23 ตุลา..ปิยมหาราช

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 22 ตุลาคม 2005.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,494
    [​IMG]


    สยามมินทร์ปิ่นธเรศเจ้า จุลจอม จักรเอย
    นึกพระนามความหอม ห่อหุ้ม
    อวลอบกระหลบออม ใจอิ่ม
    เพราะพระองค์ทรงอุ้ม โอบเอื้อเหลือหลาย


    จากลิลิต "สามกรุง" ของ น.ม.ส.

    bouquet003.gif





    นับว่าเป็นที่น่าภาคภูมิใจที่ประเทศไทยมีความเจริญทัดเทียม นานาอารยประเทศ โดยเฉพาะการมีชีวิตความเป็นอยู่แบบประชาธิปไตย จากในอดีตมีการปกครองแบบทาส เมื่อย้อนกลับไปในสมัยโบราณมีการใช้มนุษย์ทำงานต่างๆ โดยไม่มีค่าตอบแทน
    และต้องตกเป็นเบี้ยล่าง หากผู้ใดเกิดมาเป็นทาสแล้วก็ต้องเป็นตลอดชีวิต แม้แต่บุตรที่เกิดมาจากพ่อแม่ที่เป็นทาสก็ต้องตกเป็นทาสสืบไปไม่มีจบสิ้น
    อีกทั้งเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆก็ยังไม่มีต้องใช้จากบ่อน้ำ แม่น้ำ ลำคลอง ใช้แสงสว่างจากตะเกียง เทียนไข เดินทางไปไหนมาไหนก็ต้องใช้ช้าง ใช้ม้าเป็นพาหนะหรือแม้กระทั่งต้องเดินทางนานมาก



    มาถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ผู้ทรง มีพระกรุณาธิคุณเป็นอเนกประการ
    ความทุกข์ยากลำบากของปวงชนชาวไทยในอดีตก็หายไปสิ้น คำว่า ทาส ก็หมดไป
    ในสมัยของพระองค์ทรงปรับปรุงและพัฒนาระบบการบริหารราชการแผ่นดินการปรับปรุงสาธารณูปโภคและอื่นๆ เพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงชนชาวไทย


    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี
    ประสูติเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2396 ตรงกับวันอังคาร เดือน 10 แรม 3 ค่ำ ปีฉลู ณ พระตำหนักตึกด้านหลังองค์พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง
    ทรงมีพระนามเดิมว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ครั้นพระชนมายุ 15 พรรษา ทรงได้รับเลื่อนพระอิสริยยศขึ้นเป็น กรมขุนพินิจประชานาถ
    ต่อมาเมื่อพระบามสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัวสวรรคตสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิจประชานาถ ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบต่อจากสมเด็จพระบรมชนกนาถ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411
    ขณะนั้น พระองค์มีพระชนมายุย่างเข้า 16 พรรษา นับเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งพระราชจักรีวงศ์
    ทรงพระนามว่า "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว"


    หลังจากที่ขึ้นครองราชย์พระองค์ทรงโปรดให้มีการจัดการปฎิทินระเบียบแบบแผนการปกครองเปลี่ยนแปลงแก้ไขจัดระเบียบราชการบริหารเสียใหม่ให้เหมาะสมกับความต้องการของกาลสมัย
    ได้แต่งตั้งตำแหน่งเสนาบดี และกระทรวงเพิ่มขึ้นใหม่ โดยแบ่งเป็นกระทรวงมหาดไทย กรมพระกลาโหม กรมท่า กรมวัง กรมเมือง กรมนา กรมพระยาคลัง กรมยุติธรรม กรมยุทธนาธิการ กรมธรรมการ กรมโยธาธิการและ กรมมุรธาธิการ


    ทางด้านการศาสนา
    ทรงให้มีการชำระและพิมพ์พระไตรปิฎก โดยโปรดให้สร้างพระไตรปิฎกฉบับทองทึบด้วยคัมภีร์ใบลานเมื่อปี พ.ศ.2431 ตราพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองสงฆ์
    ในปี พ.ศ.2445 และโปรดให้มีการสร้างวัดสำคัญๆ เช่น วัดเบญจมบพิตร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดเทพศิรินทราวาส วัดราชาธวาส วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ(บางปะอิน) วัดอํษฎางคนิมิตร และวัดจุฑาทิศธรรมสภาราม (อยู่ที่เกาะสีชัง) เป็นต้น
    อีกทั้งโปรดให้บูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ วัดมกุฎกษัตริยาราม พระพุทธบาทสระบุรี วัดสุวรรณดาราม (พระนครศรีอยุธยา) พระปฐมเจดีย์ เป็นต้น

    สำหรับการสาธารณูปโภค
    ได้ีการตั้งธนาคารไทยขึ้นในปีพ.ศ.2447 โดยพระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย เสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ร่วมกับกลุ่มบุคคลคณะ หนึ่งก่อตั้งธนาคารไทยแห่งแรก เรียกว่า บุคคลัภย์ และต่อมาได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจดทะเบียนเป็นบริษัทแบงค์สยามกัมมาจลทุน จำกัด ดำเนินกิจการตามแบบสากลโดยคนไทยทั้งคณะ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด(มหาชน) และในปีพ.ศ.2433 กำเนิดกิจการไฟฟ้า และการประปาในปี พ.ศ.2452

    ทางด้านการพยาบาล และสาธารณสุข ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้สร้างโรงพยาบาลวังหลัง ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลศิริราช โดยเริ่มเปิดดำเนินการในวันที่ 26 เมษายน 2431


    การขนส่งและสื่อสาร
    - รถไฟหลวงสายแรก
    -การไปรษณีย์จัดตั้งกรมไปรษณ๊ย์เป้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 4 ส.ค. พ.ศ.2426
    - โทรเลขสายแรกคือสายระหว่างกรุงเทพฯกับสมุทรปราการ ซึ่งยาว 45 กิโลเมตร และยังยังมีสายใต้น้ำที่วางต่อไปจนถึงประภาคารที่ปากนำ้เจ้าพระยา ซึ่งต่อมากรมโทรเลขได้รับโอนงานมาจัดตั้งโทรศัพท์กลางขึ้นในพระนคร และเปิดใ้ห้ประชาชนเช่าใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสารกัน


    การศึกษา
    โปรดให้ตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวังโดยมีหลวงสารประเสิรฐ(น้อย อาจาริยางกูร) เป็นอาจารย์ใหญ่ต่ำมาโปรดให้ตั้งโรงเรียนขึ้นที่พระราชวังนันทอุทยาน สวนอนันต์ ธนบุรีและโรงเรียนนายทหารมหาดเล็กในปี พ.ศ.2425ได้ย้ายไปอยู่พระตำหนักสวนกุหลาย เรียกชื่อใหม่ว่า โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ทรงริเริ่มวางรากฐานการศึกษาแผนใหม่ขึ้นมาตามลำดับ มีการจัดตั้งกระทรวงธรรมการขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2435 ถึงแม้จะสิ้นรัชสมัยของพระองค์ก็ได้มีการสถาปนา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2359 ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาขั้นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ นอกจากนี้ทรงส่งเสริมเกี่ยวกับการศึกษาในต่างประเทศโดยทุนหลวง เป็นต้น


    ด้านวรรณคดี
    ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือพระราชพิธีสิบสองเดือน ไกลบ้าน เงาะป่า ลิลิตนิทรา ชาคริต ฯลฯ ทรงโปรดให้ตั้งหอพระสมุดสำหรับพระนคร โดยรวมหอสมุดเดิม 3 หอ เป็นหอพระสมุดวชิรญาณ สำหรับพระนคร ตั้งพิพิธภัณฑสถานและตั้งโบราณคดีสโมสร เป็นต้น
    พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ประทับให้ช่างปั้นพระบรมรูป และหล่อสำเร็จเรียบร้อย ส่งเข้ามากรุงเทพฯ ซึ่งพระองค์ได้เสด็จมากระทำพิธีเปิดพระบรมราชานุสรณ์ด้วยพระองค์เอง

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัวพระปิยมหาราชาเจ้า ได้ทรงพระประชวรด้วยพระโรค พระวักกะพิการ และสวรรคต เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2453 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน สิริรวมพระชนมายุได้ 57พรรษา รวมเวลาที่อยู่ในสิริราชสมบัตินับได้ถึง 42 ปี ความอาลัยอาวรณ์ของประชาชนชาวสยามที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราชเจ้าครั้งนั้นเป็นความวิปโยคอย่างสูงสุด และได้กำหนดเอา วันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันปิยมหาราช สืบเท่าทุกวันนี้


    ด้วยพระปรีชาสามารถและการมีสายพระเนตรอันยาวไกล ทำให้พสกนิกรชาวไทยได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นปวงประชาราษฎร์ได้ถือว่าพระองค์คือ พระบิดาแห่งตนและประเทศชาติเป็นพระปิยมหาราชที่รักของมหาชนทั่วไป ประชาชนทั่วราชอาณาจักรได้ร่วมกันบริจาคเงินส่วนหนึ่งเพื่อสร้างพระราชอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้า



    เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระปิยมหาราช ประชาชนชาวไทยควรปฎิบัติ ด้วยการทำบุญตักบาตรพระ เพื่ออุทิศเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน และร่วมกันนำพวงมาลาถวายบังคมที่พระบรมราชานุสรณ์พระบรมรูปทรงม้า รวมทั้งการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่อสังคม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วยอีกทางหนึ่ง







    เอกสารอ้างอิง ประเพณี พิธีมงคล
    ----------
    และวันสำคัญไทย
     
  2. เจ้าโก้

    เจ้าโก้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,221
    ค่าพลัง:
    +939
    น้องสาวผมเกิดวันที่ 23 ตุลาคม 2528 ครับ ปีนี้ครบ 20 แล้ว
     
  3. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    ซาบซึ้งในพระราชหฤทัยที่เมตตาขององค์ สมเด็จ ร.5 ...

    ขอให้พระองค์มีความสุขไปเรื่อยๆ ไม่มีวันทุกข์ ไม่มีเรื่องร้อนพระบาท
     
  4. วสวัต

    วสวัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    238
    ค่าพลัง:
    +2,079
    องค์มหาราช หาที่ไหนเปรียบปานไม่มีแล้วครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...