ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ขอเชิญชวนทุกท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า ไม่ว่าท่านจะได้ทราบหรือไม่ทราบ
ว่าท่านจะได้เคยเป็นใครหรือไม่ได้เป็นใครในครั้งกระนั้น แต่ท่านมีความเคารพเทิดทูนและจงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์และอดีตบูรพกษัตริย์ที่ได้ทรงเสียสละตลอดพระชนม์ชีพเพื่อกอบกู้เอกราชให้กับแผ่นดินไทย ขอเชิญท่านร่วมกันแสดงความจงรักภักดี ด้วยการโพสต์เข้ามาโดยที่ท่านไม่จำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นใดๆ ไม่จำเป็นต้องแจ้งนามจริง ,โทรศัพท์ , e-mail address ใดๆทั้งสิ้น
เพียงแต่ท่านได้ยอมรับและมีความเข้าใจในกติกาและข้อตกลงพื้นฐานดังต่อไปนี้:

-เป็นศูนย์รวมสำหรับผู้ที่มีความจงรักภักดีและเคารพเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า
-ไม่มีวัตถูประสงค์แอบแฝงอื่นใด
-ยินดีรับฟังข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะที่สุภาพ
-ข้อความหรือคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอได้โปรดใช้คำราชาศัพท์ให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการแสดงความเคารพและเทิดทูน
-เจ้าของกระทู้จะไม่รับผิดชอบข้อความใดๆที่พาดพิงเบื้องสูงและ/สถาบัน
-ท่านจะต้องปฏิบัติตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อย่างเคร่งครัด
-จะร่วมกันปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
-ขอสงวนสิทธิในการที่จะเพิ่มเติมกติกาและข้อตกลงเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป

 

ข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่านที่มีต่อชาติไทยและปวงชนชาวไทย ด้วยความจงรักภักดีเป็นล้นพ้น พระพุทธเจ้าข้าขอรับ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

-ขออนุโมทนา และชื่นชมกับท่านเจ้าของกระทู้ ครับ

 

ขออนุโมทนา และปรบมือให้กับ good idea ของท่านเจ้าของกระทู้ค่ะ เพราะเป็นคนหนึ่งที่เทิดทูนและจงรักภักดีต่อองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสถาบันพระมหากษัตริย์มากค่ะ

 

อยากจะขอเรียนเพื่อนๆเพิ่มเติมว่า เป็นความปราถนาอันแรงกล้ามานานแล้วที่อยากจะเห็นเว็บไซต์/กระทู้ที่เป็น
เสมือนศุนย์กลางสำหรับผู้ที่มีความจงรักภักดีและเคารพเทิดทูนในองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า ได้มีโอกาสพบปะและแลกเปลี่ยนข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อกัน จนได้มีโอกาสเข้ามาเป็นสมาชิกในเว็บพลังจิตเมื่อไม่นานมานี้
จึงได้พบว่าเว็บพลังจิตแห่งนี้มีความเหมาะสมมากที่สุด
อีกทั้งทีมผู้บริหารของเว็บก็มีวิชั่นที่กว้างไกล ภายหลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกับท่านผู้ใหญ่หลายท่านแล้ว เห็นว่าเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่จะเริ่มดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางดังกล่าว จึงขอเรียนเชิญชวนมายังเพื่อนสมาชิกอีกครั้งหนึ่ง ครับ

 

กำหนดพิธีเททองหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่วัดเวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ในวันที่ 23 มิถุนายน ศกนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมจะเรียนให้ทราบต่อไป ครับ

 

เมื่อวันที่ 28 เมษายน เวลา 17.45 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จลง ณ ท้องพระโรงศาลาเริง วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในพระราชโอกาส วันคล้ายวันราชาภิเษกสมรส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2493 ณ วังสระปทุม โดยสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงถวายน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนต์ และทรงเจิมตามโบราณราชประเพณี ทั้งยังทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย ในสมุดทะเบียนราชภิเษกสมรส
นับจากนั้นเป็นต้นมา ทั้ง 2 พระองค์ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมพสกนิกรทั่วทุกภาค เพื่อทอดพระเนตรปัญหา และสภาพความเป็นอยู่อย่างแท้จริง สำหรับเป็นแนวทางในการพระราชทานความช่วยเหลือ ด้วยทรงมีพระราชหฤทัยแน่วแน่ ในการสร้างประโยชน์สุขแก่ปวงพสกนิกร ด้วยน้ำพระราชหฤทัย และพระราชจริยวัตรที่งดงาม จนก่อเกิดเป็นสายใยแห่งความจงรักภักดีของปวงพสกนิกร


ขอทั้งสองพระองค์จงทรงพระเจริญ

 

ระหว่างการรอคอยไพร่พลคนรักพระนเรศวร ที่กำลังทะยอยกันเข้ามา ขออนุญาตนำเสนอข้อมูลที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ท่าน เฉพาะในเดือนเมษายน เท่าที่รวบรวมได้
พอเป็นสังเขป ส่วนจะเท็จจริงอย่างไรคงจะต้องค้นคว้าและถกแถลงกันต่อไป ครับ

*** วันที่ ๓ เมษายน เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ

(ตามหลักฐานที่ปรากฎ ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันพฤหัสบดี

ปีเถาะ พุทธศักราช ๒๐๙๘ )

*** วันที่ ๒๕ เมษายน เป็นวันคล้ายวันสวรรคต

(ตามหลักฐานที่ปรากฎ ทรงเสด็จวรรคต เมื่อวันจันทร์

เดือน ๖ ขึ้น ๘ ค่ำ ปีมะเส็ง พุทธศักราช ๒๑๔๘ )

*** วันอังคารที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๑๒๗

ทรงประกาศอิสระภาพ ณ เมืองแครง (http://bestfromthailand.blogspot.com/2008/01/blog-post_28.html )

 

เมื่อประมาณเที่ยงเศษๆวันนี้ ผมได้รับแจ้งจากคุณชานนคนไทย ผ่านมาทางท่านพลโทคมน์ (พี่ ภาวิโต ) ว่าคืนวันที่ 24 เม.ย.ได้เกิดเพลิงไหม้ที่กุฏิพระอาจารย์สิงทนต์ วัดวรเชษฐ อยุธยา ลักษณะเป็นการวางเพลิงเพื่อมุ่งประสงค์ผลอย่างใดอย่างหนึ่ง มิใช่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือการประมาทเลินเล่อแต่อย่างใด ผมยังไม่อยากจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเพราะไม่มีข้อมูลและรายละเอียด รอให้คุณชานนคนไทย ที่อยู่ระหว่างพูดคุยกับพระอาจารย์ที่วัดวรเชษฐ เมื่อประมาณเวลาเที่ยงของวันที่ 1 พ.ค.52 ได้มาให้รายละเอียดเพิ่มเติมนะครับ

จึงขอเรียนมายังท่านไพร่พลคนรักพระนเรศวร ได้โปรดทราบในชั้นต้น อย่างไรก็ตามใคร่ขอเร่งรัดมายังท่านเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่รับผิดชอบ ท่านผู้กำกับการตำรวจภูธร
อยุธยา ได้กรุณาให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษด้วยจักขอบคุณยิ่ง

 

ส่วนมากแล้วการวางเพลิงมักจะมุ่งประสงค์ที่จะขับไล่ ?

 

เดนนรกพวกนี้ จับได้ต้องเป้าสถานเดียว แบบสมัยท่านจอมพลสฤษดิ์ ฯ จึงจะสาสม

 

สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันหลักของไทยเรามาช้านาน

สถาบันพระมหากษัตริย์ ดำรงอยู่ในสังคมไทยมาโดยตลอด

นับตั้งแต่เมื่อยังเป็นแว่นแคว้นต่างๆ จนถึงเมื่อสถาปนาเป็น

อาณาจักรสุโขทัยในตอนปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๘ โดย

มีพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรก

ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อ พ.ศ.๑๗๙๒ ในระยะแรกอำนาจของ

พระมหากษัตริย์ในทางการปกครองมีลักษณะเป็นแบบพ่อ

ปกครองลูก มีการดูแลราษฎรอย่างใกล้ชิด หากราษฎร

มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจประการใดก็สามารถมาสั่นกระดิ่ง

หน้าประตูพระราชวัง เพื่อร้องทุกข์หรือถวายฎีกาต่อพระ

มหากษัตริย์ได้

ที่มา: คลังแห่งปัญญา รากแก้วของแผ่นดิน

เทิดเกียรติบรรพชนไทย ศ.ศิลาแลง

 

ต่อมาในสมัยอยุธยา สถานภาพของพระมหากษัตริย์ได้รับ

การยกย่องเป็น "สมมติเทพ " หรือ " เทวราชา " โดย

พระมหากษัตริย์ทรงมีอำนาจในการปกครองอย่างสมบูรณ์

และทรงได้รับการเคารพสักการะเปรียบเสมือนเทพเจ้า

ซึ่งคติเช่นนี้ได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาพราหมณ์ของอิน

เดีย และไทยได้รับอิทธิพลนี้ผ่านมาทางขอมอีกทอดหนึ่ง

มีการใช้ราชาศัพท์สำหรับพระมหากษัตริย์ ตลอดจนประเพณี

ต่างๆในราชสำนัก


ที่มา: คลังแห่งปัญญา รากแก้วของแผ่นดิน

เทิดเกียรติบรรพชนไทย ศ.ศิลาแลง

 

ขออนุโมทนากับคุณ จงรักภักดี ครับ หนังสือคลังแห่ง

ปัญญาฯ ดูชื่อจะไม่คุ้นนะครับ แต่เนื้อหาสาระแน่นทีเดียว

น่าสนใจมากครับ อยากเรียนถามถ้าไม่เป็นการรบกวน

จะสามารถหาซื้อได้ที่ไหนครับ

 

ในสมัยธนบุรี ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียง ๑๕ ปี

สถานภาพพระมหากษัตริย์ยังคงเป็นเช่นเดียวกับสมัย

อยุธยา ครั้นถึงสมัยรัตนโกสินทร์มีการเปลี่ยนแปลง

เกี่ยวกับการเฉลิมพระนามาภิไธยของพระมหากษัตริย์

โดยมีคำว่า "พระบาทสมเด็จพระ " นำหน้าพระปรมาภิ

ไธย

ในการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีแห่งใหม่นี้

ได้มีการปรับเปลี่ยนภายในของการปกครองระบอบสม

บูรณาญาสิทธิราชย์ โดยเน้นคติธรรมทางพระพุทธศาสนา

และรูปแบบของ

ธรรมราชาเป็นหลักในการปกครอง ส่วนแนวคิดเรื่องเทวราชา

หรือสมมติเทพ ยังคงปรากฎในรูปของพระราชพิธี ขนบ

ธรรมเนียมประเพณีในราชสำนักอันเนื่องด้วยสถาบันพระมหา

กษัตริย์ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีถือน้ำ

พระพิพัฒน์สัตยา ทั้งนี้เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีที่

ปฏิบัติกันมา



ที่มา : คลังแห่งปัญญา รากแก้วของแผ่นดิน

เทิดเกียรติบรรพชนไทย ศ.ศิลาแลง

 

-ผมเองก็เพิ่งจะเคยเห็นหนังสือชุดนี้เป็นครั้งแรก โดยผมได้รับมาจากท่าน พันเอก หลักแก้ว อัมโรสถ เมื่อไม่นานมานี้เองครับ เข้าใจว่าคงจะไม่มีการวางขาย ในหน้าแรกของหนังสือเล่มที่ ๑ ท่านพันเอกหลักแก้ว ได้เขียนคำกราบบังคมทูลไว้ดังนี้ครับ

ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ผลบุญอันเกิดแต่การเผยแพร่ชุดหนังสือ
คลังแห่งปัญญานี้
ข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม
ถวายแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตราธิราชเจ้าทุกพระองค์
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๑ พรรษา
๕ ธันวาคม ๒๕๕๑
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้ทรงปกป้องชาติไทยให้สามารถดำรงความเป็นเอกราชมาจนตราบเท่า
ทุกวันนี้


ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า

พันเอก หลักแก้ว อัมโรสถ และผู้จัดทำ



ปล.ลองติดต่อไปที่ ททบ.๕ ดูนะครับ ท่านพันเอก หลักแก้ว
ท่านจัดรายการตอนเปิดสถานีตอนเช้าอยู่ครับ เผอิญผมจำชื่อรายการท่านไม่ได้ ต้องขออภัยด้วยครับ

 

สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน...ที่รักและเคารพพระองค์ท่านพระนเรศวรมหาราชของเราชาวไทยและชาวไทยใหญ่ทุกเผ่า...ทำไมผมต้องใส่ชาวไทยใหญ่และชาวเขาทุกเผ่าเพราะในอดีตกลุ่มคนกลุ่มนี้ได้มีส่วนร่วมช่วยพระองค์ท่าน(พระนเรศวรมาหาราช)ในการทำศึกและร่วมรบถ้าท่านไปแถวเชียงใหม่,เชียงรายและถ้าเข้าบ้านชาวเขาจะเห็นรูปอยู่2รูป...รูปแรกรูปพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน...และรูปที่2รูปพระนเรศ(พระนเรศวรมาหาราช)ชาวเขาและชาวไทยใหญ่จะรักพระองค์ท่านมากถ้าอยากรู้ถามเขาดูก็จะรู้ว่าทำไมเขาถึงรักและจงรักษ์ภักดีมากเท่าชีวิต..และพวกเขาก็มีหน้าป้องกันชายแดนไทยไม่ให้ข้าศึกมาทำร้ายคนไทย(พม่า)เรื่องนี้มีมานานมากคนรุ่นเก่าจะรู้...ถ้าไปเชียงใหม่ไปที่วัดศรีสามรักษ์ถามหาหลวงพ่อบัญดิฐ...หรึอไปที่วัดถ้ำเมืองนะขอสนทนาธรรมกับหลวงตาม้าก็จะรู้ครับ.....มาเข้าเรื่องวัดวรเชษฐ์ที่โดนวางเพลิงเผากุฏิพระอ.ดร.สินทนเมื่อวันจัดพิธีสำคัญวันคล้ายวันสรรคต(25เมย52)ของพระองค์ท่าน(พระนเรศวรมาหาราช)ช่วงเช้าไม่มีใครอยู่บนกุฏิเลยร่วมทั้งหลวงพ่อเพราะอยู่ที่งานหมด...แต่ได้มีคนเข้าไปงัดกุญแจด้านหลังประตูกุฏิและวางเพลิง(ท่านเล่าให้ฟังวันที่1พ.ค52เวลา12.00น.)ดูจากเหตุการณ์ความเสียหายมีผนังไหม้เกือบหมดร่วมฝ้าและของใช้เสียหมด...ยกเว้นจีวรของท่านที่ไม่ไหม้...ทางตำรวจได้มาดูแต่ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ...ก็ปรึกษาท่านๆก็ว่าให้โทรหาพี่ภาวิโตว่าช่วยด้านใดได้บ้าง...ส่วนตัวผมคิดว่าใครทำอะไรไว้เขาก็รู้อยู่แก่ใจของเขา..เราก็ต้องอโหสิกรรมไป...ยังไงเขาก็หนีกฏแห่งกรรมที่เขาทำไว้ไม่ได้ครับ...ทุกอย่างเป็นการพิสูจน์เรื่องกำลัง(จิตใจ)ว่าท่านและเรามีกำลังใจเป็นเช่นไร...ถ้าเราจะทำงานใหญ่เพื่อแผ่นดินต้องยอมรับทุกเหตุการณ์ที่เกิด...คนเราถ้าจะสร้างความดีก็จะมีมารมาทดลองจิต...ขอให้เรายึดมั่นในความดีที่เราตั้งใจทำครับ...ผมก็ปรึกษากับพี่ภาวิโตกับพี่แหม่มว่าจะนัดกันไปที่วัดและดูว่าจะช่วยอะไรท่านได้บ้างถ้าเพื่อนๆท่านใดจะร่วมช่วยกันคนละไม้คนละมือคงสำเร็จด้วยดีผมเองบารมีไม่พอต้องอาศัยพี่ๆ,เพื่อนๆ,และน้องช่วยกันครับ...ติดต่อที่เบอร์ผมได้ตลอดครับ086-342-7086...ขอทำเพื่อชาติและศาสนา,พระมหากษิตย์และแผ่นดินไทยถึงจะตายก็ยอมครับ....สวัสดีครับ

 

ข้อคิดเห็นของคุณชานนคนไทย ดูช่างสอดคล้องกับคำนำของคุณ ศ.ศิลาแลง ผู้เรียบเรียง หนังสือคลังแห่งปัญญา....
รากแก้วของแผ่นดิน เสียนี่กระไร คุณศ.ศิลาแลง ได้ร้อย
เรียงไว้ว่า

หนังสือชุดนี้ควรค่าแก่การศึกษาค้นคว้าและน้อมนำมาสู่การปฏิบัติ เพราะเรื่องราววีรกรรมของบรรพบุรุษทุกท่านน่ายกย่องเทิดทูน เป็นแบบอย่างของคนไทยที่มีจิตวิญญาณของความรักชาติ หวงแหนต่อแผ่นดินเกิด ซึ่งพวกเรารุ่นลูก
หลานเหลนโหลน ต้องจดจำจารึกแล้วทดแทนพระคุณ ด้วย
การเป็นคนดี มีความกตัญญู ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน เรื่องของศาสนาพุทธซึ่งอยู่กับสังคมไทยเรามาช้านาน กล่อมเกลาจิตใจของเราให้รู้จักมีเมตตาธรรม รู้จักให้อภัย มีน้ำใจ
อันดีงามกฎแห่งกรรมสอนให้เราเชื่อการกระทำของเราเอง
เป็นกฎธรรมชาติ ใครทำดีก็ดี ใครทำชั่วก็ชั่ว ส่วนจะได้ดีได้ชั่วบางครั้งก็ต้องใช้เวลา เรื่องของประเทศชาติก็ชี้ให้เห็นกลไกในการปฏิบัติงานของผู้บริหารบ้านเมือง ถ้าเราไม่รู้เท่าทันต่างชาติ เราก็จะซ้ำรอยเดิม ดังมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย
และเรื่องสำคัญสุดท้ายก็คือ เรื่องของการดำเนินชีวิตซึ่งเป็นเรื่องใกล้ชิดกับตัวเรา

ทุกคนหากใครปฏิบัติได้ ก็จะเป็นประโยชน์กับตัวเองและยังเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติด้วย เรื่องราวทั้ง ๔ เล่มนี้ ผู้
เรียบเรียงจัดทำขึ้นมาด้วยจิตใจที่มีความห่วงใยในชาติบ้านเมือง มีความรักชาติเหมือนกันกับคนรุ่นก่อน เพียงแต่สมัยปัจจุบันไม่มีการรบทัพจับศึก จึงไม่มีการแสดงออกทางกายอย่างเด่นชัด แต่ก็ขอใช้ความเพียรพยายามและประสบการณ์หลายปีผสมผสานกับจิตวิญญาณของความเป็นไทย หล่อหลอมเป็นอักษรมาลิขิตเอาไว้ในแผ่นดินเกิด
เพื่อเป็นประโยชน์กับคนรุ่นต่อๆ ไป ชีวิตคนเรานั้นเกิดมาไม่กี่ปีก็ต้องตายจากโลกนี้ไปแล้ว เวลาในชีวิตของทุกคนจึง
มีไม่มากนัก เพราะฉะนั้นจงใช้เวลาที่เหลืออยู่กระทำแต่ความดีเถิด

เรามาร่วมกันเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณให้กับ
สังคมไทย ด้วย คลังแห่งปัญญา...รากแก้วของแผ่นดิน

***โมทนา สาธุ

 

-ไม่ทราบว่าวัดวรเชษฐ อยู่ในเขต อ.เมือง หรืออ.ใด ของ
อยุธยา ครับ และอยู่ในพื้นที่ของสถานีตำรวจภูธร อะไรครับ
เพื่อประโยชน์ที่พวกเราจะได้ช่วยกันติดตามได้ถูกทางครับ

 

อยู่ที่อำเภอนอกเกาะ,จ.อยุธยาถ้าไปไม่ถูกโทรถามท่านอ.ดร.สินห์ทน ที่เบอร์081-881-070ได้ครับ...สวัสดีครับ

 

ติดตามข่าวอยู่ค่ะ เห็นสมควรจะร่วมมือช่วยเหลือกันอย่างไร

โปรดแจ้งให้ทราบด้วยนะคะ