★ ★ ★ คนทำบุญถวายผ้าป่า-กฐิน ยิ่งทำยิ่งรวย...จนมีเงินทำบุญมากกว่า 250 ล้าน ★ ★ ★

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย พระศุภกิจ ปภัสสโร, 4 กรกฎาคม 2008.

  1. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,168
    รายการทำบุญทอดกฐิน-แถมผ้าป่าถึงปี2550 กว่า 250 ล้าน
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMGP3693.JPG
      IMGP3693.JPG
      ขนาดไฟล์:
      138.8 KB
      เปิดดู:
      281
    • IMGP3696.JPG
      IMGP3696.JPG
      ขนาดไฟล์:
      139.9 KB
      เปิดดู:
      299
    • IMGP3697.JPG
      IMGP3697.JPG
      ขนาดไฟล์:
      140.4 KB
      เปิดดู:
      248
    • IMGP3698.JPG
      IMGP3698.JPG
      ขนาดไฟล์:
      138.9 KB
      เปิดดู:
      249
    • IMGP3699.JPG
      IMGP3699.JPG
      ขนาดไฟล์:
      135.4 KB
      เปิดดู:
      238
    • IMGP3702.JPG
      IMGP3702.JPG
      ขนาดไฟล์:
      134.4 KB
      เปิดดู:
      239
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2008
  2. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,168
    พิมพ์

    [​IMG]ทำบุญอย่างไร..ยิ่งทำยิ่งรวย[​IMG]
    จากศรัธาในการสร้างบุญและการทำบุญ
    เป็นที่มาของการทำบุญอย่างไร ยิ่งทำยิ่งรวย


    ผมเกิดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2473 สมัยที่คุณพ่อเตียง และคุณแม่หวาน จิราธิวัฒน์ ได้ตังร้านขายของเป็ดเตล็ด อยู่ที่ข้างวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร (เดิมชื่อวัดจอมทอง) อำเภอบางขุนเทียน (ปัจจุบันคืออำเภอจอมทอง) จังหวัดธนบุรี (ปัจจุบันรวมเป็นกรุงเทพมหานคร) เมื่ออายุเข้าเรียนเกณฑ์ คุณพ่อให้เรียนที่โรงเรียนวัดราชโอรสเป็นแห่งแรก ได้รับการอบรมทางธรรมจากโรงเรียนอยู่เสมอ และจะวิ่งเล่นระหว่างวัดกับโรงเรียนเป็นประจำทั้งๆ ที่มีทางรถไฟสายมหาชัยคั่นกลางอยู่จะเป็นต้นเหตุหรือไม่ที่ทำให้ฝังจิตฝังใจในเรื่องการทำบุญ ต่อมาคุณพ่อให้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนอำนวยศิลป์อยู่หลายปี คุณพ่อทำการค้าและได้รับฟังจากเพื่อนว่า โรงเรียนอัสสัมชัญ เป็นโรงเรียนที่สอนทางด้านการค้า คุณพ่อเห็นชอบจึงย้ายลูกทั้ง 3 คนไปเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญจนจบ และได้ทำงานกับห้างเซ็นทรัลตั้งแต่ยังไม่จบตลอดมา ทำทุกอย่างตั้งแต่กวาด ถู ดูแล เปิด ปิด ร้าน จนขยับขึ้นเป็นพนักงานขายจนได้เป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื่อ ระยะนั้นน้องๆ ยังเด็กและเรียนหนังสืออยู่มีพี่สัมฤทธิ์ พี่วันชัย และสุทธิพร 3 คน ช่วยคุณพ่อทำงานทุกอย่างเพื่อให้ห้างเจริญ จนมาปี 2522 จึงได้อุปสมบททดแทนพระคุณ คุณพ่อ คุณแม่ ที่ล่วงลับไปเพราะลูกๆ ยังไม่เคยมีใครบวชให้เลย ทำให้ผมเป็นคนแรกของตระกูลที่ได้บวช มีพระพรหมคุณาภรณ์ ปัจจุบันคือ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) เป็นอุปชัฌาย์ บวชที่วัดสระเกศราชวรวิหารแล้วไปจำพรรษาที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ จนครบพรรษา 4 เดือน ระหว่างที่บวชได้ศึกษาพระธรรมตลอดจึงทำให้รู้แจ้งว่า พระพุทธศาสนาถ้าขาดผู้ส่งเสริมและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาคงจะไม่รุ่งเรืองและมีศิษยานุศิษย์สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ก่อนที่จะบวชเมื่อยังหนุ่มก็ได้ทำบุญมาตลอด ทั้งการทอดผ้าป่าและกฐินแต่ทำตามกำลังทรัพย์และศรัทธา เมื่อได้ผ่านรสพระธรรมและรู้ซึ้งถึงการปฏิบัติที่ถูกต้องของบรรพชิตจึงไดมีศรัทธามากขึ้น และได้ชักชวนญาติ พี่น้องและเพื่อน ตลอดจนผู้ที่เคารพรู้จักคุ้นเคยและมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาทั้งหลาย มาร่วมทำบุญด้วย จากน้อยๆจนกระทั่งปัจจุบันเริ่มเติบใหญ่และมีหลักฐานมั่นคง จากเดิมที่เคยทอดผ้าป่าและกฐินเป็นประจำทุกปี จนได้รับพระราชทานให้นำผ้ากฐินไปถวาย ณ วัดต่างๆ เริ่มครั้งแรกที่วัดนางชี กรุงเทพฯ ปี 2519 และได้เว้นเป็นทอดผ้าป่าและกฐินมาทุกปี จนเมื่อได้บวชเรียนแล้วก็ได้รับพระราชทานผ้ากฐินให้นำไปทอดถวายที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2522 และได้เว้นกฐินหลวงไปอีกหลายปี แต่ก็ยังทอดผ้าป่าและกฐินตลอดมา จนกระทั่งปี 2533 ได้รับพระราชทานผ้ากฐินให้นำไปทอดถวายที่วัดพระธาตุดอยสุเทพอีก ซึ่งต่อมา ห้างเซ็นทรัล ก็ได้รับพระราชทานผ้ากฐินให้นำไปทอดถวาย ณ วัดหลวงต่างๆ เป็นประจำทุกปี
    ปี 2534 วัดศาลาลอย จังหวัดสุรินทร์ ปี 2535 วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่
    ปี 2536 วัดบูรพาภิราม จังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2537 วัดมงคลนิมิต จังหวัดภูเก็ต
    ปี 2538 วัดคลองโพธิ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ปี 2539 วัดมหาชัย จังหวัดมหาสารคาม
    ปี 2540 วัดวัดพรประโทนเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ปี 2541 วัดบูรพาพิทยาราม จังหวัดจันทบุรี
    ปี 2542 วัดสัตตนารถปริวัตร จังหวัดราชบุรี ปี 2543 วัดพระเจดีย์ชาวหลัง จังหวัดลำปาง ปี 2544 วัดสามพระยา กรุงเทพฯ ปี 2545 วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่
    ปี 256 วัดพระธาตุศรีจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ปี 2547 วัดมัชฌิมาวาส จังหวัดอุดรธานี
    สำหรับผ้าพระกฐินพระราชทานยังคงปฏิบัติต่อไป ส่วนการทอดกฐินและผ้าป่าทุกปี แต่บางทีก็ทำถึง 9 วัด แต่อย่างน้อย 3 วัดทุกปี จากการที่ได้สร้างศรัทธาในการทำบุญโดยการเสนาสนะให้วัดต่างๆ มากบ้าง น้อยบ้างตามกำลัง และเมื่อเริ่มมีเงินมากพอก็ได้ช่วยวัดต่างๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้และภาคกลาง
    ทางภคเหนือ ขณะนี้กำลังสร้างอุทานพุทธสถานบนเขา 150 ไร่ ให้วัดโมคคัลลาน อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยประดิฐฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ เช่น ปางปฐมเทศนาโปรด
    ปัญจวัดคีย์ พระปางสามสมัย พระเกจิอาจารย์ เช่น สมเก็จพระพุทธฒาจารย์ (โต) พระครูบาศรีวิชัย พระสุรินทรหู หลวงปู่ทวด ตลอดจนพระธาตุเจดีย์ ปัจจุบัน ทางวัดกำลังสร้างพระนอนยาว 49 เมตร สูง 20 เมตร ซึ่งในอนาคต วัดโมคคัลลาน จะเป็นแหล่งธรรมะที่ดึงดูดชาวพุทธให้ไปชม แล สัการะพระพุทธรูปต่างๆ ที่สร้างไว้แห่งหนึ่งของภาคเหนือ ที่กล่าวมานี้เป็นส่วนหนึ่งของศรัทธาในการสร้างบุญเมื่อมีโอกาสจะทำได้ และผมมีหลักในการทำบุญ โดยยึดถือการแสวงหาทรัพย์ในทางที่ชอบและการใช้ทรัพย์ให้ถูกทาง ด้วยความคิดของตัวเองที่ผ่านการทำงานหนักมากประกอบกับมี ประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้พบเห็นมา จึงได้วิเคราะห์และยืดเป็นหลักการในการใช้เงินดังนี้
    1. ใช้ในการเลี้ยงชีพและครอบครัว
    2. ใช้ในการประกอบอาชีพ
    3. ใช้ในการทำบุญ ทำกุศล และบำรุงประเทศ
    4. ใช้ในการเก็บเป็นทุนของครอบครัว
    5. ใช้ในการพักผ่อนหย่อนอารมณ์
    จากการยึดถือการหาทรัพย์และการใช้ทรัพย์ดังกล่าวนี้ ผมได้หลักมาจากคุณพ่อ ท่านได้สั่งสอนผมทางอ้อม ด้วยการให้ทำงานและให้รู้จักเก็บออมถนอมทรัพย์ที่หามาได้ แม้แต่การรับประทานอาหารก็ให้ทานให้อิ่มแต่อย่าให้เหลือทิ้ง ให้รู้จักการรักพี่รักน้องและครอบครัว ขอยกตัวอย่างครอบครัวผมซึ่งมีคุณพ่อเตียงเป็นหัวหน้าครอบครัวในขณะนั้น มีพ่อแม่ลุกหลานรวมเพียง 30 คน แต่ปัจจุบัน ปี 2549 ครอบครัวจิราธิวัฒน์ขยายใหญ่ออกไปเกือบ 200 คน เป็นการแจริญตามความกว้าหน้าของห้างเซ็นทรัลไปด้วย แม้แต่นานสกุลจิราธิวัฒน์ ผมก็เป็นผู้ขอจดทะเบียนตั้งนามสกุลเมื่อ 13 กันยายน 2495 ต่อมาคุณพ่อจัดการแต่งงานให้เมื่อปี 2499 อายุ 25 ปี กับคุณเจีมจิตร (หาญกิติวัธน์) มีบุตรชาย 1 คน ชื่อณรงค์ฤทธิ์ แต่งงานกับ วันทนีย์ (หาญพานิช) ความกว้าหน้าของห้างเซ็นทรัล ทำให้สามารถช่วยในห้างเซ็นทรัลอีกประมารณ 20,000 คน รวมเป็น 50, 000 คน และการทำบุญของผมเริ่มจากทีละน้อย โดยชักชวนเพื่อนๆ ให้รู้จักเรื่องบุญและการทำบุญมาตลอด จนผมได้พบพระพุทธวัจนะ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธะเจ้า ที่ทรงอนุโมทนาไว้ว่า
     
  3. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,168
    หลวงปู่สอนไว้เรื่องทำบุญ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    " ลูกเอ๋ย..บุญที่เราทำชาตินี้ชาติหน้าจะเริ่มส่งผล
    แต่เป็นประธานถวายผ้ากฐินชาตินี้ 2-3 วัดจะมีฐานะดีตั้งแต่ในชาตินี้เลยนะ..."

    <TABLE id=AutoNumber23 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=242 border=0><TBODY><TR><TD width=76>[​IMG]</TD><TD width=166>รวมคำสอนของ
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>
    หลวงพ่อปานทอดกฐิน
    มาพูดกันถึงการปฏิบัติประจำอีกอย่างหนึ่ง หลวงพ่อปานนี่มีอุปนิสัยอย่างหนึ่งชอบทอดกฐินทุกปี เรื่องกฐินมี่ท่านทอดของท่านทุกปี ปีละหลายๆวัด ปีหนึ่งที่จังหวัดสุพรรณบุรี รู้สึกว่าข้าวยากหมากแพง ชาวบ้านต้องกินขุยไผ่ ในเขตอำเภอเดิมบางนางบวชโน่น เลยจังหวัดสุพรรณขึ้นไปมาก ตอนนั้นไม่ได้ข้าวไม่ได้ปลา ต้องไปขุดขุยไผ่กิน หลวงพ่อปานก็ไปทอดกฐิน ๗-๘ วัด แต่การทอดกฐินคราวนั้น ท่านประกาศกับบรรดาพุทธบริษัทของท่านว่า จะต้องการเอาอาหารไปช่วยเขา เขาอดข้าวอดอาหาร นี่ ท่านเป็นนักสังคมสงเคราะห์ แต่ไม่มีใครเขาช่วยท่านหรอก รัฐบาลไม่ได้ร่วมมือ แต่ว่าชาวบ้านช่วยท่านไปคราวนั้น ปรากฏว่านำข้าวเปลือกบ้าง ข้าวสารบ้างไป ๗ ลำเรือ เรือลำหนึ่งจุประมาณ ๑๐ เกวียนบ้าง จุประมาณ ๒๐ เกวียนบ้าง เอาไป ๗ ลำ ที่ท่านได้มายังงั้นเพราะอะไร เพราะใครมาหาท่านก็บอกท่านจะไปทอดกฐิน แล้วว่าการทอดกฐินคราวนี้ต้องเอาข้าวเอาอาหารไปสงเคราะห์คนที่อดข้าว คนนั้นก็ให้ คนนี้ก็ให้ บางคนก็ให้เงิน บางคนก็ให้ข้าว บางคนก็ให้กับ พวกกรุงเทพฯ ก็ให้ทั้งเงินให้ทั้งของทะเล ผ้าผ่อนท่อนสไบ พวกจังหวัดสมุทรสาคร โยมพ่วง อยู่ที่นั่นก็เอาของทะเลมาเป็นลำๆเรือ น้ำปลาอย่างดี ของทะเลต่างๆ แล้วก็เงินทองด้วย ผลที่สุดนำไป ๗ ลำเรือ แจกกันขนาดหนัก บรรดาประชาชนสาธุไปทั่วกัน ว่ากันถึงเรื่องการทอดกฐิน จะพูดถึงอานิสงส์กฐินให้ฟัง หลวงพ่อปานทอดกฐินคราวไรละก็ท่านก็เทศน์แบบนี้ เทศน์แบบนี้ฉันจะนำใจความมาเล่าให้ฟังว่า การทอดกฐิน อานิสงส์ของกฐินนี่น่ะให้ผลทั้งชาติปัจจุบันและสัมปรายภพ ชาติปัจจุบันและสัมปรายภพหมายความว่าชาตินี้และชาติหน้า ชาติต่อๆไป คนทอดกฐินสังเกตตัวดู ถ้าทอดแล้วถึง ๒-๓ ครั้ง ความเป็นอยู่จะคล่องตัวขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ร่ำรวยก็ตาม แต่ความเป็นอยู่จะคล่องตัวขึ้น รู้สึกว่าเป็นคนโชคดีมากขึ้น หาลาภสักการคล่องตัวขึ้น ท่านบอกว่านี่ยังเป็นเศษของความดี อานิสงส์ของการทอดกฐินสามารถจะบันดาลให้คนปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็สำเร็จผล
    รวมคำสอนหลวงพ่อฤษี.http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=84
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2008
  4. - เงาะป่า -

    - เงาะป่า - เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +565
  5. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,168
    ย่อมาให้อ่านอีก

    <CENTER>พระธรรมเทศนาโดยหลวงพ่ออุตตมะเรื่อง"อานิสงส์ของผ้าป่า"</CENTER>
    การทอดผ้าป่าและอานิสงส์ของผ้าป่า

    (ต่อไปนี้จะพูดถึงการทอดผ้าป่าและอานิสงส์ของผ้าป่า การบำเพ็ญบุญกุศลของชาวพุทธ ด้วยการถวายผ้าบังสุกุล คือผ้าที่ไม่มีเจ้าของเอาไปวางทอดไว้เป็นประหนึ่งผ้าที่ทิ้งอยู่ตามป่า เปื้อนด้วยฝุ่นละอองเรียกว่า การทอดผ้าป่า)
    ผ้าป่านั้นแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ สามิกะปังสุกุละและอะสามิกะปังสุกุละ
    ณ เมืองตักกะศิลา ในสมัยพระพุทธองค์ มีการทอดผ้าป่าซึ่งในครั้งนั้นเป็นการทอดผ้าป่าในป่าช้าหรือตามสี่แยกที่มีคนผ่านไปมา เป็นผ้าป่าที่ไม่มีเจ้าของ ใครเก็บได้ก็เป็นของผู้นั้น ซึ่งบางครั้งเป็นผ้าป่าคนตายคือนำเอาผ้าขาวที่ห่อศพมาซัก และทิ้งไว้เป็นผ้าป่า เพราะในสมัยพระธุดงค์ถือติจีวระกะ คือถือผ้า ๓ ผืน เมื่อเก็บผ้านั้นมาได้ก็ต้องนำมาซัก ย้อมและเย็บด้วยตนเอง การทอดผ้าป่านี้นอกจากใช้ผ้าขาวแล้ว ก็ยังมีพวกโภชนาหารบ้าง ผลไม้บ้าง ฉะนั้นการที่ทิ้งผ้าไว้ในป่า หรือตามที่ต่างๆ แล้วให้พระเก็บเอาเอง โดยไม่แสดงตนเป็นเจ้าของนี้เป็น อะสามิกะปังสุกุละ
    การที่ทิ้งผ้าไว้ในป่าคือ ผ้าป่า ส่วนปังสุกุละ คือ ผ้าที่สกปรก
    ครั้นต่อมาในสมัยที่พระพุทธองค์บวชได้สัก ๙ พรรษา ในเมืองปาฏลีบุตร นางกิสาโคตรมีอยากทอดผ้าป่าได้ไปขออนุญาตพระพุทธองค์เพื่อขอทอดที่ทางเดินหน้าวัด ครั้นเมื่อพระภิกษุผ่านมาพบ จะชักผ้าป่านั้นจะเรียกขานหาเจ้าของก่อน นางก็จะออกมารับว่าเป็นเจ้าของ ซึ่งก็จะได้เป็นผู้อนุโมทนา กรวดน้ำ นางกิสาโคตมีได้ทำเช่นนี้มาตลอดหลายครั้งหลายปี นางคิดเอาว่าการทำเช่นนี้มิใช่ด้วยคารวะ นางจึงขอพระพุทธองค์ทอดผ้าป่าต่อหน้าพระภิกษุ ซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาต จึงเกิดเป็นผ้าป่ามีเจ้าของขึ้น คือเจ้าของผ้าเป็นผู้ถวายเอง คือเป็นสามิกะปังสุกุละ ดังเช่นที่ปฏิบัติกันมาทุกวันนี้
    ครั้งเมื่อพระพุทธองค์เทศน์มหาสมัย เมื่อขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ มีพระภิกษุสงฆ์มาชุมนุมกันมากมาย บรรดาญาติพี่น้องทั้งหลายต่างก็นำของมาถวาย จะถวายพระรูปใดก็ได้ ถวายกันต่อหน้า สวดกันต่อหน้า จึงเป็นผ้าเฉพาะเจาะจงตั้งแต่นั้นมา
    ส่วนอานิสงส์ของการทอดผ้าป่านั้น จะให้เป็นดังปรารถนาก็ด้วยการเจตนาคือ ตั้งใจจริง ตั้งใจรับศีล ขอขมาพระรัตนตรัย และตั้งใจถวายผ้าป่านั้นด้วยเจตนาที่ดี ที่สะอาด เพราะในสมัยพระพุทธองค์ยังมีชีวิตอยู่นั้น ผู้ที่มีเจตนาอนุโมทนาได้เกิดอานิสงส์เป็นโสดา สกิทาคามีไปก็มี ดังนั้นควรตั้งใจด้วยเจตนาดี ด้วยอานิสงส์นั้นจะได้ไปเป็นเทวดา มีบริวารมากหรือเป็นมนุษย์ก็จะเป็นผู้มีทรัพย์มากเป็นเศรษฐี การทอดผ้าป่าเป็นคณะก็เกิดอานิสงส์เป็นคณะเทวะ เป็นต้น.
    ที่มา.http://www.pantown.com/board.php?id=26654&area=3&name=board2&topic=12&action=view
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2008
  6. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,329
    หลวงพ่อบอกว่าคนที่เป็นเจ้าภาพทอดกฐิน ยังเสวยบุญไม่หมดก็ไปนิพพานซะก่อนแล้ว อนุโมทนาค่ะ
     
  7. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,798
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,020
    จริงนะครับ ยิ่งทําบุญมากเท่าไร เราจะได้กลับมามากกว่าเก่าเท่านั้น
     
  8. Nutuk

    Nutuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +347
    [​IMG] ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    "การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง "



    ขอบอกบุญต่อด้วยค่ะ บริจาคอวัยวะที่http://www.organdonate.in.th/
    บริจาคดวงตาที่http://www.eyebankthai.com/
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ต้องการบริจาคนะคะ สาธุ สาธุสาธุ<O:p</O:p<O:p</O:p
    <!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  9. Markdaddy

    Markdaddy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +171
    อนุโมทนาสาธุครับ พอดีวันนี้ไปซื้อหนังสือกฎแห่งกรรมของคุณ ท.เลียงพิบูลย์เล่มที่ 24-27 ที่สถานีวิทยุทหารอากาศ 01 มีนบุรี เลยได้มีีโอกาสฝากเงินร่วมทำบุญ 26 งานบุญภาคอีสานเหนือ 130 บาท (งานบุญละ 5 บาท) / ได้อ่านเรื่องนี้แล้วชื่นใจอีกรอบเลยครับ /หากท่านใดสนใจร่วมทำบุญก็ลองโทรไปสอบถามคุณ ยุทธนา เพ็งปาน ที่สถานีวิทยุทหารอากาศ 01 มีนบุรีได้นะครับ 02-9146307,02-9146517 เพราะเค้ามีร่วมทำบุญทางธนาณัฐด้วย รอบนี้กำหนดการเดินทางวันที่ 14-18 ม.ค. 2552 (รู้สึกว่าทางสถานีจะมีการไปทำบุญแบบนี้ทุกเดือนครับ)
     
  10. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    อนุโมทนาสาธุครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...