วติดขัดในขั้นตอนใดก็ดี ขอจงได้อ่านในคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานบ้าง ไตรภูมิบ้าง มหาสติปัฏฐาน๔ และหนังสืออื่นๆที่หลวงพ่อเขียนไว้เถิด ก็จะเข้าใจได้เอง ยิ่งปฏิบัติไป ปัญญาก็จะยิ่งเกิดจนในที่สุดท่านจะสามารถถามเองตองเองได้อย่างน่าพิศวง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    http://www.trendytarot.com/index.php?option=com_content&task=view&id=165&Itemid=69
     
  2. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    ขออนุโมทนาสาธุธรรม เป็นอย่างสูง ครับ
     
  3. dabos29

    dabos29 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +53
    ขออนุโมทนาด้วยครับ
    ถ้าฝึกกันได้มากๆคนก็เชื่อมากครับ
    คนชั่วคงหมดไปดีมากเลยใกล้ยุคคนดีเต็มเมืองแล้ว
    ถิ่นกาขาวมาเยือน
     
  4. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณVANCO ครับ

    คำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อนั้น

    อ่านกี่ครั้งก็ไม่รู้เบื่อ

    ยิ่งอ่านก็ยิ่งได้หลักธรรมไปปฏิบัติอย่างไม่รู้จบสิ้น

    และยิ่งเห็นซึ้งถึงความเมตตาของหลวงพ่อที่มีต่อศิษย์ทุกคน

    ลูกขอน้อมเศียรกราบแทบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อ

    ผู้มีพระคุณอย่างเหลือล้น...กราบ...กราบ...กราบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...