แจ้งให้ทราบเรื่องผ้ารอยประทับลป.สรวง ออยเตียนสรูล

จากที่มีการปิดกระทู้ไปนั้น ผมจึงขอแจงให้ทุกท่านได้ทราบเรื่องที่มาที่ไปของผ้ารอยประทับฝ่ามือฝ่าเท้าของลป.สรวงให้ทุกท่านได้ทราบครับ ว่าทั้งหมดได้มาจากศิษย์ท่านหนึ่งของลป.ซึ่งอยู่ที่ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีษะเกษ....ผมได้ลองขออนุญาตท่านแล้วครับว่าจะขอเปิดเผยชื่อ-นามสกุลของท่าน แต่ท่านขอให้บอกแค่ชื่อเท่านนั้นจึงไม่สามารถเปิดเผยนามสกุลได้
....ท่านชื่อ คุณเกรียงศักดิ์ ครับ ท่านได้นำผ้าจีวร 2 ผืนมาตัดแล้วขอให้ลป.ท่านประทับรอยให้เมื่อปี 40 ได้ทั้งหมด 19 ผืน
...ซึ่งครั้งหนึ่งท่านเคยบวชเป็นเณรอยู่กับลป.สรวงได้หลายพรรษาเหมือนกัน ซึ่งท่านได้รับถ่ายทอดพลังบางอย่างจากลป.สรวงมา ตอนท่านเล่านั้นเหมือนโม้หนะครับ ท่านว่าลป.ให้นั่งสมาธิแล้วท่านก็จิ้มที่หน้าผาก เหมือนมีพลังบางอย่างวิ่งไปทั่วตัว ร้อนไปหมด(เหมือนกำลังภายใน) เสร็จแล้วลป.ก็ไปผิงไฟต่อ ท่านว่างั้นครับ
....สำหรับเบอร์ติดต่อท่านนั้นผมขออนุญาตแล้วท่านไม่อนุญาตครับ ดังนั้นท่านที่บูชาไปก็ขอให้มั่นใจได้ครับว่าเป็นของที่ลป.สรวง ท่านประทับไว้จริงๆ
...หากท่านใดไม่มั่นใจก็ขอให้ส่งคืนกลับมาที่ผมได้เสมอพร้อมรับผิดชอบทุกกรณีครับผม....
...ด้วยความเคารพ....
...ตฤณ....

 

เดี๋ยวจะถ่ายภาพลป.สรวงที่รับรองไม่มีใครเคยเห็น และภาพกาฝากไม้ทั้งสาม ที่ไม่ไหม้ไฟที่ผมมีอยู่ให้ทุกท่านได้ชมกันครับ
....สำหรับลป.สรวง แล้วนั้นผมนับถือสุดใจครับ ไม่กล้านำสิ่งเกี่ยวกับท่านมาหลอกลวงผู้ใดทั้งสิ้นครับ เพราะผมคิดว่าของๆท่านใครมีวาสนากับท่านคงได้ไว้บูชา

 

รูปลป.สรวง และรูปไม้กาฝากที่ไม่ไหม้ครับ

รูปนี้ลป.สั่งให้พี่ท่านหนึ่งที่ผมนับถือถ่ายไว้เป็นที่ระลึกข้างน้ำโขงแถวสกลนคร ประมาณปี 33 ครับ แต่ที่สำคัญท่านพี่ท่านนี้เป็นคริสเตียน ครับและลป.ก็พูดภาษาไทยได้ชัดแจ๋วครับ และต้องขออภัยที่รูปลป.ไม่ค่อยชัดเพราะเป็นภาพที่ปริ๊นลงเอสี่ธรรมดาครับ ชัดสุดได้แค่นี้จริงครับ และกว่าจะปริ๊นออกต้องสั่งถึง 4 ครั้งและจุดธูปถึง 108 ดอกเชียวนะครับ
...และเป็นรูปที่ทำให้ผมเกิดความศรัทธาในตัวลป.อย่างที่สุดครับ

 

เอาเป็นว่า......

เรื่องที่เกิดขึ้นอยู่นี้ผมไม่อยากให้เป็นปัญหาเรื้อรังหรือกลายเป็นเรื่องใหญ่ไป.... เอาเป็นว่าผมขอยุติกระทู้เรื่องผ้าประทับรอยมือรอยเท้าลป.สรวงไว้ก็แล้วกันนะครับ และต้องขออภัยคณะศิษย์ลป.สรวงทั้งหมดไว้ ณ ที่นี้ครับที่ก่อ ปัญหาให้ถกเถียงกัน ท่านศรัทธาในตัวลป.สรวงเพียงใด ตัวผมก็ไม่น้อยกว่าท่านทั้งหลายครับ เพราะประสบการณ์กับลป.สรวงของผมก็มีเกิดขึ้นกับตัวเองครับ
....แต่อย่างไรเสียผมก็ยังยืนยันอยู่ดีครับว่าทั้งหมดลป.สรวงท่านประทับไว้ให้จริงๆ ใครมีวาสนากับท่านคงจะได้ไว้บูชาครับ
.....ด้วยใจจริงและจริงใจครับ....
....ตฤณ....

 

ครับผมพี่น้อง....ขอบคุณครับ

 

1. จุดแรกที่ผิดสังเกตุ คือ อักขระเลขยันต์ที่จาร
- ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ของการจารยันต์ และคาถาที่ใช้จาร ส่วนใหญ่หลวงปู่ ไม่ใช่คนที่จะพิถีพิถันจารสวยงาม ให้เกิดรูปแบบน่าประทับใจแต่อย่างใด (หรือผมไม่เคยเจอที่สวยๆเอง) ลายมือจะหวัดๆ โค้งมน แต่นี่มีเล่นหาง มีเหลี่ยมมุม คนที่ศึกษาอักษรขอมมาจะดูออกว่าเป็นคนละลายมือ

- อักษรขอม ที่หลวงปู่เขียน เป็นขอมโบราณ การสะกดต่างๆ ตัวอักษรบางตัว เขียนแล้ว คนเขมรยังอ่านยาก คล้ายศิลาจารึกภาษาไทยสมัยพ่อขุนรามยังไงยังงั้น แต่นี่เขียนเป็นอักษรขอม ตามแบบฉบับพระเกจิไทย

- ภาษาที่หลวงปู่จารลงไป มักเป็นภาษาเขมร ไม่ใช่ภาษาบาลี ที่เป็นหัวใจยันต์ต่างๆ นะมะพะทะ , พุทธะสังมิ, นะมะอะอุ อะไรทั้งสิ้น มักเป็นธรรมคำสอน หรือปริศนาธรรม ที่อ่านได้เป็นภาษาเขมร แปลได้ใจความ ไม่ใช่หัวใจคาถาต่างๆ ที่พระเกจิไทยเราจารกัน

- เลขยันต์ที่จาร มักเป็นเลข ๑ ที่ต่อด้วย ๐ หลายๆตัว
ยิ่งเลข ๕ แล้วเป็นยันต์อุนาโลมขึ้นไป แบบยันตรีนิสิงเห อย่างไทยเนี่ย
ไม่เคยเห็นหลวงปู่ท่านเขียนเลย ดูตัวอย่างเลข ๕ ที่หลวงปู่เขียนๆ กันคนละแบบเลย

- หลวงปู่ไม่ค่อยเขียนภาษาไทย แต่นี่อ่าน อ. ขุนหาร ได้ชัดเจน

- ไม่เคยเห็นหลวงปู่เขียนยันต์ อุนาโลม ( ยอดยันต์ เขียนคล้ายๆ เลข ๙ ตรงขึ้นไปเป็นยอดแหลม)

ลองดูรูปประกอบนะครับ

 

2. จุดสังเกตุต่อมาคือ ลายมือ ลายเท้า

ผมเป็นหมอดูมือสมัครเล่น พอรู้ลายมือ ลายเท้า ว่าเส้นไหนเป็นเส้นไหน คนเราลายมือไม่เหมือนกันเลย

- ผมเห็นว่ามือที่พิมพ์นั้นเล็กไป สัดส่วนไม่ได้ โดยเฉพาะลายมือตรง เส้นจิต เป็นเส้นขวางบนสุด ดูจากรูปประกอบเป็นมือข้างซ้าย เส้นจิตจะลากจากขอบสันมือ โค้งขึ้นไปที่นิ้วชี้ แต่ยังไม่จรด มีเส้นแยกตรงปลายออกไปตรงๆ ผิดจากที่พิมพ์เส้นจิตโค้งลง แยกเป็นสองเส้น จรดเส้นสมอง ที่อยู่ใต้เส้นจิต ไม่ได้ชี้ขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น

- เส้นสมอง ลากจากโคนนี้วชี้ตรงมากลางมือ มีโค้งตรงกลางเส้นนิดหน่อยรับกับเนื้อที่นูนขึ้นนิดนึง แล้วปลายไปจรดเส้นการเงินและเส้นวาสนา

- เส้นชีวิต โค้งยาวมาจากใต้นิ้วชี้เหมือนกัน โค้งรับกับเส้นสมองอย่างลงตัว ยาวจรดสร้อยข้อมือ แสดงถึงคามเป็นผู้มีอายุยืนยาว

- เส้นสมรส อยู่เหนือเส้นจิต ตรงโคนนิ้วก้อย เส้นนี้ยาวมาก หากพิมพ์ลายมือ ควรจะติดเส้นนี้

- ข้อสังเกตุที่รอยเท้าหลวงปู่ นิ้วชี้ หลวงปู่ ข้างขวา คงได้รับอุบัติเหตุ จนกระดกขึ้นดังภาพ ไม่ว่าภาพที่ถ่ายก่อนปี 40 หรือหลังปี 40 ก็มีสภาพเช่นนี้ทั้งนั้น และมีอาการบวมให้เห็นอยู่ทุกภาพ จึงเป็นไปได้ยาก ที่จะพิมพ์นิ้วชี้ติด ถึงติดก็ต้องติดหน่อยเดียว ถ้าติดหมดก็จะเห็นขนาดที่ใหญ่กว่าทุกๆนิ้วยกเว้นนิ้วโป้งนะ)

- รอยเท้าพระธุดง ส่วนใหญ่ เท้าจะแบนติดพื้น พิมพ์ออกมาน่าจะมีรอยชัดเจน โดยเฉพาะรอยนูนของเนื้อตรงขอบเท้า(กลางๆเท้า; ดูจากปลายเท้าถึงส้นเท้า) เนื้อตรงนี้ของหลวงปู่นูนมากแต่ที่พิมพ์กลับมีเนื้อขอบเว้าเข้าไป

โปรดดูรูปประกอบ

 

3. ข้อสังเกตุเรื่องที่มาที่ไป

- คุณบอกว่า ได้จากคนที่ชื่อเกรียงศักดิ์ เคยบวชเณรติดตามหลวงปู่หลายเดือน รอยมือรอยเท้าพิมพ์เมื่อปี 40 แต่ผมได้โทรถามอาจารย์จำเริญ ศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่แล้ว ท่านไม่เคยพบสามเณรติดตามหลวงปู่ที่ชื่อ เกรียงศักดิ์ เลย

- สามเณรนั้นหมายถึงอายุยังไม่ครบบวช ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็ก-วัยรุ่น หากปี 40 สามเณรนั้นอายุ 15 ปี นั่นหมายความว่า ตอนนี้เป็นฆราวาสอายุได้ประมาณ 26 ปี เท่านั้นเอง ไหนบอกเป็นพี่ที่เคารพรู้จักกัน นี่คุณอายุเท่าไหร่กันแน่

- สามเณรน้อย ไฉนจึงมีความคิดยาวไกล คิดทำผ้ายันต์ลายมือลายเท้าหลวงปู่ไว้ และหลวงปู่ชอบอยู่กระท่อมปลายนา จะไปหาน้ำหมึกพิมพ์มือมาจากไหน เงินก็ไม่มี หมึกพิมพ์นี้ผมว่าเป็นหมึกอย่างดี จึงมองเห็นลายมือชัดเจน ขนาดผู้ใหญ่เขายังใช้ขมิ้นกันเลย ศรีสะเกษสมัยสิบปีก่อน ก็คือบ้านป่า เมืองทุ่ง ดีๆนี่เองครับ

- อายุของผ้าจีวร เมื่อผ่านมากว่า 10 ปีย่อมเก่าลงแน่ๆ เฉพาะที่หลวงปู่รองก็เก่ามากแล้ว และรอยหมึกก็ต้องจางด้วย แต่นี่ใหม่มาก สงสัยเก็บรักษาดี

- อาจารย์จำเริญท่านบอกว่า เคยมีได้ลายเท้าหลวงปู่ก็เป็นขมิ้นทา ลงบนเท้าแล้วเหยียบลงผ้าขาวเท่านั้น ไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน เลยว่ามีแบบที่ใช้หมึกพิมพ์ ซึ่งหลวงปูส่งเคราะห์แค่คณะนั้น เค้าก็นำไปแบ่งกัน เป็นของรักของหวงแหน ไม่มีใครเขามาปล่อยกัน และหลวงปู่ก็ไม่ได้จารแต่อย่างใด เพียงแต่จารลงกระดาษอีกแผ่นหนึ่งต่างหาก

อาจารย์จำเริญ หรือที่หลวงปู่สรวงเรียกติดปากว่า ตาเกรียงๆ ท่านเป็นอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน... รู้จักและติดตามหลวงปู่มาตั้งแต่ พ.ศ.2516 เป็นคนเขียนประวัติหลวงปู่สรวง ที่คุณเพชรฉลูกันนำมาเป็นนิทานประกอบนั่นแหละครับ มีคนเดียวนะครับใครที่อ่านหนังสือประวัติหลวงปู่สรวง ต้องรู้จักท่านผู้นี้ ท่านไปมาหาสู่หลวงปู่ประจำทุกเดือนเลยก็ว่าได้ จึงได้รู้จักลูกศิษย์ลูกหาหลวงปู่หลายคน ได้ตามไปสอบถามแล้วตีพิมพ์เผยแพร่กันอยู่ทุกวันนี้

ท่านหลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ที่ท่านสร้างมนฑป บรรจุสรีระหลวงปู่สรวงอยู่ในขณะนี้ ท่านก็ได้บอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ไม่เคยได้ยินมาก่อน

หากท่านที่คิดจะบูชา ผมไม่ได้ห้าม แต่ให้อ่านข้อความผมดีๆ ลองพิจารณาดู เป็นข้อมูลสองฝ่าย โปรดใช้พิจารณญานในการตัดสินใจเองครับ

(เงินท่าน ไม่ใช่เงินผม ส่วนเงินผมๆ จะเก็บไว้ทำบุญครับ)

นี้คือ ข้อพิจารณาจากผม ซึ่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรทั้งสิ้น แต่มีความเคารพหลวงปู่สรวงมากเป็นทุนเดิม และไม่ชอบอะไรที่มันไม่โปร่งใส เปาบุ้นจิ้น เป็นหนังที่ชื่นชอบที่สุดสมัยเป็นเด็ก ยังเอาดินน้ำมันมาปั้นเป็นพระจันทร์เสี้ยวแปะหน้าผากเล่นเลย 5555
ขอโทษทีที่ตรงฉินไปหน่อย

ด้วยความปราถนาดี

(ยายทองประสา)

 

ขอคารวะท่านพี่จริงๆ

โปรดรับข้าพเจ้าเป็นศิษย์น้องด้วย จะเป็นพระคุณยิ่ง
5555

 

เรื่องบางเรื่องที่ปล่อยวางได้ก็ควรอุเบกขา
แต่เรื่องบางเรื่องนั้นก็..ไม่ควรดูดาย.. เช่นกัน
(อาจารย์เคยสอนไว้ค่ะ)

อย่างเช่นกรณีนี้เป็นต้น ที่เข้าข่ายเรื่องที่ไม่ควรดูดาย

เพราะเท่าที่ศึกษาประวัติหลวงปู่มา
(ซึ่งอาจจะไม่มากมายนัก แต่ก็ไม่เคยได้ยินว่ามีนะคะ)

สำหรับคนอื่นแล้ว เรื่องนี้อาจจะวางเฉยได้ค่ะ

แต่ในเมื่อเราต่างก็ใช้สรรพนามร่วมกันว่า
..."ลูกศิษย์หลวงปู่สรวง"..แล้ว

เรื่องนี้ไม่อาจที่จะนิ่งเฉยอยู่ได้จริง ๆ ค่ะ



ป.ล.ความคิดเห็นดังกล่าวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ที่ไม่ได้ตั้งใจหมิ่นเหม่ใครใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนมาจาก "ความศรัทธาในตัวหลวงปู่" เท่านั้นเองค่ะ..
​

<!-- / message --><!-- sig -->

 

งานเข้า

 

ขอบพระคุณครับสำหรับข้อพิจารณาดีๆ

เมื่อได้อ่านแล้วก็ต้องบอกได้เลยว่าเยี่ยมจริงๆเรื่องข้อมูลเเน่นบึ๊กครับ....รอยฝ่ามือลป.นั้นผมก็เคยเห็นชัดๆจากภาพของท่านนี่แหละครับ ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง ส่วนเรื่องรอยจารอักษรขอมนั้น ผมก็มิททราบว่าลป.จารให้หรือไม่ แต่ผมมีผืนที่เก็บไว้บูชาเอง แต่ผืนนี้ ลป.จาร ข้าวน้ำดีให้แน่นอนครับ ลองพิจารณาดูก็แล้วกันนะครับ
....หาได้มีเจตนาหลอกลวงหรือมุสาแต่ประการใด เพราะผมคิดว่ารอยจารบนผืนที่ผมเก็บบูชาเองนี้น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้เกี่ยวกับผ้าฝ่าประทับของลป.อันเป็นที่เคารพของผมเช่นกัน....
ด้วยจิตคารวะ
....ตฤณ...

 

รอยประทับฝ่ามือซ้ายเทียบกับรอยจิงๆ(ภาพของท่านยายทองประสาครับ)

 

รูปซ้ายมือเป็นรูปจากกระทู้ที่ถูกปิดไปแล้ว ส่วนรูปขวามือ(กลาง)เป็นรูปล่าสุดที่เพิ่งเอามาโพส แล้วก็ที่เป็นลายมือหลวงปู่จากหนังสือค่ะ​

เท่าที่ดูด้วยตาเปล่า ก็ชัดเจนที่รอยเท้าที่มีขนาดต่างกันค่ะ ​

แล้วข้าวน้ำดีที่มีบนผ้ายันต์ ทางคณะปฏิบัติธรรมของพวกเราก็เคยขออนุญาตหลวงปู่สกีนบนเสื้อ​

โดยให้อาจารย์ที่นับถือกันเป็นผู้เขียนต้นแบบ
พูดไปก็จะหาว่าโม้ค่ะ ยังเหมือนได้อีกค่ะ​

เพราะที่ตรงคำว่า"ดี"นั้น ที่หลวงปู่เขียนนั้นต้องตวัดหางลงค่ะ
แต่จากรูปที่เห็นนั้น การจรดหมึกก็เห็นชัดเจนค่ะ ว่าตวัดหางขึ้นแน่นอน​

อีกประการหนึ่งนั้น การนับถือพระเกจิดีดีสักองค์
การแสดงออกถึงการว่านับถือนั้น ควรเป็นการให้เกียรติ และเทอดทูน​

(แต่)การถ่ายรูปผ้ายันต์โดยวางไว้กับพื้นกระเบื้องที่เป็นทางเดิน
มีค่าเท่ากับอะไรนั้น มิทราบได้ค่ะ ​

เคยมีคนบอกว่าบางครั้ง พระท่านก็ไม่ถือสา
แต่ถ้าเลือกได้ดิชั้นขอแสดงความเคารพออกมาจากใจจริงค่ะ​

ยืนยันอีกครั้งค่ะ ความคิดเห็นดังกล่าวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ที่ไม่ได้ตั้งใจหมิ่นเหม่ใครใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนมาจาก "ความศรัทธาในตัวหลวงปู่" เท่านั้นเองจริง ๆ ค่ะ..​

 

แต่)การถ่ายรูปผ้ายันต์โดยวางไว้กับพื้นกระเบื้องที่เป็นทางเดิน
มีค่าเท่ากับอะไรนั้น มิทราบได้ค่ะ
...ขออภัยท่านเจ้าของข้อความครับ ว่า ที่ท่านเห็นอาจจะไม่ได้เป็นดั่งท่านคิด เพราะเห็นข้อความนี้ผมก็รู้สึกแย่มากๆครับและผมคิดว่าหากท่านโดนกล่าวเช่นนี้ท่านก็คงรู้สึกแย่เหมือนกันข้อความของท่านเหมือนท่านว่า ผมเลวจริงๆแต่ขอบอกครับว่า ตัวผมเองก็มีจิตสำนึกอันดีและจะทำสิ่งใดก็รู้ครับว่าสิ่งใดควรไม่ควร ท่านน่าจะถามข้อเท็จจริงก่อนแล้วจึง เสนอความคิดของท่านน่าจะดีกว่าครับ....
.....การถ่ายภาพนั้นผมนำไปวางบนเก้าอี้แล้วถ่ายภาพครับ เนื่องด้วยผ้ามีขนาดใหญ่จึงคลุมเบาะหมดจึงไม่เห็นตัวเบาะครับ และสำหรับการพิมพ์นั้นหากดูทุกผืน ก็จะไม่เเหมือนกันทุกประการแม้แต่ผืนเดียวครับ เพราะ1.ความเข้มของหมึกก็จะไม่เท่ากัน 2. ขนาดก็จะไม่เท่ากันแล้วแต่การลงนน.ของการปั๊มและการวางมือและเท้าขณะปั๊ม เพราะไม่มีบล็อกที่แน่นอนครับ
....นี่ขอเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะอธิบายให้ทุกท่านได้ทราบ และยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจอีกครั้งครับว่า ของลป.สรวงนั้นผมมิกล้าที่จะทำปลอมขึ้นมาหลอกลวงผู้ใดแม้แต่คนเดียวครับ
.....สุดท้ายนี่ขอยุติกระทู้ผ้ารอยมือรอยเท้าลป.สรวง นี้ไว้เพียงเท่านี้นะครับทุกท่าน......
....ตฤณ....

 

เทียบให้ดูทั้งหมดทุกผืนครับ

.....................................

 

สิ่งที่ผมเห็นคือ

ใช้ปากกาคนละชนิด เส้นจึงเข้ม และจางต่างกัน
สงสัยจริงๆ จาร เพิ่มทีหลังรึเปล่า

คนเราก็มีความพยายามจริงๆ เส้นสมรสไปไหนล่ะครับ สงสัยทาหมึกเข้มไปหน่อย
จุดเริ่มต้นเส้นสมองก็ยังต่ำไป เส้นชีวิตโค้งไม่เข้ารูปที่สำคัญ เจ้าของลายมือนี้น่าจะตายในไม่ช้า เพราะเส้นชีวิตสั้น ไม่จรดสร้อยข้อมือ ไม่รู้ว่าจะอยู่รอดเลย 50 ปีรึเปล่าครับ

อ้อนิดนึง อุนาโลมเนี่ย ไปเรียนมาจากสำนักไหนเหรอครับ ถึงได้จารกลับด้านกัน กลายเป็นเลข ๖ ไปซะงั้น
อุณาโลม เขาจารเป็นเลข ๙ โปรดจำไว้ จนวันตายนะครับ

อ้ออีกอย่างหนึ่ง ผ้ากาสาวพัตร เป็นธงชัยของพระอรหันต์ ไม่น่าเอามาเหยียบ มาทาอย่างนี้เลย

แต่เอาล่ะ เมื่อจะเก็บไว้บูชาเองก็ไม่เป็นไร
คนเราถ้าตั้งใจบูชาอะไรสักอย่าง ก็อาจเป็นผลดีได้เช่นกัน ขอให้บูชาด้วยจิตเคารพจริง