สำนักปฎิบัติธรรม "ผาซ่อนแก้ว" เขาค้อ เพชรบูรณ์

สำนักปฎิบัติธรรม "ผาซ่อนแก้ว" เขาค้อ เพชรบูรณ์​

เห็นเพื่อนในเวบนี้เค้าแนะนำว่าสวยดี เลยเข้าไปหาในกูเกิ้ล แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ สวยงามมาก​

​

​

ที่มา http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=franc&date=30-07-2007&group=7&gblog=18​

16 พฤศจิกายน
การเดินทาง..สู่ "ผาซ่อนแก้ว"



"ชีวิต"คนทำงานจะไปไหนมาไหน ก็ลำบาก เพื่อนทางธรรม (เวปธรรมจักร) ชวนเราไป เจริญภาวนาที่ "ผาซ่อนแก้ว" จ.เพชรบูรณ์ แต่ ณ ตอนนั้น บริษัทเรามีกำหนดต้องนับสต๊อก จึงตอบปฏิเสธไป แต่ในใจลึกๆก็อดเสียดายไม่ได้เพราะเห็นรูปบรรยากาศแล้ว อยากไปมั่กมาก ภาวนาในใจว่า ถ้าจะได้ไป-หรือไม่ได้ไป ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงหรือแก้ใขได้หรอก จนอีก 2 วันจะถึงวันไป ผาซ่อนแก้ว ปรากฏว่าทางบริษัท เลื่อนการนับสต๊อกออกไป แต่เราก็ต้องมาติดปัญหาสำคัญเหมือนกันเมื่อ น้องสาวกับหลานวัย 2 ขวบเดินทางมาหาจากสุโขทัย - - -> สุดท้ายเราก็ตัดสินใจไป ทิ้งทุกอย่างไว้ที่กรุงเทพฯ

เก็บเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็นยัดใส่กระเป๋าคู่ใจ รีบอาบน้ำเวลาประมาณ 2 ทุ่มแล้วล่ะ น้องสาวกับหลานพยายามทำตัวเป็นมารไม่อยากให้ไปเต็มที่ แต่ไม่สำเร็จ มาถึงหมอชิต เกือบ 4 ทุ่ม เพื่อนอีกคนเดินทางมาจาก ชลบุรี ยังมาไม่ถึง ด้วยนิสัยเป็นคนขี้หนาวสุดๆ เพียงอยู่ใน สถานีขนส่งสายเหนือ ก็หนาวเสียแล้ว จึงเดินหาซื้อเสื้อกันหนาวภายในหมอชิต เจอราคาแพงกว่าร้านค้าข้างนอกพอสมควร (แต่ก็ไม่ผิดหวังที่ซื้อไป) - - - > รถโดยสาร ป.2 กรุงเทพ-หล่มสัก เคลื่อนตัวออกจาก สถานีฯเกือบเที่ยงคืน อากาศบนรถหนาวมาก(สำหรับเรา)เสื้อที่ซื้อมาไม่พออุ่นสำหรับเราได้ จึงทำให้เรา หลับๆตื่นๆตลอดการเดินทาง

มาถึง หล่มสัก เวลา ตี 4 อากาศหนาวกว่าบนรถอีก หาโจ๊กหม่ำที่ร้านเซเว่น ก็ขึ้นรถไปที่ ผาซ่อนแก้ว รถออกก็หลับและหนาวด้วยเส้นทางก็คดโค้ง พอลงรถที่ปากทางเข้า พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว ต้องเดินเข้าไปอีก 1.9 กม. ที่จริงเรื่องเดินเท้าไม่เกี่ยงนะ ชอบเสียอีก แต่ที่ไม่ชอบเพราะว่า กระเป๋าเราเป็นล้อลาก ตัวกระเป๋าเองก็หนักอยู่แล้ว ไหนจะสะพายกระเป๋ากล้องถ่ายรูปอีก ผ้าพันคออีก เรารู้สึกว่า ตัวเราทำไมมันไม่น่ารักเอาเสียเลยเช้านั้นอ่ะ อึดอัดไม่หมด ลากกระเป๋าก็ไม่ได้ เดี๋ยวหมามันเห่าเพราะเสียงลากมันดังตอนนั้นยังเช้าอยู่มากๆ สุดท้ายยักแย่ยักยัน จนถึง ผาซ่อนแก้ว ด้วยดี (ปาดเหงี่อเล็กน้อย หายหนาวเลย)

เย๊ๆถึงแล้ว "พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว"
พอถึง ผาซ่อนแก้ว นะความรู้สึกลังเลห่วงหลานห่วงน้อง กลับกลายเป็นว่า ถ้าไม่ได้มาวันนี้หนอช่างน่าเสียดาย (หลงไหลธรรมชาติน่ะ) พอเพื่อนร่วมเดินทางหาที่ซุกกระเป๋าได้ดีแล้ว(วางไว้บนเก้าอี้ใต้ต้นไม้หน้าศาลา) เราก็ไปทานอาหารเช้าที่แม่ครัวจัดให้ แถม กล้วยน้ำว้า อีกหลายลูก

ประมาณเที่ยง "หลวงพ่ออำนาจ โอภาโส" ให้สาธุชนลูกศิษย์มารวมตัวกันที่ระเบียงหน้าห้องครัว หลวงพ่ออำนาจ กล่าวทักทายและเมตตาบรรยายธรรม ให้โอวาทแนะนำสิ่งดีๆ แก่พวกเราพอสมควร หลวงพ่ออำนาจ จึงขอตัวไปทำธุระของท่านต่อไป
จากนั้นเราก็ขอตัวจากเพื่อน เดินเก็บภาพเสียทั่ว ผาซ่อนแก้ว การเดินเก็บภาพของเราไม่ได้ปล่อยตัวปล่อยใจให้หลงเพลิดเพลินเสียหายไม่ได้เจริญภาวนาเสียทั้งหมด ยังคงความมีสติในการย่างก้าวเท้าที่เดินไปเรื่อยๆ ยกเว้นเวลาตั้งใจจับโฟกัสภาพเราจะลืมตัวทันทีมีเพียงแค่สายตาที่เห็นแต่ภาพด้านหน้าที่มองอยู่ เราถอดรองเท้าไว้ตรงกระเป๋า เดินเท้าเปล่าๆไปยังตามไหล่เขา ไม่ได้มีจุดหมายในการเดิน








ตามเส้นทางที่เดิน มีเก้าอี้หิน เก้าอี้ไม้ สร้างแซมอยู่ตามใต้ต้นไม้ เพื่อให้คนชอบภาวนาได้ใช้ประโยชน์ ตลอดทาง จุดนี้เราชอบมาก ดอกไม้นาๆชนิดเบ่งบานพรรณไม้ต่างๆ ยิ่งทำให้







จิตใจเราพาล แจ่มใส บางครั้งเราก็หามุมสงบ นั่งสมาธิพักใหญ่ ก่อนจะเดินต่อไป

หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จแล้ว ประมาณ 1 ทุ่มสาธุชนทั้งหลายก็ร่วมกันสวดมนต์ทำวัตรเย็น นั่งสมาธิเล็กน้อยพระอาจารย์ยงยุทธ ก็อยู่คุยธรรมด้วยจนดึก แยกย้ายกันเข้านอน อากาศกลางคืนยิ่งหนาวเข้าไปอีก ลมแรงมาก

วันรุ่งขึ้นตกใจตื่นประมาณ ตี 4 จึงลุกล้างหน้าท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ ตี 5 ครึ่งไปทำวัตรเช้าที่ศาลา ทำวัตรเสร็จเรารีบวิ่งไปหามุมถ่ายรูป ก่อนที่จะไปใส่บาตร
และร่วมช่วยคนงานทำ "พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ" ประมาณเกือบเที่ยงเราจึงลา "พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว" กลับกรุงเทพฯ มาสู่โลกของความเป็นจริง ความวุ่นวายของเรา

ธรรมสวัสดี สาธุ

ที่มา http://cid-135d0b4b456e14c9.spaces.live.com/blog/cns!135D0B4B456E14C9!360.entry













​

 

น่าไปครับสวยมากครับและน่าไปศึกษาธรรมครับ

 

อนุโมทนา สาธุ...เมืองไทยของเราสวยจริง ๆ ครับ

.

 

อยากไปจัง เลย

 

อนุโมธนาสาธุ อยากไปมากครับ
ทุกวันนี้ วิวสวยๆ กลับเอาไปสร้างรีสอร์ตมากกว่า
การที่เอามาสร้างสถานปฎิบัติธรรม เป็นอะไรที่ดีมาก สามารถดึงคนไปปฏิบัติธรรมได้มากขึ้น เนื่องจากวิวสวย เงียบสงบ ธรรมชาติ

 

สวยงามมากค่ะ เป็นสถานที่ๆหน้าไปสุดๆเลย ช่วงปลายปีอาจจะลาพักร้อนไปปฎิบัติธรรมที่นี่ค่ะ ธรรมชาติน่าหลงไหลมาก ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งการทัศนาจร

 

อนุโมทนาสาธุ ขอทุกท่านเจริญในธรรม ตราบถึงซึ่งพระนิพพาน

 

กราบนมัสการพระบรมสารีริธาตุ และ

อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ครับที่นำภาพอันสบายตา มาให้ชมกัน

ผาซ่อนแก้วช่างมีทิวทัศน์งดงาม เงียบสงบ ห่างไกลจาก แสงสีเสียง แห่งมายาการจริงๆ

หวังว่าสักวันหนึ่งจะได้ไปเยี่ยมเยือน และได้ปฏิบัติธรรมที่นั่นครับ

 

น่าเสียดายอีกแล้ว ไปเขาค้อมา 3 รอบแล้วยังไม่เคยทราบเลยว่ามีสถานปฏิบัติธรรมอยู่ที่นี่

 

ขอแนะนำให้ไปเป็นหมู่คณะโดยโทรศัพท์ติดต่อนัดหมายกันล่วงหน้า เพื่อสะดวกด้วยกันทั้งสองฝ่าย โดยติดต่อโดยตรงกับพระอาจารย์ปารมี (พระอาจารย์ยงยุทธ เดิม) หรือกับหลวงพี่บอย (ไม่แน่ใจชื่อ) หรือไม่ก็ติดต่อและสมัครที่บ้านอารีย์ ในซอยอารีย์ พหลโยธิน ทางบ้านอารีย์จะคัดเลือกและส่งไปปฎิบัติธรรมที่ผาซ่อนแก้วอีกทีหนึ่ง ปัจจุบันนี้ ทางวัดมีเว็บไซท์ของตนเองแล้ว จะหารายละเอียดเพิ่มเติมให้ครับ
หมายเหตุ : ผมเพิ่งจะได้ไปปฎิบัติธรรมที่ผาซ่อนแก้วเมื่อ 1-4 ส.ค.ที่ผ่านมานี้เอง

 

เพิ่มเติมให้แล้วครับ รายละเอียดเกี่ยวกับผาซ่อนแก้ว และวิธีการจะไปปฎิบัติธรรมที่ผาซ่อนแก้ว อยู่ใน เว็บนี้ทั้งหมดครับ www.phasornkaew.org หรือ www.phasornkaew.com
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ

 

ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ ใครสนใจลองติดต่อดูนะคะ