ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย sasiriya, 22 พฤษภาคม 2008.

  1. ying_tisa

    ying_tisa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +18
    อ่ะ แหง๊ก แหง๊ก อยากบอกว่าอ่านจนตาลายยยยย
     
  2. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    แปลไม่ถูกอีกคนแล้ว
    เฮ้อ...ว่าใช้ภาษาง่ายสุด ๆแล้วหนา
    คิดอะไรกันมากมายน้อง ๆ เอ๋ย
    เอาเหอะ แปลไม่ออกก็อย่าไปแปลมันเลย
    ปวดหัวเปล่า ๆ วันหนึ่งก็รู้กันเองแหล่ะจ๊ะ

    ว่าแต่...น้องปฏิฯ จาแปลงร่างเป็น...
    ชิเหมะจูได๋..หนอนชาเขียวหรอจ๊ะ
    ถึงหัดกินใบไม้น่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
    สงสัยกินใบไม้จนอ้วน เลยต้องเต้นแอโรบิคแบบพี่เพนกวินเลย อิอิ
    อย่าหักโหม ๆ มีเวลาอีกหลายปีจ๊า
    เดี๋ยวใบไม้หมดเมืองกันพอดี ร้อนแย่เลย



    หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31 <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2009
  3. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    และก็จะต้องตาลายต่อไปเรื่อย ๆ หนาน้องหญิง
    หากไม่ยอมปันใจไปจากบ้านนี้ เห่อ เห่อ






    หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31
    <O:p</O:p
     
  4. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    วันนี้มีอุทาหรณ์สอนใจ
    จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และกำลังเกิดอยู่

    มีกัลยาณมิตรท่านหนึ่งของศิ
    คุณแม่ของเขาได้ไปฝึกพลังจักรวาล
    และก็ได้นำวิชาที่ได้มาช่วยรักษาคน
    ด้วยจิตที่อยากช่วยคนจริง ๆ
    แต่...วันนี้ หลังจากที่ได้ใช้พลังจักรวาล
    รักษาญาติที่ป่วยเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย
    ทำอยู่ห้าวัน ญาติดีขึ้น
    วันที่หกตัวผู้รักษากลับล้มเจ็บ
    ด้วยอาการระบบทางเดินหายใจไม่ทำงาน
    ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ในห้องไอซียู
    อาการยังไม่สามารถหายใจเองได้
    หลังจากเข้าไอซียูได้ไม่กี่วัน
    ผู้ป่วยที่ถูกรักษาและเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย
    ก็ล้มเจ็บหามส่งโรงพยาบาลอีกราย
    เลือดออกทางทวาร ขั้นรุนแรง

    ถามว่า....เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้เช่นไร
    หมอหาสาเหตุทางการแพทย์ยังไม่เด่นชัด
    ก็ว่ากันไปทางหลักวิชาการแพทย์แบบงง ๆ

    น้องบอกว่า.....
    การฝึกพลังจักรวาลนั้น
    ท่านสามารถฝึกกันได้
    แต่ควรฝึกไว้เพื่อเป็นความรู้แค่นั้น
    ไม่ควรนำมารักษาผู้อื่น
    เพราะว่า ผู้ที่จะมารักษาผู้อื่นได้โดยไม่มีผลกระทบใด ๆ นั้น
    ต้องถูกฝึกจนกระทั้งเชี่ยวชาญระดับปรมาจารย์
    ขนาดระดับนั้น เวลารักษาผู้ใด
    เขาจะหมดแรงพลังลงไป จนต้องพักฟื้นหลายวันเช่นกัน
    จึงจะปกติ และไม่มีผลข้างเคียงใดเกิดขึ้นกับการรักษา

    แต่หากเป็นเพียงผู้ที่ฝึกด้วยระยะเวลาสั้น ๆ
    จะช่วยคนได้ก็แค่อาการพื้น ๆ ง่าย ๆ
    เช่นปวดหัวตัวร้อน เคล็ดยอกธรรมดา
    อาการนั้นอาจจะหายไป
    ก็อย่าได้หลงระเริง นึกว่าสามารถ
    เพราะการเปิดจักระ สัมผัสตัวผู้ป่วยโดยตรงนั้น
    หากท่านไม่ใช่ระดับอย่างที่น้องว่า
    อาการเหล่านั้นอาจย้อนตีกลับมาสู่ท่านโดยไม่รู้ตัว
    และก็ไม่ใช่เป็นเพราะกรรมหรือโรคของผู้ป่วยมาส่งผลให้ผู้รักษาด้วย
    แต่ท่านเองนั้นแลที่รักษาเขาผิดวิธี
    ไม่มีความเชี่ยวชาญ
    และไม่รู้คุณโทษที่จะเกิดขึ้น น้องบอกว่าอันตรายมาก
    ผลจึงต้องเป็นเฉกเช่นญาติของสหายธรรมศิผู้นี้
    อาการที่ผู้ป่วยเป็น ผู้รักษารับมาเต็ม ๆ เหมือนกันทุกประการ
    แถมตอนรักษา ไม่ทราบถูกฝึกสอนมาหรือกระไร
    ไปอธิษฐานจิต ขอแบ่งเบาอาการคนป่วยมาที่ตัวเองแทน
    เลยดับเบิ้ลทวีคูณ
    ศิเคยบอกแล้วว่า....แรงอธิษฐานใครว่า ไม่มีจริง

    จึงอยากเล่าเตือนเพื่อเป็นอุทาหรณ์
    ให้กับทุกท่านที่สนใจฝึก หรือกำลังฝึก หรือฝึกพลังแบบนี้อยู่
    อย่าได้ชะล่าใจ คิดว่าจบคอร์สแล้ว ตัวเองจะสามารถช่วยคนได้ดังคำสอน
    ทุกอย่างหากไม่รู้จริง ไม่เชี่ยวชาญ ไม่ระดับปรมาจารย์อย่างน้องบอก
    ผลมันก็จะเป็นเช่นนี้แล
    แล้วก็ไปโทษอิโหน่อิเหน่ว่า ช่วยเขาแล้วเจ้ากรรมโกรธกลับมาทำร้ายตัว
    ไม่ใช่เลยอย่างแรง แต่ท่านเองต่างหากที่ทำร้ายตัวเอง
    โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

    วิชาเหล่านี้ จริง ๆ แล้ว
    การเปิดจักระ
    เมื่อท่านบำเพ็ญฝึกสมาธิจนได้ระดับสูง
    ทุกอย่างก็เดินไปเองตามอัตโนมัติอยู่แล้ว
    เพียงแต่ผู้ที่รู้ ก็ดึงเอาเกร็ดเล็กน้อยเหล่านี้ออกมา
    ให้เป็นหัวข้อใหญ่ในการสอนวิชา
    ให้แตกแขนงเป็นอีกเรื่องราว
    แต่ลืมสอนโทษทัณฑ์ที่จะเกิดขึ้น
    ดังสุภาษิต นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
    ฉะนั้น การฝึกวิชาเหล่านี้
    ศิเองไม่ได้แอนตี้ใด ๆ ในสาขานี้
    แต่อยากให้ฝึกด้วยสติ
    ฝึกเพื่อรู้เท่านั้น เป็นความรู้
    อย่านำมาทดลอง หากท่านยังไม่มั่นใจว่า
    ท่านใฃ่ระดับปรมาจารย์ไหม
    หากไม่ใช่ แล้วคิดว่าใช่
    ผลมันจะเป็นดั่งเช่นญาติกัลยาณมิตรของศิท่านนี้
    และก็ไม่มีวิธีใดสามารถช่วยเหลือได้ด้วย
    น้อง ๆ พี่ ๆ ที่เคยฝึกมา
    ขอให้พิจารณาด้วยสติ และหยุดทำการรักษาผู้อื่น
    แม้เพียงเจตนาอยากช่วย ท่านก็ได้กุศลแล้ว
    อย่าถึงกับลงมือโดยปราศจากความแน่ใจอีกเลย
    เพราะหากท่านไปเจอเคสหนัก ๆ หรือเคสใดโดยบังเอิญ
    ที่ท่านไม่สามารถ ท่านอาจเป็นเช่นนี้
    และวันนั้น ท่านจะเรียกร้องทุกสิ่งกลับคืนมาไม่ได้
    แม้...ชีวิตของท่านเอง

    ขอนำความพลั้งของบุคคลจริง....มาเป็นดุจดั่งครู
    ให้ทุกท่านได้เดินไป ยังที่ถูกที่ควร

    ด้วยความปรารถนาดี




    หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2009
  5. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,233

    หวัดดี ครับ
    ยอมตาลาย แลกกับ ธรรมะแบบ สบายๆ ของ
    ท่านพี่ ศศิ ครับ
    deeja__a
     
  6. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,233
    deeja__a
    ขอบคุณครับ
    กับ
    ตำแนะนำ และ ข้อเตือนสติ
    rabbit_jump
     
  7. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    ขอบคุณค่ะพี่ศิ..
    ความรู้ใหม่ สำหรับคนดอยเต่า
    อย่างจินเลนนะเนี่ย
    rabbit_jump
     
  8. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    ขอบคุณค่ะ คุณอ้างว้าง

    คุณชมเกินไป (มาก) เลยค่ะ
     
  9. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    เหรอคะ คุณกะเจี๊ยบ..
    เป็นยังไงบ้างคะ โรงเรียนพิเศษ

    ตอนนี้จินก็กำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ค่ะ
    มีพ่อแม่เด็กพิเศษบางคนบอกจินว่า
    ไม่ควรเอาลูกไปเรียนโรงเรียนเหล่านี้
    เพราะว่ามีแต่เด็กที่อาการหนักๆทั้งนั้นเลย
    ถ้าลูกเราอาการไม่มาก
    ก็จะถูกทิ้งเลย (เพราะครูไม่มีเวลา)

    ไม่ทราบว่าจริงเท็จแค่ไหนคะ....
     
  10. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    อนุโมทนา สาธุค่ะ

    พี่สาวจินก็ชอบไปนั่งสมาธิที่วัดอัมพวัน

    แต่เล่าได้ไม่ละเอียดเหมือนคุณป้าคัดเค้าเลย

    มีทริปหน้า...นำมาเล่าอีกนะคะ
    (kiss)
     
  11. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
     
  12. อ้างว้าง

    อ้างว้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +577

    ...แหม่ไม่มากไปหรอกครับ...;k06
    คำว่า แม่ เป็นคำที่ประเสริฐที่สุดของลูกทุกคนแล้วหล่ะ..

    และการที่ผู้หญิงคนหนึ่้งทำหน้าที่ ของความเป็นแม่ เพื่อลูกไม่ว่าทางตรง หรือ ทางอ้อม การจะบอกดังกล่าวข้างต้นก็คงน้อยเกินไป
    ;aa47

     
  13. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    ขอบคุณมากค่ะ..
    จินเห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อคิดเห็นของคุณป้าคัดเค้า

    ความจริงจินได้เคยคุยกับผู้รู้หลายๆท่าน เขาก็พูดตรงกันว่า การที่เรามีลูกผิดปกติ ไม่ว่าด้านใดก็ตาม ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นกรรมของพ่อแม่ประกอบด้วย...
    เราคงเคยทำผิดบาปอย่างใดอย่างหนึ่ง (หรือหลายอย่าง)ร่วมกับเขามา
    แต่...
    ไม่รู้ว่ากรรมอะไรบังตา ทำให้ไม่ได้ส่งรูปพ่อ+แม่ (จิน+แฟน)ให้น้องเขาดูด้วย
    (ส่งแต่รูปลูกสาวใบเดียวโด่เด่ ) ทำให้ไม่ทราบว่ากรรมของเราคืออะไร...
    จนบัดนี้

    อย่างไรก็ตาม...
    จินก็ไม่ได้จมจ่อมอยู่กับความทุกข์หรอกค่ะ
    ยังนึกขอบคุณเขาด้วยซ้ำไป ที่ทำให้เราหันเหมาทางธรรม
    ซึ่งเมื่อก่อน ไม่ได้สนใจเลยสักนิด...

    คำกล่าวของ ฐิตินาถ ณ พัทลุง ในเข็มทิศชีวิต II ที่ว่า

    ..เวลาที่ชีวิตต้องเตือนเราแรงๆ จนเหมือนเอาเท้าถีบเราจนกระเด็น
    ..ก็เพราะถ้าส่งสัญญาณเบากว่านั้น.. เราจะไม่รู้สึก

    นั่นล่ะค่ะ ถูกต้อง ตรงเผงเลยทีเดียว (สำหรับจิน)
    เพราะถ้าเป็นอะไรที่มันเบากว่านี้ จินก็คงยังไม่รู้สึก
    ยังลั้นลา กับชีวิตทางโลกอย่างสนุกสนานต่อไป

    ถามว่าลั้นลายังไง... (แหมเล่าแล้วยาว)
    สมัยก่อนตอนทำงานอยู่บริษัทญี่ปุ่นที่กรุงเทพ ได้เงินเดือนสูงลิบลิ่ว
    แต่แทบไม่ได้ส่งให้แม่เลย (พ่อเสียไปนานแล้ว)..ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า
    แม่คือพระอรหันต์ของลูก แฮ่ะๆ คิดดูสิคะ ว่าจินขนาดไหน...
    ตอนนี้ ไม่ได้ทำงาน ต้องมาให้สามีเลี้ยง (สมน้ำหน้า) เนาะป้า เนาะ

    จินถึงรู้สึกชื่นชมกับเด็กๆ อายุน้อยๆ ที่มาศึกษาธรรมะ
    อย่างเช่น น้องปาล์ม- อายุ 17 โอ้โห สุดยอด
    นึกในใจ ถ้าเขายังอยู่ในเส้นทางธรรมไปเรื่อยๆ
    พออายุเท่าเรา เขาจะได้ขนาดไหนหนอ (แต่ต้องไปทางตรงนะจ๊ะ)
    ถ้าไปทางอ้อม บางคนศึกษาทั้งชีวิต ก็ยังเข้าไม่ถึงแก่นของพุทธศาสนา
    อยู่นั่นเอง...
     
  14. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,233
    ค้องดู ระดัยเด็ก ครับ
    ถ้า ไม่มาก ก็ ให้ไป ปกติ
    แต่ เรา ต้องสอนเพิ่ม ค่อนข้างมาก ครับ
    เพราะ บางเรื่อง
    น้องเขาไม่เข้าใจ ครับ
    ต้อง อดทน ใจเย็น และ ใช้เวลา ครับ
     
  15. sasiriya

    sasiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,064
    ค่าพลัง:
    +751
    <TABLE class=tborder id=post2002148 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sasiriya<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2002148", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Oct 2006
    ข้อความ: 571
    <IF condition="">
    </IF>Groans: 0
    Groaned at 1 Time in 1 Post
    ได้ให้อนุโมทนา: 31
    ได้รับอนุโมทนา 3,013 ครั้ง ใน 301 โพส
    พลังการให้คะแนน: 100 [​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2002148 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->วันนี้มีตัวอย่างจดหมายน่ารัก ๆ จากกัลยาณมิตรที่น่ารักสองท่าน
    ที่ขออนุญาตเจ้าของเรื่องนำมาลง เพราะศิคิดว่า เขาอ่านบทความที่ศิเขียน ที่สอดแทรกสาระธรรมทางอ้อมไว้อย่างเข้าใจ และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีวิตได้อย่างง่ายดาย ก็เลยนำมาให้อ่านกันเพื่อเป็นตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ นะคะ......




    พี่ศศิคะ

    วันนี้แอนได้อ่านที่พี่เขียนไว้เรื่องเดินทางไปทำบุญที่วัดธรรมกายแล้วค่ะตอนอ่านที่พี่ขับรถหลงทาง กว่าจะถึงวัดด้วยความยากลำบาก แล้วขนลุกเลยค่ะมันลิงค์กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับชีวิตแอนช่วงนี้พอดีนี่เป็นเวลาที่ยุ่งที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมาทุกเรื่องทุกปัญหามาเกิดขึ้นพร้อมๆกันในเดือนมีนาคมนี้แบบไม่คาดคิดล่วงหน้าค่ะทั้งเรื่องร้านค้า เรื่องย้ายบ้าน เรื่องการเงิน เรื่องวีซ่าของแฟน และอื่นๆๆๆๆๆมันคุมอารมณ์แทบไม่อยู่เลยค่ะ (จริงๆอารมณ์มันไปเรียบร้อยแล้ว)

    วันนี้ลงจากแท็กซี่นั่งอยู่ข้างถนนราชดำเนินด้วยอารมณ์ร้อนสุดๆก็ถามตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเวลานี้ เราต้องลำบากกับชีวิตแบบนี้ร้อนรนแบบนี้อีกนานแค่ไหน พอตกเย็นมาอ่านที่พี่ศศิเขียนไว้ ตะลึงเลยค่ะคำตอบอยู่ตรงนี้เอง ว่าทำไมต้องลำบาก แล้วเวลาที่ลำบากจะดูจิตเราอย่างไรเข้าใจแล้วค่ะ เลยอยากเขียนมาเล่าให้พี่ศศิทราบ และขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้นะคะ

    เรื่องบังเอิญที่ไม่บังเอิญจริงๆค่ะ

    แอน Twin Hearts
    **************************************************

    <SCRIPT defer type=text/javascript>if (typeof YAHOO == "undefined") { var YAHOO = {};}YAHOO.Shortcuts = YAHOO.Shortcuts || {};YAHOO.Shortcuts.hasSensitiveText = false;YAHOO.Shortcuts.sensitivityType = [];YAHOO.Shortcuts.doUlt = false;YAHOO.Shortcuts.location = "us";YAHOO.Shortcuts.document_id = 0;YAHOO.Shortcuts.document_type = "";YAHOO.Shortcuts.document_title = "\u00e0\u00b8\u00aa\u00e0\u00b8\u00a7\u00e0\u00b8\u00b1\u00e0\u00b8\u00aa\u00e0\u00b8\u0094\u00e0\u00b8\u00b5\u00e0\u00b8\u0084\u00e0\u00b9\u0088\u00e0\u00b8\u00b0\u00e0\u00b8\u009e\u00e0\u00b8\u00b5\u00e0\u00b9\u0088\u00e0\u00b8\u00a8\u00e0\u00b8\u00b4 _/\u005c\u005c_ (\u00e0\u00b8\u0097\u00e0\u00b8\u00b3\u00e0\u00b9\u0083\u00e0\u00b8\u0088\u00e0\u00b9\u0084\u00e0\u00b8\u00a7\u00e0\u00b9\u0089\u00e0\u00b8\u0081\u00e0\u00b9\u0088\u00e0\u00b8\u00ad\u00e0\u00b8\u0099\u00e0\u00b8\u00a5\u00e0\u00b9\u0088\u00e0\u00b8\u00a7\u00e0\u00b8\u0087\u00e0\u00b8\u00ab\u00e0\u00b8\u0099\u00e0\u00b9\u0089\u00e0\u00b8\u00b2\u00e0\u00b8\u0099\u00e0\u00b8\u00b0\u00e0\u00b8\u0084\u00e0\u00b8\u00b0 \u00e0\u00b9\u0081\u00e0\u00b8\u009a\u00e0\u00b8\u009a\u00e0\u00b8\u00a7\u00e0\u00b9\u0088\u00e0\u00b8\u00b2\u00e0\u00b9\u0080\u00e0\u00b8\u00a5\u00e0\u00b9\u0088\u00e0\u00b8\u00b2\u00e0\u00b8\u00a2\u00e0\u00b8\u00b2\u00e0\u00b8\u00a7\u00e0\u00b8\u00a7\u00e0\u00b8\u00a7\u00e0\u00b8\u00a7 \u00e0\u00b8\u00a7 \u00e0\u00b8\u00a7 \u00e0\u00b8\u00a7 \u00e0\u00b8\u00a7 \u00e0\u00b8\u00ad\u00e0\u00b9\u0088\u00e0\u00b8\u00b0)";YAHOO.Shortcuts.document_publish_date = "";YAHOO.Shortcuts.document_author = "sirinpaty@sahaviriya.com";YAHOO.Shortcuts.document_url = "";YAHOO.Shortcuts.document_tags = "";YAHOO.Shortcuts.document_language = "thai";YAHOO.Shortcuts.annotationSet = {};YAHOO.Shortcuts.headerID = "196ff2389af6453809c53f94451398c0";</SCRIPT>สวัสดีค่ะพี่ศิ _/\_
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ฝึกพูดมาจากน้องจินหรือเปล่าเนี่ย 55555<O:p</O:p
    ไม่ได้ฝึกพูดมาจากใครเลยค๊า มางออกมาจากเบื้องลึก ก้นบึ้งของจิตใจจิง ๆ <O:p</O:p

    เมย์กับคุณจินคงมีนิสัยคล้ายกัน (ว่าจะ mail ไปคุยด้วย ก็ยังไม่ได้ mail เลยอ่ะ)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ที่พี่ศิสอนน่ะ กระจ่างใจเลย เพราะความอยาก แล้วก็ไม่วางใจเป็นกลางนั่นเอง<O:p</O:p
    จะเก็บคำสอนของพี่ศิไว้เตือนใจเวลาที่เผลอลืมตัวอีกค่ะ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    นั่นสินะ เมย์ก็เคยได้ยินว่า คนที่อยากมักไม่ได้ คนที่ได้มักไม่ได้อยาก เฮ้อ! มนุษย์วุ่นวายจริงหนอ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมย์จะเพิ่มความอดทน แล้วก็สม่ำเสมอให้มากกว่านี้ค่ะ (ฮึด...มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ)

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมย์เอาหนังสือของพี่ศิให้เพื่อนอ่าน เพื่อนคนนี้นะเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือเท่าไหร่<O:p</O:p
    อ่านทีไร หลับทุกที แต่หนังสือของพี่ศิพอได้ไปปุ๊ป(ตอนเย็น) เขาอ่านรวดเดียวเกือบครึ่งเล่ม<O:p</O:p
    แล้วมาอ่านต่อตอนเช้าอีก แต่อ่านยังไม่ทันจบ ทนไม่ไหวโทร.มาเล่าให้เมย์ฟังว่า<O:p</O:p
    “เขารู้สึกคุ้นเคยกับคนเขียนหนังสือเล่มนี้ เหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน เขาบอกว่ามันผิดปกติ<O:p</O:p
    เพราะเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับหนังสือเล่มไหน ๆ เลย แล้วเขาเป็นคนที่ผูกพันกับเทพเจ้าจีนมาก<O:p</O:p
    พออ่านหนังสือพี่ศิ ที่เกี่ยวกับเทพเจ้าจีน เขารู้สึกตื้นตันจนน้ำตาจะไหล
    เมย์ฟังเขาเล่าแล้ว ก็รู้สึกปลื้มใจ อิ่มใจไงไม่รุ๊(อีกแหละ) คือดีใจที่เขาชอบหนังสือพี่ศิ แบบว่า พี่ฉัน... พี่ฉานเอง

    <O:p</O:p
    แล้วก็ดีใจกับเขาด้วยที่เขามีความตื้นตันใจเมื่อระลึกนึกถึงสิ่งที่เขาชอบ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พี่ศิได้กุศลมาก ๆ เลยนะคะเนี่ย ยิ้มแก้มบานเลยฉิ... อิ อิ <O:p</O:p
    และบุญกุศลใดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ น้องขอโมทนาด้วยค่ะ (แบ่งด้วย ๆ )
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พี่ศิค่ะ ถ้าน้องจะไม่ดูให้เมย์ เมย์ก็เข้าใจนะคะ เพราะเคสของเมย์ยังไม่หนักจริง ๆ นั่นแหละ
    <O:p</O:p
    แต่อย่างไรก็ตาม...(ฮ่า ฮ่า ฮ่า...มีแต่..) ทำบุญด้วยการช่วยชี้แนะ หรือช่วยกรุยทางให้คนที่ปรารถนา
    <O:p</O:p
    จะเดินทางสู่พระนิพพาน ได้บุญจ๊าดนักนะเจ้าค่ะ<O:p</O:p
    (ช่วยด้วย เอาหนูไปด้วย อย่าทิ้งหนูไว้คนเดียว ...แว๊ก ๆ )
    เมย์อยากเปลี่ยนตัวเองนะพี่ศิ อยากขึ้นมาเดินบนเส้นทางที่มุ่งตรงสู่นิพพานสายเดียว ไม่ต้องลดเลี้ยวไปไหน<O:p</O:p
    ทุกวันนี้ เดิน ๆ ไป เดี๋ยวก็พลัดตกลงข้างทาง เอ้า..ปีนขึ้นมาเดินใหม่ แล้วก็ตกลงไปอีก แล้วก็ปีนขึ้นมาใหม่ แฮ่ก ๆ

    <O:p</O:p
    เคสไม่หนักหนาน้องเขาไม่ค่อยอยากให้มาเสียสะตางดูหรอก เขาไม่อยากได้
    <O:p</O:p
    ไม่อยากได้ แต่เค้าอยากให้นี่ตัวเอง ถึงจะไม่ดูให้ ใคร ๆ ก็ยังอยากทำบุญด้วยอยู่ดีน่ะแหละ

    <O:p</O:p
    เพราะว่าพี่ศิและน้อง คือผืนนาเนื้อดี หว่านพืชผลลงไป ก็งอกงาม ไม่แคระแกรน หาได้ง่าย ๆ ที่ไหน ที่นาดี ๆ แบบนี้<O:p</O:p
    อย่าไปขัดศรัทธาเขาเล้ย น่า นะ (นิดหนึ่งนะ)

    <O:p</O:p
    พี่ศิ แฟนเมย์เค้าไม่ค่อยเชื่อเรื่องน้ำท่วม แผ่นดินหาย แต่เมย์เชื่อ แล้วเมย์ก็กลัวตายด้วย เมย์ยังไม่พร้อมตายตอนนี้<O:p</O:p
    (อย่าเพิ่งหัวเราะเยาะดี้) ก็เมย์ยังสะสมบารมีไม่พอเลย ขืนตายตอนนี้ ก็ขาดทุนแย่ดิ อุตสาห์เกิดมาทั้งทียังเอาดีไม่ได้เลย <O:p</O:p
    (เกิดกันได้ง่าย ๆ เมื่อไหร่ล่ะ) จาทำงัยให้เขาเชื่อดีล่ะ พี่ศิช่วยเสก ปุง ปุง ให้หน่อยฉิ
    <O:p</O:p
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ให้มาค่ะ ขอให้พี่ศิมีความสุข ก้าวหน้าในทางธรรม ได้มรรคผลสมบูรณ์โดยพลัน สาธุ

    <O:p</O:p
    ด้วยความเคารพค่ะ (เค้าจาเคารพนี่ ปล่อยเค้าเหอะน๊า)

    <O:p</O:p
    เมย์(ปฏิสัมภิทัปปัตโต)<O:p</O:p

    ***********************************************
    สาธุ....การให้ธรรมะเป็นทาน
    คือการให้ที่ชนะการให้ทั้งปวง....

    ทำต่อไปเถิด....จะเกิดผล
    แล้วจะเข้าใจว่า
    เมื่อถึงเวลาบุญกุศลเต็ม
    อะไรมาขวาง ก็ฉุดไม่อยู่....




    หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
    http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31 <O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย sasiriya : เมื่อวานนี้ เมื่อ 07:25 PM
    <!-- / edit note -->
    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls -->[​IMG] <!-- / controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD background=images/gradients/bg_p.gif>สมาชิก 1 คน ได้กล่าว "ไม่เห็นด้วย" กับข้อความของ คุณ sasiriya ที่เขียนไว้ทางด้านบน</TD></TR><TR><TD class=alt2 height=29>ruice7 (วันนี้)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ******************************************

    อยากให้กัลยาณมิตรในที่นี้ช่วยวิจารณ์ด้วยสติและปัญญาหน่อยเถิด
    ว่าที่ คุณ ruice7 ได้คลิกปุ่มไม่เห็นด้วยกับข้อความนี้
    ไม่ทราบว่าข้อความนี้ผิดเพี้ยนหรือปิดเบือนธรรมะ หรือเป็นข้อความตัวอย่างที่ไม่ดีอย่างไร
    แต่หากคุณ ruice7 อ่านไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจ แปลความไม่ออก
    วันหลังเขียนถามได้นะคะ
    ก่อนที่จะเป็นตัวอย่างให้เด็กรุ่นหลังมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไขว้เขวในธรรมะตาม
    และเดินไปในทางที่ผิดไม่ถูกไม่ควร
     
  16. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    ตะเอง เค้ามะได้เปงกัลยาณมิตรของตะเอง เค้าเปงเพื่อนที่น่าร๊ากที่เหมาหนังสือตะเองทุกเดือนไปแจกพร้อมบังคับขืนใจลูกศิษย์ของเค้าให้อ่าน ครายมะอ่านมะต้องมาเรียกเค้าว่า อาจารย์ ฮ่าฮ่า

    ค่ะ ที่ป้าศิพูดถึงข้างบนคือคุณแม่ของป้าแน๊ตเอง ถ้าถามว่าป้าแน๊ตไม่เตือนคุณแม่ก่อนที่เขาจะไปรักษาคุณลุงหรือเปล่า ตอบได้ว่า ป้าแน๊ตเตือนแล้วว่า คนรักษาต้องเต็มร้อยก่อนถึงจะไปรักษาคนป่วยได้

    คุณแม่ของป้าแน๊ตเป็นคนรักพี่รักน้องมากๆ มากจนเกินความพอดี นี่คือพิษของความรักที่ไม่มีสติ คุณแม่คิดดีปรารถนาดี แต่สติลืมบอกคุณแม่ว่า คนเรามีกำหนดกรรมของตนเอง ระหว่างรักษาตามวิธีการของท่าน ท่านก็อธิษฐานจิตอย่างแรงและตั้งมั่นมากว่า ความเจ็บป่วยใดๆ ที่พี่ชายข้าพเจ้ามี ข้าพเจ้าขอแบ่งความเจ็บปวดนั้นมาไว้เอง

    ก่อนหน้าที่คุณแม่จะรักษาคุณลุง ท่านเองก็ป่วยเป็นโรคเอ็มจี (ระบบกล้ามเนื้อและปลายประสาทอ่อนแรง) แต่ก็ได้รักษาจนแข็งแรง หน้าใสสวยกว่าคุณลูกอีก พอรักษาคุณลุงห้าวัน วันที่หกป้าแน๊ตต้องส่งฉุกเฉิน เพราะคุณแม่หายใจไม่ได้ ทุกอย่างปกติหมด ยกเว้นระบบหายใจ คุณแม่หายใจเองไม่ได้ต้องสอดท่อหายใจ (ตามหลักการแพทย์แล้วกรณีที่จะเกิดขึ้นได้เช่นนี้ ต้องเป็นกรณีที่คนไข้ไม่กินยาตามหมอสั่ง แต่คุณแม่ป้าแน๊ตเป็นคนไข้ที่ดี กินยาตามหมดสั่งทุกครั้ง เพราะท่านกลัวจะเป็นอัมพฤกษ์มาก ดังนั้นสันนิษฐานที่ว่า คุณแม่ป้าแน๊ตแอบไม่กินยาจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้)

    หากจะถามป้าแน๊ตว่า ป้าแน๊ตจะเสียใจหรือเปล่าถ้าคุณแม่อาจจะต้องจากไป ป้าแน๊ตตอบได้ว่า ไม่เสียใจเลย เพราะช่วงที่เรามีชีวิตอยู่ร่วมกัน ป้าแน๊ตได้ทำดีที่สุดเท่าที่ลูกคนหนึ่งพึงกระทำได้ต่อคุณแม่แล้ว แต่ถ้าป้าแน๊ตไม่ได้เคยทำอะไรดีๆ ให้แม่เลย นี่แหละ..ควรเสียใจ ป้าพูดถูกไหม

    เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนวันที่คุณยายป้าแน๊ตเสีย (ซ่อมไม่ได้ด้วยแหละ) ป้าแน๊ตเห็นพวกลูกๆ (ก็คือ ลุงๆ ป้าๆ และคุณแม่) เที่ยวหาของกินที่ดีที่สุด หาอะไรที่แม่ตัวเองชอบที่สุดมาไว้หน้าโลง แล้วก็เคาะเรียกโลงให้แม่มากิน วันนั้นเป็นวันที่ป้าแน๊ตตั้งปณิธานไว้แล้วว่า ฉันจะไม่เป็นอย่างนั้น ฉันจะดูแลแม่และจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้เมื่อท่านยังอยู่ ไม่ใช่มาทำให้เมื่อเขาจากเราไปแล้ว

    ขอให้บทความของป้าแน๊ตเป็นบทเรียนกับทุกคนค่ะ
     
  17. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขออนุญาตเจ้าของกระทู้พูดถึงเรื่องผู้ให้กำเนิดกันสักหน่อย

    เคยมีลูกศิษย์หลายๆ คน ถามป้าแน๊ตว่า
    1. ถ้าพ่อแม่เราได้กันเพราะความใคร่ ท้องแล้วคลอดแล้วก็เอาไปทิ้งไว้ตามสถานเลี้ยงเด็ก แล้วเรายังต้องกตัญญูกับคนแบบนี้ด้วยอีกหรือ
    2. ถ้าพ่อแม่เรา ไม่เข้าใจเรา บ่นอยู่นั่นแหละ ให้เรียนโน่นเรียนนี่ทั้งๆ ที่ไม่อยากเรียน น่าเบื่อ แล้วเราจะยังควรเรียนในสิ่งที่เรารักหรือตามใจพ่อแม่ดี
    3. ทำไมลูกๆ ถึงไม่เข้าใจเลยว่า พ่อแม่หวังดี ให้เรียนก็เพราะอยากให้มีพื้นฐานที่ดี เป็นการปูอนาคตไว้ให้ ที่บ่นก็เพราะอยากให้ได้ดี เราผ่านน้ำร้อนมาก่อน ทำไมถึงไม่เข้าใจบ้าง ที่ต้องให้ตาให้ยายเลี้ยงก็เพราะพ่อแม่ต้องไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว กลับมาก็เหนื่อยแล้ว อยากพัก ไม่อยากให้ใครกวนใจ ทำไมลูกไม่เข้าใจบ้าง

    คำถามข้างบนป้าแน๊ตตอบเสมอๆ ว่า

    สำหรับคนเป็นลูก

    - ไม่ว่าพ่อแม่เราจะเป็นอย่างไรก็ตาม ให้กำเนิดเราด้วยวิธีใดก็ตาม เลี้ยงดูเราหรือไม่ก็ตาม เราก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงได้ว่า นี่คือพ่อแม่ที่ให้กำเนิดเราและพวกเขาก็ได้อุ้มท้องเรามาอีกเก้าเดือน รวมทั้งเจ็บปวดทั้งก่อนคลอด กำลังคลอด และหลังคลอด... แค่ตรงนี้ นี่คือ หนี้บุญคุณที่เราต้องหมั่นระลึกถึง

    ถ้าเขาเอาเราไปทิ้งที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก็คือการตัดสินใจของเขา คุณพ่อคุณแม่ที่รับเลี้ยงดูเราจนเติบใหญ่โดยไม่ได้รังเกียจว่า เราไม่ใช่สายเลือดของท่าน นี่แหละคือพ่อแม่ที่เราต้องทดแทนคุณ จะเลี้ยงเราดีหรือไม่ดี ก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่จะทำให้เราอกตัญญูต่อท่าน

    อะไรที่ทำให้ผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ ควรทำขณะที่ยังมีชีวิตอยู่และทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ พ่อแม่บ่น ถ้าเป็นเรื่องจริงก็รับฟังอย่างมีสติ แล้วก็ขอโทษถ้าเราผิด ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงก็นิ่งฟัง รอจังหวะ พอพ่อแม่อารมณ์ดีแล้วค่อยเข้าไปอธิบายให้ฟัง

    หากเมื่อเล็กๆ พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ เพราะต้องไปทำงาน กลับมาก็เหนื่อย เข้าไปคุยด้วยก็โดนดุออกมา ในเวลานั้นเราน้อยใจ เสียใจ อาจทำอะไรประชดประชัน เพียงเพื่อตอบโต้และเรียกร้องความสนใจ เมื่อเราโตขึ้นแล้วมองย้อนกลับไป ก็ไม่ควรเอาเรื่องที่พ่อแม่ไม่มีเวลาให้เรามาเป็นข้อปมด้อยของตัวเอง ควรมองท่านให้เข้าใจว่า ถ้าไม่ได้พวกท่านออกไปหาเงินหาทองมาเลี้ยงครอบครัว เราจะมีข้าวกินหรือ เราจะมีวันนี้ไหม ป้าพูดถูกไม๊

    ลูกๆ ทุกคนที่ยังมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ ไม่ว่าท่านจะดีหรือไม่ดีกับเราอย่างไร อดทนเถอะค่ะ กรรมกำหนดและจัดสรรเราให้เกิดมาเป็นลูกท่าน เราก็ควรทำหน้าที่ของผู้เป็นลูกให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ไม่ต้องรอสงกรานต์เพื่อไปรดน้ำดำหัวขอขมาท่านหรอกค่ะ ทำเมื่อไรก็ได้ที่ใจเราต้องการ พวงมาลัยสวยๆ พวงละสิบ ยี่สิบบาท กราบเท้าท่านไม่ได้ ก็กราบที่ตัก กราบที่ตักไม่ได้ก็กราบที่ไหล่ กราบขออโหสิกรรมกับท่านซะ จะได้ไม่มีหนี้กรรมติดกันต่อไป

    สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่

    - อย่ายัดเยียดลูกในสิ่งที่ลูกไม่ต้องการทำโดยไม่อธิบายเหตุผลให้เขาฟัง โปรดพิจารณาให้ถ่องแท้ก่อนว่า เราอยากให้ลูกเรียนโน่นเรียนนี่ ทำโน่นทำนี่ เพื่อสนองความต้องการ ความฝันที่เราไม่เคยได้ในวัยเด็ก หรือเป็นความปรารถนาดีของเราจริงๆ หากเป็นการมองการณ์ไกลของท่าน ก็ควรอธิบายให้ลูกๆ ฟังอย่างแจ่มชัด และใจเย็น ไม่ใช่ว่าพอเริ่มอธิบาย ลูกไม่เข้าใจ ก็พุ่งปรี๊ดปรอทแตก

    - พ่อแม่ยุคนี้ต้องทำงานนอกบ้าน กลับมาก็เหนือยแสนเหนื่อย แต่โปรดพิจารณาให้ลึกซึ้งสักนิดว่า ลูกๆ เพียงแค่เห็นหน้าพ่อแม่กลับมา เขาก็อยากเข้ามากอด มาหอม เพราะเขารัก สละความเหนื่อยของคุณอีกนิดแค่ห้านาทีสิบนาที เล่นกับลูก กอดลูก ลูกทนเหม็นเหงื่อของเราได้ เราก็ต้องทนเหนื่อยได้ แค่สิบนาทีแค่นั้นมีผลต่อจิตใจลูกอย่างมหาศาล นี่คือความอบอุ่นที่ลูกได้รับในสังคมปัจจุบันแต่ละวัน พอเขาเหม็นเราได้ที่แล้ว เขาก็จะผละไปเอง ที่นี้แหละ คุณพ่อคุณแม่ก็ได้เวลาของตัวเองอาบน้ำอาบท่า นอนเล่นได้แล้ว

    แต่ถ้าลูกวิ่งเข้ามาหาคุณแล้วคุณผลักไสลูกออกไป ด้วยเพียงเหตุผลที่ว่า พ่อเหนือยแม่เหนื่อย อย่าเพิ่งยุ่งได้ไม๊ แม่จะนอนอ่านนิยาย อย่าเพิ่ง พ่อจะนอนพักเดี๋ยวก่อน แค่ประโยคสั้นๆ คุณได้ทำร้ายจิตใจของลูกคุณโดยไม่รู้ตัว เมื่อเป็นบ่อยๆ เข้า ลูกก็จะรั้น ดื้อ ซึ่งเป็นกระบวนการตอบโต้โดยธรรมชาติเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้ให้กำเนิดตัวเอง หากคุณพ่อคุณแม่ยังเพิกเฉย ก็เท่ากับว่า คุณเองนั่นแหละที่สร้างรอยร้าวและผลักไสลูกออกจากอ้อมอกด้วยมือของคุณเอง

    กลับมาจากทำงานไม่ว่าเหนื่อยแค่ไหน จงอ้าแขนรับลูกที่กระโดดเข้ามากอด สิบนาทีเท่านั้นเองค่ะเพื่อสุขภาพจิตที่ดีของลูกคุณ

    - เมื่อลูกโตขึ้น สอนให้เขาใส่บาตร ไปวัด ทำบุญ สวดมนต์ หากลูกเข้าสู่ย่างวัยรุ่นลองพยายามเป็นเพื่อนกับลูก อย่าเป็นแค่คุณพ่อคุณแม่ แล้วลูกของคุณจะมีวัคซีนความรักพอ และจะไม่ปิดบังพ่อแม่ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรทั้งสิ้น เพราะเขารู้ว่าเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาก็คือคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง

    ปรารถนาดีค่ะ

    ป้าแน๊ต
     
  18. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    "ช่วยหนูด้วยยยยยยย"

    ป้าศิฝากมา .....กึ๋ยส์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • snake1.jpg
      snake1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      11.7 KB
      เปิดดู:
      214
    • snake2.jpg
      snake2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.6 KB
      เปิดดู:
      213
    • snake3.jpg
      snake3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.1 KB
      เปิดดู:
      218
    • snake4.jpg
      snake4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.4 KB
      เปิดดู:
      209
    • snake7.jpg
      snake7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.2 KB
      เปิดดู:
      214
    • snake10.jpg
      snake10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      15.8 KB
      เปิดดู:
      215
    • snake11.jpg
      snake11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.6 KB
      เปิดดู:
      212
    • snake12.jpg
      snake12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      11.9 KB
      เปิดดู:
      210
  19. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    ประกาศ

    คุงเม้ง
    คุงชาติ
    คุงปาล์ม
    คุงมงคลชัย

    สี่ชื่อข้างบนนี้ โปรดเป็นบุคคลเรียบร้อยระหว่างมาเยี่ยมบ้านป้าศิ อย่าทำให้บ้านป้าศิไม่มีระเบียบและไร้แก่นสารด้วยการแซวกันเอง ป้าแน๊ตให้อภัยแล้ว กรุณากลับบ้านกลับช่องไปติงต๊องด้วยกัน

    ผู้โดยสารท่านใด (เลียนแบบป้าศิ) ต้องการรีดขดหยักในสมองให้เป็นเส้นตรง สามารถไปเยี่ยมคุงทั้งสี่ชื่อข้างต้นได้ที่จักรวานคู่ขนานค่ะ

    ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ณ บัดนาว อิอิอิอิ
     
  20. Twin Hearts

    Twin Hearts Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +42
    ขอบคุณป้าแน๊ตมากนะคะสำหรับเรื่องราวและบทเรียนดีดีค่ะ

    แอนนึกถึงช่วงที่เคยไม่เข้าใจพ่อแม่เหมือนกัน แต่ตอนนี้เข้าใจท่านแล้วและอยากทำให้ท่านมีแต่ความสุขในบั้นปลายชีวิต ทุกๆวันสำหรับท่านก็คือนาฬิกาเดินถอยหลังสำหรับลูกที่จะได้ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ค่ะ


    ขอให้คุณแม่และคุณลุงของป้าแน๊ตมีอาการดีขึ้น และกลับมาแข็งแรงไวๆนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...