ชีวิตหลังความตาย... กับข้อพิสูจน์เรื่อง

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ชีวิตหลังความตาย...
กับข้อพิสูจน์เรื่อง “ผี” และ “เทวดา”

............................................................


หลายคนปรารถนาความตาย...ขณะที่อีกหลายคนก็ไม่อยากให้เวลานั้นมาถึง...ต่างคนก็ต่างจิตต่างใจกันออกไป แต่ “ความตาย” ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนทุกชีวิตในโลกไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพียงแต่จะช้าหรือจะเร็วเท่าใดแค่นั้น

เรื่องราวของความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจกันค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิต “หลังความตาย”

​

ดร.สนอง วรอุไร อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้คำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า สมัยก่อนไม่เคยเชื่อเรื่องเทวดา นรก สวรรค์ เปรต ชาติภพ การเวียนว่ายตายเกิด เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ จนกระทั่งเรียนจบจากต่างประเทศ ระหว่างที่รอสอนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ช่วงนั้นว่างไม่รู้อะไรดลใจให้อยากพิสูจน์สิ่งที่ไม่เคย

1 เดือนเต็มๆ กับการปฏิบัติกรรมฐานที่วัดมหาธาตุ ส่งผลทำให้ความเชื่อของ ดร.สนองเปลี่ยนไป จนถึงขนาดกล่าวว่า

“ความเป็นวิทยาศาสตร์ที่ร่ำเรียนมาถอดทิ้งหมดเลย เพราะสามารถสัมผัสเทวดา ผีข้างถนนได้จริงๆ ซึ่งผมพยายามพิสูจน์มากว่า 30 ปียังหาข้อผิดพลาดไม่ได้ คุณจะสัมผัสได้ทั้งเทวดาและผี จิตวิญญาณทุกตน หากมีจิตสื่อถึงคนนั้น”

นอกจากจะได้สัมผัสเทวดา ผี แล้ว ดร.สนอง บอกว่ายังได้เห็นชาติภพที่ผ่านมา รู้ว่าเคยเกิดเป็นอะไรมาบ้าง ตรงนี้ทำให้รู้ว่าทุกคนมีการเวียนว่ายตายเกิด เกิดเป็นเทวดา เป็นเปรต เป็นสัตว์ ส่วนชาติภพไหนจะเกิดเป็นอะไรนั้นขึ้นอยู่ทำบุญ สร้างกรรมไว้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหลังจากรับรู้แล้วก็ได้เริ่มสร้างสิ่งดีๆ มาตลอด เริ่มจากสิ่งใกล้ตัวไม่สร้างความเดือดร้อนหรือล่วงเกินใคร ทั้งทางกาย วาจา ใจ และทำบุญทำทาน อุทิศส่วนบุญให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ให้พวกเขารับผลบุญนี้ ดร.สนอง กล่าวถึงคนตายว่า ร่างกายตายแต่วิญญาณยังวนเวียนอยู่กับญาติ พี่น้อง คนรัก เนื่องจากความรักความผูกพันของผู้ตาย ซึ่งหลายคนมองไม่เห็น แต่คนตายเขาต้องการให้รับรู้ว่าเขามาหา จึงสัมผัสได้จากกลิ่น เสียง หรืออื่นๆ และที่ว่ากันว่าหมาหอนเพราะเห็นผีนั้น “เป็นเรื่องจริง” เนื่องเพราะหมามีสายตา จมูก ที่รับรู้ได้รวดเร็วกว่าคน

“จิตครั้งสุดท้ายก่อนจะออกจากร่าง อยากให้นึกถึงบุญ ความดี ที่เคยทำระหว่างที่มีชีวิตอยู่ หรือนึกถึงพระพุทธรูป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพสักการะ เพราะผลบุญเหล่านี้จะช่วยให้ดวงวิญญาณก่อนออกจากร่างไปสู่สวรรค์ ถ้านึกคิดแต่เรื่องทุกข์ สิ่งที่ไม่ดี มีอกุศลจิต ตายไปอาจตกนรก ทั้งที่ตลอดชีวิตทำดีมาตลอด อย่างไรก็ตาม ทุกคนจะได้สัมผัสทั้งนรกและสวรรค์เพียงแต่จะอยู่ที่ไหนยาวนานเท่านั้น หากทำความดีเยอะก็ได้รับความสุขสบายอยู่บนสวรรค์” ดร.สนองแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนสิ้นใจ

ด้าน ผศ.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการศึกษาพระพุทธศาสนา มนุษย์เวียนว่ายตายเกิด บางรายตายแล้วเกิดใหม่ทันที และกว่าจะเกิดเป็นมนุษย์มีขั้นมีตอน คือรับรู้ความรู้สึกต่างๆ ไม่ว่าสุข ทุกข์ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา พอคลอดการเลี้ยงดู ตลอดจนสภาพแวดล้อมต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้ทำกรรมดีกรรมชั่ว

ดังนั้น ทุกคนควรเตรียมตัวตายไว้ล่วงหน้า ก่อนร่างกายดับสนิท และก่อนลมหายใจสุดท้าย อยากให้ตั้งจิตอธิษฐานว่าเกิดชาติหน้าอยากเป็นอะไรไว้ด้วย “ตั้งจิต สมาธิ และอย่ายึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่รัก ไม่ว่าจะคน ทรัพย์สินเงินทอง เพราะยิ่งรักมากก็จะทุกข์มาก อยากให้ปล่อยวาง เราเกิดมาแต่ตัวเราก็ไปแต่ตัวเช่นเดียวกัน แล้วหมั่นกระทำความดีตลอดช่วงเวลาที่มีลมหายใจอยู่ เพื่อให้บุญกุศลนี้ช่วยให้ขึ้นสวรรค์”

ถึงตรงนี้ คงต้องบอกว่า...เชื่อไม่เชื่ออย่างไร...
ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินเอาเองก็แล้วกัน







............................................................


หมายเหตุ - ข้อมูลจากการเสวนาเรื่อง “ชีวิตหลังตาย ชีวิตใหม่ที่ต้องเตรียมตัว”
ณ บ้านเจ้าพระยา อุทยานอนุรักษ์สุขภาพ ครั้งที่ 13 เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2548 ที่ผ่านมา
............................................................

คัดลอกมาจาก
ผู้จัดการออนไลน์ 4 สิงหาคม 2548 09:19 น.

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=2473



</TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD class=postdetails vAlign=bottom height=40>



</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

"ก่อนข้าพเจ้าจะดับขันธ์เพียงใด ขอให้บุญกุศลทุก ๆ อย่างรวมตัว ขอให้มีสติสัมปชัญญะตลอดเวลา" สาธุ...

denceedenceedenceedenceedenceedenceedencee​

บุญ คือ ขณะจิตที่ดีงาม​

เรือนร่างนี้มีอยู่เพื่ออาศัยสร้างบุญต่อไปอีก​

พร คือ สิ่งประเสริฐซึ่งได้แก่ คุณความดีของจิต​

เมื่อจิตดี...เป็นกุศล...ก็เป็นพรที่ดี​

เมื่อปรารถนาพร คือ สิ่งประเสริฐอย่างไร??...​

ก็ต้องทำกุศลให้ควรแก่การที่จะได้รับพรนั้น​

ทานเป็นการดี...ทางที่เป็นประโยชน์ที่สุด คือ​

อนุเคราะห์ผู้อื่นให้รู้ทางดำเนิน ไปสู่ความสงบสุขอย่างแท้จริง​

;aa2​

http://www.dhammahome.com/front/remind/list.php?page_id=5&gid=0&page_size=100&stext=&​

 

มนุษย์เราถูกสั่งประหารชีวิต หมดทุกคนแล้ว เพียงแต่รอวันตายกันเท่านั้น

ส่วนตัวก็เชื่อเรื่องตายแล้วไม่สูญ เพราะเคยเห็นคนตายแล้วมาหา มาแสดงให้ผมเห็น

บวกกับพระธรรมของพระผู้พิชิตมาร และคําสอนของหลวงพ่อที่เคารบ เลยไม่สงสัย

เตรียมตัวใว้ก่อนตายนะครับทุกๆท่านครับ ทําบุญทําความดี ด้วยกาย วาจา ใจ ครับ

อนุโมทนาครับ..สาธุ

 

อนุโมทนาสาธุบุญ ​

พระพุทธองค์ ทรงวาง ทางดับทุกข์
ชี้ทางสุขน้อมนำ เ ป็นคำสอน<O</O
ได้ศึกษา แจ้งประจักษ์ทุกวรรคตอน<O</O
ใจรัก รอนอ่อนล้าประสานใจ<O</O
ศึกษาธรรมคัมภีร์ไม่มีขาด<O</O
แต่มิอาจห้ามจิตคิดไฉน<O</O
ยังมีรักห่วงหาร่ำอาลัย<O</O
มีความนัยเร้นลับกับใจตน<O</O
รู้ว่าสิ่งที่คิดนะ ผิดมาก<O</O
จะทุกข์ยากร่ำร้องจะหมองหม่น<O</O
แต่ฝืนใจแสนลำบากยากเหลือทน<O</O
ไม่หลุดพ้นหรือเป็นกรรมน้ำนำมา<O</O
ทำบุญไม่เคยขาดในชาตินี้<O</O
ทำความดีรับใช้ชาติศาสนา<O</O
เจริญศีลสมาธิด้วยปัญญา<O</O
แต่กลับมาแพ้พ่ายในตนเอง<O</O​

 

ขออนุโมทนาบุญกับท่าน จขกท. และเจ้าของบทความครับ




เข้าพรรษาแล้วครับ
ตลอดพรรษานี้ อธิษฐานความดีอะไรกันบ้าง

 

ขออนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 

“ตั้งจิต สมาธิ และอย่ายึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่รัก ไม่ว่าจะคน ทรัพย์สินเงินทอง เพราะยิ่งรักมากก็จะทุกข์มาก อยากให้ปล่อยวาง เราเกิดมาแต่ตัวเราก็ไปแต่ตัวเช่นเดียวกัน แล้วหมั่นกระทำความดีตลอดช่วงเวลาที่มีลมหายใจอยู่ เพื่อให้บุญกุศลนี้ช่วยให้ขึ้นสวรรค์”

 

ใคร จะ ไป รู้

 

พระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้ว่า มนุษย์ และสัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาในโลกนี้ เกิดเท่าไรก็ตายเท่านั้น ไม่มีใครหนีความตายไปได้ เมื่อได้เกิดเป็นคน จงสร้างแต่กรรมดีเพื่อ ภพภูมิ ที่ดีเมื่อตายไปแล้ว สาธุ

 

วิธีการสร้างบุญบารมีโดยสมเด็จพระสังฆราชฯ องค์ที่19
เชิญดาวโหลดทีี่่
http://www.zshare.net/download/155107007f39b4e2/



เป็นคาถาโบราณตั้งแต่สมัยสมเด็จพระสังฆราชในสมัยรัชก าลที่ 3 (วัดราชสิทธาราม) ซึ่งใครก็ตามที่เป็นลูกศิษย์ท่าน จะต้องเรียนคาถานี้ ไม่ว่าจะเรียนทางด้านปริยัติ หรือ ปฏิบัติ ซึ่งในอดีตตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาบที่ 5 ก็ได้เคยทรงเจริญพระคาถานี้ สมเด็จพระวันรัต (แดง) วัดสระเกศ ก็ได้ถวายให้รัชกาลที่ 5 ได้ทรงเจริญพระคาถานี้ด้วย

 

เรามีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย เป็นธรรมดา จะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้นไป
เรามีกรรมเป็นของๆตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นผู้ติดตาม เราทำอะไรไว้จะได้รับผลของกรรมนั้นไป เราควรพิจารณาอย่างนี้เนืองๆทุกวันคืนแล
สาธุ อนุโมทามิ

 

เมื่อก่อนก็ไม่เคยเชื่อเรื่องนี้เหมือนกัน แต่พอได้มารับรู้ และเรียนรู้ทางด้านศาสนามากขึ้น รู้สึกว่าไม่อยากจะทำบาป เพราะเรื่องสวรรค์ นรกมีจริง เราไม่สามารถหนีความตายพ้น เพราะฉะนั้น ควรเร่งทำความดี ชีวิตหลังความตายจะได้ไปอยู่ในที่ ที่สบาย ขออนุโมทนาสาธุค่ะ

 

ชีวิต

 

ความประมาทเป็นหนทางแห่งความหายนะ

ทำความดีเข้าไว้ อย่าประมาทเพราะไม่รู้ว่าวันไหนเราจะตาย

แล้วตายแล้วจะลงสู่สวรรค์หรืออบายภูมิ

อย่าท้อต่อการทำความดีนะครับทุกๆท่าน

 

ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่พึงทำความดีไว้มากๆ ทำในสิ่งที่คิด
ว่าดี มีประโยชน์ต่อคนอื่น มีหลายคนปฎิเสธเรื่องบุญ บาป
หรือชีวิตหลังความตาย แต่แท้จริงแล้ว เขาไม่เคยศึกษามาก่อน
จึงปฎิเสธด้วยความไม่รู้

 

สรุปแล้ว อย่าเกิดอีกเลยนะ เกิดแล้วต้องดิ้นรน กว่าจะเป็นปึกแผ่นแน่นแฟ้นก็ลำบากมากกว่าจะสบาย.............เฮ้อ

เรื่องการทำความดีก็ยาก ลองให้ความสงสารเพื่อนร่วมทุกข์สักคน เช่น ให้ยืมเงินสักก้อน แล้วเขาไม่ยอมใช้หนี้เรา ...แหมทำใจยากเหลือเกินกว่าจะ คลายความยึดมั่นในเงินของกู กว่าจะ

ละวางว่าไม่ใช่ของกู เพราะอัตตานุทิฏฐิในตัวตนที่คิดว่า เขา ตอบแทนคุณเราด้วยวิธีนี้หรอกหรือ หยามกัน เหยียบหัวใจกัน เป็นต้น ถ้าเราหาอุบายสยบ อัตตานุทิฏฐิตัวนี้ได้.....เบาไป

เยอะ ถ้าปล่อยวางไม่ได้เลยก็คิดง่าย ๆ ว่า เราเคยเป็นหนี้เขามาก่อน หรือ เงินเราไม่สูญหรอก เดี๋ยวก็ได้คืน อาจถูกหวย ได้โชคทางอื่นชดเชยก็ได้ นั่นคือเราต้องปล่อยวางการสูญหนี้ได้

จริง ๆ ลองดูซี ของอย่างนี้พิสูจน์ได้ ก็มันไม่มีฆ่ามันเราก็บาป สู้เราทำใจสละไป แล้วใจของเราก็เป็นสุข เบาสบาย ๆ ๆ

 

"ธรรมใดๆก็ไร้ค่า ถ้าไม่ทำ..." สาธุ อนุโมทามิ

 

อนุโมทนากับท่านเจ้าของกระทู้ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ<O</O
<O</O
<O</O


___________________________<O</O
เชิญร่วมบริจาคหนังสือ เข้าห้องสมุดชุมชนวัดย่านยาว<O</O
http://palungjit.org/showthread.php?t=130823<O</O

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ สาธุ สาธุ

สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ
สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ
สัพเพ สัตตา อะนีฆา โหนตุ
สัพเพ สัตตา อัพยาปัชฌา โหนตุ
สุขี อัตตานัง ปะริหะ รันตุ

 

"มนุษย์เราถูกสั่งประหารชีวิต หมดทุกคนแล้ว เพียงแต่รอวันตายกันเท่านั้น

ส่วนตัวก็เชื่อเรื่องตายแล้วไม่สูญ เพราะเคยเห็นคนตายแล้วมาหา มาแสดงให้ผมเห็น

บวกกับพระธรรมของพระผู้พิชิตมาร และคําสอนของหลวงพ่อที่เคารพเลยไม่สงสัย

เตรียมตัวใว้ก่อนตายนะครับทุกๆท่านครับ ทําบุญทําความดี ด้วยกาย วาจา ใจ ครับ

อนุโมทนาครับ..สาธุ"

โห..เฉียบคมเหมือนเดิมครับท่าน slamb..เห็นด้วยกับท่านทุกประการครับ ขออนุโมทนา