น่าเป็นห่วง หลักสูตรพุทธศาสนา จากบางอาจารย์ สอนตายแล้วสูญ ( หลักสูตร ม.1- ม.6)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 24 มกราคม 2006.

?
  1. ไม่เห็นด้วย (คิดว่าสอนผิด)

    0 vote(s)
    0.0%
  2. เห็นด้วย (คิดว่าสอนถูก)

    0 vote(s)
    0.0%
  1. JustMy2Cent

    JustMy2Cent สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +4
  2. JustMy2Cent

    JustMy2Cent สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +4
  3. JustMy2Cent

    JustMy2Cent สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +4
    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=10&A=1888&Z=3915 (เลื่อนลงมาอ่านตอนที่๑๔๑)
    [๑๔๑] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกท่านพระอานนท์มารับสั่งว่า
    ดูกรอานนท์ บางทีพวกเธอจะพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า ปาพจน์มีพระศาสดาล่วงแล้ว
    พระศาสดาของพวกเราไม่มี ก็ข้อนี้ พวกเธอไม่พึงเห็นอย่างนั้น ธรรมและวินัย
    อันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็น
    ศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา ฯลฯ
     
  4. JustMy2Cent

    JustMy2Cent สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +4
  5. JustMy2Cent

    JustMy2Cent สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +4
    ท่านผู้ดูแลเว็บถ้าจะลบก็ลบไปนะครับ แต่ให้ผมโพสเสร็จก่อนละกัน เผื่อจะมีประโยชน์ได้เห็นโทษของการบิดเบือนพระธรรมวินัย เรื่องนี้ท่านใดฝึกอภิญญาจะทราบดีครับว่าปัจจุบันท่านพุทธทาสอยู่นรกด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
    http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/buddhadas/bdd-28.htm (ที่สุดของการตู่พุทธพจน์เลยครับ)

    http://www.buddhadasa.in.th/html/word/testament/testament21.php
    พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญบารมีมามากกว่า4อสงไขยแสนกัปป์ เพื่อตรัสรู้ธรรมอันยิ่งใหญ่(เรียกตามบาลีว่า อภิธรรม ) แต่คุณพุทธทาสบอกว่า "สองสามคำพอ" (เก่งกว่าพระพุทธเจ้าหรือไง)

    หนังสือบาปของพุทธทาส
    http://larndham.net/index.php?showtopic=16069&st=0

    หนังสือธรรมะตอนนี้ก็คือหนังสือพุทธทาสครับที่พิมพ์ออกมาเยอะสุด ไม่เชื่อลองค้นตามเว็บขายหนังสือ พิมพ์คำว่า พุทธทาส ในชื่อผู้แต่ง มีเยอะมากๆๆๆๆครับ ไหนจะเครือข่ายของท่านอีก
    อักษรท่านวิจิตรเหลือเกินครับ เก่งกว่าพระอรรถกถาเหรอครับ
    ขออนุญาตข่มบุคคลที่ควรข่มทีเถอะครับ เพราะว่าท่านเป็นมหาโจรในพระพุทธศาสนา
     
  6. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ด้วยความเคารพ ท่าน JustMy2Cent
    ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อยนะคะ
    ถ้าไม่ถูกใจ ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

    เนื่องจากกระทู้นี้ เกี่ยวข้องโดยตรงกับท่านเตชะปัญโญ
    ซึ่งท่านเขียนหลักสูตรขึ้นมาสอนเด็กนักเรียน(ซึ่งยังไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะแยกแยะ)
    โดยอ้างอิงว่ามาจากหนังสือของท่านพุทธทาส
    และท่านแต่งเติมความเห็นของท่านเข้าไปอีกส่วนหนึ่งด้วย

    โดยข้อเท็จจริงแล้ว ไม่มีใครรู้ว่า
    ท่านเตชะปัญโญ เป็นพระจริงหรือไม่
    เป็นลูกศิษย์สายตรงท่านพุทธทาสจริงหรือไม่
    ความเห็นบางอย่างที่ท่านแต่งเติมลงไป ก็อาจไม่ใช่ข้อเขียนของท่านพุทธทาส

    ดังนั้น ประเด็นจึง คือ เราควรโต้แย้งกับท่านเตชะปัญโญ คู่กรณีโดยตรง
    มากกว่าที่จะไปก้าวล่วงถึงท่านพุทธทาส
    ซึ่งท่านไม่มีโอกาสมาแสดงคคห.ในที่นี้

    (smile) ก็เรียนขออภัยมาอีกครั้ง ถ้าอ่านแล้วไม่ถูกใจ ^_^
     
  7. 3แสนแรงเทียน

    3แสนแรงเทียน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +1
    เราน่าจะพุ่งเป้าไปที่ต้นลมมากกว่า ลำพังอลัชชีเตชะปัญโญคนเดียวเขียนหนังสือแล้วเอามาเป็นแบบเรียนทำไม่ได้แน่นอน มันต้ัองมีคนคอยรับคอยหนุนอยู่ทั้งโรงพิมพ์ รัฐมนตรี นักวิชาการที่เห็นด้วยให้นำแบบเรียนนี้ไปสอนนักเรียน
    จะว่ารัฐมนตรีเซ็นต์ๆไปเฉยๆไม่รู้เรื่องอะไรด้วยคงไม่ได้ ยังไงมันก็มีคนคัดค้านอยู่แล้ว แต่ในสมองของรัฐมนตรีคิดอะไรอยู่ทำไมถึงยังเซ็นต์ทั้งที่มีคนคัดค้าน

    อลัชชีเตชะปัญโญไม่ได้ยืนอยู่คนเดียวนี่เป็นขบวนการล้มล้างพุทธศาสนาแบบถอนลากถอนโึคน เด็กที่เรียนแบบเรียนพุทธศาสนาแบบนี้จะมีมุมมองกับพุทธศาสนาอย่างไร คนที่คอยดูแลรักษาพุทธศาสนาตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นคนที่เรียนในแบบเรียนที่ถูกต้องในอดีต
    อัตราการตายของประเทศไทยปีล่ะประมาณ 700,000 คน
    อัตราการเกิดของประเทศไทยปีล่ะประมาณ 800,000 คน
    เด็กรุ่นใหม่ที่เรียนแบบเรียนของอลัชชีเตชะปัญโญจะค่อยๆหนุนขึ้นมา คนที่เรียนแบบเรียนที่ถูกต้องจะค่อยๆหมดไป ประเทศไทยในอนาคตสามารถบอกได้ว่าจะเป็นอย่างไรตั้งแต่ตอนนี้
    นี่เป็นเหมือนการสร้างเขื่อนขวางตาน้ำเพื่อผันน้ำไปทางอื่น น้ำที่เราเห็นในแม่น้ำตอนนี้คือน้ำที่ไหลผ่านมาได้ก่อนที่จะมีเขื่อน แต่ในอนาคตเราจะเห็นน้ำในแม่น้ำค่อยๆลดลงแล้วก็แห้งไปในที่สุด ถึงตอนนั้นก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ตัวอย่างล่าสุดเกาหลีใต้ อันตรายขนาดไหนเห็นๆกันอยู่
     
  8. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ


    จุดเริ่มต้นในการศึกษาคำสอนระดับสูงของพระพุทธเจ้า
    จุดเริ่มต้นในการศึกษาคำสอนระดับสูงที่ละเอียดอ่อนและลึกซึ้งของพระพุทธเจ้า ให้เกิดความเข้าใจอย่างถูกต้องนั้น ก่อนอื่นเราจะต้องปล่อยวางความเชื่อถือในตำรา หรือในคำสอนที่ได้ฟังหรือเรียนรู้มาจากคนอื่นทั้งหมดก่อน แล้วตั้งใจศึกษาธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริง ที่เราสามารถรับรู้หรือสัมผัสได้ในปัจจุบัน โดยใช้เหตุผลในการศึกษา เราจะไม่ใช้การคาดเดาหรือคาดคะเนในการศึกษาอย่างเด็ดขาด ซึ่งการศึกษาเช่นนี้จะทำให้ไม่มีทางผิดพลาดได้ และเมื่อพร้อมแล้วเราก็มาเริ่มพิจารณาตามหัวข้อทั้ง ๑๐ นี้ไปตามลำดับ พร้อมทั้งถามตัวเองว่า​
     
  9. หนองสะลาบ

    หนองสะลาบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +564
    ถูกต้องครับท่าน เพราะสิ่งที่อลัชชีแอบอ้างไม่ใช่ข้อเขียนและบทความของท่านพุทธทาสทั้งหมดตัดต่อบิดเบือนจนไม่อยู่ในร่องในรอย ส่วนตัวผมนะ ผมว่านอกจากไอ้อลัชชีเตชะปันโย(เจตนาเขียนอย่างนี้ครับ)ที่จะถูกธรณีสูบไปรวมกับพระเทวทัต นางจิญจามาน ฯ แล้วไปอยู่ในมหานรกคงจะมีไอ้เบื้อกJustMy2Cent นี่แหละครับพี่น้อง
     
  10. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    ความเชื่อกับความจริง

    ในการศึกษาหลักการหรือทฤษฎีใดๆก็ตาม เราเคยคิดกันบ้างหรือไม่ว่า
     
  11. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    สรุปได้ว่า เราอย่าไปยึดถือความเชื่อใดๆ(โดยเฉพาะของท่านเตชะปัญโญ)ก็ตามว่าเป็นความจริง

    เพราะมันอาจจะมีความผิดพลาดมาก่อน(เพราะท่านเชื่อว่าตายสูญ ไม่เชื่อนรก-สวรรค์มีจริง...ฯลฯ...)

    ถ้าเราไปเชื่อถือหรือนำมาปฏิบัติโดยไม่ยอมวาง(ทำให้เข้าใจผิดว่า ตายแล้วก็แล้วกัน ไม่ต้องรับผลกรรมดี-กรรมชั่วที่ทำ...ฯลฯ...)

    ถึงแม้จะปฏิบัติแล้วไม่ได้รับผลจริงก็ตาม ก็จะทำให้เราต้องเสียเวลาไปกับความเชื่อนั้นจนตลอดชีวิต โดยไม่ได้รับผลอะไรเลยก็ได้
    (ไม่ปฏิบัติ กว่าจะรู้สึกตัวตอนจะตาย ก็ปฏิบัติไม่ทันเสียแล้ว)

    เราจะต้องนำเอาเฉพาะความเชื่อที่พิจารณาเห็นแล้วว่าไม่มีโทษและเป็นประโยชน์มาทดลองปฏิบัติดูก่อน
    ถ้าไม่ได้ผลก็ให้ละทิ้งไป แต่ถ้าได้ผลก็จึงค่อยปลงใจเชื่อและรับเอามาปฏิบัติให้ยิ่งๆขึ้นต่อไป
    (ที่พระพุทธองค์สอนไว้ ตายแล้วไม่สูญ นรก-สวรรค์มีจริง ...ฯลฯ...เชื่อก็ไม่มีโทษ
    ปฏิบัติตามเสด็จก็ได้ผล ไม่ทำกรรมชั่ว หมั่นสร้างกุศลกรรม...ฯลฯ)

    (smile)
     
  12. Ton_Ton

    Ton_Ton เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +4,750
    ผมโชคดีที่ทางโรงเรียนอาราถนาพระอาจารย์มาสอนครับ โชคดีไป
     
  13. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    ***ถูก หรือ ผิด จะมี ความทุกข์เป็นเครื่องชี้วัด***

    ***ถ้าเราเดินทางถูก ก็จะไม่มีความทุกข์***

    ***แต่ถ้าเราเดินทางผิด ก็จะมีความทุกข์***

    ***ถ้าประเทศชาติของเรา นับถือพุทธศาสนาถูกต้อง ก็จะมีแต่ความสงบสุข***

    ***แต่ถ้านับถือผิด ก็จะมีแต่ปัญหาและความเดือดร้อนวุ่นวายอย่างไม่รู้จักจบสิ้น***

    ***แล้วขณะนี้ประเทศชาติของเราเป็นอย่างไร?***

    --------------------------------------------------------

    (เวบไซต์สำหรับบุคลอัจฉริยะ www.whatami.net - www.whatami.5u.com)
     
  14. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ***ถูก หรือ ผิด จะมี ความทุกข์เป็นเครื่องชี้วัด***
    จะถูกหรือผิด อยู่ที่จิตปล่อยวางอารมณ์(ความนึกคิดปรุงแต่ง)เป็นหรือไม่เป็น
    ไม่ใช่เอาความทุกข์เป็นเครื่องวัด
    ในเรื่องเดียวกัน ทำไมบางคนทุกข์มาก บางคนทุกข์น้อยล่ะ?
    ก็ที่ทุกข์เพราะนึกคิดปรุงแต่งตามอารมณ์
    เมื่อหยุดคิดปรุงแต่งตามอารมณ์ ก็หยุดทุกข์

    ***ถ้าเราเดินทางถูก ก็จะไม่มีความทุกข์***
    การจะเดินทางถูก มีทางเดียวเท่านั้น
    คือการอบรมจิต โดยปฏิบัติสัมมาสมาธิใน อริยมรรค ๘ ตามเสด็จ
    จิตรู้จักปล่อยวาง...ก็จะพ้นทุกข์ ไม่ใช่ไม่มีความทุกข์
    เพราะทุกข์เป็นของคู่โลก มันมีของมันอยู่แล้ว
    คนที่ฝึกอบรมจิตดีแล้วเท่านั้น ที่จะไม่แบกทุกข์ไปด้วย

    ***แต่ถ้าเราเดินทางผิด ก็จะมีความทุกข์***
    เดินทางผิด คือ เดินทางด้วยความนึกคิดปรุงแต่งตลอดเวลา
    ชีวิตก็จะมีแต่ทุกข์ เพราะยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์ ยิ่งทุกข์ก็ยิ่งคิด
    เมื่อหยุดคิดไม่เป็น ก็เย็นไม่ได้ เลยต้องแบกทุกข์กันต่อไป

    ***ถ้าประเทศชาติของเรา นับถือพุทธศาสนาถูกต้อง ก็จะมีแต่ความสงบสุข***
    การจะนับถือพุทธศาสนาที่ถูกต้องนั้น คือ
    ต้องละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้หมดจดจากเครื่องเศร้าหมอง
    โดยการอบรมจิต(ปฏิบัติสัมมาสมาธิในอริยมรรค ๘)
    เชื่อว่าชาตินี้มี ชาติหน้ามี ตายแล้วไม่สูญ
    บาปบุญคุณโทษให้ผลแน่นอน เพราะคนเกรงกลัวต่อบาป
    ก็จะมีแต่ความสงบสุข

    ***แต่ถ้านับถือผิด ก็จะมีแต่ปัญหาและความเดือดร้อนวุ่นวายอย่างไม่รู้จักจบสิ้น***
    นับถือผิด คิดแต่ว่า อะไรๆก็ไม่มี
    บาปก็ไม่มี บุญก็ไม่มี ดีก็ไม่มี ชั่วก็ไม่มี
    ชาติหน้าก็ไม่มี ตายแล้วสูญ
    ทำให้คนไม่เกรงกลัวต่อบาป เพราะตายแล้วๆกัน
    บาปบุญคุณโทษดีชั่วไม่ต้องรับผล
    ก็จะมีแต่ปัญหาและความเดือดร้อนวุ่นวายอย่างไม่รู้จักจบสิ้น

    ***แล้วขณะนี้ประเทศชาติของเราเป็นอย่างไร?***
    วุ่นวาย ไม่มีวันจบสิ้น
    เพราะมีคนที่เชื่อว่าตายแล้วสูญเต็มบ้านเต็มเมือง
    ไม่เกรงกลัวบาปบุญคุณโทษ
    จะทำทุกอย่างตามความพอใจของตนเป็นที่ตั้ง
    เพราะเชื่อว่าตายแล้วสูญ ไม่ต้องรับผลบุญ-กรรมที่ทำไว้
    คนก็จะไม่ทำความดี มีแต่สร้างภาพไปวันๆเท่านั้น
    แล้วประเทศชาติของเราจะเป็นอย่างไร?

    (smile)
     
  15. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    ความเบาใจสบายใจ ๔ อย่าง ของผู้มีจิตไม่ผูกเวร ไม่พยาบาท ไม่เศร้าหมอง มีจิตบริสุทธิ์ ย่อมวางใจ ๔ อย่างคือ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ๑. ถ้าผลของความความชั่วมี ตนก็จะเข่าถึงสุคติโลกสวรรค์ (เพราะตนทำความดี) <o:p></o:p>
    ๒. ถ้าผลของความดีความชั่วไม่มี ก็รักษาตัวให้มีความบริสุทธิ์ได้ในปัจจุบัน<o:p></o:p>
    ๓. ถ้าทำบาปเป็นอันทำก็คงจะไม่ประสบทุกข์<o:p></o:p>
    ๔. ถ้าทำบาปไม่เป็นอันทำ ก็เห็นตัวเองว่าบริสุทธิ์ทั้งสองทาง (คือไม่ว่าจะทางทำบาปเป็นอันทำ หรือทำบาปแล้วไม่เป็นอันทำ ตนก็ไม่มีข้อเสียหายทางใดเลย)<o:p></o:p>


    (เวบไซต์สำหรับบุคลอัจฉริยะ www.whatami.net - www.whatami.5u.com)
     
  16. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
  17. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    (smile)
     
  18. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    ทำไม?<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    เมื่อเราเชื่อกันว่า ผีมีจริง, เทวดานางฟ้ามีจริง, สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเครื่องรางของขลังมีจริง, พวกผีเจ้าเข้าทรงมีจริง, และชีวิตของเราถูกกำหนดมาแล้วตายตัวจากเวรกรรมจากชาติปางก่อน หรือจากดวงชะตาราศี เป็นต้น ดังนี้แล้ว เราเคยสงสัยหรือไม่ว่า :<o:p></o:p>
    -ผี หรือ พวกเทวดา จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร? (มีอ้วน มีผอม มีสวย หรือไม่สวยหรือเปล่า?)<o:p></o:p>
    -ใช้การติดต่อสื่อสารกันอย่างไร?(ใช้มือถือหรือเปล่า? มีรถหรือเครื่องบินใช้หรือเปล่า?)<o:p></o:p>
    -อยู่ที่ไหน?(มีสถานะอะไร? ของแข็ง,เหลว,ก๊าซ,หรือพลาสมา,หรือคลื่น?)<o:p></o:p>
    -แต่งตัวอย่างไร? (มีการเดินแฟชั่นหรือไม่?)<o:p></o:p>
    -ทำงานอะไร? (มีวันหยุดหรือเปล่า? มีโบนัสหรือเปล่า?)<o:p></o:p>
    -อยากได้อะไร? (ชอบกินอะไร? มีโรคเบาหวานหรือเปล่า?<o:p></o:p>
    -กลัวอะไร? (กลัวไม่ทันสมัยหรือเปล่า? หรือกลัวหาแฟนไม่ได้?)<o:p></o:p>
    -พูดภาษาอะไร? (ต้องเรียนภาษาหรือเปล่า? หรือใช้ภาษาใบ้?)<o:p></o:p>
    -ใครเป็นผู้ควบคุม? (หัวหน้าใจดีหรือเปล่า?)<o:p></o:p>
    -สืบพันธุ์อย่างไร? (มีโรคติดต่อทางเพศสำพันธุ์หรือเปล่า? พวกโรเอดส์น่ะ?)<o:p></o:p>
    -ตายได้หรือไม่? (ถ้าตายแล้วจะไปไหนล่ะ?)<o:p></o:p>
    -มาพบคนได้หรือไม่? (ในฝัน หรือมาให้เห็นกันจะจะเลยได้ใหม?)<o:p></o:p>
    -ทำไมถึงชอบหลอกให้คนกลัว? (น่าเบื่อก็ตรงนี้แหละ ถ้าหล่อๆสวยๆละก็จะไม่มีใครกลัว)<o:p></o:p>
    -ทำไมไม่ไปหลอกให้คนชั่วกลับใจมาเป็นคนดี? (ผี หรือเทวดาที่ดีไม่มีบ้างหรือยังไง? งงจริงๆ)<o:p></o:p>
    -ทำไมไม่มาช่วยงานราชการ ปราบปรามคนชั่ว ปราบปรามคนคิดร้ายทำลายชาติ? (ถ้าทำความดีจะได้ให้โล่เกียรติยศ)<o:p></o:p>
    -ทำไมไม่คอยช่วยเหลือคนดี ช่วยเหลือสังคมประเทศชาติ จะได้มีคนยกย่องสรรเสริญ หรือได้บุญมาก?<o:p></o:p>
    -ทำไมไม่ไปสำรวจนอกโลก หรือนอกจักรวาล แข่งกับฝรั่งเขาบ้าง ให้ประเทศเราเจริญ?<o:p></o:p>
    -ทำไม เราจึงไม่เคยพบเห็นผี หรือเทวดาเลยสักครั้ง? (ขอเจอสักครั้ง จะถ่ายวีดีโอคลิ๊ปไปลงเหน็ต)<o:p></o:p>
    -ทำไม ถ้าเราเคยเป็นผีมาก่อน แล้วทำไมเราจึงจำไม่ได้? (อย่าอ้างว่าจำไมได้น๊ะ ไม่อย่างนั้นผมจะอ้างบ้าง ว่าคุณน่ะเคยเป็นหนี้ผมมาก่อน แต่คุณดันลืมไปแล้ว ฉะนั้นจงใช้หนี้ผมมาเสียเดี๋ยวนี้...ฮ่าๆ สบายเรา)<o:p></o:p>
    -ทำไม? ทำไม?ทำไม?ทำไม?ทำไม?ทำไม?ทำไม?........และทำไม?<o:p></o:p>
    -ถ้าทำชั่วตายไปแล้วตกนรก แต่ถ้าทำดี ตายไปแล้วได้ขึ้นสวรรค์ แล้วใครมาคอยกำหนด?<o:p></o:p>
    -แล้วใครหรือใช้อะไรบันทึกการกระทำของคนที่ยังไม่ตายเอาไว้ไปแสดงเมื่อตายไปแล้วได้?<o:p></o:p>
    -แล้วใคร หรือใช้อะไรตัดสินว่าใครจะขึ้นสวรรค์หรือตกนรก?<o:p></o:p>
    -แล้วคนตัดสินนั้นรับสินบนได้หรือไม่?<o:p></o:p>
    -แล้วมีใครเป็นคนมีอำนาจสูงสุดหรือเป็นผู้สร้างขึ้นมา?<o:p></o:p>
    <S>-</S>ทำไม ผีหรือเทวดาของประเทศต่างๆหรือศาสนาต่างๆจึงไม่เหมือนกัน แล้วของใครจริงของใครไม่จริง? <o:p></o:p>
    -นรก-สวรรค์ตามที่เราเชื่อกันอยู่นั้นมีจริงหรือไม่? อยู่ที่ไหน? ใครสร้าง? สร้างด้วยอะไร? ไปเยี่ยมชมได้หรือไม่?<o:p></o:p>
    -ทำไม่ ไม่มีใครพาไปเยี่ยมชมบ้าง คนชั่วจะได้กลัว จะได้ไม่ทำความชั่ว โลกจะได้สงบสุข? <o:p></o:p>
    -ถ้านรก-สวรรค์ของเรามีจริง แล้วนรกสวรรค์ของประเทศอื่น หรือของศาสนาอื่นเขามีจริงหรือไม่?<o:p></o:p>
    -ถ้านรก-สวรรค์ของเรามีจริง ก็แสดงว่าของเขาไม่มีจริงใช่หรือไม่?<o:p></o:p>
    -แต่ถ้านรก-สวรรค์ของเขามีจริง ก็แสดงว่าของเราไม่มีจริงใช่หรือไม่?<o:p></o:p>
    -แล้วคนที่อยู่ประเทศอื่น หรือนับถือศาสนาอื่น เมื่อตายไป แล้วเขาจะไปขึ้นสวรรค์ทีไหน? หรือไปตกนรกที่ไหน?<o:p></o:p>
    -ทำไม ไม่เห็นมีเรื่องบอกเกี่ยวกับคนนอกศาสนาเมื่อตายไปในศาสนาของเราเลย?<o:p></o:p>
    - ถ้าสามารถพิสูจน์นรก-สวรรค์ของศาสนาไหนได้จริง โลกคงมีศาสนาเดียวใช่หรือไม่?<o:p></o:p>
    -ทำไม? ทำไม?ทำไม?ทำไม?ทำไม?ทำไม?ทำไม?.......และทำไม?<o:p></o:p>
    (เวบไซต์สำหรับบุคลอัจฉริยะ www.whatami.net - www.whatami.5u.com)​
     
  19. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    คุณเตชะครับ คุณลองเอาคำถามเหล่านี้ถามตัวเองบ้าง<O:p</O:p
    ทำไม? ทำไม? ทำไม?และก็ทำไม???<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    มีศาสนาไหนบ้างที่ไม่เชื่อว่านรก-สรรค์มีจริง(ศาสนาหลักๆ)<O:p</O:p
    ยกเว้นพวกนอกรีตเท่านั้น คงรวมคุณเข้าไปด้วย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ในเมื่อศาสนาหลักๆทั้งหลายเป็นที่พึ่งทาง
     
  20. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    ความเชื่อเรื่องนรกใต้ดิน และสวรรค์บนฟ้านั้น เป็นความเชื่อเก่าแก่ของศาสนาพราหมณ์


    มันมีเอาไว้ขู่ให้คนกลัวจะได้ไม่ทำชั่ว และหลอกให้ทำความดี ซึ่งมันก็ใช้ได้ดีเฉพาะกับคนป่าหรือเด็กที่มีความรู้น้อย


    สมัยนี้ผู้คนมีความรู้กันมากขึ้น วิธีนี้จึงใช้ไม่ได้แล้ว เราต้องเอานรกสวรรค์ของจริงมาเสนอให้เขา เขาจึงจะยอมรับ


    นรกของจริงก็คือ ความร้อนใจอย่างยิ่งเมื่อได้ทำความชั่วลงไป ส่วนสวรรค์ก็คือ ความอิ่มเอมใจที่ได้ทำความดีลงไป แต่จะตั้งอยู่นานหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจตนาที่ทำว่ามากน้อยเพียงใด


    จุดที่จะนำไปสู่การทำลายความเชื่อเรื่องนรกใต้ดิน - สวรรค์บนฟ้านั้นมันก็ง่ายๆ คือถ้ามันมีจิตที่เป็นอัตตา หรือเป็นตัวตนที่เที่ยงแท้ถาวร ที่จะออกจากร่างกายที่ตายไปแล้วไปเกิดใหม่ได้ มันก็ย่อมที่จะมีนรกใต้ดิน และสวรรค์บนฟ้าเพื่อมารองรับจิตที่เป็นอัตตานี้ (ศาสนาพราหมณ์สอนว่าจิตเป็นอัตตา)


    แต่ถ้ามันไม่มีจิตที่เป็นอัตตา มันก็เท่ากับไม่มีจิตที่จะออกจากร่างกายที่ตายแล้วไปเกิดใหม่ได้ ดังนั้นนรกใต้ดิน - สวรรค์บนฟ้าก็ย่อมที่จะไม่มีไปด้วย

    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ส่วนจุดที่จะเข้าใจว่า มีจิตที่เป็นอัตตาหรือไม่ก็คือการพิจารณาว่า....


    “ทุกสิ่ง(ไม่เว้นสิ่งใด คือทั้งวัตถุและจิต) ที่เกิดขึ้นและตั้งอยู่ จะต้องอาศัยเหตุและปัจจัย(สิ่งสนับสนุน) มาปรุงแต่งให้เกิดขึ้นและตั้งอยู่ทั้งสิ้น”


    ซึ่งนี่เป็นวิทยาศาสตร์พื้นฐาน หรือความจริงพื้นฐานที่ใครๆก็ย่อมรับ(นอกเสียจากคนที่ดื้อไม่ยอมรับความจริงเพราะมีความเชื่อที่งมงายครอบงำเอาไว้อย่างเหนียวแน่น)


    ถ้ายอมรับว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นมาจากเหตุปัจจัย ดังนั้นก็ต้องยอมรับว่า แม้จิตก็ต้องเกิดขึ้นมาจากเหตุปัจจัยด้วยเหมือนกัน ถ้าไม่มีเหตุ หรือปัจจัย จิตก็ย่อมที่จะเกิดขึ้นมาไม่ได้ใช่หรือไม่?


    ดังนั้นเมื่อพิจารณาเช่นนี้ก็จะพบว่า จิตเป็นอนัตตา(ไม่ใช่อัตตา)หรือเป็นสังขาร(สิ่งที่ถูกปรุงแต่งหรือสร้างขึ้นมาชั่วคราว) เท่านั้น(พุทธศาสนาสอนว่า ทุกสิ่งเป็นอนัตตา)


    เมื่อพบว่าจิตเป็นอนัตตา ก็จะทำให้มองเห็นอริยสัจ ๔ (วิธีการดับทุกข์ในปัจจุบัน)ของพระพุทธเจ้าได้อย่างถูกต้องทันที


    แต่ถ้ายังเชื่อว่าจิตเป็นอัตตา จะไม่มีทางเห็นอริสัจ ๔ ได้จริงเลย

    ดังนั้นจุดเริ่มต้นในการศึกษาพุทธศาสนา(ศาสนาของผู้มีปัญญา)ก็คือต้องถามตัวเองว่า “ยอมรับหรือไม่ว่า ทุกสิ่ง(ไม่เว้นสิ่งใด คือทั้งวัตถุและจิต) ที่เกิดขึ้นและตั้งอยู่ จะต้องอาศัยเหตุและปัจจัย(สิ่งสนับสนุน) มาปรุงแต่งให้เกิดขึ้นและตั้งอยู่ทั้งสิ้น?”


    อาตมาเคยถามคำถามนี้มานานแล้วในเวบนี้ แต่ไม่มีใครยอมตอบให้ชัดเจนเลย?


    แล้วคุณ “ธรรมภูต ยอมรับหรือไม่?”

    <o:p></o:p>
    (เวบไซต์สำหรับบุคคลอัจฉริยะ www.whatami.net - www.whatami.5u.com)<o:p></o:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2009

แชร์หน้านี้

Loading...