เทวดา กับ นางฟ้า ในชั้นกามาวจรภูมิ ... อิอิ

เขาเมคเลิฟกันกลางฟ้าเลยหรือไร?

ยิ่งชั้นจาตุมฯ นี่ใกล้เคียงกับพวกเราๆ ชาวมนุษย์โลกมาก
ชั้นดาวฯ นี่ก็ห่างๆ ออกมาหน่อย
ชั้นยามฯ นี่มีแต่ชุดขาวๆ ห่างไปอีกนิด
ชั้นดูสิฯ นี่ก็ไม่เบาหรอก ยกโขยงนัวเนียกันไปหมด เล่นซะเหมือนกับฮาเร็ม
ชั้นนิมฯ ก็แจ่ม ไปแบบนิ่มๆ
ชั้นปรนิมฯ นี่สุดยอด ไม่ต้องทำอะไร ให้ชั้นนิมฯ ทำแทนหมด

ตกลงพวกเทวดา และนางฟ้า ของชั้นกามาฯสร้างวิมาน จัดฉาก และอึ๊บกันกลางฟ้าเลยหรือไร?

อิๆๆๆ

ปล. ผมว่าผมไม่บาปนะ เพราะภูมิแห่งกามาวจรภูมิ ก็คือ ภพภูมิแห่งกาม นั่นแหล่ะ หรือใครจะเถียงผม

 

- - หุหุ....ไม่ออกความเห็นจ้า

 

ยกตัวอย่างเช่น

พี่หล่อถอดกายทิพย์ขึ้นไปเยี่ยมห้องภัยพิบัติ อันเป็นห้องที่อยู่เหนือขึ้นไปใน
ห้องวิทยาศาสตร์ธรรมดาถึงสองชั้น โอ้วไม่ธรรมดา

พอเข้าไปแล้วก็ สร้างรูปแบบการโต้แย้ง อันเป็น รูป ที่มีคุณบางประการที่พี่
หล่อรู้สึกได้เฉพาะพี่หล่อเอง อันเป็นกามคุณ เมื่อโต้แย้งแล้ว หากมีความ
พอใจ ยินดี ยินร้ายก็จะเกิดโทษ

............

 

ไปเอาห้องภัยพิบัติ ที่เชื่อหมอดูหมอเด้าก็เว้ากันไป มาคุยกับผมทำไมหล่ะท่าน

ห้องนั้นผมโพสท์ทีไร ก็ลงหลุม ทุกดอกแหล่ะครับ ... ผมไม่อยากจะพูดแล้วอ่ะ


มาต่อกันดีกว่า ... ตกลงว่านางฟ้ามีกายทิพย์ ใส่เสื้อหนังแนบเนื้อ อย่างนั้นรึ?
น่ารักดีนะครับ ... ใส่เสื้อ แนบเนื้อ โปร่งใส มองเห็น ... เอ่อ มองเห็นหนังทิพย์

นะครับท่าน

 

แหม เตือนแล้วว่า อย่าทำความเข้าใจคำว่า กาม ในรูปแบบที่คุ้นเคย

พี่หล่อต้องสะบัดหน้าหลายๆ ทีเวลานึกถึงเรื่องอย่างว่า แล้วโปรดรับไป 'พินา
ต่อดังนี้

พี่หล่อเคยเห็นสารคดีชนพื้นเมืองบราซิลไหม ทั้งๆที่เขารับวัฒนธรรมการเล่นบอล
จากเปเล่ไปแล้ว ปรากฏว่าเวลาเล่นบอลหญิง หรือ แม้การออกสมาคมอย่ากีฬา
ประจำชาติ ผู้หญิงก็ยังไม่เก้อเขินที่จะใส่แต่ผ้าปิดท่อนล่างเท่านั้น ไม่ว่าจะเด็ก สาว
รุ่นหรือ วัยกลางคน

พวกผู้ชายในเผ่าเดียวกันก็ไม่ได้รู้สึกกำหนัด เห็นสาวรุ่นเดินท่อนบนเปล่าเปลือย
แล้วคิดว่ามา อ่อย มา 11 รด เขาไม่ได้ยินดี ยินร้ายในรูป

( แต่มาช่วงหลัง ทางการก็บังคับให้ใส่เสื้อผ้า ในเวลาแข่งขัน เพราะคนต่างชาติเข้าไปชมกีฬา ทัศนาจร )

ก็จะเห็นว่า มนุษย์เดินดินธรรมดาๆ ก็ยังไม่หวั่นไหว คิดไปเองได้เลย

หากเป็นเทวดาชั้นฟ้า จะไม่มีอาภรณ์เลย กาม อย่างว่าใช่ว่าจะต้องกำเริบ
คิดว่า นางฟ้า 11 รด ก็เปล่า

มันเป็นเรื่องของ รูป ที่มีตามธรรมชาติ พี่หล่อคิดเติมเข้าไปเองว่า เห็น
แล้วจะต้องมีกามกำหนัด

กามกำหนัด มันไม่เกิดหรอก หากไม่ยินดี ยินร้าย หากมียินดี ยินร้าย ภวตัณหา
และ วิภวตัณหาก็เกิด เมื่อตัณหาเกิด ก็เกิดภพทุคติ

ถ้าตัณหาไม่เกิด มีวาสนา มีบุญ ก็ได้รับเครื่องอาหาร แพรพรรณ ถิ่นอาศัย เพลง
บรรเลง ตามแต่ผลกรรมที่ทำไว้

 

......
...

หากออกสมาคม อย่างมากก็ เอาสีมาทาตัว

การเอาสีมาทาตัว คือ การพร้อมรบ หรือไว้ทุกข์ ดังนั้น
หากสาวเอาสีมาทาตัว ก็อย่าไปยุ่ง Harmless!!

[ ขออภัย ภาพประกอบอาจไม่ตรงเผ่าที่อ้างถึง แต่มีความใกล้เคียง ]

 

ถ้าอยากไปก็ต้องทำความดีกันเอาเองอ่ะครับ ไม่แน่นะถ้าผู้หญิงคนที่คุณผู้ชายไม่ได้มีอะไรกับเค้าตอนอยู่บนโลกมนุษย์ พอตายไปแล้วเราทำความดีไว้เยอะๆอาจจะได้ไปฟัดเค้าบนสวรรค์ก็ได้ ดังนั้นใครที่ผิดหวังในความรักบนโลกมนุษย์ก็อย่าเพิ่งเสียใจเลยดีกว่า

 

โอไม่มีอะไรทำแล้ว เนาะ เหอๆๆ

 

จขกท ก็ช่างคิดนะ

ความพึงพอใจในกามหมายถึง เสพ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และอารมรมณ์ มนุษย์ เสพครบทั้งหมด เทวดา อย่างดีก็เสพด้วยการสัมผัสโดยการใช้มือแตะ ในชั้นสูง ๆ ไป ก็เสพด้วยการมองรูปก็พอใจแล้วโดยไม่ต้องมีการสัมผัส ส่วนพรหม ไม่เสพกามแล้ว มีแต่คน สัตว์เดียรัจฉาน และผี เท่านั้นที่เสพสังวาส

 

ช่างคิดได้เน๊อะ

 

งง!!!!

 

เยี่ยม ...

ประเด็นอยู่ที่ว่า ในสวรรค์ชั้นกามาวจร นี่เขาเสพย์กามด้วยอายาตนะทั้งห้า หรือว่า หก?

ปล. ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องรูปพรหมวจร และอรูปพรหมวจร สักหน่อย ผมแค่เกริ่นๆ เฉพาะในกามาวจร เพียงแค่นั้น