ถามสายเขาอ้อ เรื่องผิดลูกเขา ตะกรุดพ่อเฒ่าไม้เท้าทอง

ผมได้ทราบมาว่าสายวิชาเขาอ้อ ถ้าผิดลูกผิดเมียของจะเสื่อม และผมมีแฟนแล้ว มีอะไรกันแล้ว พ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ทราบ

ต่อมาผมได้เช่าตะกรุดพ่อเฒ่าไม้เท้าทอง หลวงพ่อเอียด พัทลุง มา อย่างงี้ตะกรุดก็เสื่อมแล้วน่ะสิครับ

ท่านผู้รู้ช่วยลงความเห็นหน่อยครับ

ครูบาอาจารย์ท่านไม่เมตตากันมั่งหรอครับ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมก็ไม่ได้นอกลู่นอกทางนะ ....เหอะๆ

 

แหม่คิดจะถามอยู่พอดีเลย
ผมก็กลัวเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ทิ้งเขาพร้อมที่จะเลี้ยงดูผมว่าไม่น่ามีปัญหานะ
เพราะว่าเคยได้ยินมาใครได้แล้วไม่รับผิดชอบของจะเข้าตัวไม่รู้จะเกี่ยวไหมนะ คอยผู้รู้อีกที่ครับ

 

ไม่มีปัญหาครับถ้ารับผิดชอบอยู่กินร่วมกัน แต่ถ้าไข่แล้วทิ้งนี่เสื่อมแน่นอน

 

ขอขยายความน่ะครับตามประสบการณ์ เพราะสังคมตอนนี้เป็นรูปแบบใหม่ ต่างกับสมัยโบราณ ผู้คนรักนวลสงวนตัวกว่า อันนี้ว่าตามตรง ทั้งชายและหญิง และเพศที่สาม เข้าข่ายหมด

หลักการคนโบราณคือต้องมีสัจจะครับ

และสัจจะข้อหนึ่งที่ชัดเจนคือ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับคนที่มีเจ้าของครับ เจ้าของในที่นี้คือคนที่มีความสัมพันธ์กันแบบผัวเมีย เพราะสมัยโบราณ สังคมเล็กกว่า เคร่งครัดกว่ามาก หญิงที่ถูกข้อหา มีชู้ โทษถูกประจาน โกนหัว สักที่หัว แห่ประจาน จะถูกขับออกจากสังคม ถือว่าตายแล้วจากสังคม โทษหนักกว่าตายอีก ลูกหลานก็ซวยไปด้วย ถูกบอยคอร์ด เขาถึงห้ามว่าอย่าไปทำเพราะกรรมหนักมาก ส่วนชายชู้จริงๆก็มีโทษหนักน่ะครับ แต่เนื่องจากสังคมเป็นแบบ ชายเป็นผู้นำเพราะต้องหากิน ต้องไปรบทัพจับศึก ผู้ชายเลยเข้าข้างกัน หยวนๆหน่อย....แหะๆ ทำให้ผู้ชายมีเมียมากได้ แต่ผู้หญิงมีผัวมากไม่ได้ การมีชู้เหมือนกับฆ่าอีกฝ่ายให้ตายโดยเฉพาะผู้หญิง โบราณจึงห้ามเด็ดขาด ศีลข้อปาณา ไปยิงนกตกปลา เพื่อหากินยังหยวนๆกัน ครูบาอาจารย์ท่าน ต้องทำใจเมินๆไป เพราะสมัยนั้น ไม่ได้ มี ซุปเปอร์มาเก็ต เหมือนสมัยนี้

แต่ถ้าเป็นลูกเขา พ่อแม่ไม่ใช่เจ้าของ แม้พ่อจะหวงมากกว่าเมียซ่ะอีก แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบชู้สาว ถ้าผิดลูกก็ผิดผี จับแต่งงานผูกข้อมือกันได้ สังคมไทยท้องไม่มีพ่อจริงๆก็มีเยอะ ในสมัยก่อน เพราะผู้หญิงจะซื่อกว่าผู้ชาย แต่ไม่ได้มีโทษติดคุก ถูกประจานอะไรจากบ้านเมือง อาจจะโดนชาวบ้านกันเองประจานมากกว่า แต่คนไทยเป็นคนขี้สงสารอยู่แล้ว เอาลูกเขามาเลี้ยงเราก็ไม่ว่าอะไร ยิ่งเป็นผู้ชายยิ่งดีซ่ะอีก จะได้มีแรงงาน มีกำลังไว้รบกับพม่า

แตปัจจุบัน แตกต่างจากสมัยโบราณโดยสิ้นเชิง สัจจะน้อยลงถึงไม่มี ไม่มีการรบทัพจับศึกแล้ว ผู้หญิง บางครอบครัวเป็นผู้นำซ่ะอีก โทษการมีชู้ก็ไม่มีเหมือนแต่ก่อน อย่างมากแค่หย่ากัน เด็กๆ ก็มี เซ็กกันได้แล้ว มีเยอะด้วย ไม่เหมือนแต่ก่อน การเชื่อถือในคาถาอาคม และเครื่องลางของขลัง แตกต่างกันไป จากสมัยโบราณมาก ทั้งยังมีเพศที่สามและสี่ที่สังคมเริ่ม ชินขึ้นกว่าแต่โบราณอีก

ถ้าถือตามสัจจะของคนโบราณ

๑) ห้ามคนมีเจ้าของ ทั้งชายหรือ หญิง ส่วนกระเทยและกระเทียม น่าจะเข้าข่ายเหมือนกัน
๒) ถ้าไม่มีเจ้าของ พวกแม่หม่าย พ่อหม่าย ไม่เป็นไรครับ
๓) แต่ถ้าคบกับแบบพฤตินัย ถือว่าผิดผี ถือว่าใช่ครับ แม้จะไม่ได้แต่งงาน เขามีเจ้าของ
๔) ลูก หญิง ชาย ไม่เข้าข่าย
๕) ถ้าเราไม่ทราบ ไม่เป็นไร แต่ถ้าทราบต้องเลิกทันที
๖) หญิงสาธารณะ ( สมัยนี้อาจจะมีชาย และ เพศที่สามด้วย ) ไม่ผิดครับ เพราะเป็นอาชีพ แต่ถ้าพกเครื่องลางของขลัง ห้ามไปที่แบบนั้นอยู่แล้ว จะเสื่อมได้ เพราะครูบาอาจารย์ ส่วนมากจะถือพรหมจรรย์ ไม่ชอบเรื่องแบบนี้

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น สัจจะเป็นเรื่องสำคัญ พูดกับเขาไว้ว่าอย่างไร รับปากไว้ว่าอย่างไร ต้องปฏิบัติตาม การไม่รับผิดชอบ ถือว่าไม่มีสัจจะ ส่วนจะรับผิดชอบแบบไหน แล้วแต่ที่ได้ตกลงกัน พร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย

แต่ส่วนอีกข้อ ไม่ค่อยพูดถึง ซึ่งสมัยนี้คนทำบ่อยๆ ตอนขับรถแล้วรถมันติด คือการสบถ ด่าแม่ครับ ร้ายแรงกว่าอีก การด่าแม่ คนโบราณ ครูบาอาจารย์ห้ามเด็ดขาด ถ้าหลุดปาก โทษถึงตายครับ เทพยดาที่ประจำเครื่องรางของขลัง จะรังเกียจทันที เมื่อเทวดาไม่คุ้ม ของเหล่านั้นพกไปไม่มีประโยชน์ครับ

 

ของดีก็ต้องคู่ควรกับคนดีครับ ^^

 

ถ้าผิดลูกผิดเมียคนอื่นนี่ ไม่ว่าสายไหนก็เสื่อมทั้งนั้นแหละครับ ไม่ใช่เฉพาะเขาอ้อหรอกครับ ยิ่งถ้าด่าพ่อด่าแม่นี่ เสื่อมแน่นอน

 

สาธุ สุดธุ

เพิ่มเติมนิดหน่อยในเรื่องของศิล นะครับ
คือการผิดลูกนี้ ถ้าลูกสามารถหาเลี้ยงตัวเองได้แล้ว และไม่ได้อยู่กับพ่อแม่อันนี้ถือว่าผิด 30% จาก 100% เพราะถือว่าหาเลี้ยงตัวเองได้แล้ว แต่ถ้ายังอยู่กับพ่อแม่ และยังหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ถือว่าผิด 100% ถ้าเครื่องรางของขลังมีข้อห้ามแบบนี้ก็คงไม่รอดไปได้ ส่วนด่าพ่อด่าแม่ นอกจากของจะเสื่อมแล้ว ถ้าด่าเป็นอาจิน ทางไปสุดท้ายก็ไม่พ้นเปรตแน่นอน

 

แต่ถ้าพ่อแม่รู้ทีหลัง และยอมให้อยุ่กันไปก่อน ยังไม่ทำไร จะยังผิดมั้ยครับเนี่ย

 

สาธุ สุดธุ

ความตั้งใจ มีด้วยกัน 3 ขั้น นับเป็น %
1. ใจคิดจะทำ 10%
2. ปากพูดจะทำ 0 - 50% (ที่มี 0% บางครั้งไม่ได้ตั้งใจ)
3. ลงมือกระทำแล้วด้วยกาย 0 - 100% (ที่มี 0% บางครั้งไม่ได้ตั้งใจ)

คราวนี้มาดูว่าหากยังหากินเองไม่ได้ แล้วอยู่กับพ่อแม่ อันนี้อย่างไงก็ต้องรับกรรมส่วนนี้ไป แต่เรามีความรักกันจริง ก็ดูกันที่ความตั้งใจ อันความจริงแล้วของทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งใจ แต่ถ้าของดีจริงแล้วอย่างไงก็ไม่เสื่อมถ้าเจ้าของประพฤปฏิบัติดี ผิดแล้วรู้กลับตัว บารมีครูบาอาจารย์ท่านก็สงเคราะห์เราทั้งนั้น ขอให้อย่าทำผิดซ้ำซากก็พอ อย่าลืมว่า ถ้าผิดนี้ผิดที่ใจ ของจะขลังไม่ขลังนี้ก็อยู่ที่ใจเท่านั้น หากไม่เชื่อถือ มันก็ไม่มีอะไรขลังเลย เพราะไม่มีความเคารพนะจ๊ะ

 

ถูกต้องอย่างที่สุดครับเห็นด้วยครับ ส่วนเรื่องการเอาบุพการีมากล่าวเป็นคำสบถนั้นบ่งบอกถึงตัวบุคคลที่กล่าวเป็นอย่างดี บุพการีเป็นมงคลสูงค่าไม่สมควรอย่างยิ่งที่เอามาเป็นคำสบถ ถ้าใครนิยมกล่าวคำสบถเช่นนี้ไม่เพียงแต่วัตถุมงคลที่ใส่จะเสื่อมตัวผู้กล่าวเองก็จะมีอันต้องเสื่อมด้วยประการทั้งปวงด้วยเช่นกัน พ่อแม่เขามีเอาไว้เทิดทูลบูชาครับ

 

ขอโทษล่วงหน้านะครับ คำว่า แม่งเอ้ย นี่ เกียวกับคำว่าแม่เอ้ยไม๊ครับ พอดีไม่ได้ว่าแม่เขานะ แต่บางทีมันติดพูดมาก่อนนะ แต่พยายามหยุดแล้ว มันยังมีกิเลสในตัว แย่จังผมนี่

 

ติดคำเดียวกับผมเลยครับ กำลังจะถามพอดี
พยายามเลิกอยู่เหมือนกัน บางทีหงุดหงิดสติขาด

 

คำนี้เป็นคำสบถ ไม่ว่าจะพูดออกสำเนียงเลี่ยงไปอย่างไร ก็เป็นคำว่า แม่ เหมือนเดิม ถึงแม้นไม่ด่าแม่เขาก็ตามแต่ก็เป็นการหลุดปากออกมาแบบพล่อยๆ ถ้าคนอื่นได้ยินคงเป็นเรื่อง

พระพุทธเจ้าตรัสว่า คนเราเกิดมาไม่เคยเป็นญาติกันนั้นไม่มี ดังนั้นจึงห้ามด่า พ่อแม่ เพราะ เราไม่รู้ว่าในอดีตชาติพ่อแม่ของบุคคลนั้นอาจจะเคยเป็นพ่อแม่ของเราชาติใดชาติหนึ่งก็ได้ เมื่อเคยเป็นพ่อแม่กันก็ย่อมมีบุญคุณต่อกันในฐานะที่เคยเลี้ยงดูกันมา และอีกอย่างพ่อแม่ในอดีตชาติบางท่านตายแล้วอาจไปเกิดเป็นเทวดา เมื่อท่านมาพบกับเราท่านจะจำเราได้ด้วยความเป็นทิพย์ภาวะของท่าน และด้วยความที่เคยเป็นญาติกันมาก่อนท่านก็จะคอยดูแลรักษาเราหากเราหลุดปากด่าหรือสบถไม่ว่าด้วยกรณีใดๆ ก็เท่ากับว่าเราด่ากระทบถึงท่านด้วย จึงเป็นการอกตัญญูเนรคุณผิดข้อห้าม สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงไม่คุ้มครองด้วยประการฉะนี้แล

 

แย่เลยครับ ผมคงไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธ์คุ้มครองแล้ว

 

เคยได้ยินมาว่าคำนี้ถือว่าผิดด้วยนะครับ ของเสื่อมเห็นๆเลย

 

-

อย่าคิดมาก มันก็มีอยู่บ้างแหละน่า ถ้าเป็นรูปหล่อต่างๆครูบาอาจารย์จะเชิญญาณท่านมาอยู่ คงไม่เสื่อมหรอกครับ แต่ท่านจะช่วยหรือไม่ช่วยก็อยู่ที่ท่านละครับ ถ้าเรานับถือและไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรมากนักท่านย่อมช่วยเราครับ

 

ขอขมาท่านและปฏิญาณตนว่าจะไม่พูดพล่อยๆอีกสิครับ และขอให้บารมีท่านคุ้มครองต่อไปจะได้สบายใจ

ถือของให้ขลังกำลังใจต้องมาก่อนถ้าลังเลสงสัยได้ผลไม่เต็มที่ครับ แม้แต่โจรปล้นฆ่าสมัยก่อนยังถือให้ขลังได้เพราะถือ สัจจะ คือปฏิญาณว่าจะไม่ทำอะไรก็ทำตามนั้นให้ตลอด