สัมมาทิฎฐิเป็นไฉน( ไม่ธรรมดา )

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 5 มีนาคม 2009.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [​IMG] = จิวยี่ ณ.ปัจจุบัน อนาคต ยังไม่รู้ อดีต คือ ไอน์สไตน์+ขงเบ้ง (เราตั้งฉายาให้เขาเองแหละ)
     
  2. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยโลภสาวกบริวาล แม่เหล็กขนาดใหญ่ย่อมดึงแม่เหล็กขนาดเล็กมาเอง.

    คุณขันธ์ผมมาสอบอารมณ์คุณ คุณ ยังมีขึ้นมีลง ไม่เป็นกลาง
    ยังเป็นอารมณ์ของชาวบ้าน แท่งหินทับหญ้า


    คุณขันธ์ยุติ แล้วทำไม่ยังมีผูกพยาบาทต่อโชแปง และทุกคนที่เห็นตรงข้ามกับคุณ

    พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยไปบังคับศรัทธาใคร ว่าภิกษุ ถ้าเธอไม่เชื่อ

    พระพุทธเจ้าพวกเธอจะตกนรกนะ มีแต่ให้ลองปฏิบัติดูก่อน เมื่อไม่ได้ผล
    จะถอนศรัทธา ที่หลังท่านก็ไม่ว่า

    ผมว่าอะไรที่มันพอจะลืมได้ ก็ลืมให้หมด

    แล้วเริ่มเป็น 0 ปฏิบัติใหม่ตามนี้พิจารณาแล้วไม่มีกรรมมีโทษ

    เรื่องของสมาธิทั้งหมด แต่ อานาปานสติ อสุภกายคตา มรณานุสติ พิจารนาธาตุ จัดเป็นวิปัสสนากรรมฐานได้ เมื่อน้อมเข้ามาสู่พิจารณาตนเอง เพราะง่ายต่อการพิจารณาสติปัฏฐาน 4 และเรื่องสมาธิเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะเกือบทุกสำนักที่สอนกรรมฐานกันในประเทศไทย มุ่งเน้นเบื้องต้นในเรื่องของสมาธิกันส่วนมากจนทำให้บางบุคคล บางสำนักที่สอนกรรมฐานเข้าใจผิดคิดว่าเป็นวิปัสสนากรรมฐานไปเสียก็มี เพราะการไม่ศึกษาหรือปฏิบัติให้ถึงที่สุดตามพระไตรปีกฎ หรืออาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนแล้วไม่ศึกษาให้ถ่องแท้ จึงเข้าใจผิดว่าที่ปฏิบัตินี้และคือที่สุดของธรรม ทั้งที่เป็นเรื่องของสมาธิและฌานสมาบัติ จนมีบางคนหรือบางสำนักเห็นผิดว่า นิพพาน เป็นอัตตา(เป็นตัวตน) เป็นนิจจัง(เทียงแท้) เป็นสุขขัง(เป็นสุขอย่างเดียว) ไปเสีย สวนทางกับไตรลักษณ์อย่างสิ้นเชิง ความจริงแล้วผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานท่านมีวิธิที่จะยกสมถะหรือสมาธิขึ้นเป็นวิปัสสนาได้โดยไม่ยาก ด้วยหลักง่ายๆ คือเมื่อสมาธิเป็นอารมณ์เดียวถึงความสงบนิ่งเต็มที่ตามกำลังของตนเองและง่ายต่อการพิจารณานำมาพิจารณา ขน ผม เล็บ ฟัน หนัง หรือพิจารณาอสุภะ หรือพิจารณาความตาย เห็นเป็นไตรลักษณ์ จนจิตเข้ามาย้อนดูตัวเองแยกเป็นรูป กับนาม คือสิ่งที่กำลังกำหนดภาวนาอยู่ กับความรู้หรือตัวรู้ในขณะนั้นๆ กลายเป็นการเริ่มเข้าสู่ประตูวิปัสสนาญาณ
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แหะ แหะ คือว่า มันมาจากความมึนขอรับ
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    แถมอีกนิด กระโดดยิงปืนกลได้แบบไม่กระพริบตา อีกตะหาก นะ (ชงชากันเข้าไป อร่อยจริงนะ ขอบอก... แต่คิดว่า เขา [​IMG] คงไม่กระเทือนซักเท่าไร เพราะรู้ทันเราอยู่เรื่อยแหละ)
     
  5. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    [​IMG]
    ยิวยี่คือคนที่กระอักเลือดตาย

    เพราะโดนขงเบ้งยั่วโทษะ

    ยิวยี่ถึงกับ ต่อว่าฟ้าดิน

    ฟ้าส่งยิวยี่มาเกิด แต่ทำไมต้องส่งขงเบ้งมาเกิดด้วย.
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ผู้ไม่มีพยาบาท โลกย่อมสรรเสริญ เนาะ
    ผู้มีมุทิตาจิต ย่อมเป็นที่รัก ของทั้ง 3 โลก
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ใช่หรือท่าน เราว่า ขงเบ้งกระอักเลือดตาย เพราะ จิวยี่ นะท่าน [​IMG]

    **แก้ไข** เราเข้าใจผิดเองแหละ คิดถึง สุมาอี้ ดันจำผิด เป็น จิวยี่ ซะงั้น [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2009
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เจ๊ เขาเข้าใจผิด ผมมะใช่ จิวยี่ มะใช่ ขงเบ้ง

    แค่ ชอบคนๆหนึ่ง ว่ากันตามตำนาน มีเพื่อนคือ จางเหลียง
    มีแฟนคือ ลิตี่ มีสหายคือ หานซิ่น มีน้องคือ ฌ้อปาอ๋อง

    จางเหลียง คือ กุนซือ

    ลิตี่ คือ คนเดินกลยุทธ

    หานซิ่น เป็นคนขับเคลื่อน

    คนที่เป็นต้นแบบที่ผมชอบ ไม่ต้องทำอะไร ร้องไห้อย่างเดียวพอ

    ยอมอกตัญญูด้วยความอดกลั้น เพื่อเป้าหมาย

    ยอมทรยศเพื่อน พี่น้อง เพื่อเป้าหมาย

    เห็นก้อนเมฆเป็นตามที่ใจอยาก และเห็นใจที่อยากนั้นแหละคือสิ่งที่เป็น

    ศาสนาพุทธเข้าสู่จีนในสมัยนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2009
  9. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ผมยินดีที่เห็นคุณศรีฯ
    พยายามช่วยคนที่คุณคิดว่าเขาจะตกนรก
    โดยที่คุณอาจพาดเองโดยไม่รู้ตัว

    ;aa24
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    แปลกดีนะ เออ ไม่นึกว่า ในเว็บธรรมะจะเป็นไปได้แบบนี้
    ก็นั่นแหละ นรกแล้ว
    มีการตั้งก๊กตั้งเหล่า อย่างไม่ได้ดูอรรถดูธรรม
     
  11. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณศรีฯ เป็นไปได้นิ เห็นเก็บอารมณ์ได้ดีพอควร
    หลุดซะแล้ว คุณรู้ได้ยังไงว่าแนวการปฏิบัติของผมเป็นอย่างไร?


    คุณยังไม่รู้จักตนเองเลย เที่ยวพยากรณ์คนอื่นวุ่นว่ายไปหมด
    ผมอาจจะไปนั่งเล่นตากลมเย็นๆ ตีขิมอยู่บนหน้าผาตั้งนานแล้ว
    คุณเองยังวนเวียนมัวเมาอยู่กับที่ แล้วยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ

    ;aa24
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    (sing) มีอิน มีอิน
     
  13. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ธรรมภูตเด็กเอ๋ยเด็กน้อย จงเร่งศึกษาจะได้มีวิชชาอาสวักขยญาณสำหรับตน.


    ถ้าพาดคุณเองนั่นแหละธรรมภูตที่จะลงนรก

    คุณอ่านผมไม่ออก หัวอ่านคุณยังไม่ทันสมัยพอ คุณธรรมภูตเปรียบได้กับ
    ผู้ปีนต้นไม้โหนเชือกจะข้ามหน้าผาไปอีกฝั่งแต่หมดกำลังความเพียรเสียก่อน เชือกเวี่ยงกลับมาอยู่ที่เก่าดังเดิม

    แต่ผมรู้แนวการกระทำของคุณ

    คุณธรรมภูตอย่าทำเป็นประมาทไป
    คุณธรรมภูต นิพพิทาญาณคุณยังไม่ผ่าน

    อย่าปีนเกลียวไป สังขารุเบกขาญาณ แล้วยังต้องพบกับ อนุโลมญาณ เรียกว่าญาณหัวเลียวหัวต่อ คือ
    หมายความว่าเกือบจะเป็นหรือเกือบจะได้ หรือเพียงนิดเดียวก็ถึง พอถึงจุดนี้ผู้ปฏิบัติกรรมฐานจงอย่าเข้าใจผิดว่าจะต้องถึงนิพพานแน่นอน เพราะญาณนี้จะเกิดขึ้นในช่วงอึดใจเดียว แต่มีเหตุหลายประการที่จะทำ ไม่ให้ถึงฝั่งนิพพาน ดังนั้นผู้ปฏิบัติวิปัสสนาจงอย่าหลงยึดในอาการนั้น แล้วคิดเข้าข้างตนเองว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ไปเสียก่อน โดยลืมหรือทิ้งการกำหนดหรือภาวนา เพราะเมื่อผู้ปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 เกือบถึงญาณ 12 นี้เมื่อไม่ถึงฝั่งพระนิพพาน ที่จะเป็นวิปัสสนาญาณก็จะถอยกลับลงมาที่ญาณ 11 สังขารุเบกขาญาณดังเดิม.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2009
  14. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    การใช้ชื่อนั้นชื่อนี้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญอันใดนัก
    การพูดกลับไปกลับมานี่สิ สำคัญอย่างยิ่ง
    สหาย เราเน้นฟังที่ธรรมอยู่เสมอมา
    เราเห็นชื่อใหม่ๆแสดงธรรมให้รู้สึกเหมือนคนคุ้นเคย เราก็นึกไปว่าคงจะเป็นคนๆนั้น
    หาใช่เราสนใจว่าจะเป็นหรือไม่เป็น จะใช่หรือไม่ใช่

    ท่านช่วยชี้แนะเราอยู่หลายครั้ง เราก็ยินดีมาก
    ท่านยังแสดงให้เราเห็นกิเลสในท่านอีกหลายครา เราก็ยินดีมากๆ
    วันนี้เราก็ได้เรียนรู้อีกหลายอย่าง ถึงความร้ายกาจของกิเลสในจิตใจมนุษย์
    มันสับสน ปลิ้นปล้อน หลอกลวงใจคน ได้ต่างๆ นานา
    การแสดงธรรมที่ดูสูงส่ง ลึกซึ้ง หากดูผิวเผิน ก็แสดงให้เห็นภูมิปัญญาของผู้กล่าว
    แต่เมื่อมองให้ลึกลงไป ยิ่งน่ากลัว ว่าแม้แต่ผู้ที่ดูเหมือนมีภูมิธรรมสูง ก็ยังไม่วาย ไถลออกไปข้างทาง ทั้งๆที่ดูเหมือนจะเริ่มเดินสู่ทางสายกลางแล้ว

    ท่านนับถืออาจารย์ เราก็ทราบดี เราก็เป็นเหมือนท่าน บ่อยครั้งที่ข้อความมันขวางหูขวางตา ไม่สมกับภูมิที่มี
    เราก็อยากจะออกมาเตือนใจจะขาดรอนๆ แต่ก็พยายามยั้งๆเอาไว้ ซึ่งบางครั้งก็อดไม่ได้จึงต้องออกมาพูดสักหน่อย
    และผลที่ได้รับทุกครั้งก็คือ โดนด่ากลับมา หรือไม่ก็ ถูกตำหนิว่า เรายังไม่เข้าใจ มองไม่ขาด มองไม่ลึกซึ้งพอ

    เราจึงต้องย้อนกลับมาดูตัวเอง ว่าเป็นอย่างนั้นจริงไหม พอลองพิจารณาดู ก็พบว่า ใจเราหรือเปล่าที่สร้างภาพของความเป็นผู้ทรงธรรมเอาไว้ พอไม่ใช่อย่างที่คิด ใจมันก็ขัดๆ
    เราจะไปรู้ได้อย่างไรว่า อาจารย์มีความคิด มีภูมิปัญญาเช่นไร ในเมื่อทุกท่านก็รู้ว่า สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัตตัง
    แต่สิ่งหนึ่งที่เราแน่ใจก็คือ ภูมิธรรมของอาจารย์เหนือบุคคลทั่วไป สามารถแก้ข้อสงสัยเราได้ทั้งหมด ขอเน้นว่า ทั้งหมด ไม่มีข้อไหนที่แก้ไม่ได้
    ผนวกกับเราเป็นคนยอมลงให้ธรรมได้ และยังอาศัยความสัมพันธ์อันดี ทั้งศรัทธาที่มี และ ความเชื่อมั่นในการแสดงออกต่างๆ
    ดังนั้น เราจึงเลือกที่จะพิจารณาตามอย่างรอบคอบที่สุด

    การแสดงออก พี่โชแปงก็ทราบดี ล้วนเป็นสมมติทั้งสิ้น ท่านจะยึดมั่นกับมันทำไม
    เมื่อเห็นคนนี้ แสดงออกอย่างนี้ ก็ไปสรุปว่า นิสัยต้องเป็นแบบนี้
    การมองเช่นนี้ เป็นการมองสำหรับคนทั่วไป
    แต่ถ้าเรามีความเชื่อมั่นในภูมิที่สูงกว่า การแสดงออกที่ดูขัดใจนั้น ยอมมีเหตุผลบางอย่างที่เราไม่อาจเข้าใจได้
    พวกเราทั้งหลายมักมองกันว่า ผู้ทรงธรรม ต้องพูดจาดีดี เพราะๆ ไม่ขัดแย้งกับใคร ไม่ผูกเวรกับใคร
    ผมเองก็มองเช่นนั้นเหมือนกัน
    ลองพิจารณาดู นั่นมันอุดมคติเกินไปหน่อยไหม เราจะไปรู้กับท่านอาจารย์ได้อย่างไร เราตีความของเราไปเอง
    ลีลาการแสดงธรรมก็ต่างกัน พวกกิเลสหนา อาจต้องกระเทาะแรงๆ พวกไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ก็สอนเบาๆ ซึ่งที่ผ่านมา ก็เป็นอย่างนั้น มิใช่หรือ?
    พี่โชแปงลองสังเกตุว่า ใครมีหลักอย่างไร ใครกลับไปกลับมาอย่างไร จุดยืนนี้สำคัญมาก ถ้าใจไม่มีหลัก มันก็แกว่งไปแกว่งมา แล้วตัวเราเอง ที่คิดว่า มีปัญญา มันก็สับสน สงสัยอยู่ร่ำไป ในเมื่อวิจิกิจฉายังไม่ขาด ก็ไม่ต้องเสแสร้งว่า ไม่สงสัย เข้าใจทุกอย่าง มีหลักธรรมในใจดีแล้ว
    เพราะสิ่งเหล่านี้ ล้วนทำให้เนิ่นช้าทั้งสิ้น

    ส่วนที่ผ่านมา เราเห็นกิเลสของคนมากมาย ซึ่งก็ต้องมีอยู่แล้ว แต่มันก็โผล่มาให้เห็นชัดๆ และดูเหมือนพี่โชแปงก็มีไม่ใช่น้อยเลย คงจะปฏิเสธไม่ได้แน่ ว่าว่าง ไม่ยึด ปล่อยวาง
    ถ้าต้องการก้าวหน้า อย่าโกหกตัวเองเด็ดขาด พี่โชย่อมทราบดี

    ส่วนข้อความที่ว่า อาจารย์เราติดสิ่งใด เราก็รู้
    ขอตอบว่า เราไม่รู้หรอก จะไปรู้ได้ยังไง แต่ถ้าเดาเอาจากสิ่งที่แสดงออกมา ก็คงจะเหมือนๆกับที่ทุกท่านเห็น แต่ความจริง มันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆหรือ???
    ที่สำคัญ เราไม่สนใจว่าอาจารย์จะเป็นอย่างไร ติดตรงไหน
    หากอาจารย์ชี้ปัญญาให้เราได้ เราปฏิบัติก้าวหน้า วิปัสสนาญาณแจ่มแจ้ง ทุกข์เบาบางลง เท่าทันกิเลสมากขึ้น
    แค่นี้ ก็เพียงพอแล้ว มิใช่หรือ???

    ดังนั้น ขอสรุปคำตอบว่า ถ้าเรารู้จริง เราจะเลือกที่จะเตือนเพราะนับถือ

    แต่เราไม่อาจหยั่งจิตนั้นได้ เราจึงต้องเลือกที่จะปล่อย เพราะนับถือ แล้วทำตัวเป็นผู้สังเกตุการณ์ เพื่อศึกษาโลกธรรมและอุบายเล่ห์กลของกิเลสต่อไป...
     
  15. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    คุณ โชแปงสู้ ๆ

    วิมุตติเห็นมีแต่ชื่อ "น้ำท่วมทุ่ง...ผักบุ้งโหลงเหลง"พูดมาก แต่ได้ใจความน้อย


    ผมว่าแนวเซ็นฌานโชแปงก็ไม่เลวนะคับ
     
  16. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    พิมพ์สั้นๆ ไม่ง่ายกว่าหรือ
    ธรรมไหล รู้จักไหม
    กลั่นมาจากใจ เคยเป็นไหม...
     
  17. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    851
    ค่าพลัง:
    +63
    ไม่รู้จะว่าเราจะแก้ตัวไปทำไม
    เราพูดอะไรไม่ถูกหูท่าน ให้ชี้มาเถิด
    คุณไม่เข้าใจประเด็นหรือ มันไม่ใช่เรื่องผู้แสดงธรรมต้องสุภาพ พูดลื่นหู ชวนฟัง หรือให้ได้ดังใจผม

    แต่หมายถึง เราสอนคนอื่นได้แต่คนอื่นสอนเราไม่ได้
    วันหนึ่งเราชี้ธรรมคนนั้นคนนี้ได้ แต่เมื่อโดนชี้กลับลับไม่ได้

    คุณดูอารมณ์ ของผู้มีธรรมเถิด แน่วแน่ไหม

    ไม่ได้มาล้างว่าไม่เป็นสัมมาทิฎฐิแต่อย่างไร คนละเรื่องเลย พิจารณาให้ดีเถิด

    ส่วนเรื่องติด อะไร ก็ลองไปอ่านอารมณ์โพสย้อนหลังดูครับ
    คำหยาบจากการวางอารมณ์หยาบๆไม่ได้ นั่นคืออะไร
    แม้เราเสนอตัวว่าทำหน้าที่จบแล้ว แต่ยังลากมาต่อ คืออะไร
    ความมั่นคง ความสง่าในธรรมไปไหนหมด


    กระผมกับอาจารย์ไม่มีเหตุบาดหมางกัน เราก้พูดไปตามที่เห็น
    บางครั้งเราอ่านอักษร แต่ลืมกันไปว่า ใจมันปรุงแล้ว ยึดแล้ว เป็นภพแล้ว

    สงสัยในตัวเราให้ถามเรา อยากไปตัดสินเราหรือใครด้วยความคิดตน
     
  18. แพน้อย

    แพน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +25
    [​IMG]

    อืม...
     
  19. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    [​IMG][​IMG][​IMG]

    โชแปง น่ารัก

    คึกคักเวลาลงเล่น

    โชแปง ใจเย็นๆ

    เวลาลงเล่น ค่ำนักค่ำนัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...