ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ธรรมะจากสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา

​

ถูกรถเฉี่ยวชน ถูกลูกหลง ถูกสัตว์กัดต่อย

กรรมจาก เคยเป็นคนพาลเกะกะเกเร หาเรื่องเดือดร้อนให้ผู้อื่น มักรังแก และ สาปแช่งผู้อื่นอยู่เสมอ

ลดกรรม หมั่นพูดดี มีวาจาไพเราะ

 

มารไม่มีบารมีไม่เกิด คนเราต่างจิตต่างใจคิดเห็นต่างกัน
เด็กเชียงใหม่

 

เหตุแห่งภัยพิบัติอันน่าสะพรึงกลัว 10 ประการ​

​

ผู้บริสุทธิ์ที่บุคคลไม่ควรประทุษร้าย ไม่ควรปรามาส ไม่ควรล่วงเกินโดยประการทั้งปวง มิฉะนั้นจะเกิดภัยพิบัติ 10 ประการแก่บุคคลผู้ล่วงเกิน และเป็นผลพวง นับเนื่อง ถึงบุคคลอื่น ๆ ซึ่งเป็นทายาทแห่งกรรมอันหนักนั้นด้วย ​

ผู้มีอุปการะก่อน โดยไม่หวังผลตอบแทน เช่น พระคุณมารดา พระคุณบิดา พระคุณครูอุปัชฌายะธรรมมาจารย์ผู้ทรงคุณ ทั้งหลายทั้งปวง บรรดาลูกกตัญญูกตเวที พระโพธิสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ผู้มีดวงใจอิ่มด้วยบุญ ทั้งที่เป็นมนุษย์หรือสรรพสัตว์น้อยใหญ่ แม้แต่รูปปั้น พระปฏิมากรของพระองค์ บรรดาผู้ทรงฌานบริสุทธิ์ ตลอดถึงผู้บรรลุธรรมตั้งแต่เบื้องต้นเป็นลำดับ ตั้งแต่พระอริยะเบื้องต้น ตราบถึงพระอรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งปวง ​

บุคคลทั้งปวงที่เป็นผู้บริสุทธิ์ สุจริต และมีดวงใจอันอิ่มด้วยบุญ แม้แต่พระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม ผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน เป็นพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่ ของพสกนิกรทั้งหลายทั้งปวง ก็ตามนับได้ว่า เป็นผู้มีพระคุณบริสุทธิ์ โดยประการทั้งสิ้นทั้งปวง อันบุคคลมิบังควรประทุษร้าย มิบังควรปรามาส มิบังควรล่วงเกิน.​

ภัยพิบัติ ๑๐ ประการมีดังนี้​

ภัยพิบัติ ๑๐ ประการ อันเกิดแต่การประทุษร้ายล่วงเกิน ปรามาสผู้ทรงคุณดังกล่าวบุคคลผู้กระทำกรรมหนักนั้น ย่อมได้รับผลอันเหมาะสมแก่การกระทำของตน ๑๐ ประการดังนี้.​

๑. แม้มีเงินทอง ย่อมเปรียบเสมือนด้วยก้อนแห่งถ่านเพลิง แม้จับถือแล้วก็ต้องปล่อยทันที ไม่อาจเก็บงำไว้ได้ เสมือนว่าเงินทองนั้นเป็นของร้อนเหมือนก้อนถ่านเพลิง ​

๒. แม้ทรัพย์สมบัติทั้งหลายที่มีอยู่ ย่อมเปรียบเสมือนกระเบื้องแตก มีความหมายว่า ถ้าเป็นกระเบื้องหลังคา ก็ไม่อาจกันร้อน ไม่อาจกันลม ไม่อาจกันฝนได้ ถ้าเปรียบด้วยกระเบื้องคือ ภาชนะ ก็ไม่อาจใส่อาหาร ได้อย่างโดยบริบูรณ์ ทรัพย์สมบัตินั้นเป็นทรัพย์สมบัติที่ใช้การไม่ได้ ประดุจดั่งว่า เมล็ดฝ้ายผุ ถูกหนอนเจาะเพาะไม่ขึ้น ทรัพย์สมบัติล้วนกลายเป็นของคนอื่น ทั้งหมดเขาเวนคืนหรือถูกยึดไป​

๓. บ้านแตกสาแหรกขาด ญาติพี่น้องแตกแยก ขาดความสมาน ขาดความปรองดอง ขาดความสามัคคี แม้นมียศศักดิ์ ฐานันดร อันสูงส่ง ก็เป็นคนปราศจากสง่าราศี เป็นคนไม่มีราศี ย่อมถูกบุคคลผู้เป็นคู่เวรกลั่นแกล้ง ถูกขุดคุ้ยเรื่องเลวร้ายให้ขยาย กระจายความขึ้นเกินกว่าเหตุ ถูกอาเพท ให้บุคคลคู่เวรได้ใส่ร้ายป้ายสี ต่าง ๆ นานา เป็นเหตุให้เป็นที่รังเกียจแก่ผองชนทั่วไป​

๔. ย่อมถูกราชทัณฑ์ ต้องโทษ ถูกจองจำ ถูกกฎหมายบีบบังคับ ให้ต้องอาญาร้ายแรง ถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว​

๕. ย่อมเกิดทุกขเวทนาอย่างแก่กล้าแสนสาหัส โดยหาสมมุติฐานแห่งโรคไม่พบ​

๖. ย่อมเกิดโรคร้ายแรง เป็นที่ยิ่ง อันเป็นเหตุ ให้เกิดความทุกขเวทนาแสนสาหัส​

๗. อวัยวะร่างกายของเขา ย่อมพิกลพิการไป ด้วยเพราะการประสบอุบัติเหตุในลักษณะต่าง ๆ​

๘. จิตใจของเขาผู้นั้น ย่อมไม่อาจหยั่งลงสู่สมาธิรสอันลึกซึ้งได้ ขาดความปราโมทย์ ขาดความสดชื่น ขาดความแช่มชื่นจิต ขาดความปลื้มจิตปีติใจ จิตใจขาดความสุขุมเยือกเย็น ขาดความหนักแน่น ขาดความตั้งมั่นของจิตใจ จิตใจเสียการทรงตัว จิตใจมิอาจเข้าแถวเขาแนวให้เป็นระบียบได้ จิตใจซัดส่าย ฟุ้งซ่าน คิดมาก เกิดความเครียดอย่างแสนสาหัส เป็นเหตุให้เกิด โรคประสาทโรคจิต ชนิดต่าง ๆ ​

๙. ทุมเมโท....เขาผู้นั้น ย่อมถึงแก่ความเป็นคนบ้า ควบคุมสติไม่อยู่ แม้นได้รับการบำบัดเยียวยา ด้วยหยูกยาต่าง ๆ ก็มิอาจบำบัดให้หายเป็นปกติได้​

๑๐. ปาวโก... เทวทัณโฑ อัสนี อันว่าไฟแห่งบาปเวร ผู้ชำระ อันเกิดขึ้นโดยเหมาะสม แก่การกระทำของตน ย่อมเผาไหม้สมบัติบ้านเรือน ปีละหนบ้าง สองหนบ้าง หากแม้นว่า อันว่าไฟแห่งบาปเวรผู้ชำระ มิล้างผลาญซึ่งสมบัติบ้านเรือนแล้วไซร้ เทวทัณโฑ อัสนี อันว่าอาญาแห่งเทพ คืออัสนีบาต ย่อมฟาดลงกลางกระหม่อม แห่งเขาผู้กระทำซึ่งกรรมหนักนั้น (ฟ้าผ่า หรือไฟช๊อตตาย) อันเป็นลางร้ายเป็นความหมายแห่งไฟอันเกิดแต่ไฟแห่งอเวจี เข้ามาเผาผลาญเขาผู้นั้นให้ย่อยยับ เพื่อจักได้อบรมบ่มอุปนิสัยให้ได้เกิดความสำนึก รู้ผิดชอบชั่วดี รู้ความบังควรหรือมิบังควร โดยประการไร ๆ​

ดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นภัยพิบัติ 10 ประการ ที่เกิดขึ้นจากการประทุษร้าย ปรามาสล่วงเกิน ท่านผู้บริสุทธิ์ดังกล่าว ซึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงตรัสเทศนา ไว้แก่พุทธบริษัททั้งหลาย มีภิกษุ ภิกษุณี สามเณร สามเณรี สิกขมานา อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลายทั้งปวง เป็นต้น​

ซึ่งในปัจจุบันนี้ ปรากฏการณ์อันน่าสะพรึงกลัวนี้ ได้ประสบกันโดยมาก และเกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันโดยมาก และน่าสะพรึงกลัวมากอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้น เหล่าบุคคล ผู้รักสงบ รักสันติสุข อย่างโดยชอบธรรม ควรแนะนำซึ่งกันและกัน ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้และทั่วถึง ถึงสาเหตุแห่งภัยพิบัติ ๑๐ ประการนี้ แล้วพากันระงับเหตุแห่งภัยพิบัติทั้ง ๑๐ ประการดังกล่าว ​

มิให้เกิดภัยพิบัติทั้ง ๑๐ ประการ อันน่าสะพึงกลัวดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ทั้งแก่ตน คนที่รัก ญาติสนิท มิตรสหาย บริวาร และบุคคลอื่น ๆ ตลอดถึงเพื่อนร่วมชีวิต เพื่อนร่วมโลก เพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายทั้งปวง ด้วยการพากันสำนึก พินิจตรึกตรองโดยอย่างถี่ถ้วนถ่องแท้ ว่า ณ ทุก ๆ ปัจจุบันขณะนี้ ทุกข์นี้มีมาแต่ไหน และจะดับเหตุแห่งทุกข์นี้ ด้วยวิธีประการไร จึงจะถูกวิธีอย่างโดยบริบูรณ์ อย่างโดยเร่งด่วน จงอย่าได้ประมาทในชีวิตอันน้อยนิดนี้ และจงอย่าได้เป็นผู้ต้องเสียใจ และเดือดร้อนใจในภายหลังเลย.​

[FONT=Verdana, Tahoma, Helvetica, sans-serif]มาในพระธรรมบท อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ นิพพานะปัจจะโย โหตุ ท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะอย่างโดยบริบูรณ์ มีกระแสพระนฤพานอันเป็นเครื่องดับกิเลส ดับทุกข์ทั้งปวง โดยความเป็นอารมณ์ อยู่ทุกเมื่อเถิด[/FONT]​

[FONT=Verdana, Tahoma, Helvetica, sans-serif]ท่านทั้งหลาย จงอย่าได้เป็นผู้ประมาทแล้ว ท่านทั้งหลาย จงอย่าได้เป็นผู้มีความเดือดร้อนใจในภายหลังเลย นี้เป็นคำย้ำพร่ำสอน คำย้ำพร่ำตักเตือน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย เอวังโหตุ[/FONT]​

[FONT=Verdana, Tahoma, Helvetica, sans-serif]พระพุทธธรรมค้ำคูณชีวิต พระพุทธธรรมกำลังแผ่นดิน [/FONT]​

FROM: ธรรมสัญญา แดนพระมุนี กาญจนบุรี​

ที่มา http://www.navagaprom.com/oldsite/#​

 

เรื่องเดาถูก หรือ ไม่ถูก ผม ไม่ได้สนใจอะไรครับ ผมเป็นคนชอบวางแผนล่วงหน้า แล้วพร้อมเสมอในทุกสถานการณ์ ถ้ามันเกิดจริง ผมก็โชคดี แต่ถ้ามันไม่เกิด ผมก็เฉยๆ

พวกน้ำ พวกอาหาร ที่ผมตุนมานั้น ที่ได้ใช้ไป ถือว่าเป็นความโชคดีของผม เพราะในช่วงที่ผมไม่มีเงิน ผมก็เอาพวกนี้มากิน มาดื่ม แถมเหลือไปบริจาค ช่วยน้ำท่วม ใส่บารตรให้พระ ตอนที่ไป บริจาคสิ่งของที่เขตทุ่งใหญ่นเรศวร

เตรียมไว้ ก็ไม่ได้เสียหายอะไรครับ ดีกว่าที่จะต้องเอาเงินไปเสียกับค่าเหล้า ค่าบุหรี่ ค่าเที่ยวผับ ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย

 

ปตท.เผยหากประชาชนแห่เติมน้ำมัน 2 วันนี้ อาจมีปัญหาน้ำมันขาดตลาด​

​

กรุงเทพฯ 30 ม.ค. - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วง 2 วันนี้ที่คาดว่าประชาชนจะแห่ไปเติมน้ำมัน เพื่อรองรับการปรับขึ้นราคา 1.55 บาทต่อลิตร ซึ่งจะมีผลวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากปรับขึ้นภาษีน้ำมันของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น คือ หลายปั๊มน้ำมันอาจจะเกิดปัญหาขาดแคลน เพราะขณะนี้การผลิตน้ำมันของโรงกลั่นน้ำมันในประเทศไทยประสบปัญหา เช่น กรณีโรงกลั่นน้ำมันสตาร์ปิโตรเลียมรีไฟนิ่ง ไม่สามารถเปิดกลั่นได้ตามแผน หลังจากปิดซ่อมครั้งใหญ่เมื่อเดือน พ.ย.-ธ.ค.ที่ผ่านมา

ส่วนโรงกลั่นไทยออยล์ มีบางส่วนเดินเครื่องไม่เต็มที่ ประกอบกับประเทศไทยมีความต้องการใช้น้ำมันขยับสูงขึ้นเกินคาดการณ์ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันลดลงอย่างรวดเร็ว จนส่งผลทำให้ผู้ใช้น้ำมันหันมาใช้รถยนต์เพิ่มขึ้น และผู้ใช้ก๊าซก็หันกลับมาใช้เบนซินเพิ่มขึ้น ประกอบกับเดือน ธ.ค.และ ม.ค.มีการเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเกินการคาดการณ์ และประเทศไทย โดย ปตท.ต้องมีการนำเข้าเบนซินเข้ามาจำหน่ายแล้ว ล่าสุดความต้องการใช้น้ำมันเบนซินขยับจาก 19 ล้านลิตรต่อวัน เป็น 21 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนความต้องการใช้ดีเซลขยับขึ้นจาก 47 ล้านลิตรต่อวัน เป็นกว่า 50 ล้านลิตรต่อวัน

นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การตลาดค้าปลีก บมจ.ปตท. กล่าวว่า ปตท.ไม่สามารถสำรองน้ำมันเพื่อรองรับความต้องการที่จะเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันนี้ ได้เกินกว่าน้ำมันที่จัดเก็บไว้ เนื่องจากประเทศไทยขณะนี้ประสบปัญหาเรื่องการกลั่นน้อยกว่าความต้องการ เพราะประสบปัญหาจากโรงกลั่นต่าง ๆ จนทำให้ ปตท.ต้องนำเข้าเบนซินเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน โดยในเดือน ม.ค.นี้ มีการนำเข้ามาแล้ว 10 ล้านลิตร และคาดว่าในเดือน ก.พ.-มี.ค.จะต้องนำเข้าน้ำมันเบนซินอีก 40 ล้านลิตร

ส่วนดีเซล คาดว่าในเดือน ก.พ.นี้จะต้องเริ่มนำเข้าเช่นกัน โดยยอดขายน้ำมันภาพรวมขณะนี้สูงเกินคาดการณ์เป็นเพราะราคาน้ำมันถูกลง และประชาชนมีการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยยอดขาย ปตท.ในส่วนของกลุ่มเบนซินยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 4 ล้านลิตรต่อวัน จากเดิม 7 ล้านลิตร เป็นเพิ่มมาก 10 ล้านลิตรต่อวัน ดีเซล เพิ่มประมาณ 5 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มจาก 14-15 ล้านลิตร เป็นประมาณ 20 ล้านลิตรต่อวัน โดยขณะนี้ ปตท.พยายามจัดหาน้ำมันให้เพียงพอกับความต้องการมากที่สุด

นายวิทยากล่าวว่า หากประชาชนมีการแห่ไปเติมน้ำมัน 1-2 วันนี้มากกว่าปกติ ปตท.ก็คงต้องขออภัยที่ปั๊มบางส่วนอาจจะขาดแคลน โดยยืนยันว่า ปัญหาขาดแคลนที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ใช่มาจากการเก็งกำไร เพื่อหวังราคาที่เพิ่มขึ้นจากภาษีที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แต่มาจากน้ำมันในประเทศไม่เพียงพอจริง ๆ โดยการขึ้นราคาน้ำมันในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ทางผู้ค้าน้ำมันไม่ได้ประโยชน์เพราะเป็นการปรับขึ้นตามอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้น

 

เพิ่งสมัครสมาชิกไม่นาน แต่ตามดูตามอ่านมาได้ 2-3 ปี แล้ว พบเว็ปนี้ได้เพราะชอบในทางศาสนาพุทธอยู่แล้ว ติดตามข้อมูลของคุณเกษม มาตลอด เกิดจริงหรือไม่เกิดจริง ก็เป็นความรู้ไว้ครับ เอแต่ทำอย่างไรจึงลงรูปใต้คำว่าสมาชิกได้ครับ จะนำรูปพญาครุฑ ของ ลป.เส็งลง ผมก็ไม่ค่อยจะเป็น ใครช่วยบอกที ขอบพระคุณครับ

 

ไปดูวิธีทำที่นี่ โดย คุณผ่อนคลาย และ คุณKob
http://palungjit.org/showthread.php?t=46051
(วิธีการ...สมัครสมาชิก ตั้งกระทู้ ใส่รูปแทนตัวเอง)

 

หวยดังมักจะไม่ออกหรอกครับ

 

กกร.เตรียมเพิ่มข้าวโพด-มันฯ-กาแฟผง-แป้งสาลีเป็นสินค้าควบคุม​

​

ก.พาณิชย์ 30 ม.ค. - นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) วันนี้ จะมีการพิจารณาและทบทวนรายการสินค้า และบริการควบคุมทั้ง 37 รายการ

ซึ่งที่ประชุมจะมีการเห็นชอบเพิ่มรายการสินค้าอีก 4 รายการ ประกอบด้วย ข้าวโพด มันสำปะหลัง กาแฟผง และแป้งสาลี โดย 2 รายการแรกจะเน้นควบคุมการเคลื่อนย้าย หากจะเคลื่อนย้ายต้องแจ้งกรมการค้าภายใน เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ลักลอบนำเข้า นอกจากนี้ จะมีการถอดรายการสินค้าควบคุม 1 ราย ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เพราะเห็นว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ทำให้เหลือสินค้าที่อยู่ในบัญชีควบคุมเพียง 40 รายการ

นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายวันนี้ (30 ม.ค.) กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญผู้ประกอบการ เช่น หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และผู้ผลิตกว่า 200 ราย มาประชุมเชิงปฏิบัติการ “เอกชนร่วมใจพาณิชย์เพื่อปากท้องประชาชนภายใต้โครงการฟ้าสดใสคนไทยยิ้มได้” โดยกระทรวงพาณิชย์จะชี้แจงแนวนโยบายที่จะร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชนเน้น โครงการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เพื่อลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชนภายใต้โครงการธงฟ้าต่าง ๆ และจะชี้แจงเหตุผลสำคัญที่ขณะนี้รัฐบาลมีความเป็นห่วง

โดยเฉพาะกรณีที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงแต่รายการสินค้าโดยรวมที่เป็นสินค้า อุปโภคบริโภคจำเป็นต่อค่าครองชีพยังไม่ลดลง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ปรับลดราคาสินค้าบางรายการ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับประชาชน และเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ.-สำนักข่าวไทย

2009-01-30 13:09:15

ข่าวนี้เป็นการบ่งบอกเรื่องสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นครับ

เพราะรายการสินค้าดังกล่าว เป็นเสบียง ยุทธปัจจัยของกองทัพอเมริกันครับ อาหารพวกนี้คนไทยไม่ได้กินมากมาย แต่ทำไมต้องมาออกกฏหมายควบคุม

 

แรงงานฝรั่งเศสนับล้านชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ​

​

ปารีส 30 ม.ค.-แรงงานฝรั่งเศสนับล้านร่วมชุมนุมตามท้องถนนในเมืองต่างๆพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อกดดันให้ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ผู้นำฝรั่งเศส เร่งแก้วิกฤติเศรษฐกิจ

ที่กรุงปารีส ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนจากสหภาพแรงงานรายใหญ่ทั้ง 8 แห่ง ตั้งขบวนจากปลาซ เดอ ลา บาสติล ไปยังใจกลางเมือง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลฝรั่งเศสคุ้มครองแรงงานและระบบสวัสดิการสังคม ผู้จัดงานกล่าวว่า การประท้วงใหญ่ในเมืองราว 200 แห่งครั้งนี้ นับเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี และเป็นการแสดงพลังไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลประธานาธิบดีซาร์โกซี อย่างไรก็ตาม การประเมินตัวเลขผู้ร่วมขบวนประท้วงระหว่างสหภาพแรงงานกับตำรวจมีจำนวนแตกต่างกันมาก เช่น ที่เมืองมาร์เซยย์ แกนนำแรงงานระบุว่า มีผู้ประท้วง 300,000 คน แต่ตำรวจกล่าวว่า มี 20,000 คน นอกจากนี้ยังมีการประท้วงจุดใหญ่ที่เมืองบอร์กโดซ์ และเมืองนีซด้วย

สหภาพแรงงาน ผู้จัดการประท้วงซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพรรคสังคมนิยมฝ่ายค้าน หวังจะจัดการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีซาร์โกซี เข้าดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2550 ซึ่งเคยให้สัญญาว่าจะยกระดับคุณภาพชีวิตและฟื้นฟูเศรษฐกิจฝรั่งเศส .-สำนักข่าวไทย

2009-01-30 08:44:04

เกาหลีเหนือยกเลิกข้อตกลงที่ทำกับเกาหลีใต้ทั้งหมด​

​

โซล 30 ม.ค. - สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า ทางการเกาหลีเหนือประกาศยกเลิกข้อตกลงเพื่อยุติการเผชิญหน้ากันระหว่างสองเกาหลีที่เคยลงนามไว้กับเกาหลีใต้ทั้งหมด โดยกล่าวโทษว่ารัฐบาลเกาหลีใต้มีนโยบายเป็นปฏิปักษ์กับเกาหลีเหนือก่อน

แถลงการณ์ของคณะกรรมการเพื่อการรวมชาติเกาหลีอย่างสันติในเกาหลีเหนือระบุว่า ประการแรกข้อตกลงทั้งหมดเพื่อนำไปสู่การยุติการเผชิญหน้ากันทางการเมืองและการทหารระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้จะถือเป็นโมฆะ ประการที่สอง ข้อตกลงว่าด้วยการปรองดอง การไม่รุกรานกัน รวมทั้งข้อตกลงความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ และเส้นแบ่งเขตแดนทางทหารก็ถือเป็นโมฆะด้วยเช่นกัน. -สำนักข่าวไทย

2009-01-30 09:17:06

เกาหลีใต้ประกาศตอบโต้การรุกรานเขตแดนของเกาหลีเหนือ​

​

โซล 30 ม.ค. - กองทัพเกาหลีใต้ประกาศจะดำเนินการโต้ตอบอย่างเด็ดขาดหากเกาหลีเหนือรุกรานเขตแดนทางทะเล หลังจากเกาหลีเหนือประกาศยกเลิกข้อตกลงทางการเมืองและการทหารทั้งหมดกับเกาหลีใต้ในวันนี้

เกาหลีเหนือ ที่กล่าวหารัฐบาลเกาหลีใต้ว่า ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเข้าใกล้จุดที่จะเกิดสงคราม ประกาศยกเลิกข้อตกลงที่ทำกับเกาหลีใต้ทั้งหมด ซึ่งรวมทั้งข้อตกลงที่ครอบคลุมเรื่องพรมแดนระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในทะเลเหลือง หรือแนวสิ้นสุดทางตอนเหนือ (เอ็นแอลแอล) ส่งผลให้ล่าสุดกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ว่า จะดำเนินการโต้ตอบอย่างเด็ดขาดหากมีการละเมิดเขตแดนดังกล่าว

นายวอน แท-แจ โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ กล่าวว่า กองทัพเกาหลีใต้จะปกป้องเขตแดนทางทะเลเช่นเดียวกับการปกป้องเขตแดนบนภาคพื้นดิน พร้อมเรียกร้องให้เกาหลีเหนือปฏิบัติตามข้อตกลงในปี 2535 ที่ยอมรับเส้นเอ็นแอลแอลเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างสองประเทศ เพราะข้อตกลงดังกล่าวไม่สามารถยกเลิกได้ด้วยการตัดสินใจของเกาหลีเหนือเพียงฝ่ายเดียว อย่างไรก็ดีนายวอน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเกาหลีเหนือ ด้านกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้แสดงความผิดหวังต่อเรื่องที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้เกาหลีเหนือตอบรับคำขอให้เปิดการเจรจาโดยเร็วที่สุด -สำนักข่าวไทย

2009-01-30 13:51:55

ไซปรัสสกัดเรือขนอาวุธของอิหร่านไปยังซีเรีย​

​

เยรูซาเลม 30 ม.ค.

 

ดร.สมิทธ ทำนายว่า อาจจะมีคลื่นความร้อน หรือ Heat Wave ได้ในประเทศไทย ก็เลยรวบรวมข้อมูลสักนิดครับ

คลื่นความร้อน คือ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ที่สภาวะอากาศมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติ มักเกิดในฤดูร้อน ใกล้เคียงกับวันที่มีอุณหภูมิอากาศสูงสุดในรอบปี ซึ่งอาจมีความชื้นสูงร่วมด้วย มักเกิดในบริเวณที่มีการพัดผ่านของลมร้อนจากบริเวณทะเลทราย เช่น ทวีปอเมริกาเหนือ เกาะอังกฤษ และทวีปยุโรปบริเวณเขตเมดิเตอรเรเนียน การเกิดคลื่นความร้อนจะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติ โดยอาจมีอุณหภูมิสูงขึ้นจนถึง 30 องศาเซียลเซียส หรือมากกว่า ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมต่อสภาพร่างกายของผู้คุ้นเคยต่อสภาพภูมิอากาศหนาวเย็น การเกิดคลื่นความร้อนนี้อาจจะกินระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน หรือคงอยู่นานหลายอาทิตย์

คลื่นความร้อนนอกจากเป็นภัยธรรมชาติที่คร่าชีวิตประชากรเป็นจำนวนมาก ยังส่งผลต่อการเพาะปลูกพืชของชาวยุโรป เช่น ธัญพืช และไวน์ ก่อให้เกิดไฟป่า และน้ำท่วมอย่างฉับพลันเนื่องจากการละลายตัวของธารน้ำแข็ง (พ.ศ. 2546 ประเทศสวิสเซอร์แลนด์) อีกทั้งยังก่อให้เกิดการใช้พลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้นจนอาจนำไปสู่การขาดแคลนพลังงานได้ หากอุณหภูมิยังพุ่งสูงขึ้น จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบของหัวใจ ขณะเดียวกันผู้สูงอายุก็จัดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากว่าร่างกายตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ไม่ดีเท่าที่ควร.

วิธีการป้องกันคลื่นความร้อน
1. บ้านหรือรถยนต์ควรติดฟิล์มกรองแสงที่มีเคลือบสารป้องกันรังสีอุลต้าไวโอเลท เรียกกว่า "สปัทเตอร์ฟิล์ม" (Sputter-Coated Metallized films) ซึ่งสามารถนำเอาโลหะชนิดต่าง ๆ มาเคลือบเป็นเนื้อเดียวกับฟิล์ม ทำให้ฟิล์มมีความคงทนและกันความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม หรือฟิล์มที่เคลือบผิวด้วย Polyester จะมีคุณสมบัติที่เหนือชั้นในการ ป้องกันคลื่นความร้อน (IR) และรังสี UV ได้สูงสุด โดยสามารถกัน รังสี IR ได้กว่า 90% และรังสี UV 100%
2. หากออกนอกบ้านควรป้องกันด้วยการโพกผ้า ทาครีม ใส่เสื้อผ้า กางร่ม ใส่แว่นตาเพื่อป้องกันอันตรายจากคลื่นความร้อน
3. การอาบน้ำ ก็จะช่วยลดอุณหภูมิของคลื่นความร้อนได้วิธีหนึ่ง

 

*** พรโปรด คนไทยทั้งชาติ ****​

​

ณ วันนี้.......เราคนไทย ระวังถูกเขาหลอกใช้ สุดท้ายทำลายบ้านเมืองตัวเอง !!!!!!! ทุกวันนี้...คนไทยหลายคนกำลังถูกหลอกใช้… จากประเทศมหาอำนาจใหญ่ ๒ ค่าย ในปัจจุบัน​

ประเทศหนึ่ง ...ถูกยั่วยุ....ตลอดเวลา…… “อยากทำสงคราม อยากกำจัดให้สิ้น”​

ประเทศสอง....คิดเป็นใหญ่ อยากครอบครอง เป็นผู้นำ...คอยยั่วยุ และคอยสนับสนุน ยุยง ...ให้ประเทศน้อยๆ ยั่วยุ...ตลอดเวลา……. “ยิงดาวเหล็กจนล่วงเป็นลูกไฟ ไม่กลัวใคร ใครจะห้าม ฉันจะทำ” ​

จะเกิดอะไร...เมื่อประเทศสอง คอยสนับสนุน ประเทศน้อยๆ ที่เคยถูกประเทศหนึ่งเอาเปรียบ หลอกล่อให้ ประเทศหนึ่ง...ก่อสงคราม....คือ วิธีที่เขาเลือก แต่...ทหารจะรบกัน....ต้องกินข้าว...ทั้งสองประเทศ จึงเหลือบตามองมาที่...ครัวของโลก​

ประเทศสอง...ไวกว่า ได้เปรียบ เพราะเคยผูกพันธุ์กับไทยมานานมาก...ได้วางตัวผู้บริหารอยู่ทุกองค์กรหมดแล้ว...กำลังทำงานให้... แม้แต่เจ้าตัว ยังไม่รู้ตัวเลยว่า...สิ่งที่ทำไป เป็นการสนับสนุนเพื่อประเทศสองทั้งสิ้น....เพราะเขา ไม่รู้ว่าประเทศสอง มีเป้าหมาย คือ ต้องการเปลี่ยนแปลง รูปแบบการปกครองของไทย ที่มีมายาวนาน และไม่เหมือนประเทศใดในโลก ….​

งานที่ประเทศสองมอบให้ช่วงนี้ คือ เผยแพร่วัฒนธรรมประเทศสอง ให้ทั่วเมืองไทย เผยแพร่ความเชื่อของคนประเทศที่สอง เพื่อกลบและกลืนความเชื่อในศาสนาพุทธดั้งเดิมในไทยให้สูญหายไป...จากนั้น การครอบครองจึงทำได้ง่าย
ประเทศหนึ่ง....เสียเปรียบ เพราะกลุ่มผู้ที่เคยทำงานให้...ถูกปลดหมดแล้ว....พยายามเอาตัวรอดอยู่…ประเทศหนึ่งจึงต้องเป็นกองหนุน สนับสนุนลับ...เพื่อให้กลุ่มผู้ทำงาน กลับเข้ามามีอำนาจอีกครั้ง… บ้านเมืองจึงวุ่นวายกับคนไทย ที่ถูกหลอกใช้เหล่านี้​

แล้ว...จะเกิดอะไร...เมื่อคนไทยแก่งแย่งอำนาจ คนไทยจำนวนมากรบรากันฆ่าฟันกันเอง….ในเมืองหลวง เมื่อผู้มีอำนาจทั้งหลายทั้งเก่าทั้งใหม่...ไม่มีสัจจะ....เริ่มทรยศสัตย์ปฏิญาณที่ให้ไว้​

ประเทศสอง...แผนลึกล้ำกว่า....นอกจากส่งคนของตนเข้าทำงานแล้ว...ส่งสื่อบางสื่อ สื่อบางคน คอยปั่นหัวคนไทยให้แตกแยกสามัคคีแล้ว.... ใช้วิธีก่อม็อบ ที่ชอบแสดงออกรุนแรง ...ปล่อยให้คนไทยฆ่าฟันตัดหัวกันเองแล้ว....ยังมีแผนสนับสนุนให้เพื่อนๆ รอบบ้านไทย บุกเฉือนดินแดนไทย​

แผนสนับสนุน...แขกเพื่อนบ้าน....ให้มายุยงคนไทยแบ่งแยกกันเอง เพื่อนบ้านได้เตรียมกำลังทหารเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รอเวลา...เขาไม่ใช้ทหาร แต่ใช้ชาวบ้าน ทหารไทยจึงติดกฎระเบียบทำงานได้ไม่เต็มที่...สร้างความหวาดกลัว ให้เกิดไปทั่วชายแดน....แต่เพื่อนบ้านบางคน ก็ไม่รู้ว่าเบื้องหลังลึก มีประเทศสองแอบสนับสนุนทางอ้อม ผ่านทางเพื่อนแขกในดินแดนแขกกลาง… เขาจึงวางแผนจะสร้าง สุเหราที่ใหญ่สุด ในภาคใต้ของไทย เป็นศูนย์กลางทางศาสนาแห่งใหม่ จึงต้องยึดมาปักธงใต้ชุมพร​

แผนสนับสนุน...ขอมเพื่อนบ้าน....โดยสนับสนุนให้ทุนพัฒนาประเทศเพื่อนบ้านขอม และส่งเสริมให้ขอมมีกองทัพที่ทันสมัย อย่ารวดเร็ว...กองทัพไทยจึงตามไม่ทัน....เมื่อถึงเวลาที่ด้ามขวานทองเริ่มหัก ขอมจะอ้างประวัติศาสตร์โบราณ ที่ขอมเคยเกี่ยวข้องกับดินแดนขวานทองทางตะวันออกของไทยในอดีต....ขอมจึงวางแผนเข้ามาปักธงที่บางประกง....เกาะสีชัง และชายฝั่งตรงข้าม คือ จุดที่เขาจะนำมาอ้างได้...เพราะ ประเทศสอง เริ่มเล็งของดี ของมีค่า ของมีพลัง ที่อยู่ในอ่าวไทย....เมื่อ ขอมยึดสำเร็จ ประเทศสองจะมีส่วนทันที เพราะ เพื่อนขอม เป็นมีนายใหญ่ คือ ประเทศสอง….เราคนไทยเลือดรักชาติ ต้องรีบรวบรวมประวัติศาสตร์ชาติไทย ไว้อ้างในคดีนี้...อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหมือนเรื่องตัวเขา กับ ตัววิหาร​

แผนสนับสนุน...ชนกลุ่มน้อย....รอบตัวขวาน...ให้มาเฉือนดินแดนขวานทอง เมื่อเพื่อนบ้านแขก ทำงานสำเร็จ....เพื่อนบ้านขอมทำงานสำเร็จ....ชนกลุ่มน้อย ที่ยังไม่มีดินแดนเป็นของตนเอง....จะได้รับการสนับสนุนลับๆ จากประเทศสอง ... พวกเขาจะรุมรอบด้านไทย....แต่ทหารไทยสูญเสียมากแล้ว อ่อนกำลังหมดแล้ว...จึงทำอะไรไม่ได้มาก แทบจะทำไม่ได้เลย....ขอบขวานทอง จะหักทางรั้วบ้านที่ติดอ้ายพี่ อ้ายน้อง...ทางขอบบนตัวขวาน ที่มีชาวเขาเป็นพวกนักรบ รบเก่ง...และทางขอบขวานทางตะวันตกดิน....มันเป็นเวลาที่เหมาะสมของชนกลุ่มน้อย...เพราะ ไทยหมดแรง มาหลายยก​

หาก...คนไทยยังปล่อยตัวเอง ให้ต่างชาติแอบบงการให้เราทะเลาะกัน...เขาจะออกทุนจ้างให้คนไทยเราไปรวมกลุ่มในเมืองหลวง....จำนวนมหาศาล...แล้วจ้างให้คนไทยอีกกลุ่มยิง ฆ่าคนไทยด้วยกัน ....พี่น้องไทยเราจะสูญเสียมากมาย....จะกลายเป็นสงครามกลางเมืองพุทธศาสนา เขาจะจ้างให้ทำลายวัตถุวัฒนธรรมเก่าแก่โบราณ ...อาวุธจำนวนมาก จะแอบถูกส่งลำเลียงมาให้ คนไทยทรยศชาติบ้านเมือง.... ​

สภาพบ้านเมืองเหมือนกรุงแตก...เขาจะจ้าง ให้คนไทยด้วยกัน ที่ไม่พอใจคนไทยด้วยกัน....ทำลายทุกสถาบันให้หมด...เพื่อให้ทุกสิ่งที่แสดงความเป็นไทยหมดไป.... เมื่อสิ้นสุดเสียงปืน เสียงระเบิด...คนไทยทั้งมวล จะโศกเศร้ามหันต์กับสิ่งที่เกิดขึ้น....กว่าจะรู้ตัว ว่าถูกหลอก ก็สายเสียแล้ว....เพราะพวกเขาทั้งหมดทั้งเป็นคนละฝ่ายในตอนแรก ที่แท้ก็เป็นพวกเดียวกันหมด....แล้วเราจะหันไปพึ่งใคร...เพราะ หันไปทางไหน ก็มีแต่เหล่าคนหน้าเดิม ที่อยากเข้ามาสูบเลือดคนไทยต่อให้หมด....​

ยังไม่สายเกินไป ที่เราคนไทยจะช่วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ในตอนนี้
เพราะ...ทั้งหมดนี้ คือ กรรม ที่กำลังจะเกิดกับคนไทยทั้งหมด
ทางพ้นจาก กรรม...ในครั้งนี้ได้ ต้องพึ่ง "หลักสัจจะธรรม"
คือ ...ต้องพึ่งการกระทำจากสัจจะ ของตัวเราเอง
เราคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน ร่วมมือกัน
ยังไม่สาย ที่เราจะถวายสัจจะ....ต่อในหลวง พ่อหลวงของเรา ว่า…​

…….ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ทำลายความสามัคคีของชาติไทย ตลอดชีวิต ....... ​

- “ หนุมาน ผู้นำสาร ”
๓๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๐​

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?p=1648397
<!-- / message -->

 

ตำรวจประชุมรับมือม็อบเสื้อแดง​

​

กรุงเทพฯ 30 ม.ค. - ตำรวจเตรียมกำลังกว่า 5,000 นาย รับมือกลุ่มเสื้อแดงชุมนุมพรุ่งนี้ ตั้งจุดเจรจา 4 จุดสกัดบุกทำเนียบรัฐบาล สั่งจับตาการปราศรัยของแกนนำและอดีตนายกฯ “พ.ต.ท.ทักษิณ” พาดพิงบุคคลที่ 3 หรือไม่

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมกับแม่ทัพภาค 1 และตัวแทนจากกรุงเทพมหานคร เตรียมความพร้อมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่นัดชุมนุมวันพรุ่งนี้ ที่บริเวณท้องสนามหลวง โดยกำชับให้ตำรวจดูแลตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และมอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้ควบคุมดูแลเหตุการณ์

หากเห็นว่าสถานการณ์บานปลาย ให้ประสานขอกำลังจากแม่ทัพภาคที่ 1 ทันที และหากมีการบุกเข้าทำเนียบรัฐบาล ตำรวจจะจับกุมทันที ตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งให้ตำรวจใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาดหากกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่าฝืน พร้อมสั่งให้ฝ่ายกฎหมายจับตาเนื้อหาการปราศรัยของแกนนำ นปช. รวมถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 หรือไม่

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันด้วยว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีนโยบายตั้งด่านสกัดกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เดินทางมาร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวง

ด้าน พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เตรียมกำลังตำรวจ 35 กองร้อย หรือ 5,250 นาย ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม และกำลังทหาร เตรียมพร้อมในที่ตั้งอีก 22 กองร้อย พร้อมตั้งจุดเจรจา 4 จุด คือที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานผ่านฟ้า แยก จปร. และสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อสกัดผู้ชุมนุมไม่ให้มาที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้สั่งการแต่ละจุด นอกจากนี้ ยังได้จัดกำลังอีก 2 กองร้อย เดินปิดท้ายขบวนกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อป้องกันมือที่ 3 แฝงตัวเข้ามาสร้างสถานการณ์

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมประเมินว่าจะมีผู้ชุมนุมเข้าร่วมถึง 20,000 คน ยังไม่จำเป็นต้องจัดกำลังดูแลสถานที่ราชการ และที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้ โดยพรุ่งนี้จะตั้งวอร์รูมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อประเมินสถานการณ์แบบชั่วโมงต่อชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

2009-01-30 17:50:43

ที่มา http://news.mcot.net/politic/

 

ภูเก็ตลงดำน้ำเกาะราชาใหญ่หาที่มาซากปลาโอลอยติดหาด​

​

ภูเก็ต 29 ม.ค.- นายโสภณ สุขรินทร์ รองประธานชมรมเครือข่ายอนุรักษ์และป้องกันตนเองเกาะราชาใหญ่ จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ปัญหาซากปลาโอลอยขึ้นตามชายหาดของเกาะราชาใหญ่ ต.ราไวย์ อ.เมือง ทั้งอ่าวทือ อ่าวพลับพลา อ่าวสยาม อ่าวหลา ล่าสุด (29 ม.ค) ยังพบซากปลาโอถูกคลื่นซัดขึ้นมาและลอยอยู่ในทะเลรอบเกาะอีกจำนวนมาก คาดว่าปลาโอที่ตายลอยเข้าหาฝั่งน่าจะมีมากเป็น 10 ตัน ซึ่งชาวบ้านช่วยกันเก็บไปทำลาย เพื่อลดปัญหากลิ่นรบกวนนักท่องเที่ยว ส่วนสาเหตุที่ปลาลอยตายยังไม่ทราบแน่ชัด

จากการสำรวจทางทะเลของอาสาสมัครชมรมเครือข่ายอนุรักษ์ฯ เบื้องต้นพบเครื่องหมายจุดเรือประมงอวนดำขนาดกลางจมอยู่บริเวณอ่าวสยามห่างเกาะราชาใหญ่ประมาณ 300 เมตร จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นสาเหตุทำให้ซากปลาโอลอยมาติดหาด และวันนี้อาสาสมัครจะดำน้ำลงไปสำรวจตรวจสอบเรือลำดังกล่าว สำหรับรอบเกาะราชานั้นเป็นบริเวณที่มีจัดโซนนิ่งเพื่อการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งเป็นเกาะนำร่องของจังหวัดในการแก้ปัญหาความขัดแย้งของการประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ และการท่องเที่ยว.-สำนักข่าวไทย

2009-01-29 11:37:08

2 โรงเรียนมัธยมจากกรุงเทพฯ ตะลุมบอนหน้าวิหารเมืองกรุงเก่า​

​

พระนครศรีอยุธยา 30 ม.ค.-นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาของ 2 โรงเรียนจากกรุงเทพฯ ที่มาทัศนศึกษาเมืองกรุงเก่า เกิดเขม่นกันก่อนเปิดศึกตะลุมบอนหน้าวิหารพระมงคลบพิตร แทงกันสาหัส 1 ตำรวจนำทั้งหมดเค้นหาผู้ก่อเหตุ แต่ยังไม่พบมือมีด

เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (30 ม.ค.) พ.ต.ท.นราธิป สุทนต์ สว.เวร สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุ นักเรียนก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน บริเวณหน้าวิหารพระมงคลบพิตร อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังตำรวจชุดปราบจลาจลกว่า 80 นาย ร่วมกับสารวัตรนักเรียน ไประงับเหตุ พบกลุ่มนักเรียนจำนวนหลายร้อยคนกำลังชกต่อยชุลมุนกันอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปแยกคู่กรณีออกจากกัน โดยพบมีผู้ถูกแทงด้วยมีดบริเวณลำตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัสลำไส้ทะลัก 1 คน คือ นายธนัท สระชมภู อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5/5 ร.ร.พระโขนงพิทยาลัย เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่ง รพ.พระนครศรีอยุธยา แพทย์ผ่าตัดและเย็บแผล ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่กลุ่มนักเรียนชั้น ม.5 รร.พระโขนงพิทยาลัย ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 182 สุขุมวิท 62 กทม.จำนวน 200 คน เดินทางมาทัศนศึกษาประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตามหลักสูตรวิชาภาษาไทย ในเรื่องตามรอยพระนเรศวร กำลังเที่ยวชมวิหารพระมงคลบพิตรอยู่นั้น ได้เกิดมีปากเสียงกับกลุ่มนักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนเพชราวุธ บางเขน กทม. จำนวน 200 คน ที่เดินทางมาทัศนศึกษาเช่นกัน จนเกิดการชกต่อยและตะลุมบอนกันขึ้น

ภายหลังควบคุมเหตุตะลุมบอนได้แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนักเรียนทั้งหมดแยกกันขึ้นรถบัสของแต่ละโรงเรียน เพื่อนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา อย่างไรก็ตาม ได้มีการใช้ก้อนหินและขวดน้ำขว้างปาใส่กันตลอดเวลา เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้เลือกสุ่มนักเรียนของแต่ละโรงเรียน แห่งละ 10 คน มาสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง แต่ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงทำแฟ้มประวัติและปล่อยตัวชั่วคราว โดยยังไม่แจ้งข้อหา แต่จะเร่งประสานแต่ละโรงเรียนหาตัวผู้ก่อเหตุใช้มีดแทงนายธนัท มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.- สำนักข่าวไทย

2009-01-30 18:04:57

ไฟไหม้ป่าในอุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง​

​

พิษณุโลก 30 ม.ค. - เกิดไฟป่าในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก คาดเกิดจากการแปรปรวนของสภาพอากาศ เนื่องจากภาวะโลกร้อน

บริเวณริมทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก เขตอำเภอวังทอง เกิดไฟป่าลุกลามขึ้นไปยังผืนป่าและบนภูเขาสูงอย่างรวดเร็ว ยากต่อการควบคุมของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางคืน ทำได้เพียงยืนมองไฟป่าขยายเป็นวงกว้าง นายกิตติพจน์ สมอารยะพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการไฟป่า

สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 ยอมรับว่า ปีนี้ สถานการณ์ไฟป่าน่าเป็นห่วง อาจรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าเบญจพรรณ เนื่องจากมีการทับถมของเศษไม้และใบไม้จำนวนมาก ประกอบกับความแห้งแล้งมาเยือนตั้งแต่ต้นปี ทำให้อากาศแปรปรวน อันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน

ในปีที่ผ่านมา เกิดไฟป่าทั้งที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ถึง 413 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหายกว่า 2,000 ไร่ ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ภูหินร่องกล้า และบริเวณพระตำหนักเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์น่าเป็นห่วง. -สำนักข่าวไทย

2009-01-30 01:06:39

ประจวบฯ เร่งส่งน้ำช่วยภัยแล้ง 2 อำเภอ ​

​

ประจวบคีรีขันธ์ 30 ม.ค. - นายสุรพล ศรีมณฑา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ราษฎร 8 หมู่บ้าน 15,000 คน ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค หลังจากฝนหยุดตกมา 3 เดือน และสภาพอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอด

เบื้องต้น อบต.ช้างแรก ประสานขอความช่วยเหลือจากสำนักงานประปาบางสะพานนำน้ำมาแจกจ่ายชาวบ้านที่เดือดร้อนวันละ 150,000 ลิตร เช่นเดียวกับนายอภิชาติ ชวนใช้ นายก อบต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก ระบุว่า เร่งขอความช่วยเหลือทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนนำรถบรรทุกน้ำ 15,000 ลิตร แจกจ่ายอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 6 หมู่บ้าน 3,800 คน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น เพราะแหล่งน้ำในพื้นที่เหลือปริมาณน้ำน้อยมาก. - สำนักข่าวไทย

2009-01-30 14:05:44

เริ่มทำฝนเทียมภาคเหนือ 10 ก.พ.รับมือภัยแล้งปีนี้

​

เชียงใหม่ 31 ม.ค.- ก.เกษตรฯ เตรียมพร้อมรับมือภัยแล้ง และปัญหาหมอกควันจากไฟป่า ขณะที่ศูนย์วิจัยปฎิบัติการฝนหลวง เตรียมทำฝนเทียม 10 ก.พ.นี้

วันนี้ (31 ม.ค.) นายไพโรจน์ ลิ้มจรูญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่การบิน นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่แผนงานการทำฝนหลวง ร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลและซักซ้อมแผนปฏิบัติการทำฝนหลวง เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง และปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากในปีที่ผ่านมา ประสบปัญหาด้านข้อมูล เพราะหน่วยงานในพื้นที่ให้ข้อมูลไม่ชัดเจน ทำให้พลาดเป้าหมาย ไม่เกิดฝนหลวงในพื้นที่ที่ต้องการ

นายสมชัย เรืองสุทธินฤภาพ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปฏิบัติการฝนหลวง ภาคเหนือตอนบน เปิดเผยว่า ขณะนี้แม้จะมีส่วนราชการหลายหน่วยงาน ร้องขอให้ขึ้นบินเพื่อทำฝนหลวงในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และเหนือเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ใน อ.ดอยสะเก็ด เนื่องจากมีปริมาณน้ำกักเก็บเหลือน้อย แต่หากพิจารณาตามความจำเป็นเร่งด่วน ทีมปฏิบัติการฝนหลวง ต้องขึ้นบินและทำฝนหลวงให้กับพื้นที่แห้งแล้ง เพื่อเพิ่มความชื้น และลดปัญหาหมอกควันก่อน

โดยเฉพาะบริเวณแนวสันเขาทิศตะวันตก อ.แม่แจ่ม และ อ.อมก๋อย และพื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.เชียงใหม่ กับ จ.แม่ฮ่องสอน โดยจะเริ่มทำการบินในวันที่ 10 ก.พ.นี้ ซึ่งจะมีเครื่องบินของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขึ้นปฎิบัติการ 2-3 เที่ยวต่อวัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาพอากาศ จากนั้นจึงค่อยพิจารณาทำฝนหลวงเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บในแต่ละพื้นที่ต่อไป.- สำนักข่าวไทย

2009-01-31 11:13:28

แห่เติมน้ำมันก่อนปรับขึ้น 1 ก.พ. ปั๊มติดป้ายจำกัดการขาย

​

ภูมิภาค 30 ม.ค.- สถานีบริการน้ำมันหลายแห่งใน จ.อุตรดิตถ์ และจันทบุรี มีรถมาใช้บริการเพิ่มกว่าเดิม ลูกค้าบางรายยังนำถังมาเก็บสำรองน้ำมันไว้ หลังจากรัฐบาลจะปรับราคาขึ้น 1 ก.พ.นี้ ทำให้บางปั๊มต้องติดป้ายจำกัดปริมาณ

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศตามสถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิงหรือปั๊มน้ำมันในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ คึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากประชาชนต่างนำรถบรรทุก รถยนต์ทุกประเภทมารอเติมน้ำมันไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่ขอเติมเต็มถัง บางส่วนนำภาชนะขนาด 200 ลิตร มาใช้บรรจุน้ำมันเก็บไว้ แต่ผู้ประกอบการติดป้ายประกาศงดขายแบบใส่ภาชนะ และจำกัดการขายน้ำมันรายละไม่เกิน 2,000 บาท

นายสุพล เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ประกอบการน้ำมันเชื้อเพลิงตำบลบ้านเกาะ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า จากที่รัฐบาลปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงทุกประเภทปรับขึ้น 1. 55 บาทต่อลิตร ยกเว้นอี 85 ประชาชนจึงนำรถทุกประเภทมาเติมน้ำมันเต็มถัง เกรงว่าน้ำมันที่มีอยู่จะไม่เพียงพอ จึงต้องงดขายน้ำมันให้กับผู้ซื้อที่นำถัง 200 ลิตร มาใส่นอกเหนือจากรถยนต์ พร้อมอธิบายเหตุผลความจำเป็นให้ลูกค้าทราบ โดยบางรายนั้นนำถังมาถึง 4-5 ใบ ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการน้ำมันเชื้อเพลิงรายย่อย บริษัทรับเหมาก่อสร้างและเกษตรกร

นายสุพล กล่าวว่า ปริมาณน้ำมันในสตอกปั๊มน้ำมันหลายแห่งทราบว่าเริ่มลดลงเช่นเดียวกัน และอาจไม่มีจำหน่ายก่อนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากคลังน้ำมันที่ผู้ประกอบการต้องนำรถซื้อน้ำมันนั้น ยังไม่สามารถจำหน่ายให้ได้ เพราะต้องรอการตรวจสอบสตอกน้ำมันจากเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพลังงานก่อน

ด้านนายสำราญ ลิ้มเจริญ นายกชมรมผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันอำเภอชายแดน จ.จันทบุรี กล่าวว่า ตามปั๊มน้ำมันทุกแห่งในพื้นที่อำเภอชายแดนทั้ง อ.สอยดาว และ อ.โป่งน้ำร้อน ยังคงมีประชาชนนำรถมาเติมมากกว่าปกติต่อเนื่องจากวานนี้ นอกจากใส่ถังน้ำมันรถยนต์ยังนำภาชนะมาเติมด้วยเช่นกัน เชื่อว่าเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลประกาศจะปรับราคาน้ำมันขึ้นในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ทำให้ปั้มน้ำมันหลายแห่งใน อ.สอยดาว และ อ.โป่งน้ำร้อน เตรียมสั่งซื้อน้ำมันจากบริษัทจำหน่ายน้ำมันเพิ่มกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

2009-01-30 10:37:14

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

*** เมตตาไม่รุนแรงโหดร้าย ****

พิจารณา...เหตุการณ์ทั้งโลก วุ่นวายสอดคล้องกัน
แล้วคนไทยเราคิดอย่างไร ....
มนุษย์อยู่บนโลกเดียวกัน ขอใหพิจารณา

ถ้าผู้นำ นักการเมืองไทยไม่ทะเลาะกัน ชาวบ้านก็จะไม่ทะเลาะตาม
ความสงบ ความสามัคคี ก็จะเกิดขึ้นได้จริง เท่านั้นเอง
ไม่เห็นยาก แต่ไม่ทำกันเอง
แล้วใครจะมาทำความสามัคคีให้ประเทศไทย
เมื่อคนไทยแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน

รับศีล แล้วทำลายศีลปาณา...ระวังกรรมจะมาเร็ว

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นายกฯ ชูเศรษฐกิจพอเพียงรับมือวิกฤติ เสนอตั้งคลังอาหารภูมิภาค</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 มกราคม 2552 12:22 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี​

นายกฯเสนอแนวทาง “เศรษฐกิจพอเพียง” ของพระเจ้าอยู่หัว เพื่อรับมือวิกฤตขาดแคลนอาหารในโลก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ร่วมมือกันกระจายทุน น้ำ ที่ดิน และเทคโนโลยี เตรียมหารือฟิลิปปินส์หาแนวทางสร้างคลังอาหารในภูมิภาค

วันนี้(31 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากเมือง ดาวอส สมาพันธรัฐสวิสว่าหลังจากที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมเอกอัครราชทูต ประจำภาคพื้นยุโรป ณ โรงแรม Radisson นครซูริค ในช่วงบ่ายวานนี้ (30 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมการประชุม High Level Plenary Session หัวข้อ “Fresh Solutions for Food Security” ณ Congress Centre

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในเวทีประชุม WEF ได้พูดถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) และเห็นว่า ปัญหานี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากประเทศที่พัฒนาแล้ว ในการเปิดตลาดสินค้าเกษตรและอาหารให้มากขึ้น ไม่เช่นนั้นจะไม่เกิดแรงจูงใจที่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ปัญหาการขาดแคลนอาหาร มีวิธีการแก้ไขได้หลายระดับ เช่น ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแนวพระราชดำริที่สำคัญที่จะดูแลไม่ให้เกิดการขาดแคลนอาหารสำหรับคนที่ยากจน และไม่สามารถอยู่ในระบบตลาดได้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องมีการลงทุนทางด้านเทคโนโลยี การกระจายน้ำและที่ทำกิน เพื่อเพิ่มผลิตภาพในการผลิตอาหาร รวมถึง การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศผู้ผลิตทางการเกษตร กับประเทศที่มีทุนหรือเครื่องมือพร้อม แต่ขาดแคลนด้านอาหาร เพื่อรับการสนับสนุนที่มีประโยชน์

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการหารือกับตัวแทนฟิลิปปินส์ ในเรื่องการสร้างคลังอาหาร เนื่องจากฟิลิปปินส์มีความสนใจ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาให้มีการสร้างคลังอาหารของไทยและของภูมิภาค

ที่มา http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9520000011403

 

อะแลสกาเตรียมพร้อมรับมือภูเขาไฟปะทุ​

​

ลอสแองเจลิส 31 ม.ค.

 

Inside North Korea ​

คิม จอง อิล​

​

​

เมื่อเช้าตื่นมาโชคดีเปิดไปเจอ National Geographic เจอตอน Inside North Korea พอดี ก็ดูไปเรื่อยๆ รู้สึกสะท้อนใจหลายๆอย่าง​

เปิดไปเจอตอนที่ หมอ(คาดว่ามาจากประเทศอื่น)เข้ามาให้การช่วยเหลือชาวเกาหลีเหนือ โดยผ่าตัดต้อกระจกให้ฟรีๆเป็นพันๆคน เห็นสภาพโรงพยาบาลแล้วตะลึงเลย แล้วช๊อคที่สุดคือเตียงผ่าตัดที่ดูยังไงก็ไม่ใช่เตียง มันลักษณะเหมือนเขียงใหญ่ๆ มีคราบเลือดติดกรังเต็มไปหมด ​

พอถึงวันเปิดตา ทุกคนถูกจัดให้มาอยู่ในห้องประชุมใหญ่ๆ มีรูป ประธานาธิบดี คิมจองอิล กับพ่อของเขา ติดอยู่ที่กระดานด้านหน้าหอประชุม พอเปิดตาแล้ว แต่ละคนก็เดินมา เคารพรูปนี้ พร้อมกล่าวสรรเสริญ คิมจองอิล ผู้บรรยายบรรยายว่า แต่ละคนที่กล่าวสรรเสริญ ไม่รู้ว่ารักในตัวท่านผู้นำ หรือ กลัวถูกทำโทษ ​

แต่แล้วก็มีชายคนนึง ตะโกนประมาณจะเคารพ และรักในท่านผู้นำ และถล่มอเมริกา ให้ราบคาบ จะทำลายล้างอเมริกาให้สิ้น (ประโยคนี้แสดงให้เห็นว่าชายผู้นี้คงรักและเคารพ คิมจองอิล จริงๆ)​

ประชาชนที่นั่นรัก และเคารพผู้นำสูงสุด(คิมจองอิล) จนไม่น่าเชื่อ บูชาและสรรเสริญเยินยอ เชื่อมั่นในความสามัคคีของคนในชาติ และในตัวประธาธิบดี คอมจองอิล แต่ผู้บรรยายได้บรรยายว่า คิมจองอิล มีรถลีมูนซีน 10 คัน เป็นลูกค้ารายใหญ่ของเหล้าดังยี่ห้อหนึ่ง(จำไม่ได้แล้ว) มีความสะดวกสบายทุกอย่าง ​

สัมภาษณ์อดีตทหารเกาหลีผู้หนึ่ง ที่ทำงานผิดพลาด คิดว่าตัวเองต้องตายแน่ เลยหนีเข้ามาเกาหลีใต้ ทหารผู้นี้พูดว่า สิ่งที่เกาหลีเหนือไม่เคยมีคือ อิสระเสรีภาพ เมื่อถามถึงครอบครัว อดีตทหารคนนี้ไม่ตอบและไม่ขอพูดถึงมัน ​

คาดว่าครอบครัวเขาต้องถูกส่งเขาเขตกักกัน ผู้บรรยายบอกว่าเขตกักกันนี้โหดร้ายมาก อาหารก็ไม่มีกิน ถึงขั้นต้องแย่ง ซังข้าวโพดกัน ​

และได้เห็นสภาพบ้านเมืองในชนบทของเกาหลีเหนือ ได้เห็นวิถีชีวิตของพวกเขา บอกเลยว่าค่อนข้างแย่เลยหละ ​

ดูแล้วก็เศร้าใจ ปนดีใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ชีวิตไม่ต้องมาเจอเรื่องร้ายๆเหมือนที่ชาวเกาหลีเหนือเจอ ​

หลายๆอย่างเลยครับ ดูแล้วชอบมาก เพราะเป็นสารคดีที่ไม่น่าจะหาดูง่ายๆ อยากให้ national geographic เอามาฉายซ้ำอีกจังเลย คราวนี้จะนั้งดูตั้งแต่ต้นเลย ​

จากคุณ : <!--MsgFrom=0-->A&B - [ <!--MsgTime=0-->13 ส.ค. 51 17:25:53 ​

ที่มา http://topicstock.pantip.com​

หมายเหตุ​

บังเอิญผมก็ได้ดูหนังสารคดีเรื่องนี้เหมือนกัน ดูแล้วรู้สึกสงสารคนเกาหลีเหนืออย่างจับใจ เพราะต้องอยู่กันด้วยความหวาดกลัว จากอำนาจของท่านผู้นำ ดูๆไปก็คล้ายประเทศเยอรมันในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ฮิตเลอร์ปกครองประเทศอยู่ อย่างไม่มีผิดเพี้ยน และคล้ายกับเขมรแดงสมัยนายพอลพต กำลังเรืองอำนาจ อย่างเดียวกัน ทหารเกาหลีเหนือใช้อำนาจ กดขี่ข่มเหงประชาชนอย่างมาก ​

ใครที่ไม่เห็นด้วยกับการปกครอง ก็จะถูกส่งไปเข้าค่ายกักกันและต้องตายอยู่ในนั้น ไม่มีโอกาสได้ออกมาอีกเลย ใครที่ลักลอบหนีออกนอกประเทศ ไปอยู่ประเทศเกาหลีใต้ หรือไปประเทศอื่นๆได้ ครอบครัวของพวกเขาก็จะถูกส่งไปค่ายกักกันนี้เพื่อเป็นการลงโทษ ​

ค่ายกักกันนี้เองที่ทำให้ชาวเกาหลีเหนือ หวาดกลัวกันยิ่งนัก ไม่กล้าหลบหนี และไม่กล้าจะแสดงความคิดเห็น ที่ต่อต้านการปกครองของท่านผู้นำเกาหลีเหนือ ด้วยประการใดๆทั้งสิ้น ดูแล้วก็เศร้าใจกับความหลงอำนาจของคนเราเสียจริงๆ ​

**********************************************​

<!--MsgIP=0-->

 

หน้ากลัวนะค่ะ คิด ๆ เวลามันเร็วนะทุกวันนี่ แป๊บเดียวก็สิ้นปีแล้ว จงตั้งหมั่นอยู่ในความดีค่ะ สาธุ

 

^
^
พี่ใหญ่ ... โธ่พี่ใหญ่ จองวัดหรือยังอ่ะ

^
^
^
ท่านเกษม ไปแช่งพี่ใหญ่ของผมอ่ะ
พี่ใหญ่เดี้ยง ไปแล้วอ่ะ
(cry)