วิญญาณยายทองก้อนขอส่วนบุญ (ประจักษ์หลักฐานที่นำมาจากหนังสือเสียงจากนรกภูมิ)

ในห้อง 'ภพภูมิ-สวรรค์ นรก' ตั้งกระทู้โดย matiepoppy, 19 สิงหาคม 2008.

  1. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณยายทองก้อนขอส่วนบุญ </TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    วิญญาณยายทองก้อนขอส่วนบุญ

    ณ มูลนิธชินบัญชร อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    เมื่อวันจันทร์ที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๕ เวลาประมาณ ๑๐ โมงเศษ มีวิญญาณตนหนึ่งมาอาศัยร่างพุทธบริกรท่านหนึ่ง เพื่อจะมาบอกเรื่องราว ตอนมีชีวิตได้ทำบาปกรรมอะไรเอาไว้ เมื่อตายไปแล้วได้รับโทษจากนรกภูมิอย่างไรบ้าง

    แต่เนื่องจากวิญญาณตนนี้เป็นวิญญาณที่หิวโหย อ่อนแรง มากไม่สามารถสนทนาได้รู้เรื่อง จึงให้ดื่มน้ำอมฤตพระแม่องค์ ธรรม เมื่อรู้สึกสบายตัวแล้วจึงได้เล่าเรื่องราวที่พบเห็นมาเพื่อเป็น อุทาหรณ์เตือนผู้ที่คิดจะทำความชั่วได้กลับตัวกลับใจเริ่มต้นสร้าง ความดีก่อนที่จะสายเกินไป

    ยายชื่อ “ทองก้อน” ตอนที่มีชีวิตอยู่อาศัยอยู่แถวยางโพรง สมัยก่อนเป็นป่าทั้งนั้น แก่ตายตอนอายุ ๑๐๑ ปี ตอนนี้ยังต้อง ชดใช้กรรมอยู่ในนรกขุมที่ ๕ ชดใช้กรรมอยู่ในนรกเป็นเวลาประ มาณ ๗๐-๘๐ ปีแล้ว

    ยายมาที่นี่เพราะต้องการมาดูลูกหลาน ที่ไม่บำเพ็ญจริง ไม่ตั้งใจทำงานธรรมะ

    ยายมาพร้อมเพื่อน ๒-๓ คน เพื่อนๆ ยืนอยู่ข้างรูปปั้นพระ โพธิสัตว์กวนอิม ได้รับอนุญาตพญายมแล้ว

    เพื่อนยายที่อยู่ในนรกด้วยกัน เขาพูดธรรมะให้ฟังทั้งคืน เขาพูดว่า “ถูกลูกหลานลืมแล้วละ แก่และตายลงลูกหลานเดี๋ยว นี้ไม่คิดช่วยเหลือ ลูกหลานเขาไม่เข้าใจ เขาว่ายายยังอยู่หรือ ไปไหนแล้วก็ไม่รู้” ช่วยสร้างบุญให้ยายหน่อย ยายมาขอส่วนบุญ

    วันที่ ๒๘-๒๙ กันยายน ๒๕๔๕ มีญาติธรรมที่มาเข้าชั้น เรียนพิเศษจื้อซั่นปันมี่จี๋ ซึ่งเป็นลูกหลานยายทำให้ยายมีโอกาสได้ ฟังธรรมะ ฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ยายคนแก่แล้วลูก หูก็หนัก เขาพูดธรรมะ ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง

    ข้างบน( สวรรค์) เขามีการจัดชั้นเรียน หมายถึงชั้นเรียน ของวิญญาณบาปจากนรก ที่พระชินปัญชรมหาราชจัดนำวิญ ญาณเหล่านั้นขึ้นไปกล่อมเกลาข้างบน เป็นครั้งแรกในเทศกาล โปรดสามโลก ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์สอนธรรมะขัดเกลาจิตให้ใสเบาขึ้น เมื่อจิตดีได้ระดับแล้ว เบื้องบนเมตตานำส่งขึ้นไปกล่อมเกลาบน ลานธรรมพระศรีอาริย์อีกรอบหนึ่ง ก่อนส่งมาเกิดในกายเนื้อเพื่อฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าศรีอาริย์ในวาระที่พระองค์มาครองกาย เนื้อเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายของกัป

    ยายขึ้นไปไม่ทันชั้นเรียนนี้ เขาปิดเสียก่อน เขาขึ้นไปวันที่ ๒๔,๒๕,๒๖ เหตุที่ขึ้นไปไม่ทันเพราะมีความรู้สึกว่าตัวมันหนักๆ ใครที่ตัวหนักๆ ไม่ได้ขึ้น ตัวเบาๆ ขึ้นไปได้ ชั้นเรียนนี้เขาเลิกตอน เที่ยงนี้

    และยายหูก็หนักฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เขาประกาศไม่ค่อยได้ยิน พอเขาครบจำนวน เขาก็ปิด ยายขึ้นไม่ทัน ยายรู้สึกว่าตัวมันหนัก หนักตกลงมาอีก

    ทางนรกเขาประกาศว่าให้ขึ้นข้างบน ลูกหลานจะมา สร้างบุญ เหมือนกับเรียนหนังสือ ยายไม่ได้ขึ้นไปเรียน ตัวหนักไปไม่ทันเพื่อน คนอื่นที่ไปเขาก็อยู่ขุมเดียวกับยายก็มีบ้าง เหมือนกัน มันแย่งกันขึ้นไปมากมาย ใครเร็วก็ได้ไป

    พอยายไม่ได้ขึ้นเขาบอกว่าให้มาที่นี่(บนโลก)

    ในอีกมิติหนึ่งที่วัดมีวิญญาณพวกเปรตทั้งนั้นมากินของเสีย คนอื่นเขาเอาไปหมด ยายเข้าไปไม่ถึงเลยอดกิน

    ยายหิว ยายอด ยายนั่งข้างประตูวัด ไม่รู้ใครเรียกให้มาเป็น คนสวยๆ ไปเรียกมาที่นี่(สถานธรรม) แต่งตัวเหมือนลิเก นางฟ้า แต่งตัวเหมือนงิ้วก็มี องค์ที่หน้าแดงๆ เสียงดังตัวใหญ่มีพลัง มีดาบด้วย แต่คนหนุ่มพูดหวานไพเราะเรียกเบาๆ เหมือนผู้หญิง

    เขาบอกว่ามาช่วยแล้ว ถ้าไม่ได้บุญที่นี่(วัด) ให้ไปเอาที่โน่น (สถานธรรม) ที่โน่นสวยเขาเรียกว่าวัดเหมือนกันแต่เป็นวัดบน สวรรค์ ให้มาที่วัดบนสวรรค์ก็คือที่ไท่ชุน ซึ่งก็เป็นสถานปฏิบัติ ธรรมก็ไม่ต่างไปจากวัด ที่นี่เราเรียกกันว่าวัดพระศรีอาริย์

    พอเขาบอกยายว่าเป็นวัดบนสวรรค์ เขาก็พายายมา ตอนที่ มาเห็นสะพานทองสวยยายเดินขึ้นสะพาน เห็นคนที่สถานธรรม ใส่เสื้อชุดยาว บ้านก็สีขาวๆ ทั้งหมด ที่อื่นยายเห็นเขาแต่งชุดสีดำ! ชุดสีดำเหมือนผี ปีศาจ หน้าตาก็เหมือนผี ที่ยายเห็นในอีกมิติหนึ่ง เป็นเช่นนี้

    ส่วนคนที่สถานธรรม ยายเห็นเป็นขาวหมด หน้าตาเป็นเด็ก มีแสงขาว บางคนยังดูดนม ถือขวดนมเดินอยู่ส่วนหลานยาย (หมาย ถึงลุงอีกคนที่มาเป็นนักเรียนในชั้นจื้อซั่นปันมี่จี๋ นั่งฟังอยู่ข้างๆ) นุ่งกางเกงเหมือนชาวประมงใส่เสื้อยังดำๆ หน้าตามีแสงนิดเดียว

    ส่วนคนนี้(ยงยุทธ)แขนเสื้อด้านขวาขาดไปครึ่งหนึ่ง ข้างซ้าย ยาว เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่ามันทำบ้างหยุดบ้าง มันขี้เกียจ บางทีใส่ชุดยาว บางทีไม่ได้ใส่

    เย็นนี้ยายก็ต้องกลับแล้ว กลับลงข้างล่าง(นรก)อีก (ในเมื่อ ยายทองก้อนมาขอบุญ เราก็จะให้บุญทุกวัน เอ่ยชื่อเวลากรวดน้ำ นะ ใส่ชื่อในใบกรวดน้ำส่วนรวมให้)

    ยังมีวิญญาณมาขอบุญอีกมาก ไม่รู้เท่าไหร่

    เดี๋ยวอีก ๒-๓ วัน ยายก็จะมาอีกไปสมัครไว้แล้ว (หมายถึงสมัครมาเข้าชั้นเรียนพิเศษ ที่กายเนื้อจัดขึ้นในวันที่ ๑๐ และ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๔๕ ในเทศกาลเดือน ๑๐ ส่งตายาย ที่ไท่ชุน) เขา อนุญาตพูดถึงก็ดีใจนะ

    เมื่อวานตอนมืดๆ ที่พุทธบริกร และนักเรียนพุทธะเขา กินน้ำกัน ยายได้มากเลยขอบใจนะ สดใส บางคนร้องไห้ ปลื้มใจที่เขาเอ่ยชื่อให้ ได้รับร่วมกันทุกคนเลย วิญญาณบาง คนกินมูมมาม

    วันหลังยายจะมาอีก ติดชื่อให้ด้วย เขียนข้างถาดเขียนชื่อติดไว้ตรงปากถาดเพื่อนจะได้ไม่ว่า ถึงยายอยู่ เขาก็จะแย่ง หมด ถ้ามีชื่อยายเขาจะหลีกทางให้ บังสุกุลที่อื่น บางคนสวดผิด สวดคำพระก็จริง แต่ใจไม่สงบ ใจนึกถึงผู้หญิงสวย ตาเขาดู แต่ผู้หญิง ใครที่ใส่สร้อยเส้นใหญ่ มันจ้องแต่ที่คอนั่นแหละ แล้วในใจก็คิดว่า ถ้ากูได้อย่างนั้นจะเอาใส่อวดสาวๆ จะหาแต่จะรวยแทนที่จะบำเพ็ญ พวกเจ้า(บุคลากรในสถานธรรม)ก็เหมือนกัน ข้าวของผลไม้ดีๆ ให้เขา ลูกที่เน่าให้พ่อแม่ บาปมากนะจำไว้ จำไว้พ่อแม่เลี้ยงเรามา เขาไม่รู้เป็นใคร มันกินแล้วก็นอน

    สมัยยายไม่มีแบบนี้ สมัยยายคนดี มีการธุดงค์ถือศีลบริสุทธิ์ ยายเห็นมาหลายปี ทุกๆ ปีเป็นแบบนี้แหละลูก

    ส่วนในเทศกาลอื่นเช่น ตรุษจีน ที่ได้ขึ้นมารับบุญก็อาศัย เขาบางครั้ง

    วิญญาณบรรพชนที่มาในชั้นเรียนเมื่อวันที่ ๒๘-๒๙ กันยายนที่ผ่านมา ยายเห็นถือดอกบัว ดอกบัวสีทองอยู่ติดประตู และสีขาวปลายสีชมพูนิดๆ เหมือนดอกบัว ส่วนพวกที่ยืนข้าง สถานธรรมเป็นพวกผีเปรตเต็มไปหมด

    ยายเข้าร่างนี้ได้ เพราะเขานั่งกินข้าวอยู่ เมื่อกี้เขาพูดอะไร กันก็ไม่รู้ เขาปวดหัว ยายเลยถือโอกาสเข้ามาใช้ร่าง

    ยายมาที่นี่อยากจะกินลางสาด ๒-๓ ลูก กินข้าว ที่นี่มีแต่คนใจดีทั้งนั้น คนสวย สถานที่ก็สะอาดด้วย สวยไปหมด

    ยายจะเล่าเรื่องสมัยตอนมีชีวิตอยู่ ยายได้ทำกรรมไว้มาก อาทิเช่น จับปู จับปลา จับเขียด จับกบ เอาทั้งนั้น ที่ปวดเอว เพราะตกเบ็ด แต่ก่อนยายชอบกินเนื้อควายยายกินทั้งนั้น ยาย ชอบเนื้อควายชอบมากกินเกือบทุกมื้อ สมัยก่อนเขาเอาข้าวไป แลกกัน แล้วเอาเนื้อมาหมักไว้เอามาตากแดดบ้างผัดเค็มบ้าง

    ยายกินเนื้อควายต้องไปรับโทษในนรก “ไม่พูดแล้ว มันเจ็บ” เวรกรรมมันมีจริง ไม่อย่างนั้นยายพ้นขุมนรกมานาน แล้ว

    คนที่กินเนื้อเขา เหมือนเชือดเนื้อตัวเองกิน เจ็บปวด แสบร้อน ปวดทรมาน เหมือนกับเรานั่งกินเนื้อตัวเอง เป็นแผลรู้สึก แสบด้วย

    ยายไม่ได้ฆ่าแต่กินเนื้อที่เขาฆ่ามาแล้ว แต่ลงไปในนรก ต้องกินเนื้อตัวเองกินจนหมดเลย บางทีเนื้อแลบออกมาเอง ต้องล้วงท้องตัวเอง ล้วงมานั่งกินเอง ทรมาน นรกมีจริง! ตอนที่ โดนทรมานเขาว่าเคยทำผู้อื่น ต้องรับกรรมตกนรก ถ้าไม่สำนึกก็ ไม่ได้ไปเกิด โดนทรมานอยู่อย่างนี้ เชื่อเถอะ นรกมีจริงๆ ไม่โกหก ไม่ได้พูดเล่น พูดเล่นกันไม่ได้

    ส่วนเรื่องกุ้งหอยปูปลาก็เหมือนกัน ยายเสียบก้นมัน ยาย ก็โดนอย่างนั้นเหมือนกัน เขาสอนว่าตอนทำเขาไม่รู้จักเจ็บ แต่พอ โดนก็รู้ใช่ไหม เวลาเสียบตอนเป็นๆ มันร้อง เวลาเอาปลามาผ่า ท้องมันคิดหนี แต่หนีไม่ได้ เหมือนกับที่โดนทางการยมโลกทร มานนั่นแหละ

    ยังมีเรื่องควายที่บ้านมันเป็นไข้ตาย ๒ ตัว ยังไม่ทันตายดี ยายก็ล้ม(ฆ่า)มัน โทษที่ได้รับในนรก ยายก็โดนล้มเหมือนควาย

    ยายเคยด่าคนก็โดนทางนรกลงโทษโดยการฉีกปาก

    กินหมากก็โดนลงโทษ เขาให้ไปกินถ่าน เขาสอนว่า ทำลายตัวเอง นี่คือสิ่งที่คนทั่วไปไม่รู้ แต่ต้องไปรับกรรม ไปกินถ่าน ไฟถ่านสุกๆ ไม่ต้องเคี้ยว เจ็บมาก ล้มๆ แล้วลุกขึ้น สิ้นสุดตอนไหน ยายไม่รู้เรื่อง ยายสลบ

    ยายจะไปแล้ว ขอบใจนะ สำหรับน้ำอมฤต สว่าง และเบา หวิวเลย

    ยายไม่อยากมาเกิดอีก ไม่เอาแล้ว

    ยายจะไปแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2008
  2. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณเปรตตาชุ่ม(บ้านนาขอม)</TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] <TABLE style="FONT-WEIGHT: bold; MARGIN-BOTTOM: 5px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=70></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>ณ มูลนิธิชินบัญชร อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    เวลาประมาณ ๑๐.๓๐ น. วันพฤหัสบดีที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๕ แม่ครัวท่านหนึ่งซึ่งนั่งซึมมานานมีอาการหนาวสั่น เหมือนคนเป็นไข้ และล้มตัวลงนอน ชักดิ้น ชักงอ ต้องจับกัน หลายคน ไม่พูดจา ถามอะไรก็ไม่พูด ได้แต่ร้องครางในลำคอ หน้าตาแสดงความเจ็บปวด พุทธบริกรจึงให้กินน้ำอมฤตพระแม่ องค์ธรรมที่ผสมผงทิพย์หน้าพระแท่น ยิ่งดิ้นก็ยิ่งแสดงความเจ็บปวดมากขึ้น

    วิญญาณเปรตได้อาศัยร่าง แต่พูดไม่ได้ เพื่อให้วิญญาณพูดจึงให้ดื่มน้ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์

    ตาหนีเขามา หนีคนหน้าแดง เขาตีเขาไม่ให้เข้ามาในนี้ (หมายถึงในสถานธรรม พุทธสถานทุกแห่งทั่วโลก จอมเทพวินัย ธรสี่พระองค์ปกปักรักษาดูแล คุ้มครองไม่ให้ภูตผีปีศาจเข้ามา ถ้า ท่านไม่ขออนุญาตก็เข้ามาไม่ได้ ที่เข้ามาได้ก็เพราะท่านอนุญาต โดยที่วิญญาณทั้งหลายต้องการมาบอกหรือมาทำภารกิจใด หรือ พุทธบริกรถูกทดสอบรวมหมู่)

    ตาชื่อชุ่ม อยู่ตำบลนาขอม อำเภอสิชล ตายตอนอายุ ๖๐ ปี โดนเพื่อนตีตาย

    เหตุที่ถูกตีตาย! เพราะเราไปขโมยควายเขา ตายอายุ ๖๐ ปี ตายมา ๕๐ ปีได้แล้ว เป็นเปรต มีรูปร่างตัวยาวๆ หนวดเครามาก หัวเข่าใหญ่ ไข่โต ไม่นุ่งเสื้อผ้า เขาปล่อยมาหลายวันแล้ว มาขอกิน เขาบอกให้มาขอ

    ตอนสมัยยังมีชีวิตอยู่ ชอบขโมย พี่น้องเกลียด เขาไม่ให้กิน

    ชอบขโมยของวัด ไม่รู้วัดอะไรที่นาขอม (วัดเขาพนมไตย) หลวงพ่อดุ ชื่อพิศ ขโมยกลางวันไม่ได้ โดนเด็กวัดตีตาย เวลาพระขึ้นโบสถ์หมด เราก็ขโมย พระขึ้นโบสถ์ตอนค่ำ ขโมยกิน ข้าวก่อน ขโมยโกร่ง(กล่องอนุโมทนา) ขโมยทั้งโกร่ง ได้ไม่มาก เพราะ สมัยก่อนมีเป็นเงินบาททั้งนั้น มีสตางค์แดง ๑๐ กว่าสตางค์ เอาเงินไปเที่ยว กินเหล้ากัน แล้วก็ตีกัน ขโมยของแม่ด้วย แม่ชื่อพวง

    “เหนื่อยแล้วนะ” (ให้น้ำอมฤตของพระแม่องค์ธรรม)

    ไม่ว่าอะไรขโมยทั้งนั้น ขโมยข้าวกิน เพราะไม่มีอะไรจะกิน ไม่ได้ทำงานเพราะขี้เกียจ ขโมยข้าวในนาเอาไปขาย ขายคนแถว นั้นมัดละสตางค์ ขายได้ ๕ สตางค์ ได้แล้วก็เอาไปซื้อกัญชาสูบ

    แต่ที่เขาตีตายครั้งนี้ไปขโมยควายเขา เขาว่าเราขโมย เราไม่ได้ขโมย เราจูงไปให้คนที่ซื้อของเรา ถูกเขาจับได้เขาก็รุมซ้อม แล้วเขาก็ตีลูกเดียว เขาตีกันหลายคน ดังตุ๊บตั๊บๆ

    ตอนตายวิญญาณออกจากร่างไป ใครก็ไม่รู้ มารับไป ๒ คน หน้าตาดุ ตัวดำทะมึนเลย สูงเป็นวา เขาพาลงไป(นรก) เขาว่าตาขโมยของแม่ตัวเอง ขโมยของเพื่อน ขโมยของพระด้วย บาปหนักกว่าเพื่อน ขโมยของพ่อแม่แต่แม่ก็ไม่ถือโทษโกรธลูก (ร้องไห้สะอื้นเมื่อพูดถึงแม่)

    แม่มาขอ อย่าทำลูกแม่ แม่ยังรักลูก แม่ว่าอย่าริขโมยของ คนอื่น ของของแม่ๆ ไม่โกรธ (ร้องไห้สะอื้นหนักขึ้นไปอีกเพราะ ระลึกความดีของแม่)

    เขาพาไปคุกเข่าบนแผ่นเหล็กร้อนเป็นไฟ(ร้องไห้) พอเรา ตายไป เขาเป่าๆ ให้ฟื้นให้มาอีก เขาก็เอาน้ำอะไรไม่รู้สีแดงกรอก ให้กิน สมัยตอนเป็นคนเรากินน้ำเมาด้วย เราขโมยน้ำเมาบนต้น ตาลโตนด ขึ้นไปขโมยบนต้น สมัยนั้นเขาทำบนต้นเลย แล้วเขาก็ เลยให้กินเหล้าเมืองนรก เหล้าเมืองนรกร้อนไปหมด ตายแล้วเขา เป่าให้ฟื้นใช้เวลาในที่นี่นาน เขาก็พาไปที่อื่นอีก พาไปให้หมามัน ควักท้องกินไส้!

    ทำความผิดอะไรไม่รู้! เขาไม่บอก!

    เราอยู่ที่…เขาพาไปหลายแห่ง จำไม่ค่อยได้ พาไปตรงนั้น มีงู มีหมา งูเจาะลูกตา หมาเจาะท้อง พอตายแล้วฟื้นขึ้นมาอีก มาที่นี่(สถานธรรม)ได้เพราะยมบาลเขาให้เรามาที่นี่เขาจะเรียกกลับแล้ว

    วันที่ ๓ ตุลาคม ยังอยู่ในเทศกาลส่งตายายอยู่ ในนรกเขา เรียกให้ขึ้นมาน่ะสิ คนอื่นเขาให้ขึ้น แต่เราเขาไม่ให้ขึ้น เขาบอกว่า ค่อยขึ้นทีหลัง ให้คนอื่นขึ้นก่อน

    เราวิ่งหนีมา เราหิว เห็นเพื่อนกิน ก็อยากกินบ้าง เคยเห็น แต่เขากินกัน อยู่ในนรกไม่ได้กินเลย

    อยู่ที่ร่างนี้ ตาแอบอยู่ จอมเทพวินัยธรตีเราวิ่งหนีทุกที

    แล้วคนแก่หนวดขาวด้วย เขาดุจะตาย (หมายถึงเทพเจ้า เตาครัว) เขาไม่ให้เรากิน ยังไม่ถึงเวลา ญาติพี่น้องก็ไม่ให้กิน เขาไม่ให้เรากินนานแล้ว เขาลืมเราแล้ว

    ไปที่วัดมาแล้ว ไปดูที่วัดเขาพนมไตยไปยืนดูเขากิน คนโน้นเขาเรียก กับเราเขาไม่เรียก ข้างนอกพวกโน้นแย่งหมด พวกข้างนอก……เยอะ! มีข้าวบ้าง ขนมบ้าง เขากรวดน้ำเอ่ยชื่อ แต่กับเราเขาไม่เอ่ยชื่อ

    เราจะกลับแล้ว

    วัตถุประสงค์ของเรา มาขอข้าวกิน ไม่ได้มาทำร้ายใคร

    เราเป็นเปรตที่หิวโหย สูง ลิ้นห้อย ตวัดแมลงกินได้เลย เขาให้กินแต่แมลง ปากไม่เท่ารูเข็มหรอก ที่พูดไม่ได้ มีคนแก่ขาวๆ เขาบีบไว้

    ข้าวที่ข้างนอกวัด เราก็ไม่ได้กินเหมือนกัน กินแต่ของเหลือ ถ้าไม่เหลือเราก็อดอีก เราหิวไม่ได้กินมาหลายปีแล้ว(ร้องไห้) พี่น้องก็ไม่อยู่

    ลูกหลานอย่าทำเหมือนตาน่ะ ของพ่อของแม่ก็อย่าขโมย ของพระด้วยอยู่เหมือนตาน่าเวทนาจริงๆ ลูกเวทนาจริง อดก็อด พี่น้องก็ไม่ดูแล(ร้องไห้) อย่าทำจำไว้ ไม่รู้ได้ผุดได้เกิดเมื่อไหร่ (ร้องไห้ )

    เราก็เล่าแค่นี้ อย่าเอาเป็นตัวอย่างน่ะ ไม่ว่าอะไรอย่าไปขโมย ของเขา

    เราเป็นเปรตอยู่ในน้ำสกปรกทั้งนั้น เขาให้กินน้ำปัสสาวะ ให้กินอุจจาระด้วย ถ้าไม่กินเขาก็ตี เขาอนุญาตให้มาที่นี่ เมื่อถึง เวลาเขาเรียกกลับอย่าให้เกินเวลาที่เราขออนุญาตเขาไว้

    เดี๋ยวเขาก็พาเรากลับไปอีก พาไปกินอุจจาระหลายวันทำ ให้กินอยู่อย่างนั้น อาเจียนแล้ว เราก็ต้องกลืนต้องฝืนทน จำไว้นะ ลูกอย่าทำเหมือนตา

    เปรตที่ตาเห็นอยู่เยอะ ทั้งหญิงทั้งชาย อยู่กันแก้ผ้าหมดแต่ไม่ได้มีอะไรกัน ผู้หญิงก็แก้ผ้าผู้หญิงไม่มากเท่าไหร่ เพราะ ไม่ได้ขโมยของคนอื่น เด็กไม่มี

    นรกขุมนี้เขาเรียกว่าเปรต แต่เปรตอะไรไม่รู้ อยู่ขุมที่ ๙ ที่ ๑๐ ตรงนั้นแหละจำไม่ได้

    อย่าเอาเป็นตัวอย่างจำให้ดี(ร้องไห้)

    อิ่มแล้ว ข้าวไม่ต้องกินแล้ว(เมื่อตะกี้ให้กินน้ำ)

    ไปแล้ว
     
  3. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณป้าลิ้มเป็นบรรพบุรุษของป้าอุไร </TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] <TABLE style="FONT-WEIGHT: bold; MARGIN-BOTTOM: 5px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=70></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>ณ มูลนิธิชินบัญชร อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    วันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๔๕ เวลา ๒๐.๔๕ น.

    มีวิญญาณตนหนึ่งมาอาศัยร่างเพื่อจะมาบอกเรื่องราว

    ป้าเป็นพี่น้องของคนชื่ออุไรลูกของลุงเทียบ เราชื่อลิ้มอยู่ นครฯ เป็นผู้หญิง ตายมาร้อยยี่สิบกว่าปีแล้ว มาแอบร่างนี้อยู่ ตั้งแต่เขาไหว้พระอยู่ มาดูหลานคนนี้แหละ(หมายถึงร่างที่ใช้อยู่)

    ป้ามาในเทศกาลเดือนสิบ ท่านพญายมอนุญาตให้ขึ้นมา

    ก่อนตายตอนนั้นอายุใกล้ ๘๐ ปีแล้ว ป้ากินหมาก หมากติด คอตาย มันเข้าหลอดลม ตายมาแล้วร้อยกว่าปี ขอกินน้ำหน่อย (ขณะเดียวกันนั้นคุณวิชัยซึ่งทำงานสร้างอาศรมอยู่ จามอย่างแรง วิญญาณจึงพูดขึ้นมาทันทีทันควันว่า……)

    บรรพบุรุษเอ่ยถึง มันทะเลาะกันจะตาย มันเถียงอะไรกัน ก็ไม่รู้ ที่บ้าน ที่หน้าพระมันก็เถียงกัน ลูกเต้าของเขาเถียงกัน บรรพบุรุษมานั่งคอยจะไหว้พระตอนเย็น ไม่รู้อะไรกันนักหนา เดี๋ยวโน่นเดี๋ยวนี่ เขามาพร้อมป้า

    พญายมให้ขึ้นมาล่วงหน้า ๑ อาทิตย์ ขึ้นตั้งแต่ตอนเย็น เมื่อวานก็มา เขาให้มาเฉพาะคน(วิญญาณ)ที่ใกล้จะหมดเวรแล้ว ป้าอยู่ขุมที่ ๒

    ข้างล่างสนุกกันใหญ่แล้ว เปรตมันจะขึ้นมา เขาจะมาที่นี่ นั่นแหละ ที่นี่มีงานใหญ่ มึงยังไม่จัด แต่มึงประกาศไปแล้ว เขาได้ ยินกันทั่วข้างล่าง(นรก) เขาก็ประกาศเมื่อไม่กี่วันข้างหน้านี่แหละ

    เขาประกาศทั่วเมืองนรก ข่าวดังฉาวโฉ่อื้ออึงไปหมด ติด ลำโพงใหญ่ เขาประกาศออกลำโพงว่าใครมีพี่น้องอยู่ข้างบน ให้ มาที่นี่ เดี๋ยวเราจะพาขึ้นไป ใครไม่มีญาติพี่น้องหนักใจสักนิด จะได้มาไหมต้องให้พญายมตัดสินก่อน

    ได้มาเห็นหลานแล้วดีใจ

    บรรพบุรุษของชายคนนี้(คุณสันติ จันทร์แก้ว) มันไม่ค่อยมา สถานธรรม นานๆ จะมาสักที เขาก็ได้มีชื่อเหมือนกัน ได้มาเหมือน กันแต่อยู่แถวหลังสักหน่อย ป้ามากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่งตัวลอยขาวเต็มไปหมดเขาพามาเอาบุญ เมื่อตะกี้เราก็ได้นิดนึงแล้ว ได้ตอนที่พวกเจ้าเอ่ยคำว่าตา ยาย บรรพบุรุษ ป้าเป็นพี่น้องของเขาเหมือน กันก็ได้

    ถ้าไม่เอ่ยชื่อก็ไม่ได้ ข้าลงไปข้างล่างร้อยยี่สิบปีแล้วไม่เคย ได้รับบุญเลย เพิ่งจะได้รับเมื่อลูกหลานมาเรียนธรรมะข้าถึงจะได้

    ตอนที่ลูกหลานเริ่มบำเพ็ญธรรม ข้าอยู่ขุมที่ ๑๑, ๑๒

    ทางการยมโลกส่งป้ามา พอมาถึงก็ไปเยี่ยมบ้านก่อนที่หัว ไทร ไปหาพี่น้องมีทหารคุมไปด้วย ป้าบอกว่าจะไม่ทำผิดอีกแล้ว ไม่ต้องตามมาก็ได้กลัวแล้ว

    ไปที่บ้านไม่พบใคร มันตายโหงกันหมดแล้ว ไม่ได้พบใคร สักคนเดียว ป้าไปเสียเที่ยว ไม่ได้อะไร ไม่พบใคร

    พอตกตอนเย็นก็มาถึงที่นี่ พอมาถึงพวกมึงก็ไหว้พระอยู่พอดี คนสวยผิวขาวเขาชี้ให้ข้ามาที่นี่

    พอเขาให้เข้ามาป้าก็กอดร่างนี้อย่างตั้งใจ ร่างเลยหายใจ ไม่ออก

    ไม่รู้กรรมอะไรเต็มไปหมด อยู่ในนรกนานตั้ง ๑๒๐ ปี

    วันนี้จะเล่าสักตัวอย่างสักสองสามตัวอย่าง เพื่อเป็นอุทา หรณ์ให้คนรุ่นหลัง แต่ใกล้จะหลุดแล้ว ขึ้นมาอยู่ขุมที่สองแล้ว

    เหนื่อยใจน่ะ ลูกน่ะ มันเหนื่อยใจแทนพวกมึง พวกมึงยัง พูดหยาบกันอยู่ ลงข้างล่างน่ะลูกน่ะ ป้ากลัวแล้วทำอย่างไรก็ไม่ อยากไป

    กรรมมีจริง วิบากกรรมของใคร กรรมใครทำกรรมนั้นได้รับนี่แหละ ดูตัวอย่างป้าซิ กรรมที่ทำ ต้องไปชดใช้ ต้องไปอยู่ในนรกเป็นร้อยๆปีแล้ว ไม่ใช่ธรรมดาน่ะ กรรมในชาติก่อนบวกกับกรรม ในชาตินี้ ถ้าไม่สร้างความดีลบล้างความชั่วก็จะบวกลงไปข้างล่างแล้วหนัก หนักจริงๆนะ

    ในสมัยตอนมีชีวิต ป้ามีม้า เลี้ยงม้าสองสามตัวม้า ที่เขาขี่ ที่เขาเอาลากของ ตอนแรกป้ามีฐานะยากจน ทำแต่นาแล้วก็ใช้ม้าขี่ ให้ลากเกวียน ให้มันลากข้าวในนา เวลามันตกหลุมตอนไปหน้านา เวลาม้าขึ้นไม่ได้ก็ตีมัน มันน้ำตา ตกตอนถูกตี ลงไปนรกป้าได้ รับโทษเหมือนที่ทำไว้กับม้าอย่าง ไรก็รับโทษอย่างนั้น ต้องไปโดน ลากของอยู่อย่างนั้นเหมือนกัน ไปลากหินเกวียน ที่คอก็มี เลือดไหลเต็มไปหมดเลย เจ็บมาก ลากต้องคลาน เขาก็ไม่ให้หยุด ให้เดินกับหัวเข่า คุกเข่าแล้วคลานเหมือนสุนัขเลย

    ถึงกับตาย จะทนไหวได้ยังไงล่ะ คลานบนแผ่นเหล็กเสียด้วย เหล็กร้อนเนื้อก็หลุดหมด ตายแล้วเขาก็ลากกลับมาอีก เขาไม่ให้ ผ่าน ไม่ให้พ้น ให้ทรมานอยู่อย่างนั้น

    พอตายแล้วเขาก็พัดลม พอฟื้นแล้วก็ให้ลากต่อ นานจนจำ ไม่ได้ เจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว

    ป้าพูดสำนึกเหมือนที่พวกเจ้าพูดนั่นเหละ ป้าบอกว่าพอ แล้วจะไม่ทำแล้ว ถ้าหากรู้ว่าจะได้รับผลบาปเช่นนี้ ก็ไม่ทำหรอก ไม่ทารุณสัตว์หรอก

    ป้าสงสารที่ทำกับสัตว์ไว้ เคยตัดคอไก่ ผลที่ได้รับเขา พาป้าไปแขวนคอ เชือดคอเหมือนที่ทำกับไก่ที่เขาแขวนไว้ในตู้ ป้าเจ็บปวด ดิ้นจนขาดใจตาย แล้วฟื้นขึ้นมาอีก จนถึงสำนึกแล้ว เขาก็จะหยุด เชื่อซิ ลูกๆ หลานๆ รับกรรมเหมือนกับเราที่ทำ สัตว์ไว้ในโลกนั่นแหละ

    ส่วนเรื่อง กบ เขียดก็นำมาถลกหนังออก สามีของป้าไป ตีกบมา บางครั้งก็ยังไม่ตาย มันนั่งจ้องตาเป็นประกาย ป้าเอา มีดถลกหนังมันออก (ร้องไห้ไม่อยากเล่า) เชื่อไหมว่าบางตัวถลก หนังแล้วก็ยังไม่ตายอีก ป้าก็นำมีดมาผ่าท้อง น่าสงสารมันน่ะ ถ้าหากว่าป้ารู้ ก็ไม่ทำหรอก ที่ถูกลงโทษเหมือนเคยทำกบ แต่ความรู้สึกเป็นคน โดยถูกทำโทษเหมือนกบ เชื่อเถอะลูกว่า นรกมีจริง

    ลูกๆ หลานๆ ทั้งหลาย ปู่ย่า ตายาย ทวดน่ะ ยังอยู่ข้างล่างอีก มาวันนี้เพื่อมาบอกให้เขารีบๆ มาที่นี่ เอาเงินมาทำบุญ ทำบุญให้ มากๆ ไม่ต้องหวงเก็บไว้ ทำให้หมด จะตายกันแล้วเหลือไว้ทำไม

    พี่น้องพอเขามีเงินก็ดี แต่ป้าก็ฝากบอกให้มันมาสร้างบุญ บอกว่าบรรพบุรุษทั้งหมดที่อยู่ข้างล่างของมันกำลังคอยบุญอยู่

    ป้าจะไปแล้ว ต้องกลับอีกน่ะสิ

    จะขอกินก่อน แล้วค่อยไปขุมที่ ๒

    พอป้ากลับลงไปก็ไปฟังธรรมที่ศาลาพระมาลัย เดี๋ยวก็ต้อง ไปฟังธรรม ไปฟังพระเทศน์ พระเทศน์แต่เรื่องกฎแห่งกรรม เทศน์ให้สร้างความดี อย่าสร้างกรรมชั่ว เทศน์ให้ทำแต่สิ่งที่ดีๆ ท่านบอกว่าหลุดพ้นได้ สุดท้ายแล้ว ท่านบอกว่าท่านต้องเหนื่อยใจ

    ลูกหลานของป้าเหมือนกันทั้งหมดแหละ ช่วยกันล่ะนะ ช่วยกันคนละนิด ข้างล่างพี่น้องของทุกคนยังติดอยู่อีกกันหลาย คนไม่ใช่เฉพาะป้า

    ป้าบอกก็เดี๋ยวว่าโกหกอีก บางทีก็ดี บางทีก็ไม่ดี ให้ทุกๆ คนเชื่อว่า พี่น้องยังอยู่ข้างล่างอีกหลายคน มีอีกมากยังไม่ได้มาในวันนี้ ไม่ได้ขึ้นมาน่าสงสาร เขากำลังคอยจะขึ้นมา

    ให้ทุกคนช่วยกันทั้งหมดนั่นแหละ พี่น้องใครก็เหมือนกัน ช่วยกันให้เขาสร้างบุญบ้าง ก่อนจากกัน ป้าฝากบอกหนูอุไรด้วย นะว่า ให้เขามาสร้างบุญ

    ส่วนเอียด(น้องของร่างนี้) มันพูดยากนะ เจ้ากรรมนายเวรของเขามากกว่าคนอื่น เขาหยิ่ง จองหอง ถือดี ใครก็ทำเขาไม่ได้ ไม่รู้วันไหน ถ้าเขาล้ม เขาจะเป็นคนแรก

    เขาไม่เชื่อ พอเขาเจ็บ เขาไม่สบาย ก็ว่าทำไมเขาไม่ช่วยเรา มันเจ็บจะตายแล้ว คอยดูสิ เขาร้องหาแต่คนนี้แหละ เขาไม่สร้าง บุญให้บ้าง

    ลูกหลานมันไม่เข้าใจ จะอยู่กับเขานานๆ ตอนนี้ ๒๑.๐๐ น. หรือยัง? อยากนอนสักคืน ป้ามาบอกแล้ว ก็จะกลับแล้ว ขอเขา แค่นั้น ขอว่าจะมาอยู่กับลูกหลานบ้าง

    ป้าจะไปแล้ว รู้สึกปวดหัว ไม่รู้จะทำอย่างไร พูดไม่ได้

    กฎแห่งกรรมมีจริงๆ นรกมีจริงๆ ถูกทรมานจริงๆ ไฟนรก มีจริงๆ

    ป้ากลัว จะกลับแล้วนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2008
  4. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    เปรตชีวาพรจากท่าศาลามาขอส่วนบุญ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>เปรตชีวาพรจากท่าศาลามาขอส่วนบุญ</TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] <TABLE style="FONT-WEIGHT: bold; MARGIN-BOTTOM: 5px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=70></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ณ มูลนิธิชินบัญชร อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    วันจันทร์ที่ ๗ เดือน ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๕ เวลาประมาณ ๑๒.๒๐ น.

    ตอนเช้าคุยกับพ่อปู่ฤๅษีเดินดง เรื่องวิญญาณเปรตที่มาขอ บุญในช่วงที่ผ่านมา ท่านว่าวิญญาณเปรตที่มาให้หลักฐานก่อน หน้านี้ ให้ข้อมูลไม่ค่อยจะชัดเจนเท่าที่ควร เมื่อคืนพ่อปู่คุยกับวิญญาณเปรตที่เตรียมมารับบุญในวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๔๕ ซึ่งมูลนิธิฯ จัดงานส่งตายายในเทศกาลเดือนสิบ และได้จัดมาหลายปีแล้ว ในปีนี้จะจัดพิเศษกว่าที่เคยจัดมาแล้ว ทางการยมโลกจะปล่อย วิญญาณมามากกว่าปกติ ประกอบกับเสด็จพ่อพระชินปัญชรมหา ราชได้จัดชั้นเรียนพิเศษ ให้แก่วิญญาณในนรกได้ศึกษาในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ จนถึงวันแรม ๑๕ ค่ำเดือน ๑๐ วิญญาณที่ผ่าน การสอบไล่ในวันแรม ๑๕ ค่ำ ที่จัดข้างบน (บนสวรรค์) แล้ว จะได้ มาสอบร่วมกับลูกหลานกายเนื้อที่ได้จัดขึ้นที่มูลนิธิฯในโลกมนุษย์ ในวันที่ ๑๐ และ ๑๑ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นชั้นเรียนสำนึกบาป จาก นั้นถ้าบุญกุศลลูกหลานพอ วิญญาณเหล่านั้นก็จะได้ขึ้นลานธรรมพระศรีอาริย์ ไม่ต้องกลับลงไปรับโทษในนรกอีก พ่อปู่ว่าเปรตที่คุย กันเมื่อคืนมีแววดี พ่อปู่จะส่งมาให้สัมภาษณ์อีกสักราย

    เปรตที่จะมารับส่วนบุญในวันส่งตายายของไท่ชุน วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๔๕ ตรงกับวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๑ จะมีจำนวนมาก ในตอนสายวันที่ ๗ ตุลาคม ยังไม่ทันเตรียมตัวพร้อม เพราะยุ่ง อยู่กับการจัดสถานที่ เปรตเองเห็นว่าบ่ายงานจะยุ่งมากกว่า จึง ขออนุญาตพ่อปู่มาแสดงหลักฐานก่อนกำหนด พ่อปู่จึงผลักญาณ เปรตให้มาแสดงหลักฐานก่อน เมื่อเปรตมาใช้ร่าง จะร้องโหย หวนน่าสยดสยอง แสดงความเจ็บปวดรวดร้าว มีอาการของ ความหิวโหย เสียงร้องดังก้องไปทั่ว เมื่อร้องอยู่นาน หลายนาที จึงบอกให้หยุด ก็ไม่ยอมหยุดง่ายๆ

    เขาให้เรามาเอาบุญ ปากเล็กพูดไม่ได้ (พูดได้แค่นั้นแล้ววิญญาณร้องโหยหวนน่าสพรึึงกลัวต่อเนื่องยาวนาน แสดงถึงความ เจ็บปวด คนที่เจ็บปวดร่างกายร้องโหยหวนอย่างไร เสียงร้องของวิญญาณนี้ก็เป็นอย่างนั้น)

    กูเป็นสัตว์นรก
     
  5. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณเปรตยายนิ่มจากนรก </TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] ณ มูลนิธิชินบัญชร อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    วันพุธที่ ๙ เดือน ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๕ เวลาประมาณ ๑๑.๒๕ น.

    วันนี้ มูลนิธิฯได้จัดงานวันส่งตายายประจำปี พ.ศ.๒๕๔๕ เนื่องในเทศกาลส่งตายายประจำปี ซึ่งได้จัดมาหลายปีแล้ว แต่ จัดหลังจากวัดวาอารามต่างๆ ได้จัดเสร็จแล้วประมาณ ๓ วัน ในเทศกาลส่งตายายนั้น ทางวัดได้จัดวันสาร์ทรับตายายเมื่อวันแรม ๑ ค่ำเดือน ๑๐ และส่งกลับวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ซึ่งเรียกกันว่า “วันส่งตายาย” ส่งไปไหน ส่งไปรับความทุกข์ ทรมานเช่นเดิม แล้วรับมาทำอะไร รับมาให้ได้กินข้าวของ เพราะตลอดเวลาที่รับโทษทรมาน ทุกข์ยากอยู่ในอบายภูมิ ไม่มี โอกาสได้กินอะไรเลย หิวโหยตลอดเวลา ที่่มูลนิธิฯจัดเลี้ยงใน เทศกาลเดือนสิบนั้น มิได้เลี้ยงเฉพาะเปรต แต่เลี้ยงสัตว์นรกทั่วไป ที่สามารถขึ้นมาได้ เปรตที่มีญาติมาสถานธรรมหรือไม่มาก็อนุญาต ให้วิญญาณไร้ญาติมากินได้ พระมาลัยจึงนำพาวิญญาณเปรตไร้ ญาติเหล่านั้นให้มากินได้

    ขณะที่กำลังแสดงความยินดีต้อนรับ และบอกให้สัตว์นรกทั้งหลายกินอาหารกันอย่างอิ่มหมีพีมัน ตามเจตนาของผู้จัดเลี้ยง เมื่อเชิญแขกมากินเลี้ยง ก็กล่าวเชิญชวนเขา เขาจะได้ไม่อึดอัด ให้ แขกกินกันอย่างมีความสุขอยู่นั้น เปรตตนหนึ่งก็ได้แสดงตัวเป็น หลักฐานด้วยการร้องโหยหวน ต่อเนื่องยาวนาน และเสียงร้อง แสดงถึงความหิวโหย เจ็บปวดทรมาน

    เขาให้กูมาเป็นตัวแทน บอกลูกบอกหลานมากันมากมาย ตอนนี้แทบจะยืนไม่ถึงดินกันแล้ว

    กูชื่อยายนิ่มลูกหลานของกูไม่มา มันออกทะเล แต่กูก็ได้กิน ก็ที่พวกมึงให้กูกิน กูอยู่ปากพนัง กูตายมา ๓๐๐ กว่าปีแล้ว ตายตอนอายุ ๑๑๒ ปี

    มึงอย่าถามพอตายแล้วไปที่ไหน มึงก็รู้แล้ว ที่กูได้มาวันนี้ (ร้องไห้อยู่ตลอดเวลา)

    กูเป็นเปรต (ร้องไห้)

    กูไปนรกก่อน พอเหลือเศษกรรมไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ก็ต้องลงมาอยู่ขุมลึกของเปรต ลงขุมที่ ๘

    พอตายไปก็ต้องไปนรก แล้วก็ถูกส่งไปหลายๆขุม หลุดจาก ขุมนรกมาเป็นเปรต ๓ ปีมาแล้ว (ขณะที่มาแสดงหลักฐาน วันพุธที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๕ เวลาประมาณ ๑๑ นาฬิกา)

    พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์(พระมาลัย) ให้มาที่นี่มาบอกลูก หลานว่าให้ช่วยบรรพบุรุษของพวกมึงให้เกลี้ยงนรกสักที

    วันนี้ที่เจ้าประกาศชื่อ ตายายขึ้นมากันมาก เหยียบไม่ถึงดิน ขี่คอกันมานัวเนีย

    ที่เจ้าพูดตอนที่ตายายกำลังกินกันอยู่ ทุกวิญญาณได้ยินทั้ง นั้น พวกสูทำอะไร พวกสูแสดงละครกูก็เห็น ฮือๆ

    เขาให้กูมาเป็นตัวแทน บอกให้คนที่อยู่ในที่นี้ ให้เข้าใจ กฏแห่งกรรม กฏแห่งกรรมมีจริงๆ พระกษิติครรภ์มีจริงๆ นรกมีจริงๆ ตอนนี้กูยังอยู่ข้างล่าง แต่เขาได้เมตตาให้กูได้มาบอกพวกมึงทั้งหลาย ให้สร้างบุญให้เร็ว ช่วยคนข้างล่างให้ขึ้น อย่าให้เขาอยู่ในกองไฟนรกเลย ไม่มีบุญก็เผาทุกวัน ไฟเผาทุกวัน เผาจนไม่มีชิ้นดีแล้ว ฮือๆ

    วันนี้มากันแน่น เต็มไปหมด ฮือๆ กูดีใจ ลูกหลานกูไม่มา แต่พวกมึงใจดี ให้กูได้มากินข้าวกัน ฮือๆ

    พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ท่านอนุญาต ท่านอยากจะช่วย วิญญาณเหมือนกัน แต่บางวิญญาณมันยังดื้อให้อภัยไม่ได้

    วันนี้ ถึงแม้ลูกหลานกายเนื้อไม่ได้มาที่นี่…(งานวันส่งตายายจัดที่ไท่ชุนทุกปีมา แต่จัดงานหลังวันส่งตายายที่วัดสามวัน) แต่กูได้มา ฮือๆ เพราะมึงบอกลงไป มึงบอกว่าถึงไม่มีพี่น้อง ก็ให้ มากินได้

    พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์จึงอนุญาต มามากมายที่ดื้อก็ไม่ได้ ขึ้น ฮือๆ

    เสร็จจากที่นี่แล้ว ท่านจะให้กลับไปข้างล่างอีกแหละ ฮือๆ

    ในเทศกาลโปรดสามโลกนี้ คนที่เป็นกายเนื้อรับธรรม เปิดจุดแล้ว ตั้งใจบำเพ็ญ ชาติเดียวหลุดพ้นไปนิพพานได้ หลังจาก ตั้งใจบำเพ็ญ เมื่อถูกทดสอบก็ไม่ท้อแท้ถดถอย บรรพบุรุษที่อยู่ใน นรก ได้เลื่อนฐานะตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ ตามลำดับแห่งขั้นการบำเพ็ญของลูกหลานกายเนื้อนั้น ไม่ว่าจะเป็นเทวดาบนสวรรค์ก็ได้รับผล เช่นเดียวกันจากการบำเพ็ญของลูกหลานกายเนื้อ!

    สูอย่าโง่นักเลยลูกหลานเอ๋ย อย่าโง่ ได้ของดีแล้วรักษาไว้ให้ดี อย่าให้ไปจมปลักเหมือนกูนะลูกหลานเอ๋ย ฮือๆ

    พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ให้กูมาบอก ฮือๆ ท่านบอกว่าสงสาร สัตว์นรกเหลือเกิน แต่เพราะทำความชั่วตอนที่มีชีวิตท่านก็ช่วย อะไรไม่ได้ เพราะตัวเราทำตัวเราเอง ท่านสงสารอยากจะช่วย แต่กฎแห่งกรรมก็ต้องทำตามกฎแห่งกรรม ฮือๆ

    กูไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะอยู่ได้ไหม (พรุ่งนี้เป็นวันจัดชั้นเรียนสำนึกบาป ๒ วัน คือวันที่ ๑๐ และ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๔๕ ที่มูลนิธิฯ)

    กูไม่มีสิทธิ์ขอ เพราะกูเป็นสัตว์นรก กูเป็นเปรต ฮือๆ

    พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ ท่านให้มาบอกลูกหลานที่เป็น มนุษย์ วันนี้ได้สร้างบุญใหญ่ ช่วยคนพเนจรได้มากให้เขาได้มารับบุญ ได้กินข้าว ได้กินน้ำ แต่ละคนหิวโหย อดโซ หิวจนไส้กิ่วแล้ว

    ตอนนี้สดชื่นกัน อิ่มกันทุกคนแล้วลูกเอ๋ย อิ่ม กูก็อิ่ม

    ท่านบอกว่าอยู่นานไม่ได้ เพราะมีคนตายวิญญาณบาปมากเหลือเกิน ต้องลงไปตัดสินความวิญญาณบาป

    ท่านบอกว่าต้องไปทำงานให้ไฟนรกเผาวิญญาณแล้ว ไม่มี โอกาสมากเท่าไหร่ที่จะมาโลกมนุษย์ วิญญาณบาปมากเหลือเกิน ยิ่งมากขึ้นทุกๆวัน ฮือๆ

    กูต้องลงไปแล้ว ฮือๆ กูไม่มีลูกมีหลานมาสร้างบุญเหมือน พวกมึง กูอิจฉาคนอื่นที่เขามีลูกมีหลานมาฟังธรรม เขาได้แต่งตัว สวยๆ ได้นั่งเก้าอี้สวยๆ แต่กูไม่มี ฮือๆๆๆ
     
  6. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณดารากร พรพิมล</TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] <TABLE style="FONT-WEIGHT: bold; MARGIN-BOTTOM: 5px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=70></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>ณ มูลนิธิชินบัญชร ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    วันเสาร์ ที่ ๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ เวลา ๑๒.๒๕ น.

    มีวิญญาณตนหนึ่งมาอาศัยร่างเพื่อจะมาบอกเรื่องราว ร้อง ด้วยความเจ็บปวด ทำให้รู้ว่าเป็นวิญญาณที่ถูกทรมานจากนรก

    ช่วยด้วย! ช่วยที เร็วๆ เจ็บ ไฟไหม้หมดแล้ว

    ช่วยด้วย ช่วยเราด้วย ตามตัวเจ็บไปหมด ช่วยหยิบหนาม ออกให้ที ได้โปรดเถอะ อย่าทำข้าเลย

    โอ๊ย! มันเจ็บ มันเปื่อยเน่าทั้งตัวแล้ว มาจากนรก ลูกหลาน เอ๊ย กูอยู่บนต้นงิ้ว

    โอ๊ย! มันเปื่อย มันเจ็บ เขาให้กูขึ้นมา

    โอ๊ย! ยังเปื่อยเน่าอยู่เลย น้ำเหลืองน้ำหนองเต็มหมดแล้ว เขาไม่ให้ช่วย เขาให้เจ็บ เขาว่ากูจะไม่สำนึก เขากลัวกูหนี เขาคุม ไม่ทันเขากลัวว่าจะหนี กูเจ็บ กูทนไม่ไหวแล้ว

    กูชื่อ ดารากร พรพิมล กูเป็นผู้หญิงหากิน กูเป็นกะหรี่ โอ๊ย! กูเจ็บไปหมดแล้ว กูอยู่บนต้นงิ้วกูปีนต้นงิ้ว กูเป็นคนนคร อำเภอ ปากพนังกูอยู่ปากพนังฝั่งตะวันตก กูตายนาน ๑๐๐ ปีแล้ว

    กูชอบเอาผัวเพื่อน ตอนนั้นอายุ ๒๐ กว่าปี

    กูเอาทั้งนั้น ถ้าพอใจ โอ๊ย! โอ๊ย! หอกติดหลัง เจ็บ! ทำอาชีพนี้ ได้เงินบ้างไม่ได้บ้าง กูทำตามอยาก

    ตอนมีชีวิตลำบากแร้นแค้น ตอนตายอายุ ๗๐ ปี เลิกแย่ง ผัวเพื่อนตอนอายุ ๖๐ กว่าปี ชีวิตเกิดมาไม่ได้สร้างบุญเลย กูอาย! กูอาย กูทำบาป กูทำชั่ว

    กูอยู่กับลูก เวลาเจ็บไข้ ลูกคอยดูแล มีแฟนแฟนก็ตายก่อน กูก่อนจะตายเป็นไข้จับสั่น ได้แต่กินยาสมุนไพร มันทรมาน มัน เย็น มันร้อน ปวดตามกระดูก ตามเส้น เจ็บตามตัว ผอมลงๆ กิน อะไรไม่ได้ เจ็บคอ เป็นไข้จับสั่นอยู่สิบกว่าวันก็ตาย

    มาที่นี่ในครั้งนี้เพื่อมาบอกว่าพวกเปรต พวกสัตว์ทั้งหลาย นรกวิญญาณขึ้นมาแล้ว ให้เตรียมตัวต้อนรับเขา เขาจะมาขอบุญ ขอกุศล ให้ลูกหลานสร้างบุญสร้างกุศลให้ด้วย เพราะถ้าลูกหลาน ไม่มา เขาก็ไม่ได้มา เขาให้มาบอก กูขออนุญาตให้กูพูดก่อน เพราะ ไม่มีลูกไม่มีหลาน ช่วยกันนะลูก

    นรกมีจริงๆ เขาเจ็บ กูอยู่แต่ในกองไฟ กูปีนแต่ต้นงิ้ว ถูกหมา ปากเหล็กกัด กูถูกกาจิกทุกวัน กูถูกเหล็กแหลมแทงทุกวัน กูเจ็บ! มันเน่า มันเปื่อย ช่วยกูที

    คนสมัยนี้เห็นสิ่งภายนอก นอกจากผู้ปฏิบัติธรรมเท่า นั้นแหละที่เข้าใจ คนทั่วไปเขาไม่เข้าใจ เขาสนุกกันอย่างเดียว เขาว่าใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เกิดมาแล้ว ผลสุดท้ายเขาไม่เชื่อกัน ไม่เชื่อ เขาก็ต้องลงไปอีก พวกเราพยายามทำหน้าที่ตรงนี้ เท่าที่จะทำได้ ในการทำหน้าที่ตรงนี้ จะถูกขัดขวางไม่น้อย เราตรากตรำลำบาก คนไม่ค่อยยอมรับ ท่านเห็นไหม เราพยายามที่จะให้คนทั้งหลายได้ เข้าใจ มันยากเหลือเกิน เข้าใจไหม ท่านเล่าไปเลย เล่าให้มากที่สุด จะเป็นแบบอย่างเอาไว้พิมพ์หนังสือ

    อย่าเที่ยวเหมือนกู อย่าคบชู้ อย่าแย่งผัวเพื่อน รักใครชอบ ใครให้เป็นตัวเป็นตน อย่าเป็นหญิงโสเภณี ดูตัวอย่างกูสิ อยู่ใน นรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ต้องอยู่กับกองไฟ ปีนแต่ต้นงิ้ว พอปีนขึ้นไป หนามพุ่งเข้ามาแทงฝังอยู่ในเนื้อ ถูกแทงถูกตีถูกฟัน พอตกลงมา สุนัขปากเหล็กมันกัด มันฉีกเนื้อทั้งหมด อีแร้งก็มี

    เขาเอาหอกแทงข้างหลัง ยมบาลมันแทงทะลุหน้าทะลุหลัง สมกับความอยากที่มีตัณหา เขาสอนว่า ตัณหามาก ตัณหาจัด ทำตัวไม่ดี ทำตัวไม่สมกับเป็นผู้หญิง ไม่เป็นแม่บ้านแม่เรือน ทำตัวเป็นกากีเขาบอกว่านี่แหละผลกรรมที่มึงทำไม่ดี แย่งผัวเพื่อน มีความสุขแค่ชั่วคราว ผลกรรมมึงได้รับแบบนี้ ถ้ามึงขืนทำอีก ถ้าไปเกิดใหม่ มันยิ่งหนักกว่านี้ มึงจะได้เกิดเป็นหมาจะได้เป็น สัตว์ ๔ ขา

    เขาบอกว่าต้องไปเกิดเป็นหมา เขาให้มาบอกว่าอย่าทำชั่ว เป็นผู้หญิง ให้เป็นกุลสตรี ให้เป็นแม่บ้านแม่เรือน อย่าทำตัวสำส่อนไม่เช่นนั้นต้องลงนรกทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครท่านบอกว่าจะ ไม่ไว้หน้า ถ้าทำชั่วเรื่องโลกีย์แบบนี้ เขาถือว่าเป็นบาปใหญ่หลวง ไม่เหมาะสมที่จะเกิดเป็นผู้หญิง หวังเงินเพียงเล็กๆ น้อยๆ ความสุขแค่ชั่วคราว เขาบอกว่า ท่านสั่งมาถ้าผู้บำเพ็ญอยู่ที่นี่ มีจิตอกุศล ท่านบอกว่าจะได้รับโทษเช่นกัน จะหนักจะเบาอยู่ที่การกระทำ ถ้าผู้ใดคิดผิดเรื่องโลกีย์ ท่านบอกว่าจะลงข้างล่าง ไม่ได้ขึ้นข้างบนแน่นอน จะช้าจะเร็วอยู่ที่เราทำผิด กูกลัวแล้ว มันเจ็บ

    ความเจ็บปวดทรมานที่ได้รับ หลังจากทิ้งกายสังขารมัน เจ็บลูกหลานเอ๊ย กูเจ็บเหมือนเอามีดกรีดให้มันแตกเป็นเสี่ยงๆ กรีดให้มันแยกกัน แสบๆ ร้อนๆ

    โดนกรีดทั้งตัวเลยลูก ทำให้มันยับ ทนความเจ็บปวดไม่ได้ ตาย! พอฟื้นขึ้นมาก็ปีนขึ้นไปอีกเป็นอยู่เช่นนี้บางทีก็ช้าบางทีก็ เร็วอยู่ที่จิต กูเจ็บ เขาเอาน้ำสาดให้ฟื้น

    ตอนนั้นพญายมยังไม่พิพากษาโทษ เขาให้ทรมานก่อน

    วันที่กูตายใหม่ๆ ไปที่…ยมโลก เขาไปพิพากษาโทษ คำ แรกเขาพูดว่าอีนางกากีมาแล้ว ถึงเวลาหมดอายุขัย ถึงเวลา ตายมาชำระโทษทัณฑ์ ผู้หญิงแบบนี้ไม่สมควรจะอยู่ต่อ เขาให้ ตายก่อนอายุ จริงๆ ต้องตายตอนอายุมากกว่านี้ เขาลดอายุลง ๑๗ ปี เขาเปิดบัญชีให้ดู เขาบอกว่า สร้างกรรมมาก กว่าสร้างบุญ ความชั่วมากกว่าความดี เขาเสียใจ

    สมัยตอนมีชีวิตแถวบ้านมีวัดอยู่ริมคลองพายเรือไปวัด วัดปากพนังตะวันตก ไม่ค่อยได้ไปวัด เหตุผลที่ไม่ค่อยได้ไปเพราะ ไม่ชอบไปวัด

    เมื่อสมัย ๑๐๐ กว่าปีมาแล้ว ตรงกับรัชกาลที่ ๓ ปลายๆ เจ็บ! มันเจ็บ

    กูไม่มีพลัง กูไม่มีแสง มองไม่เห็น อยู่แต่ในนรก

    มาที่นี่ได้โดยมียมทูตคุมมา ๒ ตนเขาคอยอยู่ข้างนอก ยมทูตขาว- ดำ มาคอยอยู่ เขาต้องพากูกลับลงไปอีก กูไม่อยากไป นี่กูบอกให้ช่วย กูไม่อยากลงไปแล้ว กูไม่อยากไปนรก

    กูขอมา เขาบอกว่าใครจะขึ้นมาบ้างวันนี้ มาให้หลักฐาน เขาขอใบประกาศ เขาไปประกาศตามขุมนรกว่าใครจะมาสร้าง บุญบ้างเขาจะให้มา กูเจ็บทนไม่ไหว กูมาขอตายเอาดาบหน้า

    กูอยากไปที่สบาย สบายเหมือนพวกเจ้า ไม่ต้องเจ็บ

    เขาบอกว่าถ้าลูกหลานไม่มา เขาก็ไม่ได้มา บางคนร้องเสียใจ บางคนร้องกลัวลูกหลานจะไม่มา เขากลัวว่าจะไม่ได้ขึ้นมา เขา กลัว

    สงสารคนที่ไม่ได้ขึ้น กูยังโชคดีที่กูสมัครมาก่อน ยิ่งมีโอกาส ดีกว่าเขา เขาบอกว่าลูกหลานไม่มาสักคน วันนั้นไม่รู้ว่าเขาจะได้ ขึ้นมาพูดเหมือนกูหรือเปล่า

    ขอบใจ สำหรับการกรวดน้ำเป็นพิเศษให้ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะ ให้กูรับไหม เพราะกูมีกรรมมาก เจ้าช่วยกูด้วยสิลูก ช่วยกราบขอ ช่วยให้เขาเมตตา ถ้าเขาเมตตากูก็ได้รับถ้าเขาไม่เมตตากูก็ไม่ได้รับ

    เดี๋ยวพอกูจะกลับ ให้กรวดน้ำ สวดพระคาถาชินบัญชร ๓ จบ และเอาเทียนปักบนหัวให้ที ให้เทียนนำทาง เทียนที่จุดแล้ว

    ขอบใจที่ช่วยทำให้ความรู้สึกดีขึ้น

    ขอบใจ รู้สึกเบาขึ้น ขอบใจนะที่ช่วย

    อย่าทำชั่ว สิ่งไหนที่ไม่ดีอย่าทำเป็นอันขาด นรกไม่ยกเว้น สวรรค์มีแต่คนดี นรกมีแต่คนชั่ว ทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ถ้าผิด แล้วให้แก้ไข อย่าให้ผิดต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นให้สำนึกผิด ให้ จิตสงบอย่าวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น อย่าเที่ยวปากพล่อยว่าคนอื่น ด่าคนอื่น เมื่อก่อนกูปากจัด กูเที่ยวด่าเขา เพราะกูเอาผัวเพื่อน พอเพื่อนมาด่า กูก็ไม่ยอม เชื่อเถอะลูก นรกมีจริงๆ มีทุกขุม ขุมเล็กขุมใหญ่ ขุมมากขุมน้อย ขุมลึกขุมตื้น ก็เหมือนกับราง หมากขุม กูเจ็บ

    โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญ น้ำข้าวที่กินแล้วก็ได้ให้หมากิน คนที่ ทำความผิดแบบนี้ เขาจะพิพากษาโทษตามขบวนการตามบาป หนักบาปเบา กรรมหนักกรรมเบา บางคนไปเป็นเปรตก็มี

    ในกรณีที่ความผิดที่ว่าไปแย่งผัวเพื่อน ต้องเป็นเปรตด้วย เพราะกรรมอื่นมันยังมี ไม่ใช่แย่งผัวเพื่อนอย่างเดียว คนเราวิบาก อื่นมันยังมี มันต้องเปลี่ยนไปตามสภาพกรรมที่สร้าง ทุกจิตญาณมีโอกาสเป็นไปตามกรรมที่สร้างทั้งนั้น แล้วแต่เขาจะกำหนดให้ ไปเป็นอะไร ไปกินขี้ตัวเองก็มี

    ในกรณีของกู กูยังไม่หมดกรรมตรงนี้ ยังขึ้นต้นงิ้ว กูไม่รู้ว่ากูต้องไปเป็นเปรตด้วยไหม เพราะกรรมที่กูสร้าง กูยังขึ้นต้นงิ้วไม่ หมดเลย

    เมื่อสักครู่ที่เขาประกาศ ใครจะมาสร้างบุญเขาให้มา เขา ไม่ได้ปล่อยทันที เขายังล่ามโซ่อยู่เลย ตอนมาถูกล่ามโซ่ด้วย เขา ล่ามมือล่ามเท้า เขาลากมา

    พอมาตรงนี้ ประตูมันเปิดเอง ยมทูตตอนนี้ท่านอยู่ตรงนี้อยู่ ข้างประตู

    ยมทูตเขาต้องบอกใครไม่รู้ ไม่รู้ใคร เขาพูดกูฟังไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ยิน ฟังไม่ได้เจ็บแก้วหู

    ได้ยินแต่เสียงอย่างเดียว กูจะดู แต่เปิดตาไม่ได้ เขาบอกว่า ถ้าเปิดตาไม่สามารถทนได้หรอก เพราะว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกกูจะมา วิญญาณบาปไม่สามารถดูได้ เขาบอกว่าที่นี่มีแสงสว่างเหนือ สิ่งใด พวกผีปิศาจไม่กล้ามา ไม่กล้าเข้า พวกกูเป็นพวกผีปิศาจ เป็นวิญญาณบาป

    คนที่เขาไม่ค่อยเชื่อ หาว่าเราทำอะไรกันอีกไม่รู้ สิ่งที่เราต้อง เอาหลักธรรมทั้งหลายต่างๆ หาว่าเราซื้อสวรรค์ เที่ยวพูดกัน เขา สร้างบาป

    วิบากกรรมของคนประเภทนี้ ข้างล่างที่กูไปขุมนี้ เขาเอา เหล็กแทงทะลุหน้าทะลุหลัง แทงปากแล้วดึงออกมา

    เขาไม่เข้ามาดูว่าเราทำอะไร เราพูดธรรมะให้คนฟังทุก วันชี้ทางไปนิพพาน มีชั้นเรียนบ่อยที่สุดในประเทศไทยไม่ ได้หยุดไม่ได้หย่อน แต่เขาก็หาว่าเราทำชั่ว อคติโดยเฉพาะ คนปริมณฑลนี้ข้าง นอกที่ไกลออกไปเขาเลื่อมใสเรา แต่คน แถวนี้ยังอคติ เขาว่าเราทำผิด คิดชั่วมากมาย ด่าว่าอยู่ตลอด เวลา เราออกข้างนอกบางทีแสบหู ไปถึงเขาเที่ยวพูดที่คิว รถบ้าง เที่ยวว่าค่อนขอด ผู้ชายก็มี ผู้หญิงก็มี แต่เราก็ทน เราไม่ว่าอะไร เราก็ทำหน้าที่ของเราเรื่อยๆ เราก็พยายาม ให้คนเขาเชื่อ เขามาเราก็บอกกล่าว แล้วก็อบรมศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ที่เราทำนี้เราทำเพื่อให้ปณิธานของในหลวง เป็นผล เป็นความจริงขึ้นมาให้ได้ ว่าด้วยปณิธานแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง คือแผ่นดินที่ไม่มีสารพิษ เป็นแผ่นดินที่อุดมสม บูรณ์ แผ่นดินธรรมก็คือ แผ่นดินที่คนประพฤติอยู่ในศีลใน ธรรม เราพยายามทำตรงนี้ เหนื่อยยากลำบาก แต่ก็ไม่ว่าอะไร แต่ว่าทำไมเขาไม่มาดูสักที เราก็พยายามประกาศให้เขาเข้ามา แต่เขาก็ไม่เข้ามา เอาแต่ว่ากันทั้งนั้น นี่คือสิ่งที่เราทำวันนี้ ฉะนั้นสิ่งที่ ท่านทำมาแล้วในอดีต ผลก็ออกมาแบบนี้ ใครทำ ใครก็ได้รับผลเป็นธรรมดา ท่านพอเข้าใจนะ ทำไมถึงเงียบล่ะ โลกมนุษย์ โลกกายเนื้อก็อย่างนี้แหละ คนสมัยนี้ไม่เชื่อในเรื่อง ของอีกมิติหนึ่ง ในเรื่องของพลังงาน ในเรื่องของจิตญาณ

    สนทนายังไม่ทันจบ ความพญามัจจุราชเมตตามาขยาย ความต่อ
     
  7. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    พญามัจจุราช

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>พญามัจจุราช </TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] <TABLE style="FONT-WEIGHT: bold; MARGIN-BOTTOM: 5px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=70></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>ณ มูลนิธิชินบัญชร ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    วันเสาร์ ที่ ๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ เวลา ๑๒.๒๕ น.

    ขณะกำลังสนทนาอยู่กับวิญญาณดารากร พรพิมล ยังไม่ทัน จบเนื้อความ ผู้สัมภาษณ์ได้ระบายความในใจให้วิญญาณฟัง ว่า งานฉุดช่วยในอีกมิติหนึ่ง ไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีใครเชื่อ และที่สำคัญ คนที่อยู่ใกล้ๆ นอกจากไม่เชื่อแล้ว ยังลบหยู่ เหยียดหยาม ไม่พอใจ มีอคติมากมาย กระทั่งผู้ปกครองในระดับสูงของอำเภอก็ไม่เข้าใจ เมื่อระบายความรู้สึกไปสักพัก เห็นวิญญาณนิ่งเงียบไป เมื่อถาม จึงได้คำตอบตามข้อความข้างล่างนี้:

    ข้าพญามัจจุราช จงฟังไว้ให้ดีมนุษย์ผู้ที่มีแต่จิตโฉด กรรมที่สร้าง บาปที่ทำหาหนีพ้นไม่ เราพญามัจจุราชผู้ยิ่งใหญ่ ได้แฝงกายเคียมคัล ณ ร่างนี้ เจ้าผู้บังอาจที่ลบหลู่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ตาม ที่พวกมนุษย์จิตคิดสกปรกลบหลู่หนัก มิอาจจะรอดพ้นเงื้อมมือ ของเราไปได้ พญามัจจุราชเช่นเรา แฝงกายแล้วต้องให้ได้รู้ว่า บาป บุญคุณโทษที่มนุษย์สร้างนั้นมีจริง หาได้หนีพ้นกฎแห่งกรรมไม่ เงื้อมมือมนุษย์หรือจะหนีเงื้อมมือของเราไปได้ พญามัจจุราชเช่นเราจดบันทึกความชั่วร้ายของมนุษย์ไว้ในแผ่นศิลาเรียบร้อยแล้ว ใครที่จะบังอาจลบหลู่อีกก็จะได้เจอดีกัน ไม่นานนักเมื่อโลกโลกีย์ ใบนี้พินาศย่อยยับวอดวาย บุคคลเหล่านั้นก็จะลงสู่โลกันตร์ทันที เมื่อโลกันตร์เปิดไฟนรกติดมีหรือจะมีชีวิตรอด อย่าดีใจ ทำปากดี กล้าแกร่งกับผู้มีบุญต่อโลกใบนี้ เพราะฉะนั้น เจ้าไม่ ต้องห่วง เจ้าพูดมาทั้งหมดเราได้บันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว เราจะ คอยติดตามบุคคลที่ลบหลู่ดูหมิ่นดูแคลนธรรมะอันสูงสุดนี้ เราจะ คอยประกบทุกฝีก้าว จะกระชากจิตญาณของมันลงสู่นรก ให้หมด ไม่ช้าไม่นานไอ้บุคคลเหล่านี้จะได้เจอดีกัน นรกสำหรับคนเหล่า นี้เป็นคุกที่มืดที่สุด โหดร้ายที่สุด และก็ลึกที่สุด มันบังอาจลบ หลู่ดูหมิ่นอนุตตรธรรมผู้ที่ให้ ผู้ที่ให้แต่คนสร้างความดี ให้แก่จิต วิญญาณแห่งโลกใบนี้ เมื่อมันยังลบหลู่ จิตวิญญาณของมันก็หาอยู่ สุขไม่ มันก็จะต้องลงสู่นรกภูมิที่มีแต่ไฟโลกันตร์ ฮ่าๆๆ สะใจ ฮึ! (หัวเราะเสียงดังมาก และก้องกังวาลเย็นยะเยือก)

    ขอถามหน่อย คือมีอยู่เรื่องหนึ่ง เราออกไปทำงานธรรมะ เขาไล่ วันนั้นเลยใช้ประกาศิตสวรรค์สั่งให้เจ้ากรรมนายเวรเล่น งานไม่รู้มีผลยังไงบ้าง ?

    ประกาศิตสวรรค์ที่เจ้ามีคือประกาศิตของฟ้ามารดาของ เจ้า มีหรือประกาศิตจะไม่บังเกิด แล้วแต่จะช้าหรือจะเร็ว แล้ว แต่บุญที่เคยสร้างมันจะกำบังหรือไม่ เพราะฉะนั้น เจ้าไม่ต้องห่วง ประกาศิตสวรรค์อยู่ที่ปากของเจ้า เมื่อเจ้าว่าประกาศิตออกมา สวรรค์ก็ต้องรับรู้บันทึก และทำตามความประสงค์ที่เจ้าต้องการปรารถนา เพราะเจ้าต้องการสร้างคนให้เป็นคนดี เจ้าเป็นพุทธะ เดินดินจำเอาไว้ ประกาศิตฟ้าคือคำบัญชาของแม่เจ้า เพราะฉะนั้น เมื่อเจ้าสั่งการสิ่งใด มนุษย์หน้าไหนบังอาจขัดคำสั่งหรือไม่ทำก็ตาม ผลแห่งกรรมจะตอบตามเสมอ เพราะฉะนั้นเจ้าไม่ต้องห่วง กฎแห่งกรรมมีแน่นอน มนุษย์หน้าโง่เอ้ย เมื่อไหร่เจ้าสิ้นชีวิต เจ้า ก็ต้องเจอกับข้าแน่นอน จะไม่ไว้หน้าทั้งสิ้นไม่ว่าอินทร์ พรหม ยมยักษ์ก็ต้องทำตามฟ้าเบื้องบนกำหนด พระบัญชาลงมา ข้าพญามัจ จุราชก็มิบังอาจแหงนหน้า ที่จะต่อต้านหรือไม่ทำงานพระคำสั่ง ลงมาได้ข้าผู้น้อยพญามัจจุราชขอสยบต่อแทบพระบาทพระธรรม มารดาผู้ที่มีแต่พลานุภาพ คุณงามความดีเผื่อแผ่แก่สรรพสัตว์ โลกมนุษย์ใบนี้มีแต่ความรักความเมตตาให้แก่จิตญาณมนุษย์และ สัตว์ทั้งหลาย ข้าขอนอบน้อมกราบพระบาทด้วยความซาบซึ้งในพระหฤทัย

    เมื่อตะกี้จิตญาณที่มาให้หลักฐานเขาเจ็บปวดมาก สมควร ด้วยเหตุที่ว่าเขาเป็นแบบเพื่อที่จะให้คนรุ่นหลังได้ เป็นแบบไม่ทำ ความผิดเปลี่ยนตัวเองก็เป็นบุญกุศลไม่น้อย ทางการยมโลกจะ
     
  8. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณเปรตตาวิน จากกาญจนบุรี </TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] <TABLE style="FONT-WEIGHT: bold; MARGIN-BOTTOM: 5px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=70></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>เปรตตาลุกเป็นไฟซึ่งทางการยมโลกให้ขึ้นมารับบุญ

    ณ มูลนิธิชินบัญชร อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๖ เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น.เห็นพุทธบริกรท่านหนึ่งนอนเฉยอยู่หน้าพระแท่น และ บอกว่าอึดอัดจนทนไม่ไหวแล้ว สักครู่ก็ร้องครวญคราง แสดงอา การของความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส นอนกลิ้งไปมา ไม่อาจหยุดนิ่งได้ พวกเรารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ปล่อยให้ร้อง อยู่พักหนึ่ง จึงไปแตะที่ตัวของร่างพุทธบริกร เขาก็ยิ่งแสดงความเจ็บปวดยิ่งขึ้น และบอกว่าอย่าจับ มันร้อน

    โอ๊ยยยยยยๆๆๆๆๆ (ร้องด้วยความเจ็บปวด) อย่าทำ!

    โอ๊ย! กลัวแล้ว ข้ากลัวแล้ว โอ๊ย! เจ็บ โอ๊ย! ข้าเจ็บเหลือเกินๆ ช่วยข้าด้วย ข้าเจ็บเหลือเกิน! ข้าเจ็บช่วงท้อง! ข้าเจ็บหน้าอก! ข้าเจ็บทั้งตัว!

    ข้าถูกทรมาน! ข้าอยู่ในนรก โอ๊ย! (ร้องตลอดเวลาที่พูด)

    ข้างล่างเขาให้ข้าขึ้นมาบอก! ข้าเป็นเปรต! ข้าเจ็บเหลือเกิน ช่วยข้าด้วย! โอ๊ย! ข้าหิว ลูกหลานไม่ส่งบุญไปให้ข้าเลย ข้าหิว! ข้าอยู่ข้างล่างตั้งหลายร้อยปีแล้ว

    สมัยเป็นคน ข้ารับจ้างฆ่าหมู! ฆ่าวัวเมื่อ ๗๐๐ กว่าปี (ร้องโหยหวน)

    ตอนที่ตายอายุ ๖๒ ปี! ข้าเป็นผู้ชาย ชื่อ วิน อยู่กาญจนบุรี

    หลังจากตายแล้ว ข้าไปชดใช้กรรมที่ไปฆ่าเขา! ข้าไปอยู่ที่ นรก! ไปรับโทษเขาผ่าท้องของข้า เหมือนที่ข้าผ่าท้องของหมู (ร้องด้วยความเจ็บปวด) ไปนรกเสร็จแล้ว เศษกรรมยังมีเหลืออยู่ ไปเป็นเปรตต่อ ๓๐๐ กว่าปีแล้ว

    ทางการยมโลกเขาให้มาบอก เรื่องการสร้างบุญของกายเนื้อมนุษย์ ถ้าใครไม่เชื่อ ต้องลงนรกเหมือนข้า ท่านให้มาบอก เดือนสิบของทุกปี ให้พี่น้องส่งบุญไปให้สัตว์นรกบ้าง พวกสัตว์ นรกกำลังคอยบุญกุศลจากพี่น้องลูกหลานที่เป็นมนุษย์ อย่าทำ เฉยเมยในการสร้างบุญ

    เขาให้สร้างบุญที่สะอาด ให้ถึงที่สุด ให้ถึงโดยตรง!

    เขาให้ข้ามาพูดกับมนุษย์ผู้มีบุญทั้งหลาย ให้มาสร้างบุญให้ กับสัตว์นรกหรือสัตว์เดรัจฉาน เป็นพวกเปรต วิญญาณพเนจร ไม่มีพี่น้อง มาขอให้ท่านช่วย ให้สร้างบุญให้เร็วที่สุด พวกข้าได้ ขึ้นมาแค่ ๑๕ วันเท่านั้นเอง จะต้องลงไปชดใช้วิบากกรรมในนรกอีก กรรมใดที่ข้าได้ทำไว้ ข้าได้ไปรับใช้วิบากกรรมตรงนั้น แสนสาหัส ข้าเจ็บ ข้าปวด ทรมาน!

    ๑๕ วันที่ขึ้นมาบนโลก วิญญาณเปรตทั้งหลาย ถูกควบคุม ด้วยการล่ามโซ่ทั้งหมด โซ่เป็นโซ่เพลิง กระดิกตัวไปไหนไม่ได้ แตกแถวไม่ได้ จะถูกสามง่ามเสียบแทงตลอดเวลา ข้าแตกแถว มาไม่ได้

    ข้าเพิ่งจะมา! ตอนสิบโมงกว่า ข้ายืนอยู่ข้างนอก

    ตอนนั้นพญามัจจุราชยังไม่อนุญาต ให้เข้ามาใช้ร่าง เพราะ ร่างยังไม่พร้อม!

    ข้าไปดูที่วัด แต่ไม่มีบุญกุศลให้พวกข้าเลย เห็นเขาทำบุญ กันมาก และบ่อยที่สุดในระยะนี้

    พวกกุ้ง หอย ปู ปลา มันยื้อแย่งกันหมด มันว่าเป็นบุญของมัน พวกข้าไม่ได้รับ พวกข้าไม่มีบุญ พวกข้าไม่ได้กุศล ข้าไปตั้งแต่เช้า ๘ โมง แต่ข้าไปยืนคอย ข้าหิว เห็นมนุษย์กินกัน ข้าก็หิว

    เมื่อ ๘ โมงเช้าข้าไปที่วัด เขาให้พวกข้าขึ้นไปดู ให้เข้าแถว โดยมีทหารพญายมคุม ๓-๔ ชั้น เขาบอกว่าให้ไปยืนดู เผื่อว่าใคร มีลูกหลานไปวัด จะได้บุญบ้าง วัดที่ข้าไปนี่ ไม่เจอลูกหลานเลย ข้าไม่ได้บุญ กุ้ง หอย ปู ปลา มันเอาไปหมด

    มันบอกว่าเอาเนื้อของมันมากิน ทุกอย่างต้องเป็นของมัน (หมายถึงบุญกุศล)

    ที่วัดมี กุ้ง หอย ปู ปลา เต็มไปหมด ไม่มีที่จะแทรก ไม่มีที่ จะยื้อยุดได้

    ผู้รับทานจากชาวบ้านไม่ได้ส่งบุญให้ เพราะมันกินแต่ เนื้อพวกเขาทั้งนั้น(กุ้ง หอย ปู ปลา) มันเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ลิ้นของมันอย่างเดียว มันไม่คิดถึงความเจ็บปวดของผู้อื่น ไม่คิดถึง ชีวิตของคนอื่น!

    พวกเขา(กุ้ง หอย ปู ปลา)เจ็บเหมือนกับข้าเจ็บ มันทุกข์ ทรมาน เวลาเคี้ยวแต่ละคำ มันเจ็บปวดเหลือเกิน

    พอ ๑๐ โมง ยมทูตพามาที่นี่ แต่ก็ยังเข้าไม่ได้ เพราะว่า ยังไม่มีความพร้อม พอมีความพร้อมแล้ว มีคนแก่ดำๆ พาข้าเข้ามา เขาใช้ให้เข้ามาที่นี่เร็วที่สุด ก่อนที่ร่างนี้มันจะไหวตัวทัน

    สมัยตอนมีชีวิตข้าจบ ป.๔ เรียนกับพระอยู่ที่วัด ที่ข้าลงไป นรกเป็นเปรต เพราะข้าชอบขโมยของพระกิน ข้าขี้เกียจ เอาแต่ นอนอย่างเดียว

    ข้าเป็นเปรตตาลุกเป็นไฟ ตาห้อยลงมา ตัวข้าสูง มีแต่ หนังหุ้มกระดูก ไม่มีเนื้อหนัง เสื้อผ้าไม่มีใส่ กายสังขารของข้า ก็เจ็บปวดทรมาน! ไอ้นั่นก็ห้อยโตงเตง ข้าเป็นเปรตที่ทางการ ยมโลกกำหนดให้ข้าไปเป็นเปรต ชดใช้หนี้เวรกรรม ที่ขโมย ข้าวของของวัดกิน ไม่ได้สร้างบุญกุศล ทำแต่ความชั่ว ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิตนับร้อยๆ พันๆ ตัว วิบากกรรมอันนี้ ข้าต้องลงไปชดใช้ใน นรกด้วยการถูกแขวนคอ ผ่าร่างแยกออกเป็นชิ้นๆ แขนขาของข้า ก็แหลกเหลวด้วยรถบด ข้าทรมาน เลือดในกายสังขารของข้าก็ ไหลไม่หยุด เพราะข้าได้เสียบแทงหัวใจของหมูทุกๆ ตัว

    ข้าฆ่าหมูตั้งแต่อายุ ๑๗ ปี! ตายตอนอายุ ๖๒ ปี ตลอดชีวิต จนถึงวันตาย ฆ่าตลอดเลย ข้าทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้เงินมาเล็กๆ น้อยๆ เพื่อมาซื้อของที่ไม่ดี ข้ากินเหล้าเถื่อน ข้าสูบบุหรี่ บางครั้ง ข้าก็สูบกัญชาด้วย

    บุหรี่ที่ข้าลงไปสูบในนรก ตัวใหญ่เท่าต้นแขน ยาวเท่าลำ ไม้ไผ่ มันเป็นแท่งไฟ เวลาที่ถูกลงโทษ ทางการยมโลกพูดว่าการทำ ร้ายกายสังขาร สังขารอยู่ดีๆ ไปทำให้มันเป็นโรค ซูบผอมขึ้นมา ไม่รักกายสังขารตัวเอง ทำลายทุกๆ อย่าง ของที่แม่รัก ของที่แม่ ให้มา เพราะฉะนั้น จึงต้องไปรับกรรม โอ๊ย!

    เขาบังคับให้ ๒ มือของข้าจับแท่งไฟขึ้นมา ถ้าข้าไม่ทำ ก็โดนเฆี่ยนตี ถูกทิ่มแทง พอบุหรี่เข้าปากแล้ว มันเจ็บปวด เพราะ ข้าต้องกินถ่านไฟร้อนๆ พอใส่เข้าไปแล้วตัวของข้าก็ละลาย เพราะไฟร้อนแรงเหลือเกิน ไฟนรก ไฟโลกันตร์! พอสำนึกได้และ บอกว่าไม่เอาแล้ว เขาจึงให้ไปที่อื่น

    ข้าเหนื่อย เหนื่อยกับการถูกทรมานเหลือเกิน ข้าเจ็บ ข้าเจ็บเหลือเกิน มนุษย์เอ๋ย ข้าเจ็บ ข้าปวดทรมานเหลือเกิน นรก มันเป็นที่อยู่สำหรับคนชั่ว มันเป็นที่อยู่สำหรับผู้ที่กระทำผิดศีล ผิดวินัย มันทุกข์ทรมาน เจ็บปวด เจ็บไม่มีที่จะอยู่แล้ว!

    วันนี้พวกข้ามากันเยอะ มาขอบุญ ขอกุศล พวกข้าจะมา ตั้งแถวรอบุญ ในวันที่พวกเอ็งช่วยกันส่งบุญ ข้าก็จะขอ.....

    ในภพภูมิของเปรต อยู่กันหนาแน่นเหลือเกิน หญิงชาย อยู่รวมกัน ข้ามองไม่รู้ ใครเป็นผู้หญิง ใครเป็นผู้ชาย ข้าอยู่ท่าม กลางเพลิงนรก ไฟนรกติดอยู่ตลอดเวลา อยู่ในหลุมเพลิง พอร้อน พอไหม้ละลายเสร็จแล้วก็ฟื้นขึ้นมาใหม่ พวกข้าละลายด้วยไฟนรก ข้าอยู่ในไฟนรก...

    จนถึงวันนี้เป็นร้อยปีแล้ว ข้ารู้สำนึกแล้วว่า สิ่งที่ทำมาใน อดีตมันไม่ดี

    แต่ตอนนี้เขายังไม่ปล่อย เพราะไม่มีลูกหลานช่วยดึงข้าขึ้น มาจากนรก ข้าขึ้นมาไม่ได้ ต้องมีลูกหลานสร้างบุญ ช่วยดึงข้าขึ้น มาจากขุมนรก ข้าจึงขึ้นมาได้ ถ้าใครไม่มีลูกหลานสร้างบุญช่วยดึง ขึ้นมา ก็ขึ้นมาไม่ได้

    เวลานี้ที่นี่ (มูลนิธิฯ) วิญญาณมาอยู่กันเยอะมาพร้อมข้า แต่โดนคุมทั้งหมด ข้ากินอะไรไม่ได้ ข้าเจ็บจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว

    เดี๋ยวช่วยไปกรวดน้ำให้พวกข้า เปรตตัวอื่นเขาก็จะคุกเข่า พนมมือขอบุญ ช่วยสงเคราะห์พวกข้าด้วยเถิด ข้าไม่มีญาติพี่น้อง ที่ไหน

    ช่วยข้าด้วย ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้ข้าด้วย

    ตอนที่ท่านกรวดน้ำแล้ว วิญญาณเหล่านั้นเขาร้องไห้ดีใจ เหมือนกับที่ข้ากำลังดีใจ

    ตีนของข้าค่อยๆ ลดความร้อนลงมาเรื่อยๆ ค่อยๆ ขึ้นมา ทีละนิด ใกล้จะเต็มตัวของข้าแล้ว ฮือๆๆๆ ขอบใจ ขอบคุณทุกๆ คน ผู้มีบุญทั้งหลาย ข้านายวิน ขอบใจทุกๆ คน ขอบใจทุกท่านที่มีเมตตาแก่วิญญาณของข้า

    ข้างนอกเขาร้องไห้ที่ได้บุญกุศล ไม่มีใครเคยให้บุญกับพวก เขามาก่อน เขาไม่เคยมีความสุขเหมือนอย่างวันนี้ เขาไม่เคยสงบ เขาไม่เคยห่างจากความเจ็บปวดทรมานเลย เขาหายจากความเจ็บ ปวดทรมาน เพราะท่านได้เอาน้ำไปลูบกายของเขา จิตวิญญาณ ของเขามีความสุขสดชื่น(เมื่อกรวดน้ำเสร็จ ก็สวดพระคัมภีร์สัจ คาถาพระศรีอริยเมตไตรย)

    ข้าสดชื่นๆ ข้ามีความสุขเหลือเกิน ข้าเย็นสบาย ข้าสุขสบาย เหลือเกิน วิญญาณทั้งหลายข้างหน้า เขาก็เหมือนกับข้า มีพลัง ไหลเป็นน้ำลงมาได้อาบน้ำ ข้าเห็นเหมือนฝนตกลงมา เหมือนฝน โปรยเม็ดลงมา เหมือนกับน้ำที่ออกมาจากฝักบัว ราดรดเฉพาะ แถวที่พวกข้าอยู่

    ข้าเห็นบรรพชนบางส่วน ใส่เสื้อผ้า ขาดๆ ปอนๆ เห็นนั่งคุก เข่าอยู่ซีกทางนี้ ไม่ได้อยู่กับพวกข้า กลางหลังบางคนใส่เสื้อผ้า ขาดเป็นรูโหว่ ใส่ชุดสีขาวแต่ก็ลำบาก นั่งคุกเข่าก้มหน้าพนมมือ เขาก็กำลังจะรับบุญจากลูกหลาน

    ขออนุญาตพระศรีอาริย์ ให้ฝนทิพย์ตกลงที่ฝั่งของบรรพ ชนด้วย ของฝั่งที่เขาต้องการบุญทุกส่วน ให้หมดเลย ให้บุญหมด ทุกส่วน ไม่ว่าวิญญาณอะไร ที่มาที่นี่ เราให้หมด เป็นยังไง

    ที่ข้าเห็นมีแต่ฟ้าแปลบปลาบ วิญญาณที่ว่าไม่ใช่เปรตเหล่านั้น เขาสดชื่นขึ้นทีละน้อย หน้าตาก็สดชื่น เหมือนอย่างที่ข้าเป็น เขาขอบใจ

    ข้าไม่เคยได้ไปไหนเลย ที่ศาลาของพระมาลัยก็ไม่ได้ไป ข้าอยู่แต่ในขุมนรก

    เขาให้ข้ามาบอก เมื่อมีคนขอ ท่านบอกว่า ใครจะมาบอก จะได้บุญกุศล ข้าจึงเสนอตัว เพราะข้าไม่เคยได้รับบุญกุศล เลย ข้าจึงต้องมาบอก ข้าต้องการบุญกุศล ข้าต้องการให้หายจากความเจ็บปวดบ้าง ข้าจะได้สุขสบายบ้าง ไม่ต้องถูกเฆี่ยนตี ทรมานอยู่ในขุมนรก

    กลับไปครั้งนี้ ข้ายังไม่รู้ ข้าบอกอะไรท่านไม่ได้ทั้งนั้น เพราะ ข้าไม่ใช่คนกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง แต่เป็นทางการยมโลก ที่ท่านจะใช้กฎแห่งกรรม ชำระจิตญาณบาปเช่นข้า

    วันนี้ข้าขอบใจ ขอบใจอีกครั้งหนึ่ง สำหรับผู้ใจบุญ ผู้มีพลังทั้งหลาย ผู้มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว ช่วยให้พวกข้ารอดพ้นในวันนี้ ข้าหาลืมบุญคุณไม่ ข้าจะมาใหม่ในวันที่ ๒๗ ช่วยเอ่ยชื่อให้ข้าด้วย เพื่อข้าจะได้หลุดพ้น มีโอกาสได้มารับบุญอีก ข้าจะคอย ขอบคุณ ขอบใจทุกๆ คนอีกครั้งหนึ่ง

    ข้าอยู่ในกองไฟตลอดเวลา เหยียบย่ำอยู่ในกองไฟตลอดเวลา ไฟจะลุกท่วมตัวของข้าตลอดเวลา พอไฟลุกแล้วมันร้อน พอร้อนแล้วร่างก็ละลายแหลกเหลว พวกข้าก็ร้องด้วยความเจ็บ ปวดโหยหวนตลอดเวลา จนกว่าร่างวิญญาณของข้าจะละ ลาย เมื่อละลายหมดวิญญาณของข้าก็จะกองทรุดอยู่กับพื้น แล้วก็จะฟื้นขึ้นมาใหม่ รับวิบากกรรมตรงนั้นต่อไปเรื่อยๆ จนไม่มีที่สิ้นสุดของวิบากกรรมที่ข้าได้สร้างไว้ ฮือๆๆๆ ข้าทรมาน เหลือเกิน ข้าทรมานเหลือเกิน ข้าทรมาน โอ๊ย!!! ช่วยข้าหน่อย ช่วยสงเคราะห์วิญญาณข้าหน่อย อย่าให้เขาทรมานข้าไปมาก กว่านี้เลย

    ข้าไม่มีเสื้อผ้าใส่ ข้าเจ็บ โอ๊ย!!! ข้าเจ็บ ข้าเจ็บเหลือเกินๆๆๆ (ร้องให้โหยหวนจนถอนญาณ)
     
  9. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณเปรตปากเท่ารูเข็มสุพร นาคขำ</TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] <TABLE style="FONT-WEIGHT: bold; MARGIN-BOTTOM: 5px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=70></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>จากจังหวัดเพชรบูรณ์

    ณ มูลนิธิชินบัญชร อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    วันพุธที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๖ เวลา ๐๘.๑๐ น.

    เมื่อวันพุธที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๖ เวลาประมาณ ๐๗.๑๕ น.หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว พุทธบริกรท่านหนึ่ง บ่นว่ามีอาการหนาวๆ เย็นๆ ปวดตามร่างกายจึงได้ใช้พลังจักร วาลลูบ นำเอาพลังลบที่ทำให้เกิดอาการที่ปวดเจ็บแก่ร่างกาย ออกฝากลงสู่พื้นปฐพีแห่งพระแม่ธรณี ร่างนั้นรู้ตัวเองว่ามีอาการที่ ผิดปกติ และจะเริ่มปวดเจ็บขึ้นเรื่อยๆ มึนชา ทนไม่ไหวก็ร้องขึ้น

    โอ๊ยยยยยยๆๆๆๆๆ (ร้องด้วยความเจ็บปวดยิ่งขึ้น)

    ข้าเจ็บๆ ฮือ ๆๆๆ ข้าทรมานเหลือเกิน ทรมานเหลือเกิน

    ข้าได้ทำผิดตอนเป็นมนุษย์ ข้าได้ลักเล็กขโมยน้อย ข้าได้ เที่ยวลักของกินของเขาในตลาด ข้าขโมยไข่ของเขา ข้าขโมยขนม ข้าขโมยเข้าของของเขาหลายอย่าง ข้าขโมยปลาเค็มเขา ข้าขโมยทุกอย่างที่เขาเผลอ ฮือๆๆๆ ที่ตลาดเพชรบูรณ์

    ข้าเป็นคนนครสวรรค์ ข้าเป็นกรรมกรก่อสร้าง ข้าเป็นผู้หญิง ฮือๆๆ ข้าชื่อสุพร นาคขำ โอยๆๆๆ ขณะนั้น อายุ ๔๗ ปี ฮือๆๆๆ พ.ศ. ๒๔๙๙ ข้ามีลูก ๑ คน

    ข้าจำไม่ได้ตายเมื่อไหร่ ข้าหิว ฮือ ๆๆ จนเป็นลม ได้เงินเดือน ละ ๒๐ กว่าบาท ทำงานก่อสร้างบ้านให้เขา ที่จังหวัดเพชรบูรณ์

    ตายแล้ววิญญาณไปไหน (พอถามอย่างนี้ วิญญาณร้องหนักขึ้นจนน่าสงสาร เป็นเสียงกรีดร้องโหยหวน เราจึงไม่อาจคาดคั้น เค้นเรื่องราวออกมา จึงต้องปล่อยให้ผ่านช่วงนี้ไปด้วยความรู้สึกสงสาร เพราะวิญญาณทั้งหลายที่ผ่านนรกมาแล้ว พอพูดถึงนรก ความเจ็บปวดที่เคยได้รับก็ประดังหลั่งไหลเข้ามา เสมือนถูก ทรมานในขณะที่ระลึกเพื่อจะเล่า จึงร้องสนั่นหวั่นไหว เสร็จกัน เลยไม่ต้องถามให้เล่า)

    ข้าเจ็บ ข้าทุกข์ ฮือๆๆๆ มันเจ็บเหลือเกิน ไฟติดหลังข้า ตลอดเวลา ฮือ ๆๆ

    ข้าเป็นเปรตมาประมาณ ๗๐ กว่าปีแล้ว

    ข้าเจ็บที่ปาก ฮือ ๆๆ สาเหตุข้าเจ็บที่ปาก เพราะขโมยของ เขากิน

    ข้าเป็นเปรตปากเท่ารูเข็ม! ขโมยของวัดที่เพชรบูรณ์ ฮือๆๆๆ เมื่อข้าไปวัด ข้าหิว เมื่อเขาเอาปิ่นโตวางไว้ ข้าจะแอบ เปิดกิน ตอนที่เขาเก็บแล้วซึ่งเป็นของพระที่วัด ที่เขาเตรียมไว้ให้ พระ ก็แอบกินก่อนพระฉัน ข้าทำทุกครั้งเลย นอกจากแอบกิน ของก่อนพระฉันแล้ว ยังขโมยของชาวบ้าน ขโมยเงินของเขา ขโมยได้มาเป็นแบ๊งค์สิบ

    ข้าทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวมีกิน นี่แหละความผิดของ คนที่ต้องลงนรกจำนวนมากหลาย รวมทั้งปู่ย่าตาทวดเราในวันนี้ ที่เราจะส่งบุญให้ตายายในสองสามวันนี้ ขอให้เราทั้งหลาย ได้ทราบกันให้ชัดๆด้วยว่า ท่านเหล่านั้นได้ทำความผิดอันเป็น เหตุให้ต้องลงไปรับโทษในนรก ก็เพราะความรักในลูกหลาน ท่าน เหล่านั้นทำไปเพราะหวังให้ลูกหลานอยู่ดีมีสุข ตายไปก็ลงนรก รับความทุกข์ทรมาน เดือนสิบปีละครั้งถึงได้ขึ้นมา และในทุกวันนี้ ลูกหลานก็ไม่เอาใจใส่ ไม่ส่งบุญให้ ไม่เชื่อว่าวิญญาณบรรพบุรุษที่รักเรา บัดนี้ได้ทุกข์ได้ยากแสนสาหัส ทรมานอยู่ในเมืองนรก ลูก หลาน กายเนื้อก็ไม่ได้ไปวัดกันเพราะเขาไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้เสียแล้ว

    ข้าเพิ่งมาเมื่อเช้า ข้ามาจากนรก พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ท่านเมตตาให้ขึ้นมา ให้มาคอยลูกหลาน ให้มาเอาบุญ ที่ลูกหลานจะสร้างให้ในวันนี้ พรุ่งนี้ (เปรตมาแสดงตัววันที่ ๒๔ พรุ่งนี้ ๒๕ วันส่งตายายประจำปีของไท่ชุ่นฯ หลังจากที่วัดได้ส่งตายายไป แล้ว ๓ วัน)

    พอขึ้นมาจากนรก เขาพาข้ามาที่นี่ วิญญาณจากนรกตอนนี้มาเพียงไม่กี่ตน มาคอยลูกหลาน

    คนอื่นเขามาคอยลูกคอยหลาน ข้าก็มาด้วย เผื่อลูกหลาน ข้าจะมาอยู่ทางนี้ เขาให้ขึ้นมา ข้าก็ถือโอกาสขออนุญาต ทาง การยมโลกอนุญาตให้มา พรุ่งนี้ก็จะมากันทั้งหมด (พรุ่งนี้ คือ วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๔๖ ซึ่งเป็นวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ เป็นวันส่งตายายของทางโลกมนุษย์ ซึ่งเข้าใจกันว่า ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ ซึ่งเป็นวันรับตายาย ทางการยม โลกให้วิญญาณสัตว์นรกขึ้นมารับบุญ แล้วอยู่จนถึงวันส่งตายาย แต่ตามข้อเท็จจริง ซึ่งเปรตที่มาแสดงหลักฐานบอกให้เรารู้ว่า วันรับตายายทางการยมโลกนำส่งขึ้นมากินบุญจากลูกหลาน เฉพาะ ในวันนั้น แล้วนำกลับลงไปลงโทษในนรกตามเดิม และกลับ ขึ้นมาอีกในวันส่งตายาย แต่สัตว์นรกบางประเภทได้ขึ้นมาก่อน วันส่งตายายก็มี เหตุปัจจัยบุญ-บาปของแต่ละญาณไม่เหมือนกัน จึงได้รับโอกาสต่างกัน) ฮือๆ เราจะไปทุกแห่งที่ลูกหลานไป

    ที่นี่ข้าไม่เห็นญาติ และลูกหลานของข้าเลย ฮือๆๆ ที่มาที่นี่ เพราะ มีเสียงสั่งลงมาว่า ให้มาที่นี่ เขาบอกว่ามีคน ต้องการ....อะไรก็ไม่รู้.... มีเสียงสั่งกำชับลงมา ให้ข้าต้องมาที่นี่ เสียงกังวาน จนข้าแสบแก้วหู จนทนไม่ได้ ข้าไม่รู้ แต่ข้าต้องมาที่นี่

    ให้มาบอกเล่าความทุกข์ทรมานในนรกว่าถูกไฟเผาผลาญ จิตญาณของผีเปรตอย่างพวกข้า ฮือ ๆๆ ..ทุกจิตวิญญาณที่ลงสู่นรก จะต้องถูกเผาผลาญแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี จะต้องถูกเฆี่ยนตี บ้างก็ถูกสับออกเป็นชิ้นๆ บ้างก็ผ่าจนร่างวิญญาณแหลกเหลวเป็นส่วนๆ บ้างก็เอาหนามมาตอกที่หัว ตัดแขนตัดขา ควักลูกนัยน์ตา ผ่าหัวกะโหลก เอามันสมองมาแบ่งกินกัน อือๆๆ

    พวกสัตว์นรกต้องกินของแบบนี้ ตับไต ไส้พุง ไขสันหลัง วิญญาณ ก็พาแยกกันนั่งกิน แคะด้วยความหิว ฮือๆๆๆ เขาให้มาบอกถึงความทรมานในนรก ซี่โครงต้องหักออกเป็นชิ้นๆ ฮือๆๆๆ

    เขาสั่งความให้มาบอกว่า ให้สร้างบุญให้พวกวิญญาณ พเนจรบ้าง วิญญาณผีในนรกบ้าง ฮือๆ วิญญาณไม่มีญาติ วิญญาณที่ติดอยู่หน้าด่าน ฮือๆๆๆ

    วิญญาณที่ติดอยู่ขุมลึกๆ ฮือๆ วิญญาณที่ถูกตัดแขน ตัดขา เพราะเขาเหล่านั้นไม่มีบุญกุศลเลย ช่วยตัวเองไม่ได้ วิญาญาณจะไม่ได้ไปผุดไปเกิดที่ไหน จึงต้องลงอยู่ในนรกตลอดเวลา ถูกเคี่ยว กรำด้วยไฟนรกตลอดเวลา ไฟนรก วิญญาณต่างๆ กำลังคอยบุญกุศลจากผู้ใจบุญ อือๆๆๆ

    วิญญาณทุกๆตน คอยบุญกุศลจากบนโลกมนุษย์ ถ้าพวก มนุษย์ด้วยกันไม่สร้างบุญกุศลให้ เขาเหล่านั้นก็ไม่มีบุญ กุศล หล่อเลี้ยงญาณเลย ญาณของเขาหมอง ไม่มีแสง มันมืด ไปไหน ไม่ได้ มันต้องถูกวนเวียนอยู่ในนรก ขุมแล้วขุมเล่า เวียนอยู่ทุกๆ ขุม หลุดจากขุมนี้ไปขุมโน้น จากขุมโน้นก็กลับมาขุมนี้อีก เพราะ ไม่มีบุญกุศลจะได้รับจึงต้องถูกทรมานไปเรื่อยๆ ทรมานจน กว่าเขาจะเมตตาให้เอง ฮือๆๆๆ ท่านบอกว่าจะทรมานให้มาก ที่สุด ทรมานให้หนักที่สุด ไอ้พวกไม่มีญาติทั้งหลาย ถึงแม้นมีแต่ ลูกหลานหรือผู้มีพระคุณไม่ส่งบุญกุศลไปให้ เขาจะไม่ปล่อยให้ มาลอยนวล ให้มาสุขสบายอีกแล้ว เพราะเปิดโอกาสให้เขา (ลูกหลานกายเนื้อ) ได้สร้างบุญ แต่เขาก็ไม่สนใจ เพราะฉะนั้น วิญญาณบรรพชนก็ต้องทรมานแทน ฮือๆๆๆ

    เรื่องของจิตญาณได้รับความลำบาก ทุกข์ทรมานอยู่ในนรก ข้าทรมาน ทุกคนทรมาน ทุกคนกำลังแหวกว่ายอยู่ในกองทุกข์ อยู่ในทะเลความทุกข์ ทรมาน เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในนรกนั่น แหละ ไม่มีโอกาสขึ้นมาเกิดอยู่ในเมืองมนุษย์ เพราะหมดสิทธิ์ที่ จะขึ้นแล้ว เขาไม่เปิดโอกาสจะให้ขึ้นมาง่ายๆ เขาบอกว่า ในเมื่อสมัยตอนมีชีวิตอยู่ ไม่คิดจะสร้างบุญสร้างกุศลเลย ก็อย่าได้ไปผุดไปเกิดอีกเลย ให้มันทรมานอยู่เช่นนี้ ฮือๆๆๆ

    ท่านจะช่วย เฉพาะที่ลูกหลานสร้างบุญไปช่วยเท่านั้น ช่วย เท่าที่จะให้บุญกุศลไปถึง ถ้าลูกหลานในเมืองมนุษย์ ไม่ส่งบุญให้ไป ถึงเขาก็จะไม่อนุญาตให้ขึ้นและจะไม่ช่วยฮือ ๆๆ

    ชื่อที่ท่านอ่านประกาศ ผู้ที่ทำบุญในเวลานี้ ได้ยินถึงข้างล่าง แต่ทำอะไรไม่ถูก เพราะมันก้อง มันมั่วไปหมด เพราะต่างคน ต่างปีนป่าย จะขึ้นมารับบุญ จึงแย่งกัน ร้องเสียงอื้ออึงไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นจิตญาณของตนไหน เป็นวิญญาณของใคร ที่ลูกหลาน จะส่งบุญไปให้เขาได้ขึ้นมาในวันพรุ่งนี้ (๒๕ กย.๔๖) ได้บ้าง เขาจึงต้องแย่งกันร้องขอ ร้องขอบุญกุศลจากลูกหลาน ร้องขอ อย่างน่าเวทนา อย่างน่าสงสาร ร้องโหยหวนไม่มีที่สิ้นสุด ร้องด้วย ความเจ็บปวด แข่งกับการถูกทรมาน ฮือ ๆๆๆ

    ข้าอยากให้ทุกท่านช่วยโปรดเมตตาสัตว์นรก เช่นพวกเรา ด้วย สัตว์นรกเช่นพวกเราไม่มีโอกาสช่วยเหลือตัวเองได้เลย ไม่มีบุญ ไม่มีกุศล ฮือๆๆ จะขอความกรุณาเมตตาจากท่านทั้ง หลาย ช่วยดึงวิญญาณเราขึ้นมาด้วย ช่วยให้เราพ้นทุกข์จากการ ถูกทรมานในนรกด้วยเถิด เราขอร้อง ช่วยพวกเราด้วย ฮือๆๆ

    ทุกวันๆ ที่นี่ ท่านกรวดน้ำส่งบุญไปให้ พวกข้ารับไม่ได้! เขาไม่ให้รับ เพราะพวกข้าทำบาปหนัก เป็นเปรตที่ทรมาน จึงไม่มีสิทธิ์ จะรับบุญกุศลของใคร ถ้าเขาไม่อนุญาต

    ถ้ามีลูกหลานที่สร้างบุญจริงๆ บำเพ็ญจริงๆ บรรพบุรุษถึงจะ ได้รับบุญกุศลนั้น

    ถ้าลูกหลานไม่เข้ามาบำเพ็ญ บุญกุศลก็จะไม่เกิดแก่วิญ ญาณเหล่านั้น ถ้าลูกหลานเข้ามาบำเพ็ญ บุญกุศลเกิดแก่เขาเหล่า นั้น ทำให้วิญญาณเขามีความสุขนิดหน่อยก็ดี ดีกว่าไม่มีความสุข เลย เขาทุกข์ทรมาน

    ผู้บำเพ็ญที่จิตตก มีผลกระทบต่อวิญญาณในนรกที่เกี่ยว ข้องเหล่านั้น จะถูกเฆี่ยนตี จะถูกหนามตำ จะถูกลวดหนามพันกาย จะโดนรัดด้วยไฟลวด

    คนที่ได้เข้ามาสู่เส้นทางการบำเพ็ญแล้ว ยังคิดเพี้ยนๆ คิด ไม่ดี มาสู่สถานที่ดีแล้ว ยังคิดใฝ่ทางโลกอีกอย่างนี้เป็นต้น คิด อยากจะกลับบ้านวันละสิบหน ไม่คิดจะบำเพ็ญอย่างนี้ จะส่งผล ต่อบรรพบุรุษในนรก

    เขาก็โดนทรมานทันทีเช่นกัน เมื่อลูกหลานคิด จิตก็ส่งถึงเขา เขานั่งอยู่ดีๆ ไฟก็จะลุก เขาก็จะเอาลวดไฟมาหวด(หมายถึงนักการยมบาลแห่งเมืองนรก) ทำให้ไฟติด แผลจะเน่าทันที ฮือๆๆ จะเจ็บจะปวด แล้วเขาก็เอาน้ำกรดมาราดที่ร่างวิญญาณ ร่างวิญญาณก็จะดิ้นทุรนทุราย ด้วยความเจ็บปวดแสบร้อน ด้วยน้ำกรด โลกันตร์

    วิญญาณที่เจ็บปวดเหล่านั้น เขาก็จะร้อง ฮือๆๆ ด้วยความ เจ็บปวด กูเป็นอะไรๆ อีกแล้ว ทั้งๆที่เขาอยู่ๆ ก็ไม่รู้เรื่อง บางทีเขา นั่ง บางทีเขานอน.....

    เขาเจ็บ เจ็บมากกว่าข้าบางครั้ง ฮือๆๆ เขาเจ็บแสนสาหัส และมันเป็นบางครั้งๆ ที่เขาเจ็บกว่าพวกข้า เขาจะเจ็บทะลุหน้าทะ ลุหลัง เจ็บไม่มีที่จะอยู่ เจ็บปวดทรมาน ฮือๆๆ

    ข้าอยู่ในนรกมานาน และถูกทรมานมาตลอด ข้าอยาก อยู่สบาย มีความสุขเหมือนอย่างพวกท่าน แต่ข้าไม่มีสิทธิ์ ฮือๆๆ

    เขาให้ข้าอยู่จนเสร็จภารกิจแล้ว ข้าต้องลงข้างล่างอีก ข้าก็ จะลงไปประมาณ ๑๐ โมง ข้าไม่มีสิทธิ์ขออะไรจากใครทั้งนั้น นอกจากพวกท่านจะมีจิตเมตตาสัตว์นรกอย่างพวกเรา

    สัตว์นรกก็ต้องเป็นเช่นพวกข้า ไม่ได้ผุด ไม่ได้เกิด ไม่ได้เงย หน้าเลย ฮือ ๆๆ

    นรกนั้นมันไม่ใช่ที่จะสุขสบายเลย

    ที่อื่นข้าไม่รู้ รู้แต่ว่าเขาได้นำวิญญาณมาที่นี่ ดวงญาณของข้าจึงได้มาที่นี่ ที่อื่นข้าไม่รู้ ข้ามองไม่เห็น เขาไม่เปิดให้ข้าได้เห็น ข้าไม่มีสิทธิ์ไปมองตรงอื่นๆ รู้แต่ว่าข้าต้องมาที่นี่ และที่นี่ข้าต้องมาให้คำพูด

    เขา (หมายถึงทางการยมโลก) บอกให้เร่งสร้างบุญสร้างกุศล ฟ้าเบื้องบนเมตตาให้พวกท่านได้บำเพ็ญ ดีกว่าพวกข้าสัตว์นรกอีก ให้ตั้งใจบำเพ็ญ อย่าละทิ้งหน้าที่ ทำงานให้อดทน ให้เป็นคนดีให้ได้ สิ่งใดที่เขาบอก (น่าจะหมายถึงอาวุโสในอาณาจักรธรรม) ก็จง ทำ จงทำให้สำเร็จ ตามที่เราตั้งใจ อย่าปล่อยให้ความตั้งใจ ของเราละลายเหมือนสายน้ำ ผลบุญก็จะไม่เกิด เขาบอกว่า วิญญาณในนรกนั้น ก็จะละลายเหมือนที่ท่านไม่ตั้งใจ คือละลาย เป็นสายน้ำเหมือนกัน กาลเวลาของฟ้านั้น เขาได้กำหนดไว้ว่า เมื่อถึงเวลาฟ้าปิด หรือเปิดก็ตาม ดวงวิญญาณจะได้ขึ้นหรือลง ก็อยู่ที่กายเนื้อมนุษย์จะส่งผลบุญหรือไม่ ถ้ากายเนื้อมนุษย์ไม่ส่งผลบุญไปถึงหรือไม่ส่งไปให้ เขาเหล่านั้นก็ต้องทุกข์ทรมาน ต่อไป ฟ้าจะปิดหรือไม่อยู่ที่ท่านนั่นเองฟ้าจะเปิดต่อก็อยู่ที่ท่าน ถ้าท่านตั้งใจสร้างบุญกุศลฟ้าก็จะยืดเวลา แต่ถ้าท่านทำตัวผิดจิต หม่นหมอง ทำแต่สิ่งที่ไม่มีทำนองคลองธรรม ฟ้าก็จะปิด และ ก็จะมืดเหมือนกัน เพราะผู้บำเพ็ญที่ไม่ตั้งใจปะปนอยู่กับผู้บำ เพ็ญดี ญาณที่เคยใสสะอาดก็จะกลับหมอง จึงต้องแยกคนดีกับคนชั่วออกจากกัน เพราะทำให้ญาณคนดีก็พลอยลงนรกไปกับคนชั่ว ความเป็นปุถุชน ก็เป็นปุถุชนอยู่วันยังค่ำ ที่จะเป็นอริยะ หรือพุทธะนั้นก็ยากยิ่ง ถ้าผู้ตั้งใจที่จะบำเพ็ญธรรมก็จงหมั่นฝึกฝนจิตให้เป็นพุทธะให้ได้ ถ้าผึกฝนจิตให้เป็นพุทธะไม่ได้ ก็จะเป็นปุถุ ชนลงสู่เบื้องล่าง นรกมีไว้สำหรับผู้ใจร้าย เบื้องบนสวรรค์นั้นมีไว้ สำหรับผู้ใจบุญ ใครที่มีจิตใจการุณ มีเมตตากรุณา ฟ้าจะอยู่ข้างมัน ใครที่มีจิตใจสกปรกโสมม คิดแต่เรื่องต่ำๆ เรื่องอกุศล วิญญาณของ เขาก็จะลงสู่เบื้องล่าง เราดีใจที่วันนี้ที่ได้มาที่นี่ ฮือๆๆๆ

    ข้าได้แค่รับบุญนิดหน่อย ข้ารับมากไม่ได้ เขาให้บุญกุศล แก่ข้า ที่ข้าได้มาบอกกล่าวตามคำสั่งของเขา ให้ข้ารับได้แค่ นิดหน่อย เพื่อเป็นพลังห่อหุ้มญาณ จิตญาณของข้า ข้าเจ็บ ข้าปวด มานานแล้ว วันนี้เขาให้มาขอบุญของท่าน มาสู่กายสังขาร วิญญาณของข้าบ้างเถิดนะ ข้าก็จะสุขสบายขึ้นมานิดหนึ่ง ข้าก็ขอ ขอบคุณทุกท่าน ภารกิจวันนี้ของข้าที่ได้มาบอกข่าว และที่ท่าน ให้บุญกุศลหล่อเลี้ยงแก่วิญญาณของข้า ข้าก็ต้องขอบใจทุกๆคน ขอให้มรรคผลที่ท่านสร้างนั้น จงส่งจิตญาณของท่านขึ้นสู่เบื้อง บนอย่าได้ลงต่ำเช่นพวกข้าอีกเลย ฮือๆๆ

    ข้าไม่มีสิทธ์จะบอกใครได้ว่าข้าจะได้กลับขึ้นมาใหม่หรือไม่ แม้แต่ท่านจะเมตตา เพราะวาระบุญของข้า ที่ท่านให้ในวันนี้พอมีอยู่บ้าง ข้าก็คงจะได้มาพบกับท่านอีกครั้งหนึ่งในวันส่งตายาย ข้าอยากจะขอบใจ ขอบคุณผู้มีบุญทั้งหลาย จงช่วยชี้แนะผู้ที่ตก ทุกข์ได้ยาก ให้เขาพ้นจากทะเลทุกข์ อย่าให้เขาลงไปรับทุกข์ เช่นพวกข้า อย่าให้เขาต้องลงสู่อบายภูมิเช่นพวกข้า เปรตนรก สัตว์นรกนั้น มันไม่ใช่ของดีเลย มันเป็นวิญญาณที่ทุกข์แสน สาหัสตกอยู่ในอบายภูมิ ที่มีแต่ความเจ็บปวด แสบร้อน หาได้มี ที่สิ้นสุดไม่ ขอให้ผู้มีบุญทั้งหลาย จงตั้งใจบำเพ็ญช่วยลูกช่วย หลาน ช่วยบรรพชนกลับขึ้นสู่เบื้องบนกันเถิดนะ ถึงแม้นข้าไม่มีบรรพชนที่จะช่วยเหลือ ข้าก็อยากจะให้ท่านช่วยเหลือบรรพชน ของท่าน อย่าให้บรรพชนของท่านต้องทุกข์ทรมานเช่นข้า ไม่มีวัน จบสิ้น เวียนว่ายตายเกิดในนรกภูมิ ......ฮือๆๆๆ

    ร้องอย่างสุดทรมาน จนถอนญาณออกไป
     
  10. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณยายเพลิงจากปากนคร </TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] <TABLE style="FONT-WEIGHT: bold; MARGIN-BOTTOM: 5px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=70></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>ณ มูลนิธิชินบัญชร อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๖ เวลา ๑๒.๓๐ น.

    วันนพฤหัสบดีที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๖ ซึ้งเป็นวันส่งตายาย ตามวัดต่างๆ ตรงกับวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ เนื่องจากมีวิญญาณเปรตมาขอพูดเป็นนัยๆให้เข้าใจว่า มีเปรตจำนวนมากที่อดอยาก น่าสงสาร จึงมีความคิดเกิดอย่างกะทันหัน ไม่ได้วางแผนไว้ก่อน ที่จะจัดเลี้ยงอาหารแก่ผีเปรตเป็นกรณีพิเศษ เนื่องในวันส่งตายาย ที่เปรตตามวัดต่างๆ บางตนที่ไม่มีลูกหลานไปทำบุญที่วัด เปรต เหล่านั้นก็ไม่มีโอกาสได้กิน แม้จะได้ขึ้นจากนรกมาแล้ว ก็อด อยากปากแห้ง กลับลงนรกด้วยความหิวโหยยิ่งกว่าเดิม จึงได้จัด โต๊ะเลี้ยงอย่างครบถ้วน ทั้งอาหาร ผลไม้ ขนมเดือนสิบ ประกอบกับ ญาติธรรมส่วนหนึ่งได้ไปทำบุญที่วัด และนำปิ่นโตอีกสายหนึ่งมาที่วัดพระศรีอาริย์ คือที่มูลนิธิชินบัญชร จึงได้จัดผลไม้ถวายพร้อม อาหารแด่เบื้องบน พระแม่องค์ธรรมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เสร็จ แล้วก็ไปเชิญให้เปรตกินอาหารจนได้เวลาอาหารกลางวัน เมื่อ พุทธบริกรรับประทานอาหารกลางวันแล้ว จึงได้ปรารภว่าวันนี้จะ ขอหลักฐานจากเปรตที่เรียกมาจากวัดต่างๆ ยังไม่ทันจะให้พุทธ บริกรพักให้ข้าวเรียงเม็ด วิญญาณหนึ่งก็ได้โอกาสมาให้หลักฐาน เวลาประมาณ ๑๒.๓๐ น.ใช้มือเช็ดปาก เสมือนหนึ่งเพิ่งอิ่มอาหาร ใหม่ๆ กิริยาอาการแสดงความสุข

    อร่อย! วิญญาณมากันเยอะแยะมากมาย! ไม่รู้ได้กินกันครบ ทุกคนไหม แต่ยายกินอิ่มแล้ว!

    ยายมาใช้ร่างนี้มาก่อนใครอื่น มาตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้น เขาอนุญาตแล้ว มาเข้าแถวอยู่ก่อนใครเขา

    ยายชื่อ เพลิง อยู่ปากนคร นครครีธรรมราช ตายมา ๒๐๐-๓๐๐ ปีแล้ว มาจากพระธาตุมาหลายวันแล้ว ไปบ้านมา ยายเป็น ผีธรรมดา เขาให้ขึ้นมาตั้งแต่ตอนเช้า!

    ยายขึ้นมาจากนรกอยู่ไม่ลึกเท่าไหร่ อยู่ใกล้จะถึงพื้นที่พวก เอ็งอยู่แล้ว อยู่ขุมที่หก

    ยายขโมยปลาในบึงเขา (ขโมยจับปลาในหนองคนอื่นเขา) ตีไก่ ชนไก่ด้วย ตอนตายอายุ ๑๐๒ ปี แก่ตาย ชอบฆ่าปลา ชอบ ตีวัว ยายเลี้ยงวัว

    ยายตีวัว พอลงไปข้างล่าง(นรก)แล้วเขาลงโทษ เขาก็ตียาย ทำเหมือนวัวที่ยายตีมันตอนแรก ทำให้ยายนอนครางเหมือนกับ วัวนั่นแหละ เขาตี เขาเอาเชือกผูกคอแล้วลากจูงบนแผ่นเหล็ก ให้คลานมีไฟไหม้หัวเข่า

    วันนี้ทางการยมโลกพายายขึ้นมาบนนี้ เขาจะพากลับตอน เสร็จงานแล้วพญายมเขาพามา มาเยอะแยะเต็มไปหมดเลย มีทุกประเภท เปรตก็มี วิญญาณอื่นก็มี วิญญาณตายโหง วิญญาณ ธรรมดา วิญญาณพเนจร เขาให้ขึ้นมารับบุญจากลูกหลาน

    ทางยมโลกเขาบอกว่าใครมีลูกหลานที่ไปวัด ก็อนุญาตให้ ขึ้นมาเอาบุญ แต่ไม่ให้ไปเกะกะ ไม่ให้ไประรานใคร ถ้าใครไม่มี ลูกหลาน จะให้้ขึ้นมาอาศัยเพื่อนได้ ถ้าเพื่อนให้ ถ้าเพื่อนไม่ให้ ก็อด แต่ถ้าลูกหลานให้ คงจะได้สิทธิ์โดยสมบูรณ์

    แต่ไม่เห็นหัวลูกหลานสักคนเลย

    ตอนเช้ามาตั้งแต่ตีห้าแล้วเขาพามา เขาให้เข้าแถวตามกัน มาที่นี่

    รู้ว่าที่นี่มีข้าวให้กิน เนื่องจากมีใครก็ไม่รู้ไปพูดไปบอก ได้ยิน แต่เสียง ไม่เห็นตัว บอกว่าให้มาที่สถานธรรม บอกให้มากินข้าว

    ยายขึ้นมาตอนเจ้ากำลังจัดโต๊ะกันอยู่ ยายเห็นไฟติดหม้อ พวกเอ็ง ในหม้อพวกเอ็งมีไฟทั้งนั้น ยายไม่กล้าเข้ามา

    เขาบอกให้มาพร้อมกัน พอพวกเอ็งชวนให้กินแล้วไฟจึงจะดับ ถ้าไม่เชิญกิน ไฟไม่ดับ เข้าใกล้ไม่ได้มันร้อน

    กับข้าวที่วางให้กินมีเยอะแยะไปหมด ผักทั้งนั้น

    เขาให้กินก็ต้องกินทุกคน มาแล้วเข้าแถวกิน

    ยายกินกับมือ กินกับช้อนไม่เป็น กินน้ำกับกะลา อร่อย หวานหอม

    กับข้าวที่กินมีพลังในตัว กินแล้วญาณตัวเองรู้สึกมีพลัง ที่มี พลังเพราะเจ้ากำหนดให้จากหน้าพระแท่นไปลงที่วิญญาณกินกันเหมือนลูกดาวหล่น หล่นในข้าวกินแล้วอร่อยไม่ต้องใส่อะไร

    ยายว่าพอกินเสร็จ จะคดห่อ(ใส่ถุง) ก็ถูกตี ไม่อนุญาต ให้เก็บไว้

    ส่วนวิญญาณอื่น เช่นวิญญาณเปรต……มีอยู่แถวหนึ่ง ทางด้านตะวันออก เขาไม่ให้ปนกับพวกเราคนที่พาเขามา ไม่เห็น ได้ยินแต่เสียง

    ตอนนี้เขายังกินอยู่ เขาให้กินหลังเพื่อน

    พวกเปรตกำลังกินกันอยู่ ท่านอย่ายกอาหารที่พวกเรากิน ไปเสียก่อนนะ ค่อยยกตอนเย็นๆ ตอนค่ำ ๆ

    เมื่อกี้ยกจานออกไป(จานที่จะกินข้าวของพุทธบริกรไม่พอ ใช้ จึงไปหยิบจานที่ตั้งไว้ให้เปรตกินอยู่มากินข้าว) ข้าวคว่ำหมดเลย มันอยู่ในจานข้าวหกหมด ท่านยกจานนั้นไปข้าวคว่ำหมด

    ข้าวมี แต่มันเก็บที่คว่ำมากินต่อ เขาไม่ให้ตก ไม่ให้หล่น น้ำแกงในถ้วยหกหมด

    ออกไปกวาดให้เขา กำหนดจิตกวาดให้ดี กวาดใส่จานไว้ให้ เขา กวาดให้สะอาด กวาดกับมือ

    ค่อยยกตอนเย็นโน่น มันกำลังหิวกัน

    มันร้องกัน ท่านเชื่อไหม ท่านเห็นไหม มันร้อง

    ยังเข้าแถวมากันเรื่อยๆ เขาดีใจ

    ยายอิ่มก่อนใครเขา เพราะอยู่หัวแถว ยายมาหลบแดดอยู่ ที่เต๊นท์ของพวกเอ็งนะ

    พอกินเสร็จ เขาให้เข้าแถวที่หน้าบ้านเรียบร้อย บ้านนี้สวย มากขาวไปหมด เวลากลับพากลับพร้อมกัน

    วันนี้ลูกหลานยายไม่รู้มันไปอยู่ที่ไหนหมด บ้านยายอยู่ปาก นครโน่น

    เขาพาวิญญาณมาเต็มไปหมด วิญญาณอยู่บริเวณนี้กว้าง ขวางเต็มไปหมด

    เมื่อกินเสร็จแล้ว ก็แล้วแต่เขาจะพา ส่วนยายมาอยู่ในเต๊นท์

    พรุ่งนี้ มะรืนเขาขังคอกแล้ว ออกไปไหนไม่ได้

    ยายก็ไม่ได้พึ่งใบบุญพวกมึง เพราะยายยังหิวอีก ลูกเอ๋ย ยังหิวๆ เวลาหิว หิวจะตาย เจ็บท้องไปหมดแล้ว

    ตอนนี้อิ่มสบายท้อง

    ทีหลังลูกเอ๋ย อย่าทำนะ พูดให้พวกมึงเข้าใจ แต่พวก ที่ไม่ได้พูดโน่น มันไม่เข้าใจ มันเสียใจ มันร้องไห้ มันรู้สึกว่า เหมือนกับว่า ให้กินแล้วแกล้งคว่ำจานข้าวอีก หิวอยู่นะ

    เปรตก็ยังทยอยกันมาเรื่อยๆ น่าสงสารกว่าพวกยายอีก มึงเอ๋ย บางคนปากเล็กนิดเดียว กินข้าวได้ทีละครึ่งเม็ด กินได้ที ละนิดๆ

    ฉันทำให้ท่านดู ท่านนึกเอาเองนะ (แล้วเอานิ้วมาวาดที่ลำตัวแล้วก็สาธยายไปตามที่วาด) ยายอยู่ที่หนึ่ง พวกเปรตอยู่อีกที่หนึ่งเขาไม่ให้อยู่ใกล้กัน เขาให้อยู่ไกลกัน พวกเด็กๆ อยู่กันลูกเอ๋ย ไอ้พวกนี่ ไอ้พวกใส่เสื้อผ้าขาดๆ ที่สีดำๆ แต่งชุดดำ เขาแยกพวกกันเขาไม่ให้ปนกัน

    เขาให้เข้าแถวมากินข้าว มีคนตัก มีช้อนใหญ่ตัก คนตักใส่ชุด เหมือนคนจีน เห็นแต่แขนนิดเดียวกับตะหลิว ที่ทำจากกะลา

    เขาแยกเด็กแยกผู้ใหญ่ ถ้าไม่แยกวิญญาณบางวิญญาณมันหิวมาก มันจะแย่งกัน กับเด็กมันไม่สนใจมันผลักออกหมด เด็กมัน ไม่ได้กินซิ

    ไม่มีคนคุมทุกแถว แต่มันจะมีเส้นอย่างนี้ (แล้ววาดให้ดู บนท้องร่าง) แล้วพวกเราอยู่ตรงกลาง ออกนอกเส้นนั้นไม่ได้ เส้นหนีบไว้ติดแน่น

    วิญญาณกุ้ง หอย ปู ปลา ไม่เห็น เห็นแต่วิญญาณคน

    เหตุที่ยายได้ขึ้นมาเร็ว เพราะยายเที่ยวขอบุญเขาอย่างนี้ แหละ ที่เหมือนพวกเอ็งให้นี่แหละ

    พอขึ้นมาแล้วได้บุญมากหรือน้อย มันบอกไม่ถูกว่าได้บุญ มากไหม วิญญาณทุกดวงได้บุญหมด

    ตอนเย็นเจ้าจะส่งบุญให้อีก กรวดน้ำให้

    ต้องขอบใจมึงมากนะ ยายจะร้องไห้ แต่ท่านไม่ให้ร้อง ที่ร้องเพราะยายดีใจที่ได้กิน คนอื่นได้กิน เพื่อนได้กิน ถ้ายายอดเพื่อนอด คนอื่นก็อด ยายดีใจได้กินกับพวกท่าน

    วันที่ ๒๘ นี้ทำบุญใหญ่ เลี้ยงกันใหญ่โตอีก ท่านบอกให้เรามาด้วยนะท่าน

    ขอบใจมากนะ กูจะบอกว่า คน(วิญญาณ) ที่มีลูกหลาน ก็ได้บุญ ใครไม่มีลูกหลานก็ไม่ได้บุญ เพราะไม่มีลูกหลานคอยส่ง ให้ ถ้าท่านไปเป็นวิญญาณเหมือนกับเราบ้าง ลองดูซิ ทรมานจะตาย ทรมานมากหลาย ทรมานไม่มีจบสิ้น ทรมานไม่มีที่อยู่ ว่าให้สร้าง บุญบ้างให้สร้างบุญเหมือนท่านบ้าง แต่ไม่ทราบว่าจะมีโอกาสไหม

    เราอยากที่จะมาอยู่กับท่าน จะได้มาทำบุญมาสร้างบุญ แต่ ยายกลัวว่าจะไม่ได้มาเกิดเป็นคนอีก ไม่ทราบว่ายายจะเกิดเป็น สัตว์อะไร เพราะมันใกล้ที่จะหมดวาระการถูกทรมานแล้ว หรือว่า จะเกิดมาเป็นคนพิการก็ไม่รู้ ยายใกล้ที่จะหมดการทรมานจาก นรกแล้ว เหลืออีกไม่นาน ยายกลัว ลูกเอ๋ยยายกลัวที่จะไม่ได้เกิด มาเป็นคนอีกแล้ว

    จะขอจากท่านก็ขอไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ ฮือๆๆๆ

    ลูกหลานเอ๋ย เจ้าอย่าทำผิดกันนะ ฮือๆๆๆ เจ้าอย่า ทำผิดเด็ดขาด เจ้าทำผิดเจ้าก็ต้องไปอยู่เหมือนยายอีก เจ้าอย่า ทำผิดนะลูก สักนิดสักหน่อย ถ้าเจ้าทำผิดเจ้าก็ขอขมากับผู้ใหญ่ เจ้าอย่าเก็บไว้ในใจนะลูกนะ ถ้าเจ้าเก็บไว้ในใจเจ้าจะได้รับโทษ ทันทีเหมือนกัน ทำผิดต้องขอโทษผู้ใหญ่นะลูกนะ เจ้าอย่าลงไป ข้างล่างเหมือนยายลูกเอ๋ย มันทรมาน ฮือๆๆๆ

    มีญาติอยู่ที่นครแต่ยายจำไม่ได้ มันแปลกหมดแล้ว สองร้อย กว่าปีแล้ว ยายจำไม่ได้ อยู่แถวๆ ริมชายทะเลโน่นลูก ฮือๆๆๆ

    นรกลูกเอ๋ย มันทรมาน มีแต่ถูกตี ถูกซ้อม ถูกทุบตลอดเวลา ถ้าใครคิดไม่ดี ก็ถูกทำอย่างนั้นอีก นรกมีแต่เจ็บ มีแต่ปวด มีแต่ร้อง ไม่มีวันได้หัวเราะ เหมือนพวกท่าน หัวเราะมันไม่มี มีแต่ถูกตี ถูกกระทืบ ถูกเตะทั้งนั้น วันไหนที่พวกยายได้ยิ้ม วันนั้นแสดง ว่าได้พึ่งบุญกุศลของคนอื่น นิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้รับเลย แต่พวกเอ็งยังมีโอกาสหัวเราะ มีความสุขที่ได้นั่งฟังธรรม ได้ไหว้พระ ได้สร้างบุญ ได้ไปโน่นได้ไปนี่ ไปที่ที่พวกเอ็งอยากจะไปนะลูกนะ แต่ยายไม่ได้ไปไหนเลย ถูกทรมานอยู่กับที่ ไปไหนไม่ได้ ฮือๆๆๆ

    นานๆ จะมีบุญส่งไปให้นิดหนึ่ง ไม่รู้ว่ามันเป็นวันสำคัญวัน อะไร พอได้แล้วรู้สึกอิ่ม ลูกเอ๋ย

    ขอบใจลูกเอ๋ยหลานเอ๋ยที่กรวดน้ำให้ยาย

    ขอบใจอย่างนี้แหละลูกเอ๋ย ลูกหลานยายก็ไม่รู้ไปไหน ไม่คิดสร้างบุญให้ยายบ้าง ยายเที่ยวขอเขากินแล้วฮือๆๆๆ ยายหิว เหมือนกัน ยายเที่ยวขอเขากิน ถ้าเพื่อนให้ก็ได้กิน ถ้าเพื่อนไม่ให้ ก็ไม่ได้กิน ยายหิวต่ออีก ฮือๆๆๆ

    ถ้าเพื่อนเขาเต็มใจ ถ้าเขาเต็มใจลูกนะ นิดหนึ่งก็ยังดี นิด เดียวเป็นเงาก็ยังดี ลูกเอ๋ย

    ความรู้สึกหิวของวิญญาณเวลาหิวมันเหมือนกันกับกายเนื้อแหละลูกเอ๋ย มันทรมานเหมือนกันแหละ มันไม่มีแรงลูกเอ๋ย ฟุบกับที่เหมือนกัน ฮือ! เขาบอกว่าให้สร้างบุญเอง เมื่อตอนมีชีวิต บุญใครบุญมัน ไปขอกันกินไม่ได้

    คนทุกวันนี้ไม่เชื่อ เรื่องบาป เรื่องบุญ เรื่องนรก เรื่องสวรรค์ ไม่เชื่อเรื่องวิญญาณเสียด้วย แล้วก็ไม่ยอมทำบุญ วัดก็ไม่ไปเสีย ด้วย คนประเภทนี้เวลาตายลงไปข้างล่าง ไม่ต้องพูดลูกเอ๋ย ไปลอยคออยู่ในกระทะทองแดงทั้งนั้น ไปลอยคอให้น้ำร้อนลวก กันอยู่โน่นลูกเอ๋ย เปื่อยกันหมด มันไปไหนไม่ได้ ลุกขึ้นก็ไม่รอด ทำได้แต่แหกปากร้อง ลูกเอ๋ยหลานเอ๋ย ช่วยด้วย ใครจะช่วยมันละ ตอนมีชีวิตมันไม่สร้างบุญเอาเอง แล้วใครจะช่วยมัน เหมือน ยายอย่างนี้แหละลูกเอ๋ย พอเป็นวิญญาณแล้วรู้สำนึก ใครจะช่วย ยายได้ละ ตอนมีชีวิตไม่รู้จักสร้างบุญ สร้างกุศล บุญไม่นำไป แล้วมันจะไปกินอะไรละ

    นอกจากไม่สร้างบุญแล้ว สมัยนี้คนรวยๆ มีเงินมีทอง ไม่เชื่อ ก็มีไม่ใช่น้อย เขาถือว่าเขามีสตางค์ มีเงินทองใช้ ทำความชั่วก็ ตกนรกทั้งนั้นแหละลูก เชื่อยายนะลูกเอ๋ย ลงนรกแน่ๆ หนีไม่พ้น ฮือๆๆ

    ตอนเป็นคนมันทำหยิ่งผยองลูกเอ๋ย จองหองพองขน ทำว่า กูมีสตางค์ แต่เวลาตาย ญาณมันนั่นแหละลำบาก ลูกหลาน ข้างหลังอยู่สบาย ทำชั่วเข้าไปอีกกับสมบัติที่มันสร้างให้ แต่ตัว ของมัน ญาณของมันไปถูกทรมาน ไปเจ็บ ไปร้องโหยหวนเหมือนเปรตลูกเอ๋ย

    คนส่วนมากที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ ก็ช่างเขา ที่ยายได้อิ่มก็เพราะ พวกมึง ยายได้ขึ้นมาเอาบุญก็เพราะพวกมึง ยายว่ามึงไม่บ้า มึงช่วยยายได้ ช่วยพวกเราได้ ช่วยได้มากได้น้อย ก็อยู่ที่เราจะรับได้ แต่พวกมึงได้ช่วยแล้ว นี่ประจักษ์หลักฐาน วันนี้มึงได้ช่วยพวกยาย ให้อิ่ม ช่วยพวกยายให้มีความสุข มึงไม่ได้ทำชั่วเหมือนกับที่คน อื่นเขาว่า ใครว่ามึงชั่วก็ช่างมันนะลูกนะ มึงอย่าไปใส่ใจ มึงทำ อย่างนี้ต่อไปนะลูกนะ ยายจะได้มาพึ่งใบบุญมึงบ้าง ฮือๆๆๆ

    เขาก็ไม่เชื่อ เขาว่าเราบ้า ก็ปล่อยไปเถิดลูกเอ๋ย วันหนึ่งวันใด วันที่มันจะสิ้นใจนะลูกนะ บาปที่มันทำ กรรมที่มันสร้าง มันก็จะ พูดออกจากปากมันเองว่ามันได้ทำชั่ว ว่ามันต้องลงนรกแน่ๆ มันสารภาพออกมาเองแหละลูกเอ๋ย ที่มันได้พูดอะไรไว้กับพวกเอ็ง กรรมมันก็จะตามมันเอง มันตายไม่มีความสุข ถูกทรมาน ทุรนทุราย กว่าธาตุมันจะแตกดับสลาย มันทุกข์ยิ่งกว่าพวกเอ็ง อีกลูกเอ๋ย มันต้องลงนรก แต่พวกเอ็งไม่ต้องลงนรก ฮือๆๆๆ

    ทำนะลูกนะ ความดีไม่ไปไหนลูกนะ ลูกสร้างลูกก็ได้รับ ลูกนะ ลูกสร้างลูกได้รับ จำเอาไว้นะลูกนะ ความดีไม่เคยทิ้ง เราสร้างความดี ฟ้าเบื้องบนก็รับทราบ ลูกเอ๋ย เขารู้ ยายทำ ความชั่วฟ้าก็รู้ ยายต้องลงนรกเพราะทำความชั่ว ทั้งที่ลับที่แจ้ง ฟ้าเขาไม่ให้อภัย ถึงเอาวิญญาณยายลงนรก ไปทรมาน ให้สมกับที่ยายทำความชั่ว ฟ้าไม่เปิดโอกาสให้คนทำชั่วหนี นรกได้ลูกนะ เอ็งจำเอาไว้นะลูกนะ........! ยายสงสาร คนที่ว่า พวกมึง ว่าคนที่ทำดี ว่าพระ ไม่นับถือศาสนา ยังดูหมิ่น พระพุทธเจ้าอีก ถึงยายทำชั่วจริง ยังยกมือไหว้พระเป็น ยังให้พระได้ ยังไม่คิดด่าพระ ยังไม่คิดหลบหลู่พระศาสนา เหมือนคนทุกวันนี้ วัดไม่เข้า พระไม่ไหว้ ยังด่าอีก พระหากิน ในผ้าเหลือง ยังด่าไปถึงพระพุทธเจ้าของเรา แต่ยายไม่เคยทำ เรื่องอย่างนี้ ถึงยายจะจน ทำชั่วอย่างอื่นก็จริง ลูกเอ๋ย แต่ไม่ เคยทำเรื่องอย่างนี้ ไม่เคยย่ำยีศาสนา ไม่เคยดูถูกพระศาสดา ลูกเอ๋ย ยายนับถือพระพุทธเจ้า ถึงเป็นสัตว์มาจากนรก เป็น วิญญาณนรกมาก่อน ก็ไม่เคยลืมบุญคุณของพระพุทธเจ้า ที่สอน ให้คนทำความดี มีศีลธรรม อย่าทำชั่ว ให้มีคุณธรรม ยายจำได้ลูก เอ๋ย ฮือๆๆๆ

    สมัยนี้….ชอบนอกลู่ทางลูกเอ๋ย เดินทางผิด คิดออกนอก ลู่ทางศาสนา เขาเอาสิ่งที่ดีไปให้ถึงบ้านแล้ว มันยังไม่เอา แล้วมันจะเอาอะไรละลูกเอ๋ย เอ็งนั่งรถนั่งเรือเหนื่อยลำบาก พาไปให้ถึงที่ มันยังไม่เอาอีก แล้วมันจะเอาอะไรละลูก มันก็ต้องเอานรกไว้ ในใจมันอย่างเดียว มันไม่ได้เอาพระเข้าไว้ในใจ ถ้ามันเอาพระไป ไว้ในใจของมัน เวลาพวกเอ็งไปลูกเอ๋ย มันก็ต้องต้อนรับอย่างดี ไม่ไช่ดูถูกพวกเอ็ง ฮือๆๆๆ จำไว้นะลูกหลานนะ ถึงมึงกับยายไม่ได้ เป็นอะไรกันก็จริงลูกเอ๋ย ยายขอสั่งขอเตือน อย่าทำชั่วเป็นอันขาด ทำผิดก็ให้สำนึกขอโทษต่อผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ เรื่อง ใหญ่ๆ ขอโทษให้หมดนะลูกนะ อย่าทำชั่วเป็นอันขาด บาปอย่า ให้ติดตัวกันนะลูกนะ อย่าให้บาปติดตัว มันจะลงนรก ฮือๆๆๆ

    เขาขอบใจลูกเอ๋ย โน่นเขายกมืออนุโมทนากันทั้งนั้นลูกเอ๋ย สาธุ ! คนที่ได้ให้เขากินข้าว ให้มีความสุขสดชื่นเหมือนเขาได้รับ เขายกมือดีใจ บางคนร้องไห้ คิดถึงลูกคิดถึงหลานไม่เคยส่งข้าว ส่งน้ำให้กิน แต่วันนี้พวกเอ็งส่งข้าวส่งน้ำให้กิน ฮือๆๆๆ

    ตอนนี้กินกันยังไม่เสร็จลูกเอ๋ย! มาเรื่อยๆ แหละลูกเอ๋ย มึงไม่ต้องรีบเก็บนะลูกนะ มึงตั้งใจสร้างบุญแล้วลูกนะ ไม่ต้อง เร่งเขา บางคนแก่ลูกเอ๋ย กินน่าสงสารกว่าจะได้สักกำมือ มือสั่น ข้าวหล่นหมด กว่าจะได้กิน ขยุ้มข้าวเต็มมือ แต่เวลากิน กินได้ ไม่กี่เม็ด มือสั่นข้าวหกหมด เข้าปาก ๒-๓ เม็ดนี่ลูก เมื่อมันสั่น หล่นหมดเลย มันหิวด้วยลูกเอ๋ย มันหิว กินกันน่าสงสาร ฮือๆๆๆ

    ที่วัดที่เขาชิงเปรต เปรตเขาได้กินไหมที่ตั้งให้กิน ไม่ได้ลูก เอ๋ย มันเข้าไปไม่ถึง คนแย่งกัน บางทีเปรตไม่ทันได้มา คนแย่งกัน หมดแล้ว คนเอาหมดแล้ว เหลือที่มันเหยียบกันนั่นแหละ ที่เอา มากินกัน เขาเรียกว่าชิงเปรต คือไปชิงเอาจากเปรตมากิน พอพระ สวดเสร็จ ก็แย่งกันแล้ว เปรตไม่ทันได้มา บางครั้งพระไม่ทันสวดเสร็จก็แย่งกันแล้ว

    แย่งกันเหมือนหมาแย่งเนื้อนั่นแหละลูกเอ๋ย เหมือนคน ไม่มีผิดลูกเอ๋ย

    ไปถึงที่วัดไม่ใช่จะได้กิน วิญญาณกุ้งหอยปูปลาแย่งเอาไป หมดจริงๆ นั่นแหละลูกเอ๋ย เข้าไม่ถึงหรอก ทั้งคนทั้งวิญญาณสัตว์ ขี่มึงขี่กูกัน แย่งกันมั่วไปหมด คนที่มีชีวิตนะลูก มันแย่งเอากันเสีย ก่อน ของดีๆ มันชอบ อันนั้นกูต้องเอาก่อน คนอื่นเอาไม่เอา กูต้อง เอาก่อนเพื่อน มันจ้องตั้งแต่เพื่อนเอาไปวางโน่น ฮือๆๆๆ

    ที่เป็นผงๆ เป็นเศษนะเปรตถึงจะได้กิน เมื่อตะกี้เขาไป ดูกันมา เหยียบข้าวของพองลากันพังเละหมด เป็นอย่างนั้นแหละ ลูกเอ๋ย มันเหยียบกันหมดเลย

    เปรตทั้งหลาย ก็ต้องเก็บของที่เขาเหยียบย่ำเละเทะแล้ว เป็นเศษแล้วมากินกัน

    น่าสงสารลูกเอ๋ย จะมีใครรู้ว่าวิญญาณถูกทรมานขนาดไหน มีความเจ็บปวด เข้าใจกันไหมละลูก

    ให้มึงตั้งใจนะลูกนะ สร้างความดี ให้มีคุณธรรมอยู่ในใจ กันทุกคน นะลูกนะ สิ่งอะไรที่ไม่ดี อย่านำเข้ามาสร้างในใจ อย่าบิดพริ้วความจริง สิ่งอะไรก็ให้พูดตามความจริง อย่าโกหก อย่ามดเท็จนะลูกเอ๋ย ถ้าพวกเอ็งโกหก สิ่งที่ไม่ดีมันก็จะกลับ เข้าตัวเอ็งหมดนะ ยกตัวอย่างยายนี่ลูก เมื่อก่อนยายโกหกเก่ง ฮือๆๆๆ ผลสุดท้ายที่ยายโกหกใส่ร้ายเพื่อน ยายได้รับทั้งนั้นที่ยาย โกหกใส่เพื่อนยายได้รับทั้งนั้นลูกเอ๋ย ที่เขาเรียกว่าผลกรรมที่ สร้างตัวเองได้รับ ฮือๆๆๆ

    เจ็บลูกเอ๋ย เจ็บเหมือนไม่มีที่จะอยู่ ไม่มีที่จะแขวนญาณ ตัวเองไว้ตรงไหน ที่จะให้พ้นจากการเจ็บ มันเจ็บทุกนาที ฮือๆๆๆ ลูกเอ๋ยหลานเอ๋ย สั่งสอนลูกหลานต่อไปนะลูกนะ อย่า ให้เขาทำชั่วเป็นอันขาด ให้เขาสร้างแต่คุณความดี มีศีลธรรม มีธรรมอยู่ในใจให้ได้ ไม่เช่นนั้นเขาก็จะเหมือนยายอีกลูกเอ๋ย ฮือๆๆๆ

    ถึงเวลาแล้วลูกเอ๋ย เขาจะให้ยายไปแล้ว เขาจะให้ยายออก ไปอยู่ที่ข้างนอกแล้ว เขาจะให้ฟังธรรม มีคนมาสอนธรรมะให้

    ลูกเอ๋ย หลานเอ๋ย บุญสร้างพวกเอ็งรับไปเถิดลูกเอ๋ย ตอนนี้ยายรับกรรมอยู่ กรรมที่สร้างกับมือของยายเอง กับปาก ของยายเอง ยายได้รับกรรมนั้นแล้วอย่างเต็มที่แล้ว นะลูกนะ เอ็งสร้างบุญวันนี้ บุญนั้นก็กลับเข้าหาพวกเอ็งทั้งหมดนั่นแหละ บารมีที่พวกเองสร้างกับพวกเปรตในวันนี้ ให้บารมีนั้นคุ้มครอง พวกเอ็งนะลูกนะ ยายไปแล้วลูกเอ๋ย ยายไม่อยากจะไปนรก แต่ ยายก็ต้องไปตามกฎแห่งกรรมลูกเอ๋ย

    (กรีดร้องสุดเสียงจนญาณ ออกจากร่างไป)
     
  11. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณตาผ่องมาจากลานธรรมพระศรีอาริย์ </TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE style="FONT-WEIGHT: bold; MARGIN-BOTTOM: 5px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=70></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>ณ มูลนิธิชินบัญชร ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    วันศุกร์ ที่ ๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ เวลา ๐๘.๔๐ น.

    มีวิญญาณตนหนึ่งมาอาศัยร่าง เพื่อจะสื่อเรื่องราวในอีก มิติหนึ่งให้ทุกท่านได้เข้าใจความเป็นอยู่ ของชีวิตหลังความตาย ซึ่งไม่อาจจะสัมผัสด้วยกายหยาบได้

    กูชื่อ ผ่อง เป็นคนชุมพร ตายนานแล้ว ๘๐ กว่าปี รัชกาลที่ ๕-๗ กูอยู่ ๓ สมัย เขาพามาส่งที่นี่ เขาขี่เรือเหาะมา เขาบอกให้มา เขาบอกว่าลูกหลานอยู่ที่นี่

    ตั้งแต่รัชกาลที่ ๖ เขาเริ่มใช้นามสกุลแล้ว แต่กูไม่มีนามสกุล เพราะอยู่ในป่า ปลูกผักปลูกหญ้าทำนา ปลูกผักบุ้ง เดี๋ยวนะกูขอ กินหมากก่อน เมื่อก่อนกูเคี้ยวหมากกับยาหม่อง(ไม่ใช่ยาหม่องทา)

    เขาให้กูมาบอกว่าให้ลูกหลานบำเพ็ญให้มากๆ หน่อย เพราะกูมาจากข้างบนโน้น ที่มีพระอ้วนๆ อยู่ เขาเรียกลานสีเขียว ที่มีตึก ๓ ชั้น ที่นั่นเขาสร้าง เมื่อต้นปีที่แล้ว (วันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๕)

    เมื่อก่อนขึ้นไปไม่มีลาน มีแต่หญ้า เป็นที่โล่งมีหญ้ากระจาย เฉยๆ ฝั่งโน้นมีพวกสัตว์อยู่เต็มไปหมด มีไก่ และอีกมากมาย พี่น้อง กูทั้งนั้นแหละ มันว่ากูมาจากฝั่งไหน กูมาจากฝั่งโน้นตามมาตอน แรกกูไม่เห็นว่ามันมา

    มีคนไปช่วยเต็มไปหมด แถวนี้! อ๋อ! อีนี่ก็ไป อีนี่ก็ไปด้วย ไอ้หนูนี่ก็ไป คนนี้ก็ไป

    ตอนนั้นกูอยู่ที่เจดีย์สีฟ้าๆ เยอะไปหมด

    วันนั้นที่เขาไปปลดปล่อยรู้สึก ไม่มีใครไปช่วยสักที กูตาย ในนั้นแหละ

    มีคนไปบอกว่าคณะนี้เดี๋ยวมีคนมาปล่อย เขาบอกว่าเดี๋ยวมีคนมาช่วย เขามาช่วยหมดไม่ปล่อยให้อยู่อย่างนี้ พอรู้อย่างนั้น ดีใจขึ้นมานิดหนึ่ง

    เรื่องลานธรรมพระศรีอาริย์ เขาสอนดี เงียบสงบ แต่คนที่ว่า ทำใจดีแล้วก็สวยแล้ว หน้าตาสวยแล้ว เขาสงบ บางคนก็จะ ได้ลงมาเกิดแล้ว เพราะบางคนเขาถามว่าจะบำเพ็ญหรือจะไป เกิดอีก บางคนบอกว่าจะมาหาลูกหลานก็ลงมาเกิด คนเราบาง ทีใจไม่สงบ ยังอยากเห็นลูกเห็นหลาน มันอยากลงมาเกิดก็ปล่อยมัน แต่กูไม่มาแล้ว

    กูเหนื่อย เห็นเขาทำงานแล้วกูเหนื่อย เวลาทำงานกูก็เหนื่อย กูทำแต่งาน ถางแต่ป่า ตอนตายอายุ ๑๑๐ ปี ที่อายุยืนเพราะ กินหมาก กินพลู กินผักข้างรั้ว แกงเลียงมะละกอ กุ้งหอยปูปลา นานๆ ได้กินที ที่กินผักเพราะของชอบ นั่นแหละทำให้อายุยืน แต่หมากทิ้งไม่ได้นะ ที่มานี้จะกินหมากด้วย ขนมเพื่อนสั่ง เดี๋ยวมันก็มากินกัน

    น้ำพริกมะขาม น้ำพริกแห้ง ขนมโค ขนมปลากริม ไม่ใช่ขนม น้ำเชื่อมนะ เห็นไหมที่เขาชอบน่ะ ขนมครกด้วย ลูกตะขบ ลูกข่อย ก็ชอบ ข่อยลูกเหลืองๆ ต้นข่อยน่ะ เข้าใจไหม?

    อยากกินของแปลกๆ อีกแล้วกู ของใหม่ๆ หากินไม่ค่อย เป็น

    เดี๋ยวเขาว่าจะมากินขนมครก มีเพื่อนมาก ลูกอมรสนม ท็อฟฟี่รสนมนั่นแหละ หรือลูกอมไข่จิ้งจก

    ที่ไหนมีก็ขอให้ทำตามที่เขาสั่งด้วย เขาบอกว่าเขาจะมากิน ให้บอกไว้ก่อน

    ลูกตะขบกูไม่รู้จัก ถ้าหมากสุกกูเอา

    กินเรื่อยๆ ได้กินหมากสุกสักนิดก็ยังดี เหมือนลูกตาลสุกไง มาเข้าแถวกันยาวเป็น ๑๐ คน คนหนุ่มๆ บอกว่าใครจะมา ก็ให้จัด แถว คนหนุ่มสวยๆ นั่นไง เขาไปที่ประตู ไปสั่งคนสวยให้บอก คนสวยที่พูดเพราะๆ คนสวยบนโน้น เต็มไปหมด อย่ามองสิ

    บนลานธรรมมีคนพูดให้ฟัง คนใหญ่ๆ โตๆ ขาวๆ สอนให้ ปรับจิตให้ดี ให้เป็นคนดี จิตจะได้ใส ท่านบอกว่าที่นี่เป็นที่ ปรับปรุงพื้นฐานให้เป็นคนดีอันดับหนึ่ง เพราะถ้าจะผ่านไปที่สูง ต้องปรับจิตตรงนี้ให้ดี ให้ใส ให้สวย ท่านบอกว่าพวกคุณคือบุตรของท่าน บอกอย่างนี้แหละ

    มีน้องคุณทั้งนั้น มีบรรพชนและลูกหลาน พี่น้องคุณไม่รู้มี ไหม เห็นเขาเช็คชื่อหลายคน

    กูมาก่อนเพื่อนยืนหัวแถวเขาให้จัดเอง ยืนเอง กูมายืนหลัง เพื่อน แต่วิ่งมายืนหน้าเพื่อน

    คนขาวๆ เขาเตรียมพร้อมแล้ว พวกคุณระวังให้ดีนะ เขากระ โดดร่มมาเต็มท้องฟ้าไปหมด ลงมาพร้อมกันมืดฟ้ามัวดินไปหมด ระวังให้ดีนะ มากันเต็มโลกนี้แหละ

    เขาขีดวงกลมเอาไว้แล้ว ที่สถานธรรมจัดเลี้ยง เห็นแล้วสวย มีโต๊ะกระยาสารท ในการลงมา เขามีการคัดเลือก คนที่จิตไม่สวยก็ไม่ได้ลงมา ถ้าเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ไม่ได้ลง

    พี่น้องไม่ได้มา ก็ไม่ได้ลง น่าสงสารเขานะ ลูกหลานกูมา ไหมไม่รู้ แต่กูมาก่อน

    ลงมาเหมือนฝนตก เตรียมถ่ายรูปไว้ด้วยนะ ลงมาสวยแหละ เต็มท้องฟ้าไปหมด

    ผู้ที่จะได้มาเรียบร้อยกว่ามนุษย์ เข้าใจธรรมะ นั่งพับเพียบ เรียบร้อย นั่งสงบเสงี่ยม ไม่กระดุกกระดิก กลัวความผิด กระดุก กระดิกก็ไม่ได้ โดนทำโทษทันทีเหมือนกับถูกแทงด้วยเข็ม เพราะ ว่าไม่มีระเบียบ

    เรื่องบนลานธรรมเขาสอนดี ให้เป็นคนดี ดีกว่ามนุษย์ กูพูดคำนี้อย่าเสียใจนะ

    ตอนนี้กูยังอยู่ห้องโลภอยู่เลย กูโลภเพราะยังติดหมาก เขาสอนว่าจิตยังมีความโลภ ยังหนักไปไม่ได้ เขาสอนให้มอง เห็นเป็นสิ่งไม่มีค่า อย่าเห็นว่าเป็นของๆ เรา อย่ายึดติดกับวัตถุ ให้เห็นว่าว่างให้หมด

    ก็ปล่อยให้ว่างให้หมด เขาสอนทุกวัน สอนทุกเรื่องไม่ว่า เรื่องอะไร เรื่องขี้โกรธก็อย่าให้มี เรื่องโกหกก็อย่าให้มี เรื่องเอาของ เพื่อนก็อย่าให้มี ที่เพื่อนไม่ให้ก็อย่าเอา สอนทั้งหมด สอนทุกเรื่อง ไม่เว้นเรื่องอะไร เขาสอนให้เป็นคนดี ให้ปล่อยวาง ถ้าปล่อยวาง ไม่ได้จะไปที่สูงได้ไง ต้องลงมาเกิดอีก หลังแข็งหมดแล้ว กระดุก กระดิกไม่ได้ก็ต้องทนให้ถึงที่สุด ถ้าไม่ทนเราก็ไม่ผ่าน ถ้าเราไม่ผ่าน ต้องมาเกิดอีก กูจะทำให้ได้ ถึงลำบากยังไงกูก็ไม่ลงมาแล้ว

    เขาบอกว่าบำเพ็ญให้สูง เรียกว่าไม่ต้องลงมาเกิดอีก ขึ้นต่อ ไปเรื่อยๆ ถ้าอยากขึ้นที่สูงก็ต้องทำตัวให้ดี

    วันหนึ่งวิญญาณเข้าไปข้างในตลอดเวลา พอวิญญาณเข้าไป มากเท่าไหร่ ห้องก็จะขยายกว้าง มันกว้างตามจำนวนที่ญาณเข้า เหมือนกันทุกห้องจะขยายออกไปอย่างนี้ เป็นอัตโนมัติ

    ไม่ใช่นั่งตัวตรงแต่คุกเข่าอยู่ในห้องตลอดเวลา (แสดงท่าทาง ให้ดู) สำนึก นี่คือการสำนึก

    เป็นยังไงก็ต้องทน ถ้าสำนึกเขาจะให้นั่งพับเพียบ บางครั้ง ก็ทำได้ บางครั้งได้นั่งพับเพียบ ถ้าทำไม่ได้ก็คุกเข่าเหมือนเดิม เหมือนกันหมด ถ้าคนไหนสำนึกก็ลุกขึ้น พอสำนึกก็คือจากพับ เพียบเสร็จสำนึกอีกก็ได้ยืน แล้วก็ไปต่อที่ห้องอื่นอีก

    ไม่ใช่แถวแรกจะได้ลุกขึ้นไปก่อน ถ้าใครสำนึกได้ก็ออกไป พอจิตสำนึก มันก็จะเป็นของมันเอง ถ้าไม่สำนึกก็เหมือนเป็น กาว ติดลุกไม่ขึ้น มันหนัก ถ้าสำนึกมันเบาขึ้นเอง นั่นคือจิตญาณ น่ะลูก

    การแต่งตัวที่นั้นเขาใส่ชุดสีขาว เสื้อแขนยาว มียาวๆ ความรู้สึกเหมือนผ้าถุงแม่ชี ที่เข้าไปในห้องนั้น ใส่เหมือนกัน มันเป็นธรรมชาติ เขาสร้างมาแล้ว

    ครูอาจารย์ที่สอน ที่บรรยายเสียงเปลี่ยนเรื่อยๆ

    พออาจารย์บรรยายมา ทั้งหมดเงียบที่สุด สงบที่สุด เพียบ พร้อมที่สุด ถ้าไม่เงียบโดนทำโทษทันที ไม่มีใครคุม มันทำกันเอง มันบอกไม่ถูก

    มาเมื่อกี้ได้ยินเสียงเหมือนงานวัดสมัยก่อน

    เห็นคนนั้นแหละโฆษณายืนบนเวที เหมือนตัวไอ้เท่ง ยืนบน ถังน้ำมัน มีถังน้ำมันรองเรียบร้อยแล้ว ถือไมโครโฟน คนตัวดำๆ นั่นแหละ

    โฆษณาว่ามีงานใหญ่ประจำปีที่นี่ มาชุมนุมที่นี่มีงานใหญ่ ประจำปี เขาว่าอย่างนั้น เวทีมีถังตั้ง ๖ ถัง เวทีสวย อยู่เหมือน หนังตะลุง เขาไม่ใส่เสื้อ ยืนพุงยื่นเหมือนหมู อาวุธประจำตัวจะว่า เป็นกริชก็ไม่ใช่มันงอๆ งอเหมือน(แสดงท่าทางให้ดู)

    ขอบคุณทุกคน ขอบคุณเบื้องบน ที่ให้มาให้ประจักษ์หลัก ฐาน ถ้าเขาไม่ขอกูก็ไม่ได้ลงมา ยังต้องคุกเข่าอยู่เลย ไม่รู้ได้ ลุกตอนไหน ขอบใจทุกคน ขอบใจที่ได้สร้างบุญไปให้ ถึงไม่ใช่ พี่น้องก็ขอบใจ ขอบใจที่ได้สร้างบุญให้บรรพชน กูปลื้มใจแทน ถ้า ไม่ได้มาวันนี้ก็ไม่ได้เห็นคนดีๆ แบบนี้ ทุกคนใจดี ที่กูขอมาทั้งหมด นี้อยู่บนโน้นกูขอไม่ได้ กูพูดไม่ได้ แต่มาอยู่กับแม่หนูคนนี้กูพูดได้ ขอบใจนะลูก คุณได้บำเพ็ญมีบารมีสูง ถ้าไม่มีคุณกูก็ไม่ได้ลงมา ถ้าคุณไม่บำเพ็ญ ไม่มีสถานที่แบบนี้ กูก็ไม่ได้ลงมา ถ้ากูมาก็ไม่รู้จะ อยู่ตรงไหน กูไม่มีที่ไป ถึงลงมาแล้วก็ไม่รู้ไปติดช่องไหน กูมาวันนี้กูได้มาชักชวนจิตวิญญาณทั้งหลาย ให้มารับบุญที่นี่ทั้งหมดทุกวัน ปลื้มอกปลื้มใจแทนลูกหลานที่ได้มาบำเพ็ญ ถึงจะไม่ใช่ลูกหลานก็ดีใจมีบุญกุศล เขาดีใจนะลูกที่ส่งบุญให้เขาทุกวันๆ เขาได้รับทุกวัน ถึงกูไม่ได้เป็นอะไรก็เหมือนลูกหลาน เขาสร้างบุญให้ทุกวันเลย

    คนอื่นกูไม่รู้ แต่กูได้รับ ถ้าไม่มีพวกมึงกูก็ไม่ได้ลงมา ไม่มี สิทธิ์จะไปไหน พวกคุณใจดีมาก สร้างบุญให้พวกกู ขอบใจนะลูก ไม่รู้จะพูดคำไหนแล้ว ขอบใจ

    กูตั้งใจต้องทำให้ได้ กูเห็นพวกคุณบำเพ็ญแล้วอยากบำเพ็ญเหมือนพวกคุณบ้าง จะทำให้ดีที่สุด จะต้องทำให้ได้ ต้องใช้เวลา เท่าไหร่ กูก็ต้องทำให้ได้นะลูก ทำเพื่อตัวเองและเพื่อบรรพชน ถ้าคุณไม่ช่วยแล้วใครจะช่วย ถ้าคุณจิตตกเขาเดือดร้อน ต้อง ตั้งใจบำเพ็ญ เขาคอยคุณรู้ไหม พวกคุณใจดีจัง ใครจะใจดีเท่า พวกคุณไม่มี

    ขอบใจนะลูก คุณมีบุญบารมีสูง ได้พบสิ่งดีๆ สมัยก่อน กูไม่ได้พบอะไร พบแต่พระเดินดิน ขอบใจนะลูก ทุกคนจิตใจดี ขอให้มีความสุขสดชื่นสมบูรณ์ ให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป ให้ช่วยเหลือ ลูกหลาน อย่าลืมบรรพชน อย่าลืมผู้มีพระคุณบุพการีนะลูกนะ ถึงเวลาที่กูต้องกลับแล้ว เขาไม่ให้รำพึงรำพันนาน เดี๋ยวจิตจะตก ให้นึกถึงปู่ย่าตายายคนเฒ่าคนแก่ กูดีใจที่กูได้มาที่นี่ ได้มาพบคนใจดีผู้มีบุญที่นี่

    ขอบคุณตาผ่องขอบคุณ.
     
  12. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณทวดทิม มาจากลานธรรมพระศรีอาริย์ </TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] ณ มูลนิธิชินบัญชร ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    วันพุธที่ ๒๙ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ เวลา ๑๐.๓๐ น.

    ในวันพุธที่ ๒๙ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๔๗ เวลาประมาณ ๑๐.๓๐ น.หลังจากถวายผลไม้ เนื่องในวันรับตายาย ปี พ.ศ.๒๕๔๗ ที่มูลนิธิชินบัญชรในขณะกำลังถวายผลไม้อยู่ พุทธบริกรท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ร่วมถวายผลไม้อย่างถูกต้องตามระเบียบพิธีกรรมอยู่แล้ว แต่ในวันนี้ สังเกตกิริยาท่าทางเหมือนคนไม่รู้พิธีกรรมมาก่อน เวลา จะถวายผลไม้ก็แอบดูคนอื่น กิริยาอาการงกๆ เงิ่นๆ ผิดสังเกต

    กูเป็นพ่อของพ่อมึง เขาแทนตัวกูว่าพ่อเฒ่า ชื่อ ทิม เป็นทวด ไม่รู้จักแล้วหรือ ตอนนี้ไปอยู่ที่ลานธรรม

    วันนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มากันมากมาย ขอบใจนะที่ช่วย หากมึง ไม่ช่วยกูวันนั้น กูคงไม่ได้ไปหรอก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ผมขาวๆ น่ะ หน้าตายังเด็กแต่สวยมากพาข้ามา

    ข้ายังไม่ได้รับธรรมะ แต่มาถวายผลไม้ได้ มีสิทธิพิเศษ พิเศษ ที่หลานเป็นอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรม ขอบใจนะ คนอื่นไม่ได้ เข้ามาหรอก

    เขาให้มากันจำนวนหนึ่ง ไม่มากเท่าไหร่ ที่อยู่ที่นี่เป็นบรรพบุรุษ แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่

    ข้าไปอยู่ลานธรรม ไม่เคยเห็นพระศรีอาริย์ได้ยินแต่เสียง เพราะเขาไม่ให้เห็น ขึ้นไปลานธรรมครั้งนั้น พ่ออาทิตย์จัดใหม่ เป็นหลังๆ ไปอยู่ในห้อง

    คนที่ใส่ชุดแบบนี้เขาพามา (ใส่ชุดนักบวชธรรมกาลยุค ขาวที่เรียกว่าเต้าเผา) บอกว่ามาเถอะ มาเยี่ยมลูกหลาน แต่อย่า อยู่ให้นาน เมื่อสักครู่รู้ไหม กูไม่กล้าจับไอ้นั่น (หมายถึงถ้วยน้ำชาที่ถวายพระแม่องค์ธรรมและพานผลไม้) ทั้งหมดนั่นแหละ (ผลไม้ และผลาหารที่นำถวาย) เจ็บมือไปหมด ร้อน เจ็บมือไม่กล้าเปิด เปิดฝาไม่ออก เจ้าก็เห็นไม่ใช่หรือเมื่อสักครู่(ถ้วยน้ำชาพระแม่องค์ ธรรม)

    เปิดฝาถ้วยน้ำชาของพระแม่องค์ธรรม เหมือนไฟดูดที่มือ เจ็บยวบๆ เลย

    ขอบใจทุกคนนะที่ส่งบุญให้ทุกวัน ถึงแม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อ ข้าที่ส่งขึ้นลานธรรม แต่เอ่ยบอกว่าพี่น้องบนลานธรรมทั้งหมด ได้กันทั้งนั้นล่ะ ได้ทุกวันเลย ตอนนี้เขาอยู่กันบางคนก็ไม่สบาย เท่าไหร่ ที่ลูกหลานไม่สร้างบุญส่งไปให้น่ะ บางคนก็สบาย บางคน ก็ยังทุกข์ ยังร้องไห้อยู่ ยังถูกทุบตี มีบางรายที่ถูกส่งลงนรก ไอ้พวก นั้นดื้อเอาไม่อยู่แล้ว

    ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ไม่นานหรอกเขาก็ให้มา เขาบอกว่า วันโน้นน่ะ วันที่เจ้าจะส่งโน่นล่ะ ใหญ่โตมโหฬาร ขี่เครื่องลงมา เต็มไปหมดคอยดูสิ เขาพุ่งจรวดลงมาจากข้างบนโน่นแหละ วันนี้ มาพอเป็นกษัยก่อน มาเท่าที่พวกเจ้าอยู่นั่นล่ะ ไม่มากเท่าไหร่ แต่ดีใจกันทั้งนั้น โอ้โห! แต่ละคนเสื้อขาวไปหมด (ไม่ใช่หมายถึง พุทธบริกร)

    ที่อยู่ข้างนอกเสื้อขาว (หมายถึงบรรพชนที่ถูกส่งมาในวัน รับตายาย) เสื้อขาวมากเลย สวยขาวกันทุกคนเลย นั่งอยู่ข้างนอก เขาดีใจกันทั้งนั้นวันนี้มาจากข้างบนกันทั้งนั้น

    เจ้าสบายดีกันหรือ กูเห็นบางคนร้องไห้ เวลากรวดน้ำเขาเปิดให้เห็นว่าลูกหลานใครส่งบุญให้บ้าง ตอนเย็นน่ะ เห็นทั้งนั้น คนที่ร้องไห้เป็นทุกข์สิ ไม่มีเงินใช้น่ะสิ ใครช่วยได้ล่ะ

    ทำงานสิลูก ออกไปขายของ ใครไปบ้างล่ะ ไอ้ตัวเล็ก ตัวน้อย ไอ้ที่วิ่งกันซนน่ะ (หมายถึงเซียนน้อยจากแดนสุญญตาที่เสด็จพ่อพระชินปัญชรมหาราช มีพระบัญชามาให้ไปช่วยงาน เพราะงานนี้เป็นงานธรรมะ ในการฟื้นฟูสภาพธรรมชาติเดิมกลับ คืนบรรยากาศจะได้สดใส ผู้คนทั้งหลายจะได้อยู่กันอย่างสุขสบาย ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย หาเงินได้ต้องไปจ่ายค่ายาหมด และนี่คือการช่วย สังคมอีกแนวทางหนึ่ง) นั่นล่ะ!

    สนุกกันน่ะสิ สนุกด้วยทำงานด้วย นานๆจะได้ลงมา มันก็ ต้องสนุกเป็นธรรมดา

    วันนี้ข้าโชคดี ที่ได้มาถวายผลไม้ ขอบใจนะ (มีเจี่ยงซือบุญ เลี้ยงเพิ่งมาถึงก็มานั่งฟังด้วย) อ้าว! นั่นใครล่ะ(คนที่บริจาคที่ให้ เราสร้างพุทธสถาน)

    ใจบุญ! แต่…หลังคาบ้านน่ะ บ้านสวยนั่นแหละ แต่ว่าเหลือแต่หลังคาแล้ว(กระซิบ)

    วันนี้มีเพิ่มอีกนิดแล้วล่ะ ได้เหมือนก้านร่มน่ะ ได้เพิ่มมาอีก นิดแล้วล่ะ

    ข้าไม่รู้จะพูดอะไรแล้วล่ะ ขอบใจทุกคนนะที่ส่งบุญให้ทุก วันแล้วบุญกุศลที่พวกเจ้าส่งให้น่ะถึงทั้งหมด เพียงแต่ว่าข้างบนจะรับได้มากได้น้อยเท่าไหร่แล้วแต่เราส่ง ถ้าลูกหลานส่งให้แบบ ไม่เต็มใจ มันก็ได้นิดเดียว ถ้าหากลูกหลานส่งได้มากคือจิตดี มันก็ได้เต็ม มันอยู่ที่จิตคนส่ง

    เจ้ารู้ไหมล่ะ ผีเต็มไปหมดเลย คนใส่หมวกเขาคุมมา มีทั้ง แส้ ทั้งโซ่ ตอนเย็นน่ะ มากันมากมายเลยล่ะ ข้างล่างน่ะ เขามา กันทุกวันเลย ตอนเย็นได้ขึ้นมาแต่ไม่ใช่ทุกวันนะ วันไหน ที่ท่าน เมตตา เขาจะพาขึ้นมาเอง คุมมาเอง ข้างล่างเขาเตรียมตัวจะรำ วงกันอีกแล้วล่ะ มีรำวงกันอีก ขอบใจนะที่ส่งบุญไปให้

    เจ้าตั้งใจทำให้ดีนะลูก เพราะบางคนได้หลุดเลย ทำกันให้ดี ให้ตั้งใจ คนที่มีแสงเยอะๆ น่ะ เหนื่อย เขาช่วยมากที่นี่ คนใหญ่น่ะ คนที่มีแสงมากน่ะ พ่ออาทิตย์ท่านทำงานหนัก ทำงานใหญ่ เขาจะส่งให้พิเศษ เขาจะส่งให้วันที่ข้างล่างจะขึ้นมา วันที่ ๑๖ ตุลาคม (พ.ศ.๒๕๔๗)

    เขาจะส่งไปข้างบนให้มากที่สุด คือ เขาช่วย

    ปู่เกลา เขาอยู่ชั้นสองโน่น อยู่ตึกชั้นสอง นี่ล่ะวิญญาณ ลูกหลานเอ๋ย กว่าจะได้มา กว่าจะได้ไปพบลูกหลานเหนื่อยลูกเอ๋ย นี่กูเหนื่อยนะไม่ใช่ไม่เหนื่อย

    เดี๋ยวข้าขึ้นไปก็จะได้ไปพักผ่อนฟังธรรมต่ออีก เขาฟังธรรมกันทั้งวันทั้งคืน นั่งอยู่อย่างนั้นล่ะ เงียบกริบเลย ใบไม้ไม่ขยับเลยล่ะนั่งกันน่ะ

    ตั้งแต่ข้าขึ้นไปบนลานธรรม เข้าใจขึ้นเยอะ ทำไมกูไหว้แบบ อุ้มลัญจกรได้ ไม่สังเกตหรือเมื่อสักครู่ เขาให้รู้เป็นพิเศษ ให้ เฉพาะตรงนั้นเมื่อสักครู่ แต่พอครั้งหลังนี้เขาสะบัดมือออกแล้ว ต้องกราบแบบธรรมดา

    ตอนนี้ข้างนอกที่เขามา เขาฟังข้าพูด ฟังว่ากูพูดอะไรบ้าง ว่าจะบอกอะไรเจ้าบ้าง ลูกเอ๋ยพี่น้องเจ้ามากันเยอะแยะข้างนอก เขาใส่เสื้อสีขาวกัน หน้าตาเป็นสีชมพู

    ส่วนวิญญาณอื่นเขาปิดกั้นไว้ เห็นแต่เฉพาะพวกเรา

    เห็นพ่อปู่ คนดำๆ เสื้อไม่ใส่ คุยสนุก เสียงแหลมๆ อยู่ตรง นั่นไง (ชี้มือไปยังตำแหน่งที่พ่อปู่นั่งแฝงอยู่ในกลุ่มสนทนา)

    วันนี้เขาดีใจกันลูกเอ๋ย มาเท่าที่พวกเจ้าอยู่นี่ล่ะ

    มึงรู้ไหมอีหนูกูเจ็บตา มองได้ที่ไหนล่ะ กูถึงบอกว่ากูมอง ไม่เห็นไงล่ะ อยู่ในแสงสู้เขาไม่ได้แล้วหลานเอ๋ย มึงน่ะพาลูกสาว มาบ้างนะ มาสร้างบุญให้พ่อมันบ้าง(หมายถึงลูกสาวคุณบุญเรียง)

    พ่อมันก็มาไงล่ะ พาลูกสาวที่อยู่ที่บ้านมาบ้างนะ เพราะมันทำแบบนั้นพ่อมันลำบากนะ พามาสร้างบุญบ้าง ส่งตายาย วันที่ ๑๖ ตุลาคม (พ.ศ.๒๕๔๗)

    พามาบ้าง ตายายเดือดร้อนอยู่นะ มึงช่วยนะลูก สงสารพ่อ มันลูกเอ๋ย เรามีพ่อมีแม่กันทั้งนั้น

    บนลานธรรมเขาประกาศแล้วล่ะลูก มาทั้งข้างบนข้างล่าง มาพบกันให้หมดเลย ลูกๆ หลานๆ ใครกี่คน เขาประกาศแล้ว คนที่อยู่ที่นี่นะลูกได้เปรียบกว่าใคร เขารู้ก่อนใครทั้งหมด

    บรรพบุรุษเขารู้หมดแล้วได้เปรียบกว่าคนอื่น เขารู้หมดแล้ว ล่ะใครชื่ออะไร ลูกหลานอยู่ที่ไหน เขารู้หมดแล้ว เขาเตรียมตัว กันแล้ว เขาดีใจมาก

    ไม่ใช่ให้บรรพชนอย่างเดียวนะลูก ให้ตนเองด้วย สร้างให้ มากที่สุด สร้างให้เร็วๆ สร้างให้มาก ให้เยอะๆ เลยนะ ทุ่มไปเลย นะมีเท่าไหร่ทุ่มลงไปนะลูกนะ

    รายชื่อบรรพชนที่ว่าลูกหลานมาสร้างบุญ เขียนรายชื่อ ไปให้ สมมติว่าในวันนั้น ลูกหลานไม่ได้มาแล้วต้องลบรายชื่อทิ้ง บรรพชนก็เหมือนไฟลวกไงลูก เหมือนรถน้ำมันระเบิดไงล่ะ อย่าง นั้นเลย

    น่าสงสารนะ ไม่รู้จะทำอย่างไร ลูกหลานไม่เข้าใจและไม่เชื่อ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร มันเป็นเรื่องของอีกมิติ เป็นเรื่องของพลังงาน เหมือนกูไปเห็นปุ๊บกูก็ต้องรู้แล้ว ต้องได้เห็นด้วยตัวของท่านแล้ว แต่เรื่องของเรื่องคือตาเนื้อมองไม่เห็น และไม่เชื่อ เขาเห็นแต่ตา เนื้อเขา ไม่เชื่อเรื่องของพลังงาน

    เรื่องแบบนี้มีจริงนะลูกเอ๋ย เชื่อเถอะ ไม่อย่างนั้นคงมาใช้ ร่างนี้ไม่ได้หรอก กูมากับคนนี้ไม่ได้ หากไม่มีวิญญาณ มึงดูสิว่า มันกับกูหน้าตาเหมือนกันไหม คนละหน้ากันเลยมึงดูสิ

    กูอยู่บนลานธรรม เขาพูดกันเพราะๆ มากเลยล่ะ อยู่ข้างบนไม่ได้พูดเหมือนเจ้านะ เขาพูดหวาน แต่ละคนหน้าตาสดใสทั้งนั้น ผู้บรรยายมาจากหลายที่ สวยๆ งามๆ หล่อๆ ยังเป็นเด็ก ยังหนุ่มก็มี

    หนุ่มคนนั้นเป็นหัวหน้า ประชุมแต่ละครั้งยืนสูงกว่าใครทั้ง หมด พูดเสียงหวานเลยล่ะ เสียงหล่อเหมือนรูปร่างเลย นี่กูจะกลับ แล้วนะได้เวลาแล้ว

    กูมากับลำแสง กูจะบอกอะไรให้นะ ให้ทุ่มๆๆๆ ไม่ว่าบุญ อะไรคิดเอาเองสิ

    กูจะไปแล้วนะลูก ขอบใจนะวันนี้ที่ได้สร้างบุญ ขอบใจที่พา มาให้มีโอกาสได้มาพูดมาคุย ได้มาเห็นลูกหลานมีความสุขก็ดีใจแล้วลูกเอ๋ย ทุกคนเลยนะ บุญกุศลที่พวกเจ้าสร้างนะลูก กูได้รับ บุญอะไรที่เจ้าสร้างต่อไปเจ้าก็ได้รับนะ บ้านอย่าให้เหลือแต่หลังคานะ ให้มีเพดานให้มีเสาเรือน มีอะไรให้ครบ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องอะไรให้ครบนะลูก นี่เป็นตัวอย่างนะลูก ทำแล้วทำให้มันจริง ให้มันทุ่มเท ให้ตั้งใจ ศรัทธานะ บันไดก็เหมือนกันสร้างแล้วสร้าง ให้มันเสร็จ อย่าสร้างข้ามขั้น สร้างแล้วสร้างให้มันครบทุกขั้น นะลูก เราขึ้นบนเรือนก็สบายใจ ไม่ตก ยกขากว้างพลัดตกร่อง บันไดนะ ปริศนานะ มึงเข้าใจนะลูก และต่อไปทุกคนนี่คือตัว อย่าง ตั้งใจให้ดีมากๆ ผลนิพพานไม่ไปไหนลูกเอ๋ย บรรพชนลูก หลานทุกคนก็ได้รับมรรคผล และอานิสงส์ตรงนี้ที่กูได้รับ พวกมึง ได้รับเหมือนกันนะลูก บรรพชน ๗ ชั้น ลูกหลาน ๙ ชั้น ข้างบน เขาสอนให้กูได้รับรู้นะ เขาเหล่านั้นได้บุญกุศล พวกมึงทั้งหมดตั้ง ใจบำเพ็ญบุญกุศลก็ส่งถึงเขา ถ้าเขาได้บรรลุนิพพาน เจ้าก็บรรลุ นิพพาน ท่านบอกว่านิพพานไม่ได้อยู่ไกล ถ้าหากลูกหลานตั้งใจ ส่งบุญให้จริง

    โชคดีนะ.
     
  13. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณอาม่าซุ่น ตัวแทนบรรพชน </TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <DIV class=itemshadow><DIV class=itembox>[​IMG] <TABLE style="FONT-WEIGHT: bold; MARGIN-BOTTOM: 5px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=70></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><DIV class=bodytext id=item_body author="matiepoppy" author_possessive="matiepoppy's">บรรพชนที่เป็นเทพเทวาได้รับอานิสงส์ในเทศกาลโปรดสามโลก พระอาจารย์จี้กงนำมาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์บรรพชนในเทศกาลเจปี ๒๕๔๖

    ณ มูลนิธิชินบัญชร อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    วันศุกร์ที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๖ เวลา ๑๐.๓๐ น.

    พุทธบริกรท่านหนึ่ง บอกว่ามีความรู้สึกอยากจะพูดเป็น ภาษาจีน ด้วยประสบการณ์จึงรู้ความหมายว่าจะมีญาณใดญาณ หนึ่ง มาบอกเรื่องราวอย่างใดแน่นอน จึงได้บอกไปว่าถ้าจะมาพูด เป็นภาษาจีนก็ไม่ต้องมา เพราะเราฟังกันไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าจำเป็น ต้องมา ให้พาล่ามภาษาไทยมาด้วย เรื่องของจิตญาณเป็นเรื่อง แปลกสำหรับคนทั่วไป

    บรรพชนที่เป็นคนจีนทั้งหลาย ได้รับบุญได้รับกุศล ได้กินอิ่มหมีพีมันเพราะลูกหลานทำให้กินในเทศกาลเจ ถ้าลูกหลาน ไม่ทำให้บรรพบุรุษ ไม่ได้ถวายผลาหารเลย ผลไม้ในวันนี้ บรรพชน คนจีนเขาไม่ได้กิน

    เพราะว่ามีเทศกาลเจ เป็นเทศกาลของคนจีนนับถือมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว เพราะวันนั้นคนจีนสมัยโบราณจึงต้องถือ ขั้นตอนตรงนี้ เพราะฉะนั้นผู้ที่จะถวายผลไม้ ที่ว่าผู้บำเพ็ญที่อยู่ ที่นี่ได้ถวายผลไม้หรือถวายผลาหารให้แก่คนจีนบรรพชนได้กิน แล้ว วันนี้ก็ขอขอบใจ อยากจะให้ทุกคนได้รำลึกถึงบรรพชน ที่เป็นคนจีนให้มากๆ ให้รำลึกถึงบรรพชนที่เป็นคนจีนให้เยอะๆ อย่าถีบหัวส่ง เมื่อมาอยู่หรือบำเพ็ญ ผู้ที่อยู่บำเพ็ญแล้วก็ให้ตั้ง ใจบำเพ็ญอย่าลืมว่าบรรพชนคนจีน ก็คือต้นกำเนิดของผู้บำเพ็ญ เช่นกัน ผู้บำเพ็ญในประเทศจีนก็คือคนจีน เมื่อมาอยู่เมืองไทย ก็คือบรรพชนคนจีนนั่นเอง เพราะฉะนั้นอย่าผลักไสไล่ส่ง อย่า ทำบุญแต่ที่วัด ให้ตั้งศาลตั้งอะไรให้คนจีนกินบ้าง เพราะบรรพชน ก็คือคนจีนเช่นกัน เพราะฉะนั้นที่มาในวันนี้ ก็อยากจะมาขอบใจ ลูกหลานที่เป็นคนจีนทั้งหลาย ที่วันนี้ได้ตั้งกับข้าวอาหาร ให้ บรรพชน เช่น คนจีนได้กิน เราในฐานะผู้ที่เป็นตัวแทนของบรรพ ชนคนจีนทั้งหลาย เรามาขอบใจ ขอบคุณผู้มีบุญทั้งหลาย ที่ได้ส่ง บุญส่งกุศลไปให้เรา ซึ่งเป็นบรรพชนของคนจีน ถึงแม้นเราไม่มีกาย สังขารเหมือนท่านแล้วก็ตาม แต่จิตญาณของเราก็เป็นคนจีน ยัง นับถือเคารพคนจีนอยู่นั่นเอง เพราะฉะนั้น วันนี้เป็นเทศกาลกินเจ ซึ่งเป็นเทศกาลที่โบราณนับถือกันมานานแล้ว อย่าให้ลูกหลานลืม เทศกาลนี้เป็นอันขาด เราจะได้อาศัยใบบุญ ได้กินบุญของลูก หลานที่ได้สร้างให้ในวันนี้ด้วย ขอให้ทุกคน จงตั้งใจสร้างบุญกุศล ตั้งใจบำเพ็ญ หมั่นเพียรภาวนา เราบรรพชนคนจีน เป็นคนโบราณ ที่บำเพ็ญมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว เพราะฉะนั้น ขอให้เราทุกคน ที่เป็นลูกหลานเชื้อสายคนจีน ก็ให้บำเพ็ญเหมือนบรรพชนของ เขา และจะได้สุขสบาย มีความสุขเพราะลูกหลานที่อยู่เป็นมนุษย์ นี้ช่วยส่งบุญไปให้

    อาม่าชื่อ “ซุ่น” อยู่ไต้หวันตายไป ๑,๐๐๐ กว่าปีแล้ว

    วันนี้รู้ว่าที่นี่มีการจัดเทศกาลเจ...อาม่ามากับอาจารย์จี้กง เราขี่มังกรมา พระอาจารย์ของเจ้าอยู่ที่นี่ในตอนนี้

    ตอนที่ถวายผลาหารพระแม่องค์ธรรม เนื่องในวันเปิดเทศ กาลเจ ส่งผลกระทบถึงบรรพบุรุษคนจีนทั้งหมดเลย

    อาม่าเห็นหมาดำนั้นเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่พิการคนนั้น

    หมาดำตัวนั้นมันโกรธตาแดงเป็นไฟ

    ขอบุญจากผู้หญิงที่ขาพิการนี่ ในอดีตชาติเคยผูกคอหมา เฆี่ยนตีๆ จนหมาพิการ! แล้ววันนี้เขาก็ใช้กรรมแล้ว(หมายถึงผู้ หญิงคนที่ว่ากำลังใช้กรรมนี้อยู่ หล่อนเป็นโปลีโอตั้งแต่วัยรุ่น สาวจนวันนี้อายุเกือบจะ ๖๐ ปีแล้ว อยู่อย่างทรมาน จะไปไหน มาลำบาก ทำการงานก็ลำบาก แต่เขาอดทนใช้กรรม โดยไม่ ปริปากบ่น)

    แต่เขายังมาให้เห็น! ยังผูกใจเจ็บ!

    ถึงแม้เขาจะตั้งใจสร้างบุญ สร้างกุศลให้ วันนี้หมาดำรับบุญกุศลไปเต็มที่

    แต่หมาดำว่า จิตยังไม่เต็ม จิตผู้หญิง จิตยังกังวล กำหนดจิต ให้บุญหมาดำไม่เต็มที่

    ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาอโหสิกรรมให้เขาได้ ต้องรออีกระยะ หนึ่ง

    ถึงแม้ว่าเขาได้ชดใช้เวรกรรมอย่างหนักหนาสาหัสแล้ว ก็เท่า กับได้ชดใช้คืนให้แก่หมาดำไปแล้ว เมื่อก่อนเขาไม่เข้าใจ เขาจึง ทำลงไป แต่วันนี้เขามาบำเพ็ญธรรมแล้ว เขาเข้าใจสัจธรรมความ จริงแล้ว

    แต่ต้องขอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง

    หมาดำเขาอยากจะขอเล็บ! ขอเล็บผู้หญิง(เล็บหลุด)

    เจรจากันเองนะ

    อาม่ามาวันนี้เป็นบรรพบุรุษที่อยู่ข้างบน อาจี้กงพามาที่นี่ ทั้งหมด

    วิญญาณคนจีนมาเยอะนั่งโต๊ะกลมๆ อยู่ตรงกลาง ข้างๆ สถานธรรม เขาใส่ชุดเต้าเผา นั่งโต๊ะไม้

    มาแล้วเห็นสถานที่แล้วก็ดี อาจี้กงมาตรวจเยี่ยมลูกศิษย์ด้วย

    ขอบพระคุณพระอาจารย์เมตตา เราเตรียมงานกันเพื่อทำ พิธีส่งตายายในวันที่ ๒๘ กันยายน ๔๖ นี้ ดังนั้นวันนี้จึงมากันน้อย เขาตั้งใจจะมากันในวันที่ ๒๘ ซึ่งเป็นวันทอดผ้าป่า เพื่อให้ได้เงินมา ใช้จ่ายในกิจการส่งเสริมคุณธรรมมูลนิธิฯ ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะมีเศรษฐี ผู้ใจบุญมาเป็นผู้สนับสนุนสักรายนะ

    ถามอาจี้กงซิ

    จี้กงบอกว่ากรรมยังเยอะ

    กรรมพวกเจ้า กรรมส่วนตัวก็ส่วนตัว แต่ของส่วนรวมน่าจะแยกส่วนนะ เอาส่วนรวมส่วนตัวมารวมมาปนกันคงไม่ได้

    จี้กงก็ช่วยไม่ได้ กรรมเยอะ กรรมเก่ากำลังหนุน

    ถึงแม้วันนี้เจ้าจะสร้างสิ่งที่เป็นบุญกุศล แต่เจ้าสร้างกรรม ไว้เยอะ

    กรรมเก่ากำลังหนุนหนักด้วย และจะแย่ตามๆ กันทรุดก็ทรุด ตอนนี้แหละ ถึงกับคุกเข่าเลยนะจะบอกให้ ทรุดคุกเข่าเลยนะ ให้ทุกคนระวังไว้ ส่วนตัวส่วนรวมก็กรรมกำลังหนุนอยู่

    ใจเสาะแล้วหรือ?

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่ทิ้งหรอก แต่กรรมก็ต้องใช้น่า

    เจ้าไปแบกกรรมลูกศิษย์ไว้เยอะนี่ ไปพูดต่อรองกับเจ้ากรรม นายเวรเขาไว้เยอะ ของลูกศิษย์ ไปต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวรเจ้าไว้ ก็เลยลงถึงเจ้าด้วย แต่เป็นวิบากกรรมของลูกศิษย์ทั้งนั้น ไปเอ่ยปากรับเขาไว้ ลูกศิษย์สบายบางช่วง แต่จะมาหนักอยู่ที่เจ้า!

    แต่ลูกศิษย์ยังไม่สำนึกนะว่า เจ้าไปต่อรองไว้ให้ ยังระเริง กันอยู่ ยังไม่รีบแก้ไขตนเอง ไม่รีบสร้างบุญ กรรมมันจะหนักกรรม เก่ากำลังหนุนให้ระวัง กรรมเก่ากำลังสูงด้วย

    ก็เหมือนนายประกันคนหนึ่ง ที่ไปต่อรองให้ลูกศิษย์แบก กรรมลูกศิษย์ไว้ จนลูกศิษย์ไม่ได้ทำตามที่ใจเราปรารถนา ให้เขา รีบเร่งสร้างบุญ กรรมมันจึงหนักให้ส่งถึงเจ้า เพราะเจ้าเป็นคนไปเอ่ยปากค้ำประกันลูกศิษย์ไว้ ลูกศิษย์เขาไม่เต็มใจ ไม่พอใจ เขาก็ไม่ทำ กรรมจึงกระทบถึงเจ้า จึงต้องหนัก

    ใจรักลูกศิษย์ แต่ลูกศิษย์จะรักเจ้าเท่าที่ใจเจ้ารักลูกศิษย์ หรือไม่ ตรงนี้แหละสำคัญ

    ถึงแม้ว่าจะเป็นลูกหลานกันทั้งนั้น

    แต่จิตเขาจะเหมือนจิตเจ้าที่เจ้าต่อรองเจ้ากรรมนายเวรไว้ ให้ไหม จิตเขาจะรักเจ้าเต็มที่เหมือนที่เจ้ารักเขาเต็มที่ไหม

    เราจึงว่าท่านจึงหนัก

    ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยที่ควรจะเป็น

    อืม! น่าเห็นใจ กรรมเก่ากำลังส่งเต็มที่เลยแต่ละคน

    เราบอกแล้วไง ไปค้ำประกันลูกศิษย์ที่นี่ทั้งหมด ไปคอย ต่อรองเจ้ากรรมนายเวรไว้ เราพูดว่าลูกศิษย์รักเจ้า ดังที่เจ้า รักลูกศิษย์เต็มที่ไหม คิดสร้างบุญเหมือนที่เจ้าหวังไหม หรือไม่ กรรมตรงนี้จึงหนัก

    เราก็ช่วยไม่ได้นะ จี้กงเขาก็ ......

    ถึงแม้นเจ้าไม่ได้พูดออกปากต่อรอง แต่จิตของเจ้าก็คิด แค่ คิดมันก็เต็มที่แล้ว เหมือนกับเปล่งปากพูดเลย ลูกศิษย์ไม่รู้หรอกว่า เจ้าคิดในใจจะช่วยเขาแบบไหน แต่ตรงนี้ก็กระทบถึงเจ้าแล้ว

    ไม่เป็นปัญหาอะไร ส่วนใครบำเพ็ญเขาก็ได้ผลของเขา เขา ไม่บำเพ็ญเขาก็ไม่ได้ผลของเขา แต่สำหรับเจ้าตั้งใจว่า จะทำให้ เต็มกำลังของกายสังขาร จิตก็ตั้งมั่นที่จะทำงาน

    บรรพชนเขาช่วยอยู่นะ ไม่ไช่ไม่ช่วย แต่ช่วยดันจิตนี้มันดัน ยาก ผู้ที่ไม่ตั้งใจดันเท่าไหร่มันก็ไม่ตื่น ดันเหนื่อยเหมือนกันนะ ท่าน ไม่ไช่ไม่เหนื่อย บรรพชนก็อยากให้ลูกหลานสำเร็จในการบำเพ็ญ เหมือนกัน แต่จะช่วยวิธีไหนละ กายหยาบกับวิญญาณมันต่างกัน เยอะ กายหยาบมันทำได้ทุกอย่าง วันๆ ปากสร้างความดีไหม วันๆ มือสร้างความดีไหม กายหยาบมันทำได้ แต่จิตวิญญาณมันรู้เห็น จึงไม่ทำแล้ว

    ก็ช่วยตัวเองกันนะ สร้างบุญกันเยอะๆ กรรมเก่าจะได้ละลาย ไปบ้าง อย่าให้มันหนุนอย่างนี้ซิ น่ากลัว มันหนักอึ้งเลย

    หนักจริงๆๆ จนถึงสิ้นปีแหละ

    ปีใหม่ จะเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้นะอยู่ที่เรานะ

    เราจะรีบสร้างบุญใช้หนี้เร็วแค่ไหน

    อยู่ที่จิตไม่ไช่แค่กายสังขาร ถ้ากายออกไปทำงาน แต่จิตไม่ ระลึกถึงเจ้ากรรมนายเวร บุญก็ไม่เกิด เหนื่อยเปล่า ถ้าทำเหลาะ แหละๆ อย่างนี้ บุญมันไม่เกิดเท่าไหร่หรอก เกิดแค่ประจิบ ประจ๋อย

    เราทำให้เต็มที่ ขอขมาลาโทษซะ แล้วก็ระลึกถึงพระคุณของ ฟ้าที่ให้เราได้บำเพ็ญ ได้ละลาย

    ถึงแม้ที่นี่จะขอขมาเจ้ากรรมนายเวรเป็นประจำ เช้าๆ เย็นๆ ก็จริง

    แต่ทุกคนออกจากจิตไหมละ มันสำคัญตรงนี้แหละ ออก จากจิตสำนึกหรือว่าปาวๆ เฉยๆ

    นี่แหละสำคัญอยู่ตรงนี้ อยู่ที่จิต น่าคิดน่า

    นี่แหละ! ที่มันมะรุมมะตุ้ม น่าคิดตรงจิตนี่แหละ!

    ถ้าจิตไม่เปิด ยังมัวหมองอยู่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร!

    ดีใจ วันนี้ที่อาจี้กงพามา!

    เดี๋ยวอาม่าจะบอกอาจี้กงให้ ขอให้บรรพชนทั้งหลายได้รับบุญกุศลในการปฏิบัติบำเพ็ญธรรม

    รำลึกถึงคุณของฟ้า คุณของผืนแผ่นดิน ที่เราได้เหยียบย่ำ ได้บำเพ็ญ

    ขอให้ทุกคนตั้งจิต ให้แน่วแน่กว่านี้นะ

    จิตของเราตัวเดียวที่จะแก้ปัญหาทุกอย่างได้ ถ้าเราไม่ไปแก้ปัญหาที่จิต อย่างอื่นก็แก้ไขลำบาก

    จิตที่ตั้งมั่นในการทำงาน ไม่มีความรู้สึกเหนื่อยหน่ายขี้เกียจ ทุกๆ เรื่อง

    ถ้าไม่แก้ไขที่จิตอะไรๆ ก็ไม่ก้าวหน้า แล้วก็ละลายไม่ได้ด้วย

    ถ้าไม่ละลายที่จิตแล้วยากจริงๆ มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นนะ

    ที่อื่นเขาอาจจะไม่เข้าใจเรื่องนี้ แล้วเขาก็จะไม่เชื่อด้วย ไม่ เชื่อเรื่องจิตญาณด้วย

    เขาไม่ใช้ปัญญา ถ้าใช้ปัญญาคิดก็ตามเราทัน

    ถึงแม้เขาจะไม่เชื่อ ก็ให้รำลึกถึงพระคุณเข้าไว้ ไม่ใช่ทวง บุญคุณ

    เพราะทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัยของสิ่งต่างๆ

    วันที่ ๒๘ นี้เจ้าก็ตั้งจิตสำนึกคุณถึงบรรพชน ให้รำลึกถึงอาก๋ง อาม่า บรรพชนทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับเจ้าทั้งหมด

    ตอนนี้พระอาจารย์เจ้าตรวจงานอยู่ กำลังเดินดู ทำอะไรก็ไม่รู้ขยุกขยิกอยู่! หน้าพระแท่น น่าสงสาร อาจี้กงนะเหนื่อย แล้วก็แบกหนี้เวรกรรมของลูกศิษย์ไว้แยะ พระอาจารย์ใจดี พระอาจารย์เป็นหนึ่งเดียวในจักรวาล ที่ทำอย่างนี้ คนอื่นไม่มีใครทำ เดี๋ยวนี้มีเสด็จพ่ออาทิตย์มาร่วมด้วย พ่ออาทิตย์ก็ร่วมแบกกรรม เพราะอาจารย์ พระโพธิสัตว์จันทรปํญญา พระอาจาริณีเราเหนื่อย พระองค์ทั้งสองเหนื่อยมากเราก็เห็นใจเราก็เข้าใจพระองค์ทั้งสอง

    เอาละ เราก็จะกลับแล้วนะ

    ก็ขอให้ทุกคนรำลึกจิตตัวเองกันให้ทุกคน พยายามแก้ไขจิต ตัวเองให้ดีให้ได้ ถ้าจิตเราแก้ไขไม่ได้ ทุกอย่างก็แก้ไขไม่ได้ อยู่ที่จิต ของเราเป็นหนึ่งนะ อันดับแรกต้องมาที่จิตของเรา ถ้าเราแก้ไข จิตของเราได้ ทุกอย่างข้างนอกก็แก้ไขได้ทั้งหมด วัตถุก็แก้ไขได้ถ้า จิตของเราแก้ไขได้นะ

    ลูกศิษย์ทั้งหลาย เจ้าก็อย่าไปรับให้มากเกินไปนะ กาย สังขารลื้อมันบอบช้ำ กรรมลูกศิษย์มันเยอะแยะมาก แต่ลูกศิษย์ที่ไม่ตั้งใจรักเราก็.

    ที่บนหัวเจ้ามันเป็นกรรมเก่าทั้งนั้น กรรมเก่าที่มันหมักกันมานะ ลูกศิษย์ลูกหาก็พยายามตั้งใจ ต่อไปก็อย่าแบกจนเกินไป เพราะของเราก็เยอะแล้ว ถึงเป็นโองการสวรรค์ก็เถอะ กรรมเก่ามันก็ไม่ไช่หมดง่ายๆ กรรมนี้ก็ยังมี เข้าใจไหมละ

    เพราะเราเกิดมา เราไม่รู้ เมื่อได้รับวิถีธรรมจึงรู้จักกรรม เมื่อก่อนเราไม่รู้ว่ากรรมคืออะไร เป็นอย่างไร รับวิถีธรรมจึงรู้ว่ากรรม กฎของกรรมมีจริงๆ

    เมื่อก่อนหมาดำมันกัดเข่า ตอนนี้มันเป็นเงาเจือจาง แต่ไม่ เป็นอันตรายแล้วละ

    ทำให้เต็มที่นะ ลูกศิษย์ลูกหา ก็ขอเตือนนะ อย่าให้อาจารย์ ต้องลำบาก เพราะวาจาที่ไปค้ำประกันหนี้ของเจ้านะ แล้วก็ ทำใจ เร่งรีบสร้างบุญใช้หนี้เขาไป อย่าแบกกรรมคนเดียว แล้วเรา ก็สำนึก อย่าร่าเริงจนลืมสร้างคุณความดี อย่าร่าเริง สร้างบุญจาก จิตของเราเอง จิตเท่านั้นที่จะพัฒนาตัวเราได้ ถ้าจิตของเราไม่ พัฒนาจิตของ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2008
  14. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณตาพรานมาขอส่วนบุญ </TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] ณ มูลนิธิชินบัญชร ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    วันเสาร์ ที่ ๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ เวลา ๐๗.๓๘ น.

    มีวิญญาณตนหนึ่งมาอาศัยร่างเพื่อจะมาบอกเรื่องราว

    เดี๋ยวก่อน ตั้งหลักก่อน กูเหนื่อย คนแก่ก็อย่างนี้แหละ จะเอาอะไรมาก

    กูนั้นชื่อ ตาพราน อยู่ทุ่งสง ตำบลที่วัง ไอ้หนูคนดำๆ ที่มา เมื่อวานนี้ เป็นเหลน ตายตอนอายุ ๗๘ ปี เป็นลมตาย ตายมา ๑๒๐ ปี ตรงกับรัชกาลที่ ๓ ตอนปลาย เมื่อก่อนมีอาชีพจับปลาขาย

    ตายแล้วรับกรรมอยู่ที่ข้างล่าง(นรก) อยู่นาน เสร็จแล้วก็กลับ ขึ้นมา

    มาเมื่อวาน มากับคนดำๆ แก่ๆ เขาบอกว่าให้มากับอีหนูคน ดำๆ นิสัยเกเรมาก แต่งตัวไม่เรียบร้อย เด็กสมัยนี้มันไม่เหมือน เด็กสมัยก่อน กูอยู่ที่ชายป่าข้างบ้านมัน บ้านย่าบ้านปู่มัน อยู่มา ๖๐-๗๐ ปีแล้ว

    มาจากนรก แล้วมาอยู่นั่นนานหลายปีแล้ว คนไปๆ มาๆ ก็เห็น

    เหตุที่เพิ่งตามเสก(เด็กชายศุภฤกษ์ พระประดิษฐ์)มา เพราะ เขาผูกขาติดกับตอไม้ไว้ มาไม่ได้ เขาบอกว่าอยู่เฝ้าที่นั้นก่อนค่อย ไป เขาให้เฝ้าปลาเฝ้าอะไรในนั้นแหละ เมื่อก่อนเป็นของเรานี่

    เขาให้ขึ้นมาข้างบน ให้ขึ้นมาสร้างบุญมาช่วยคน ช่วยเหลือ ลูกหลานกูน่ะสิ แม่มันไม่ค่อยสบาย กูก็ช่วยให้มันหายไข้ ช่วยผ่อน หนักให้เป็นเบา แต่มันไม่รู้หรอก แต่บางทีมันก็รู้สึกว่ากูเดินตาม หลังมัน

    กูได้รับบุญจากเขาบ้าง เขาเอ่ยชื่อบรรพบุรุษ พอเอ่ยชื่อว่า บรรพบุรุษก็ได้รับบุญ สดชื่น สดใส เหมือนลม บางทีกูนั่งๆ ก็หงาย หลัง

    เวลาที่ได้รับบุญตอนเย็นๆ บางทีก็เที่ยงๆ เวลาเขาไปสร้างบุญเขาเอ่ยชื่อก็ได้บุญ

    ที่รู้ว่าได้ เหมือนกับลมพัดเย็นๆ โดนตัว กูรู้สึกสดชื่นแบบ นั้น เขาเรียกว่าได้บุญ มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พลังสดชื่นนั้น เพิ่มตลอด บางทีไปแรงหงายหลังเลย

    ที่ว่าไปแรงๆ ความสดชื่นของกูเพิ่มมากมันเต็มขึ้นมา(แสดงท่าทางให้ดู) มันแน่นๆ หนักแน่นดี มีความสุข

    เมื่อวานจึงได้ตามเสกมา เขาบอกว่าถึงเวลาแล้ว ให้มารับ บุญที่นี่ ส่วนใหญ่ได้จากแม่มันมาก จากลูกๆ ได้นิดหน่อย

    บางทีมันก็ตั้งใจนะ ไม่รู้ว่ามันตั้งใจยังไง แต่เหมือนเอานิ้วจิ้ม ที่ขี้โคลน

    วันนี้มาตามแสงของไอ้หนูนั่นแหละ แสงใหญ่มาก แสงใหญ่ ติดหลังมัน เหมือนกับพัดลมมันดูดกูมา มันไม่รู้เรื่องหรอกว่าตา พรานตามมา ไม่ได้มาคนเดียว

    พอเขาขึ้นรถ กูมานั่งที่พื้น ที่ข้างล่างเหล็กน่ะ เวลารถวิ่งกู นั่งจับขากางเกงมันนิดหนึ่ง

    เมื่อวานมาถึงที่นี่แล้ว อยู่ข้างต้นโพธิ์

    เขาประกาศเสียงดัง เขาพูดชักชวนพี่น้องว่าอีกไม่กี่วันแล้ว มีงานใหญ่จะได้รำวงติดธงทิวประดับสวยงามโบร่ำโบราณเขาติดกันทั้งนั้นแหละลูก เมื่อก่อนมีงานทีก็ติดธงเพดาน ติดธงหลายสี พวกเจ้าเพิ่งมาอาจจะยังไม่เคยเห็น แต่ที่นี่มีให้เห็น เขาบอกว่าให้พวกเจ้ามากันให้มากๆ จะได้บุญ ได้กินข้าว ได้กินขนมหวาน ได้กินกล้วยกินอ้อย

    มีคนอ้วนๆ คนจีนตีนใหญ่ๆ ยืนอยู่ข้างหลัง อยู่บนภูเขา อยู่ข้างเนิน เขายืนดู ยืนดูคนประกาศ

    ที่บ่อน้ำกูเห็นไฟทั้งนั้น กองไฟเต็มไปหมด

    คนอ้วนๆ ที่ยืนอยู่ เขาไม่กลัวไฟไหม้ เขาก็ยืนเฉย ยิ้ม สบายใจ พุงใหญ่มาก ตีนใหญ่ๆ ไม่ใส่รองเท้า เขาไม่พูดอะไร แต่เขายิ้มแบบมีความสุข

    เห็นผู้หญิงด้วย คนเขานุ่งผ้าสมัยก่อน มีผ้าสไบเฉียงมีเข็ม ขัดนุ่งโจงกระเบน

    ศาลาที่นี่สวยงาม ข้างบนมุงกระเบื้อง ข้างล่างกั้น ปูนทา สีขาวครึ่งท่อน แต่เป็นลายไทย หลังใหญ่ทีเดียว ศาลากลางแปลง หลังใหญ่มาก จัดยังไม่เสร็จ กำลังปูเสื่ออยู่ โต๊ะยังไม่มี ไฟที่ติด ตั้งให้สวยเหมือนธงชาติ (แสดงท่าทางให้ดู)

    พอมาถึงที่นี่ ก็มีคนแก่ๆ คนดำๆ นั่นแหละ เขาบอกว่าไปบอกสิว่ามาแล้ว มารอลูกรอหลานเอาบุญกุศล ให้มาพักก่อนล่วงหน้า

    สวัสดีตาหรือยัง (หมายถึง สินีนาฏ กับ ศุภฤกษ์ พรประดิษฐ์) มันดื้อ ผู้ชายดื้อกว่า ผู้หญิงก็ไม่ค่อยดื้อเท่าไหร่ แม่เขาพูดดี พูด เพราะ เวลาอยู่บ้าน คนนี้ชอบชวนทะเลาะ

    กูเตือนแล้วว่ามึงอย่าสร้างกรรมกับแม่ มันบาป สร้างกรรม กับแม่กูก็เคยทำ จึงไม่ได้ไปเกิดสักที สมัยก่อนก็ทะเลาะกับแม่ เก่งเหมือนกัน ถึงไม่ได้ไปผุดไปเกิด เป็นบาปอย่าทำเดี๋ยวจะ เหมือนกับกู ที่เที่ยวหาปลาก็เป็นกรรมทั้งนั้น

    สมัยนั้นกูมีเมียคนเดียว มีลูก ๒ คน ลูกของกูเป็นอะไรกับสองคนนี้ นับไม่ถูกแล้วลูกชื่อโทน เป็นผู้ชาย อีกคนชื่ออีมุกเป็น ผู้หญิง

    อยากกินลูกสมอ ตอนแรกไม่ได้กินหมาก ก็กินลูกสมอนี่ แหละ ลูกหม้อที่เป็นยาไทย (เอามาให้วิญญาณกิน) กูไม่กล้าจับ

    สดชื่น! มันบอกไม่ถูก มันหวานสดชื่น หายอยากแล้วลูกเอ๊ย หวานสดชื่น หอมบอกไม่ถูก ขอบใจนะลูก หอมดอกมะลิ หอม!

    ลูกหลานพูดอะไรไม่ถูกหรอก พวกมันคงไม่รู้จักกู มันคงจำไม่ได้ว่ามีปู่ย่าตาทวด บางทีมันก็ลืม ถ้าไม่มีกู วันนี้มึงก็ไม่ได้เกิด มาหรอก

    ขอบใจ ถึงกูจะพูดไม่มาก กูก็ดีใจที่ได้พบหน้าลูกหลาน ได้มาพบคนใจดี บ้านก็สวย ลานก็กว้าง สะอาดเรียบร้อย

    ที่นี่! ทรายขาว หน้าบ้านเจ้านั่นแหละ ทรายเรียบไปหมด

    ขอบใจ ทำแต่สิ่งดีๆ มึงก็ได้รับของดี ถ้ากูไม่ได้มาวันนี้กูก็ไม่ ได้เห็นว่าที่นี่เป็นยังไง มาแล้วกูก็ได้เห็นแล้ว เห็นแล้วเหมือนกับ ริมชายหาดที่สวยงาม มีแสงสีเหลืองสว่างมันเหลืองเหมือนไฟฟ้า กูว่าสวยก็สวย ริมหาดหน้าบ้านก็ขาว

    บอกไม่ถูก แต่กูว่ากูสดชื่น กูสบายใจ มีความสุขที่สุดวันนี้ พูดไม่ถูก

    มันมีความสุข มันพูดไม่ออก บอกไม่ถูก แต่มีความสุข

    เมื่อก่อนกูไม่ได้ไปวัด เมื่อก่อนไม่มีวัด มีแต่ที่ไกลๆ นะ แล้ววัดที่ว่าก็อยู่ไกลจากในเมืองมากนะ เดินไปทางป่า เป็นป่าเสม็ด

    กูเพิ่งจะได้ยินว่าตอนนี้เขาจะจัดงานส่งตายาย ขอบใจนะ นี่ถ้ากูไม่ได้มาที่นี่ กูก็ไม่ได้เห็น นี่มาแล้วเห็นแล้ว สบายใจแล้ว ลูกหลานนั่งกันเต็มไปหมด หน้าสวย หน้าแดง หน้าเด็กๆ กัน ทั้งนั้น

    พวกเจ้านี่แหละลูก หน้าสวย หน้าเด็กกันทั้งนั้น

    กูมาแล้วก็อยู่จนถึงงานส่งตายาย จะได้ไปช่วยงานสักหน่อย คนมาก่อนได้ช่วยงาน ได้สร้างบุญอีก พอถึงวันงานก็ได้เข้างาน กูจะช่วยงานสักหน่อย ทำให้มันเรียบร้อย ให้มันสวยงาม

    กูจะทำข้างต้นโพธิ์ลูก กูเข้ามาในนี้ไม่ได้

    นี่แหละลูกเป็นบุญใหญ่ พวกเจ้าบารมีสูงกันทั้งนั้น สร้าง บุญกันเก่ง ทำงานก็เก่ง เขาประกาศชื่อกันพวกเจ้าทำ หน้าที่ อะไรเขาก็ประกาศ เขาประกาศให้คนมาในงานรู้ว่าใครเท่าไหร่ เดี๋ยวกูจะไปข้างนอกนะลูก กูจะไปเอามือลูบทรายให้เสมอ ทำกับ มือมันสวย

    หนูคนนี้พาพี่พาน้องมาด้วยนะลูก พ่อแม่พี่น้องนะลูก อะไร ที่เขาผิดพลาดไป คุยให้เขาเข้าใจ ให้เขามาสร้างบุญเหมือน เจ้านะ ลูก มึงบารมีสูงพอสมควรแล้วช่วยได้ พูดให้มันเพราะๆ หวานๆ ช่วยเขานะลูก พี่น้องมึง พี่สาวมึง ช่วยเขาหน่อยนะลูก อย่าให้เขา ไปทำอย่างนั้น มึงรู้ใช่ไหม?

    ช่วยเขาหน่อยนะลูก

    มึงต้องช่วยพูด ช่วยคุยให้เขามาสร้างบารมี ให้เขาหัดก่อน บารมีที่เคยมีมันหมด ให้เขามาสร้างบารมี มึงช่วยเขานะลูก ถ้ามึง ไม่ช่วยพี่ช่วยน้องมึงจะช่วยใครล่ะลูก บารมีของเขาตอนนี้จะหมด แล้ว ส่วนของมึงมีแต่เพิ่ม ของเขามีแต่หมดลงทุกวัน กูสงสาร อย่าให้เหมือนกูเลย มันหนัก มันเหนื่อยกว่าจะได้มา กว่ากูจะ ได้มากูกราบแล้วกราบอีก ขอให้ได้มาอยู่ที่นี่ มันไม่ใช่ได้มาง่ายๆ ถ้าเราทำสิ่งที่ไม่ดี เขาก็ไม่ให้มา ถ้าเราได้ขับรถ ก็ให้มันนั่งด้วย นั่งข้างหลังก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ขึ้นรถขึ้นเรือ แล้วมึงจะให้กูพูดอะไรอีกล่ะลูก?

    สอนลูกสอนหลานหรือ อีหนูนี่งานบ้านไม่ค่อยเอา (หมายถึง สินีนาฏ พรประดิษฐ์) จับอะไรไม่ค่อยเป็น มันไปติดผู้หญิงน่ะสิ

    ไม่สอนหรอก เด็กสมัยนี้ ดีใจน่ะสิลูก มาที่นี่แล้วมีความสุข

    สมัยใหม่มันเรียนหนังสือลูก พวกเจ้าก็เหมือนกัน สร้าง ความดีให้มากๆ นะลูก สมัยนี้โรคภัยไข้เจ็บมันมาไม่รู้ตัว สิ่งที่ไม่ดี เข้ามาเร็ว เพราะฉะนั้น เราทุกคนนะลูก กูขอร้องนะ ไหว้ก็ได้ ให้สร้างบุญกุศลให้มากที่สุด อะไรที่มีความสุขทำเถอะลูก สิ่งที่มีค่าสำหรับชีวิตทำนะลูก อย่าเอาสิ่งที่ไม่ดีมาเข้าตัวนะลูก เราทำ งานเพื่อความสุขของตัวเอง สร้างบุญให้บรรพชน มึงสร้างกูได้แล้ว มึงมีความสุขกูก็มีความสุข แล้วพวกเจ้าจะเอาอะไรอีกล่ะลูก สิ่งนี้ ที่ปรารถนา กูปรารถนา แต่มึงไม่รู้นะ แต่กูอยากให้มึงเหมือนกู มี ความสุขเท่าๆ กันแหละลูก

    แม้กระทั่งทุกวันนี้ เหมือนที่มึงว่า มีอะไรที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว

    ช่วงนี้เป็นไข้กันน่ะลูก จิตด้วยลูก

    จิตไม่ดีมันก็เป็นไข้ไปเรื่อยแหละคนเรา ข้อสำคัญนะลูก เราต้องสร้างบุญนะลูก เราสร้างบุญมากเท่าไหร่ เราก็ได้มาก เท่านั้น เราทำความดี ความดีก็ไม่ทิ้งเรา ถ้าหากว่าเราทำความชั่ว ความชั่วก็เข้ามาหาเราเอง เพราะฉะนั้น ความดีความชั่วแยก ให้เป็นนะลูก ความดีทำให้มีความสุข ความชั่วทำให้เราเป็นทุกข์ จำเอาไว้ไม่ใช่ว่ากูจะสอน พูดได้แค่นี้ ความรู้ก็ไม่มี จะพูดมาก กว่านี้ก็พูดไม่ถูก ตั้งใจนะลูก บำเพ็ญสร้างบุญ กูขอบุญนะลูก มาแล้วก็ขอลูกขอหลาน พวกเจ้าจะให้หรือไม่ให้กูก็ขอ เพราะกู ไม่มีบุญ บุญมีนิดเดียว ที่ได้จากไอ้หนูนี่แหละ

    กูขอบใจทุกคนนะลูก ที่ได้พูดได้คุย ได้ให้มีความสุข ถึงพวก เจ้าไม่ใช่ลูกหลาน แต่ก็มีความสุขเหมือนลูกเหมือนหลาน ความสุข ที่ได้จากคำพูดของพวกเจ้าก็มีความสุขแล้ว เหมือนกับการที่ให้ ความสุขกันนะลูก สุขใดที่กูได้รับ สุขนั้นขอให้ส่งไปถึงพวกมึงด้วย กูขอบใจทุกสิ่งทุกอย่าง ความสุขที่มีให้กัน บุญที่ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ขอให้พวกเจ้ามีบารมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะลูก บารมีที่พวกเจ้าสร้างที่ พวกเจ้าทำ ขอให้มรรคผลที่พวกเจ้าได้รับในวันนี้ ให้ถึงในวัน หน้านะ ขอให้พบกับสิ่งที่ดีในชีวิต ขอให้ครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง อยู่ดีกินดีมีความสุขกันทุกๆ คน ขอขอบใจที่ให้บุญอีกครั้งหนึ่ง บุญที่ให้ในวันนี้ ขอให้ตอบสนองในวันหน้า ขอบารมีพระพุทธเจ้า คุ้มครองลูกหลานทั้งหลายให้มีความสุขสดชื่น ขอให้อิ่มหนำ สำราญกับบุญกุศลที่สร้าง ขอให้ได้พบพระพุทธเจ้าที่มีรูปร่าง สวยงามนะลูกนะ.
     
  15. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณตาพร บรรพชนของปิยธิดา </TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] <TABLE style="FONT-WEIGHT: bold; MARGIN-BOTTOM: 5px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=70></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>จิตญาณมาแสดงประจักษ์หลักฐาน

    ณ มูลนิธิชินบัญชร ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    วันจันทร์ที่ ๑๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ เวลา๑๔.๑๐น.

    มีวิญญาณตนหนึ่งมาอาศัยร่างเพื่อจะมาบอกเรื่องราว

    หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว เขาว่าให้ช่วยพูด มาถึงพร้อมกับไอ้ตัวเล็กนั่นแหละ มาพร้อมกัน ๑๐ กว่าคน

    ตอนนี้ยังอยู่ข้างนอกกันหลายคนลูก ยังไม่ได้ไปไหน

    เมื่อตอนเช้าได้กินข้าวแล้วแต่ไม่อร่อยเหมือนกินกับอีหนูนี่

    ตามาอยู่ในร่างของอีหนูคนนี้เวลากินอะไรจะอร่อยกว่าตอน เป็นวิญญาณ เมื่อก่อนตาเอาใบเล็บครุฑจิ้มกินกับน้ำพริกแห้ง

    ตาเป็นคนปากนคร ตายตอนอายุ ๑๐๑ ปี แก่ตายอยู่ไป ก็หนักลูกเอ๊ยถือไม้เท้าด้วย ตอนนั้นเป็นยุคสมัยรัชกาลที่ ๓ ตา ได้มาเพราะลูกหลานมา ตาเห็นลูกหลานตาสวยเหลือเกิน อีหนู คนนั้นตัวเล็กๆ ไปไหนแล้วล่ะ

    ตาชื่อ พร ภรรยาชื่อ ผ่องศรี มีลูก ๔-๕ คน ตอนนี้ไม่รู้ว่า ลูกยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะไม่พบกันนานแล้ว

    ก่อนจะมาที่นี่ตาอยู่ข้างล่าง (นรก) อยู่ขุมที่ ๖ ที่มาวันนี้ลูก หลานตามา(เป็นบรรพชนของด.ญ.ปิยธิดา จันทร์แก้ว) ถ้าลูก หลานไม่มาเขาไม่ให้มา อีหนูคนนี้มันเรียบร้อย ตาเป็นบรรพชน รุ่นปลายๆ แล้วลูกเอ๊ย

    ตารู้ว่าเขาเป็นลูกหลานตา ตาเห็น เขาก็บอกด้วย คนแก่เขา บอก คนดำๆ(คือญาณพ่อปู่ฤาษีเดินดง) น่ะลูก เขาบอกว่า โน่น! ลูกหลานมา แต่มันมาสาย มาช้าน่ะ

    ตามาพร้อมอีตัวเล็กมากัน ๑๐ กว่าคน ตอนนี้ไอ้ตัวเล็กไป ไหน โน่น! มันเล่นอยู่ริมป่าโน่น

    เมื่อเช้ามากินน้ำข้าวกัน มันดูดเหมือนดูดนมแม่มันนั่นแหละ

    ส่วนคนที่ปากเท่ารูเข็มมันกินเส้นนี่แหละ เขาพลอยกินกับ ตา เขาให้อยู่จนถึงโน่นแหละ วันที่ ๑๔-๑๕ โน่นแหละ

    พวกเจ้าทำงานใหญ่นะลูก ลำโพงดังลั่นไปหมดแล้ว ที่เวที หน้าบ้านโน่น

    เมื่อก่อนตาหาแต่ปลาในคลอง จับปลาหมอปลาช่อน จับลูก ปลาในแอ่งเล็กๆ เอามาคั่วแห้ง

    สมัยนั้นอากาศก็ดี มลภาวะก็ไม่มี สารเคมีก็ไม่มี สบายนะ ตอนนั้น ผักก็สมบูรณ์ เป็นผักปลอดสารพิษ แต่สมัยนี้เขาลำบากนะ เพราะกินสารเคมีเข้าไป ร่างกายแย่หมดแล้ว ขี้โรค เหนื่อยง่าย หอบง่าย ทำอะไรไม่ค่อยเป็นกัน

    นานๆ ตาได้มาสักที หลานพามาตาก็ได้บุญ

    ในตระกูลได้มาสักคน บรรพบุรุษก็ได้มาด้วย

    ข้างล่างเตรียมงานเหมือนงานเดือนสิบเครื่องไฟดังไปทุกทิศ

    ในนรกเขาประกาศให้เตรียมตัวให้มารับบุญ ลูกหลานจะ สร้างบุญมาให้ ที่นี่เป็นงานใหญ่ไม่ใช่งานธรรมดา

    เขาให้มารับบุญที่นี่ เขาเรียกที่นี่ว่าพุทธสถาน บอกว่า ถ้ามาที่นี่ได้เต็มอิ่ม เขามีอาหารเลี้ยงฟรี เลี้ยงเฉพาะปู่ย่า ตายาย วิญญาณผีก็ได้กิน สัมภเวสีก็ได้กิน สัตว์นรกก็ได้กิน ผีเปรต ทุกวิญญาณเลยลูก เขาบอกว่าเฉพาะที่นี่ที่เดียวที่เขาทำกัน ที่อื่น เขาไม่ทำกัน เพราะเขาไม่เชื่อว่าพวกตาเป็นวิญญาณจะมีจริง เขาไม่เชื่อข้างล่างเขาประกาศกัน นี่คือประจักษ์หลักฐานนะลูก ที่ตาได้มานั่งพูด ตายืมปากแม่หนูนี่พูด ถึงแม้เสียงไม่เพราะไม่ หวานเหมือนวัยรุ่นก็ทนฟังหน่อยนะลูกนะ เป็นวิญญาณผีจริงๆ นะ ตามาแล้วตาได้กินข้าวกับพวกเจ้าด้วย ถ้าตาไม่ได้อาศัยร่าง แม่หนูคนนี้ ตาก็ไม่ได้กินข้าวกับช้อนหรอกลูก

    อยู่ข้างนอกไม่มีกายสังขารกินรสชาติน่ะลูก

    อร่อยคนละแบบกัน แต่อิ่มเหมือนกันลูก ขอบใจนะลูก ที่ ให้ความหวัง สัมภเวสีทั้งหลาย วิญญาณที่พเนจร บุญที่พวกเจ้า สร้างมันใหญ่หลวงมาก มรรคผลไม่ใช่น้อยๆ ตายังละอายใจที่เมื่อก่อนไม่เคยคิดสร้างบุญกุศลเหมือนพวกเจ้า ถ้าตาคิดว่านรกมีจริง จะไม่ทำบาปสักนิดเดียว จะทำแต่บุญเหมือนพวกเจ้านี่แหละ ตาไม่อยากไปนรกแล้ว ในนรกมีแต่ความเจ็บปวดทรมาน ตาติด เบ็ด เพราะเมื่อก่อนเคยตกเบ็ด โดนตะขอเกี่ยวคอหอย ตาถูกแขวน คอมาแล้ว เมื่อก่อนตาชอบตกปลาเกี่ยวคอปลาช่อน เขาบอกว่านี่แหละเกี่ยวคอเพื่อนๆ เกี่ยวเราบ้าง ตาไปมาแล้วลูกเอ๊ย เรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องโกหก ใครทำอะไรกับเพื่อนไว้ เจ้าก็ได้รับเช่นนั้น แต่นี่ พวกเจ้าโชคดีที่พวกเจ้ามาอยู่กับพระ ที่ตามาวันนี้ตามาขอขมาลาโทษทุกคนที่ไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าหน้าว่าจะมาทานข้าวด้วย

    สมัยที่ตามีชีวิต อยู่ปากนคร วัดไม่มีหรอกลูก เวลาจะไปวัด ก็ต้องเดินไปที่ท่าศาลาโน่น จะทำบุญสักทีก็เดินกันไกล เมื่อก่อน วัดไม่ค่อยมี เดินไปทางทิศตะวันตก ทางบางโหนด ออกเดินมาตั้ง แต่ไก่เริ่มขัน ไปถึงวัดก็สว่างแล้ว เดินกันครึ่งวัน

    สมัยนั้นทำบุญ เอาข้าวสารมากระป๋องหนึ่งไปถวายพระ ใส่ผ้าขาวม้าผูกเอวมา พระท่านหุงฉันเอง

    จะเอาข้าวสุกมาได้อย่างไร กว่าจะถึงวัดบูดหมดพอดี ส่วน คนที่อยู่ใกล้ๆ เขาก็เอาข้าวสุกไป

    ทำบุญเสร็จตอนบ่าย ก็เดินทางกลับบ้าน ถึงปากนครตอน มืดๆ วันหนึ่งพอดีนะ

    สมัยนั้นเขาทำบุญที่วัดบางโหนด เมื่อก่อนไม่ใช่เป็นวัดเสียทีเดียว อยู่กลางท้องนา มีโบสถ์อย่างเดียว มีพระอยู่ ๒ รูป พระ ท่านน่านับถือดูเรียบร้อย พูดจาไพเราะ คนไปทำบุญไม่ค่อยมาก เพราะมันไกล

    ไปทำบุญที่วัด ไปในวันธรรมดาบ้าง วันพระบ้าง เวลาเขามี งานใหญ่ก็ไปนอนวัด ไปกวาดลานวัด

    บุญที่สร้างไว้ พอลงไปข้างล่างเขามีชื่ออยู่ในบัญชีด้วย

    ลูกหลานเอ๋ย นรกมีจริงๆ ไม่ได้โกหก ที่ตาได้มาเร็วเพราะ อะไรล่ะ เพราะตาได้ทำบุญไว้บ้าง

    ตอนแรกที่ไปอยู่ข้างล่าง ลงไปอยู่ขุมที่เท่าไม่รู้ มันมืดมอง ไม่เห็น ตอนนี้อยู่ขุมที่ ๘

    ที่ขุม ๘ เขาขานชื่อนามสกุลกัน ขานชื่อเตรียมตัวว่าลูก หลานมา ก็ได้มา เขาดีใจกันใหญ่ ใครบ้างไม่ดีใจ ได้พ้นจากขุม นรกสัก ๒ นาทีก็ยังดี ไม่รู้จะพูดคำไหนแล้ว

    ช่วงที่อยู่ในนรกถูกทรมานด้วยการถูกมัดแขน มัดมือ มัดขา กางเหมือนไม้กางเขน ถูกตรึงไว้ ที่ตารู้จักไม้กางเขน เพราะคน คริสต์ที่ตายไปอยู่กับตาก็มีก็เลยได้คุยกัน

    ความทรมานในขุมนี้ ที่ถูกมัดเพราะเมื่อก่อนตามัดไก่ หาบไก่ไปขาย มึงเข้าใจที่ตาพูดไหม ตอนนี้ยังมีการทรมาน ใครทำ กรรมอะไรก็รับกรรมนั้น

    เทศกาลโปรดพิเศษ เรียกว่าโปรดสามโลก พระแม่องค์ธรรม ปรารถนาให้ดวงญาณซึ่งเป็นลูกๆ กลับบ้าน กลับแดนนิพพาน อานิสงส์นี้ได้รับทั่วถึง วิญญาณในนรกที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ไม่ใช่ได้รับแต่การทรมาน ทรมานก็น้อยลงไม่เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้ตัวตาเองรู้สึกว่ามันเบาลง

    เขาให้อย่างกว้างขวาง ให้โอกาสดีเพราะเป็นความประสงค์ ของพระแม่องค์ธรรม ต้องการให้ลูกๆ มีความเจ็บปวดน้อยลง ความผิดที่ทำก็ยังต้องได้รับ เพราะว่ามันมีอยู่วิธีหนึ่งจะทำให้เบาบางลงไป ก็คือสำนึกในความผิดของตา

    ที่ได้มาที่นี่เพราะสำนึกแล้ว กว่าจะหลุดมาได้ ทีหลังอย่า ดื้อนะลูก ตาลงนรกตั้งนาน เพราะตาดื้อ มีทิฐิ ถือว่าตาไม่ผิด ตาถูก ตาทำชั่วตาก็ว่าตาทำถูก ตาดื้ออย่างเดียวตาไม่ยอม ตาจึง ติดอยู่นาน ต้องถูกทรมาน เจ็บจนไม่รู้จะพูดออกมาอย่างไรแล้ว ลูก ผลสุดท้ายตาตัดสินใจยอมความ

    ตอนที่ตาลงไปถูกทรมานมีแต่ความเจ็บปวด ไม่รู้จะได้กิน ตอนไหน ตาจำไม่ได้

    มื้อนี้เป็นมื้อแรกหรือตั้งแต่ตาลงไปข้างล่าง เป็นความรู้สึก วันนี้แหละมีความสุข หมายความว่าเป็นมื้อแรกที่ได้กินข้าว ได้กินอาหาร บางวิญญาณไม่ใช่กินทางกายเนื้อ กินทางวิญญาณ ก็ถือว่าเป็นครั้งแรก สำหรับวิญญาณหลายๆ ดวง ในวันที่ ๑๖ ตุลาคมนี้

    สงสารตายายนะลูก เจ้าเป็นมนุษย์ เจ้ามีข้าวกินทุกวัน บาง ทีตายายเจ้าไม่ได้กินอะไร มัวแต่ร้อง เพราะถูกทรมาน ถูกตีบ้าง ถูกแทงบ้าง ถูกน้ำร้อนลวกบ้าง ถูกสับมือบ้าง ถูกแขวนคอบ้าง พวก เจ้ายังได้กินข้าวทุกวัน แต่พวกเขาไม่ได้กิน เหมือนกับตานี่แหละ ตาถูกทรมานมาแล้ว ไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน (ร้องไห้)

    พวกเจ้าอยากกินอะไรก็ยังได้กิน เพราะเจ้ายังมีชีวิต แต่พวก ตากินอะไรไม่ได้ถ้าเขาไม่สร้างบุญส่งไปให้ ถ้าเขาไม่ชวนให้กินก็ ไม่ได้กิน พวกเจ้าจะกินน้ำแข็งสักก้อนก็ได้กิน จะกินข้าวเหนียว ก็ได้กิน อยากกินอะไรก็ได้กินทั้งนั้น ให้นึกถึงปู่ย่าตายายบ้าง นะลูก เขาลำบาก เขาถูกทรมาน ตอนมีชีวิตเพื่อให้พวกเจ้า สบายเขายอมลำบาก บางทีนึกอยากจะกินอะไรสักคำก็กลืนไม่ลง นึกถึงลูกหลาน พอตายลงไป วันนี้ลูกหลานไม่ได้นึกถึงเลย มันนึกจะกินอะไรก็เลี้ยงเพื่อนโน่น มันไม่ได้นึกถึงปู่ย่าตายายเลย แต่ตาก็ไม่ว่าเพราะคนมันลืมง่าย

    เขาก็บอกว่าตาถ้าทำตัวดี นิสัยดีเขาก็จะให้มา ผู้คุมอยู่ข้าง นอก อย่าพูดถึงผู้คุมสิลูก เสียวสันหลัง

    ตาจะบอกว่า ลูกหลานเอ๋ย บรรพชนผู้ที่มีบุญคุณ ปู่ ย่า ตา ยาย เลี้ยงพ่อแม่เรามาก่อน เราเป็นลูกเป็นหลาน ให้รู้จักบุญ คุณพ่อแม่ ถึงจะไม่รู้จักบุญคุณปู่ยาตายาย แต่กับพ่อแม่อย่าลืม ถ้าไม่มีพ่อแม่เราก็ไม่ได้เกิด ถึงแม้เราจะไม่ได้กินอาหารสมบูรณ์ เพราะฉะนั้นลูกทุกคนหลานทุกคน มีพ่อมีแม่ให้กตัญญู อย่า อกตัญญูเป็นความผิด ถ้าเรากตัญญู เรามีแต่บุญกุศล แต่ถ้าเรา อกตัญญู เราก็จะได้แต่บาปกรรมติดดวงญาณไป ตาไม่อยากให้ ทุกคนต้องลงไปนรก ตาไม่อยากให้ลูกหลานเหมือนตา ที่ต้องไป ชดใช้นานแสนนานเกือบไม่ได้ขึ้นมา เกือบไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ถ้าไม่ มีการโปรดอย่างที่เจ้าพูด ตาก็ไม่ได้มาเห็นหน้าลูกหลาน ตาไม่มี โอกาสจริงๆ

    เขาจัดที่ให้ตาอยู่ลูก มีอะไรอีกล่ะ ฝากขอบใจทุกคนนะ ลูกเด็กเล็กแดงด้วย ที่ตาได้มากินข้าว ได้มาพูด ได้มาคุย มาขอบุญ กุศล ตาขอบใจ ตาไม่ลืม วันนี้ตาได้กินข้าว ถ้ามีโอกาสวันหน้าเรา คงได้พบกันอีกในทางบุญนะลูกนะ ขอให้ทุกคนโชคดีมีความสุข สร้าง บุญกุศลให้นึกถึงบรรพบุรุษนะลูก เขารักเรา เราก็ต้องรักตอบ อย่าอกตัญญูนะ ให้เป็นลูกที่กตัญญู

    ขอบใจนะลูก ตั้งใจนะ อย่าทำให้พ่อแม่เสียใจ ให้เป็น ลูกกตัญญู รักพ่อแม่ อย่าดื้อนะลูก บุญกุศลก็จะถึง ขอให้โชคดีนะ ลูกหลานทุกคน ไม่รู้โอกาสหน้าจะได้พบกันอีกไหม

    วันนี้ตาได้มาพบ ตาดีใจ
     
  16. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=icon width=16><NOBR></NOBR></TD><TD class=cattitle>วิญญาณเด็กหญิงสาลินี ที่ถูกทำแท้ง</TD><TD class=itemsubsub></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG] <TABLE style="FONT-WEIGHT: bold; MARGIN-BOTTOM: 5px" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=70></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>ณ มูลนิธิชินบัญชร ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    วันจันทร์ที่ ๑๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ เวลา๐๗.๔๐น.

    มีวิญญาณตนหนึ่งมาอาศัยร่าง เพื่อจะมาบอกเรื่องราว ความทุกข์ทรมานที่ตนได้รับจากการกระทำของตนเองในอดีต

    หนูเข้ามาที่นี่ตั้งแต่ตีห้าเขาให้เข้ามา หนูขออนุญาตคนใส่ชุด สีเทาๆ ชุดยาวๆ หน้าตาน่ากลัว หน้าสีขาว เขาว่าให้เข้ามาเล่นได้แต่อย่าซนเกินไป เจ้าจะไปที่ไหนก็ไปแต่อย่าทำให้ร่างเขาเจ็บ

    หนูเป็นเด็กผู้หญิง หนูถูกทำแท้ง หนูอยู่กรุงเทพ ตอนที่ถูกทำแท้งอยู่ในท้องแม่ ๓ เดือนครึ่ง

    ถูกทำแท้งมาแล้ว ๑๐ กว่าปี พ่อแม่หนูเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน แม่เป็นผู้หญิงขายบริการ(ร้องไห้)

    ตอนนั้นแม่อายุ ๑๗ ปี เป็นสาวเสิร์ฟแถวพระราม ๖ ชื่อ ร้านอวยพร

    แม่ไปทำแท้งที่คลีนิคเถื่อน

    พอทำแท้งเสร็จแล้ววิญญาณของหนูออกจากร่าง หนูก็เที่ยว พเนจรอยู่ข้างๆ ร้านอาหารนาน ๑๐ กว่าวัน หลังจากนั้นหนูก็ต้อง ลงข้างล่าง(นรก)

    ช่วงพเนจรอยู่ ๑๐ กว่าวันมีความรู้สึกเจ็บปวดเจ็บที่ถูกทุบตี

    หนูอยากให้เขาที่บริเวณนั้นช่วยก็ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น แล้วก็ไม่มีใครช่วยได้ เพราะเหตุที่ว่าหนูเป็นวิญญาณ เป็นพลังงานเป็นความรู้สึก ถึงแม้จะมีรูปธรรมของพลังงาน แต่ก็เป็นรูป ธรรมที่ละเอียด ที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ จึงไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น

    หนูลงไปข้างล่างกับคนใหญ่ๆ ๒ คน เขาแต่งตัวเหมือน คนโบราณ เขานุ่งผ้าสั้นแค่นี้(ทำท่าให้ดู)

    นุ่งผ้าเตี่ยว ผ้าสีออกแดงๆ ไม่ใส่เสื้อ มือสองข้างถือสามง่ามกับโซ่ ๒ คน เขาโพกผ้าสีแดง หน้าตาเหลี่ยมๆ ดุดัน ผิวสีคล้ำๆ

    แล้วอีกคนนึงผิวสีขาว

    เขาบอกว่าเจ้าตายแล้วเป็นวิญญาณ หนูบอกว่าหนูอยู่ใน ท้องแม่(ร้องไห้)

    เมื่อสองคนนั้นบอกว่าหนูตายแล้ว หนูรู้สึกว่าตัวเองตัวเบา

    แล้วสองคนนั้น เขาบอกว่าต้องลงข้างล่าง เหตุผลที่ต้องลงไป ข้างล่างเพราะเมื่อไม่ได้เกิดก็ต้องลงไปใช้กรรมต่อ

    ในอดีตชาติชื่อยายจันทร์ เคยเป็นหมอตำแย เคยทำแท้ง ลูกคนอื่นมาก่อน เคยล้วง เคยรีดท้องผู้หญิง เมื่อก่อนอยู่ที่อยุธยา เป็นคนโบราณ เป็นหมอตำแยก่อนกรุงศรีอยุธยาจะแตก ในสมัย ของพระเจ้าเอกทัตเป็นกษัตริย์ที่อ่อนแอ หนูอยู่ใกล้กำแพงเมือง เก่า อยู่ท้ายทุ่ง ทำคลอดบางทีเด็กก็ตาย

    ได้ทำแท้งให้คน ๓๐ คน

    เมื่อทิ้งกายสังขาร ก็ต้องลงสู่นรก ตอนทิ้งกายสังขารอายุ ๗๘ ปี เนื่องจากแก่ตายกายสังขารไม่ดี

    พอตายก็มียมทูต ๒ ตน พาไปรับโทษ ด้วยการผ่าท้อง แล้ว ก็โดนควักตับไตไส้พุงออกมา เพราะเราได้ทรมานคน ทางการ ยมโลกเขาพูดว่าเจ้าได้กลั่นแกล้งคน บางครั้งสมัยก่อนตอน ที่เราเป็นหมอตำแย ใครให้เงินน้อยเราก็ช่วยน้อย ใครให้เงินดีๆ เราก็ทำคลอดให้เขาเร็ว โดยที่เขาไม่ต้องทรมาน บางคนที่ให้เงิน เราน้อย บางครั้งเขาก็ต้องตายท้องกลม เพราะเราจะถ่วงเวลาให้ เขาเจ็บมากๆ จนกระทั่งเด็กตาย แม่ก็ต้องตาย เราไม่คัดท้องให้เขา ก็จะขวางเขาก็ทรมานสิ้นใจตาย นี่คือวิบากกรรมที่เราได้ทำ

    ถูกลงโทษในนรก พอใกล้จะหมดโทษพญายมท่านบอก ว่าเคยฆ่าเขา เราจะส่งให้เจ้าไปอยู่ในท้องผู้หญิงที่ไม่ดี แล้วเจ้าก็ไม่มีโอกาสได้คลอดมาเป็นมนุษย์ ไม่มีโอกาสได้เกิดมาเป็นคน เพราะกรรมที่เจ้าสร้าง ตอนที่เจ้าฆ่าเขาขณะที่เขายังอยู่ในท้อง เจ้าก็สิ้นชีวิตตอนที่อยู่ในท้องเช่นกัน กรรมนี้ไม่มีใครช่วยเจ้าได้ นี่คือกรรมที่ต้องตอบสนอง

    แล้วพญายมก็ส่งมาเกิดในท้องของผู้หญิงหากินที่กรุงเทพ แถวพระราม 6 ก็ถูกกระทำเช่นเดียวกัน ทีนี้เมื่อถูกกระทำเช่นนี้ แล้ว วิญญาณก็ต้องลงไปข้างล่าง ยมทูต 2 ตนก็พาท่านไป

    เขาพาหนูไปรายงานตัวกับพญายม พอไปถึงพญายมเขาบอกว่าสมน้ำหน้าที่ทำเขาไว้ก่อน นี่แหละผลกรรม ใครก็หนีไม่พ้น อดีตชาติเจ้าทำเขาไว้เช่นไร ชาตินี้ก็เป็นเช่นนั้น เจ้าก็ไม่ได้ผุดได้ เกิดเหมือนกัน เพราะคนที่เจ้าฆ่านั้น บางครั้งเขาอาจจะเป็นคนดี ก็ได้ แต่เจ้ากลั่นแกล้งไม่ได้เขาได้เกิด เจ้าก็อย่าได้เกิดเลย หลังจาก นั้นเขาพาไปตามที่เราได้สร้างกรรม


    เขาพาลงไปนรก เขากักขังอยู่ในกรงสี่เหลี่ยม ไม่ให้ไปไหน มีลวดแดงๆ พอเราเอามือแตะลูกกรง ลูกกรงก็ไหม้มือเจ็บไปหมด ออกไปไหนไม่ได้ ถูกทรมานอยู่ในนั้นนานพอสมควร ตอนนี้ก็ยัง อยู่ในนรก

    วิญญาณที่เขามาที่นี่มากันหลายๆ คน มีผู้ใหญ่ มีผู้หญิง มีคนแก่ด้วยเขาอยู่ข้างนอกมาเมื่อตอนเช้ามืด ๑๐ กว่าคน

    เขาบอกว่าเขาหิวจะมาขอข้าวกิน หนูก็หิวเหมือนกัน

    ทางการยมโลกเขาคุมตัวมาอยู่ข้างนอก เวลานี้ความปรารถนาของวิญญาณต้องการกินอาหาร

    หิวข้าว อยากกินข้าวกับน้ำร้อน ต้องกินกับน้ำร้อนเพราะยัง ไม่ถึงเวลาเขาให้กินเช่นนั้น

    หนูหิวข้าวขอบคุณสำหรับข้าวที่ทำให้หนูกิน

    หนูจะบอกผู้ที่เป็นแม่ทั้งหลาย ถ้าไม่อยากให้พวกหนูเกิด ก็อย่ามีสามีสิ พวกหนูเจ็บ หนูอยากมีชีวิตเหมือนคนอื่นเขา หนู อยากเป็นคนเหมือนกัน อยากเป็นคนที่เขามีความสุขกันบ้าง ไม่ใช่ให้หนูเจ็บอยู่อย่างนี้ เมื่อไม่รักพวกหนูก็อย่ามีสามี อย่าให้ หนูเกิด ถ้ารักพวกหนูก็ให้หนูเกิดมาเป็นคนที่สมบูรณ์ พวกหนู ทรมานกว่าจะหลุดออกจากท้องแม่มันเจ็บ เขาเอาอะไรต่ออะไร ไม่รู้มาทำลาย เอายาบ้าง เอามือบ้าง ฉีดยาเข้าไปบ้าง พวกหนู เจ็บมันทรมานกว่าจะตาย หนูอยากให้ทุกคนมีใจบุญ ให้รักพวก หนูบ้าง ถ้าคิดจะมีลูกก็ขอให้รักจริง อย่าคิดทำแบบนี้

    เรื่องราวทางโลกที่ไม่เข้าใจชีวิต เขาไม่เชื่อเรื่องพลังงาน อีกมิติ ว่ายังมีชีวิตอีกชีวิตหนึ่งก็ไม่เข้าใจตรงนั้น เขาจะไม่เชื่อ เรื่องสิ่งเหล่านี้ จึงต้องมาทำสิ่งที่ไม่ดีแบบนี้ นึกแต่สนุกสนาน อย่างเดียว เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องว่ามีชีวิตหนึ่งมาอยู่ในท้อง ต้องเจ็บ ปวดถ้าทำแบบนั้น ไปทำแท้ง ทำให้เขาเจ็บปวดก็ไม่ได้คิด บางคนบางอาชีพมีลูกแล้วทำไม่ได้ ก็เลยพลั้งเผลอไป ก็เลยต้องเกิดเหตุ การณ์อย่างนี้ขึ้นมาบนโลกมนุษย์ เขาเรียกว่ามารหัวขน เพราะ ฉะนั้น นี่เป็นเรื่องของวิบากกรรมของการเวียนว่ายในวัฏจักรของ ภูมิวิถีในการเวียนเกิดเวียนตาย ชะตากรรมของหนูพญายมบอกว่า

    หนูจะต้องไปชดจนครบอายุที่กำหนดจึงจะได้ไปเกิด หลัง จากกลับไปข้างล่างหนูต้องไปอยู่ในกรงต่อ จนกว่าอายุจะครบกำหนดได้เกิดเป็นคน หากหนูได้ไปเกิดเป็นคนหนูจะมีอายุถึง ๖๐ปี แต่หนูตายเสียก่อน

    วันนี้หนูมาที่นี่ ต้องขอขอบคุณทางการยมโลกที่เมตตา ให้ หนูได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวหนูเอง เพื่อเป็นประจักษ์หลัก ฐาน

    หนูอยากมีพ่อที่ใจดี หนูไม่อยากเจอคนใจร้าย หนูอยากเจอ คนใจดี ที่เขาไม่ทิ้งขว้างหนูแบบนี้ (ร้องไห้)

    หนูต้องขอขอบคุณ ที่ท่านตั้งชื่อให้หนูว่า “สาลินี” หนู อยากเจอคนใจบุญเป็นพ่อแม่ที่ใจดี

    เดี๋ยวไม่ช้าไม่นานก็ได้ตามที่ต้องการ แต่ต้องสำนึกในความ ผิด แล้วก็ให้เกิดใหม่ ให้เป็นคุณสมบัติในจิตเลยนะ ว่าเกิดใหม่รู้แต่ ที่จะสร้างความดี ที่ขึ้นชื่อว่าความผิดความชั่วความบาป แม้แต่ เพียงเล็กน้อยก็ไม่ทำอีกต่อไปนะ แล้วหนูจะได้เจอแต่สิ่งดีๆ ตลอดกาล ยาวนานในการเวียนว่ายตายเกิด แต่ยุคนี้เป็นยุคการ โปรดสามโลก ดีไม่ดีหนูอาจจะได้ไปอยู่ลานธรรม ก็ขอให้ไปสำนึก ต่อพญายมให้เร็วที่สุด และได้ไปสู่ลานธรรมของพระมาลัย ไปนั่ง ฟังธรรมขัดเกลาจิตใจสักพักหนึ่ง ก็จะส่งไปขัดเกลาต่อที่ลาน ธรรมพระศรีอาริย์ จากนั้นก็จะได้กลับมาเกิดในกายเนื้อยุคที่ พระศรีอาริย์ลงมาครองกายเนื้อ พระองค์ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายของกัป หนูก็ได้มีโอกาสฟังธรรม นี่ถือว่าโชคดีที่ได้มา ให้หลักฐานในวันนี้ ในคำพูดของหนูนี้ไปพิมพ์ลงในหนังสือใน เทศกาลตายายปีนี้ เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ว่าวิบากกรรมใดที่ใครทำ ย่อมได้รับวิบากกรรมไม่มีข้อยกเว้น แล้วก็ไม่ควรที่คนยุคใหม่จะทำผิดในเรื่องของพลังงานชีวิต ให้ปฏิบัติเป็นคนดี โลกจะได้สันติ เพราะคนทำความผิดกันเยอะ ก็อาจจะได้รับเหมือนที่กล่าวมา ข้างต้นก็ได้ อยู่ที่ใจของหนูนั่นเอง

    หนูอยากมีพ่อแม่

    หนูอาจจะได้มีในวันข้างหน้า แต่ขอให้สำนึกให้สมบูรณ์ ก่อนนะ ได้ผ่านกระบวนการขัดเกลาของพระมาลัยของพระศรี อาริย์ และสิ่งต่างๆ ทุกอย่างจะได้อย่างใจหวัง ขอให้คำพูดในวัน นี้ฝังอยู่ในจิต วันข้างหน้าติดไปอยู่ในคุณสมบัติของจิตว่า ขึ้นชื่อ ว่าความชั่วความผิดอย่าทำ แม้แต่เพียงความผิดเล็กน้อยก็จะไม่ทำเป็นอันขาด จะทำแต่ความดีช่วยเหลือคนอื่น โอบอ้อมอารี ทำความดีสำนึกผิด

    โอย! หนูเจ็บ ขอบคุณทุกท่านที่เมตตา ที่ทำให้หนูมีจิต ที่ชั่วในอดีต ที่เคยเป็นหมอตำแยในอดีตชาติให้มีจิตที่ดี ตอนนี้ หนูจึงโดนบ้าง หนูไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลกเหมือนคนอื่น ขอ ขอบคุณผู้ใจบุญ ขอบคุณที่ทำให้หายเจ็บปวด ขอบคุณที่ทำให้มี ความสุข ขอให้ท่านผู้ใจบุญมีความสุข อย่าให้เหมือนหนูในตอนนี้เลย
     
  17. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    ประจักษ์หลักฐานต่างๆที่ทางมูลนิธิชินบัญชร (พุทธสถานแห่งหนึ่ง) ในจังหวัด นครศรีธรรมราช ได้บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ในเทศกาลส่งตายาย ในเดือน 10
    โดยมีดวงวิญญาณในยมโลก ซึ่งไร้กายสังขารมาบอกกล่าว ขอบคุณลูกหลานหรือญาติธรรมที่มาในร่วมงานเทศกาลนั้น หรือ มาเพื่อเล่าถึงชีวิตหลังความตายให้พวกเราได้รับรู้ มาเป็นอุทาหรณ์เตือนสติกับคนบนโลกว่า นรกมีจริง มิใช่เรื่องมาล้อเล่นกันเลย ตาเนื้อเราไม่สามารถมองเห็นได้จึงคิดเพียงว่า นรกสวรรค์ไม่มีจริง จึงเป็นเหตุให้ก่อกรรมทำชั่ว ผิดศีลธรรมกันต่อไป โดยไร้มโนธรรมสำนึก

    เมื่อดวงจิตได้ตกไปสู่ยมโลกแล้ว ก็ยากที่จะกลับมา นอกเสียจากว่า ต้องชดใช้กรรมจนหมด จะสำนึกก็สายเสียแล้ว

    ญาติพี่น้อง ครอบครัว และ ลูกหลาน ที่อยู่บนโลกก็ไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลย จะเรียกร้องอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์ นอกเสียจากว่า ลูกหลานรับรู้แล้วสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ไปให้เรื่อยๆเท่านั้น

    ต่อจากนี้ พวกท่านจงบำเพ็ญจิตใจของท่านให้เป็นคนดีเถิด ให้รักกันมากๆ สามัคคีกัน จงบำเพ็ญจิตใจ ให้เกิดคุณธรรมทั้งห้า ดังเช่น เมตตาธรรม จริยธรรม มโนธรรมสำนึก ปัญญาธรรมและ สัตย์ธรรม เพื่อให้ห่างไกลจากกิเลสตัณหาที่เป็นเหตุให้ท่านก่อกรรมโดยมิรู้ตัวหรือรู้ตัวก็ดี

    ฟ้ามีตา ทำอะไรไม่ดีไว้ ไม่สามารถรอดจากสายตาของสัจธรรมแห่งฟ้าไปได้เลยสักนิดเดียว ทำอะไรไว้ เบื้องบนและยมโลกได้จดบันทึกไว้ละเอียดมากทีเดียว

    เนื่องจาก ยุคนี้ เป็นช่วงแห่งการปรกโปรดสามโลกพวกเราทราบกันดีไหม ฟ้าเบื้องบนเมตตาฉุดช่วยทั้งวิญญาณผี เทพเทวา และ วิญญาณสัตว์เดรัจฉานให้มีโอกาส ขึ้นไปกล่อมเกลาจิตญาณ สำนึกบาปกรรมและบำเพ็ญจนจิตญาณใสสะอาด โดยได้มีการจัดชั้นเรียนธรรมะแตกต่างกันไป

    ข้าพเจ้าขออนุโมทนาสาธุกับท่านที่ได้อ่านเรื่องราวจากคำบอกเล่าของวิญญาณบรรพชนเหล่านี้ ขอผลบุญแห่งจิตสำนึกของท่านผู้อ่าน ส่งถึงวิญญาณบรรพชนทั้งหลายผู้ซึ่งได้มาเล่าเรื่องราวให้ได้ลงบันทึกในหนังสือเล่มนี้เทอญ

    การเข้ามาอ่านของแต่ละท่านจะสามารถเป็นอนิสงส์ให้กับวิญญาณจากนรกภูมิ ช่วยให้โทษหนักกลายเป็นโทษเบาจนพ้นโทษในที่สุด

    ขอบพระคุณเบื้องบนเมตตา

    นโม กษิติครรภ์โพธิสัตว์
    อนุโมทนาสาธุกับทุกท่านค่ะ
     
  18. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>Suffering Souls in Hell</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width="10%"></TD><TD vAlign=top align=left width="10%"></TD><TD width="2%" rowSpan=9></TD><TD vAlign=top width="56%" rowSpan=13>
    [​IMG]

    [​IMG]






    </TD><TD width="2%" rowSpan=9></TD><TD vAlign=top align=right width="20%" rowSpan=13><DL><DT>During a Holy seminar in the temple of Tao of Heaven, a few Atheists brought along a camera and was told by Master JiGong to snap photographs aiming at an empty space outside the temple. JiGong told them that when they develop the photographs they will see the manifestations of suffering souls in HELL. When the photographs were developed, it showed the manifestations of White Men suffering in HELL. These are real photographs given by the Atheists who snapped the photographs and they are now devotees of Tao of Heaven.
    <DT>
    <DT>
    <DT>

    </DT></DL></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width="10%"></TD><TD vAlign=top align=left width="10%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width="10%"></TD><TD vAlign=top align=left width="10%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width="10%"></TD><TD vAlign=top align=left width="10%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width="10%"></TD><TD vAlign=top align=left width="10%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width="10%"></TD><TD vAlign=top align=left width="10%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width="10%"></TD><TD vAlign=top align=left width="10%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width="10%"></TD><TD vAlign=top align=left width="10%"></TD></TR><TR><TD align=right width="10%"></TD><TD align=left width="10%"></TD></TR><TR><TD align=right></TD><TD align=left></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD align=right></TD><TD align=left></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD align=right></TD><TD align=left>ในงานปรกโปรดสามโลก หรือ ชั้นฟื้นฟูจิตเดิมแท้ ที่จัดขึ้นในอเมริกา


    </TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD align=right></TD><TD align=left>พระอาจารย์จี้กงทรงประทับทิพยญาณผ่านร่างสามคุณแล้วแนะนำให้ฝรั่งที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ที่หลงคิดกันว่า พระเจ้าคือ เรื่องงมงายนรกสวรรค์คือ เรื่องงมงาย ลองถ่ายภาพดู

    พระพุทธจี้กงเมตตาชี้แนะให้ญาติธรรมฝรั่งลองเอากล้องไปถ่ายดูในบริเวณที่ซึ่งพระอาจารย์จี้กงชี้ไว้

    ภาพวิญญาณฝรั่งที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์นำพามาจากนรกสู่พุทธสถานในงานประชุมธรรม ก็ปรากฏมาติดอยู่ในรูปจริงๆ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะภาพนี้มาจากความเมตตาของฟ้าเบื้องบนซึ่งเมตตาให้เป็นประจักษ์หลักฐานเอาไว้

    บรรดาญาติธรรมฝรั่งต่างประหลาดใจกันมากกับประจักษ์หลักฐานนี้เพราะต่างก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่า นรกสวรรค์นั้นมีจริง พระเจ้าเป็นเรื่องสัจธรรมจริง

    ภาพนี้โด่งดังไปทั่วในวงการธรรมะ หนังสือธรรมะที่เกี่ยวกับวิญญาณบาปและนรกบางเล่มก็นำภาพนี้มาลงเช่นกัน ท่านเคยได้เห็นภาพนี้กันหรือยัง


    </TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2008
  19. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" border=0><TBODY><TR><TD align=right width="10%"></TD><TD align=left width="10%"></TD><TD width="2%"></TD><TD colSpan=3>Mermaid</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width="10%"></TD><TD vAlign=top align=left width="10%"></TD><TD width="2%" rowSpan=9></TD><TD vAlign=top width="56%" rowSpan=13>
    [​IMG]



    [​IMG]


    ประจักษ์หลักฐานของการเวียนว่ายตายเกิด ปลาครึ่งคน




    </TD><TD width="2%" rowSpan=9></TD><TD vAlign=top align=right width="20%" rowSpan=13>
    A real mermaid discovered in Arab Western Coast in April 7th 1973.
    This is to show that reincarnation is real. The mermaid is trapped between a fish and a human being



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2008
  20. matiepoppy

    matiepoppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +169
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" border=0><TBODY><TR><TD align=left width="10%"></TD><TD width="2%"></TD><TD colSpan=3> Goddess of Mercy</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width="10%"></TD><TD vAlign=top align=left width="10%"></TD><TD width="2%" rowSpan=9></TD><TD vAlign=top width="56%" rowSpan=13>
    [​IMG]

    </TD><TD width="2%" rowSpan=9></TD><TD vAlign=top align=right width="20%" rowSpan=13>

    Manifestation of Goddess of Mercy in the Temple of Tao.
    Goddess of Mercy usually will descend from Heaven to teach and guide devotees of Tao during The Holy Seminar. Her compassion is boundless and her message is "Show mercy, in return you shall receive mercy
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ญาติธรรมที่ไต้หวันถ่ายติดภาพพระโพธิสัตว์กวนอิม ประทับทิพยญาณผ่านร่างสามคุณ
     

แชร์หน้านี้

Loading...